ความคิดเห็นที่ 1 มาปูเสื่อรอดูอยู่นะ จากคุณ : วัช (huh) เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 54 22:28:26

ความคิดเห็นที่ 2 เห็นด้วยครับเป็นผู้ใหญ่นี่มันเหนื่อยจิงๆ จากคุณ : ปอนด์ (chelsea-pond) เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 54 22:33:34

ความคิดเห็นที่ 3 สำหรับเด็กๆที่เพิ่งเริ่มต้นการทำงานทุกๆคน "บัตรกดเงินสด" เป็นสิ่งที่ล่อตา ล่อใจมากกกก  ได้มีแค่นี้ก็ถือว่าไฮโซ ดีมากมายเเล้ว ในประมาณ 5-6 ปีที่แล้วนะคะ เมื่อถึงเวลาเงินเดือนสามารถทำบัตรเงินสดได้ พี่คนที่เป็นนายหน้าที่ทำงานก็มาชวนเราทำ ด้วยความที่เป็นเด็ก เค้าให้ส่งเอกสารอะไรก็ส่งไป สรุป เราผ่านหมด - บัตรกดเงินสด 2 ใบ วงเงินสามหมื่นบาททั้งหมด - สินเชื่อเงินสดอีกสามหมื่นบาท - อีกที่หนึ่งหมื่นบาท ซึ่งแน่ๆ ถ้าเราใช้มันหมด เราจะจ่ายขั้นต่ำยังงัย กับเงินเดือนแค่ "หมื่นเดียว" ....... แต่เราไม่คิด !!!! จากคุณ : ชานมเย็น เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 54 22:34:47

ความคิดเห็นที่ 4 เรายังจำความรู้สึกตอนนั้นได้เลยว่าคิดยังงัย .....ด้วยความที่เราเงินเดือนน้อย ได้เงินแค่นี้ไม่พอเรื่อง กิน ซื้อของ ไม่พอหรอก นี่ยังไม่ได้ทดแทนบุญคุณพ่อเเม่เลยนะ พอมีบัตรพวกนี้มา เราก็ตื่นตาตื่นใจ ได้ซื้อของที่เราอยากได้ ซื้อๆๆๆๆๆ ตอนนั้นยังไม่รู้จักของแบรด์เนมด้วยซ้ำ แต่ซื้อไปได้ยังงัย เมื่อเดือนที่ 1 ไม่พอจ่ายค่าบัตร ก็จ่ายขั้นต่ำไป เมื่อจ่ายต่ำไป เงินเดือนไม่พอใช้แล้ว ก็กดมาอีก อยากได้อะไรก็กดมาอีก ......มัน วน วน วน อยู่อย่างนี้้ เงินไม่เคยพอใช้เลย จากคุณ : ชานมเย็น เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 54 22:40:41

ความคิดเห็นที่ 5 เราจ่ายขั้นต่ำอยู่เรื่อย จนไม่ขั้นต่ำ คือจ่ายเท่าที่มี มันน้อยกว่าขั้นต่ำอีก จน.....ไม่จ่ายเลย ที่นี้แหละ เจ้าหนี้ทั้งหลายทั้งแหล่ โทรมาทวงกันให้วุ่นวาย จนต้องเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ไปหลายเบอร์ บอกได้เลย ตอนนั้นเราเครียดนะ คือโทรมาหาเราไม่เท่าไหร่ โทรเข้าบ้าน  ส่งจดหมายเข้าบ้าน ที่บ้านเราเครียดเลย....... ขอบอกนิดนึงว่าตอนนี้เราก็ไม่ห้ามรุ่นน้องๆเราที่เค้ามีบัตรพวกนี้นะคะ เค้าอยากได้อะไรซื้อไป แต่เราจะเตือนเค้าอยู่เสมอว่า อย่าเป็นแบบพี่นะ "มันเหนื่อย"..... มาต่อๆๆๆ สุดท้าย พ่อเรากัดเราจ่ายเจ้านึงไปสามหมื่นเต็มๆ ซึ่งตอนหลังเรามาศึกษาพวกกระทู้ปลดหนี้ คือเราไม่จำเป็นต้องจ่ายเต็มก็ได้ คือขอประนอมหนี้เอา ได้แต่เสียดาย แต่ทำงัยได้ เอาเงินเค้ามานี่น่า... แต่บัตรที่เหลือหล่ะ .....เราไม่สนใจ ก็ยังคงไม่ใช้ต่อไป เวลาผ่านไป 2 ปี ก็มีจดหมายตามมาเรื่อยๆ จะดอกเท่าไหร่ ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ใช้เงินเดือนที่เรามี...........แต่ เราไม่สามารถทำธุรกรรมอะไรได้เลย อาจจะเป็นเพราะตอนนั้นเรายังไม่คิดเรื่องบ้าน เรื่องรถ ไม่คิดเรื่องอะไรใหญ่ๆ เรายังสนุกกับการใช้ชีวิตประจำวัน กินเที่ยว ช๊อปปิ้งตามประสาไป จากคุณ : ชานมเย็น เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 54 22:52:50

ความคิดเห็นที่ 6 ว๊าาาา ม่ะค่อยมีคนเลย ม่ะเป็นไรๆๆๆ อยากให้อ่านเป็นข้อคิดกัน เดี๋ยวมาต่อๆๆๆ จากคุณ : ชานมเย็น เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 54 23:26:18

ความคิดเห็นที่ 7 นึกว่ายังลงไม่เสร็จนะคะ  ก็เลยไม่กล้าขัด แต่ก็........รออ่านอยู่นะคะ ^^ จากคุณ : สาวกุมภ์ เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 54 23:33:19

ความคิดเห็นที่ 8 รออ่านอยู่คะ เคยจ่ายขั้นต่ำมาก่อนเหมือนกัน เหนื่อยจริง ๆ จากคุณ : กุ้ง (Wichie) เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 54 23:36:03

