ความคิดเห็นที่ 1 1. เรื่องใช้ได้หรือไม่ ตอบว่าใช้ได้ครับ การที่เดินสายดินจากตัวเครื่องใช้ไฟฟ้าไปลงดินโดยตรง นิยมทำกันในบ้านที่ก่อสร้างและเดินระบบไฟก่อนที่ข้อบังคับเรื่องสายดินของการไฟฟ้าฯจะถูกบังคับใช้ (พ.ศ.2539) แต่ถ้าที่บ้านใครที่เดินระบบไฟฟ้า ภายหลังจากการไฟฟ้าฯประกาศใช้ข้อบังคับเรื่องระบบสายดิน บ้านของคุณก็ต้องมีระบบสายดินอยู่ ซึ่งถ้ามีระบบสายดินอยู่ ก็ให้นำสายดินจากเครื่องใช้ไฟฟ้า ไปรวมที่จุดรวมสายดิน(Ground Bars) เพื่อลงดินเพียงจุดเดียวของบ้าน 2. ถ้าเป็นบ้านเก่า ก่อสร้างและเดินระบบไฟฟ้าก่อจะมีการประกาศบังคับใช้เรื่องสายดิน อันนี้ถือว่าอนุโลมให้เดินจากเครื่องใช้ไฟฟ้าลงดินโดยตรงได้ เพราะอย่างที่คุณบอกครับ ถ้าจะวางระบบไฟฟ้าใหม่ในบ้านให้เป็นระบบที่มีสายดินหมด มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลยครับ 3. ระบบไฟฟ้าของบ้านแต่ละหลัง แยกออกกันอย่างชัดเจน หากบ้านข้างๆมีการต่อสายดิน แล้วเกิดไฟไฟรั่วลงดิน กระแสไฟฟ้าก็จะหาทิศทางที่มันเดินสะดวกที่สุดเพื่อถ่ายเทประจุลงดิน แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่มันจะวิ่งย้อนผ่านดิน จากหลักดินบ้านหนึ่งไปขึ้นยังหลักดินอีกบ้านหนึ่ง ไม่มีผลกระทบมายังบ้านคุณหรอกครับ จากคุณ : KanichiKoong เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 21:22:15

ความคิดเห็นที่ 2 เพิ่มเติมสำหรับข้อ 1 - หลักการพื้นฐานคือจะมีกระแสไหลเมื่อครบวงจรทางไฟฟ้า ถ้าครบวงจรโดยผ่านสายย่อมปลอดภัยกว่า เพราะมีค่าความต้านทานระบบต่ำกว่าครบวงจรโดยผ่านดิน - การเดินสายดินจากอุปกรณ์ เช่น เครื่องทำน้ำอุ่น ไปลงดินโดยตรง ข้อเสียคือความต้านทานของระบบสายดินจะไม่แน่นอน ถ้าสภาพดินแห้งหรือจุดต่อเกิดการสึกกร่อนจากการฝังในดินนานๆ ก็อาจไม่ปลอดภัย ยิ่งนานยิ่งเสี่ยง นานๆเข้าถ้าไม่มีการตรวจสอบเลยก็อันตรายครับ ในบางครั้งถ้าไฟรั่วขณะอาบน้ำ อาจมีกระแสแบ่งไหลลงดินและผ่านร่างกาย ซึ่งอาจมีค่าสูงพอให้เกิดอันตรายได้โดยที่เบรกเกอร์ไม่ตัดไฟ ขึ้นกับค่าความต้านทาน (คนทั่วไปอาจเข้าใจยากหน่อย) - กลับมาดูที่การเดินสายดินย้อนกลับไปที่เมนโดยตรง ความต้านทานระบบก็คือความต้านทานของสายไฟฟ้า ซึ่งมีค่าน้อยมาก และค่อนข้างคงที่ ทำให้กระแสไฟฟ้าเลือกที่จะวิ่งมาทางสายดินนี้มากกว่า ควรมีการตรวจสอบและขันน็อตการเข้าสายให้แน่นบ้างเพื่อความปลอดภัย - อนึ่งการตรวจสอบต้องดูโดยภาพรวมของระบบว่ามีการติดตั้งอย่างไร และที่เมนจะมีการต่อเชื่อม นิงตรอลกับสายดินถึงกัน - กรณีบ้านเก่าไม่มีระบบสายดิน ถ้ามีการติดตั้งเพิ่มเติมก็ควรแก้ไขให้ถูกมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัย บางจุดอาจแก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยเดินแค่สายดินเส้นเดียวเกาะไปกับสายไฟเดิมไม่น่ายุ่งยากอะไร บางคนก็ใช้กาวตาช้างทาแปะไปบ้างๆสายไฟเดิม ก็สามารถทำได้ *** การติดตั้งสายดิน อาจไม่ปลอดภัยถ้าติดตั้งไม่ถูกต้อง และขาดการตรวจสอบเป็นระยะหลังจากใช้งานแล้ว *** จากคุณ : open-krab (open-krab) เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 22:10:30

