ความคิดเห็นที่ 1 พี่มาศ รอแม่ครัวใหญ แห่งบางนา ...ได้เลย อาจจะต้อง ลงพื้นที่จริงเยาวราช... อิอิ จากคุณ : ด่วนที่สุด เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 13:15:44

ความคิดเห็นที่ 2 รอจานค่ะ ได้สูตรแจ่มแน่นอนค่ะ เล่าที่บ้านให้ฟังค่ะ หม่าม๊านู๋เกตุ มีสูตรเด็ดคือ ต้องนำกระเพาะปลาที่แช่น้ำแล้ว ไปต้มด้วยเหล้าจีน เพื่อดับคาว เวลาปรุงเสร็จกลิ่นจะหอมน่าทานมากค่ะ จากคุณ : ลูกแม่เกตุ เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 13:22:34

ความคิดเห็นที่ 3 เย็นนี้อยากหม่ำกะเพาะปลาผัดแห้ง อ่า อ่านกระทู้คุณ jin leng ห้องก้นครัว ทำให้อากงหม่ำแล้ว รำๆ จะทำตามหลายทีแระ กร ซื้อมากิโลนึงยังใช้ไม่หมดเลย ทำไปแต่ยำสามกรอบสองรอบ  เห็นเมนูผัดแห้งแล้วคิดว่าไม่ยาก เห็ดหอมก็มี ว่าแล้วเย็นนี้ต้องไปซื้อต้นหอม แต่เนื้อปูสดนี่ต้องเข้าห้าง max value สิเนี่ย ขืนแวะห้างก่อน รถติดแอ่กอยู่แถวนั้นหิวเป็นลมก่อนพอดี 55 เย็นนี้แวะไหนบ่ได้เลย ไม่มีแม่บ้าน หมาสี่ขาในและนอกบ้านจะอดกันโม๊ด จากคุณ : กาแฟรสเสน่หา เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 14:04:06

ความคิดเห็นที่ 4 .. อะถามอากู๋ .. มาแระ .. ตามลิงค์นี้ http://www.hilunch.com/tag/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2 จากคุณ : พี่ทู (Patunga) เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 14:38:19

ความคิดเห็นที่ 5 กระเพาะปลาตามความเชื่อชาวจีน***         สืบเสาะหาข้อมูลได้ความว่า...กระเพาะปลา มีสรรพคุณในการเสริมหยิน บำรุงเซลล์และเนื้อเยื่อ ทำให้เนื้อเยื่อแข็งแรงและกระชับ บำรุงไต บำรุงกระดูก เส้นเอ็น ที่แน่ๆคือมีโปรตีนและไขมัน เสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย ให้พลังงาน แก้อาการตกเลือด เป็นยาอายุวัฒนะ โดยเฉพาผู้ที่เพิ่งให้กำดเนินบุตร..มักนิยมรับประทานหลังคลอด..อาจเป้นเพราะให้พลังงานและความอบอุ่นแก่ร่างกายค่ะ         กระเพาะปลาที่ดีจริงต้องเป็นกระเพาะปลาน้ำลึก เพราะกระเพาะปลาจะทำงานไม่หยุด ยิ่งเก็บนานยิ่งมีพลังจักรวาลมาก (อันนี้เค้าว่ามาค่ะเลยว่าตามเค้าไป) การกินกระเพาะปลาก็เพราะต้องการเอาพลังจักรวาลให้มาอยู่ในตัวเรา ส่วนกระเพาะปลาน้ำตื้น หากินในที่ราบไม่มีพลังเทียบเท่า ในกระเพาะปลานี้ พบว่ามีสารคาซิเลตซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง แม้จะยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าสารนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร (เช่นเดียวกันหูฉลาม) แต่คนจีนก็เชื่อว่ากระเพาะปลาจะช่วยให้ร่างกายอบอุ่น เลือดลมไหลเวียนดี ทำให้มีพละกำลัง จึงนิยมรับประทานกันในหน้าหนาวเช่นกัน และจัดเป็นอาหารบำรุงร่างกายอย่างดี ลป. อากู๋ บอกมาอีกที   จากคุณ : พี่ทู (Patunga) เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 14:44:24

