ความคิดเห็นที่ 1 สวยครับ แต่น่าจะมีชายหลังคายื่นปิดลานจอดรถนะครับ จากคุณ : กาแลนท์เขียวเมืองนนท์ เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 54 21:13:16

ความคิดเห็นที่ 2 การทรุดตัว ไม่ได้อยู่ที่โครงสร้างของผนังนะครับ ขึ้นอยู่กับเสาเข็มว่าลึกพอถึงชั้นดินดานหรือไม่ ส่วนข้อเสียของผนังประเภทนี้ ก็ อย่างเค้าว่าแหละครับ ทุบรวมห้องไม่ได้ ตอกตะปูไม่เข้า ต่อเติมยาก ซื้อมายังไงก็อยู่อย่างนั้น จากคุณ : Somkid_C เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 54 22:29:28

ความคิดเห็นที่ 3 เค้าเรียก ผนังแบบ precast คือเป็นผนังสำเร็จรูป ประหยัดเวลาและต้นทุนในการก่อสร้าง เรื่องทรุดตัวของบ้าน ไม่เกี่ยวกับตรงนี้ มันอยู่ที่ฐานราก เข็ม ชั้นดิน เหมือนที่ คห 2 บอกไว้ครับ จากคุณ : โปรดฟังอีกครั้ง เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 54 22:40:46

ความคิดเห็นที่ 4 ข้อเสียคือ 1. ต่อเติมลำบาก รวมทั้งจะเจาะอะไรเพิ่มก็ยาก 2. ถ้าผู้รับเหมาทำไม่ดี จะมีปัญหาน้ำซีมตรงรอยต่อพนัง ข้อดีคือ 1. ถูก 2. เร็ว 3. ควบคุมมาตราฐานง่ายกว่า จากคุณ : เข้าไปอีกหน่อย เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 54 23:33:11

ความคิดเห็นที่ 5 รายนี้ น่าจะสำเร็จรูป จากโรงงาน ไม่มาหล่อ เท กันหน้างาน เหมือนรายอื่น ที่นิยมทำ จากคุณ : Saint J เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 00:53:50

ความคิดเห็นที่ 6 ใช้ precast แข็งแรงดีครับ เพราะการจัดเหล็กและเทคอนกรีตทำได้สมบูรณ์แน่นอน แต่สำคัุญจุดเชื่อมต่อ (ระหว่างชิ้น) ต่างๆทำได้ดีหรือเปล่า มีการกันสนิมดีแค่ไหน ต่อเติม หรือ เจาะผนังก็ยากหน่อยครับ ถ้าเจาะไปเจอเหล็กก็หมดสิทธิ์ อยากทุบทำผนังใหม่นี่หมดสิทธิ์เลยครับ ลองขอรูปแบบการจัดเหล็กเสริมของแผ่นสำเร็จมาดูก็น่าจะได้ครับ จากคุณ : Peeting เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 05:41:28

ความคิดเห็นที่ 7 คุณSaint J  คะ ที่บอกว่า "รายนี้ น่าจะสำเร็จรูป จากโรงงาน ไม่มาหล่อ เท กันหน้างาน เหมือนรายอื่น ที่นิยมทำ" ดีกว่าหรือมีผลเสียมากกว่าค่ะ คุณPeeting คะ "ลองขอรูปแบบการจัดเหล็กเสริมของแผ่นสำเร็จมาดูก็น่าจะได้ครับ" ขอจากโครงการเหรอค่ะ ขอถามอีกนิดค่ะ กรณีจุดเชื่อมต่อระหว่างชิ้นนี่เราสามารถใช้การตรวจสอบด้วยอะไรได้ค่ะ หรือว่า กาลเวลาเท่านั้นที่พิสูจน์ได้ จากคุณ : gnek (gnek) เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 10:08:32

