|
ปกตินายหน้า จะได้ค่านายหน้า ก็ต่อเมื่อ การซื้อขาย เสร็จสมบูรณ์ และจะรับเงินภายหลังจากที่เจ้าของได้รับเงินแล้วหนึ่งวัน
ผมไม่เคยทำสัญญานายหน้ากับผู้ใดเลย ไม่ว่าเป็นฝ่ายซื้อ หรือขาย ยิ่งสัญญาทาส ที่เขียนว่า เมื่อตกลงให้นายA หรือ บริษัท A เป็นนายหน้าแล้ว ไม่ว่า ถ้านาย A หรือ บริษัท A ขายได้เองหรือไม่ก็ตาม เจ้าของต้องจ่ายค่านายหน้า อย่างนี้คือสัญญาทาส
คนที่จะมาซื้อ ที่ดิน หรือบ้าน เขาไม่ได้ดูว่า ใครเป็นนายหน้า แต่เขาดูว่า ของที่เขาซื้อนั้น ต้องตาม ที่เขาอยากได้หรือไม่ ถ้าต้องตามที่เขาอยากได้ เขาจะซื้อ ถ้าไม่ต้อง เขาก็ไม่ซื้อ มีหลายท่าน เข้าใจว่า ฝากขายกับบริษัท PPP ซิ ชื่อเสียงเขาดี ดังนั้น จะขายได้ง่าย เป็นตรรกะที่ผิดมาก
คนซื้อบ้าน ไม่ได้ซื้อเพราะ บริษัท แต่เขาซื้อเพราะ เขาอยากได้ของ และต้องเป็นของที่ตรงกับที่ใจเขาวาดไว้ตามสมควร
ดังนั้นต่อไป หากจะขายบ้าน หรือที่ดิน ให้ทำอย่างนี้
1. ทำป้าย ไว้ 20 30 อัน ขนาด 2 ตารางฟุต ติดแถวๆ ใกล้ๆ บ้าน ในรัศมี 1 2 กม. เขียนว่า ขายบ้าน 3 ห้องนอน 2 น้ำ 60 ตารางวา ซอย ddd เข้าไป 200 เมตร โทร 101xxx0101 คุณ แม้ว
2. ลงใน web หลายๆ แห่ง หมั่น เข้าไป up-date ด้วย
3. เตรียมเอกสาร สำคัญ ไว้ให้พร้อม 20 ชุด ใครมาขอก็ให้ไป
4. ไม่ทำสัญญานายหน้ากับใคร 4.1 หากมีคนมาขอเป็นนายหน้า ต้องแจ้ง เงื่อนไขการเป็นนายหน้าให้เขาทราบ หรือไม่งั้น ก็ print ที่ผมเขียนมาให้เขาดูครับ ไม่ควรตกลงเป็น % ควรบอกเป็น จำนวนเงิน เช่น 10,000 หรือ 20,000 บาท บอกให้ชัดว่า เงื่อนไขเป็นอย่างไร และจะได้เงินเมื่อการซื้อขายสมบูรณ์ ถ้านายหน้า มีหลายคน และคนซื้อมีคนเดียว ให้ถามคนซื้อว่า ได้ข้อมูลมาจากใคร
ถ้าไม่ลงตัว ไม่จ่าย ไม่งั้น ก็หารกันทั้งหมด จะไม่จ่ายให้ใครคนใดคนหนึ่ง
ผมทำอย่างนี้เสมอมา ทั้งเป็นนายหน้าเอง ทั้งเป็นฝ่ายซื้อเอง และเป็นฝ่ายขายเอง
หลายครั้ง ยังไม่ทันซื้อขาย มีนายหน้ามาขอเป็นนายหน้า ผมก็บอกว่า ยินดี แต่ ค่านายหน้ามี 20,000 นะ เขาบอกว่า พวกเขามี 4 คน ขอคนละ 20,000 บาท นะตกลงตามนี้นะ แล้ววางหู ทันที ผมก็โทรไปทันที่ว่า ไม่ตกลง แล้ววางหู ถ้าเขาไม่ทันวางหู ผมจะบอกทันทีว่า ไม่ตกลง แล้ววางหูทันทีเช่นกัน ต่อไปนายหน้าคนนี้โทรมาอีก ผมบอกว่า น้องชายซื้อไปแล้ว ก็เท่านั้น คนแบบนี้ ไม่ต้องคบ
อีกรูปแบบหนึ่ง นายหน้า เห็นราคา 4.2 ล้าน โทรมาถามโน่น นี่ นู่น แล้วต่อราคา เป็น 3.5 ล้าน ผมจึงถามไปโดยสุภาพว่า คุณเป็นคนซื้อเองหรือไม่ หรือเป็นผู้แทน (ใช่คำสุภาพ แทนคำว่านายหน้า) ได้คำตอบว่า เป็นผู้แทน จึงถามต่อไปว่าแล้วจะเป็นผู้แทนของใครล่ะ ฝ่ายผู้ขายหรือฝ่ายผู้ซื้อ ได้คำตอบว่า เป็นทั้งสองฝ่าย จึงได้ตอบไปว่า ผมมีผู้แทนฝ่ายผม คือฝ่ายขายอยู่แล้ว ดังนั้น คุณไม่ต้องลำบากดอก ถ้ามีคนซื้ออยู่กะตัวก็นัดเจอกัน ให้คนซื้อมาต่อราคาเอง ผู้แทนนั้นแม้ต่อราคาได้ ก็ไม่มีเงินมาวางผม ผมไม่รู้จะตอบตกลงได้อย่างไร แล้วก็วางหูไป
ถ้าริจะเป็นนายหน้า หรือรับมือกะนายหน้า ต้องใจเย็น และรู้ทันเขาครับ ถ้าเขาต่อราคามา เราก็บอกว่า ถ้าคุณต่อราคา แสดงว่าคุณไม่ได้เป็นนายหน้าคนขายนะ ถ้าขายแล้วคุณจะไม่ได้เงินค่านายหน้า เพราะ คนขายเสียประโยชน์ ไม่ต้องตามตรรกะ ที่คุณเป็นฝ่ายคนขาย แต่กลับทำให้คนขายได้ราคาน้อยลง
การจะต่อราคา ต้องให้คนซื้อมาต่อ ไม่ใช่นายหน้ามาต่อ ถ้านายหน้ามาต่อราคา นายหน้าต้องไปรับเงินกับคนซื้อ ถ้าจะมารับกับผมนั้น ผมให้ไม่ได้
จากคุณ : น้าพร - [ 17 พ.ค. 51 18:47:08 ]
จากคุณ |
:
น้าพร
|
เขียนเมื่อ |
:
15 ก.พ. 54 07:26:12
|
|
|
|
|