ความคิดเห็นที่ 9 เวลาผ่านไป 3ปี ตอนนั้นเราย้ายจากบ้านมาอยู่หอพักแล้ว เหตุผล อยากอิสระ (หาเรื่องชัดๆ) ขอเงินที่บ้านก็ไม่ได้ อยากออกมาอยู่ข้างนอกเอง ยังมีหน้าไปขอเงินที่บ้านอีกเรอะ  ตอนนั้นเราไม่สามารถซื้ออะไรเป็นก้อนได้เลย อยากได้รถ เงินเดือนพอที่จะผ่อนได้อย่างสบายๆเลย  เพราะเรามีรายชื่อในเครดิตบูโร อย่างยาวเลยแหละ แล้วประวัติไม่ดีท้างน้านนนนน  เฮ้อออ เหมือนตัวเองเป็นอาชญากรยังงัยไม่รู้ ในที่สุดวันนึงเราก็คิดได้  เฮ้ย เช่าห้องอยู่ไปอย่างนี้ เดือนละ 5000 ของก็ไม่ได้กลับมาเป็นของเราเลย เสียตังไปเปล่าๆมั้ยเนี่ย   แต่แล้วจะทำยังงัยกับบัตรทั้งหลายทั้งแหล่ เราติดหนี้เค้าไว้ จ่ายขั้นต่ำทุกเดือนเค้าก็ไม่ให้แล้ว เพราะสถานะเป็นปิดบัญชีไปแล้ว แต่ต้องมีการตามหนี้กันต่อไป  ต้องจ่ายเป็นก้อนเท่านั้น ........ แล้วจะทำงัยหล่ะ ต้องหาเงินก้อนมาปิดยังงัย ????  กู้สถาบันการเงินไหนก็ไม่ได้ ประวัติไม่ดี เครียดเลย โตแล้ว ตอนนั้นทำงานมาจะ 5  ปีแล้ว ยังไม่มีอะไรเป็นของตัวเองเลย  แค่บัตรเครดิตใบเดียว ซึ่งเงินเดือนตอนนี้เราเกิน เกินลิตมิตที่ฐานกำหนดไว้เยอะแล้ว แต่เราก็ทำไม่ได้ เพราะเครดิตเราเสียไปแล้ว แต่พูดได้เลยว่า ในความโชคร้าย (ที่เกิดจากการกระทำของเราเอง) เรายังมีความโชคดีอยู่ เราคุยกับเพื่อนคนนึง เพื่อนจริงๆ นั่งทำงานข้างๆกันนี่แหละ  ซึ่งเค้าก็ไม่ได้มีเงินมากมาย แต่เค้ามีบัตรกดเงินสด บัตรเครดิต เค้ากดให้เรา เพื่อเอาไปใช้หนี้ กดเป็นก้อนเลย แต่เราต้องใช้ทุกเดือน อย่าให้เค้าประวัติเสีย ถ้าเค้าไว้ใจเราขนาดนี้แล้ว เราก็ต้องไม่ทำให้เค้าผิดหวัง .......ตอนนี้เราติดต่อสถาบันการเงินต่างๆ ขอประนอมหนี้  รวมๆทุกสถาบันเป็นเงินเท่าไหร่จำไม่ได้ แต่เยอะอยู่ เพื่อนเรากดให้มาใช้หมดเลย .....ซึ้งม่ะ เส้นทางมักไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป เมื่อจ่ายหนี้เค้าหมดแล้ว ประวัติหละ ในบูโรหล่ะ ยังแดงเทือก เป็นการจ่ายล่าช้าบ้าง ไม่จ่ายบ้าง จะไปกู้เงินที่ไหนมาซื้อบ้าน ใครเค้าจะให้ล๊า   เฮ้อออออ ........กว่าบูโรจะไม่มีชื่อ จะใสสะอาด อีกกี่ปีหล่ะเนี่ย โอ๊ยยยยย อยากจะร้องไห้   ระหว่างนั้นก็หาสถานที่ที่จะซื้อไปก่อน ศึกษาดอกเบี้ย  ราคา สถานที่ แล้วที่สำคัญ คือ เก็บเงินดาวน์ งิงิ  เงินก้อนกับเราเป็นอะไรที่มันไม่คู่กันเลยซะจริงๆ เพราะเราเก็บตังเป็นก้อนไม่ค่อยอยู่ซะด้วยสิ......เหอ เหอ เรื่องปลดหนี้เราก็จบด้วยประการล่ะชะนี้แล่ เราแค่อยากเตือน เผื่อ น้องๆเพื่อนๆที่เข้ามาอ่าน อาจจะยังไม่ได้ถลำลึกเข้าสู่วงจรพวกเงินอนาคต ให้ยั้งๆพลั้งมือบ้าง เอาแค่พอกำลังตัว  เราว่ามีไว้มันก็ดี เผื่อฉุกเฉิก แต่ถ้ามีแล้วใช้อย่างไม่คิดมันก็หายนะได้เหมือนกัน เราโชคดีที่ยังมีคนดีๆเข้ามาช่วย แต่ถ้าเราไม่มีหล่ะ เราก็คงยังไม่มีบ้านหลังแรก ด้วยการกระทำที่ไม่คิดของเราเอง จากคุณ : ชานมเย็น เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 54 23:43:06

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณเพื่อนๆคะ ทีมาให้กำลังใจกัน ตืนนี้นอนหลับฝันดีคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อ เรื่องการหาคอนโด ทำเล สิ่งที่ควรรู้ อะไรซักอย่างแหละ ขอไปนึกก่อนนะคะ ไว้เจอกันภาคต่อไปคะ ..^ ^ จากคุณ : ชานมเย็น เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 54 23:44:55

ความคิดเห็นที่ 11 เอ๋า  ฮา   นึกว่าจะได้ดูคอนโด  เราเคยมีบัตรเครดิตหลายใบค่ะ เป็น 10 ใบได้ เกือบทุกแบงค์ แต่ไม่เคยใช้เลย ทำเอาของแถม ฮิฮิ  ตอนนี้ยกเลิกเกือบหมดละ เหลือที่ใช้ประจำอยู่ 2 ใบ ไม่เคยจ่ายล่าช้า แล้วก็จะมีลิมิตตัวเองว่า แต่ละเดือนจะใช้แค่ไหนค่ะ ถ้าจำเป็นต้องใช้เยอะๆ(สะสมแต้ม) ก็จะต้องมีเงินสำรองไว้จ่ายให้พอค่ะ  เวลามีคนมาเสนอบัตรกดเงินสดให้ เราก็จะบอกว่า ไม่ทำค่ะ  เพราะว่า รวยมาก มีเงินใช้เหลือเฟือ ไม่จำเป็นต้องใช้บัตรกดเงินสด  ฮา   โม้ๆไป เค้าจะได้ไม่โทรมากวนอีก   ด้วยความที่เราตัวคนเดียว  ถ้าเราทำให้ตัวเองลำบาก ก็ไม่มีใครช่วยเราได้ค่ะ เราก็เลยต้องมีวินัยทางการเงินให้ตัวเองมากๆ    ^^ รอดูคอนโดอยู่นะคะ   ^^ จากคุณ : ShiNyShadoWy เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 00:18:48

ความคิดเห็นที่ 12 อ่านอยู่อ่านอยู่ครับ               พอดีช่วงนี้หมอดูทักห้ามแสดงคห.เยอะ(โดยเฉพาะห้องนี้)  เดี๋ยวขัดตาคนอื่นอิอิ จากคุณ : Xbreeder เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 02:38:28

ความคิดเห็นที่ 13 รออ่านเรื่องคอนโดนะคะ เก็บข้อมูลๆๆ จากคุณ : cat_on_a_hot_tin_roof_ เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 03:07:41