ความคิดเห็นที่ 6 มีอีก .. เคล็ดลับดีๆๆ..ในการนำกระเพาะปลามาทำอาหาร…    หลายท่านที่เคยทำกระเพาะปลาทานเอง...น่าจะเคยพบปัญหากลิ่นหืนของน้ำมันในตัวกระเพาะปลา..หรือการล้างกระเพาะปลายังไงน้ำมันก็ยังไม่หมดบ้างหรือไม่ค่ะ ..วันนี้เรามีTIP ดีๆจากผู้ชื่นชอบการทำกระเพาะปลามาฝากค่ะ..       เรามาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างน๊า...ที่จะทำให้ได้กระเพาะปลาแสนอร่อยไม่เหม็นหืนแล้วก็ปราศจากน้ำมัน.. วิธีแรก : เป็นวิธีที่ทำกันทั่วไปคือ แช่กระเพาะปลาในน้ำให้นิ่มก่อน แล้วเอาขึ้นมาบีบน้ำออกจนแห้ง จึงนำไปต้มน้ำท่วม ใส่ขิงแก่ทุบลงไปดับกลิ่นด้วย ต้มจนเดือดประมาณ 10นาที แล้วยกลงเทน้ำทิ้ง ใส่น้ำเย็นให้ท่วม ขยำบีบกระเพาะปลาเบาๆ พยายามบีบน้ำออกให้หมด แล้วเปลี่ยนน้ำ ขยำๆ บีบๆ อย่างนี้จนหมดน้ำมัน ไม่มีมันลอยอยู่ในน้ำ ค่อยเอาไปตุ๋นหรือไปผัดได้ แต่สำหรับสูตรทางบ้านที่แม่ของหนูทำจะเป็นลักษณะการแช่ในเหล้าขาวก่อนค่ะ...เพื่อดับกลิ่นน้ำมันที่ทอด พูดถึงเรื่องน้ำมันที่ใช้ในการทอดกระเพาะปลา...มีท่านใดทราบบ้างมั้ยคะว่าผู้ผลิตส่วนใหญ่ใช้น้ำมันอะไรในการทอดเพื่อให้กระเพาะปลานั้นพองฟูน่าทาน…???  เฉลยดีกว่า..การที่จะทอดกระเพาะปลาแห้งให้ฟูได้นั้นนิยมใช้น้ำมันมะพร้าวผสมน้ำมันปาร์มในการทอด จากคุณ : พี่ทู (Patunga) เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 14:45:26

ความคิดเห็นที่ 7 วิธีที่สอง :   ใช้ ต้นหอม กับเหล้าโดยมากนิยมเหล้าขาว 28 ดีกรี หรือหล้าแดง/เหล้านอกได้หมดค่ะขึ้นอยู่กับความชอบ เหล้าจะทำให้กระเพาะปลาหมดกลิ่นหืน และมีกลิ่นจำหอมกว่าเหล้าแดงค่ะ  อันดับแรกให้นำกระเพาะปลาแช่ในน้ำธรรมดา หากจะให้นิ่มเร็วควรแช่ในน้ำอุ่น - เมื่อกระเพาะปลานิ่มดีแล้ว เอาขึ้นมาบีบน้ำออก ใช้มือฉีกกระเพาะปลาที่นิ่มดีแล้วนี้ออกเป็นชิ้นๆพอดีคำ - เตรียมต้นหอมสักหนึ่งกำใหญ่ ตัดเอาแต่ส่วนที่เป็นเส้นเขียว  ..ตั้งกระทะให้ร้อนโดยไม่ต้องใส่น้ำมัน เมื่อร้อนดีใส่กระเพาะปลาลงไป ตามด้วยต้นหอม ผัดสองสามทีให้ทั้งสองอย่างร้อน จากนั้นเทเหล้าลงไปสักสองสามฝา ( หากไม่ชำนาญ ให้ตวงเหล้าด้วยฝาจุกขวดเหล้านั้น ใส่ถ้วยไว้ สักสามฝา ผัดไปมาให้เหล้าเดือดและซึมไปทั่วกระเพาะปลา จะเห็นว่าเราไม่มีการใส่น้ำเลย เมื่อต้นหอมสลดมากแล้ว และเห็นว่าน้ำมันจากกระเพาะปลาออกมาติดกระทะและต้นหอมมากแล้ว จึงนำกระเพาะปลาขึ้นมาล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง บีบน้ำออกแล้วลองดมกลิ่นดู จะมีกลิ่นหอมเหล้า และกลิ่นหืนๆจะหายไป ค่อยๆบีบอย่างเบามือ แต่สะบัดๆให้น้ำในเนื้อเยื่อออกไป เสร็จแล้วพักไว้เตรียมนำไปปรุงเป็นทั้งแบบน้ำและแบบแห้งได้เลย จากคุณ : พี่ทู (Patunga) เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 14:46:12

