 |
ขอแชร์ประสบการณ์ครับ
โดยจะบอกข้อดีและข้อเสีย ของเครื่องทำน้ำอุ่น และการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกัน วิธีที่ถูกต้อง ข้างกล่องหรือที่ตัวเครื่องทำน้ำอุ่นจะบอกแล้วว่า ให้ติดตั้งสายดิน คราวนี้มาดูที่ตัวเครื่องทำน้ำอุ่นบ้าง ที่ตัวเครื่องทำน้ำอุ่นโดยมาก จะมีอุปกรณ์หลักๆ อยู่ไม่กี่ตัวดังนี้ 1. ตัวกล่องหรือเคส ใส่ครอบอุปกรณ์ 2. หม้อตัม อาจเป็นเปลือกแบบหุ้มมิดชิดด้วยทองแดง และแบบพลาสติกทนความร้อน เปิดฝาดูขดลวดความร้อนได้ โดยที่ตัวหม้อต้มจะมีจุดต่อสายไฟ และตัวตัดไฟ(เทอร์โมสตรัท)ต่ออยู่ด้วย 3. วงจรหรี่ไฟ (เร่งลดความร้อนหม้อต้มโดยมากเป็นแบบกดปุ่มแล้วหมุนภายในตัวเดียวกัน) บางแบบอาจเป็นแบบระบบดิจิตอลมีตัวเลขบอกอุณหภูมิ 4. ระบบป้องกันหรือเบรคเกอร์ตัดไฟ โดยมากมักใช้ ELCB แบบ 2 ขั้ว กันไฟรั่วเบื้องต้นได้ประมาณ 30 มิลลิแอมป์ ขนาดทนกระแส 30 แอมป์ 5. จุดต่อสายกราวด์ โดยมากมักต่อออกทางด้านสายน้ำร้อนออกภายในตัวเครื่อง ภายในจุดต้อมักใช้ท่อทองแดงเชื่อมกับแผ่นทางแดงยึดเข้ากับโครงเครื่อง 6. ระบบสวิทไฟฟ้าแรงดันน้ำ(น้ำไหลน้อยเครื่องไม่ทำงาน กันคนโดนลวกด้วยน้ำร้อน) 7. สายท่อน้ำอ่อน และหัวฝักบัว 8 . สายไฟและปลอกหุ้มฉนวนกันความร้อน (ตอนติดตั้งต้องกำชับช่างให้ดัดสายไฟอย่าให้โดนตัวหม้อต้ม กันสายไฟเปื่อยรั่ว ช็อตโดยมากมักไม่ตรวจสอบ จุดต่อที่เป็นหางปลาต่อสายต้อง แน่นไม่หลุดง่าย เพราะเวลาใช้ไปนานๆ จุดต่อมักเป็นสนิมไฟเดินไม่สะดวกสายไฟร้อนจัดฉนวนอาจละลายได้) ราคาถูกแพงจะมีอุปกรณ์เหมือนกัน
คราวนี้มาดูที่ตัวเครื่องในปัจจุบัน ระบบตัวเครื่องในสมัยก่อน จะมีอุปกรณ์ เหมือนที่บอกไปแล้ว แต่อุปกรณ์ปัจจุบันอาจลดอุปกรณ์ ไปอยู่ในแผงวงจรเดียวกันเช่น ใช้ระบบอิเล็กทรอนิค์ ทดแทนเบรคเกอร์ ELCB (อาจเสียหรือชำรุดง่ายเพื่อลดต้นทุนการผลิต สังเกตคือราคาเครื่องทำน้ำอุ่นสมัยก่อน 10-20 ปี กับสมัยนี้ ราคาไม่ต่างกันมากนักประมาณ 2,000-3,500 -6,000 บาท *** อย่าลืมว่าของพวกนี้ไม่มีของดีราคาถูก ***ยกเว้นคนที่เป็นช่างที่พอมีความรู้บ้าง (ผมซื้อเอง ราคา ประมาณ 1,900-2,200 ใช้ของโนแนมในสมัยนั้น ปัจจุบันยังทำงานได้ดีอยู่ เวลาซื้อไม่สนใจเซลสนใจตรงบอกว่า ขอเปิดดูในตัวเครื่องได้ไหม ถ้าให้ดูจะซื้อ)