ความคิดเห็นที่ 14 โอ้โห  เพื่อนของคุณใจดีมาก  เสนอตัวกดเงินจ่ายเงินสดให้ จากคุณ : สาวกุมภ์ เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 09:01:21

ความคิดเห็นที่ 15 ติดตามด้วยคนค่ะ จากคุณ : tomoyasukun (Tomoyasukun) เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 09:16:17

ความคิดเห็นที่ 16 ตอนนั้นเป็นเพื่อน ตอนนี้เป็นแฟนหรือเปล่า ล้อเล่นนะครับ เพื่อนคนนั้นใจมากๆ และก็อย่าใช้เงินเกินตัว คิดถึงอนาคตไว้ครับ จากคุณ : ptboy เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 09:17:45

ความคิดเห็นที่ 17 ชีวิตเกือบจะคล้ายๆ กัน...แต่ไม่มีเพื่อนที่แสนดีเหมือน จขกท. น่าอิจฉาจัง ดูแลเพื่อนคนนี้ให้ดีๆ นะคะ... จากคุณ : หมูกระเทียมไข่เจียว เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 10:37:31

ความคิดเห็นที่ 18 วินัยทางการเงินเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าคิดว่าไม่มีวินัยในเรื่องนี้ ห้ามมีบัตรเครดิตเด็ดขาด หลายปีก่อน ผู้ว่าการแบงค์ชาติก็เคยออกมาเตือนเรื่องนี้กับมนุษย์เงินเดือน ว่าให้ระวังเรื่องการใช้บัตร เพราะจุดประสงค์ของธนาคารคือ ต้องการให้คนกดเสร็จแล้วจ่ายไม่ไหว ธนาคารก็กินดอกกันสนุกเลย ซึ่งกลุ่มคนแบบนี้มีเกิน 60% ซึ่งหลายปีก่อนผมเป็นคนหนึ่งที่ทำบัตรเครดิตอะไรก็ไม่ผ่านเลย สาเหตุเพราะ ทุกครั้งที่สมัครบัตร ผมจะระบุเลยว่าจ่ายโดยตัดบัญชีเงินฝากเต็มจำนวน  สรุปคือ ผมไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของเค้า เค้าจึงไม่ออกบัตรให้ และไม่มีการติดต่อกลับไม่ว่าจะทางโทรศัพท์หรือจดหมายใดๆเลยว่าผมไม่ผ่านเพราะอะไร จากคุณ : ซาตานกลับใจ เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 12:06:32

ความคิดเห็นที่ 19 แต่ตรงข้ามกับเรานิดนึงคะ ตอนนี้มีแค่บัตรเครดิตใบเดียว จ่ายเต็มจำนวนทุกครั้ง(แบงค์ไม่เคยได้ดอกจากเราเลยอ้ะ) ใช้มา 2-3 ปีแล้ว อยู่ดีๆ แบงค์เพิ่มวงเงินให้สองเท่าเฉยเลย ไม่ได้ร้องขอเลยคะ แถมได้ยินว่าแบงค์นี้ เพิ่มวงเงินค่อนข้างยาก และต้องยื่นเอกสารเหมือนขอใหม่ทุกครั้ง ถ้าอยากเพิ่มวงเงิน เลยงงเล็กน้อยว่า เราก็ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย แต่ทำไมเพิ่มวงเงินให้...แปลก จากคุณ : Wed11Nov07 เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 13:51:33

ความคิดเห็นที่ 20 @ ขอบคุณทุกๆคนคะ ตอนนี้ใช้เงินสดมาจนชินแระ อยากได้อะไรก็เงินสด ทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เรื่องคอนโด เดี๋ยวมารีวิวต่อคะ @ คุณ ptboy เพื่อนคนนี้คือเพื่อนจริงๆคะ ตอนนี้ก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่คะ ^^ จากคุณ : ชานมเย็น เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 14:47:58

ความคิดเห็นที่ 21 การเลือกซื้อคอนโด หลายๆคนถ้ามีกำลังมากพอคงคิดจะซื้อบ้าน เราเป็นคนนึงที่อยากได้บ้าน เพราะก่อนที่จะออกมาอยู่คนเดียว เราอยู่บ้านจนชิน มันมีพื้นที่สำหรับทำอะไรๆได้เยอะแยะ มีที่ปลูกต้นไม้ แต่ถ้าด้วยทำเลใจกลางเมือง หรือบริเวณที่เราต้องการ และเงินที่มีจำกัด มันคงได้แค่ห้องเล้กๆห้องนึงเท่านั้นเอง เราไม่ได้คำนึงว่ามันจะต้องใกล้รถไฟฟ้าเพื่อจะประหยัด (แต่ถ้าได้ก็ดี) เราคำนึง 1.ราคา 2.ความชอบ 3.เดินทางสะดวกไม่ต้องถึงกับสบายมาก แต่ก็ไม่ใช่ซะว่าจะลำบากเกิ๊น  ตอนแรกเราตั้งราคาไว้ 1.5 ล้าน ซึ่งก็ไปได้ที่ที่นึงแถวๆเกตร-นวมินทร์  แต่พอไปดูอีกที่นึง มันดันแพงกว่า แต่สังคมหรือสิ่งบริเวณรอบๆมันโอเคกว่า และที่สำคัญมันสวยกว่า เราเลยตกลงใจที่ตรงนี้ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เรามองข้ามมันไปเลย ด้วยเหตุผลที่ว่ามันแพง . การดูของเราจะเป็นการดูจากการรีวิวตามเวบที่รวบรวมคอนโด และในพันทิพนี่แหละคะ ว่าที่ไหนเป็นอะไรยังงัย แต่ถ้าใครจะซื้อหรือเล็งที่ไหนไว้แล้ว เมื่อเค้าเปิดการขาย แนะนำให้รีบเลย เพราะถ้าช้า ราคามันจะแพงกว่าเดิมขึ้นเยอะเลย แล้วก็ได้ห้องทำเลที่เราเลือกได้ไม่มากด้วย  อย่างเราไปเจอเพื่อนบ้านคนนึง เค้าซื้อก่อนเรา ห้องขนาดเท่ากัน เค้าซื้อถูกกว่าแสนนึง แถมเค้าได้ทองบาทนึงด้วย   กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด แต่เราแพงแล้วยังไม่ได้ทองเลย  ........ส่วนเรื่องเลขที่บ้าน ต้องมาลุ้นกันว่าใครจะได้เลขเฮงไม่เฮง ชงกันป่าว ต้องไปหาวิธีแก้ชงกันต่อปายยย เมื่อตกลงใจจะซื้อแล้วขั้นตอนแรกเลย เตรียมเงินค่าจอง ซึ่งบางที่ก็ 5000 บางที่ 10000 แตกต่างกันไป และอีก 7 วัน ไปทำสัญญาจะซื้อจะขาย ต้องเสียเงินที่เราต้องจองไว้อีกประมาณ 50000 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้จะถูกหักออกหักจากที่เรากู้ได้หรือจะซื้อแล้วนั่นเอง จากนั้นก็รออออออออ รอสร้างกันไป ในระหว่างรอกำหนดเสร็จ คอนโดทุกทีจะต้องให้ลูกค้าผ่อนต่อเดือนไปก่อน ซึ่งเรียกว่า “ผ่อนดาวน์” ของเราตอนที่โทรไปถามตอนแรก ทางคอนโดให้ผ่อนเดือนละสองหมื่นกว่าๆ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้เราไม่เลือกที่นี่ในตอนแรก เพราะเราว่ามันเยอะไป.  จนเราตัดสินใจว่าจะซื้อที่นี่   ก่อนจอง เราโทรต่อรองกับเซลล์เลยว่า ขอลดค่าผ่อนดาวน์ต่อเดือนได้มั้ย เราไหวเท่านี้ๆๆๆ  ตรงนี้บอกได้เลยว่าเพื่อนๆที่จะซื้อคอนโดแล้วกลัวเรื่องการกำหนดการผ่อนดาวน์ต่อเดือนไว้สูง แต่อยากได้ที่นี่ ก็ให้ต่อรองกับเซลล์ได้เลย ต่อไปเลย เค้าอยากขาย เค้าให้อยู่แล้ว ถ้ามันไม่ต่ำจนน่าเกลียด  แล้วเซลล์จะทำท่าว่าต้องปรึกษาหัวหน้าก่อน และอีกครึ่งชั่วโมงก็จะโทรมาบอกเราว่าสามารถให้ได้คะ  แล้วคุณ....จะมาจองวันไหนคะ บลา บลา บลา ที่นี่รอกำหนดเสร็จ เรื่องการสร้างคอนโดเสร็จตามกำหนด  ไม่ได้มาตราฐานก็เป็นอีกปัญหานึงของคอนโดทุกที่ อ่อ......ตอนนั้นเราปลดหนี้หมดแล้ว ถ้าคอนโดสำเร็จตอนนั้น เราก็ต้องมาลุ้นว่าเราจะกู้ผ่านมั้ย เพราะบูโรเพิ่งสะอาดมาดๆ แต่เรามีสวัสดิการของบริษัทอยู่ ก็อุ่นใจไประดับนึง แต่ก็อย่าวางใจไปคะ แต่พอดีคอนโดที่เราซื้อกว่าจะเสร็จก็อีกปีนึง ในระหว่างนี้ถ้าหากมีสถาบันการเงินใดมาเสนอเงินก้อนให้ ปฏิเสธไปเลยคะ ต้องรักษาเครดิตเราให้ดีที่สุด จากคุณ : ชานมเย็น เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 15:24:13