ความคิดเห็นที่ 8 มาทำกระเพาะปลาน้ำแดงกันเถอะ...ค๊า      เมนูยอดนิยมของกระเพาะปลาคงหนีไม่พ้นกระเพาะปลาน้ำแดงแน่นอน...เพราะทานง่าย    คล่องคอ รสซาติอร่อยนุ่มลิ้น...ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นอาหารจีนที่ขายดี..และคนนิยมทานกันอย่างแพร่หลาย...ผู้จัดทำweb site พยายามอย่างยิ่งที่จะรวบรวมสูตรต่างๆทั้งจากอินเตอร์เน็ต เว็ปสูตรอาหารทั้งไทยและต่างชาติ  รวมถึงจากหนังสือสูตรอาหารต่างๆ มากมายเพื่อให้ท่านผู้รักอาหารชนิดนี้ได้นำไปลองทำทานกันในครอบครัว หรือพัฒนาไปสู่การสร้างเสริมรายได้อีกทางหนึ่ง วิธีการทำที่แตกต่าง..แต่มีจุดหมายเดียวกันที่ความอร่อย...ไปดูสูตรแรกกันเลยค๊า... เครื่องปรุงส่วนผสม : - ซี่โครงไก่ 1 โครง - ซอสภูเขาทอง 1 ช้อนโต๊ะ - น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ - กระเพาะปลา 1 ขีด - เห็ดหอม 10 ดอก - ไข่นกกระทาต้มสุก 20 ฟอง - เนื้อปูนึ่งสุก 1 ขีด - ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ - ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา - เกลือป่น 2 ช้อนชา - หน่อไม้ต้ม 1 ขีด - เลือดเป็ด 1 ก้อน - เนื้ออกไก่ 1 อก - แป้งมันหรือแป้งข้าวโพด ½ ถ้วยตวง - น้ำสะอาด 7 ถ้วยตวง จากคุณ : พี่ทู (Patunga) เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 14:47:37

