ความคิดเห็นที่ 1 รูปเพิ่มเติมตัวปั๊ม จากคุณ : apples (apples) เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 12:31:30

ความคิดเห็นที่ 2 กระแสไฟที่วัดได้จากการทำงาน จากคุณ : apples (apples) เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 12:31:51

ความคิดเห็นที่ 3 แต่งตั้งทนายฟ้องร้องเลยครับเรื่องอย่างนี้ยอมได้ยังไงเอาใจช่วยครับ จากคุณ : sitteto เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 12:42:00

ความคิดเห็นที่ 4 เครื่องวัดมีการสอบเทียบหรือไม่ จากคุณ : KittySP เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 13:12:50

ความคิดเห็นที่ 5 280W. ที่เขาพิมพ์บน Plate น่าจะเป็น Output นะครับ หมายความว่าปั๊มน้ำตัวนี้ทำงานได้ 280W. แต่ไม่ได้หมายความว่ามันใช้พลังงาน 280W. ในความเป็นจริงมันอาจจะใช้พลังงานถึง 560W. ถ้ามันมีประสิทธิภาพเพียง 50% ถ้าปั๊มน้ำของคุณกินไฟ 783W. นั่นแสดงว่าปั๊มของคุณมีประสิทธภาพเพียง 36% ครับ จากคุณ : นายสันทัด เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 13:20:41

ความคิดเห็นที่ 6 คิดเหมือนคุณนายสันทัดครับ มันให้กำลัง 280 วัตต์ แต่กินพลังงาน 783 วัตต์ แบบนี้แย่เลยนะ ฮิตาชิควรชี้แจงให้ละเอียด ที่พนักงานบอกว่าเป็นไปไม่ได้ เค้าต้องรายงานให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงทราบด่วน ไม่รู้ที่บ้านกินไฟเท่าไร ไม่มีแคลมป์มิเตอร์วัดซะด้วย จากคุณ : nuinonthaburi เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 13:34:48

ความคิดเห็นที่ 7 กรณีนี้เวลาซื้อปั๊มจะรู้ได้ไงครับว่าจะใช้ไฟเท่าไหร่ อย่างถ้าเราจะเจาะจงอยากใช้ปั๊มที่ไม่ใช้ไฟเกินนี้ ถ้าเป็นแบบคุณสันทัดว่าจริงๆ แสดงว่าคนทั่วไปที่ซื้อก็เข้าใจผิดเรื่อง Watt หมดเลยเหรอครับ ? จากคุณ : apples เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 13:35:06

ความคิดเห็นที่ 8 จะกลายเป็น user error อีกไหมเนี่ย 666 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 13:37:02

ความคิดเห็นที่ 9 อย่าลืมคิดเพาเวอร์แฟคเตอร์ด้วยนะครับ พวกมอเตอร์ประสิทธิภาพบ้านๆแบบที่เราใช้มันน้อยจริงๆ  0.65 นี่ก็เก่งแล้ว W=VA * PF มิเตอร์ก็ควรใช้แบบที่เป็น True RMS ครับจะน่าเชื่อถือได้มากกว่า แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 54 13:39:03 จากคุณ : สมภพ เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 13:38:33

ความคิดเห็นที่ 10 ผมว่าลองวัดแล้วเทียบกันดูครับ ผมใช้ปั๊มรุ่นอื่นก็ไม่เป็นนะครับ กินไฟตรงตาม Spec เป๊ะเลยครับ จากคุณ : apples เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 13:39:41

ความคิดเห็นที่ 11 http://www.pantip.com/cafe/home/topic/R10502194/R10502194.html ***** คาใจมานานยังไม่จบ ฤ ครับ 666 http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=50c7c1d1a3cf6b17 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 13:46:03

ความคิดเห็นที่ 12 มันคำนวนออกมาแล้ว ค่าไฟต่อเดือนทั้งหมดเท่าไหร่อ่ะค่ะ คิดไม่เป็นจริงๆ เลยอยากรู้ว่าค่าไฟที่บ้านทุกวันนี้จ่ายเดือนละ 1000-1200 บาท มันไม่จริงใช่มั้ยยยย จากคุณ : จุกแสบเหลือง เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 14:01:23

ความคิดเห็นที่ 13 ไปว่าเครื่องวัดมีการสอบเทียบหรือไม่ อีกทั้งที่ควรช่วยเหลือผู้บริโภคด้วยกันมากว่า ช่วยHitachi มีคนให้ไปซื้อมิเตอร์ ใหม่แบบ  True RMS ด้วย สงสัยเป็นคนขายมิเตอร์ยี้ห้อ  True UBC จากคุณ : เซ็ลขายมิเตอร์ (นกเดินทาง) เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 14:08:23

ความคิดเห็นที่ 14 ผมเพิ่งซื้อปั๊มหอยโข่ง ยี่ห้อ noname มา spec 0.5 แรงม้า  หรือประมาณ 370 วัตต์ ใส่ฟิวส์หลอดขนาด 3 A ยังไม่ขาดเลยครับ จากคุณ : --^ไชโย^-- เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 14:16:22

ความคิดเห็นที่ 15 ถึงว่าตั้งแต่ใช้ปั๊มสี่เหลี่ยม ฮิ... ค่าไฟแพงขึ้นเยอะเลย จากคุณ : m299 เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 16:09:35

ความคิดเห็นที่ 16 ลองเปิดฝาดูครับ ที่มอเตอร์ เขียนว่ากี่แอมป์ครับ กี่วัตต์ ครับ ดูข้างหน้าตามรูปที่เหนเปนแค่รุ่นเครื่องนี้ครับไม่ใช้ Spec Motor ให้ไปดูที่ Name Plate อีกที่ครับ จากคุณ : บองหลา เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 16:24:05

ความคิดเห็นที่ 17 รุ่นนี้ตาม datasheet บอกว่ามอเตอร์ 280 W เลยนะครับไม่ใช่  output power 280W   จริงๆแล้วก็น่าจะกินกระแสแค่ 1 A กว่าๆ จากคุณ : JSCHTUM เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 17:00:03

ความคิดเห็นที่ 18 ผมดู Hitashi รุ่น WT-P250GP อยู่ ที่ Name Plate ระบุว่า Output 250W ครับ จากคุณ : นายสันทัด เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 17:54:53

ความคิดเห็นที่ 19 ที่บ้านเป็นยี่ห้ออื่น ขนาด 400 วัตต์ แรงดันคงที่เหมือนกัน เดี๋ยวกลับไปบ้านจะลองวัด แล้วเดี๋ยวมาบอกครับ อ้อ ของผมยี่ห้อ kikawa 400 วัตต์ ( ยี่ห้อประหลาดหน่อย ) จากคุณ : ผีแดงแดนสยาม เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 17:55:11

ความคิดเห็นที่ 20 เอา CLAMP METER  จีนเเดง ราคา 750 บาท มาใช้อ้างอิง ? (  Clamp meter รุ่นนี้ ผมก็มีใช้เอาไว้วัดค่าเเบบหยาบๆ ไม่เคยคิดเอาไปใช้อ้างอืงฯครับ ) จริงๆโดยทั่วๆไป การวัดกำลังงานในระบบไฟฟ้ากระแสสลับ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วนด้วยกัน 1.การวัดคำนวณโดยใช้ค่ากำลังงานจริง (real power) มีหน่วยเป็นวัตต์ หรือกิโลวัตต์ (W or kW) 2.กำลังงานปรากฎ (apparent power : S) มีหน่วยเป็นโวลต์ แอมแปร์ หรือกิโลโวลต์แอมแปร์ (VA orkVA) เป็นกำลังงานที่แหล่งจ่ายกำลังงานไฟฟ้าต้องจ่ายให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ และมีขนาดเท่ากับ ผลคูณของกระแสไฟฟ้าในวงจร กับแรงดันของแหล่งจ่ายกำลังไฟฟ้า เเนะนำหาซื้อ Clamp meter ดีๆเช่น Fluke 337 TRUE RMS AC/DC DIGITAL CLAMP METER  มารียนรู้เเละทำการบ้าน ก่อนที่คุณจะเอามาวัดค่ากระเเสไฟฟ้าที่ใช้งานที่ใช้อ้างอิงเเบบเป๊ะๆ อีกอย่างร้านที่ขายปั้มน้ำที่คุณอยู่ที่ไหนของประเทศครับ กฎกติกาของร้านขายปั้มน้ำ ถ้าลองเครื่องเสียบปลั๊กไฟคุณจะต้องซื้อไปใช้เท่านั้น เเต่ร้านนี้ใจดี เเละ โง่มากๆ ที่ให้คุณลองวัดไฟเล่นถึง 5 เครื่อง รื้อกล่อง,รื้อพลาสติกหุ้มออก,ของที่มากับปั้มน้ำ ลองเสร็จจะประกอบเก็บไปเหมือนเดิมไม่ง่าย....นะครับ เเถมการลองปั้มน้ำเเบบไม่มีล่อใส่น้ำในเสื้อปั้มที่ไม่มีน้ำ ซีลเซรามิตฝืดโคดๆ ไม่เเตกก็บุญเเล้ว( หากคุณลองปั้มน้ำเเบบไม่มีน้ำเล้ยงใบพัดปั้ม,ซีลคอเพลสใบพัดปั้ม จะมีเสียงวิ๊ดเเหลมๆออกมา ฝีนเดินเครื่องปั้มอีกหน่อย ซีลเซรามิค หรือ หน้าคาร์บอน อาจเเตกไหม้ได้ครับ...............ร้านค้าร้านนี้กลับรื้อเปิดกล่องให้คุรลองถึง 5 เครื่อง ผมคนนึงละที่ขอบาย จะซื้อของร้านปั้มน้ำร้านนี้ จากคุณ : pinhead2000 เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 19:00:27

ความคิดเห็นที่ 21 เรียนคุณ pinhead2000 คุณลองเอา Fluke สุดหรูของคุณไปวัดดูกับปั๊มรุ่นนี้ แล้วเอามาเทียบกับจีนแดง ของผมอันนี้ดีกว่าไหมครับว่าวัดได้แบบนี้ไหม ที่พูดมาทั้งหมดคือหาข้อพิสูจน์การกินไฟ ถ้าจีนแดงมันห่วย มันคงไม่เพี้ยนขนาดต่างกัน 2A ครับ ไม่ต้องอวดเรื่องการใช้งาน Clamp มิเตอร์จะดีกว่าครับ คุณลองไปวัดดู แล้วที่บ้านผมเนี่ยก็ใช้ Fluke 435 ScopeMeter มาเช็คแล้วครับ ปล. เดี๋ยวนี้ Pantip มันแบ่งเกรดด้วยเหอะ ของถูกขอแพง แต่ไม่มองเรื่องให้ตรวจสอบความเป็นจริง ยิ่งอ่านความเห็นแล้วเหมือนกับเกรียนมาตอบ มันน่าสังเวชแทนจริงๆคนไทยสมัยนี้ สุดท้ายที่ตั้งกระทู้นี้เพื่อหาค่าการใช้ไฟจริงๆของตัวปั๊ม ไม่ได้มาแดกดันกับเรื่อง Clamp ในที่นี้ขอแนบไฟล์ผลลัพธ์จากการใช้ Fluke 435 ScopeMeter ตัว 4 แสนกว่าบาทให้ดู มันคงดีกว่า Fluke 337 กากๆของคุณมากกว่าครับ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 54 19:33:36 จากคุณ : apples เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 19:21:56

ความคิดเห็นที่ 22 อ้างอิงเรื่องวัดกระแสไฟ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 54 19:23:50 จากคุณ : apples เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 19:23:42

ความคิดเห็นที่ 23 Phase 1 จากคุณ : apples เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 19:24:13

ความคิดเห็นที่ 24 Phase 2 จากคุณ : apples เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 19:24:58

ความคิดเห็นที่ 25 Phase 3 ปั๊มน้ำเจ้าปัญหา จากคุณ : apples เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 19:25:55

ความคิดเห็นที่ 28 http://www.siamcarp.com/board/index.php?topic=1872.0 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 22:17:11

ความคิดเห็นที่ 29 โหวต ครับ มี สาระ จากคุณ : NPM เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 22:18:39

ความคิดเห็นที่ 30 เอ...ยังไง กำลังจะซื้อยี่ห้อนี้พอดี จากคุณ : หรือจ้องไปซบน้องมิต (Pr[a]poNg") เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 22:32:44

ความคิดเห็นที่ 31 Clamp meter แบบนี้ถ้าเอามิเตอร์ไปวัดใกล้ตัวมอเตอร์แบบในรูป ค่ามันจะสูงเกินจริงเพราะสนามไฟฟ้าจากมอเตอร์มันจะมากวนมิเตอร์ ยิ่งค่ากระแสน้อยๆใกล้ลิมิตของมิเตอร์ค่ามันไม่ตรงหรอก ลองวัดใหม่แล้วพันสายรอบแคลป์สัก 4 รอบ ค่าที่ได้ให้หาร5 อีกอย่างยืนยันว่าKwหรือแรงม้าของมอเตอร์คือ output จากคุณ : Fluke345 สองแสนกว่าก็ซื้อได้ เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 23:23:26 A:59.97.178.5 X: TicketID:214176