ความคิดเห็นที่ 22 คอนโดเรากำหนดเสร็จสิ้นเดือน ธ.ค 53 แต่ แต่ ดูท่าแล้วจนแล้วจนรอดก็ไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จเลย เราก็รออย่างมีความหวังต่อมาเรื่อยๆ จนปลาย ก.พ เราไม่รอการโทรมาของเซลล์แล้ว ไม่รอที่เซลล์จะมาตามไปตรวจรับห้อง เราโทรไปเองเลย บอกต้องการดูความคืบหน้าของห้อง ขอบอกคติประจำใจเรา "เราต้องเป็นผู้นำ อย่าให้เค้า(คอนโด) มานำเรา" อิอิ เมื่อเข้าไปดูความคืบหน้าเเล้วเราก็ประเมินด้วยตาว่าอีกนานแค่ไหนกว่าจะเสร็จ และรอการเข้าไปตรวจอีกรอบ ซึ่งการประเมินด้วยตาของเราคืออีกสองอาทิตย์ คอนโดไม่เสร็จตามกำหนดต้องมีเรื่องฟ้องร้องแน่นอน เพราะตามสัญญาแล้วทางคอนโดจะต้องเสียค่าล่าช้าวันละ 0.01 ของค่าห้องของเรา แต่ก็ต้องตามจนเหนื่อย ถึงจะได้ แต่จะได้ไม่ได้อีกเรื่อง เพราะเห็นหลายๆที่ หลายๆคนก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง .......จนเราทำใจ แต่เราก็ยังไม่ได้เรียกร้องอะไรอยู่ดี ขอคิดก่อน ขอเห็นห้องเราเสร็จก่อน และอีกสองอาทิตย์เราก็เข้าไปตรวจอีกครั้ง จากคุณ : ชานมเย็น เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 15:43:23

ความคิดเห็นที่ 23 เมื่อเห็นว่าห้องสมควรที่จะตรวจดีเฟคได้แล้ว เราก็เริ่มหาข้อมูลจากในพันทิพเนี่ยแหละ หลายๆคนเตรียมพร้อมอาวุธพร้อม เราก็เตรียมเหมือนกัน สิ่งที่เราเตรียม 1.ตลับเมตร เอาไว้วัดขนาดห้องเพื่อนำไปทำเฟอร์ 2.ปากกา่เมจิก 3.กระดาษโน็ตแบบแปะได้ 4.กล้อง เอาไว้ถ่ายรูปห้องของเรา จุดไหนยังงัยจะได้ไม่ลืม 5.สายตาอันแหลมคม และช่างสังเกต เพราะถ้าเราพลาด เราจะพลาดอีกนานเลย แต่ แต่เราไม่ได้เตรียมถังน้ำกับลูกแก้วไว้สำหรับกลิ้งพื้นนะคะ อารมณ์ว่าเยอะแล้ว ขี้เกียจ แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 54 21:27:06 จากคุณ : ชานมเย็น เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 15:51:22

ความคิดเห็นที่ 24 ปาดขวา จากคุณ : artsmart เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 17:09:24

ความคิดเห็นที่ 25 ผมเลือกที่จะเป็นผู้ใหญ่แน่นอน ผู้ใหญ่ต้ดสินใจด้วยตัวเองได้ มีอิสระในทุกด้าน งานยากขนาดไหนผมว่าง่ายกว่าเรียนหนังสือไม่รู้กี่เท่า ไม่เห็นด้วยก็แย้งได้ตลอด ถามได้ ตรงข้ามกับเด็กบ้านเรา เป็นเด็กสมัยผมคิดอะไรมากไม่ได้ และผู้ใหญ่ก็สื่อสารกับเด็กไม่เก่งว่าทำไมต้องอย่างนั้น อย่างนี้ เด็กสมัยนี้อิสระมาก แค่ความคาดหวังสูงมาก กดดันมาก ไม่อยากเป็นเด็กเหมือนกันแหละ เห็นลูกตัวเองเรียนหนังสือ หรือความอยากของผู้ใหญ่ที่ถาโถมเข้ามา เพื่อเติมเต็มสิ่งที่พวกเขาไม่มี ไม่เคยมี บ่อยครั้งที่สงสาร บอกลูกว่า "ถ้าไม่ชอบชีวิตอย่างที่เป็น ไม่เป็นไร ขอให้พยายาม ทำได้ไม่ได้มาดูกันอีกที อยากให้เด็กมีชีวิตที่สุขกว่านี้"   คนที่อายุยังน้อย ชีวิตยังต้องเจอสุข และทุกข์อีกมากมหาศาลครับ   ดีใจกับ "บ้าน" หลังแรก และหลังต่อๆไป จากคุณ : Double07 เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 19:02:41

