ความคิดเห็นที่ 1 กระทู้ข้างเคียงตอนนั้นเมื่อ 1 เดือนที่แล้ว http://www.pantip.com/cafe/home/topic/R10591898/R10591898.html จากคุณ : วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 07:42:16

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วไงต่อคะ ตกลงได้ซื้อแล้วยังอ่ะ เห็นตั้งหัวข้อกระทู้เหมือนซื้อแล้วและชีวิตเปลี๊ยนไป๋ จากคุณ : ซอด้วง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 08:22:36

ความคิดเห็นที่ 3 คอนโด donkey may song พหลโยธิน ใช่ไหมครับ จากคุณ : 1 (huthut) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 08:27:45

ความคิดเห็นที่ 4 กำ   สุดท้ายสงสัยไม่ซื้อแล้วมั้งนั่น อิอิ.... ดีนะไม่เปลืองไม่เครียดจ้าาาาาา จากคุณ : ck2122 เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 09:00:24

ความคิดเห็นที่ 5 เอ่อออออ... "ปริศนาทุกอย่างมันเฉลยว่าทำไม ยังไม่ถามราคาสักคำ พี่แกบอกต่อรองได้ ลดให้ได้ ขอให้มาดูห้องก่อน" ู^ ^ มันก็น่าจะเป็นปกติทั่วๆ ไปนะคะ คนขายของบางทีก็อยากให้มาดูของก่อน ต่อรองราคา หรือไม่เค้าก็ต้องราคาเผื่อไว้แล้ว เลยต่อรองได้ จากคุณ : จุกแสบเหลือง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 09:02:08

ความคิดเห็นที่ 6 ที่นี่มีประวัติก็หาที่อื่นสิ คอนโดไม่ได้มีที่เดียว คอนโดเราก็มีคนกระโดดลงมาเหมือนกัน แต่คนละตึก เราก็ไม่ได้สนใจอะไรนะ จากคุณ : iriguci เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 09:37:01

ความคิดเห็นที่ 7 แค่ตึกที่โดดลงมาผมไม่กลัวครับ ขอแค่ไม่ใช่ห้องที่โดดก็แล้วกัน จากคุณ : treser[*_-] เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 09:49:45

ความคิดเห็นที่ 8 "งง"หัวข้อกระทู้ กับเนื้อหา เกี่ยวกันยังไง จากคุณ : Dior Homme เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 10:02:38

ความคิดเห็นที่ 9 คอนโดเก่าที่เคยอยู่ เคยได้ยินว่า เคยมีคนยิงกันตายบนดาดฟ้า เรื่องพนัน อีกห้องด้านบน มีข่าวฆ่าแล้วเอาศพใว้ ข่าวมันนานมาแล้ว แต่ผมอยู่อย่างมีความสุขนะ ผมว่า อยู่คอนโดเรื่องพวกนี้เรารู้ก็ดี แต่ที่น่าจะสนใจมากกว่าคือ สังคมของคนที่อยู่อาศัยคอนโดนั้นมากกว่า เพราะเราจะเจอกับเค้ามากกว่าผีแน่ๆ จากคุณ : brainsick เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 10:09:33

ความคิดเห็นที่ 10 เห็นด้วยกับคห.8 แล้วจะตั้งกระทู้ทำไม อ่านแล้วหงุดหงิด จากคุณ : มิคกับมาค เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 11:23:38

ความคิดเห็นที่ 11 เหอะๆ แถวรัชดาหรือปล่าวคะ เราเคยหาข้อมูลคอนโดมือสองเหมือนกัน มีอยู่ที่นึงพอ search ข่าวอาชญากรรม เจอคนกระโดดลงมาตายถึง 3 รายเลยอะ เรางี้กลัวไม่กล้าซื้อคอนโดมือ 2 เลยอะ แต่คิดๆแล้ว เรื่องมีคนตาย ตึกไหนที่สร้างมานานๆ ก็คงจะมีทั้งนั้นแหละมั้งคะ เราก็เลยซื้อคอนโดสร้างใหม่ที่ไม่แพงมากเอา แล้วก็ทำใจไปด้วย อิอิ จากคุณ : oil_pika เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 11:34:19

ความคิดเห็นที่ 12 ยังเล่าไม่จบมังคะ..... จากคุณ : Cordia เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 11:41:50

ความคิดเห็นที่ 13 แสดงว่าเฮี้ยน ถ้าแค่กระโดดแล้วไม่เจออะไร เรื่องคงเงียบไปนานละ จากคุณ : แนะนำด้วยครับ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 11:43:59

ความคิดเห็นที่ 14 เราว่า จขกท คงจะเข้ามาเล่าต่ออ่ะ เห็นมี ภาค 1 นี่ คงมี 2,3, 4 ต่อ จากคุณ : แนน (unchalee) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 11:57:32

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่ใช่ตึก เดียวกัน หรือชั้นเดียวกัน ก็ยังตัดสินใจ ซื้อนะคะ แต่ถ้า เป็นตึกเดียวกัน ชั้นเดียวกัน คงขอบายค่ะ ปล.เกรงใจเค้าค่ะ  เพราะเค้าอยู่มาก่อน คับที่อยู่ง่าย กลัวผีแล้วอยู่ยากค่ะ Y_Y จากคุณ : onlycat เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 12:01:21

ความคิดเห็นที่ 16 ลัลดาแลนด์สักหลังไหม? ขายต่อถูกๆ 55 จากคุณ : moshita เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 12:06:45