ความคิดเห็นที่ 32 ตามความคิดเห็นที่ 31  การพันสายไฟรอบแคลป์ 4-5 รอบ คล้ายหลักการตัว CT(current transformer) ขดลวดเเปลงกระเเส ซึ่งเป็นอุปกรณ์ตรวจวัดกระแส จะทำให้ค่าที่วัดที่ถูกต้องยิ่งขึ้น ยังจำได้ในสมัยก่อนคุณพ่อผมก็ใช้วิธีพันสายไฟรอบเเคลป์ 3-4 รอบ เเบบนี้เวลาวัดมอเตอร์ไฟฟ้า โดยส่วนตัวไม่มีความจำเป็นต้องเวอร์ใช้ ScopeMeter มาใช้เพราะไม่อยากเป็นพวก รู้มากเเต่รู้ไม่จริง ผมมีเเค่ แคลป์มิเตอร์ กับ มัลติมิเตอร์ ก็เพียงพอกับการใช้งานของผมเเล้วครับ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 54 23:52:17 จากคุณ : pinhead2000 เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 23:48:48

ความคิดเห็นที่ 33 โดยทั่วไปพิกัดกำลัง (Rated Power) ของมอเตอร์ที่ระบุบน Name Plate จะเป็นกำลังทางกลขาออก ที่ปรากฎที่เพลาของมอเตอร์ สมมติเรียกว่า P(out) ส่วนกำลังขาเข้า จะเป็นกำลังไฟฟ้าที่ป้อนเข้ามอเตอร์ เราจะเรียกว่า P(in) โดยทั่วไปอีกเช่นกัน การระบุกำลังของเครื่องจักร จะระบุเป็นกำลังที่สามารถนำไปใช้งานได้ ในที่นี้เป็นปั๊มน้ำ ก็คือกำลังที่นำไปใช้ในการหมุนใบปั๊ม : P(out) ประสิทธิภาพของมอเตอร์  =  P(out) / P(in) ประสิทธิภาพของมอเตอร์ มีค่าได้ตั้งแต่ 0.5-0.99 ขึ้นอยู่กับชนิดและขนาดของมอเตอร์ การวัดค่ากระแสที่จ่ายให้มอเตอร์ เป็นการวัดเพียงองค์ประกอบเดียวของกำลังไฟฟ้า : P(in) กำลังไฟฟ้า  = แรงดัน(volt) x กระแส(amp.) x ตัวประกอบกำลัง(power factor : PF) ผู้ที่ไม่ใช่ Electrician จะคุ้นกับการเอา โวลท์คูณกระแส แล้วได้เป็น กำลังไฟฟ้า ซึ่งไม่ผิด ถ้าโหลดเป็น resistive load เช่น ฮีทเตอร์ในเครื่องทำน้ำอุ่น หรือ หลอดไฟแบบไส้ ฯลฯ เนื่องจากโหลดแบบนี้ power factor จะเท่ากับ 1 แต่หากโหลดเป็น inductive load อย่างมอเตอร์ที่เป็นส่วนประกอบในเครื่องไฟฟ้าต่างๆ เช่น แอร์ ตู้เย็น ปั๊มน้ำ ฯลฯ แล้ว power factor จะต่ำกว่า 1 อาจจะเป็นได้ตั้งแต่ 0.3-0.99 และจะต้องนำ  มาคิดด้วยเสมอ หากต้องการวัดกำลังไฟฟ้า ใช้แคลมป์มิเตอร์วัดกระแสอย่างเดียวไม่พอ จะต้องใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Power Meter กรณีของ จขกท หาก power factor ขณะที่วัดเท่ากับ 0.6 จะได้กำลังไฟฟ้าขาเข้าเป็น P(in)  =  3.56(A) x 220 (V) x 0.6   =  469.97(W)        <<<  นี่คือค่าไฟฟ้าที่ จขกท ต้องจ่าย และหาก ประสิทธิภาพของมอเตอร์เท่ากับ 0.6 จะได้กำลังทางกลปรากฎที่เพลาของมอเตอร์เป็น P(out)  =  P(in) x ประสิทธิภาพของมอเตอร์  =  469.97 x 0.6  = 281.98  W ดูแล้วก็สมเหตุสมผลดี จากคุณ : SteamPowerDaddy เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 00:17:08

ความคิดเห็นที่ 34 .. สรุป clamp หรือ ป้้มน้ำ ที่มันกินไฟเนี่ย จากคุณ : k.o.p เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 00:19:52

ความคิดเห็นที่ 35 คุยไรกันเนี่ย ไม่รู้เรื่อง 555 จากคุณ : meddy เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 04:33:31

ความคิดเห็นที่ 36 อยากให้เจ้าของกระทู้ลองศึกษาหลักการของวงจรไฟฟ้ากระแสสลับบ้างน๊ะครับร่วมไปถึงเรื่องมอเตอร์ และ Power Factor และการหาประสิทธิภาพของเครื่องกลไฟฟ้า น๊ะครับ สิ่งเหล่านี้ไม่ต้องใช้เงินมากมายด้วยครับ และมีเงินอย่างเดียวก็ซื้อไม่ได้ด้วยน๊ะครับ  ต้องศึกษาด้วยครับ จากคุณ : บองหลา เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 06:51:56

ความคิดเห็นที่ 37 จริง ๆ แล้วดูจากกระแสที่คุณ จขกท เค้าวัดมาได้ มันก็ตอบได้แล้วล่ะครับ มิเตอร์ห่วยยังไง มันก็ไม่มีทางเพี้ยนเป็นร้อย % ขนาดนั้นหรอกครับ สรุปว่ากินไฟเหมือนแอร์ 9000 btu เลยอ่ะ จากคุณ : ... (คนไทยเก่ง) เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 08:53:34

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณเจ้าของกระทู้ครับ จะระวังเวลาซื้อปั๊มละกันครับ ปล.ไม่ได้แบ่งเวลามาศึกษาเรื่องไฟฟ้าอย่างจริงจังและลงลึก รบกวนผู้รู้ช่วยสอนด้วยครับ ใช้มิเตอร์หลายแบรนด์ ส่วนตัวคิดว่ามันเหมือนกัน จากคุณ : ดีใจจัง เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 09:20:07

ความคิดเห็นที่ 39 การคำนวนของ "SteamPowerDaddy " ดูสมเหตุสมผลดีครับ ถ้า PF ของ Motor ตัวนี้ อยู่ 0.6 ตามปกติอุปกรณ์ Motor จะเป็นลักษณะ inductive load มี PF ประมาณ0.6ถึง 0.8 ครับ เคยลองต่อ C 1uF/350V 5ตัว คล่อมที่  Motor กระแสที่ใช้ใน Load ลดลงเล็กน้อย จากคุณ : well_off เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 09:28:11

ความคิดเห็นที่ 40 โดยส่วนตัวผมเชื่อว่าสินค้าประเภทปั๊มน้ำมีมาตรฐานรับรองอยู่แล้ว โดยเฉพาะยี่ห้อที่มีชื่อเสียงจึงไม่น่าจะเกิดการผิดพลาดขึ้นทุกๆปั๊มที่ จขกท ได้ทำการวัด แต่อาจจะเกิดจากการเข้าใจผิดของผู้ใช้งานเอง ซึ่งผมคิดว่า คคห 33 ได้อธิบายอย่างชัดเจนดีมากๆ อย่างไรก็ตามผมชื่นชม จขกท นะ ที่มีความสงสัยและกล้าเอามาเล่าให้คนในห้องนี้ฟัง ผมเชื่อว่าหลายๆคน คงได้รับความรู้จากกระทู้ของคุณไปไม่มากก็น้อย จากคุณ : My name is PAK เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 09:37:59

ความคิดเห็นที่ 41 กรณีนี้เวลาซื้อปั๊มจะรู้ได้ไงครับว่าจะใช้ไฟเท่าไหร่ อย่างถ้าเราจะเจาะจงอยากใช้ปั๊มที่ไม่ใช้ไฟเกินนี้ ถ้าเป็นแบบคุณสันทัดว่าจริงๆ แสดงว่าคนทั่วไปที่ซื้อก็เข้าใจผิดเรื่อง Watt หมดเลยเหรอครับ ? จากคุณ : apples ***** โดยหลัก "การตลาด" แล้ว เครื่องปั๊มน้ำ ฤ มอเตอร์ทั้งหลาย จะบอกอัตราที่มอเตอร์สามารถส่งแรงออกมาได้ แต่ค่านั้นไม่ใช่อัตราการกินไฟโดยตรง (คิดว่าพวกปั้มลมที่บอกแรงม้าออกมากินไฟเท่าไหร่ละครับ) ต้องไปคูณกับค่าคงที่ของรุ่นนั้นๆ อีกที ซึ่งโดยปกติไม่มียี่ห้อไหน ที่มอเตอร์จะสามารถทำงานได้เท่ากับ 1.0 ของการกินไฟแน่นอน ซึ่ง ตรงนี้ทั้งกระทู้เก่าและกระทู้นี้ จขกท ก็ยังคงเข้าใจว่า ป้ายที่แปะไว้ที่ปั๊มน้ำเป็นค่าการกินไฟขาเข้า ไม่ไฟกำลังของมอเตอร์ที่ทำได้ออกมา ถ้า จขกท ยังไม่เข้าใจตรงนี้ ก็คงไม่จบแน่นอน 666 ***** หลัก  "การตลาดส่วนใหญ่จะนำการผลิตอยู่แล้ว"   การผลิตสามารถบอกสเป็คทุกอย่างได้ บางยี่ห้อบอกหมด บางยี่ห้อบอกเฉพาะที่การตลาดต้องการให้บอก ทำให้หลายอย่าง ผู้บริโภคก็มีความเชื่อที่ผิดๆ ตามไปด้วย อย่าง เครื่องดูดฝุ่น การกินไฟเป็นหลักพันวัตต์ แต่กำลังที่มอเตอร์ดูดของได้เป็นหลักร้อยวัตต์ ต้องถามกลับว่า ตอนนี้การตลาดทั่วๆ ไปเน้นที่ค่าไหนมากกว่ากันละครับ และผู้บริโภคเวลาซื้อเครื่องดูดฝุ่น จะดูที่ค่าไหนเป็นหลัก 666 ***** การจะซื้อของทั้งหลาย ต้องดู "สเป้คให้เป็นด้วย"  ถ้าดูแค่ตามหลักการตลาดอยากให้ดู อยากให้เป็น ก็จะพลาดได้ไม่ยาก  (อยากให้ลองหาโบรชัวร์ของพานามาดู เวลาอยู่ในส่วนของจอ LCD ก็จะบอกข้อดีอย่างเดียว ข้อเสียไม่บอก แต่พอถึงหน้าของพลาสม่า ก็จะบอกข้อดีของพาสม่า ไม่บอกข้อเสีย) อย่างในห้องนี้ หลายๆ คนพลาดที่ซื้อ LCD มาดูฟรีทีวี เพราะ ไม่ศึกษาก่อนว่า LCD, พลาสม่า , จอแก้ว หลักการทำงานเป็นแบบไหน ฯ ห้องก้นครัวก็พลาดที่เวลาซื้อของตามห้าง จะซื้อโดยดูป้ายราคาตรงหน้าสินค้า แต่ไม่ได้ดูว่า บาร์โค้ทที่อยู่ตรงหน้าสินค้า เป็นอันเดียวกับสินค้านั้นๆ จริงๆ ฤ เปล่า ฯ ถ้าจะซื้ออะไร มีความรอบคอบและหาข้อมูลรายละเอียดเพิ่มอีกซักนิด ก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อของการตลาดแน่นอน 666 ***** ส่วนหลายๆ คนที่   "ตามน้ำ"   อย่างเดียวนะ หาข้อมูลไปด้วยก่อนดีกว่าไหมครับ อย่าตามน้ำแบบห้องเฉลิมไทย เวลาด่าใคร ก็จะด่าตามไปด้วย แถมด่าแรงกว่าเจ้าของเรื่องซะอีก แต่พอ คดีพลิก กลับ "หายหัวกันไปหมด"  ไม่รับผิดชอบต่อสิ่งที่พิมพ์ไว้เลย ....... แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 54 10:36:56 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 10:35:24

ความคิดเห็นที่ 42 เข้ามาขอบคุณ จกขท.เช่นกัน แต่ ที่ผมเข้าใจตาม คห. 33 คือ ขาดข้อมูลเกี่ยวกับ ประสิทธิภาพของมอเตอร์ สินะครับ การคิดการกินพลังงาน จะได้ชัดเจนและแม่นยำ จากคุณ : หรือผมเข้าใจผิด (Pr[a]poNg") เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 11:12:20