ความคิดเห็นที่ 8 ผมว่าตัวผนังที่หล่อจากโรงงานไม่น่าจะมีปัญหามาก เพราะถ้าหล่อจากโรงงานมาถึงนี่ได้ โดยตัวมันเองไม่พังแล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ยกเว้นว่าจะมีโพรงอากาศที่ผิวคอนกรีต ซึ่งโรงงานน่าจะเก็บรายละเอียดมาอย่างดี แต่สิ่งที่ผมคิดว่าน่ากลัวกว่าก็คือ การเชื่อมของช่างเชื่อมว่าจะดีแค่ไหน เพราะตอนนี้ช่างเชื่อมที่เก่งจริงๆหายากมาก โครงการที่ผมเคยอยู่มีการใช้คาน precast หล่อหน้างาน ก่อนจะเชื่อมคานผู้ควบคุมงานจะขอดูใบเซอร์กับเชื่อมให้ดูก่อน ว่ารอยเชื่อมได้มั้ย ความหนาได้มั้ย คุณภาพดีมั้ย บราๆๆๆ กางหนังสือของ ACI คุยกันทีละบรรทัดเลย และโครงสร้างประเภทนี้โดยเฉพาะส่วนของผนัง ถ้าเชื่อมไม่ดี รอยเชื่อมไม่ได้ มันก็จะพังตรงจุดนี้ก่อน และถ้าเก็บงานไม่ดี ฝนตกก็จะสาดเข้ามาได้ง่าย น้ำซึมผนังเข้ามาอีก ปัญหาอยู่แค่ว่า โครงสร้างประเภทนี้ ช่วยลดค่าใช้จ่ายต่างๆได้มาก เพียงแต่ว่าคุณภาพของคนทำมันถึงหรือเปล่า จากคุณ : chekub เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 10:22:06

ความคิดเห็นที่ 9 บ้านแบบนี้ควรซื้อตั้งแต่เริ่มก่อสร้างครับ จะได้ดูเรื่องรอยต่อผนัง เพราะจะเกิดปัญหาน้ำซึมได้ง่ายมากถ้าโป้วตรงรอยต่อไม่ดี ระบบไฟฟ้าก็ต้องดูครับ ท่อสายไฟชั้นบนลงชั้นล่างตรงกันดีหรือเปล่า ถ้าไม่ตรงมีปัญหาเปลี่ยนสายไฟไม่ได้ครับ มันดึงสายไฟไม่ออก จะเดินไฟเพิ่มก็ไม่ได้ ต้องเดินลอยลูกเดียว อีกอย่างคือดูที่เขาสร้างไว้นานๆ แล้วด้วยว่าสีทาผนังมีปัญหาหรือเปล่า ถ้าใช้สีไม่ดีมันจะร่อนเร็วเพราะผิวโครงสร้าง precast มันเรียบมาก ทาสีไม่ค่อยติด ส่วนเรื่องต่อเติมผมว่าไม่มีปัญหานะ มีโอกาสน้อยมากที่เราจะต่อเติมแบบทุบผนังทิ้งไปทั้งแถบ ซึ่งบ้านแบบนี้ทำไม่ได้ จากคุณ : oddy.freebird เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 12:30:36