ความคิดเห็นที่ 17 ต่อจาก OP นะครับ ------------------------------------------------------------------------------------ หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ความคิดก็เริ่มตีวงแคบเรื่อยๆ โดยมีความตั้งใจจะซื้อต่อจากโครงการเท่านั้น และจากที่ทำการบ้านโดยการอ่าน search จากเน็ต มีโครงการใน watch list ประมาณ 10-20 โครงการ อยู่ในบริเวณพื้นที่ที่ต้องการ มีประมาณ 3-4 โครงการที่ชอบมากทันทีเมื่อแรกรู้จัก ห้องขนาดกำลังดี ตกแต่งไสตล์สุดโปรด มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สองตามองภาพตรงหน้าเคลิ้มจนนึกไปถึงตอนได้เข้าไปอยู่ จะทำอย่างโน้น จะแต่งอย่างนี้... ในที่สุดก็ไม่รอช้ารีบสะบัดตูดออกจากเตียงบึ่งไปที่โครงการพร้อมกับฮัมเพลงในคอด้วยความหวัง "..คิดเอาไว้ ว่าใช่! ต้องใช่แน่ๆ.." พอไปถึง สองเท้าเก้าเข้าไป เซลส์ต้อนรับขับสู้อย่างดี น้องคนนี้ขอเรียกว่าน้อง MJ  เธอเป็นคนที่สวยมาก ฉลาด ฉะฉาน ไหวพริบเยี่ยม  โดยดูจากการโต้ตอบ ตอบคำถามที่ผมเตรียมไปเป็นกระบุง โดยได้รับทราบรายละเอียดโครงการ floor plan, unit plan จนพอใจ น้อง MJ ก็ขอตัวพาชมห้องตัวอย่าง ฉับพลันก้าวแรกที่ย่างเท้าเข้าไปในห้องนั้น ผมสัมผัสถึงความรู้สึกอบอุ่นประหลาดขึ้นในใจ บางทีอาจเป็นฝันสักคืนใดคืนหนึ่งที่ยังคงเหลือค้างอยู่ในซอกสมอง ภาพเดจาวูของสีห้อง สีผนัง แสงไฟที่สาดส่องกระทบเฟอร์นิเจอร์ ผมไม่อายเลยที่จะบอกว่า ผมรักห้องนี้ ผมค่อยๆ ละเมียดนิ้วลงบนท็อปกระจก แล้วลากผ่านไปยังปลายอีกด้าน ในขณะที่สายตาก็กวาดไปทั่วห้องด้วยความประทับใจ อยากจะขนกระเป๋าเข้าอยู่วันนี้เลย ทันใดนั้นเสียงน้อง MJ คนสวย ก็เสียดลอดบรรยากาศดื่มด่ำ "ท้อปนี้ของจริงเป็นแสตนเลสนะคะ" "อ้อ..เฟอร์อันนี้จริงๆ จะไม่ได้ให้นะคะ อันนี้แต่งไว้เฉยๆ" "พื้นที่ห้องจริงๆ จะเล็กกว่านี้นิดนึงนะคะ แต่การจัด layout ยังเหมือนเดิม)" บลา บลาๆๆๆๆ หัวสมองผมตื้อ CPU ในสมองจัดแจงดึงโปรแกรมโฟโต้ชอป ขึ้นมารีทัชภาพที่ตาเห็น ลบเอาโน่นออก บีบภาพแคบเข้ามา แล้วตีเส้นใหม่ จับตะแคง แล้วแต่งภาพ background ข้างนอกนั่น จินตนาการถึงชื่อวัสดุที่ไม่รู้จัก แล้วยัดมันลงในช่องว่างภาพ เสียงเธอยังคงก้องในหัว "อันนี้จะได้เป็น...หรือเทียบเท่า" "ส่วนอันนี้ก็จะเป็น...หรือเทียบเท่า" ในที่สุด ผมก็ยอมแพ้ ต้องออกมาตั้งหลักอีกครั้ง พร้อมๆกับความกังวลใจที่ไม่คุ้นเคย นี่ผมกำลังจะเป็นหนี้หลายล้าน เพื่อซื้อฝัน..ที่มันยังไม่เป็นจริงใช่ไหม จากคุณ : วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 12:56:56

ความคิดเห็นที่ 18 กทม.มีคนยิงตาย มีคนโดนชนตายมากมาย ผมก็ยังอยู่กทม. เขตผม ก็มีคนโดดตึกตาย คนจมน้ำตาย คนโดนไฟไหม้ตาย ผมก็ยังอยู่เขตผม ซอยบ้านผม มีคนตีกันตาย มีคนยิงกันก็มี ผมก็ยองอยู่ในซอยบ้านผม บ้านข้างๆก็มีคนตาย ผมก็ยังอยู่ในบ้านผม ตรงที่ผมนอน หลายพันปีก่อน ก็มีไดโนเสาร์ฆ่ากันตาย มีมดกัดกันตาย ผมก็ยังนอนหลับสบาย คอนโดใหญ่ๆมีคนงานตายเป็นเรื่องปรกติ แม้จะเป็นคอนโดใหม่ก็ไม่รอด อย่าว่าแต่คอนโดมือสอง ทุกที่มีสิ่งเวียนไหว้ตายเกิด  เราอยู่ด้วยใจ ใช้ชีวิตไม่ประมาท จากคุณ : densin เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 13:14:04

ความคิดเห็นที่ 19 เหมือนกำลังเขียนนิยายชีวิตให้อ่าน....ประมาณนั้น.... จากคุณ : klint77 เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 13:29:14

ความคิดเห็นที่ 20 เจ้าของกระทู้ำกำลังสื่อว่ากว่าจะมีบ้านหลังหนึ่งต้องผ่านอุปสรรคเล่ห์เหลี่ยมนานานับประการทั้งคอนโดมือสองและคอนโดสร้างใหม่ จะพรีเซนต์แต่สิ่งดีๆแง่มุมสวยหรูส่วนด้านมืดหรือปัญหามักจะหมกเอาไว้ต้องค่อยๆคุ้ยแคะหากันเอาเองจ้า... เอ้า...ว่าแต่ว่าจะมาต่อเมื่อไหร่พ่อหนุ่มมีคนรออ่านเน๊อ555 จากคุณ : ลุงกร เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 15:00:12

ความคิดเห็นที่ 21 รออ่านต่อเหมือนกันค่ะ จากคุณ : Nu*EyE*zA เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 15:59:20

ความคิดเห็นที่ 22 รอด้วยอีกคนนะคะ จากคุณ : Shine pure (Shine pure) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 16:47:02

ความคิดเห็นที่ 23 รอด้วยอีกคนนะคะ จากคุณ : Neon_Leon เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 16:54:00

ความคิดเห็นที่ 24 อืมม   อ่านแล้ว คิดดาม ห้องมีประวัติ ถ้าราคา ถูกเหลือเชื่อก็ น่าสน นะ ทำบุญเยอะๆเอา จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 17:21:08

ความคิดเห็นที่ 25 รออ่านๆๆ ชอบตรง "CPU ในสมองจัดแจงดึงโปรแกรมโฟโต้ชอป ขึ้นมารีทัชภาพที่ตาเห็น ลบเอาโน่นออก บีบภาพแคบเข้ามา แล้วตีเส้นใหม่ จับตะแคง แล้วแต่งภาพ background ข้างนอกนั่นจินตนาการถึงชื่อวัสดุที่ไม่รู้จัก แล้วยัดมันลงในช่องว่างภาพ" เห็นภาพเลยค่ะ ^_^ จากคุณ : it's always you เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 18:12:05

ความคิดเห็นที่ 26 รออ่านอยู่นะคะ^^ จากคุณ : takai1987 เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 18:37:58

ความคิดเห็นที่ 27 รออ่านนะครับ กำลังมองหาคอนโดอยู่พอดี จากคุณ : คนนั้นไง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 18:48:24 A:110.77.180.173 X: TicketID:308480

ความคิดเห็นที่ 28 ตอนนั้นดูโฆษณาในทีวี อยากได้นิดๆ พอไปดูของจริง โหยยย สระว่ายน้ำนี่ เหมือนรีสอร์ทเล้ยย น่าสนมาก ได้แต่เช็ดน้ำลายอย่างเดียว ผ่านไปไม่กี่เดือน พี่สาวมาบอกว่า ชั้นซื้อต่อเค้าไว้ สองห้อง เลยได้ขโมยพี่สาวมาห้องนึง พอพ่อมาเห็น ก็เกิดชอบ เลยอนุมัติให้ซื้อเป็นของตัวเอง 1 ห้อง สารภาพค่ะ ว่าเกิดมา ไม่คิดว่าจะได้ซื้อคอนโด แต่ตอนนี้ มีหนี้แล้ว อีกไม่เกิน 3 ปี หนี้ก้อนนี้ก็ควรจะหมด ขอบคุณป๊ะป๋า รักป๋าวุ๊ย จากคุณ : Pyramid เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 19:18:20