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณ คห 33 ที่ให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการคำนวณ และวิเคราะห์ว่าการกินไฟ 3 A กว่าๆของปั๊ม 280 Watt นั้นสมเหตุสมผล หาก PF มีค่าประมาณ 0.6 และประสิทธิภาพประมาณ 0.6 อย่างน้อยกระทู้นี้ก็ทำให้ผู้อ่านทราบว่าข้อมูลในแคตตาล็อก ที่เขียนไว้ว่า  "มอเตอร์ XXX Watt นั้น" ไม่ได้หมายความว่า มอเตอร์กินกำลังไฟฟ้าแค่ XXX Watt แต่ว่ากินไฟมากกว่านั้นโดยขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของมัน ที่บ้านใช้ Mitsu 300 Watt อยู่ เอาไว้ว่างๆจะลองวัดดูว่าประสิทธิภาพมีค่าประมาณเท่าไหร่ (ประมาณค่า PF = 0.6) จากคุณ : JSCHTUM เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 11:54:51

ความคิดเห็นที่ 44 ***** ส่วนหลายๆ คนที่   "ตามน้ำ"   อย่างเดียวนะ หาข้อมูลไปด้วยก่อนดีกว่าไหมครับ อย่าตามน้ำแบบห้องเฉลิมไทย เวลาด่าใคร ก็จะด่าตามไปด้วย แถมด่าแรงกว่าเจ้าของเรื่องซะอีก แต่พอ คดีพลิก กลับ "หายหัวกันไปหมด"  ไม่รับผิดชอบต่อสิ่งที่พิมพ์ไว้เลย ....... โดนใจครับประโยคนี้  จะด่าใคร ก็ดูก่อนว่าถูกหรือผิด ถ้าไม่รู้จริงก็รออ่าน ความจริงก่อน ค่อยว่ากัน จากคุณ : artr66 (artr66) เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 11:58:10

ความคิดเห็นที่ 45 ยืนยันตาม คห 5 กับ 33 ว่า  watt ที่แสดงเป็นกำลังขาออกของปั๊ม กำลังขาเข้ามากกว่านั้นเยอะ  ในกรณีนี้ ปั๊มน้ำกินไฟจริงแถวๆ 700-800 watt แต่มีกำลังส่งน้ำออกแค่ 280 watt   ปั๊มน้ำยี่ห้ออื่นก็ใใช้วิธีนี้ในการบอกกำลังปั๊ม ไม่มีใครบอกกำลังขาเข้าสักคน เพราะมันสูง คนจะกลัวค่าไฟแพง จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 12:19:35

ความคิดเห็นที่ 46 กระทู้นี้เป็นประโยชน์มาก ผมไม่เคยรู้มาก่อน นึกมาตลอดว่ามันกินไฟตามที่บอก จากคุณ : vision เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 14:10:01

ความคิดเห็นที่ 47 ปั๊มน้ำยี่ห้ออื่นก็ใใช้วิธีนี้ในการบอกกำลังปั๊ม ไม่มีใครบอกกำลังขาเข้าสักคน เพราะมันสูง คนจะกลัวค่าไฟแพง จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) ***** ในทางตรงกันข้าม เครื่องดูดฝุ่นกลับโปรโมทการกินไฟเป็นพันวัตต์ ไม่ค่อยเน้นแรงดูด เพราะ ได้เป็นร้อยวัตต์ น้อยจิ๊บๆ 666 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 14:42:58

ความคิดเห็นที่ 48 เอ่อ จะกรุณามากเลยค่ะถ้าจะมีคนอธิบายแบบสรุปให้หน่อยว่าตกลงมันกินไฟเกินจริงมั้ย คืออ่านไปอ่านมา งงไปงงมา  งงมากค่ะ 5555 จากคุณ : kubkew-kicky เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 15:12:10

ความคิดเห็นที่ 49 ได้ความรู้ดีมากครับ ใครไม่เข้าใจลองอ่าน คห. 33 นะครับ เคลียร์ จากคุณ : ชาติ 4300 เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 15:54:04

ความคิดเห็นที่ 50 ผมชอบที่พี่...ที่มีความรู้จริง ....เอาความรู้ในทางวิชาการมาอธิบายให้คนอื่นเข้าใจครับ...และขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่มีความคิดต่างจนทำให้เกิดความกระจ่าง....เรื่องไฟฟ้า เป็นเรื่องที่เข้าใจยากครับ แต่ได้ความรู้จากพี่ ๆบ่อย ๆก็ดีเหมือนกัน (พอดีตัวเองรู้เรื่องแต่งานโยธา....เฮอ ๆๆ) จากคุณ : ผ่านมาผ่านไป เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 16:38:43 A:59.97.128.14 X: TicketID:288750

ความคิดเห็นที่ 51 ผมชอบที่พี่...ที่มีความรู้จริง ....เอาความรู้ในทางวิชาการมาอธิบายให้คนอื่นเข้าใจครับ...และขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่มีความคิดต่างจนทำให้เกิดความกระจ่าง....เรื่องไฟฟ้า เป็นเรื่องที่เข้าใจยากครับ แต่ได้ความรู้จากพี่ ๆบ่อย ๆก็ดีเหมือนกัน (พอดีตัวเองรู้เรื่องแต่งานโยธา....เฮอ ๆๆ) จากคุณ : ผ่านมาผ่านไป เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 16:39:09 A:59.97.128.14 X: TicketID:288750

ความคิดเห็นที่ 52 อ่านแล้วมึนจริง สงสัยต้องไปเรียนไฟฟ้ากำลังล่ะมั้ง รายละเอียดไม่เคยรู้ แต่ทีรู้มาตลอดก็คือ W ที่โฆษณาทั้งบ้านทั้งเมือง คือ W out และรู้มาตลอดเหมือนกันว่า ต้องมีแรงเสียดทานในระบบ ดังนั้นจะเลือกสินค้าอะไร ไม่เคยเลือกแบบ W สูงๆ เอาไว้ก่อน แต่จะเลือกแค่เพียงพอกับการใช้งานเท่านั้น ไม่งั้นค่าไฟบานแหงมๆ (ยกเว้นพวกที่ W แปรผันได้ตามการใช้งานนะ) จากคุณ : Redrum เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 17:55:59

ความคิดเห็นที่ 53 ใช้รุ่นนี้เลยเหมือนกัน เซงเลย ไม่รู้มาตราฐาน มอก. ปล่อยให้ผ่านมาได้ไง จากคุณ : ป.กองปราบ เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 19:46:01

ความคิดเห็นที่ 54 การไฟฟ้า น่าจะทำฉลากเบอร์ 5  สำหรับปั๊มน้ำบ้างนะครับ เวลาเลือกซื้อปั๊ม จะได้เทียบประสิทธิภาพของปั๊มแต่ละยี่ห้อได้โดยดูที่ฉลาก  เหมือนกับที่เปรียบเทียบค่า EER ของเครื่องปรับอากาศน่ะครับ จากคุณ : สามช่า เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 20:19:31

ความคิดเห็นที่ 55 W ที่ โฆษณาคือ Watt การตลาด แบบลำโพงอ่ะครับ เครื่องเสียง 5000 watt ถามว่ามีใครคิดบ้างว่ามันกินไฟ 5 kw จริงๆ -...-   ในดาต้าชีท น่าจะมีบอกค่า I ด้วยนะครับผมว่า จริงๆแล้วน่าจะมีรายละเอียดครบด้วยล่ะ เพียงแต่เค้าไม่ได้คำนวนให้ดู จากคุณ : คุณปลาทอง เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 21:24:37

ความคิดเห็นที่ 56 W ที่ โฆษณาคือ Watt การตลาด แบบลำโพงอ่ะครับ เครื่องเสียง 5000 watt ถามว่ามีใครคิดบ้างว่ามันกินไฟ 5 kw จริงๆ -...-   ในดาต้าชีท น่าจะมีบอกค่า I ด้วยนะครับผมว่า จริงๆแล้วน่าจะมีรายละเอียดครบด้วยล่ะ เพียงแต่เค้าไม่ได้คำนวนให้ดู จากคุณ : คุณปลาทอง เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 21:26:10

ความคิดเห็นที่ 57 แล้วมีท่านใด ลองกับ ปั๊ม ยี่ห้อ อื่นไหมครับ ? คห 33 ถูกต้อง 100% เลย แต่ปัญหาของ ผู้บริโภคทั่วไปคือ .. ใครมันจะเอา ตัว clamp ติดบ้านไว้ลองวัดกระเเสเล่น จากการใช้งานจริง ประสิทธิภาพ ของตัว ปั๊มไม่เท่ากันหากอัตราไหลไม่เท่ากัน ใครจะไปนั่งนับอัตราการไหลล่ะนั้น สรุปคือก็ต้องยอมรับสภาพ คห. คุณ สามช่า น่าสนใจครับ ..แต่คิดว่า กฟผ. คงไม่ทำเพราะว่า เครื่องใช้ที่มีการทดสอบและออกฉลากนั้นเป็น เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่มีการใช้สูงสุดในช่วงพีคโหลด 6 โมงเย็น ถึง สามทุ่ม (ต้นทุนการผลิตต่อ1 หน่วยไฟฟ้าสูง) ประชาชนจะใช้ไฟฟ้าสูงขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว การผลิตไฟฟ้าก็เร่งสูงเพิ่มขึ้น ระหว่างนั้น กฟผ.สูญเสียต้นทุนการผลิตไปแล้ว เมื่อใช้ไฟไม่หมด ไฟฟ้าที่ผลิตได้จะถูกปล่อยทิ้ง จึงมีการลงทุน ศึกษา กับเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด คือ ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ หลอดตะเกียบ บัลลาสต์ พัดลม หม้อหุงข้าว โคมไฟ และล่าสุด ข้าวกล้อง นี่คือ ทำไม.ปั๊มน้ำจึงไม่ถูกนำมาทดสอบ เช่นเดียวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟสูงๆ เช่น เตารีด เครื่องอบผ้า etc และหาก กฟผ คิดจะทดสอบปั๊มน้ำจริงๆ ผมเกรงว่า..ทุกยี่ห้อ..จะเป็นเหมือนกันหมดน่ะซิ จากคุณ : NPM เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 21:55:02

ความคิดเห็นที่ 58 แล้วอย่างเครื่องทำน้ำร้อน น้ำอุ่นไรเงี้ยล่ะครับ 3000 วัตต์ หรือเครื่องทำน้ำร้อน 6000วัตต์ถึงเป็นหมื่นวัตต์กินไฟขนาดไหน ของถามหน่อยครับ แบบว่าอยากรู้ จากคุณ : artr66 เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 23:04:14

ความคิดเห็นที่ 59 ***** ถ้าจะให้กำหนดเป็นมาตฐานก็ลำบากหน่อย เพราะ ต้องกำหนดตัวแปรต่างๆ ไม่ว่า ท่อน้ำขาเข้าจากถังถึงปั๊มยาวเท่าไหร่ (ยิ่งยาวแรงเสียดทานยิ่งเยอะ), ถังน้ำเป็นแบบไหน บนดิน ดูดน้ำวิธีใด ใต้ดิน ขนาดเท่าไหร่ ท่อลึกกี่เมตร ฯ ถ้าทำได้ก็จะได้ค่าไฟขาเข้าค่าหนึ่ง ซึ่งเวลาไปใช้งานจริงๆ ก็จะไม่ได้ค่านี้อยู่ดี เพราะ คงไม่มีใครทำตามมาตรฐานที่กำหนดมาได้ แบบเดียวกับ อัตราการกินน้ำมันเฉลี่ย ตามมาตฐานที่กำหนด ซึ่งเวลาใช้จริงก็แทบไม่ถึงเลยก็ว่าได้ 666 ***** แต่ในความเป็นจริง ค่าไฟขาเข้านั้น ถ้าเป็น ตปท ในสเป็คจะมีบอกไว้หมด ทั้งขาเข้าและขาออก เพาเวอร์แฟคเตอร์เท่าไหร่ ฯ แต่ในไทย ไม่ค่อยมีคนสนใจ ก็เลย "เสร็จฝ่ายการตลาด"  ไม่ต่างอะไรกับ ups ที่หลายๆ ยี่ห้อ โฆษณาว่า มีกำลัง เป็นพันวัตต์ Output Power Capacity (VA) ซึ่งพวกที่ยี่ห้อไม่ดัง บอกค่านี้เยอะกว่า พวกยี่ห้อดังๆ ซะอีก   (ซึ่งตัวนี้ก็เหมือนกัน มีอีกหลายๆ คน เอาค่า VA ไปหารด้วย 220 แล้วตีออกเป็นวัตต์ที่ได้ จากนั้นก็หารด้วย PSU ที่ใช้ทันที)  แต่เวลาใช้งานจริง กลับสำรองไฟได้น้อยกว่าพวกยี่ห้อดังๆ ด้วยซ้ำไป เพราะ นี่คือ วัตต์ที่ใช้ในการโฆษณา แต่ไม่ได้บอกว่า ค่าแฟคเตอร์ที่ต้องเอาไปหารนั้นอยู่ที่เท่าไหร่ ถ้ายี่ห้อดีๆ จะบอกไว้หมด เพราะ มาตฐาน ตปท กำหนดเอาไว้ ส่วนยี่ห้อแปลกๆ หาไม่ค่อยเจอหรอก เดี๋ยวขายไม่ออก 666 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 23:08:53

