ความคิดเห็นที่ 1 จ้างทนายจัดการครับ.... จากคุณ : หัวหน้าเผ่าฯ เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 23:08:00 A:1.47.38.241 X: TicketID:301517

ความคิดเห็นที่ 2 @คุณหัวหน้าเผ่าฯ ตอนนี้ก็คิดอยู่ว่าจะจ้างทนาย แต่ก็กลัวว่าถ้าฟ้องศาลเรื่องมันจะยาวไปกี่ปีก็ไม่รู้ ถ้าหากเราร้องสื่อให้สื่อช่วยจะเร็วขึ้นมั้ยคับ จากคุณ : บ้านโครงการห่วย เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 23:11:35 A:115.87.193.21 X: TicketID:113505

ความคิดเห็นที่ 3 กว่าจะฟ้องจบคงกินเวลาเป็นปี เค้าถึงเตือนกันว่า บ้านไม่เสร็จ ยังไม่ได้ตรวจรับ ห้ามโอน จากคุณ : ซาตานกลับใจ เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 23:13:39

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าออกสื่อก็น่าจะเร็วขึ้นคับ ไม่ทราบว่าตอนนี้ทาง สคบ. เรียกไปคุยรึยังคับ ถ้ายังก็ลองติดตามดูว่าจะเรียกไปคุยเมื่อไหร่ แล้วตอนทำสัญญาได้เอกสารอะไรมาบ้างคับ จากคุณ : ยากแท้ เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 23:16:13

ความคิดเห็นที่ 5 ก็ยอมรับสินค้า (รับโอน) ไปแล้วนี่ จากคุณ : Waterman (LN106) เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 23:16:21

ความคิดเห็นที่ 6 ตามสคบ.อีกทีว่าเรื่องถึงไหน ใช้เวลาเท่าไร แต่เคสคุณจขกท.หนักกว่าที่เราโดนมาอีก เป็นกำลังใจให้ผ่านไปได้ค่ะ จากคุณ : Zunma เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 23:23:38

ความคิดเห็นที่ 7 ไกล่เกลี่ยมาแล้ว แต่โครงการ มีขู่ สคบ. ด้วยอ่ะ (มันไม่กลัวเลย) แถมบอกต่อด้วยนะ ผมน่ะมา สคบ.บ่อย ส่วนเรื่องเอกสาร เรามีครบทุกอย่าง คือถ้าฟ้องก็น่าจะชนะ แต่กลัว เรื่องนาน เพราะจ่ายเงินไปแล้วหลายล้านอ่ะคับ จากคุณ : บ้านโครงการห่วย เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 23:33:01 A:115.87.193.21 X: TicketID:113505

ความคิดเห็นที่ 9 สคบ.ทำไรไม่ได้หากคู่กรณีไม่ยอม ต้องขึ้นศาลอย่างเดียวครับ ถึงต้อนนั้นโครงการได้เงินแล้วก็ อาจจะชำระบัญชีและปิดไปแล้ว จากคุณ : บองหลา เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 06:47:58

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าซ่อมเอง ค่าใช้จ่ายเยอะหรือเปล่าครับ ผมว่า เจ้าของโครงการมันไม่สนใจแล้วแหล่ะ จ้างทนายฟ้องศาล เจ้าของโครงการมันก็ส่งทนายสู้ ชนะ มันก็ไม่จ่ายอยู่ดี ดีไม่ดี ทนายรวย คุณเสียค่าจ้างทนาย แล้วยังต้องซ่อมบ้านเองอีก ผมไม่ได้แนะนำให้ยอมเจ้าของโครงการน่ะครับ แต่อยากให้ดูผลดี ผลเสีย และค่าใช้จ่าย แต่ถ้าจะฟ้องเพื่อความถูกต้อง อันนี้สนับสนุนครับ ทำให้เป็นกรณีตัวอย่าง จากคุณ : philly เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 08:22:05