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณทุกคน โดยเฉพาะลุงกรนะครับ ต่อจาก 17 นะครับ ------------------------------------------------------------------------------------ หากจะบอกว่าความกังวลใจนี้เกิดจากความกลัวก็คงไม่ผิดนัก ถึงกระนั้นก็ตาม ในใจลึกๆ ก็คิดถึงน้อง MJ เอ้ย โครงการนั้น ตลอดเวลา ความรู้สึกตอนนั้นใจมันกระเดียดไปทางซื้อ...70% อีก 30% ไม่ซื้อเพราะนึกไปถึงปัญหารุมเร้า ของจริงไม่เป็นอย่างที่ฝัน โครงการล่าช้า บลา บลา ชั่วข้ามคืน... ความรู้สึกอยากซื้อลดลงเหลือไม่ถึงครึ่่ง หลังจากที่เอาไปเพ้อให้รุ่นพี่ฟัง และได้คำสอนมาหนึ่งประโยค "ลองไปดูหลายๆที่ก่อน  อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจ" จิ้งจกร้องยังทัก นี่คนตัวเป็นๆ ที่เคารพรัก ทัก เลยต้องมานั่งทบทวนตัวเอง เออเนอะ..ทำไมเราต้องรีบตัดสินใจซื้อเนี่ย พอลองลำดับเหตุการณ์ ก็วิเคราะห์ได้ว่าคงเป็นเพราะ ใจที่ต้องการเป็นทุน บวกกับประสบการณ์ที่น้อยนิด พอไปเจอคำของเซลส์ ความคิดด้านบวกก็ยิ่งถูกขยาย ส่วนความคิดด้านลบค่อยๆถูกขจัดหายด้วยการให้ข้อมูลของเซลส์ ระหว่างที่เซลส์ให้ข้อมูล ก็ inception เราด้วยความคิดที่เราอยากเชื่อ มันเลยกลายเป็นฝันซ้อนฝัน จ๊ากก ไม่ใช่ เออ แต่มันก็คล้ายๆนะ ความฝันที่ไม่จริงพยายามแหวกฝ่าทะลุสู่มิติความจริง พูดให้เขียนง่ายๆคือ นี่กรูกำลังฝันกลางวันนั่นเอง พอสติมา ปัญญาเกิด ฉับพลันก็ลงมือวางแผนเส้นทางกางกระดาษแผ่นใหญ่ แล้วแต้มโครงการใน watch list ทั้ง 20 อัดลงไป แล้วแบ่งในใจว่า เสาร์นี้จะไปเก็บโซนนี้  วันอาทิตย์จะไปเก็บโซนนั้น ตามตัวอักษรบรรทัดแรก "หากจะบอกว่าความกังวลใจนี้เกิดจากความกลัวก็คงไม่ผิดนัก" เมื่อได้เดินสำรวจทั้ง 10 กว่าโครงการ (บางโครงการไปถึงก็ไม่ต้องชมเลย) ค้นพบสัจธรรมหนึ่งอย่างคือ ความกลัวขจัดได้ด้วยความรู้ การได้ไปเห็นโครงการจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญญาจากการเปรียบเทียบ การสังเกต ข้อดี ข้อเสีย ข้อพึงระวัง ข้อปลีกย่อยทั้งสำคัญและไม่สำคัญ ที่ไม่เคยรู้มาก่อน และสิ่งสำคัญที่สุดของการตัดสินใจซื้อคือ ข้อมูล ข้อมูล และ ข้อมูล ข้อมูลที่ถูกต้อง!! จากคุณ : วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 22:01:58

ความคิดเห็นที่ 30 ต่อจาก 29 ------------------------------------------------------------------------------------ ข้อมูลเรื่องคอนโด มีมหาศาลบนเว็บ และมีประโยชน์เยอะมากๆๆๆๆๆ แต่!!!  มันไม่ค่อยถูกเรียบเรียง ตั้งแต่กระบวนการแรก จนถึงกระบวนการสุดท้าย ตั้งแต่ภาพใหญ่ ไปจนถึงรายละเอียดเล็กน้อย ดังนั้นจึงต้องทำการบ้านอย่างหนัก โดยเฉพาะสำหรับคนที่ขี้กลัวอย่างเรา เอาเฉพาะแซมเปิ้ลพอเป็นน้ำจิ้มครับ ลองหาข้อมูล เจ้าของโครงการต่างๆ ผลงานในอดีต จรรยาบรรณ คุณธรรม การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะเจ้าของโครงการมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการส่งมอบที่ตรงตามที่ให้ไว้กับลูกค้า หรือความจริงใจต่อการแก้ปัญหาในอนาคต พอหาแล้วภาพมันจะผุดขึ้นมาเลย บางคนบางทียังแอบคิดในใจว่า โอ๊ยยย เจ้าของนี้เหรอ ไอ้ขี้โกง หรือบางเจ้าได้ยินชื่อก็ร้องยี้!!!ฮ่า แต่ก็มีเจ้าของโครงการที่ไม่มีประวัติสักเท่าไรเลยเหมือนกัน ประมาณว่าอารมณ์ตลาดอสังหาฯ กำลังบูม  ก็เฮโล ลงมาเล่นด้วย บอกตรงๆ ถ้าเจอเจ้าของโครงการแบบนี้ มีเสียวววว ไม่รู้จะออกหัวหรือก้อย อย่างโครงการของน้อง MJ เนี่ย แทบไม่มีผลงานในอดีตเลย ลอง search ดูเจอแต่ประวัติเจ้าของว่าโคตรเจ้าชู้ (ไม่รู้มีจีบน้อง MJ บ้างหรือเปล่า) นอกจากข้อมูลเจ้าของ ข้อมูลของบริษัทก่อสร้าง ตั้งแต่เจาะเสาเข็ม ก่อสร้างตัวตึก ลามไปถึงเทคนิคทางวิศวกรรม ลองไปหาดู เจอเพียบ แถมไม่ใช่เราคนเดียวที่ศึกษา ยังมีเพื่อนหัวอกเดียวกันจำนวนมากติดตาม วิเคราะห์ ลงไปถึงการก่อสร้าง การออกแบบ เขียนวิเคราะห์กันเป็นหน้าๆกระดาษแล้วแบ่งปัน เชื่อเหอะครับ  ข้อมูลมีให้หาได้เรื่อยๆ ยิ่งหายิ่งเป็นความรู้ ยิ่งรู้ ยิ่งมีประสบการณ์ อย่างเช่น สมัยแรกเมื่อก่อนดูแค่ทำเลโครงการ ที่ตั้ง การจราจร ต่อมา ดูไปถึงที่ดิน ทางเข้าออก  กรรมสิทธิ์ ภาระจำยอม การจำนอง ฯลฯ ลึกไปกว่านั้นมองไปอนาคตว่าทั้งหมดจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ หากเปลี่ยนจะกระทบอย่างไร สิ่งต่างๆเหล่านี้ เป็นสิ่งที่คนมีประสบการณ์ดูแค่ชั่วตดจางก็เข้าใจ แต่คนอย่างเราที่เริ่มจากศูนย์ หากไม่เร่งศึกษา ไหนเลยจะได้สมปรารถนา วันแล้ววันเล่า เวลาผ่านไป (2 สัปดาห์) ความรู้ค่อยๆ เติมเข้าสู่หน่วยความจำ พร้อมจะดึงมาให้ใช้ได้ยามต้องการ 2 สัปดาห์ที่ตะบี้ตะบัน อ่าน อ่าน แล้วก็อ่าน ไปดูโครงการ โน่น นี่ นั่น เออเว้ย...ชักมีความรู้ เดี๋ยวนี้เวลาถาม ชักจะ รุก ไล้ เลิฟ เซลส์ จนบางทีความจริง มันก็ค่อยๆเผยอ ออกมา ตัวอย่างเช่น ทั้งโครงการเกือบพันยูนิต ห้องหลายล้าน แต่ออกแบบเหมือนแฟลต ถามหาฟิตเนสกี่ตารางเมตร สระว่ายขนาดเท่าไร ตอบไม่ได้ โอเค...ไม่เป็นไร ที่จอดรถกี่คันครับ "50% ครับ"  เซลส์รีบตอบฉับพลันราวกับจะชดเชยคำถามที่ตอบไม่ได้ก่อนหน้า คิดเป็นกี่คันครับ เป็นซองกี่คัน ซ้อนคันกี่คัน แต่ละห้องสิทธิ์กี่คัน fixed ตำแหน่งกี่คัน เอารถเข้าใช้คีย์การ์ดหรือสติ๊กเกอร์ บลาๆ "..."  เซลส์งง คงพลางนึกในใจ มรึงจะถามอะไรนักหนา บางโครงการเซลส์บางคน ก็เชียร์หูดับตับไหม้ อยากขาย อยากปิดยอด อยากได้... เรา:  (จะดูห้อง A) เซลส์:  (เชียร์ขายห้อง B บอกข้อดีสารพัด) เรา:  อันนี้ติดที่ทิ้งขยะ ไม่เหม็นหรอครับ เซลส์:  ไม่เหม็นคะ มีประตูปิด เรา:  (จะดูห้อง A) เซลส์:  (เชียร์ขายห้อง C บอกข้อดีสารพัด) เรา:  อันนี้มันใกล้ลิฟท์ เสียงจะดังไหมครับ เซลส์:  ไม่ดังคะ ใกล้ลิฟท์ดีนะคะ ขึ้นลงก็ใกล้ ขนของก็ง่าย เหยดดดดด (ขออุทานหน่อยนะครับ) แบบนี้เรียกว่าเชียร์ไม่ลืมหูลืมตา ถาม A จะขาย B C ทั้งหลายทั้งปวงที่ช่วยให้เรามีความรู้ มีข้อมูล เราจะได้รู้ว่า เวลาเซลส์บอกอะไรมา  จริงๆ แล้วเขาต้องการอะไร เวลาเซลส์ตอบอะไร เราจะได้รู้ว่า เป็นการตอบจริงหรือมั่วนิ่ม เวลาเซลส์โกหก ปัดๆไปก่อนขอให้ขายได้  เราจะได้รู้ว่าเรากำลังโดนหลอก เพราะผมขอฟันดะ!! ว่าเซลส์คือจุดอ่อน (ที่เราพึงควรระวัง) อย่างไรก็ตามถึงแม้จะหาข้อมูลจนเริ่มมั่นใจในตัวเอง เริ่มมีความรู้ เริ่มเก่งขึ้น และไม่ตกเป็นเหยื่อเซลส์(ที่ไม่ดี) อีกแล้ว แต่สุดท้ายผมก็ตายเพราะเซลส์อยุ่ดี เพราะจากที่เจอเซลส์มาเป็น 20-30 คน จากหลากหลายโครงการ หัวใจของผมหยุดอยู่ที่น้อง MJ แล้ว แม้โครงการของเธอจะไม่ได้ไปต่อก็ตาม!! แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 54 23:06:43 จากคุณ : วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 22:58:24