ความคิดเห็นที่ 60 ผมขอชื่นชม+ขอบคุณ พี่ จขกท ครับ และขอชื่นชม+ขอบคุณพี่ๆ ที่ช่วยให้ความกระจ่างครับ.... สรุปจาก case นี้........ โดนการตลาดเล่นงานเกือบทุกคนเลยครับ เพราะว่าเวลาพี่ๆ เพื่อนๆ ในนี้ คำนวนค่าไฟ ก็ใช้ watt จากข้อมูลจากทางผู้จำหน่ายอุปกรณ์ให้มาครับ  น้อยคนที่มาวัดกันขนาดนี้ ยังไงต้องขอขอบคุณครับ.. ปล. เวลาซื้ออุปกรณ์แต่ละอย่าง คงต้องดูหรือคำนวนเองว่า... วัตต์จริงคือเท่าไหร่? ผู้บริโภคศึกษากันเอาเอง  -_-'' จากคุณ : shinnong (shinnong) เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 23:49:13

ความคิดเห็นที่ 61 555 = ช่างไฟคุยกัน เด็ก com grap งงครับ สรุปได้ว่า ปกติ ส่วนเนื้อหาไม่รู้เรื่อง จากคุณ : DOG TUTA เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 07:34:18

ความคิดเห็นที่ 62 อ่านไม่รู้เรื่อง รู้แต่ว่าบ้านผมก็ใช้ปั๊มรุ่นนี้เลย ซื้อจากโฮมโปรตอนเซลล์ จากคุณ : nutkh303 เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 09:34:58

ความคิดเห็นที่ 65 แหะๆ ไม่ค่อยฉลาด  อ่านไม่รู้เรื่องค่ะ แต่ที่บ้านก็มีปัญหาเรื่องปั๊มน้ำเหมือนกัน ตอนนี้แก้ปัญหา ถ้าจะใช้ที วิ่งไปเสียบปั๊มที   เหนื่อยมั่กๆ  แต่ก็ดีค่ะ  ได้ออกกำลังกาย  น้ำหนักลดไปหลายขีด  ^_^ จากคุณ : ยาหยีผีเบอะ เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 11:48:55

ความคิดเห็นที่ 66 ในที่นี้ผมเรียนตามตรงนะครับ ขอพูดถึงเรื่องกระแสไฟของปั๊มเท่านั้น อย่างน้อยเป็นข้อเตือนใจของผู้บริโภคอย่างเราๆ ผมไม่ใช่คนจบไฟฟ้าครับไม่รู้เรื่องหรอก ผมทำเป็นแค่ซื้อ Clamp มาคีบเช็คดูเท่านั้น ผมจ้างวิศกรไฟฟ้ามาวิเคราะห์ไฟฟ้าที่บ้าน เพื่อทำระบบไฟ Grid Tie Inverter ของ Solar Cell ต่อไปเท่านั้นเอง ทางผมเลยต้องตรวจสอบการใช้พลังงานทั้งบ้านว่าใช้ไฟไปเท่าไหร่ๆ แค่นั้นเอง อย่างน้อยถ้าเราใช้ Solar Cell เราต้องรู้อัตราการใช้ไฟก่อนที่จะสุ่มสี่สุ่มห้าติดตั้งไปเลย อย่างน้อยพลังงานที่ได้มา จะถูกใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ให้คุ้มค่าเท่านั้นเองครับ อีกอย่าง ถ้าเจออุปกรณ์ไฟฟ้าไหนมีปัญหา เราทราบว่าอันไหนกินไฟเยอะอย่างน้อยก็ช่วยประหยัดค่าไฟไปมากโขครับ อย่างที่เห็นครับปั๊มที่ผมให้ดู 3.56A กินไฟเยอะกว่าแอร์ Inverter Panasonic 9000BTU อีกนะครับ ซึ่งตัวแอร์ผมวัดดูกินไฟที่ 3A โดยประมาณครับ อันนี้พูดถึงเรื่องความคิดผมเองไม่เกี่ยวกะใคร ผมมองว่าปั๊มกินไฟ 3.56A กับการสูบน้ำขึ้นมา มันไม่คุ้มค่ากับค่าไฟที่ผมต้องจ่ายไป เพราะผมมองว่าผมเปิดแอร์เย็นฉ่ำๆๆ เป็นการจ่ายเงินค่าไฟ ที่คุ้มค่ากับผม มากกว่าที่ผมต้องเสียค่าไฟไปกับปั๊มน้ำที่กินไฟเกินขนาดนี้ ถ้าประปาบ้านแรงก็คงไม่ใช้แล้วครับตัวปั๊มนี้ ผมคำนวณค่าใช้จ่ายของปั๊ม ที่ผมไม่ใช่คนไฟฟ้าหรอกครับแค่มุมมองของผมที่จะสื่อให้เห็นเท่านั้นเอง ปั๊มกินไฟ 3.56A บ้านผมอยู่ 3 คน อาบน้ำวันละ 2 ครั้งคือเช้าและเย็น แต่ละครั้งอาบน้ำ 30 นาที หรืออาจเกินกว่านี้นิดหน่อยปกติที่บ้านผมอาบน้ำนาน 3.56A x 220V = 783.2W อาบน้ำ 30 นาที  วันละ 2 รอบ 3 คน = 30 x 2 x 3 = 180 นาที หรือ 3 ชั่วโมง ทีนี้มาคิด Kwh 783 x 1 / 1000 x 3 = 2.349 หน่วย ทีนี้การใช้ปั๊มทั้งเดือน 2.349 x 30 = 70.37 หน่วย ค่าไฟบ้านผม 3 Phase หน่วยละ 3.9บาท (รวมค่า ft คร่าวๆ ไปแล้ว) สรุปเราจะเสียค่าไฟ 274.443 บาทกับการอาบน้ำ 1 เดือน อันนี้แค่อาบน้ำนะครับ ใครอยากใช้ไฟฟรีรัฐบาลเดือนละ 90 หน่วย แค่เปิดปั๊มน้ำก็ล่อไป 70.37 หน่วยแล้ว อย่าหวังได้ใช้ไฟฟรีเลยครับ -_-' นี่ยังไม่รวมเปิดก๊อกน้ำทำอย่างอื่นอีกนะครับ มุมมองผมคือหาทางลดค่าไฟที่มันเปลืองโดยใช่เหตุเท่านั้นครับ มุมมองผมแค่มองว่าปั๊มตัวนี้กินไฟเกิน และไม่คุ้มกับผมที่ต้องจ่ายค่าไฟเท่านั้นครับ จากคุณ : apples เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 12:07:38

ความคิดเห็นที่ 67 อันนี้ปั๊มสระว่ายน้ำ มีบอกการใช้ไฟและวัดดูก็ตรงกับที่เค้าบอกไว้ 4.32A ปั๊มสระเปิดวันละ 4 ชม. เป็นระบบทำคลอรีนในตัวพร้อม Timer เปิดปิด มีหัว Jet Spa 3 หัวฉีดแรงมากๆ กับหัว Jet สระน้ำลึกอีก 1 หัวก็แรงมากๆ จากคุณ : apples เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 12:11:10

ความคิดเห็นที่ 68 *** ในขณะที่ผมจะทำการพิมพ์กระทู้นี้ ท่านความเห็นที่ 63 ได้ช่วยแสดงความคิดเห็น ซึ่งมีหลายส่วนคล้ายคลึงกับความเห็นของผม ต้องขอขอบคุณที่ร่วมกันแสดงความเห็น และขออนุญาตนำความเห็นของผมที่พิมพ์ไว้ (เยอะ) มาเผยแพร่นะครับ สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาขอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นหลักๆ ของกระทู้นี้นะครับ จากที่ผมอ่านมาจะสามารถพบประเด็นหลักๆ และจะขอแสดงความคิดเห็นทีละประเด็น โดยจะใช้ความรู้ทางวิศวกรรมไฟฟ้าเป็นหลัก แต่ก็จะพยายามอธิบายให้ผู้อ่านทั่วไปเข้าใจได้ดังนี้ครับ ประเด็นที่หนึ่ง เจ้าของกระทู้ได้ทำการวัดค่าแรงดัน (V) ที่ตกคร่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า และค่ากระแสไฟฟ้า (A) ที่จ่ายเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งในที่นี้คือปั๊มน้ำ โดยที่ทุกๆ ท่านได้เข้าใจถูกต้องว่าปั๊มน้ำเป็นโหลดประเภท "มอเตอร์" นั้น อยากให้ท่าน จขกท ทราบว่า ค่าที่ V และ A นำมาคูณกันนั้น สิ่งที่จะได้คือ "กำลังไฟฟ้าปรากฏ" ซึ่งมีหน่วยเป็น VA (อ่านว่า วี-เอ หรือ โวลต์-แอมแปร์ ก็ได้) ซึ่งประกอบด้วย ค่ากำลังไฟฟ้าจริง และกำลังไฟฟ้าจินตภาพ (กำลังไฟฟ้ารีแอคทีฟ) นะครับ ไม่ใช่กำลังไฟฟ้าจริงเพียงอย่างเดียว *** ตรงนี้เป็นเนื้อหาแทรกนะครับ ใครอ่านแล้วงงข้ามได้ครับ ไม่ใช่ประเด็นหลัก ขออธิบายสมการเกี่ยวกับกำลังไฟฟ้าหน่อยนะครับ  กำลังไฟฟ้าปรากฏ = กำลังไฟฟ้าจริง + กำลังไฟฟ้าจินตภาพ (S=P+jQ) แต่ที่เขียนเครื่องหมาย บวก นั้นไม่ได้แปลว่าให้มาบวกกันตรงๆ ตามหลักพีชคณิตนะครับ ต้องมาบวกกันแบบเวกเตอร์ หรือตามลูกศรดังรูปครับ จากคุณ : ลูกคุณแม่ (แม่หมูอ้วน) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 12:16:17

ความคิดเห็นที่ 69 ปั๊มบาลดาล ฮิตาชิเหมือนกัน รุ่น DP-P300GX กินไฟแค่ 2.5A ฉากมอเตอรื 300Watt เยอะกว่า 280W ก่อนหน้านี้แต่กินไฟน้อยกว่า จากคุณ : apples เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 12:18:30

ความคิดเห็นที่ 70 รูปแนบ Hitachi DP-P300GX แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 54 12:19:06 จากคุณ : apples เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 12:18:51

ความคิดเห็นที่ 71 ปั๊มหอยโข่งเอาไว้รดน้ำต้นไม้ กินไฟสุดๆ ที่ 0.8A จากคุณ : apples เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 12:28:33

ความคิดเห็นที่ 72 *** ประเด็นเนื้อหาแทรกต่อเนื่องครับ โดยทั่วไปกำลังไฟฟ้าจริง มักจะเขียนตามแกนนอน และกำลังไฟฟ้าจินตภาพมักจะเขียนตามแกนตั้งนะครับ จึงทำให้กำลังไฟฟ้าปรากฏมักจะมีลักษณะในแผนภาพ คิอเป็นด้านตรงข้ามมุมฉากของสามเหลี่ยม ซึ่งมีค่ามากที่สุด (ดูรูปประกอบนะครับ) ตรงนี้แหละครับคือสิ่งที่เจ้าของกระทู้วัดออกมา ซึ่งการบริโภคพลังงานในเครื่องใช้ไฟฟ้า ทุกเครื่อง บริโภค "กำลังไฟฟ้าจริง" เท่านั้นนะครับ กำลังไฟฟ้าปรากฏที่มีขึ้นเป็นเพียงค่าที่ช่วยให้คำนวณสะดวกขึ้น ถือว่าเป็นกำลังไฟฟ้าที่ช่วยสร้างสนามแม่เหล็ก ให้เกับเครื่องใช้ไฟฟ้า (ในที่นี้คือมอเตอร์) ซึ่งไม่มีเกิดขึ้นจริงในโลกเราครับ หากเครื่องใช้ไฟฟ้า (โหลด) มีค่ากำลังไฟฟ้าจินตภาพมากสิ่งที่มีผลตามมาโดยตรงคือ ค่ากระแสไฟฟ้าที่มากขึ้นด้วยครับ ซึ่งพอกระแสไฟฟ้ามากขึ้นก็จึงมีผลทำให้ 1. การไฟฟ้ารับภาระในเรื่องของขนาดสายไฟฟ้า เพราะมีกระแสไฟฟ้าไหลมากขึ้น ถ้ามีเพิ่มขึ้นหลายๆ บ้าน การไฟฟ้าจะต้องเปลี่ยนขนาดสายไฟให้ใหญ่ขึ้นครับ 2. การไฟฟ้ารับภาระในเรื่องของขนาดหม้อแปลง เหตุผลต่อเนื่องจากกระแสไฟฟ้ามากขึ้นครับ หม้อแปลงก็ต้องใหญ่ขึ้นเป็นธรรมดา 3. การไฟฟ้ารับภาระในเรื่องของพลังงานไฟฟ้าที่ต้องจ่ายมากขึ้น แต่เก็บค่าไฟได้เท่าเดิม เพราะกระแสไฟฟ้าสูงขึ้น มีการสูญเสียในระบบ (loss) มากขึ้นด้วยครับ บางท่านงงว่าการไฟฟ้ามาเกี่ยวอะไรด้วย แล้วทำไมการที่กระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้นแล้ว เราไม่ต้องจ่ายค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นหรือ อดใจรอสักแป๊บครับ เดี๋ยวจะเฉลยให้ฟัง จากคุณ : ลูกคุณแม่ (แม่หมูอ้วน) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 12:34:02