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณทั้งสองท่านมากครับ   ขอถามเพิ่มครับ  สายดินจากเครื่องทำน้ำอุ่น ถ้านำเอาสายดินจากจุดอื่น ๆ เช่นปลั๊กเสียบตู้เย็น  เครื่องซักผ้า นำมาจั๊มรวมกันก่อนต่อไปยังแท่งกราวด์ แบบนี้มีผลอย่างไรครับ จากคุณ : พรจินดา เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 22:50:57

ความคิดเห็นที่ 4 - ผมว่าหลายคนคงสับสนเกี่ยวกับกระแสไฟฟ้าและการต่อสายดิน โดยเข้าใจกันว่าต้องต่อสายลงดินเพื่อความปลอดภัย โดยแท้ที่จริงแล้วจะเกิดความปลอดภัย ถ้าเราสามารถคุมกระแสไฟฟ้าให้ไหลไปในเส้นทางที่กำหนด โดยมีความต้านทานไฟฟ้าในวงจรน้อยที่สุด โดยไม่ต้องผ่านดินก็ได้ เช่น การเดินสายดินย้อนกลับไปที่ตู้เมนไฟฟ้า เพื่อให้เกิดการครบลูปทางไฟฟ้ากรณีเกิดการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้า - สำหรับประเทศไทยในระบบจำหน่ายของการไฟฟ้า จะมีการต่อลงดินที่ต้นทางแหล่งจ่าย หรือหม้อแปลงไฟฟ้า การต่อลงดินที่โหลดแต่ละตัวก็สามารถครบลูปทางไฟฟ้าได้ แต่ค่าความต้านทานมีค่าไม่แน่นอน อาจมีกระแสไหลแต่เบรกเกอร์ทั่วไปไม่ตัด เกิดความร้อนสะสมบริเวณที่เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ถ้ามีเชื้อเพลิงก็อาจเกิดปัญหาไฟไหม้ตามมาได้ - อย่างไรก็ตามการติดตั้งสายดินแม้ไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน ก็ยังดีกว่าไม่ติตั้งเลย * การนำสายดินหลายจุดมารวมกัน แล้วต่อไปยังแท่งกราวน์ เป็นสิ่งที่เป็นมาตรฐานสากลอยู่แล้ว แต่ต้องใช้ขนาดสายดินให้เหมาะสม อย่างน้อยต้องเท่ากับสายดินของเบรกเกอร์ตัวที่ใหญ่ที่สุด ที่สำคัญต้องไปรวมกันที่ตู้เมนเพื่อลงดินตำแหน่งเดียว ถ้ามีความรู้ทางไฟฟ้า ลองวาดรูปการเดินสายไฟฟ้าดูครับ ...ตัวอย่างเช่นการเดินระบบสายดินให้เครื่องจักร ก็สามารถเดินเมนสายดินไปเส้นเดียวจากตู้เมนไฟฟ้า ผ่านมอเตอร์ตัวไหนก็ต่อแยกสายดินจากเส้นนี้ไป - พยายามต่อให้ไฟเดินจากเมนเข้า (เส้นไฟ) แล้วย้อนกลับไปที่ เมนเข้า (นิวตรอล) โดยไม่ต้องผ่านดินก็ได้ โดยสายดินที่เมนก็ยังต้องต่ออยู่ตามมาตรฐานนะครับ * คำว่าสายดินกับสายนำลงดิน มีความหมายแตกต่างกัน สายดินโดยส่วนใหญ่จะหมายถึงสายดินของอุปกรณ์นะครับ ไม่ใช่สายนำลงดิน เพราะมีการเลือกใช้ขนาดที่แตกต่างกัน งงไหม ???? จากคุณ : ืopen-krab (open-krab) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 54 00:04:20