ความคิดเห็นที่ 9 วิธีทำ : 1. สับซี่โครงไก่ให้เป็นชิ้นพอประมาณ คัดส่วนที่เป็นหนังและมันทิ้งไป ล้างซี่โครงไก่สับให้สะอาด นำไปแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ ½ ชั่วโมง 2. จากนั้นนำซี่โครงไก่ เนื้ออกไก่ และเห็ดหอม ต้มน้ำสะอาด 7 ถ้วยตวง รอจนน้ำเดือดจึงลดไฟให้อ่อนลง เคี่ยวต่อไปประมาณ 30 นาที แล้วค่อยช้อนฟองทิ้งด้วย เมื่อได้ที่แล้วกรองเฉพาะซุปเก็บไว้ ส่วนเห็ดหอมและเนื้ออกไก่ที่สุกแล้ว นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แยกรอไว้ ซี่โครงไก่ ที่เหลือให้ทิ้งไป 3. นำกระเพาะปลาที่แช่น้ำจนนิ่ม ประมาณ 30 นาที จากนั้นล้างให้สะอาดหลายๆ ครั้ง จนแน่ใจว่าหมดกลิ่นสาบและปราศจากไขมันตกค้างรอจนสะเด็ดน้ำจึงนำไปต้มประมาณ 5 – 10 นาที ยกลงแล้วล้างน้ำอีกครั้ง บีบน้ำให้แห้ง ก่อนหั่นเป็นท่อนๆ เก็บไว้ 4. นำหน่อไม้มาต้มให้สุก แล้วนำล้างน้ำสะอาด รอให้สะเด็ดน้ำมัน นำมาหั่นเป็นแท่งสี่เหลี่ยมเล็กยาว ส่วนเลือดเป็ดนำมาหั่นเป็นก้อนสี่เหลี่ยมขนาด 1 นิ้ว แล้วลวกในน้ำเดือดให้สุก                                                              5. ละลายแป้งมันหรือแป้งข้าวโพดกับน้ำสะอาด ½ ถ้วยตวงเตรียมไว้ 6. นำน้ำซุปใส่หม้อตั้งไฟ เติมซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ ซอส เกลือป่น น้ำตาลทรายคนให้ละลายเข้ากัน เมื่อน้ำเดือดใส่หน่อไม้ กระเพาะปลา เลือดเป็ดและเห็ดหอม คนให้เข้ากัน 7. นำแป้งมันที่ละลายเตรียมไว้เทใส่ผสมลงในหม้อ ขณะเทแป้งให้คนไปเทไปพร้อมๆ กันทีละน้อย พอแป้งสุกได้ที่จึงยกลง 8. สำหรับท่านที่ตักขายเวลาขาย ตักกระเพาะปลาใส่ชามหรือถุง โรยไก่ฉีกพอประมาณ เนื้อปูนิดหน่อย ไข่นกกระทา 2-3 ฟอง เหยาะซอสเปรี้ยว พริกไทยป่น และโรยผักชีเล็กน้อย วิธีทำพริกน้ำส้ม :    พริกเหลืองโขลกละเอียด 3 เม็ด กระเทียมโขลกละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มสายชู ½ ถ้วยตวงมาผสมให้เข้ากัน ข้อแนะนำ : 1. ก่อนนำเห็ดหอมไปต้มควรแช่น้ำให้นิ่มและล้างน้ำให้สะอาด ส่วนเลือดเป็ดหากยังไม่ได้ใช้ ควรแช่น้ำไว้ตลอดเวลาเพื่อป้องกันไม่ให้แตกตัว และยุบตัว จากคุณ : พี่ทู (Patunga) เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 14:48:13

ความคิดเห็นที่ 10 กระเพาะปลาผัดแห้ง เครื่องปรุงประกอบด้วย น้ำมันพืช 2-3 ช้อนโต๊ะ กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ กระเพาะปลาต้มและบีบให้แห้งแล้วประมาณ 4 ถ้วย เห็ดหอมแช่น้ำให้นิ่มหั่นเป็นเส้นฝอย ½ ถ้วย ถั่วงอกเด็ดหาง 1 ถ้วย ซีอิ๊วขาว 1-2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา พริกไทย 1 ช้อนชา ไข่ไก่ 2 ฟอง ผักกาดหอมเด็ดเป็นใบล้างสะอาด ซอสเปรี้ยวจิ๊กโฉว่ วิธีทำ เอากระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมัน ใส่กระเทียมผัดจนหอมดี แต่อย่าไหม้ ตามด้วยกระเพาะปลา เห็ดหอม เติมเครื่องปรุงรสทั้งหลาย คลุกเคล้าให้เข้ากันดี ใช้ตะหลิวกันกระเพาะปลาที่ผัดไว้ข้างกระทะ เติมน้ำมันลงไปอีกหน่อย ต่อยไข่ใส่ ยีพอแตก คะเนไฟให้ไข่สุกพอเป็นเม็ด ๆ ไม่ถึงกับแห้งมาก แต่อย่าแฉะ เดี๋ยวคาว ตักกระเพาะปลาที่ผัดกลบทับ ใส่ถั่วงอก ผัดพอเข้ากัน ให้ไข่จับเป็นเม็ดเล็กๆ ไปทั่ว ตักใส่จานรองด้วยผักกาดหอม หรือจัดเคียงจาน พร้อมกับถ้วยซอสเปรี้ยว เวลากินใช้ใบผักกาดหอมห่อกระเพาะปลาผัดแห้ง เหยาะซอสเปรี้ยวหน่อย ...อืมเริ่มหิวรึยังคะ คำแนะนำ: ควรผัดเครื่องปรุงแต่ละชนิดแล้วนำขึ้นพักไว้จากนั้นจึงค่อยนำเครื่องปรุงทั้งหมดมาผัดรวมกันอีกครั้งเพื่อกระเพาะปลาจะได้ไม่แฉะค่ะ จากคุณ : พี่ทู (Patunga) เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 14:48:51