ความคิดเห็นที่ 73 คือผมมุมมองแบบชาวบ้านๆ อยากประหยัดไฟเท่านั้นนะครับ เลยเอาเทียบให้ดูแต่ละปั๊มเท่านั้น ก็ลองเอาปั๊มหอยโข่ง มาทำงานอาบน้ำแทนปั๊มแรงดันคงที่ อาบบนชั้น 2 ระยะห่างจากปั๊ม -> ชั้น 2 โดยประมาณผมคิดว่า 12 เมตรถามว่าแรงไหม Shower ออกมาเต็มทุกรู ไม่มีเอื่อย แต่เวลาเปิดก๊อกต้องรอสักแป๊ป 1 วินาน้ำจะออกช้าๆ อีกวิ ต่อมาก็แรง แต่ความแรงไม่คงทีเหมือนมันจะมีกระตุกบ้าง แต่กระตุกนิดๆ ถามว่าแรงไหม ผมเรียนตามตรงแรงสำหรับผมเพราะบ้านไม่ใช้ Rain Shower แค่ก๊อกฝักบัวธรรมดา แล้วที่บ้านใช้ระบบ ท่อน้ำร้อน น้ำเย็น สามารถขับน้ำร้อนกับน้ำเย็นพร้อมๆ กัน ก็แรงใช้ได้ ตอนนี้ผมยังคิดเลยว่าผมจะใช้ปั๊มหอยโข่งแทนซะเลย จากคุณ : apples เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 12:35:08

ความคิดเห็นที่ 74 ขอโทษทีครับ ไม่เห็นว่ามีการโพสต์อยู่ จึงทำให้ปาดหน้าครับ ทำให้เนื้อหาของผมและท่านเจ้าของกระทู้ไม่ต่อเนื่องกัน ต้องขอโทษจริงๆ ครับ จากคุณ : ลูกคุณแม่ (แม่หมูอ้วน) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 12:35:11

ความคิดเห็นที่ 75 คิดว่าไม่น่าปาดแล้วนะครับ ต้องขอโทษอย่างสูงอีกครั้งหนึ่ง *** ประเด็นเนื้อหาแทรกต่อเนื่องครับ ก่อนที่ผมจะเฉลยประเด็นดังกล่าว ผมอยากจะอธิบายค่าๆ หนึ่งที่มีความสำคัญในการคำนวณ (รวมถึงสำคัญในการคิดค่าไฟฟ้าของโรงงานขนาดใหญ่ด้วย) นั่นคือ ค่า Power Factor (p.f.) หรือภาษาไทยว่า ค่าตัวประกอบกำลัง ค่าตัวประกอบกำลังตามนิยามก็คืออัตราส่วนระหว่างกำลังไฟฟ้าจริง กับกำลังไฟฟ้าปรากฏครับ p.f.= P / S หรือในรูปสามเหลี่ยมของกำลังไฟฟ้า คือค่า cos θ นั่นเองครับ ซึ่งจะว่าไปก็คล้ายๆ กับเป็นการบ่งถึงประสิทธิภาพในการส่งกำลังไฟฟ้าครับ ว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าบริโภคกำลังไฟฟ้าจริงเท่านี้ แต่กำลังปรากฏที่วัดจาก V คูณกับ A ได้เท่านั้น ดังนั้นถ้าอัตราส่วนดังกล่าว ซึ่งคือค่า p.f. มีค่าใกล้เคียง 1 หรือเท่ากับ 1 ถือว่าดีมากครับ โดยเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มี p.f. ที่ประมาณถือว่าเท่ากับ 1 ได้ก็จะเป็นพวกขดลวดความร้อน เช่น หลอดไส้ กาน้ำร้อน อะไรประมาณนี้ครับ แต่อุปกรณ์พวกมอเตอร์นี้มี p.f. ไม่ถึง 1 ครับ โดยทั่วไปประมาณ 0.6-0.85 ถือว่ากลางๆ แต่ถ้าน้อยกว่านั้นนี่แสดงว่าไม่ค่อยดีครับ **ค่า p.f. สามารถวัดได้โดยใช้ p.f. มิเตอร์นะครับ นั่นคือถ้าจะวัดกำลังไฟฟ้าจริงแล้ว นอกเหนือจากการเอา V คูณ A แล้ว จึงต้องคูณด้วย p.f. ด้วยครับ ถึงจะได้ค่ากำลังไฟฟ้าจริง P ออกมา ดังนั้นผมอยากให้อ่านของความเห็นที่ 33 เพิ่มเติมทีนี้จะเข้าใจมากขึ้นเลยครับ *** ประเด็นเนื้อหาแทรกจบแล้วครับในช่วงนี้ จากคุณ : ลูกคุณแม่ (แม่หมูอ้วน) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 12:55:11

ความคิดเห็นที่ 76 ดังนั้นถ้าท่านใดอยากวัดกำลังไฟฟ้าจริง ของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เป็นโหลดประเภทมอเตอร์ ที่มีหน่วยเป็นวัตต์ (W) แนวทางที่จะพอทำได้มีดังนี้ครับ 1. วัด V วัด A แล้ว วัด p.f. หรือลองประมาณเอา ค่ากลางๆ มักใช้ 0.8 ครับ ยกเว้นว่าท่านไม่ไว้ใจเครื่องใช้ไฟฟ้าของท่าน เช่นคาดหมายว่าคุณภาพไม่ดี เก่าแล้ว หรือยี่ห้ออะไรไม่รู้ ก็ใช้ค่าประมาณ 0.5-0.6 ได้ครับ 2. ใช้วัตต์มิเตอร์วัดเลยครับ อันนี้ชัวร์กว่า เพราะวัตต์มิเตอร์วัดออกมาเป็นกำลังไฟฟ้าจริงแท้แน่นอนครับ 3. ใช้มิเตอร์วัดพลังงานไฟฟ้าแบบที่อยู่หน้าบ้านครับ (ไม่ได้ให้แกะมานะครับ ให้หาตัวอื่น) แต่ต้องต่อให้ถูกนะครับ จากนั้นเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า และจับเวลาดู สักพักปิดเครื่อง ค่ากำลังไฟฟ้าจริงคำนวณได้โดยให้เอา 360,000 คูณกับค่าที่มิเตอร์เพิ่มไป แล้วหารด้วยเวลาเป็น วินาที ค่าที่ได้เป็นค่ากำลังไฟฟ้าจริงครับ ประเด็นที่สอง เรื่องเครื่องมือวัดซึ่งได้มีการโต้แย้งของบางท่านว่าเครื่องมือวัดไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งในความเห็นของผมนั้นเครื่องมือวัดที่เป็นที่รู้กันว่ามาจากประเทศจีนนั้นส่วนใหญ่ ก็วัดได้ใกล้เคียงกับเครื่องมือวัดราคาแพงจากญี่ปุ่น ยุโรป หรืออเมริกานะครับ เพียงแต่ความแตกต่างคงอยู่ในเรื่องของยี่ห้อ วัสดุ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เซอร์วิสของยี่ห้อนั้นๆ ความคงทนในกรณีการวัดที่เกินพิกัดเครื่อง ลูกเล่น ฯลฯ มากกว่าครับ ดังนั้นประเด็นนี้ผมไม่อยากให้มาถกเถียงกันเลย เพราะเราไม่ได้ทำการทดลองวิจัยที่ต้องใช้เครื่องมือมาตรฐานสูง ขนาดนั้นครับ ดังนั้นค่าที่เจ้าของกระทู้วัดได้ก็น่าจะเป็นค่าที่ได้จากการวัดจริงถูกแล้วครับ จากคุณ : ลูกคุณแม่ (แม่หมูอ้วน) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 12:58:29

ความคิดเห็นที่ 77 ขอโทษทีครับ ไม่เห็นว่ามีการโพสต์อยู่ จึงทำให้ปาดหน้าครับ ทำให้เนื้อหาของผมและท่านเจ้าของกระทู้ไม่ต่อเนื่องกัน ต้องขอโทษจริงๆ ครับ จากคุณ : ลูกคุณแม่ (แม่หมูอ้วน) ***** มีอะไรโพสต่อได้ครับ กำลังอ่านสนุกๆ เลย กระทู้วิชาการแบบนี้ อย่าลืมเก็บเข้าคลังกระทู้เน้อ ชอบๆ 666 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 13:02:56

ความคิดเห็นที่ 78 ประเด็นที่สาม ตรงนี้น่าจะสำคัญมากที่สุดของกระทู้นี้แล้วมั้งครับ คนที่อ่านความเห็นของผมมาตลอดอยากให้อ่านตรงนี้ด้วย เพราะประเด็นนี้คือเรื่องของ "ค่าไฟฟ้าที่จ่ายให้กับการไฟฟ้า" ซึ่งผมมองว่าประเด็นนี้คือประเด็นที่สำคัญที่สุดของกระทู้นี้อย่างแท้จริง อย่างที่ผมได้บอกว่าผมจะเฉลยทีหลังในความเห็นก่อนนะครับ ในมุมมองของผู้ใช้ไฟฟ้า ไม่ว่าเรื่องของกระแสไฟฟ้าจะสูงหรือมีปริมาณใดๆ มาเกี่ยวข้องคงจะกลายเป็นเรื่องนิดเดียวถ้ามันไม่ได้เกี่ยวกับค่าไฟฟ้า จริงไหมครับ คือผมจะบอกอย่างนี้นะครับเนื่องจากถ้าเป็นการใช้ไฟฟ้าในบ้านเรือนหรือที่ไม่เกินสิ่งที่เรียกว่า "กิจการขนาดใหญ่" นั้น มิเตอร์ที่การไฟฟ้ามาติดที่บ้านเรานั้นจะเป็น kWh meter ซึ่งมิเตอร์แบบนี้เป็นมิเตอร์ที่วัด "พลังงานไฟฟ้า" ที่ให้กับกำลังไฟฟ้าจริง เท่านั้น จริงๆ ก็คือดู ตามหน่วยของการวัดเลยครับ 1 ยูนิต = 1 kilo Watt hour สังเกตว่าคือคำว่า Watt (W) ใช่ไหมครับ ดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องค่าไฟฟ้าว่าจะเพิ่มขึ้นนะครับ เพราะว่าเราได้จ่ายค่าไฟฟ้าเท่ากับกำลังจริงที่ออกมาครับ การไฟฟ้าจะไม่คิดค่า p.f. หรือกำลังไฟฟ้ารีแอคทีฟ สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช่ตั้งแต่กิจการขนาดใหญ่ขึ้นไป ซึ่งเท่ากับว่าท่านไม่ต้องกังวลว่าจะต้อง "ปรับปรุงตัวประกอบกำลัง" ให้ใกล้เคียง 1 มากที่สุดหรือไม่ครับ *** สำหรับมิเตอร์ที่วัดกำลังไฟฟ้ารีแอคทีฟด้วยจะวัดออกมาในรูปของ VA หรือ var นะครับ ดังนั้นถ้ามิเตอร์วัดออกมาในรูป W อย่างเดียวไม่ต้องกังวลเรื่อง p.f. ครับ ซึ่งตรงนี้การไฟฟ้าจะคิดค่าปรับ หรือพูดง่ายๆ ก็คือคิดตังค์เพิ่มสำหรับโรงงานขนาดใหญ่ที่บริโภคกำลังรีแอคทีฟมากๆ หรืออีกนัยหนึ่งคือ p.f. น้อยๆ ครับ เพราะอย่างที่บอกไปว่า การที่ p.f. น้อยๆ มีผลเสียโดยตรงต่อการไฟฟ้าครับ สรุปประเด็นทั้งหมดดังนี้ครับ 1. สิ่งที่เจ้าของกระทู้วัดได้ไม่ใช่ค่ากำลังไฟฟ้าจริงที่มีหน่วยเป็นวัตต์ แต่วัดได้ค่ากำลังไฟฟ้าปรากฏ ที่มีหน่วยเป็น VA ครับ 2. เรื่องเครื่องมือไม่เกี่ยวอะไรเลย และไม่ควรกล่าวถึงยี่ห้อของเครื่องมือวัดด้วยครับ เพราะหากค่าวัดได้ผิดพลาด ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับที่ยี่ห้อ แต่เป็นที่ความสมบูรณ์ เสียหรือไม่ ทำการวัดถูกวิธีหรือไม่ 3. ไม่ต้องกังวลว่าจะเสียค่าไฟฟ้าแพงนะครับ เพราะเราเสียจริงตาม "วัตต์" ครับ ไม่ได้ตาม "วีเอ" สุดท้ายผมขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่อ่านความเห็นของผม และผู้ที่ช่วยตอบตามหลักการทางไฟฟ้ามาก่อนหน้านี้ โดยไม่ได้มีการโต้แย้งในประเด็นที่ไม่ควรกล่าวถึง เพื่อให้กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่น่าอ่านและได้ความรู้สำหรับเพื่อนๆ สมาชิกทุกคนครับ *** เนื้อหาทางวิชาการต่างๆ เพื่อนๆ สามารถสืบค้นได้ทางอินเทอร์เน็ตทั่วๆ ไปนะครับ สำหรับเรื่องค่าไฟฟ้าลองเข้าเว็บ กฟภ กฟน ดูครับ หากมีตรงไหนที่ผมเสนอผิดโปรดช่วยตักเตือนเพื่อให้ผมได้ทำการแก้ไขด้วยครับ จากคุณ : ลูกคุณแม่ (แม่หมูอ้วน) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 13:03:11