ความคิดเห็นที่ 5 ข้อมูลเพิ่มจากที่ถามครับ บ้านเก่าไม่มีระบบสายดิน แต่มีเซฟตี้คัท สายดินที่เพิ่มขึ้นเดินตรงไปแท่งกราวด์ครับ ปลั๊กตัวอื่น ๆ ก็มาจั๊มรวมกันก่อนไปลงแท่งกราวด์ จากคุณ : พรจินดา เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 54 09:00:20

ความคิดเห็นที่ 6 กราวน์จะทำให้กระแสแยกไหลโดยขึ้นกับความต้านทานดินและความต้านทานของคน ถ้าความต้านทานดินต่ำๆ กระแสก็จะแยกไหลผ่านคนน้อยลง นไม่เท่ากราวน์ที่จ การต่อกราวน์ทุกจุดมารวมกันที่ แท่งกราวน์แล้วปักลงดินสามารถทำได้ แต่จะทำให้ neutral ลอยหรือมีแรงดันไม่เท่ากราวน์ แต่ก็ยังช่วยลดความรุนแรงจากไฟดูด โดยควรเลือกขนาดสายให้เหมาะสม ยิ่งใหญ่ยิ่งดี จากคุณ : dukeniklover เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 54 10:34:38

ความคิดเห็นที่ 7 ต่อG( ที่ถูก )ทั้ง2อย่าง ถือว่าได้หมดครับ เพราะเป็หมายของสายดินในมี่ว่ามาคือ ช่วยให้ไฟฟ้า ไม่ใหลผ่านเรามาก (ไม่เหมาะกับเครื่องทำน้ำอุ่นเพราะมันรั่วมากับน้ำได้เกิดพื้นห้องเปียก ฝนตกน้ำซึมในปูนค่าดีกว่าสายGก็วิ่งผ่านเราหละ ที่ดีคือต้องใช้เบรกเกอร์กันดูด และต่อสายมาที่ G จุดเดียวกัน แน่นอนที่สุดถ้า G ไม่ดีเพราะอย่างน้อย เบรกเกอร์มันยังวัดค่าที่ทำให้กระแกใหลผิดปกติ หรือรั่ว เขาจึงเรียกกันดูดคือ ดูดหละแต่ตัดได้ไวมาก และขนาดสาย G ก็มีผลกับระยะทาง เช่นตู้อยู่ชั้น1 เครื่องอยู่ชั้น3 ขนาดสายต้องใหญ่ขึ้นเพื่อให้ไฟลงง่าย   ปกติทั่วๆไปต่า Groundเขาเอา ไม่เกิน 10โอห์ม จากคุณ : คออ่อน เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 54 16:27:56

ความคิดเห็นที่ 8 การต่อแบบที่ถามทั้งสองแบบ เมื่อเทียบกับใช้เครื่องโดยไม่ต่อสายดินแล้ว เลือกเอาสักแบบดีกว่า แต่แบบที่ลงดินตรงๆ เท่ากับว่าหลักดินต้องรับกระแสทั้งหมดโดยลำพัง ถ้ามันเริ่มแห้งมันจะป้องกันไฟรั่วแบบรุนแรงไม่ได้  แต่ถ้าไฟรั่วอ่อนๆเช่นคอมพิวเตอร์จะเห็นเหมือนว่าัมันทำงานปกติคือจับได้ไฟไม่ดูด แต่ถ้าไฟรั่วรุนแรงเช่นสายไฟบาดโดยโครงเครื่องคราวนี้ได้ลุ้นว่าสายดินจะรับกระแสไหวไหม ถ้ามันรับไม่ไหวเบรกเกอร์ก็จะไม่ทริปเพราะกระแสผ่านต่ำกว่าค่าพิกัด แถมเจ้าเครื่องไฟฟ้าอื่นๆที่แชร์หลักดินอันนี้ร่วมกันจะมีไฟรั่วทันที    ถ้าจะต่อลงดินตรงๆ ให้ติดเครื่องตัดไฟรั่วไว้ด้วยเพื่อช่วยให้มันทริปได้ เรื่องสายดินที่ปักไว้หน้าบ้าน แล้วไฟรั่ว ?? จะกระทบข้างบ้านไหม ?? กระทบในแง่ไหนครับ ถ้าเรื่องอันตรายจากไฟดูดตอนเพื่อนบ้านยืนในสนามหญ้าตัวเอง ยังไงก็ไม่โดนดูดแม้ไฟบ้านเราจะรั่วลงหลักดินบ้างก็ตาม จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 54 17:15:55