ความคิดเห็นที่ 26 เนื้อหาได้ความรู้ดีมาก ๆ เลยค่ะ จากคุณ : รวมกันตายหมู่ เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 19:17:54

ความคิดเห็นที่ 27 ผมเคยทำงานในองค์กรที่มีความน่าเชื่อถือสูงมาก เงินเดือนสูงด้วย อยากมีบัตรใบไหน ทำได้ทุกบัตร อยากได้อะไร ผ่อนได้ทุกอย่าง รายชื่ออยู่ในท๊อปลิสต์ของเซลบัตรเครดิตเลย ทุกครั้งที่มีบัตรเครดิตออกใหม่หรือวงเงินสินเชื่อแบบใหม่ต้องได้รับการติดต่อ ผลก็คือตอนนั้นซื้อบ้าน 3 หลัง (บ้านเดี่ยว,ทาวเฮาสน์,คอนโด) ที่ดินอีก 1 แปลง ซื้อรถ 3 คันราคาล้านอัพ เงินเดือนแสนกว่าแต่รายจ่ายเงินผ่อนประมาณ 8 หมื่น ระยะเวลา 25 ปี หาเงินได้เท่าไหร่ต้องเอาไปใช้หนี้เกือบหมดเหนื่อยมากแทบมองไม่เห็นอนาคต ตอนนั้นเลยฉุกคิดว่าจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร แต่พวกบัตรเครดิต,บัตรเงินสดนี่แทบไม่เคยใช้เลย ใช้สำหรับจ่ายเล็กๆน้อยๆแต่จ่ายคืนเต็มยอดตลอด แบงค์ไม่เคยได้กินดอกเบี้ยผม บัตรไหนคิดค่าธรรมเนียมรายปีโทรไปยกเลิกทันที บัตรเงินสดบางใบไม่เคยใช้จนจำรหัสไม่ได้ แต่ต้องมีเก็บไว้เผื่อเหตุฉุกเฉิน สุดท้ายครับวางแผนปลดหนี้ ใช้เวลา 5 ปีปิดทุกบัญชีเงินกู้ ทั้งบ้าน ทาวเฮาสน์ คอนโด ที่ดิน รถยนต์ อันไหนไม่จำเป็นก็ขายทิ้ง ได้เห็นโฉนดที่ดินและทะเบียนรถของตัวเองแล้วทุกฉบับ พยายามยึดแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงมีเท่าไหร่ใช้เท่านั้น ทุกวันนี้ผมก็มีชีวิตมีทรัพย์สินเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่ไม่มีหนี้อีกแล้ว หาเงินได้เท่าไหร่ก็เป็นของตัวเองทั้งหมดไม่ใช่เอาไว้ใช้หนี้ส่งแบงค์ บัตรเครดิต บัตรเงินสดเหลืออย่างละ 3-4 ใบสำหรับยามจำเป็นจริงๆ  พยายามทำตัวเป็นคนที่ไม่มีเครดิต ซื้ออะไรใช้เงินสดตลอด รู้สึกสบายๆไม่เครียดไม่เหนื่อย ความรู้สึกของการไม่เป็นหนี้นี่มันดีจริงๆครับ แต่จะซื้อทรัพย์สินใหม่น้อยลงคิดเยอะขึ้นเพราะต้องหมุนเงินและต้องซื้อด้วยเงินสดเท่านั้น ที่เล่ามาคืออยากจะบอกหลายๆคนที่กู้เงินธนาคารมาซื้อบ้านว่า เป็นหนี้ซื้อบ้านถือว่าเป็นหนี้ที่ดีครับแต่ว่าบ้านก็ยังไม่ได้เป็นของคุณเพราะคุณกำลังหาเงินเลี้ยงธนาคารอยู่เมื่อคุณหยุดส่งเงินธนาคารๆก็จะสามารถมายึดบ้านของคุณไปได้  ถ้าเป็นไปได้อยากให้ทุกคนตั้งเป้าหมายต่อไปว่าจะปลดหนี้นี้ให้ได้เร็วที่สุด ทุกอย่างเป็นไปได้ถ้าคุณวางแผนดีๆและใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ครับ แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 54 19:43:52 จากคุณ : babyonboard เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 19:39:56

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณทุกๆคนคะที่เข้ามาแชร์ประสบการณ์ มีบัตรมันก็ดีเนอะ เผื่อฉุกเฉิน แต่ถ้ามีเเล้วเกินตัว มีแต่หายนะ............ มาเรื่องตรวจดีเฟกกันต่อเนอะ .......ไปถึงโครงการ แจ้งล่วงหน้าแล้วว่าจะมาตรวจ จนท.โครงการพาไป แต่ จนท. เป็นเหมือนเด็ก ไม่รู้เรื่อง ถามไรก็ไม่รู้ซักอย่าง สรุปตรูไม่ถามก็ได้ฟร่ะ ไปถึง ไอ้ความรู้ที่หามาลืมหม๊ดดดดด ใช้สัญชาตญาณล้วนๆ แอ๊ดดดดด (เสียงประตูเหมือนเก่านะเนี่ย อิอิ) สิ่งแรกที่มองเข้าไปเห็น เมื่อแสงส่องกระทบพื้นห้อง พื้นลามิเนตเห็นได้อย่างชัดเจน "มันโปร่ง".......รับไม่ได้รุนแรง (ถ่ายรูปมาคะเห็นไม่ค่อยชัด ไม่ลงดีกว่า)  เรียกคุณน้อง จนท. น้องคะตรงนี้คะ โปร่ง จดๆๆๆไป เราก็ควักปากกาเขียนแปะลงไปเลย คือเราไปตรวจกันสองคนคะ อีกคนก็ดู คุณน้องจดมือแทบหงิก ข้อสำคัญ !!!! ของการตรวจดีเฟค ให้เค้าจดให้ละเอียดคะ ว่าต้องแก้ตรงไหน เพราะไม่งั้นมันจะมีปัญหา ความล่าช้าตามมา เดี๋ยวมาติดตามต่อไปคะ สรุปการตรวจดีเฟคของเราครั้งนี้ เอาแบบคร่าวๆนะคะ 1.พื้นโปร่ง และมียุบตัวตรงห้องนอน 2.ผนังเอาเหรียญเคาะแล้วโปร่ง หลายๆพื้นที่ของห้อง 3.ปล๊กไฟเอียง ปลั๊กยุบ 4.คานไม่เท่ากัน มันเป็นคลื่นๆ 5.เก็บสีไม่เรียบร้อย 6.ประตูห้องนอนที่เป็นบานเลื่อนปิดไม่สนิท 7.ลิ้นชักเฟอร์ปิดสนิทไม่เสมอกัน :P เล็กๆน้อยก็เอา เหอะ เหอะ 8.เก็บสีไม่เรียบร้อย ความจริงมันมีหลายข้อกว่านี้คะ แต่ที่มันหลายข้อเพราะมันเเยกออกมาเป็นห้องๆ อันนี้เรารวบมาไว้ที่เดียวหมดเลย โดยรวมเราถือว่าโอเคนะคะ เพราะมันไม่ได้มากมายจนรับไม่ได้ แต่มันก็ต้องแก้แหละ จากคุณ : ชานมเย็น เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 21:05:17