ความคิดเห็นที่ 79 กำ ไม่รู้นะเนี่ย ว่าเป็น กำลัง out put มะกี้เลยไปลอง จับกระแสดูมั่ง ฮิตาชิ 150w กินกระแส 1.52A(334.4w)  แนะ มิหน้าเปลืองไฟจังเลย มีท่านไหนใช้ กรุนฟอส หรือยี่ห้ออื่น ลองเที่ยบมาไห้ดูหน่อยสิคับ  อยากทราบความแตกต่าง จากคุณ : XP NEVERDIE เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 13:27:26

ความคิดเห็นที่ 80 ย้ำครับ Watt วิธีหา ไม่ใช่เอาโวลท์ คูณกับ แอมป์ เฉยๆ ให้เอาตัวประกอบกำลังคูณด้วยครับ หรือ ตรีโกณมิติ COS ของมุมต่างระห่างกระแส กับ แรงดัน คูณ แรงดัน คูณ กระแส กรณีนี้สำหรับ หนึ่งเฟสครับ จากคุณ : มีสิทธิ์คิด เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 13:50:02

ความคิดเห็นที่ 81 เรื่องไฟฟ้ายอมรับครับมันซับซ้อนมาก ในฐานะผู้บริโภคที่อยากประหยัดไฟแบบผม ถ้าผมจะสรุปว่า เอา Clamp วัดแล้ว อันไหนน้อยสุดคือประหยัดไฟ มันคือวิธีที่ถูกต้องไหมครับ ? อย่างน้อยก็เป็นอะไรที่เข้าใจง่ายๆ ว่าอันไหนกินไฟไม่กินไฟ โดยไม่ต้องไปคำนวณอะไรมากหนะครับ จากคุณ : apples เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 13:53:52

ความคิดเห็นที่ 82 จะขอตอบความคิดเห็นที่ 81 อีกครั้งนะครับว่า ไม่ถูกต้องเสมอไปนัก ถ้าท่านเจ้าของกระทู้จะเอา Clamp วัดเปรียบเทียบเครื่องใช้ไฟฟ้า (ก็คือวัดกระแสไฟฟ้า, A) แล้วเปรียบเทียบค่ากระแสกัน โดยสรุปว่ากระแสมาก กินไฟ (คือพลังงาน) มาก ส่วนกระแสน้อย กินพลังงานน้อยนั้น ยังไม่ถูกต้องเสียทีเดียวครับ ถ้าจะทำแบบนี้แล้วถูกต้อง เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปรียบเทียบกันต้องเป็นพวกขดลวดความร้อนครับ เช่น กาน้ำ หม้อหุงข้าว หลอดไส้ อะไรแบบนี้ แต่ถ้าเป็นพวกมอเตอร์เช่น เครื่องปรับอากาศ ปั้มน้ำ พัดลม แบบนี้ยังสรุปไม่ได้ครับ ต้องคูณด้วยค่า p.f. อีกทีถึงจะรู้ ซึ่งผมได้สรุปไว้ว่าถ้าท่านเจ้าของกระทู้ต้องการทราบ "จริงๆ" ว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าใดกินไฟมากกว่า ท่านเจ้าของกระทู้ต้องไปใช้ "วัตต์มิเตอร์" ครับ ถึงจะให้ผลออกมา ถูกต้อง โดยวัตต์มิเตอร์จะเปรียบเทียบได้ว่าเครื่องใช้ไฟฟ้านี้ใช้ วัตต์มาก หรือวัตต์น้อย สะท้อนถึงพลังงานไฟฟ้าที่จะต้องบริโภคเข้าไปครับ   จากคุณ : ลูกคุณแม่ (แม่หมูอ้วน) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 14:06:48

ความคิดเห็นที่ 83 ไฟฟ้าไม่ยากอย่างคิดครับ ไปที่อมร หรือ ณัฐพงษ์บ้านหม้อ บอกเอาดิจิตอลวัตต์มิเตอร์ เพื่อเอามาวัดพลังงานครับลองเช็คขนาดกระแสด้วยนะครับ ว่ารับได้เท่าไหร่ เดี๋ยวถ้ามาวัดเครื่องน้ำร้อนจะไหม้ซะก่อน ตย. ครับ วัตต์มิเตอร์แบบดิจิตอล (วัดกำลังงานแบบ TRUE POWER) รุ่น DW560 รหัสสินค้า: 000332 รายละเอียด: - แสดงผลเป็นตัวเลขดิจิตอล ทำให้อ่านง่าย ถูกต้อง และรวดเร็ว - วัดกำลังไฟฟ้าที่ใช้จริง (True Power) ไม่ใช่กำลังที่ปรากฏ (Apparent Power) - ใช้กับแหล่งจ่ายไฟ 1 เฟส - มีสัญญาณเตือน “LO BAT” ที่จอแสดงผลเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด - จอแสดงผลแบบ LCD สิ้นเปลืองพลังงานน้อย และสามารถอ่านค่าได้ชัดเจน แม้ในที่มีแสงสว่างมาก ๆ - ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม - ใช้งานง่ายสามารถเปลี่ยนย่านการวัดได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว - แถบสีบนหน้าปัด ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น - แหล่งจ่ายไฟ แบตเตอรี่ 9 โวลต์ (แบบ heavy duty) - ขนาด 180 x 85 x 35 มม. - น้ำหนัก 500 (รวมแบตเตอรี่) จากคุณ : มีสิทธิ์คิด เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 14:16:50

ความคิดเห็นที่ 84 เข้ามาจดๆๆ  ความรู้ๆ แล้วอย่างแอร์ ที่ตีที่เนมเพลท พิกัดกระแสไฟฟ้า อย่างเช่น 5.5a  นี่เราต้อง วัดไห้ได้เท่าไหร่ หรอคับ ถ้าเอาแคล้มมิเตอร์มาวัดนะคับ จากคุณ : XP NEVERDIE เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 14:47:36

ความคิดเห็นที่ 85 ตอบความคิดเห็นที่ 84 ถ้าเอา clamp วัดขณะเดินเครื่องเต็มพิกัดไปสักพัก ก็ควรจะได้ประมาณ 5.5 A บวกลบนิดหน่อยแหละครับ จากคุณ : ลูกคุณแม่ (แม่หมูอ้วน) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 14:52:34

ความคิดเห็นที่ 86 แบบนี้บ้านเรามีขายไหมครับ จะซื้อมาใช้ลองทดสอบครับผม เคยไปอมรเค้าบอกไม่มีขายครับ http://www.p3international.com/products/special/p4400/p4400-ce.html จากคุณ : apples เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 15:10:05

ความคิดเห็นที่ 87 ตัวอย่่างที่ผมเคยทดลองไว้ เอาหลอดไฟ 20W ต่อ แ้ล้วคล้องวัดกระแส ได้ประมาณ 0.1A กับเอา C มาเสียบปลั๊กตรงๆ เลยแล้วคล้องวัดกระแส ได้ประมาณ 0.2A คิดว่าอันไหนทำให้มิเตอร์หมุนเร็วกว่า ?? เฉลยคือ หลอดไฟครับ  ส่วน C เสียบปลั๊กไฟนั้นแม้มีกระแสไหลแต่มิเตอร์ไม่หมุนเลย ด้วยเหตุผลเรื่องเฟสครับ   ดังนั้นมองแต่กระแสในแคล้มมิเตอร์แล้วสรุปว่าเสียค่าไฟมากหรือน้อยเทียบกันไม่ได้ตรงๆ พวกมอเตอร์ถ้าค่า pF มันต่ำ จะทำให้กระแสสูง ลองเอาC มาขนานมอเตอร์ แล้ววัดใหม่จะเห็นว่ากระแสที่อ่านได้มันลดลง  แต่ค่าไฟตามบ้านไม่ลดครับ  แต่ลดเรื่องขนาดสายไฟได้เพราะแอมป์ที่วิ่งผ่านมันลดลง เรื่องไฟฟ้า AC มันมีอะไรแฝงลึกๆอยู่หลายอย่าง  แคล้มมิเตอร์นั้นไม่ใช่ว่าไม่ดี มันคือค่ากระแสที่อยู่ในสายจริงๆ  ถ้าสมมุตเล่นๆ ผมเอา C โตมากๆ เสียบปลั๊กแล้วกระแสมันไหล 20A แม้ค่าไฟจะไม่เสียแต่ก็ต้องหาสายใหญ่รองรับเท่าที่มิเตอร์มันอ่านค่าได้ จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 16:11:39

ความคิดเห็นที่ 88 ถ้าคุณมี สโคปมิเตอร์ที่สามารถเห็นเฟสแรงดันและกระแสพร้อมๆกันได้ สามารถนำมาคำนวณหาค่าความต่างเฟสเพื่อคำนวณเป็นค่า pF ได้ครับ ทำให้้ได้ค่า power ที่ถูกต้องจริงๆ จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 16:13:13

ความคิดเห็นที่ 89 ชอบจังเลยมีสรุป อิอิ (ผมอ่านไรไม่เข้าหัวเลย 55+) จากคุณ : pilioly เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 18:46:34

ความคิดเห็นที่ 90 แล้วของที่บ้านเราล่ะ เอิ๊กก แต่ของเราใช้มิซูปั๊มสีเหลืองอ่า ไม่มีมิเตอร์วัดไฟฟ้าด้วย แว๊กกก O__o จากคุณ : captchakutcher เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 21:04:15

ความคิดเห็นที่ 91 เป็นความเห็นแก่ได้ของ ผู้ผลิตสินค้า ให้ข้อมูลบนฉลากไม่ครบถ้วน บอกกำลังขาออก แรงดันไฟ บอกความถึ่ที่ใช้ แต่กลับไม่บอกค่ากระแสที่กิน? มันเพื่ออะไรนิ น่าจะมีหนทางแก้ไขอะไรได้บ้าง ไม่รู้ว่าหน่วยงานรัฐไหนที่รับผิดชอบเรื่องพวกนี้มั่ง จากคุณ : vespa744 เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 21:57:55

ความคิดเห็นที่ 92 คือ ผมอ่านมาจนถึงตอนนี้แล้วก็อยากให้ คุณapples เพิ่มข้อความสรุปผลที่หัวกระทู้ไว้ด้วยดีกว่านะครับ ว่าผลคืออย่างไร เพราะเท่าที่ผมอ่านมาและการตอบปัญหาของคุณ ลูกคุณแม่ (แม่หมูอ้วน) ก็น่าจะชัดเจนแล้ว และก็เพื่อให้คนที่เข้ามาอ่านเพียงแค่ผ่านๆ ได้เข้าใจสรุปปัญหาทั้งหมดเลย เพราะบางท่านอาจเปิดเข้ามาดูผ่านๆ แล้วก็มีอคติกับสินค้ายี่ห้อนี้ไปเลย(ซึ่งยี่ห้ออื่นก็อาจมีปัญหานี้เช่นเดียวกัน) และผมเห็นด้วยกับการที่เอาปัญหามานำเสนอ ทำให้เกิดสาระตามมาจากมุมมองและเนื้อหาวิชาการจากหลายๆ คคห. จากคุณ : พนักงานโรงงานตัวเล็กๆ เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 22:39:15 A:180.180.235.14 X: TicketID:318525