ความคิดเห็นที่ 31 ที่เล่ามานี่แนว คอมโมดี้ หรือหนังผี จะได้ Built อารมณ์ได้ถูก จากคุณ : เด็กเกาะสมุย เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 23:51:48

ความคิดเห็นที่ 32 จะเข้ามาบอก จขกท.ว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก คนที่คิดจะซื้อบ้านหรือคอนโด ที่ดิน ควรต้องหาข้อ มูลเบื้องหลัง(เบื้องหน้ามีเยอะแล้ว) ก่อนจะตัดสินใจจ่ายเงิน เพราะของมันไม่ใช่ถูกๆ ซื้อแล้ว ก็ยังต้องเจอปัญหาอีกจิปาถะ ถ้าเราได้พิจาราณาถี่ถ้วนแล้ว จะได้ไม่ต้องมานั่งด่าตัวเองทีหลัง ถือได้ว่าเราได้ทำหน้าที่ครบถ้วนแล้ว อะไรจะเกิดก็เกิด เราก็ทำเหมือนกับจขกท.ค่ะ แต่เรามะมีเงินเดือน แบงค์ไม่ปล่อยกู้ งานนี้จ่ายเงินสดลูกเดียว จากคุณ : พะแนงหมูไข่ดาว เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 01:27:27

ความคิดเห็นที่ 33 แล้วก็หายไปซะดื้อๆ -*- จากคุณ : กล้วยไส้ข้าวเหนียว เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 02:46:13