ความคิดเห็นที่ 29 . จากคุณ : ชานมเย็น เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 21:05:44

ความคิดเห็นที่ 30 .. จากคุณ : ชานมเย็น เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 21:07:01

ความคิดเห็นที่ 31 ... จากคุณ : ชานมเย็น เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 21:07:31

ความคิดเห็นที่ 32 ... จากคุณ : ชานมเย็น เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 21:07:53

ความคิดเห็นที่ 33 ..... จากคุณ : ชานมเย็น เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 21:10:31

ความคิดเห็นที่ 34 อันนี้คือรูปคร่าวๆคะ และสุดท้ายเราถามว่าน้องคะ ต้องให้พี่เซ็นรับทราบรึป่าวคะ พี่ยังไม่รู้เลย น้องจดไรไปบ้าง อ่อ ไม่ต้องแล้วคับ ผมเซ็นให้เเล้วคับ เรา ????? งง มีงี้ด้วยหรอ เราก็เลย เออๆให้อภัย เด็กใหม่ แล้วน้องไปซีร๊อกมาให้พี่หน่อยเเล้วกัน จำได้มั้ยคะ ที่เราบอกตอนแรก "เราต้องเป็นผู้นำ" เราบอกเลย อาทิตย์หน้า "ต้องเสร็จ" อีก 1 อาทิตย์ เราจะมาตรวจใหม่  และหลังจากวันนั้น 2 วัน เราก็โทรหาเซลล์ แก้รึยังค๊า ประมาณว่าโทรถามข่าวคราว เมื่อเซลล์อึกอักๆ เราก็บอกเลย ช่วยตามให้หน่อยนะคะ วันเข้าไปวันนี้ๆ ไม่อยากเสียเวลาเปล่าๆ เซลล์ก็ คะ คะ คะ จะตามให้คะ แต่ไม่มีโทรบอกนะ เราโทรเองตล๊อด จากคุณ : ชานมเย็น เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 21:20:26

ความคิดเห็นที่ 35 ติดตามชมครับ จากคุณ : nitto เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 21:33:40

ความคิดเห็นที่ 36 ติดตามค้าา ตอนนี้หนูก็มีบัตรกดเงินสดเหมือนกันสองใบ แต่ว่าจะไปปิดใบนึงละ กลัวใช้ไม่อยากใช้ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ กดมาพันกว่าบาท ยัง- - !!โมโหตัวเองเลย จากคุณ : amides เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 21:59:09

ความคิดเห็นที่ 37 ก่อนกำหนดตรวจ 1 วัน เราจะโทรไปเฟริม์ก่อน และเมื่อเรียบร้อยเราก็เข้าไป การตรวจครั้งที่ 2 พอไปถึง หัวหน้าที่คุมการแก้งานที่ตึก เดินมาบอกว่า วันนี้ผมไม่ขึ้นไปด้วยนะคับ เดี๋ยวมีอะไรให้น้องเค้าวอลล์มาบอก ส่วนเรา ด้วยความที่หงุดหงิดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว (ก่อนมาทะเลาะกะคนมาด้วยคะ) หน้าเราไม่ออก ยิ้ม แต่แนวว่าไม่ขึ้นไปด้วยหรอคะ จำไม่ได้ว่าพูดอะไร สุดท้ายหัวหน้าคุมงานเดินตามมาด้วย หุหุ พอถึงห้อง...........อ้าวไอ้จุดสีส้มๆที่แปะไว้ยังไม่ได้แก้หรอคะ หัวหน้าคุมงาน อ่อ พอดีเห็นว่าบอกว่าผนังโปร่งแต่ผมหาไม่เจอว่าอยู่ตรงไหน ......จำได้มั้ยคะ ที่เราบอกว่า ให้จดให้ละเอียด ผนังมันทั้งแถบ เกิดจิ้มไปไม่ตรงจุด เค้าก็แก้ไม่ถูก  ที่นี่คุณชายที่ไปด้วย ผมขอดินสอคับ พี่แกก็วงเลย เขียนให้ด้วย โปร่ง ,สีด่าง ไม่รู้จะแก้ตรงไหนให้มันรู้ไปดิ เหอ เหอ แต่เรื่องอื่นๆแก้ให้หมดเเล้ว และแต่เรื่องที่เราซีเรียสคือ อีกขอบล้นชักที่มันไม่เท่ากันนี่แหละ มันขัดตา ย้ำชัดๆเลย แก้ด้วยนะคะ คับๆๆผมแก้ให้เลยคับ และเหมือนเดิม เอาให้เสร็จทันอังคารหน้านะคะ จะมาตรวจอีกครั้ง 7 วันพอดี ย้ำประมาณ 3รอบ และอีกเช่นเคย เราโทรไปตามกับหัวหน้าคุมช่างเลย ไม่สนใจเซลล์แล้ว สวยอย่างเดียว ไม่ค่อยจะรู้เรื่อง แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 54 22:04:46 จากคุณ : ชานมเย็น เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 21:59:22

ความคิดเห็นที่ 38 ง่า รออ่านนะคะ จากคุณ : Hermisy เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 54 19:45:30

ความคิดเห็นที่ 39 ขอโทษคะ วันนี้ไม่ได้มาเมาท์เลย เพราะว่าไปซื้อของเข้าห้องมา เตรียมแต่งห้องแระๆๆ ตื่นเต้นๆๆ ขอทำงานแป๊บนึงคะ เดี๋ยวมาเมาท์ๆๆ  ^^ จากคุณ : ชานมเย็น เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 54 22:04:38