ความคิดเห็นที่ 10 ตอบในฐานะที่เคยทำงานด้านนี้ครับ 1. งานที่ออกแบบ pre-cast จะแข็งแรงกว่า เรื่องการทรุดตัวถ้ามีการออกแบบที่ดีพอ เสาเข็มยาวพอ จะไม่ค่อยมีปัญหาการทรุดตัวจากการใช้งานเนื่องจากน้ำหนักของโครงสร้างเองนั้นมากกว่าน้ำหนักใช้งานมาก 2. ความแข็งแรงของโครงสร้างตัวบ้านแข็งแรงกว่าบ้าน คสล. แน่นอนครับ โดยที่แผ่น precast ที่ผลิตจากโรงงานจะมีการ QC ที่ดีกว่า และอย่างที่ คห. ข้างบนว่าครับ การที่แผ่น precast สามารถส่งมาถึงหน้างานได้แสดงว่ามันมีความแข้งแรงมากพอแล้วครับ ข้อเสีย 1. ต่อเติมยาก ต้องให้วิศวกรหรือเจ้าของโครงการแนะนำในการ ตัด-เจาะช่องเปิดต่างๆ ส่วนเรื่องการเจาะเพื่อแขวนใช้สว่านเจาะได้สบายครับ 2. เรื่องรอยต่อของ Precast ซึ่งโดยทั่วไปมี 2 วิธี คือแบบเปียก กับ แบบแห้งครับ 2.1 แบบเปียกคือวางแผ่นปูนห่างกันแล้วเทคอนกรีตกำลังสูงที่รอยต่อ (โดยที่ในรอยต่อมีการเสริมเหล็กเพื่อรับแรงตามที่วิศวกรคำนวณแล้ว) 2.2 แบบแห้งคือวางแผ่นติดกันแล้วยึดด้วยวิธีต่างๆ เช่นเชื่อม, น๊อต โดยปกติแบบที่ 1 จะดีกว่าในแง่ที่ว่าน้ำจะไม่มีโอกาสรั่วเข้าบ้านครับ ส่วนแบบที่ 2 สะดวกคนทำครับ แล้วค่อยมาหาวิธีป้องกันน้ำเข้าอีกทีหนึ่งครับ โดยสรุปอยู่ที่เจ้าของบ้านครับ แต่ผมว่าเรื่องโครงสร้างทางโครงการที่คุณว่ามาเค้ามีวิศวกรดูอยู่แล้วครับ ส่วนตอนตรวจรับก็ละเอียดหน่อยครับ จากคุณ : torcivil เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 14:51:26

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้ายังกังวลกับคุณภาพบ้านของ LH ทางเลือกเดียวที่เหลือคือต้องสร้างเองแล้วล่ะครับ ^^ แผ่น Precast ของแลนด์คุณภาพดีมากครับ ส่วนช่างเชื่อมนั้น ต้องมีการส่งไปอบรมเป็นระยะๆ (ไม่ใช่ช่างเชื่อมอย่างเดียว ช่างอื่นๆก็ด้วย) อย่ากังวลเลยครับ ที่ต้องระวังไว้ก็คือ อย่าไปทุบ ไปทลายกำแพงแล้วกัน ท่องไว้ กำแพง=เสาบ้านๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : B@@M เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 16:51:38

ความคิดเห็นที่ 12 มองในแง่ของผู้ซื้อ คิดว่า ไม่น่าจะเกี่ยวกับ การทำงานสะดวก รวดเร็ว หรือประหยัดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างสักเท่าไหร่ คิดว่าต้องถามผู้ซื้อครับ ว่าซื้อบ้านมาแล้วจะมีโครงการต่อเติม ปรับปรุงเปลี่ยนตัวบ้านรึเปล่า หากพอใจในแปลนที่ซื้อมาแล้ว ก็เดินหน้าซื้อได้เลยครับ ไม่มีข้อเสียใดๆ แต่คิดจะทำการต่อเติมเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆที่แตกต่างไปจากแปลนเดิมแล้วล่ะก็ มองข้ามไปดีกว่าครับ ระยะยาว ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจแล้วจะ รู้สึกไม่ดีนะครับ จากคุณ : Somkid_C เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 21:02:37

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณทุกๆความเห็นนะคะ เป็นประโยชน์ในการสร้างความมั่นใจได้เยอะเลย ที่วางแผนไว้คงต่อเติมเฉพาะในส่วนของกันสาดหน่ะคะ เพราะบ้านตรงเอามากๆ กลัวบริเวณประตูกระจกจะโดนสาดเวลาฝน แค่เติมในส่วนกันสาดไม่ส่งผลต่อโครงสร้างใช่ไม๊ค่ะ จากคุณ : gnek (gnek) เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 09:24:58

ความคิดเห็นที่ 14 พฤกษ์ลดา ก็ precast ชัยพฤกษ์ ก็ precast พฤกษา หมดประเทศ ก็ precast ยังไม่เห็นที่ไหนพังเลย ซักหลัง สมัยนี้บ้านเป็นพันเป็นหมื่นหลัง จะหาแรงงานที่ไหนมาก่ออิฐฉาบปูนครับ ถ้าไม่มั่นใจไปดูพฤกษา ทาวน์เฮาส์สิ ทุบกำแพงออกข้างนึงเกือบหมด มันยังไม่พังเลย เพราะมันยังเหลือกำแพงอีก 3 ด้าน แต่ไม่ควรทำ ผมยกตัวอย่างให้ดูเฉยๆ จะได้รู้ว่าไอ้เรื่องเจาะรูเนี่ย เล็กน้อยมากๆ ไม่ควรกังวลเกินเหตุ จากคุณ : ------------ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 11:05:18 A:10.226.99.61 X:203.185.134.4 TicketID:275893