ความคิดเห็นที่ 34 ต่อจาก 30 ครับ ------------------------------------------------------------------------------------ เวลาผ่านไปร่วมเดือน นับจากวันแรก ที่ตัดสินใจจะซื้อคอนโด สิ่งที่ได้กลับมีแค่ รู้จักแต่ละโครงการ มีความรู้เพิ่มบ้างเล็กน้อย กับเบอร์น้อง MJ แต่ยังไม่มีวี่แวว จะเจอโครงการที่ใช้กับยูนิตที่ชอบ ทว่าครั้งนี้กลับไม่เร่งรีบ ไม่กลัว ค่อยๆ เลือก ค่อยๆ ดู ทำให้ค่อนข้างสบายใจเวลาไปโครงการแต่ละที่ แล้วในที่สุด..พรหมลิขิตก็บันดาลชักพา ให้คนคนนึง กับห้องห้องนึงมาเจอกัน...อย่างบังเอิญ สาย ๆ ของวันอาทิตย์ มุ่งตรงไปโครงการเป้าหมาย ซึ่งชอบโครงการนี้เพราะเจ้าของโครงการเคยทำไว้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะโครงการที่เพื่อนซื้อไว้ หลังจากที่ก้าวเท้าเข้าไปสำนักงานขาย ผู้จัดการขายออกมาต้อนรับและพาชม ตัวอาคาร การก่อสร้าง การออกแบบ ขนาดห้อง ทำเลห้อง ทำให้รู้สึกตื่นเต้นและประทับใจ ยิ่งเป็นโครงการที่ส่วนตัวให้ความเชื่อถือแล้ว  เวลาฟังข้อมูลมันทำให้เชื่อได้ ดูเสร็จลงมาเลือกยูนิต ขอใบราคา สิ่งเดียวที่ทำให้ลังเลคือ ทำเลของโครงการ ถ้าดูในแผนที่ถือว่าโอเคมาก แต่ปัญหาคือโครงการเข้าออกไม่สะดวก (แถมแถวนั้นสภาพการจราจรติดขัดหนักเข้าขั้น) เซลส์(ผู้จัดการขาย)พยายามปิดการขาย โดยยกเรื่องโปรโมชั่นส่วนลด แถมเฟอร์ บลาๆๆๆ โปรโมชั่น วันนี้วันสุดท้าย!!! มันยิ่งทำให้ลังเลมาก แต่ทุกครั้งที่ลังเล กังวล ไม่แน่ใจ อย่าเพิ่งทำอะไรในตอนนั้น  ต้องตั้งสติแล้วถอยออกมาตั้งหลัก ถามตัวเองว่าต้องการอะไร และใครเสนออะไร  และข้อเสนอไหนคุ้มค่าที่สุด อย่าทำอะไรในขณะที่ไร้สติ!! แล้วก็ตัดสินใจถูก เพราะพอดูไปเรื่อยๆ โปรโมชั่นก็จัดกันทุกสัปดาห์ ทุกเดือน มากบ้างน้อยบ้าง ตามสภาพการขาย สิ่งที่จะหมดไปเรื่อยๆ ของจริง คือห้องที่ถูกจอง ถ้าโครงการใดโครงการหนึ่งขายดีเป็นที่ต้องการมาก ห้องทำเลดีๆ จะถูกเลือกไปเรื่อยๆ ถ้าเราตัดสินใจช้า ห้องทำเลดีจะไม่เหลือ แล้วในที่สุด  แม้จะราคาซื้อเดียวกัน โปรโมชั่นเดียวกัน โครงการเดียวกัน แต่ทำเลยูนิตจะเป็นตัวที่ทำให้แตกต่าง ยูนิตที่ขายไม่ออก จะถูกนำมาจัดโปรโมชั่น เพราะฉะนั้นสุดท้าย ต้องเปรียบเทียบหาความคุ้มค่าให้เป็น ความคุ้มค่ามาจากประโยชน์ที่ได้รับ เทียบกับเงินที่ต้องจ่าย ยูนิตเดียวกัน คนซื้อต่างกัน ประโยชน์ที่ได้รับก็จะต่างกัน นั่นคือเหตุผลที่ทำไมบางห้องคนนึงชอบ อีกคนไม่ชอบ สรุปว่า...ออกมาตั้งหลัก พักขา หาข้าวกิน กะว่ากินเสร็จแล้วยังชอบ จะกลับเข้าไปทำสัญญาจอง ระหว่างกินก็นึกขึ้นได้ว่าแถวนี้ยังมีอีกหลายที่ ก็เลยแวะไปดูเสียหน่อย ซึ่งโครงการนี้ไม่มีห้องตัวอย่าง!!! แต่เป็นห้องจริงเลย เพราะสร้างเสร็จแล้ว เปิดขายมาพอสมควร แต่ยังเหลือยูนิตอยู่ และบางยูนิตกำลังทำโปรโมชั่น พอเห็นโปรโมชั่นแล้วตะลึงเลย  อยากได้มากกกก เซลส์ก็พาชมห้องจริงแต่ละยูนิตที่เหลือ ในใจพลางนึก "เฮ้ยยย โอเคเลย" มือพลางล้วงเงินเตรียมควักจ่ายจอง ความกังวลเรื่องจะสร้างตรงกับที่บอกไว้ก็ไม่มี เพราะนี่สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่รายละเอียดบางส่วน เราก็ถามๆๆ ตามฟอร์ม เซลส์ก็ตอบๆๆ ดูจากการตอบของเซลส์ รู้เลยว่า เป็นคนเขี้ยวลากดิน และเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว แต่ด้วยความที่คุยกันถูกคอ และมีลูกล่อ ลูกชน ด้วยกันทั้งคู่ เซลส์ก็เผยเบื้องหลังห้องที่ทำโปรโมชั่นแสนดึงดูดมา เราก็เลยเห็นบางข้อที่มองข้ามไป ก่อนอื่นต้องเกริ่นถึง กลุ่มเป้าหมายโครงการนี้ว่า เป็นกลุ่มพวกไม่ชอบความแออัด ชอบความเงียบสงบ สบายๆ มีความเป็นส่วนตัวสุง ภายใต้ทำเลที่เยี่ยม แต่ปัญหาหลักๆ ของห้องที่ทำโปรโมชั่นคือ ห้องที่กำหนดราคาขายไว้แพงมาก ทว่ามันกลับไม่เป็นไปตามแนวคิดโครงการที่ว่าเงียบสงบ เป็นส่วนตัว เพราะมันเป็นทางพลุกพล่าน ทางสัญจร เชื่อไหมว่า กับคนที่ยอมจ่ายในราคาแพงเพื่อซื้อความเป็นส่วนตัว แค่สายตาคนเดินผ่านที่สอดเสือ.. หรือ เสียงที่เล็ดลอด แค่นั้นก็อึดอัดแล้ว เอากับมันสิ... ดังนั้นห้องราคาเดียวกันแต่เป็นห้องทำเลสงบก็ขายออกหมด เหลือไม่กี่ยูนิต แต่ห้องสัญจรเหลือมากพอสมควร เลยต้องมาจัดโปรโมชั่นเช่นนี้แล ถามตัวเอง..เออเว้ย กรูกระเดียดไปทางสันโดษ จะอยู่ห้องแบบนี้ดีไหม แถมการออกแบบการใช้สอยของห้อง มัน ด๋อย มาก!! เซลส์ที่ฉลาดแล้วแพรวพราวเหมือนน้องเขี้ยว (ชื่อในวงการที่ตั้งให้เธอ) ดูปราดดดเดียวก็คงคิดเหมือนกันว่าไอ้นี่มีตังค์ (ตอนหลังคงช็อคหลังจากเห็นสลิปเงินเดือน ฮ่าๆ) เธอเลยเสนอให้เราเอาห้องที่ดีกว่า แม้ไม่ได้จัดโปร ถึงตอนนี้...ไม่มีอะไรจะเขียนอธิบาย เลยขอยก....ประโยคนี้ที่เคยเขียนจากกระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/home/topic/R10695616/R10695616.html แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 54 09:35:53 จากคุณ : วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 09:25:50

ความคิดเห็นที่ 35 จบในวันนี้มั้ยครับ กำลังติดตามอ่านอยู่ เหอๆ ^ ^ จากคุณ : magicstone เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 11:00:54

ความคิดเห็นที่ 36 จบงงมาก จากคุณ : tannonball เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 11:04:46

ความคิดเห็นที่ 37 ยังจบไม่ได้วุ๊ยพ่อหนุ่ม...สมาชิกเค๊ารออ่านว่าตกลงเลือกลงตัวที่ไหน...เพราะอะไรถึงเลือก...แม๊...อ่านๆดูเหมือนเป็นตัวแทนพวกวิตกจริตคิดละเอียดละเมียดละไมใจกังวลจริงๆ555 ผมเองตอนแรกก็ออกแนวลังเลๆประมาณนี้ล่ะครับ แต่เวลาหาเจอถูกใจควักการ์ดรูดแหม่บทันทีทันใดใช้เวลาไม่กี่นาทีตัดสินใจเลยก็เพราะตระเวณดูมาเยอะนั่นเอง ประสบการณ์จะสอนเราให้ตัดสินใจแม่นยำและเฉียบขาดยิ่งขึ้นจ้า...เพราะฉะนั้นซื้อบ้านต้องใจเย็นสตางค์หายากเน๊อ... แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 54 12:01:16 จากคุณ : ลุงกร เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 11:53:07

ความคิดเห็นที่ 38 ทำไมมันเพลินเช่นนี้ รอติดตามอยู่เน้อ จากคุณ : ตั้งยากจัง เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 18:37:13