ความคิดเห็นที่ 40 มาต่อเลยนะคะ ............จากการตรวจครั้งที่ 2 ผ่านไป “เกือบ” หนึ่งอาทิตย์  เอาง่ายๆ เราไปตรวจวันอังคาร  เราบอกว่า อีกหนึ่งอาทิตย์จะมาตรวจใหม่ วันศุกร์เราโทรไปถามหัวหน้าคุมงาน เค้าบอกว่ากำลังจะทำให้ครับ เฮ้ออออ โล่งใจ  แต่....การวางใจยังไม่มีสิ้นสุด วันจันทร์ โทรไปอีกทีนึงเพื่อสอบถามความแน่ใจ เซลล์บอกว่าไปได้ แก้งานให้เรียบร้อยแล้ว เราก็โอเค วันอังคาร การตรวจครั้งที่ 3 มาถึง พอไปถึงห้อง “ผมสั่งให้เค้าแก้ให้แล้วนะคับ เพิ่งแก้เมื่อวานเลย” อ้าววววว (คิดในใจ) ไหนว่าตั้งแต่ศุกร์แล้วงัยฟร่ะ นี่ถ้าตรูไม่จิก ก็ยังไม่ทำใช่มั้ย   ......เห็นมั้ยคะ ต้องตามนะคะ อย่าได้หวังว่า เค้านัดเราแล้ว แล้วเราจะไปตามนัด แล้วจได้สำเร็จอย่างที่นัด เพราะบางทีเค้าอาจจะลืม ฉะนั้นเราต้องเตือนสติเค้าคะ ย้ำมันเข้าไป  แต่เราไม่ได้เป็นพวกโวยวายน๊า เราคิดว่าถ้าเราโวยวาย ไม่มีใครชอบหรอก พูดกับเค้าดีๆดีกว่า เค้าจะเกรงใจเราและยินดีทำให้เราอย่างเต็มใจมากกว่าคะ กลับมา การตรวจห้องใหม่ คราวนี้ แก้สิ่งที่เราต้องการหมดแล้ว ^_^ ยิ้ม ขอบคุณเค้า แล้วบอกว่าช่วยเก็บสีอีกนิดนะคะ แล้วก่อนโอนจะเข้ามาดูอีกที ............ รูปยังไม่ได้เอาลงเน้อ ขอติดไว้ก่อน เพราะมันอยู่ในกล้องอ่ะคะ ยังไม่ได้เอาลงคอมเลย แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 54 22:34:29 จากคุณ : ชานมเย็น เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 54 22:23:01

ความคิดเห็นที่ 41 ใช้เวลานานไหมคะ กว่าบูโรจะสะอาด เราเหลืออีกบัตรหนึ่งที่รอเจรจาอยู่ อยากเคลียร์ชีวิตให้หมดหนี้เร็ว ๆ เหมือนกัน แต่คงต้องค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป จากคุณ : เกิดมาจากไหนสุดท้ายก็ธุลีดิน เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 54 22:42:17

ความคิดเห็นที่ 42 @ คุณเกิดมาจากไหนสุดท้ายก็ธุลีดิน เราเริ่มแิด ปลาย ก.พ 53 ปิดทั้งหมดได้ พ.ค 53 ในหว่างนั้นประมาณ 2-3 เดือน ในบูโรจะโชว์สถานะว่าเป็น ปิดบัญชีเเล้วคะ ถ้าจะกู้แล้วมีบัตรก็สามารถกู้ได้คะ แต่วงเงินอาจจะได้ลดลง เพราะเค้าต้องคำนวณภาระการจ่ายหนี้บัตรด้วย ประมาณนี้อ่ะคะ  สู้ๆนะคะ จากคุณ : ชานมเย็น เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 54 23:09:43

ความคิดเห็นที่ 43 ซึ้งเลยเรื่องหนี้บัตร ผ่านมาแล้วค่ะ หายนะจริงๆ อยากให้น้องๆ ตระหนักเรื่องนี้ให้มากๆ อย่าหลงอยู่ในวังวนอุบาทว์ของมัน ชีวิตจะเศร้ามาก และเศร้านานด้วย จากคุณ : Desiree เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 00:29:41

ความคิดเห็นที่ 44 ยินดีด้วยครับ  ความไม่มีหนี้เป็นสุขอันประเสริฐ จากคุณ : นักฆ่าดาบเดียว เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 01:11:27

ความคิดเห็นที่ 45 เห็นพื้นไม้คุ้นๆ แบบนี้โครงการของพฤกษาหรือเปล่าครับ เคยเข้าไปดูบ้านแล้วเหมือนกันเลย ถ้าไม่ใช่ขออภัยด้วยครับ จากคุณ : fa_beer เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 01:18:23

ความคิดเห็นที่ 46 ... ใช่เลยครับ เป็นผู้ใหญ่นี่มันเหนื่อยจริงๆ เป็นกำนันนี่ยิ่งเหนื่อยกว่า เป็นนายก อบต ดีกว่าไม่เหนื่อย เงินดีด้วย ฮะๆๆ ล้อเล่นนะครับ : ) การไม่มีหนี้ นี่มันประเสริฐจริงๆครับผม โดยส่วนตัวผมก็ใช้เงินสดตลอด อยู่บ้านนอกครับ เงินเดือนน้อย ไม่พอทำบัตรอะไรได้สักอย่าง มันก็ดีไปอย่างนะ ใช้เท่าที่มี ไม่ฟุ่มเฟือยครับ : ) จากคุณ : น้องลีโอป๋อง เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 10:52:57 A:118.172.109.5 X: TicketID:311500

ความคิดเห็นที่ 47 ดีใจด้วยที่เป็นไท ซะทีคะ  ขอให้บ้านแข็งแรง  มีแต่ความสุขคะ จากคุณ : ผึ้งน้อยafet เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 11:40:45

ความคิดเห็นที่ 48 ผ่านมาแล้วค่ะนรกบนดิน เป็นหนี้แบบสามีไม่รู้เพราะโรคช๊อปแหลก วงเงินเราค่อนข้างสูงด้วย  ปีแรกวินัยเยี่ยมค่ะ ปีต่อๆมาจ่ายขั้นต่ำตลอด และต่อมาเน่าค่ะ ในที่สุดต้องบอกสามี เค้าให้อภัยค่ะ ให้โอกาสเรา ใช้หนี้ให้หมดทุกบาททุกสตางค์ ตอนนี้เป็นไทมาสองปีแล้วค่ะ เลิกเด็ดขาดแล้วค่ะ เมื่อก่อนสะดุ้งทุกครั้งที่ได้รับโทรศัพท์ เดี๋ยวนี้รับได้ทุกสายแล้วค่ะสบายชิวๆ เราว่าเรื่องของคุณเยี่ยมเลยค่ะ อย่างน้อยคนที่กำลังมีปัญหาเดียวกันจะได้มีกำลังใจที่จะฝ่าฟันอุปสรรคไปได้ ยังตามดูคอนโดสวรรค์บนดินของคุณอยู่นะคะ จากคุณ : lhinggoimon เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 12:07:37

ความคิดเห็นที่ 49 ยินดีและดีใจด้วยที่ - จะมีบ้านใหม่เป็นของตัวเอง - ถอนตัวทันจากวงจรหนี้บัตรกดเงินและบัตรเครดิต - มีเพื่อนที่ดีมากอยู่ข้างตัว (รักษาไว้ดีๆ นะคะ) จากคุณ : Cordia เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 12:59:13