ความคิดเห็นที่ 93 อืมม  เข้ามา อ่านเอาความรู้ ด้วยที่ เรียนมา นิด หน่อยๆ ก็พอกล้อมแกล้ม เข้าใจได้ว่า จขกท สงสัย เรื่อง กำลัง 280 วัตต์ ที่ 220 โวลต์ ถ้า แฟดเตอร์ ที่ 0.6 โดยประมาณ กระแสที่ได้ควรเป็น  2.21 แอมป์  แต่ จขกท วัดได้ที่  3.56 แอมป์ ซึ่งทำให้ คิดค่า แฟกเตอร์  0.35 ซึ่งต่ำมากๆ เกินกว่าจะยอมรับได้แน่ๆ แสดงว่า ต้องมีอะไรผิดพลาด  มาจากการวัด หรือ ประสิทธิภาพปั๊ม มันแย่จริงๆ ใครจะ พิสูจน์ได้ล่ะคราวนี้   แต่ สงสัยนิดหน่อย ตอน จขกท ลองปั๊มกับทางร้าน มีการ ต่อปั๊มน้ำ รันจริงๆเลยเหรอ   จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 08:48:04

ความคิดเห็นที่ 94 ใช้ปั๊มรุ่นเดียวกัน ใช้มาประมาณ 1 ปี - วัดกระแสตอนเปิด 1 ก๊อก ได้ 2.5 A - ลองวนสาย 3 รอบ หารออกมาก็ประมาณ 2.5 A กินกระแสแค่นี้พอรับได้ครับ คำถาม - ปั๊มใช้งานมานานหรือยัง ใบพัดยังดีอยู่หรือเปล่า - ตอนทำงานปั๊มร้อนผิดปกติหรือไม่ - แรงดันไฟฟ้า อยู่ที่เท่าไหร่ตอนวัด - คุณภาพน้ำเป็นอย่างไร ต้องให้กูรูปั๊มน้ำมาสรุปแล้วละนะ จากคุณ : open-krab (open-krab) เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 10:05:37

ความคิดเห็นที่ 95 เป็นความเห็นแก่ได้ของ ผู้ผลิตสินค้า ให้ข้อมูลบนฉลากไม่ครบถ้วน บอกกำลังขาออก แรงดันไฟ บอกความถึ่ที่ใช้ แต่กลับไม่บอกค่ากระแสที่กิน? มันเพื่ออะไรนิ น่าจะมีหนทางแก้ไขอะไรได้บ้าง ไม่รู้ว่าหน่วยงานรัฐไหนที่รับผิดชอบเรื่องพวกนี้มั่ง จากคุณ : vespa744 ***** ก็บอกแล้ว การตลาดนำผลิตภัณฑ์ ในเมื่อไม่มีกฏหมายบังคับ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องบอกรายละเอียดให้หมด บอกแค่สิ่งที่จะทำให้ขายได้ก็พอแล้ว และถามว่า ผิดกฏหมายไหม ก็ตอบได้เลยว่า "ไม่ผิด" ครับ เพราะ ถ้าเอาไปทดสอบ ค่า output ที่โฆษณาไว้ ก็ทำได้ตามนั้น อยู่แล้ว ตราบใดไม่มีกฏหมายบังคับให้บอกทุกอย่างแบบเดียวกับ พวกสินค้าที่เอาไปขายในประเทศลูกช่างฟ้องละก็ ก็ต้องตกเป็นเหยื่อของการตลาดต่อไปครับ 666 ***** คห92 ก็เหมือนกับที่บอกไว้ตอนต้นนะแหละครับ   user error   แหงๆ ไม่ต่างอะไรกับในส่วนของ pantip.com/tech เลย มีมาเป็นระยะๆ บางคนไม่รู้จริงๆ ก็ช่วยกันอธิบายให้เข้าใจก็จบ แต่บางคนจะดื้อเอาตามที่ตัวเองคิดไว้ว่าถูกต้อง เช่น  คำว่า ประกัน lifetime ของพวกแรม ฯ ก็จะต้องหมายความว่า "ประกันจนกว่าคนซื้อจะตายเท่านั้น" ถ้าคนซื้อไม่ตาย ก็ต้องเคลมให้ตลอด ไม่ว่า โรงงานที่ทำจะเลิกสายการผลิตไปแล้ว ฤ โรงงานจะเจ๊งไปแล้วก็ตาม บ.ที่ขายก็ต้องรับผิดชอบแทน 666 ***** คห93 ลองดู คห94 เป็นคำตอบก็แล้วกันครับ ที่เหลือก็พิจารณาเอาเอง .......... จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 10:38:44

ความคิดเห็นที่ 96 เดินเข้ามาอย่าง งง ๆ อ่านอย่าง งง ๆ  แล้วก็ออกไปอย่าง งง ๆ  นึกว่าหลงเข้ามาหว้อกอซะอีก จากคุณ : X-Zell เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 13:42:10

ความคิดเห็นที่ 97 ผมว่าปั๊มแบบหอยโข่ง + ถังเก็บน้ำไว้สูงๆประหยัดไฟสุดครับ ประหยัดกว่านี้ก็บวกแผงโซล่ากับปั๊ม DC เข้าไปในระบบด้วย จากคุณ : Bongza เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 54 00:00:23

ความคิดเห็นที่ 98 แย่แล้วเราซื้อรุ่นนี้มาด้วยสิ เดี๋ยวมาอ่านครับ ขอบคุณที่แจ้งให้ทราบ จากคุณ : dukeniklover เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 54 04:42:44

ความคิดเห็นที่ 99 สรุปง่าย ๆ ในทางทฤษฎีถ้าจะให้เข้าใจก็อ่านเฉพาะความเห็นของ " ลูกคุณแม่ (แม่หมูอ้วน) "  แต่ในแง่ค่าไฟฟ้าที่ต้องจ่าย ง่ายๆไม่ใช้เครื่องมืออื่น ก็ต้องให้เจ้าของกระทู้ทดลองวิธีแบบชาวบ้าน ดังนี้ 1.ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด แล้วเดินปั๊มที่ว่า แล้วจับเวลา 2.สมมุติว่าเดินปั๊ม  5 นาที ก็เอาหน่วยไฟฟ้าที่มิเตอร์หน้าบ้านที่เปลี่ยนไป คูณ 5 แล้วหารด้วย 60 ก็จะได้ kw/hr (หน่วยไฟฟ้่า) 3. คูณด้วย ค่าไฟประมาณ 3.5 บาท/หน่วย   4. เทียบกับปั๊มตัวอื่นโดยทำแบบเดียวกัน ที่มีการแปะฉลากที่ใช้กำลังพอ ๆ กัน คนที่จะซื้อก็จะได้รู้ว่ามันเป็นเฉพาะ ปั๊มตัวนี้ หรือว่า ปั๊มอื่น ๆ ก็เป็นอย่างนี้ เชื่อว่าคนอ่านหลาย ๆ คน ไม่ต้องการรู้เรื่องไฟฟ้าเท่าไหร่หรอก แต่ต้องการรู้ว่าตกลงมันกินไฟ และต้องจ่ายค่าไฟมากกว่าหรือไม่ จากคุณ : yo (9-yo) เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 54 13:54:09

ความคิดเห็นที่ 100 ไม่ได้เป็นคนในวงการ ไม่รุ้เรื่องเลยง่ะ จากคุณ : ross reel เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 54 14:43:44

ความคิดเห็นที่ 101 มันก็คล้ายๆกับ ซื้อรถนะแหละ บอกแรงม้า แต่ไม่ค่อยบอกว่ากินน้ำมันเท่าไหร่ จากคุณ : ชื่อนี้ไม่มีคนรู้จัก เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 54 22:30:34

ความคิดเห็นที่ 102 อ้างอิงจาก คห.78 ทฤษฏีแน่นดีครับ ไม่มีข้อโต้แย้งทางหลักการ แต่มีประเด็นสงสัย ... โดยสภาพความเป็นจริง และอุปกรณ์ที่นำเข้าใช้งาน เรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับมิเตอร์การไฟฟ้า  kWh มิเตอร์ ของผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยทั่วไป - ใช้มิเตอร์ เป็นแบบจานหมุน ใช้กระแสเป็นตัวขับจาน ถ้ากระแสมาก จานก็หมุนเร็ว ไม่มีเทคโนโลยี่ซับซ้อน มิเตอร์ราคาไม่แพง (มิเตอร์ไม่เก่งพอที่จะแยกแยะ กำลังไฟฟ้าประเภทต่างๆได้ ตามที่ ... ลูกคุณแม่ (แม่หมูอ้วน) ... กล่าวไว้ * นั่นคือกระแสไฟฟ้าที่วัดได้ มีผลโดยตรงต่อค่าไฟฟ้า ครับ *** สงสัยว่า ไฟฟ้าคิดค่าไฟเป็น VA ไม่ใช่ kWH อย่างที่ควรจะเป็น  ... (สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยทั่วไป ครับ) *** จากคุณ : open-krab (open-krab) เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 21:08:53

ความคิดเห็นที่ 103 ยาวไปครับ อยากรู้ต่อ จากคุณ : ps000000 เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 16:07:55

ความคิดเห็นที่ 104 เห็นอยู่กับตา ยังคิดว่าไม่จริงอยู่ได้ ยี่ห้ออื่นก็ตรงไปตรงมา คิดว่าไม่จริงอยู่ได้ ให้การไฟฟ้าคิดซิว่าต้องจ่ายเท่าไร จากคุณ : bam007 เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 18:41:33

ความคิดเห็นที่ 105 104 ไม่รู้ก็อย่ามาเสนอเลย จะหลงประเด็น จากคุณ : มีสิทธิ์คิด เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 54 09:19:00

ความคิดเห็นที่ 106 คห104 มาจากไหนอีกละเนี่ย แสดงว่า ที่ข้างบนอธิบายมา ตามหลักวิทยาศาสตร์ อ่านไม่รู้เรื่องเลยละซิ 666 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 54 10:08:39

ความคิดเห็นที่ 107 102 ตามหลักการมิเตอร์จานหมุนก็สามารถแยกแยะมุมต่างระหว่างกระแสกับ แรงดันได้ครับ  ไม่เชื่อลองต่อโหลด PURE C ดูครับ (มีขายตามร้านประกอบตู้ไฟฟ้า ใหญ่ๆ) กระแสไหลแต่จานไม่ค่อยหมุน อยากรู้ละเอียดดูที่ http://www.usbr.gov/power/data/fist/fist3_10/vol3-10.pdf ยาวครับ จากคุณ : มีสิทธิ์คิด เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 54 11:39:24

ความคิดเห็นที่ 108 อ่านไป อ่านมา งงก่าเดิม เปงลม จากคุณ : beeverza เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 54 21:36:56

ความคิดเห็นที่ 109 อ้างอิง คห.107 ... 1. 102 ตามหลักการมิเตอร์จานหมุนก็สามารถแยกแยะมุมต่างระหว่างกระแสกับ แรงดันได้ครับ - ตอบ ... ไม่เถียงครับ สามารถทำได้ แต่มีราคาสูง จะใช้สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ เช่น ตามโรงงาน เป็นต้น ส่วนตามบ้านทั่วไป จะเป็นมิเตอร์อีกประเภทหนึ่ง กระแสที่ผ่านมิเตอร์เป็นกระแสรวม ทั้ง (วัตต์ และ วาร์) 2. ไม่เชื่อลองต่อโหลด PURE C ดูครับ (มีขายตามร้านประกอบตู้ไฟฟ้า ใหญ่ๆ) กระแสไหลแต่จานไม่ค่อยหมุน - ตอบ ... ไม่เข้าใจโหลด Pure C ว่าหมายถึงอะไร แต่โดยหลักการ C (Capacitor) ก็คือตัวเก็บประจุ ต้องการกระแสในการชาร์ท ตัวเก็บประจุ ในตอนแรกมากและจะค่อยๆลดลงเรื่อยๆ ในทางปฏิบัติ การ On ไฟที่ตู้เมน MDB ที่ต่อ C เพื่อแก้ไข Power factor จะต้อง Off เมน C ก่อน เพื่อไม่ให้กระแสปริมาณมากไหลเข้าระบบ ทำให้อุปกรณ์เสียหาย ... C มีหน้าที่จ่าย วาร์ ให้กับโหลดที่เป็นขดลวดเหนี่ยวนำ ที่ใช้ในการสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (ทำหน้าที่คล้ายๆถังพักน้ำ) ทำให้กินไฟฟ้าจากการไฟฟ้าลดลง นั่นคือเหตุผลของการใช้งาน C เพื่อแก้ไข Power factor ของระบบให้ดีขึ้น (ค่าไฟฟ้าลดลง) ยินดีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นครับ จากคุณ : open-krab (open-krab) เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 08:50:26

ความคิดเห็นที่ 110 109 ขอถามว่าถ้าจ่ายCap แล้วจะไม่มีกระแส Cap ใช่ไหม ถ้าบ้านคุณมี MDB ที่ติดตั้งCapBankลองเอา ClipAmp ไปจับดู ตามหลักการของคุณเป็น DC ผมไม่อยากให้คนเข้าใจผิดเรื่องไฟฟ้า และคิดว่าอุปกรณ์เครื่องวัด ที่การไฟฟ้าใช้ไม่ดีไม่ได้มาตรฐาน ถ้าข้องใจ ไปร้องเรียนที่กองเครื่องวัด ของการไฟฟ้า คุณจะเชื่อหรือไม่แล้วแต่ครับ ผมขอปิดประเด็นของผมแค่นี้ครับ จากคุณ : มีสิทธิ์คิด เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 10:18:27