ความคิดเห็นที่ 39 ต่อจาก 34 ครับ (จะเอาให้จบองค์ 1 ให้ทันก่อนไปอังกฤษวันอาทิตย์ครับ) ------------------------------------------------------------------------------------ จะเหลือหรือครับ!! (จัดเต็มไป) ห้องพร้อม ตังค์พร้อม ผมก็จับเธอหมั้นไว้ก่อนเลย เพราะวันที่ไปดูมีลูกค้าเดินให้ขวักไขว่ แถมสภาพเทียบกับผม แต่ละคนดูไฮโซ โหงวเฮ้งอย่างกับเทพโชคลาภ ถ้าผมช้าอีกนิดเดียว..เกรงว่าวันนี้คงจะยังนั่งเลือกคอนโดอยู่เลย แต่คนเบี้ยน้อยหอยน้อยอย่างผม อยากได้ของดีราคาถูกก็ต้องใช้ความสามารถเยอะหน่อย เพื่อให้ราคาต่ำลงมาอีก ก็เข้าสู่กระบวนการต่อรอง แน่นอนว่าถ้าไม่ได้ก็คงเอาอยู่ดี ตรงนี้ไม่ขอบอกรายละเอียดการต่อนะครับ ใครอยากรู้เคสผมก็หลังไมค์ได้ แต่เอาเป็นว่า ถ้าโชคท่านดี และรู้ช่องทาง รู้จุดยืนของโครงการ เซลส์ และตัวเราเอง อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ (จะรู้จุดยืนของโครงการ เซลส์ ท่านว่าใครจะบอกเราครับ...หึ หึ  ใช่ครับ เซลส์นั่นเอง) สรุปว่าเดินออกจากโครงการมาฟ้าครึ้มพอดี ความรู้สึกตอนนี้... ก็ไม่ต่างกับฟ้า ความรู้สึกหนึ่งดีใจจะมีบ้าน อีกความรู้สึกหนึ่งทุกข์ใจจะมีหนี้หลายล้าน และที่สำคัญเกินงบที่ตั้งใจไว้ไปมากโข (เกินเพราะขนาดพื้นที่ห้อง) เพราะตอนเลือกตระเวน เลือกดูโครงการครั้งแรกๆ ตั้งงบที่ราคากำลังเบาๆ กับขนาดห้องกะทัดรัด ทว่าพอดูไปหลายๆ โครงการ เราก็รู้สึกเองว่า พื้นที่กว้างขึ้นอีกนิด แต่สุขขึ้นอีกเยอะ อีกอย่าง ผมถือหลักการ เงินที่จ่ายซื้อบ้านแล้ว ยังเท่ากับซื้อเพื่อนบ้านไปในตัวด้วย (แน่นอนว่าไม่ได้หมายรวมถึงนิสัยของเพื่อนบ้านนะ) ตอนต่อจากนี้คือนัดวันตรวจจุดบกพร่องแก้ไข เพื่อให้ฝ่าย after sales ไปแก้ห้องให้สมบูรณ์เรียบร้อยให้พร้อมโอน ใครที่ไม่เคยซื้อคอนโดนะครับ ขอให้ทราบไว้เลยว่า ขั้นตอนสำคัญที่สุดในกระบวนการซื้อคอนโดคือการโอน โปรดฟังอีกครั้งหนึ่งว่า ขั้นตอนสำคัญที่สุดในกระบวนการซื้อคอนโดคือการโอน สาเหตุเป็นเพราะ มันเป็นจุดเปลี่ยนของทุกสิ่งทุกอย่าง มันเปลี่ยนให้คุณที่เป็นเทวดากลายเป็นหมาได้ตัวหนึ่ง หรือเปลี่ยนสาวสวยนิสัยดี ให้กลายเป็นยัยตัวร้ายกับนายกระจอก หรืออย่างเลวร้ายที่สุดมันอาจจะเปลี่ยนบ้านในฝันแสนอบอุ่น กลายเป็นก้อนทุกข์ในอกคุณไปได้อีกหลายสิบปี และในการโอน ทั้งเซลส์ ทั้งคนแก้งาน ทั้ง banker ล้วนแล้วแต่อยากให้โอนเร็วๆ ตอนเช้าหย่อนก้นนั่งลงเก้าอี้ที่โต๊ะทำงาน กดปุ่ม start คอมพิวเตอร์ หน้าจอคอมยังไม่ทันติด หน้าจอมือถือก็โชว์สายน้องเขี้ยวโทรเข้ามา "น้อง...ขาาาา  ทางการเงินจะตั้งเรื่องโอนขอเป็นวันจันทร์นี้ได้ไหมคะ?" ผมฟังแล้วควันแทบออกหู "เฮ้ยย พี่เขี้ยวครับ  ผมนัดตรวจห้องกับน้องม่วนวันอังคารนะครับ  พี่ได้คุยกับม่วนหรือยัง?" แหม ถามแบบนี้ มรึงเอาบัญชีกรูไปถอนเลยไป (ถึงเอาไปถอนก็ไม่มีตังค์ ฮาาาา) ห้องยังตรวจรับไม่เสร็จจะให้โอนเสียแล้ว   เขี้ยวนะเขี้ยว คุยกันมาดีๆ จะเล่นกรูซะแล้ว . . . จริงๆ แล้วก็ไม่ได้ลำบากใจอะไร ถ้าจะโอนวันนี้เพราะรายการแก้ไม่เยอะ และน้องม่วนก็ทั้งตั้งใจและจริงใจ ช่วยติดตามงาน แม้จะไม่สมบูรณ์เต็มร้อยแต่ถือว่าช่วยได้เยอะ เลยไม่ค่อยห่วงอะไร แต่ที่รับไม่ได้คือ การเร่งรีบให้ลูกค้าโอนโดยลัดขั้นตอนตามที่ควรเพื่อประโยชน์ตนมากกว่าลูกค้ามันดูไม่จริงใจ ตลอดเวลาในช่วงนี้ เซลส์น้องเขี้ยว ก็จะคอยมาติดตามให้เราทำโน่นทำนี่ เพื่อจะได้โอนเร็วๆ ทั้งออด ทั้งอ้อน ทั้งขู่เข้ม สารพัดสารเพ จะขนมา แต่ประโยคเดียวที่เธอได้ยินคือ "พี่เขี้ยวครับ ผมน่ะพร้อมแล้ว  ห้องพี่น่ะพร้อมหรือยัง!!  พี่กลับไปดูห้องให้ผมไป ไม่ใช่โทรหาผม" เขี้ยวฟังแล้วอึ้ง แต่เชื่อเถิด เธออึ้งแค่ครึ่งวัน แล้วก็โทรมาเหมือนเดิม ฮ่วย!!! แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 54 19:48:52 จากคุณ : วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 19:42:24

