|
คำพูดที่ดูน่าเชื่อถือของคุณเล็กสร้างความรู้สึก อุ่นใจและเชื่อมั่นว่าเราต้องมีปัญญาซื้อมันได้แน่นอน (แต่จะได้แน่หรือได้นอนร้องไห้ คงต้องรอช่วงมิถุนา ยื่นเอกสารจริง)
ใจเราตอนนั้นอยากได้บ้านแล้ว 95% ถ้าติดเงินมาก็คงต้องได้เสียตังค์กันล่ะ แต่แฟนบอกให้ใจเย็น ลองดูหลาย ๆ ที่ก่อน เราก็ อือ ๆ!
บ่ายวันนั้นเรากลับมาที่นี่อีกครั้งหลังจากกลับไปจำแลงแปลงกายจากนางอุทัยเทวี เป็นแม่มณีหยาดฟ้า ครั้งนี้มาพร้อมเจ้านาย (ผู้ถือหุ้นใหญ่) เพราะแกมี ประสบการณ์การซื้อพวกอสังหาริมทรัพย์พอสมควร คุณเล็กพามาดูบ้านตัวอย่างอีกครั้ง คราวนี้คุยกันเป็นเรื่องเป็นราวและเราดูมั่นใจในตัวเองมากกว่าตอนเช้า โดยเจ้านายเราเป็นคนคุยซะหลัก ๆ ฟังไม่รู้เรื่องเลยเป็นศัพท์เทคนิคทั้งนั้น เราได้แต่ทำหน้านิ่ง ๆ พยักหน้าเห็นด้วยเป็นบางครั้งคราว แล้วค่อยกระซิบถามเจ้านายว่า คุยเรื่องไรกัน? ตอนคุณเล็กเผลอ เจ้านายเรามองแล้วก็บอกว่าโอเคอยู่เหมือนกัน และบอกว่าให้ซื้อบ้านตัวอย่างไปเลยเพื่อความคุ้มค่า ซึ่งแฟนเราตอนแรกก็เห็นดีเห็นงามด้วย แต่เราไม่ชอบ เจ้านายบอกให้ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ดูไปเรื่อย ๆ ดูที่อื่นเปรียบเทียบกัน เราก็ อือๆ!
เช้าวันศุกร์อีก 2 วันต่อมาโดนแฟนลากมาทำสัญญาจองแลัว จัดไป 5,000 บาท และตกลงใจเลือกบ้านแปลงหลังมุม ในราคา 2,149,000 หลังจากนั้นอีก 10 วันนัดมาทำสัญญาซื้อขาย จ่ายเพิ่มอีก 45,000 บาท ทั้งนี้ทั้งนั้นภายใต้เงื่อนไขที่ว่า หากลูกค้าทำเรื่องกู้เงินไม่ผ่าน จะได้รับเงินคืนทุกบาททุกสตางค์ ตั้งแต่เงินจอง ยันเงินดาวน์ที่จ่ายไปทุกงวด (เขียนลงในใบสัญญาด้วย) พอจ่ายไปหนักเข้า เราก็ไปกดดันผู้ที่จะมาซื้อคอนโดฯ เราอีกต่อหนึ่งว่าให้รีบยื่นกู้ให้ผ่านเร็ว ๆ เพราะเราจองบ้านรอแล้ว การกระทำในครั้งนี้ของเราถือเป็นความเสียงสูงมาก(ผู้ลงทุนโปรดใช้วิจารณญาณ) เพราะ คอนโดฯ ยังขายไม่ได้ ห้องก็เช่าเขาอยู่ บ้านจองไปแล้ว เดือนหน้าต้องเริ่มผ่อนดาวน์อีก รายจ่ายท้างงงงนั้น
(รูปห้องนอนเล็ก ถ่ายมาได้แค่เตียงใช้กล้องมือถือถ่ายเลยไม่ได้มุมกว้างอ่ะค่ะ)
จากคุณ |
:
รวมกันตายหมู่
|
เขียนเมื่อ |
:
7 ม.ค. 54 15:44:22
|
|
|
|
|