ความคิดเห็นที่ 11 ููขอบคุณทุกท่านค่ะ โดยเฉพาะน้าทู ทำเอาเลือกไม่ถูกเลยว่าจะใช้วิธีไหนดี 555555 ได้ไอเดียไปลองทำแระ จากคุณ : วิเชียรมาศ1 เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 16:45:16

ความคิดเห็นที่ 12 วิธีทำ   1. ขับรถไปบ้านแม่ จอดรถทิ้งไว้หน้าบ้าน   2. เดินไปตลาด  ก่อนถึงศาลหลักเมือง 3. มีร้านกระเพาะปลา จ้าวประจำ 4. ซื้อซะ จากคุณ : น้าแสบ เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 17:54:11

ความคิดเห็นที่ 13 บอกตรงๆๆกระเพาะปลา ดูไม่เป็น ทำออกมาจะเละหมด แล้วถ้าเลือกไม่เป็นกระเละหมด ส่วนมากราคากระเพาะปลาที่ดีหน่อน โลละ สามพันกว่าขึ้น วิธีล้าง ก็เอาลากผักชี พริกไทยต้มน้ำลวก  ตักลอก บีบน้ำให้แห้ง จากที่เคยลองทำ แต่ก็ไม่เป็นท่า เลย เพราะ ซื้อกระเพาะปลาไม่เป็น กระเพาปลาที่ดี  ล้างแล้ว จะ ไม่เละ จะ เหมือนฟองน้ำ กินแล้ว ซวบๆๆๆ ส่วนความหมายวันตรุษจีนไม่ทราบจริงๆๆ เพราะ แม่ทำทุกปี  (ก็ไม่เห็ฯรวยเลย ) จาน ปีก่อนเคยทำซื้อจากแม่ค้าผักเค้าล้างให้แล้ว มาทำก็อร่อยดี น้ำซุปไก่ ต้องถึง จากคุณ : สีไม้น้ำ เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 18:49:06

ความคิดเห็นที่ 14 โห!  น้าทูเชี่ยวชาญเรื่องกระเพาะปลาอะไรอย่างนี้  ขั้นเทพเลยนะนั่น ปลาบปลื้มกับความสามารถของน้าทูเจงๆ จากคุณ : m_mix เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 13:20:10

ความคิดเห็นที่ 15 ผมรู้อย่างเดียวว่าอร่อยหรือเปล่า แต่ทำไม่เป็นและอ่านแล้วไม่ไหว ซื้อเอาอย่างที่น้าแสบว่าดีกว่า จากคุณ : Bugmao (บั๊กเม่า) เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 13:17:41

ความคิดเห็นที่ 16 กระเพาะปลามี2ชนิด ชนิดที่ทำงานอาหาร คือกระเพาะปลาที่เอามาทอดก่อน แล้วมาพึ่งลมให้แห้ง ใส่ถุงขาย เอาไปผัดทำอาหาร กับ กระเพาะปลาน้ำลึก จะเป็นแผ่นแข็งสีเหลืองไม่มีฟองอากาศในเนื้อกระเพาะ  เวลาจะหั่นกระเพาะปลาต้องย่างไฟให้นิ่มก่อนถึงหั่นได้ กระเพาะปลาประเภทนี้ เอามาตุ๋นกับโสมหรือยาจีน เวลาตุ๋นเสร็จเนื้อกระเพาะปลาจะนิ่มใสๆขุ่นๆ กินบำรุง สำหรับ คนที่พึ่งผ่าตัดมา หรือ คนที่เป็นไข้หวัดบ่อยๆ ทำให้คนป่วยฟื้นตัวเร็ว เป็นหวัดน้อยลง (ผมได้ทดลองให้แฟนกินแล้ว จากเป็นหวัด2เดือนครั้ง ปีที่แล้วเป็นหวัดครั้งเดียว) ราคาแพงกว่าแบบแรก หลายเท่าตัว ราคาเริ่มที่ลูกละหลักพันกลางๆถึงหลักแสน ขึ้นอยู่กับขนาดกับอายุและความใสของกระเพาะ จากคุณ : ส/305 เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 23:56:31