ความคิดเห็นที่ 40 ต่อจาก 39 ------------------------------------------------------------------------------------ เรื่องที่บอกว่าการโอนคือขั้นตอนสำคัญที่สุด เอาจริง ๆ แล้ว ถ้าเตรียมพร้อมดี การโอนมันก็แค่ขั้นตอนธรรมดา ๆ ขั้นตอนหนึ่ง แต่ที่มันไม่ธรรมดา เพราะปัญหาอยู่ที่คน ถ้าใครโชคดีเจอคนที่มีปัญหามาก ขั้นตอนธรรมดาก็ดูจะวุ่นวายขึ้นมาในบัดดล การเตรียมการสำคัญก่อนวันโอนอีกอย่างคือเรื่องกู้แบงก์ โชคดีที่ผมพอจะมีความรู้อยู่บ้าง แถมโชคดีขึ้นไปอีกที่มีเพื่อนแสนดีหลายคนทำงานธนาคาร พูดแล้วก็ขอขอบคุณ เพื่อนสาวน้อยฯ (ขออนุญาตไม่เอ่ยนาม เพราะยังไม่ได้ขออนุญาตเจ้าตัว) ที่อนุเคราะห์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก กระบวนการในการขอสินเชื่อจึงไม่ใช่เรื่องให้ห่วง แต่ผมรู้ว่ามีคนอีกจำนวนมากที่โชคไม่ดี ที่ไม่มีเพื่อนดีๆ หรือคนที่รู้จัก ไม่มีความรู้ลึกซึ้งเท่าทัน ไม่มีโอกาส หลายครั้งหลายหน หลายคนที่ถูกมัดมือชก ไม่ชี้แจงข้อมูลทั้งหมด หรือจงใจบิดเบือน เล่นเล่ห์คำพูด หรือทำให้หลงเชื่อ คิดไปว่าเป็นเช่นนั้น เช่นนี้ ยิ่งสินค้าเป็นบริการเงินกู้ เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ยาก ซับซ้อน และเกี่ยวข้องกับการคำนวณที่คนปกติจะต้องศึกษามากๆ ถึงจะเข้าใจ และยังมีหลายคนที่ยังไงก็ยังคงไม่เข้าใจ แต่ถึงแม้ไม่เข้าใจก็ยังจำต้องใช้ เพราะความจำเป็นมันค้ำคอร์... ดังนั้นหากใครไปพบคนที่กำลังจะกู้ แล้วเขาไม่รู้ เขาไม่เข้าใจ มาถามท่านหรือหาคนช่วย หากท่านรู้ก็โปรดช่วยตอบด้วยเถิดครับ  อย่าเบื่อที่จะช่วยกันตอบ เพราะคนกู้ไหนเลยก็ทุกข์อยู่แล้วที่จะต้องแบกภาระหนี้ บ้างก็กลัวไม่ผ่าน บ้างก็กลัวได้ไม่ถึง บางครั้งพออนุมัติมา ก็คิดค่าโน่นนี่นั่น บังคับทำนั่นนี่ ถึงอย่างนั้น คนกู้บางคนยังต้องจำใจยอมรับ ดังนั้นหากใครมีความรู้ก็ช่วยๆ กันมาแบ่งปัน แล้ววันนึงคนที่ไม่รู้ พอมีประสบการณ์ก็จะกลายมาเป็นผู้ให้บ้าง กลับมาแบ่งปันผู้กู้รายใหม่ๆ จะได้รู้เท่าทัน.. เพราะเทียบกับคนกู้ที่แทบไม่มีอะไร ธนาคารกลับมีทุกอย่าง มีฝ่ายกฎหมาย นิติกรรมสัญญา มีฝ่ายวิเคราะห์ ฝ่ายการเงิน ล้วนแล้วแต่จบมาสูงๆ หรือมีประสบการณ์ ที่จะช่วยให้ธนาคารได้ประโยชน์มากที่สุด นี่คือเหตุผลว่าทำไมผมถึงอยากให้ทุกคนช่วยกัน ซึ่งครั้งเมื่อผมคำนวณดอกเบี้ย คิดโน่นนี่นั่น ก็เคยเอามาแปะไว้ เผื่อใครมาอ่านเจอ จะได้หยิบไปใช้ http://www.pantip.com/cafe/home/topic/R10667789/R10667789.html http://www.pantip.com/cafe/home/topic/R10641058/R10641058.html ข้อมูลสำคัญอีกอย่างในการกู้คือ ถ้าเรากู้กับแบงก์ที่ดีลกับโครงการไว้  จะขออนุมัติง่ายกว่า มากกว่า และเร็วกว่าการ walk in ทั่วๆไป สาเหตุเป็นเพราะ โครงการกับธนาคาร เขาเจรจากันไว้แล้ว ธนาคารบางทีมาที่เดียวก็ประเมินไว้เลยทุกยูนิตทั้งโครงการ ดังนั้นพอส่งเอกใบสมัคร 3 วันก็อนุมัติได้เลย เพราะราคาประเมินมีแล้ว ตรงข้ามถ้าเราไปขอสินเชื่อธนาคารอื่น กว่าจะส่งคนมาประเมินก็กินเวลาไปอีกนานนน แต่จริงๆแล้วมันมีเบื้องหลัง ลึกลับซับซ้อน ซ่อนเงื่อน อีกมาก ที่เดี๋ยวจะค่อยๆ เล่าให้ฟัง ตอนกู้มีแบงก์ที่ดีลกับโครงการไว้ 4 แห่ง ผมจัดไป 3 อีก 1 ขอลองไปส่งเองข้างนอก ก่อนอื่นเพื่อให้เห็นขั้นตอน เวลาเรายื่นกู้กับธนาคารที่ดีลกับโครงการ ก็จะกรอกใบสมัครขอสินเชื่อ เตรียมเอกสาร แล้วเอาไปเซลส์ นำส่งต่อเจ้าหน้าที่สินเชื่อ ส่วนถ้าส่งเอง ก็ต้องทำเหมือนกัน เพียงแต่ไปติดต่อเจ้าหน้าที่สินเชื่อข้างนอกเอาเอง แต่ปัญหาที่พบกับการที่เราไป walk in เอง คือต้องการเอกสารสำเนาโฉนด สำเนากรรมสิทธิ์ห้องชุด สำเนาเอกสาร สำเนาจะซื้อจะขาย บลา บลา ที่เกี่ยวกับห้องที่ซื้อ โอเค..รอแป๊บ เดี๋ยวจัดให้ "พี่เขี้ยวครับ ขอเอกสาร...(ตามที่ธนาคารจะเอาไปประเมิน)...ครับ" "อ๋ออ น้อง...ใช้ใบสัญญาจะซื้อจะขายได้เลยค่ะ" "เอ่อ แต่ธนาคารจะเอาใบนั้นครับ" "อ๋ออ ไม่จำเป็นต้องใช้ค่ะ แค่สัญญาจะซื้อจะขายก็ใช้ได้แล้วค่ะ" เหยยดดดดด..ตกลงนี่ใครเป็นเซลส์ ใครเป็นสินเชื่อเนี่ย ผมงงไปหมดแล้ว ณ จุดจุดนั้น ทำให้ได้แต่รู้ผล pre-approve จากคุณสมบัติคนกู้แค่นั้น แล้วมันก็จบแค่นั้น ซึ่งผมเองก็ไม่เข้าใจในขั้นตอนเท่าไร โอเค..ไม่เป็นไร ยังมีลุ้นกับที่ยื่นผ่านโครงการอีก 3 ซึ่ง pre-approve กันมาหมดแล้ว มี 1 ธนาคารที่ขอปรบมือดังๆให้ คือ พี่แก จัดมาหมดทั้งวงเงิน ทั้้งเรท รู้หมดภายในถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 3 ถึง 5 วัน ไม่แน่ใจ แต่นึกในใจ "พี่แน่จริงๆ ครับพี่" ส่วนอีก 2 ที่ ไม่ถือว่าช้านะ แต่มีที่นึงเจ้าหน้าที่สินเชื่อห่วยแตกมาก ขอเรียกว่าพี่ด๋อยนะ เพราะพี่ "ด๋อย" ค่อดๆ พี่ด๋อยมักจะอ้อนวอนให้ใช้สินเชื่อกับแก (เป็นคนเดียวในสามคน) ทั้งๆ ที่เรทพี่แพงสุด แถมถามคำถาม พี่ก็ตอบไม่ได้ และมีอารมณ์เสียใส่ผม พออีกนาทีผ่านไป พี่่ก็กลับมาเสียงอ่อนเสียงหวานอ้อนวอนขอให้ใช้กับพี่ พี่ครับ...พี่เป็นคนเดียวที่ดูไม่จริงใจเลย แต่คนสุดท้าย คนนี้เป็นขวัญใจผมกันเลยทีเดียว ขอเรียกว่าน้อง หวานใจ  (คุณแฟนมาอ่านแล้วอย่ามีเคือง เพราะเขียนให้เห็นว่าน้องเขาทำงานดีจริงๆน่อ) น้องหวานใจ เป็นน้องใหม่ที่ทำงานได้เอ๋อเหรอมาก แต่ผมไม่เคยโกรธเลย แถมเอาใจช่วย และคอยอำนวยความสะดวกสุดฤทธิ์ บางครั้งเกิดความผิดพลาด ไม่เข้าใจ เธอก็จะตามมาแก้ไข แม้ตัวเองจะต้องลำบากมากแค่ไหน ดูเป็นคนมีความรับผิดชอบ และเอาใจใส่ ผมให้สิบเต็มสิบเลย ถ้าเทียบกับที่แรก ที่นี่อนุม้ติช้าสุด แต่ถึงแม้ช้า มันก็ชนะเว้ยเฮ้ยย โดยปัจจัยที่ฟันธงที่ทำให้ธนาคารเต่านี้ชนะคือวงเงินและอัตราดอกเบี้ยที่ทำให้ผมพอใจ แถมในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่เอ๋อๆ อย่างน้องหวานใจ ก็ชนะเอาใจผมไปทั้งดวง (แล้วที่ว่าหัวใจเอ็งหยุดที่น้อง MJ ละ ลืมแล้วเรอะ!!) หลังๆ พอได้สนิทคุยกับหวานใจ จึงได้ข้อมูลส่วนหนึ่ง บวกกับข้อมูลที่ตัวเองเจอ รวมถึงกับคำพูดของเซลส์บางอย่าง จึงจับข้อมูลได้ว่า เซลส์โครงการ (บางคน) มีการเรียกรับเงินจากเจ้าหน้าที่สินเชื่อ โดยถ้าส่งเคสลูกค้าให้แล้วผ่าน ก็ต้องมี อิ๊อ๊ะๆ นิดหน่อย และเป็นการเรียกลับเฉพาะ ไม่อยากให้เพื่อนเซลส์หรือหัวหน้ารู้ เซลส์โครงการ (บางคน) อยากให้ลูกค้าอนุมัติผ่านกับธนาคารที่ตนเองเล็งไว้ ทำทุกอย่างเพื่อให้อัตราการอนุมัติสูงขึ้น หรือให้ได้วงเงินสูงๆ ไว้ก่อน ในขณะเดียวกัน หากธนาคารไหนที่เซลส์ไม่อยากให้ผ่าน ก็จะทำทุกทางให้อัตราการอนุมัติต่ำลง และได้วงเงินน้อยๆ เรทสูงๆ (ส่วนทำอย่างไรนั้น ผมขอไม่เอ่ยถึงวิธีการ) ข้อมูลที่เล่านี้ ไม่ยืนยันความถูกต้อง คนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีและหูเบา(อย่างผม) ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ขณะอ่าน โอเค...ถึงจะมี ก็ไม่แปลกใจเลย... เพราะเหตุการณ์หลายอย่าง มันก็ฟ้องตัวมันเองอยู่แล้ว ผมถามน้องหวานใจว่าแล้วที่อื่นละ..มีไหม น้องหวานใจไม่ตอบ ได้แต่ทำหน้าอายๆ  เศร้าๆ T-T แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 54 02:20:30 จากคุณ : วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 54 02:05:59