ความคิดเห็นที่ 15 แถวบ้าน precast ขายดีมากค่ะ เกือบหมดโครงการแล้ว เหลือแค่ไม่กี่สิบหลัง บางโครงการก็ 2ล้านนิดๆ แถมบ้านหลังละ 3ล้านกว่าด้วยค่ะ ก็ไม่ใหญ่มาก ตัวบ้านประมาณ 120 ตรม.ค่ะ ดีที่มีสนามหญ้า และจัดสวนเล็กๆ ได้ด้วย จากคุณ : กองกำลัง12วานร เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 19:19:18

ความคิดเห็นที่ 16 ตามที่ จขกท.ถามมา 2 ประเด็น ขอเรียนดังนี้ค่ะ 1. การทรุดตัวของบ้านหรืออาคารนั้น ไมได้ขึ้นอยู่กับระบบการก่อสร้าง แบบผนังสำเร็จรูป หรือแบบก่ออิฐฉาบปูน  แต่ขึ้นอยู่กับ - การออกแบบฐานรากหรือเสาเข็ม ว่าสามารถรองรับ น้ำหนักได้พอหรือไม่ ซึ่งผู้ออกแบบต้องเป็นวิศวกรผู้มี ความรู้และชำนาญค่ะ - การควบคุมงานฐานราก ต้องเป็นไปตามมาตรฐานการ ก่อสร้างที่ถูกต้อง 2. เรื่องน้ำท่วมในทำเลของ inizio รังสิต คลอง 3 นั้น จากข้อมูลจากอดีคถึงปัจจุบัน ยังไม่เคยมีปัญหาเรื่อง น้ำท่วมในทำเลดังกล่าวค่ะ ระบบการก่อสร้างแบบผนังสำเร็จรูปของโครงการ inizio นี้ เราใช้ระบบ Precast ซึ่งใช้กันมาแพร่หลายในต่างประเทศ ทั้งยุโรปและเอเชียค่ะ โดย - ความแข็งแรง คงทน ไม่แตกต่างจากระบบก่อสร้าง แบบก่ออิฐฉาบปูน - เรื่องรอยต่อของแผ่น ผนัง ที่กังวลนั้น ตามมาตรฐาน การออกแบบของแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ดำเนินการโดย วิศวกรผู้เชียวชาญโดยเฉพาะ ทำให้จุดเชื่อมต่างๆมี ความมั่นคงแข็งแรงตามหลักวิศวกรรม - ข้อดีของ Precast คือ มีการควบคุมการผลิตจากโรงงาน จึงควบคุมคุณภาพได้ตามมาตรฐานที่กำหนด - ทำให้สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ง่าย และไม่มีปัญหา เรื่องรอยร้าวลายงาของผิวผนังเหมือนผนังที่ก่ออิฐฉาบปูน ทั่วไป - ข้อควรระวังคือการต่อเติม เนื่องจากผนังเป็นตัวรับน้ำหนัก การต่อเติมใดๆที่มีผลกระทบต่อผนัง ต้องได้รับคำแนะนำ จากวิศกรผู้ออกแบบเสียก่อนค่ะ และระบบ Precast หรือ Prefab นี้แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มี QC ควบคุมทุกขั้นตอน ตามมาตรฐานทางวิศวกรรม ในเรื่องของความคงทน แข็งแรง และรอยต่อต่างๆ เรียบร้อยค่ะ จึงเรียนมาเพือ่ทราบในข้อมูลของการก่อสร้างระบบ Precast  ในโครงการบ้าน inizio ค่ะ ขอบพระคุณค่ะ จากคุณ : Land&Houses เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 17:30:27