ความคิดเห็นที่ 1 ในฐานะ เคยทำสินเชื่อ...... ต้องทำให้คนพิจารณาเชื่อได้ว่าคุณมีรานได้พอ เช่น รานได้ 40,000 บาท แต่ฝาก ไม่เคยถอน 15,000 ทุกเดือน  มองได้ว่า มีความสามารถผ่อนได้ ไม่เกิน 15,000 เพราะที่เหลือ คุณไม่มีการเข้าระบบฯ โดยปกติ เค้าจะคำนวน รานได้ หักค่าใช่จ่าย การผ่อนรถและอื่น ของคุณด้วย แล้วเอาเงินที่คุณเหลือ เป็นเกณฑ์   เรื่องการดาวน์  เหมือนดาวน์ รถนะครับ  แต่ที่ต้องผ่อน เพราะ เงินค่าบ้าน มันสูงกว่า รถมากมาย  แล้วแต่กติกาที่โครงการทำ  โดยปกติแล้ว จะให้ผ่อนจนครบจำนวนที่ต้องการ   คุณจะจ่ายเลยก็ได้ ( ไม่แนะนำให้ทำ ) เมื่อจ่ายค่าดาวน์ครบแล้ว คุณต้องจ่ายเงินที่เหลือ นั้นแหละ ที่บางคนกู้ธนาคารนะครับ  ต้องพอดีกัน หากเป็นธนาคารที่สนับสนุนโครงการ จะรู้งานดี รับโอนต้องเสร็จแล้วเท่านั้น แต่ต้องตรวจงานแบบละเอียด  ในกรณีที่คุณซื้อแน่นอน ต้องหมั่นเข้าไปดู ตอนสร้างเพราะเค้ากำลังทำ คุณจะเห้นความเรียบร้อยต่างๆ หรือไม่นั้น ต้องดูให้ดี บางคนผอม เพราะเครียด ที่เจองานห่วยๆ กรณีคุณต้องหาcase อ่านมากๆ  ให้ดีที่สุด ในยุคนี้ ให้ซื้อบ้านเสร็จแล้ว ใหม่ๆ  หรืออาจซื้อต่อจากคนอื่นที่ไม่ได้อยู่  คุณจะเห็น สิ่งแวดล้อม สภาพ ต่างๆ ได้ดี   เพื่อนผมเอง ก็ยังโดนเลย รีบโอนบ้านแบบมีเงื่อนไขการรับงาน เพราะตัวเองจะประหยัดค่าโอน สามหมื่น ตอนนี้เครียด เพราะบ้านมีปัยหา โครงการก็ไม่ดูแลแล้ว ทั้งที่มีสัญญาในการซ่อม จากคุณ : TheRed2008 เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 54 07:57:15

ความคิดเห็นที่ 2 จขกท. อาชีพเดียวกะเราเลยค่ะ คล้ายๆ กัน   ของเราเพิ่งกู้ผ่านไปค่ะ แนะนำให้ จขกท. ทำรายรับ - รายจ่าย ของกิจการ เก็บเอกสาร พวกใบเสร็จรับเงิน แนบ หัก ณ ที่จ่าย หรือ กรณีมี PO สั่งซื้อ ก็แนบไว้ด้วยกันเป็นชุดๆ ตอนยื่นกู้เราถ่ายเอกสารทุกอย่าง ให้ ธ. กระทบกับยอดใน book bank ว่ามีการโอนเงินมาจริง ของเรา ธ. ขอ สรุปรายรับ - รายจ่ายของเราย้อนหลัง 2 ปี ค่ะ (กู้ ธอส. ) จากคุณ : sanois เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 54 11:03:32

ความคิดเห็นที่ 3 เราก็ทำธุรกิจส่วนตัวเหมือนกัน เท่าที่ยื่นเอกสารให้แบ็งค์นะคะ มีทะเบียนพาณิชย์, สเตทเม้นย้อนหลัง 6 เดือน,รูปถ่ายหน้าร้าน(ถ้ามี) , บิลซื้อของ บิลขายของ  ประมาณนี้ค่ะ   ส่วนเรื่องซื้อบ้านก็คือ ถ้าบ้านยังไม่เสร็จ เค้าจะให้เราจอง แล้วทำสัญญา, แล้วก็ผ่อนดาวน์จนกว่าบ้านจะเสร็จแล้วถึงยื่นเรื่องกู้แบ็งค์ค่ะ  (ระหว่างที่เราผ่อนดาวน์เค้าก็จะสร้างบ้านไปเรื่อยๆ)   ถ้าแบ็งค์ผ่านแล้ว เราก็ไปโอนบ้าน  เวลาไปโอนบ้านเราไม่ได้จับเงินหรอกค่ะ ทางแบ็งค์กับโครงการเค้าจัดการเอง  นอกจากยอดกู้เราได้เกินราคาบ้าน  แบ็งค์ก็จะจ่ายเช็คเราต่างหากค่ะ  อันนี้เป็นประสบการณ์ของเรานะคะ จากคุณ : treehome เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 54 14:29:21