ความคิดเห็นที่ 41 ต่อจาก 40 จบตอนนี้ไม่อยู่หลายวัน เอาเป็นว่าอีกสักสัปดาห์จะมาต่อองค์ 2 นะครับ ------------------------------------------------------------------------------------ เรื่องโอน พอเตรียมพร้อมเสร็จสรรพ ก็สบาย ก่อนโอน ใครต่อใครที่เคยโทรหาเรา เคยง้อเรา พอโอนแล้ว เขาก็ปิดเคสเรา ก็ไปยุ่งวุ่นวายกับลูกค้ารายต่อไป ดังนั้นหากใครจะให้เขาทำอะไรก็เอาให้หมดก่อนโอน เพราะโอนแล้ว เขาอาจจะให้ความสำคัญเรื่องของเราอันดับหลังๆ นั้นคือเหตุผลว่าทุกอย่างทำไมหลังโอนแล้วมันดูล่าช้าไปหมด ใครที่ขี้เกรงใจ ขี้เห็นอกเห็นใจ ก็เก็บไว้ก่อน ให้ถือว่าตัวเองกำลังซื้อบ้านหลายล้าน เอากำไรไปให้เขา เอาเงินเดือนไปให้เขา เขาต้องทำตรงนี้ให้เราเพราะมันเป็นหน้าที่ ผมเองตอนนี้ก็ไม่แน่ใจว่าจะมีหลุดอะไรไปบ้าง แต่ถ้าหลุดก็ยอมรับ เพราะได้ทำทุกอย่างที่ทำได้ไปแล้ว หลังจากนี้ถือให้เป็นประสบการณ์ อีกอย่างโชคดีเจอแต่คนน่ารัก ทั้งน้องม่อน น้องหวานใจ น้องกฎหมาย ทั้งฝั่งแบงก์และฝั่่งโครงการ ส่วนคนที่ไม่น่ารัก ก็ปล่อยเขาไป... ตอนโอน ให้เตรียมเงินให้พร้อม ดูให้ละเอียดว่าต้องจ่ายอะไรบ้าง  ใครจ่ายส่วนไหน เราจ่ายส่วนไหน เท่าไร ส่วนไหนจ่ายด้วยเช็คเงินกู้ ส่วนไหนจ่ายเงินสด ถ้าต้องจ่ายเงินสดก็ต้องเตรียมเงินให้พอ  ถ้าไม่อยากเงินสดขาดก็ต้องวางแผนนิดนุง ของผมเกิดขาดอยู่เพราะไม่ค่อยเก็บเงินสด (ใส่ไว้ในหุ้นเสียส่วนใหญ่) ยอดทีต้องจ่ายสดเยอะกว่าที่เคยเช็คไว้ ก็ต้องเอ่ยปากขอพี่มาล่วงหน้าสักอาทิตย์ โอเค...ก็ว่ากันไป หลังจากนี้จะเป็นเรื่องราว หลังจากที่ไหล่สองข้าง แบกคอนโดไว้ 1 ห้อง พร้อมๆกับเงินกู้ก้อนโต ที่คำนวณแล้วอีกสิบปีนิดๆ ถึงจะปิดได้ ถึงแม้จะเตรียมตัวเตรียมใจไว้เต็มที่แล้ว แต่ความหนักอึ้ง ก็เป็นแรงกระตุ้นชั้นดี ที่ทำให้ตัวเองเกิดการ mutation ทั้งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อร่างกายภายนอก (ผ่ายผอมขึ้น) ทั้งส่งผลกระทบต่อจิตใจภายใน ให้แข็งแกร่งขึ้น!! ไปพร้อมๆ กับเกิดความพึงพอใจ ภาคภูมิใจ อุ่นใจ และสุขใจ                                                   กับที่พักพิงใจน้อยๆหลังนี้..<3 <3 <3 จากคุณ : วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 54 09:38:46

ความคิดเห็นที่ 42 อ่านยาวรวดเดียว อ่านเเล้วอยากได้หลังไมค์ความรู้หมกเม็ดไว้ประดับหัวน้อยๆจังเลยคะ จากคุณ : amides เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 54 22:46:18