ความคิดเห็นที่ 12 ขอนำประสบการณ์ตัวเองมาให้คุณดู บ้านที่เราซื้อ เป็นสำนักงานขาย เราซื้อเงินสดโอนเสร็จหลายเดือน เพื่อนบ้านมาบอกว่า บ้านหลังนี้ เคยขายให้คนอื่นเข้าอยู่มาหลายเดือนแล้ว แต่คนเก่า ไม่มีปัญญาผ่อน บริษัทเลยฟ้องขับไล่ แล้วทำเป็นสำนักงาน ก่อนขายให้เรา ตอนทำสัญญาซื้อขาย เค้ารับประกันทุกอย่างเหมือนบ้านใหม่ แต่เวลาบ้านมีปัญหา ไม่รับซ่อม อ้างโน้นนี่สารพัด สุดท้าย เราทำเรื่องต่อ สคบ. ทางสคบ.บอกกับเราว่า สคบ.มีอำนาจแค่เรียกไกล่เกลี่ย หากผู้ประกอบการไม่ยอมรับ ก็ต้องฟ้องศาลคุ้มครองผู้บริโภคต่อไป ซึ่งไม่รู้ว่า จะจบเมื่อไร เค้าแนะนำให้เราไปฟ้องศาลเอง เราไปยื่นเรื่อง โอเคมีเจ้าหน้าทำเรื่องให้ แต่ขั้นตอนในการเตรียมเอกสารค่อนข้างยุ่งยาก เราต้องมีหลักฐานความเสียหาย มีการยื่นบัญชีพยาน ประเมินความเสียหายให้มีน้ำหนักต่อการเรียกค่าเสียหายที่เรายี่นฟ้อง มีการตามเรื่อง ส่งสำนวนโน่นนี่ แถมเจ้าหน้าที่ศาล ก็ เอ่อ... ซึ่งขั้นตอนพวกนี้ ทำเราน้ำตาตก แต่เมื่อสู้แล้ว ก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุด สุดท้าย เราได้เพื่อนรุ่นน้องที่เป็นทนายช่วย ถ้าเป็นทนายที่คิดเงินปกติ ค่าใช้จ่ายคงท่วมหัวเรา เนื่องจากผู้ประกอบการเล่นแง่ ศาลเรียกไกล่เกลี่ย ก็มา แต่ขาดพยาน เอ้า เลื่อนไปอีก เรียกอีก ทนายฝ่ายโน้นก็บอกว่า ต้องขอคำปรึกษาจากคณะกรรมการบริษัท ดึงเรื่องสารพัด ซึ่งการเดินทางมาศาลของเราย่อมมีค่าใช้จ่าย จนถึงขั้นตอนขึ้นศาลชั้นต้น ศาลตัดสินให้เราชนะคดี แต่เราจิตตกไปแล้ว เพราะความเครียดสะสม เอารอ ทางโน้นอุทธรณ์ เรียกไกล่เกลี่ยอีก ผลัดอีก ต่อรองราคาลงไปเหลือ 20 %ของเงินที่ศาลให้จ่าย สารพัดขั้นตอนที่ทนายฝ่ายโน้นจะงัดมาใช้ สุดท้ายทางศาลเค้าขอกับเราว่า อย่าให้ถึงฎีกาเลย เราเลยยอมรับค่าเสียหายที่ศาลอุทธรณ์ตัดสินมา ซึ่งก็ลดลงไปอีก ซึ่งเราคิดว่า พอแล้ว เราเหนื่อยแล้ว ช่างมัน ขั้นตอนที่ว่า ใช้เวลาร่วมสามปี ซึ่งเราไปศาลทุกครั้ง เหนื่อยมาก คุณลองคิดดูว่า คุณควรทำอย่างไรกับเคสของคุณ มันอาจไม่เท่ากับของเราก็ได้ เอาใจช่วย ให้หาทางออกให้เจอค่ะ แถมอีกนิด บริษัทที่ขายบ้านให้เรา เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ มหาชนค่ะ ขอชมเชยคุณทนายของบริษัท คุณทำงานคุ้มเงินเดือนบริษัทมาก ทำได้ แม้กระทั่งเยาะเย้ย ถากถาง กดดันผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียว แมนมากๆ แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 54 11:33:46 แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 54 09:10:22 จากคุณ : ลั่นทมเขาหลวง เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 09:07:45

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นใจทุกๆ บ้านที่มีปัญหาเลยคะ ขนาดของเราปัญหาอื่น เล็กๆ น้อยๆ ยังทำเราเครียดไม่เว้นแต่ละวัน นี่ถ้ามีปัญหากับบ้านหลังน้อยของเราอย่างเพื่อนๆ สงสัย เครียดตายเลย  เอาใจช่วยนะคะ จากคุณ : จุกแสบเหลือง เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 10:30:56

ความคิดเห็นที่ 14 อย่าไปรอสื่อเรย ถ้าคุณไม่รวย สกุลไม่ดัง หรือไม่รู้จักใครใหญ่ๆโตๆ ผมกลับเห็นว่า ช่วย/พึ่งตัวเองไปก่อน ด้วยการฟ้องเรากับเค้า ไม่ต้องดึงคนอื่นยุ่ง เก็บหลักฐานเอกสาร รูปถ่าย เทปคำพูด วีดีโอไป มันอาจนาน แต่ถ้าเราเริ่มตั้งแต่ตอนนี้มันก็จะลดเวลาได้ บางทีมันอาจไม่มีทางอื่นให้ถึงจุดหมาย ถ้าจะทำก็ทำเลย จากคุณ : ptboy เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 10:44:41