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณเพื่อนบ้านชายคาทุกๆคนคะ สำหรับกำลังใจ ไว้เดี๋ยวแต่งห้องเสร็จเมื่อไหร่จะเอามาอวด @ คุณfa_beer ไม่ใช่ของพฤษาคะ คอนโดเดี๋ยวนี้จะทำเป็นพื้นลามิเนตหมด เลยอาจจะคล้ายๆกันคะ จากคุณ : ชานมเย็น เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 13:13:01

ความคิดเห็นที่ 51 เอ๋ ทำไมบูโรคุณเครียร์เร็วจังคะ ปกติต้องหลังจากใช้หนีุ้ทุกอย่างเรียบร้อย แล้วต้องรออีก 3 ปีไม่ใช่เหรอคะ ทางบูโรถึงจะเปลี่ยนสถานะให้ หรือเราเข้าใจผิดมาตลอดนะเนี่ย จากคุณ : I-Luk-Moo เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 16:51:01

ความคิดเห็นที่ 52 @ คุณI-Luk-Moo   3 ปี คือหมายถึงว่าเราไม่มีชื่อในบูโร ในกรณีที่เราไม่ได้ทำบัตรอะไรเเล้ว ก็คือประชาชนธรรมดาคนนึง  แต่ในกรณีเรา คือจ่ายยอดหนีหมดแล้ว ก็คือหมายถึงว่า ได้ดำเนินการปิดยอดหนี้สมบูรณ์เเล้ว และธนาคาร เจ้าของบัตรจะส่งเรื่องไปยังบูโร ในใบก็ยังมีชื่ออยู่คะ แต่ว่าสถานะเป็น มีการปิดยอดหนี้เเล้ว ที่นี่ก็ต้องอยู่กับธนาคารที่เราจะกู้คะ ว่าเค้าจะให้เราผ่านหรือเปล่่่า   งง มั้ยเอ่ย แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 54 17:04:42 จากคุณ : ชานมเย็น เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 17:00:18

ความคิดเห็นที่ 53 ยินดีด้วยนะคะกับบ้านใหม่ กำลัง(พยายามที่)จะมีบ้านใหม่เหมือนกันค่ะ อิอิอิ จากคุณ : พร 3 ประการ เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 17:25:34

ความคิดเห็นที่ 54 ยินดีด้วยนะจ๊ะน้องสาว Home Sweet Home นะ จากคุณ : Dum_Dum ต้มยำรสกุ้ง เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 21:45:47

ความคิดเห็นที่ 55 ใช้อย่างพอดีไม่เกินตัวครับ ดีที่สุดแล้ว ที่บ้านผมมีบัตรเครดิตแค่สองใบ ของผม 1 ใบ และของน้องชายอีก 1 ใบ วงเงิน 80,000 บาท ผมใช้ไปแค่ 3-4 เดือน ธนาคารส่งบัตรอีกใบมาให้ วงเงิน 200,000 บาท แต่ผมไม่ใช้ เพราะปรกติใช้ไม่ถึงวงเงินอยู่แล้ว และสงสารร้านค้าที่รับบัตรเราด้วย เพราะยิ่งเราใช้บัตรวงเงินเยอะเท่าไหร่ ร้านค้าจะโดน charge เยอะขึ้น แต่จะมีกฎที่รู้กันคือ ใช้เท่าไหร่ จ่ายเท่านั้น ห้ามขั้นต่ำเด็ดขาด และหากกู้ จะต้องมีเงินสดสำรองมากกว่าจำนวนเงินกู้ เพื่อความคล่องตัวทางการเงิน จากคุณ : หล่ออย่างพอเพียง เขียนเมื่อ : วันจักรี 54 16:17:39

ความคิดเห็นที่ 56 ผมมีบัตร 3 ใบ เพราะต้องการความสะดวกสบายเช่นเวลาไปจอดรถในห้าง หรือ ไว้จ่ายค่าน้ำไฟ โทรศัพท์ หลักๆอยากมีใบเดียว แต่ใบเดียว มันอำนวยความสะดวกไม่ได้เต็มที่ ถึงจะมี 3 ใบแต่ไม่เคยติดข้ามเดือนซักใบครับ ธ.ไม่เคยได้กินดอกเบี้ยจากผม 555+ หลายๆครั้ง เจ้าหน้าที่ส่งบัตรเงินสดมาให้โดยที่เราไม่ได้สมัคร ส่งมารึ ก็ดี ตัดทิ้งครับ อิอิ จำได้ว่ามีใบนึงพับแล้วเอาไปหนุนขาโต๊ะ มันพอดีมากๆ 555+ ถ้าจะมีบัตร ต้องรับผิดชอบ ต้องมีวินัยทางการเงินครับ ครอบครัวเพื่อนผมคนนึง บ้านแตกสาแหรกขาดเพราะหนี้บัตรเครดิต ........ Bank นี่แหละครับ จากคุณ : chomai เขียนเมื่อ : วันจักรี 54 16:59:58

ความคิดเห็นที่ 57 เพื่อนใจดีมากๆๆ แต่เดาว่าเป็นผู้ชาย 100000% และเค้าคิดอะไรกับคุณด้วย ไม่งั้นใจปล้ำปานนี้ ยังไงก็อย่าทำให้เพื่อนผิดหวังนะครับ จ่ายคืนเค้าให้ครบ จากคุณ : NAN_KUNG เขียนเมื่อ : วันจักรี 54 18:24:35

ความคิดเห็นที่ 58 ได้ข้อมูลเยอะเลยครับ ดีใจด้วยสำหรับบ้านใหม่ครับ จากคุณ : ต้น หนองกระพ้อ เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 10:50:51

ความคิดเห็นที่ 59 สุดยอดมากครับ  ของผมเพิ่งจะเคลียไปหมดเมื่อปลายปี 53เอง   ตามข้อมูลในบูโรก็มีติดของ   บัตรเครดิต bank รูปนก , personal loan bank (เมือง) , ...ออน, ...สินเชื่อง่ายๆ ตอนนี้กำลัง เก็บเงินดาว์นและ ศึกษาข้อมูลการเลือกคอนโดอยู่ครับ   แต่ไม่กล้า วางเงินดาว์นที่ไหนเพราะกลัวกู้ไม่ผ่าน  ยังงัยก็คิดไว้แล้วล่ะว่า สักปลายปี 54 คงลองเข้าไปคุยกับ bank ดู .... อย่างน้อยๆเราก็รับผิดชอบกับการกระทำของเราจากอดีต      ตอนนี้เงินเดือน 40,000  เหลือเก็บ 30,000 ทุกเดือน  อยากอยู่คอนโด กะเค้าเหมือนกัน จากคุณ : Pmj (pmj@pantip) เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 54 17:59:03