|
เท่าที่ผมหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อ สำหรับมอเตอร์เปิดประตูอัตโนมัติ การใช้งานอย่างทนทานขึ้นอยู่กับ
- ขนาดกำลัง ของมอเตอร์ เทียบกับนำ้หนักประตู (load) - คุณภาพของแหล่งผลิต - ชนิดของมอเตอร์
เรื่องแรก : ขนาดกำลัง ทางผู้ผลิตจะบอก spec มาว่า มอเตอร์รุ่นต่างๆมันขับ ประตูนำ้หนักได้เท่าไร เช่น 500 , 800, 1000 kg เราต้องทราบน้ำหนักประตูคร่าวๆ เพื่อเลือกให้ได้เหมาะสม ความสงสัยของผมก่อนซื้อ ผมไม่เข้าใจว่าเขาจะทราบน้ำหนักประตูเรายังไง คิดว่าจะถอดประตูมาชั่ง แต่ในทางปฏิบัติ ผู้ขาย มักจะมีความชำนาญ ในการกะประมาณน้ำหนักได้จาก ความกว้าง ยาวของประตู, ชนิดของวัสดุ ไม้ เหล็ก สแตนเลส, ลักษณะของการประกอบ เช่น ตัน ทึบ โปร่ง ฯลฯ หากเราถ่ายรูปพร้อมวัดมิติไป ทางผู้ขายจะประมาณได้ง่ายขึ้น หรือบางเจ้าจะ มีการมาดูสถานที่จริง
สิ่งที่มักจะมองข้ามสำหรับผู้ใช้ คือ น้ำหนัก load ที่ประเมินได้ มันจะผิดพลาดไป และมักจะเป็นสาเหตุให้ มอเตอร์ขับมีปัญหาคือ "ลูกล้อ และราง"
ลูกล้อ และราง มักจะเป็นตัวก่อปัญหาในระยะยาว ทำให้ load มากขึ้น เนื่องจาก ลูกล้อตาย จากลูกปืนเสีย เป็นสนิม หรือ รางคดงอ (พื้นทรุด ไม่ได้ระดับ) เป็นสนิม
เรื่ืองที่สอง : คุณภาพของแหล่งผลิตมอเตอร์ มาจากหลายแหล่ง ที่ผมเจอ ก็มี จีน มาเลย์ และอิตาลี อย่างที่รับรู้ในยุทธจักรมอเตอร์ทั้งหลาย อิตาลีเป็นเจ้าแห่งเรื่องนี้มาช้านาน แต่ราคาก็สูงกว่าชาวบ้าน เป็นธรรมดา ต้องลองหาข้อมูลจากผู้ใช้ก่อนหน้านี้ หลายๆ ราย อิตาลีจะได้เปรียบเพราะทำมาก่อน หากไปถามคนใช้มานานๆ บางบ้านใช้มาทนทาน 10-15 ปี ก็มักเป็นของแบรนด์มักโรนีเป็นส่วนใหญ่ จึงได้เปรียบ
มาเลย์ กับจีน หลังๆ เข้ามาแข่งขันมากขึ้น ก็เริ่มมีผู้ใช้มากขึ้น ไม่ใช่ว่าจะเป็นรองทั้งหมด แต่ความทนทานต้องอาศัยเวลาสะสม ประสบการณ์ ข้อดีของสองแหล่งนี้คือ ราคาค่าตัวที่ต่ำกว่า และอะไหล่ที่น่าจะถูกกว่า ในเรื่องการบำรุง รักษา (จุดที่ต้องทำการบ้านคือ ความจุกจิกของการบำรุงรักษาระยะยาว หาก บ่อย แต่อะไหล่ถูก ในระยะยาวอาจจะเพิ่มขึ้น)
เรื่องที่สาม ชนิดการทำงานของมอเตอร์ : ที่ผมหาข้อมูลก่อนซื้อ มอเตอร์เวลาทำงาน มันจะเกิดความร้อน การระบายความร้อนมีสองแบบหลัก คือ ระบายด้วยอากาศ คือมอเตอร์ตั้งอยู่ธรรมดา อาศัยอากาศรอบข้างระบายความร้อน หลักการเหมือนพวกพัดลม ที่เราเห็นๆกันในชีวิตประจำวัน อีกแบบ มอเตอร์จะแช่อยู่ในถังน้ำมันหล่อเย็น (oil bath) แบบนี้ราคาจะสูงกว่า เพราะระบายความร้อนได้ดีกว่า
หลังจากนี้ก็ต้องชั่งน้ำหนัก งบประมาณการลงทุน รูปแบบการใช้เองว่า เราจะเหมาะกับแบบไหนครับ
หมายเหตุ : ผู้ขายที่ผมตัดสินใจซื้อ เขาแนะนำให้ผมปรับปรุงล้อ และรางก่อนเป็นอันดับแรกก่อนเลือกซื้อ ผมจึงตัดสินใจทุบปูนปรับพื้นรางใหม่ เพราะรางเดิม มันแอ่น และเป็นสนิม ตัดสินใจเปลี่ยนเป็นรางสแตนเลส เลย กะว่าลงทุนระยะยาว
ส่วนลูกล้อ ผมเปลี่ยนเป็นลูกล้อขนาดใหญ่ขึ้น จาก 3 เป็น 4 นิ้ว และเลือกเป็น สแตนเลส ใช้ตลับลูกปืนอย่างดี มีฝาปิดกันฝุ่นทรายเข้า (ลูกปืนประตูบ้านโครงการมัก ให้เป็นลูกล้อเหล็กถูกๆ ขนาดเล็ก ลูกปืนมักตายและฝืดหลังจากผ่านฝนไปสัก 2-3 ปี)
ติดตั้งไปแล้ว 3 เดือน แต่ยังไม่ได้ใช้ เพราะบ้านยังไม่ได้เข้าอยู่ รอดูกันไป
จากคุณ |
:
yayayo
|
เขียนเมื่อ |
:
27 มี.ค. 54 08:27:42
|
|
|
|
|