ความคิดเห็นที่ 15 น่าสงสารเจ้าของกระทู้ เห็นใจค่ะ แต่ทางโครงการเค้าไม่ให้คุณตรวจบ้านก่อนโอนกรรมสิทธิ์หรือว่ามาเจอภายหลังค่ะ จากคุณ : เห็นใจ (ปวดใจ1) เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 12:15:12

ความคิดเห็นที่ 16 ลองมาชั่งน้ำหนักกันครับว่า สู้กับซ่อม อันไหน เหนื่อย หรือเสียเวลา ค่าใช้จ่ายเยอะกว่ากัน คุ้มค่าไหม ถ้าสู้แล้วชนะแต่เหนื่อย+เสียเวลานาน กับ ยอมซ่อมบ้าน ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบ้านกับค่าใช้จ่ายในการฟ้องร้องนั้นอันไหนเยอะกว่ากัน ลองดูครับ จากคุณ : ชัด เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 15:16:54 A:110.168.68.116 X: TicketID:320677

ความคิดเห็นที่ 17 ตอนนี้ที่ศาลจะมีแผนกคดีผู้บริโภคค่ะ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายด้วยนะคะ  ยิ่งถ้า จขกท. มั่นใจว่ามีเอกสารพร้อมยิ่งน่าจะง่ายค่ะ (ที่ศาลจะทำให้สะดวกสำหรับผู้บริโภคที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมค่ะ ไม่เหมือน สคบ. ที่ดูเหมือนจะเข้าข้างผู้ประกอบการมากกว่า .. อันนี้ความรู้สึกส่วนตัวที่ได้สัมผัสมาค่ะ) ที่ศาล เราแค่เล่าเรื่องและเตรียมเอกสารทุกอย่างที่คิดว่าเกี่ยวข้องไปให้พร้อมค่ะ  จะมีเจ้าหน้าที่ทำเรื่องฟ้องให้เลยค่ะ ต้องไปศาลที่อยู่ในเขตที่เราทำสัญญานะคะ  ส่วนจะเป็นศาลแพ่งหรือศาลแขวงนั้นต้องดูที่มูลค่าความเสียหายหรือมูลค่าที่เราจะฟ้องร้องจากผู้ประกอบการ  (ศาลแพ่ง มูลค่าความเสียหายมากกว่า 3 แสน ถ้ายอดเงินต่ำกว่านั้นต้องไปที่ศาลแขวงค่ะ) เราเองก็เพิ่งฟ้องบ.ศุภาลัยไปค่ะ ไปศาลมาแล้ว2ครั้ง ครั้งแรกยื่นเรื่องฟ้อง  ครั้งที่2คือนัดเจรจา(แต่คู่กรณีไม่มา) จึงต้องมีครั้งที่3ค่ะ ซึ่งศาลจะไม่ให้เลื่อนแล้วค่ะ คาดว่าน่าจะจบที่ครั้งนี้ค่ะ เพราะที่คุยกับคนอื่นๆที่เค้าฟ้องแล้วก้อชนะและจบที่ครั้งที่2หรือ3ค่ะ ลองอ่านดูค่ะ อาจจะยาวหน่อยนะคะ  เป็นเรื่องราวของเพื่อนๆโครงการศุภาลัย ซิตี้รีสอร์ท รามคำแหงค่ะ http://www.prakard.com/default.aspx?g=posts&t=382554 ขอให้โชคดีค่ะ ปล. ก่อนไปศาลต้องไปคัดสำเนาหนังสือรับรอง บ. ที่เราจะฟ้องก่อนด้วยนะคะ จากคุณ : Jaojeab เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 17:57:19

ความคิดเห็นที่ 18 มีเรื่องแบบนี้บ่อยๆ ก็ดีนะคะ คนไทยจะได้รู้จักใช้สิทธิให้มากขึ้น สิทธิ์ของเรา ต้องทำให้ถึงที่สุด จากคุณ : cat_on_a_hot_tin_roof_ เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 19:31:41

ความคิดเห็นที่ 19 คห 18 เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งสสสสสสสสสสสสสส์ ถือเป็นแบบฝึกหัดทางสมองและอารมณ์ไปก็แล้วกัน แต่ขอเน้นทางสมองนะ และต้องรวมตัวกัน พลังมันถึงจะแรงสส์สสสสสสสสสสส์ อย่าสู้เดี่ยว จากคุณ : คนชอบสะอาด เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 09:27:12 A:49.49.105.192 X: TicketID:301976

ความคิดเห็นที่ 20 หมู่บ้านนี้น่าจะบอกชื่อนะคะ จะได้ไม่มีเหยื่อรายต่อไป จากคุณ : ป้าน้องเก่ง เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 23:12:32