ความคิดเห็นที่ 111 ดีใจที่ได้อ่านกระทู้นี้ครับ ได้ความรู้มากมาย เมื่อก่อนผมคิดว่า VA กับ Watt มันก็เหมือนกัน แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย จากคุณ : azif เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 23:57:51

ความคิดเห็นที่ 112 *********************************** ความคิดเห็นที่ 102 *** สงสัยว่า ไฟฟ้าคิดค่าไฟเป็น VA ไม่ใช่ kWH อย่างที่ควรจะเป็น  ... (สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยทั่วไป ครับ) *** จากคุณ : open-krab (open-krab) [Bloggang] เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 21:08:53 [แก้ไข] *********************************** Meter ที่ใช้ตามบ้าน  เป็น Watt-hour มิเตอร์จริงๆครับ ดังที่ทราบๆกัน มิเตอร์ไฟฟ้า แบบ จานหมุนจะใ้ช้หลักการของมอเตอร์ไฟฟ้า ในกรณีของมอเตอร์ไฟฟ้า AC เราใช้ Cap เพื่อให้เกิดการต่างเฟสของขดลวดซึ่ง ไปสร้างสนามแม่เหล็กให้เกิดการเหนียวนำให้เกิดการ ดูด-ผลัก Rotor ให้ เกิดการหมุน กรณีของ watt-hour มีเตอร์ ก็เช่นกัน จะมีขดลวดสองส่วน คือขดลวดกระแส และ แรงดัน ไปเหนี่ยวนำให้จานหมุน ขดลวดทั้งสอง ที่ถูกพันให้ต่างเฟสกัน 90 องศา ซึ่งจะทำให้จานหมุนเร็วสุด เมื่อภาระโหลดที่เป็น Resistive load(TV .. มี L นิดหน่อย) ครับ ... แต่หากภาระโหลดเป็น  Inductive load (ตู้เย็น,พัดลม) การต่างเฟสระหว่างกระแส และ แรงดันในขดลวดที่พันอยู่จะไม่เป็น 90 (PF < 1 ) ทำให้ แรงบิดที่เิกิดขึ้นที่จานจะน้อยกว่าภาระที่เป็น unity จะทำให้ จานหมุนได้ช้าลง นั่นคือแรงบินของการหมุนของจานจะขึ้นอยู่กับ ่ ขนาดของ กระแส , แรงดัน และ PF. ซึ่งก็คือ หน่วยของ กำลังไฟฟ้า( watt) และ จำนวนรอบของการหมุน(ซึ่งต่อกับ counter) จะเป็นการวัดกำลังไฟฟ้าต่อเวลา ซึ่งก็ คือ พลังงานไฟฟ้า watt-hour ครับ Note. True power = V x I x PF ----------------------------------- จากคุณ : Kai_TTL (Kai_TTL) เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 54 12:13:47

ความคิดเห็นที่ 113 คุณ Kai_TTL ... ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ... คำถามเพิ่มเติม (กรณีมิเตอร์ไฟบ้านหรือลูกค้าทั่วไปที่ใช้ kWh เท่านั้น) 1. ถ้าเป็นแบบนี้สรุปว่า ถ้าใช้มอเตอร์ขนาด Watt เท่ากัน - แบบ No-name มี PF ต่ำ เช่น 0.4 ... กินกระแสศูง - แบบ Brand name มี PF สูงกว่า เช่น 0.8 ... กินกระแสต่ำกว่า ทั้งสองแบบเสียค่าไฟฟ้าเท่ากัน ใช่หรือไม่ เพราะกินวัตต์เท่ากัน 2. อุปกรณ์ประหยัดค่าไฟฟ้าที่ขายตามแหล่งขายอุปกรณ์อิเลคทรอนิคใหญ่ หลอกลวงทั้งสิ้น ใช่หรือไม่ (อุปกรณ์ทางไฟฟ้า ไม่ใช่ทางกล) 3.พวกที่บอกว่าสามารถทำให้ลดค่าไฟฟ้าได้ ถ้าติดตั้งอุปกรณ์บางอย่างเพิ่มเข้าไป หลอกลวงทั้งสิ้น ใช่หรือไม่ (อุปกรณ์ทางไฟฟ้า ไม่ใช่ทางกล) 4. การติด Cap หรืออุปกรณ์แก้ไข Power factor ตามบ้าน ทำให้กินกระแสน้อยลง ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะไม่ช่วยลดค่าไฟ มิเตอร์อาจหมุนช้าลงได้บ้าง เนื่องจากเมื่อกระแสลดลง Loss ในสายย่อมลดลงตามไปด้วย ใช่หรือไม่ * เรื่องอุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้าหรือทำให้มิเตอร์ตามบ้านหมุนช้าลง เคยมีการพูดถึงเมื่อหลายปีก่อนว่าหลอกลวง เป็นผลทางจิตวิทยามากกว่า แต่ปัจจุบันก็ยังเห็นขายอยู่เกลื่อน ในเน็ตก็เพียบ ราคาหลักร้อย จนถึงแสน หรือมากกว่า ตามขนาดโหลด ถ้ามันหลอกลวง จะได้ช่่วยเตือนเพื่อนๆที่เข้ามาอ่าน กระทู้นี้ได้บ้าง ... อาเมน แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 54 11:39:49 แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 54 11:27:33 แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 54 10:51:19 จากคุณ : open-krab (open-krab) เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 54 10:47:28

ความคิดเห็นที่ 114 ความคิดเห็นที่ 110 (จากคุณ : มีสิทธิ์คิด) 109 ขอถามว่าถ้าจ่ายCap แล้วจะไม่มีกระแส Cap ใช่ไหม ถ้าบ้านคุณมี MDB ที่ติดตั้งCapBankลองเอา ClipAmp ไปจับดู ตามหลักการของคุณเป็น DC - งงกับข้อความครับ เราพูดถึงไฟฟ้าบ้าน ซึ่งเป็น กระแสสลับ (AC) ส่วน Cap จะทำหน้าที่จ่ายโหลด Var ให้กับระบบ ไม่ถือเป็นโหลดทางไฟฟ้า เพราะไม่ให้กำลังงานออกมา จะกินกระแสช่วงต่อ Cap เข้าระบบ เพื่ออัด Cap แต่ก็ช่วงสั้นๆ อาจกินบ้างตาม Loss ที่เกิดขึ้น ....................... ผมไม่อยากให้คนเข้าใจผิดเรื่องไฟฟ้า และคิดว่าอุปกรณ์เครื่องวัด ที่การไฟฟ้าใช้ไม่ดีไม่ได้มาตรฐาน - คุณกลับไปอ่านใหม่ซะว่า ผมบอกตรงไหนว่าอุปกรณ์ไฟฟ้า ไม่ดีไม่มาตรฐาน ประเด็นอยู่ที่ มิเตอร์ วัดเป็น kWh จริงหรือไม่ - ถ้าทำงานอยู่การไฟฟ้า หรือ มีลักษณะงานที่เกี่ยวข้อง ก็แค่ยืนยันว่ามิเตอร์เป็น kWh จริงๆ มี Data sheet การทดสอบชัดเจน ก็จะได้ตัดประเด็นข้อสงสัยออกไป ...................... ถ้าข้องใจ ไปร้องเรียนที่กองเครื่องวัด ของการไฟฟ้า - ถ้าข้องใจ ก็สอบถามไปที่การไฟฟ้าได้ เพราะการไฟฟ้าย่อมยินดีบริการประชาชนอยู่แล้ว จะต้องไปร้องเรียนทำไม เพราะมันไม่ใช่ประเด็นปัญหาหรือการกระทำผิด ................ คุณจะมาหงุดหงิดทำไม ???????? แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 54 12:03:34 จากคุณ : open-krab (open-krab) เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 54 12:02:12

ความคิดเห็นที่ 115 ตอบคุณ open-krap 1. ถ้าเป็นแบบนี้สรุปว่า ถ้าใช้มอเตอร์ขนาด Watt เท่ากัน - แบบ No-name มี PF ต่ำ เช่น 0.4 ... กินกระแสศูง - แบบ Brand name มี PF สูงกว่า เช่น 0.8 ... กินกระแสต่ำกว่า ทั้งสองแบบเสียค่าไฟฟ้าเท่ากัน ใช่หรือไม่ เพราะกินวัตต์เท่ากัน ตอบ      เพื่อให้ตรงประเด็นผมสมมุติให้ กำลังที่บอกเป็นกำลังที่ป้อนให้กับมอเตอร์นะครับ      ไม่ใช่กำลังที่ระบุไว้ตาม name plate.      คือ   มอเตอร์กินกำลังด้าน input เท่ากัน แต่มีกระแส และ PF ตามที่คุณว่า      และคำถามคือ จะเสียค่าพลังงานไฟฟ้าเท่ากันหรือไม่      ของ brand name จะมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า เนื่องจาก มี loss      เนื่องจากสายไฟที่ต่อจากตัวมีเตอร์มาหามอเตอร์ ในระบบน้อยกว่าครับ (I^2R)          หากไม่คิดเรื่อง loss เนื่องจากความต้านทานในสายไฟ มอเตอร์ทั้งสองควรจะมีค่า      ใช้จ่ายที่เ่ท่ากัน 2. อุปกรณ์ประหยัดค่าไฟฟ้าที่ขายตามแหล่งขายอุปกรณ์อิเลคทรอนิคใหญ่ หลอกลวงทั้งสิ้น ใช่หรือไม่ (อุปกรณ์ทางไฟฟ้า ไม่ใช่ทางกล)      ไม่เคยแกะดูนะครับ เคยเห็นผ่านๆ ... ต้องดูว่าใช้หลักการอะไร       เคยอ่านเจอว่ามีคนแกะดู ว่าเป็น cap อยู่ด้านใน ถ้าเป็นแบบในกรณีนี้       ก็น่าจะลดในส่วนของ loss ในสายไฟ ระหว่างอุปกรณ์ ไฟฟ้า มาหาตัว meter.       แต่ถ้าต่อกับ load ที่เป็น resistive load อยู่แล้วไม่น่าจะลดได้ ในทางกลับกัน       จะเพิ่มกระแสด้วยซ้ัา เนื่องจากกระแสในส่วน จินตภาพ สูงขึ้น       3.พวกที่บอกว่าสามารถทำให้ลดค่าไฟฟ้าได้ ถ้าติดตั้งอุปกรณ์บางอย่างเพิ่มเข้าไป หลอกลวงทั้งสิ้น ใช่หรือไม่ (อุปกรณ์ทางไฟฟ้า ไม่ใช่ทางกล)     เหมือนข้างบนนะครับ     แต่เสริมการลดพลังงานในบ้านด้วยอุปกรณ์ไ้ฟฟ้าที่ผมเห็นกันอยู่น่าจะมีประมาณว่า    1. พวกที่เป็น inverter (สร้างแรงดัน AC ขึ้นมาใหม่ให้มีความถี่ให้เหมาะสมกับภาระ)    2. พวกที่เป็น ใช้เทคนิค chop แรงดันให้มีมีค่าแรงดันเฉลี่ยน้อยลงให้เหมาะสมกับภาระ    3. พวกที่ลดขนาดกระแสรวม เพื่อลด loss ในสาย (เหมือนข้างบน)       อย่างอื่นๆก็น่าจะมีนะครับ เอาที่นึกได้       4. การติด Cap หรืออุปกรณ์แก้ไข Power factor ตามบ้าน ทำให้กินกระแสน้อยลง ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะไม่ช่วยลดค่าไฟ มิเตอร์อาจหมุนช้าลงได้บ้าง เนื่องจากเมื่อกระแสลดลง Loss ในสายย่อมลดลงตามไปด้วย ใช่หรือไม่        อันนี้ตรงกับความเข้าใจของผมนะครับ  แต่ต้องระวังเพราะว่าหาก Power factor       ดีอยู่แล้ว หรือว่า ค่า Cap ที่ขนาดเข้าไปมีขนาดมากๆ จะทำให้กระแสสูงขึ้น       ก็จะทำให้ไม่ประหยัด * เรื่องอุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้าหรือทำให้มิเตอร์ตามบ้านหมุนช้าลง เคยมีการพูดถึงเมื่อหลายปีก่อนว่าหลอกลวง เป็นผลทางจิตวิทยามากกว่า แต่ปัจจุบันก็ยังเห็นขายอยู่เกลื่อน ในเน็ตก็เพียบ ราคาหลักร้อย จนถึงแสน หรือมากกว่า ตามขนาดโหลด ถ้ามันหลอกลวง จะได้ช่่วยเตือนเพื่อนๆที่เข้ามาอ่าน กระทู้นี้ได้บ้าง ... อาเมน   เห็นด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 54 13:57:54 แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 54 13:29:34 จากคุณ : Kai_TTL (Kai_TTL) เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 54 13:28:12