เบรคเกอร์ ELCB ราคา ประมาณ 500-600 บาทแล้วแต่ยี่ห้อ แบบธรรมดาประมาณ 90- 150 แล้วแต่ยี่ห้อ ฝาและตัวกล่องเบรคเกอร์ประมาณ 30 บาท
คราวนี้มาดูการต่อเครื่องทำน้ำอุ่นเพื่อใช้งานกันบ้าง
โดยมากบ้านจัดสรรสมัยใหม่มักมีการต่อสายดินโดยโครงการบ้านจัดสรรต่อให้อยู่แล้ว (แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไรถ้าไม่รื้อดูเองหรือให้น้องๆที่เรียนไฟฟ้ามาดูให้) ซึ่งเคยมีกระทู้ขึ้นไว้หลายที่สอบถามว่า การต่อเครื่องทำน้ำอุ่น ต่อแอร์ควรติดเบรคเกอร์ไว้หน้าห้องน้ำหรือในห้องนอน/ห้องแอร์หรือไม่) ที่ถูกและปลอดภัยคือควรจะมีติดไว้ เหตุผลคือถ้ามีก็จะกันไฟดูดได้(ห้องน้ำ และกันการเกิดเพลิงใหม้ได้(ห้องแอร์) กรณีติดตั้ง เครื่องเบรคเกอร์ชนิด ELCB เหมือนในตัวเครื่องทำน้ำอุ่น ขนาด กันไฟรั่ว 30 มิลลิแอมป์ อีก 1 ชั้นนั้น ตอนนี้มี 2 ชั้นแล้วระบบกันไฟดูด แต่ยังไม่พอครับ สมควรจะต้องเพิ่มกันอีก 1 ชั้น คือ ติดตั้งสายดิน ชนิดเดินแยกต่างหากจากระบบเดิม (ไม่ไว้ใจช่างโครงการ) และจุดต่อสายดินหากเป็นพื้นที่ในกทม ควรจะขดสายไฟเป็นแบบสปริงขนาดความยาวสายไฟประมาณ 30 เซ็นติเมตรกันสายกราวหลุดหรือขาดจากการทรุดตัวของพื้นดิน โดยต่อกับแท่งกราวร็อต ขนาดยาว ไม่น้อยกว่า 2 เมตร (โดยต้องตอกแท่งกราวร็อต ลงดินที่ค่อนข้างชื้น 1-3 แท่ง แล้วแต่สภาพพื้นที่) แล้วเมื่อผ่านไป 1-2 ปีให้ไปตรวจสอบตรงจุดที่ตอกแท่งกราวร็อต ว่าสนิมมันขึ้นไหม หรือมันขาดหรือมันต่อไม่แน่นไหม ถ้าไม่แน่นก็ให้ช่างไฟฟ้ามาดู โดยมากมักต่อแล้วต่อเลยไม่มีการตรวจสอบ อันตรายครับ ถึงจะกันไว้ 3 ชั้นก็ตาม ถ้าละเลยไม่ตรวจสอบ การตรวจสอบ ELCB ก็คือ โดยมากตัวเบรคเกอร์ชนิดนี้มักจะมีตรวจสอบเป็นปุ่ม สี แดง หรือสีเขียวเล็กๆ ให้เปิดเครื่องเบรคเกอร์แล้วลองกดปุ่มดูว่าเบรคเกอร์มันทำงานบ้างหรือไม่ เอา ซักเดือนละครั้ง ก็ยังดี โดยทดสอบทั้งจากตัว ELCB ในเครื่องทำน้ำอุ่นเองและ ELCB หน้าห้องน้ำ
แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 54 22:08:00
จากคุณ |
:
เล็กชาย
|
เขียนเมื่อ |
:
21 พ.ค. 54 22:06:24
|
|
|
|
 |