ความคิดเห็นที่ 21 รบกวนเจ้าของกระทู้ ลอง email มาคุยที่ chgk.fisher@gmail.com คุยในนี้ไม่สะดวกนะครับ จากคุณ : try เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 54 01:23:57 A:101.109.149.151 X: TicketID:321492

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณสำหรับกำลังใจคับ สภาพบ้านตอนนี้ถ้าให้ซ่อม กับรื้อแล้วสร้างใหม่ เลือกรื้อแล้วสร้างใหม่จะดีที่สุดคับ เพราะเสาบ้านที่ร้าว แบบสภาพน่ากลัว เริ่มตั้งแต่ชั้น 1 เลยคับ คิดว่า ถ้าอยู่ก็กลัวว่าจะถล่มคับ ส่วนเพื่อนๆที่ประสบปัญหาคล้ายๆกัน ผมก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคับ ผมคิดว่า ถ้าไม่ฟ้องศาลคงจะไม่ได้ เพราะเงินที่แม่จ่ายไปแล้ว ร่วมๆ 8 ล้านเลยคับ @Jaojeab ตอนฟ้อง ต้องผ่านครบ 3 ศาลเลยหรือเปล่าคับ แล้วเคสที่โดนนี่ตกลงได้เงินคืนมั้ยคับ จากคุณ : บ้านโครงการห่วย เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 54 11:53:42 A:58.11.69.133 X: TicketID:113505

ความคิดเห็นที่ 24 ตอบ คห23. คุณ จขกท. เราไปศาลเดียวค่ะ ของเราไปที่ศาลแพ่งพระนครใต้ เพราะในสัญญามันระบุว่า เราทำสัญญาที่ บ. ศุภาลัย ซึ่งขึ้นอยู่กับเขตอำนาจของศาลนั้นค่ะ แต่เราไปมาแล้ว 2 ครั้ง คือครั้งแรกไปยื่นเรื่องเพื่อฟ้อง  ซึ่งเราจะต้องเตรียมเอกสารประกอบทุกอย่างที่คิดว่าจะใช้ฟ้องได้  รวมทั้งต้องไปคัดหนังสือรับรอง บ. ที่เราจะฟ้องด้วย (ขอคัดสำเนาแล้วใช้ได้ไม่เกิน2 อาทิตย์ค่ะ) พอยื่นเรื่องให้เจ้าหน้าเค้าก็จะทำสำนวนคำฟ้อง (เราเรียกไม่ค่อยถูกนะ) ซึ่งจะ copy เป็น 4 ชุด คือ 1.ให้เรา  2.ให้ศาล 3.ให้บ.(ซึ่งคือจำเลย) 4.จนท.เค้าเก็บไว้ 1 ชุด จากนั้น  จนท. เค้าจะพาไปยื่นเรื่องเพื่อนัดวันฟังคำพิจารณาคดี (ซึ่งก็คือการมาศาลครั้งที่ 2)   ครั้งที่ 2   เราไปเพื่อฟังคำพิจารณาจากท่านผู้พิพากษา แต่ปรากฎว่า ทนายจำเลยไม่มาค่ะ ส่งคนมายื่นเรื่องขอเลื่อนพร้อมเอกสารประกอบการขอเลื่อน  ซึ่งศาลท่านก้อให้เลื่อนแต่กำชับไปว่า ครั้งหน้าไม่เลื่อนแล้วค่ะ เพราะเราขอไปว่า เราเสียเวลางานมาค่ะ (บางกรณี ถ้าจำเลยไม่มาเราอาจขอให้ศาลพิจารณาไปเลยได้ค่ะ  อันนี้ต้องไปอ่านในรายละเอียดตาม link ที่บอกไว้ใน คห.17 นะคะ) ซึ่งส่วนใหญ่จะจบในครั้งที่ 3 ค่ะ และของเรานัดเป็นต้นเดือนหน้าค่ะ (น่าจะจบนะคะ ถ้าเค้าไม่อยากจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะเราเรียกร้องไปให้คิดดอกเบี้ยถึงวันจ่ายจริงค่ะ และทุกคนก้อเรียกร้องไปแบบนี้ค่ะ ถ้าเค้ายื้อเค้าจ่ายช้าเราก้อได้ดอกเบี้ยเพิ่มค่ะ) ปล. การไปศาลครั้งแรกควรไปแต่เช้านะคะ เผื่อกรณีที่เอกสารเยอะ จนท. เค้าจะได้เตรียมให้ทันภายในวันเดียวค่ะ และคุณอยากเรียกร้องอะไรบ้าง ขอให้ระบุไปเลยตั้งแต่ครั้งแรกค่ะ เจ้าหน้าที่เค้าจะได้ทำเรื่องไปให้ครบเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 54 16:50:38 จากคุณ : Jaojeab เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 16:37:41