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะครับ มีประโยชน์มากคับผม ........................................... ถามต่อนะครับ ที่คุณ treehome บอกว่า ผ่อนดาวน์จนกว่าบ้านจะเสร็จแล้วถึงจะยื่นเรื่องกู้แบ็งค์ แล้วถ้ากู้แบ็งค์ไม่ผ่านล่ะครับ บ้านก็สร้างเสร็จแล้ว เงินดาวน์ก็จ่ายไปแล้ว แล้วแบบนี้จะทำอย่างไร เรื่องการฝากเงินเข้าธนาคารนะครับ คือถ้าผมเอาเงินเข้า 40,000 แล้วถอน มันจะดีกว่า เอาเงินฝาก 20,000 แต่ไม่ถอนไหมครับ แบบไหนดีกว่ากัน เงินหมุน หรือเงินนอน จากคุณ : i5z เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 54 14:48:25 A:223.207.118.173 X: TicketID:321498

ความคิดเห็นที่ 5 ของเรานะ 1. จ่ายตังค์จอง 5000 บาท 2. มาจ่ายค่ามัดจำวันทำสัญญาซื้อบ้าน โดยทำสัญญาจะซื้อจะขายว่าหากกู้เงินไม่ผ่านโครงการจะคืนเงินทั้งหมดให้เต็มจำนวน ในสัญญามีเขียนว่าเราต้องจ่ายอะไรบ้างวันรับบ้าน และโครงการมีของแถมอะไรให้บ้าง 3. จ่ายเงินดาวน์ไปเรื่อย ๆ ตามกำหนดระยะเวลาที่โครงการกำหนด ระหว่างนี้ก็เข้าไปดูบ้านเป็นระยะ ๆ บ้านที่เราซื้อเป็นบ้านที่ยังสร้างไม่เสร็จ ต้องคอยหมั่นเข้าไปดู ไปตีซี้ช่างก่อสร้าง คนคุมงานและเซลล์ 4. บ้านใกล้เสร็จประมาณ 80% เซลล์จะแจ้งให้เราจัดเตรียมเอกสารการยื่นกู้ให้เรียบร้อย เรามีอาชีพค้าขายสิ่งที่ต้องเตรียมคือ     * สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน     * สำเนาทะเบียนการค้า (ควรมี)     * สำเนาการชำระภาษี (ถ้ามี)     * สเต็ทเม้นท์ ที่มีในชิวิตทุกแบ้งค์เอามาให้หมด     * ถ่ายรูปหน้าร้านค้าส่งไปให้เขาด้วย (แม้ตอนหลังเจ้าหน้าที่จะต้องเดินทางมาถ่ายใหม่ด้วยตัวเขาเองก็ตาม แต่เราทำเพื่อเสริมความอลังการให้ตัวเอง 555)     * สมุดรายการขาย 5. เจ้าหน้าที่แบ๊งค์เดินทางมาสัมภาษณ์และดูหน้าร้าน ตรวจสอบเอกสารอีกครั้ง 6. รอคอยผลอนุมัติ 7. อนุมัติผ่านปิดซอยเลี้ยงฉลอง เดินสายแก้บน (ถ้ามี) 8. เข้าไปตรวจตราความเรียบร้อยของบ้านถี่ขึ้น ๆ อยากได้อะไรนอกเหนือจากนี้ เช่นต่อเติม ปรับเปลี่ยนอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ติดต่อเซลล์ให้ประสานงาน 9. เมื่อบ้านเสร็จเรียบร้อย เข้าไปตรวจรับบ้านก่อน มีตรงไหนต้องแก้ไข เอากระดาษเขียนแปะตรงที่มีปัญหาไว้เลย ถ่ายรูปเก็บไว้ หรือเขียนสำเนาเก็บไว้กับตัวเองอีกอัน 10. ตรวจรับอีกที สมมติว่าโอละรับได้แล้ว โครงการติดต่อแบ๊งค์ไปโอนบ้านกันที่ที่ดิน 11. กำสำเนาโฉนดกลับบ้าน กอดเสาบ้านแน่น ๆ 1 ครั้ง ที่เหลืออยากต่อเติม ซื้อเฟอร์ ติดเหล็กดัดอะไรต่อก็ได้ตามอัธยาศัย 12. พร้อมแล้วเข้าอยู่....เป็นอันเสร็จพิธี จากคุณ : รวมกันตายหมู่ เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 54 17:12:26

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณคัุบผม จากคุณ : i5z เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 14:37:29 A:223.206.209.222 X: TicketID:321498

ความคิดเห็นที่ 7 ช่วยตอบเป็นบางข้อนะคะ > 2.2 แล้วเมื่อเรากู้ผ่านเขาถึงจะเริ่มสร้างบ้านให้หรือสร้างบ้านตอนไหน แล้วต้องรออีกกี่เดือนบ้านถึงจะเสร็จ ส่วนใหญ่เราจะกู้ผ่านไม่ผ่าน เขาก็จะสร้างบ้านตามแบบไปเรื่อยๆค่ะ เพียงแต่ถ้ากู้ไม่ผ่าน เขาก็จะคืนเงินให้ แล้วนำบ้านที่กู้ไม่ผ่านไปปล่อยขายใหม่ ส่วนที่ว่าต้องรออีกกี่เดือนบ้านถึงจะเสร็จ ก็แล้วแต่โครงการค่ะ ถ้าเป็นบ้านสร้างเสร็จก่อนขาย ก็จะได้บ้านเลยไม่ต้องรอ จากคุณ : เจ๊ว่าแล้ว เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 14:54:37