ความคิดเห็นที่ 1 ผลออกมาว่าไม่ผ่าน 2 รายการคือ สารตะกั่วและสารหนู จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 20:32:37

ความคิดเห็นที่ 2 ส่วนผลด้านชีววิทยาผ่านครับ จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 20:33:35

ความคิดเห็นที่ 3 หลังจากนั้นได้เพิ่มระบบ RO เข้าไปด้วย แล้วส่งน้ำไปวิเคราะห์ค่าที่เกินมา ได้ผลเกินคาดมากๆครับ ไม่พบสารตะกั่วและสารหนูเลย จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 20:35:32

ความคิดเห็นที่ 4   จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 20:35:48

ความคิดเห็นที่ 5 กรองที่ติดตั้งทั้งหมดตามนี้ครับ จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 20:37:55

ความคิดเห็นที่ 6 รูปเครื่องกรองที่ติดตั้งครับ จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 20:38:58

ความคิดเห็นที่ 7 ชุดนี้เป็นชุดแรก 3 กระบอกล่างเป็น 1 เซรามิก 2 เรซิน จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 20:41:34

ความคิดเห็นที่ 8 ชุดที่ 2 เป็นเรซินทั้ง 3 กระบอก จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 20:42:02

ความคิดเห็นที่ 9 ชุดที่ 3  กระบอกด้านล่าง ประกอบด้วย 2 คาร์บอน 1เซรามิค ตามด้วย UF ก่อนเข้าเมมเบรน RO แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 54 20:43:55 จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 20:43:11

ความคิดเห็นที่ 10 จากนั้นย้อนกลับไปที่ชุดแรกด้านบนเพื่อเข้าเมมเบรน RO ต่อด้วยคาร์บอนและถังความดัน แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 54 20:45:31 จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 20:45:06

ความคิดเห็นที่ 11 จากนั้นกลับไปเข้า UV ที่ชุดที่ 2 แล้วไปที่ก๊อกครับ จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 20:46:22

ความคิดเห็นที่ 12 ก่อนเข้าก๊อกได้เพิ่ม high pressure switch เข้าไปเพื่อควบคุมการทำงานของหลอด UV ให้ทำงานเวลาเปืดก๊อกใช้น้ำ ตำแหน่งที่ติดตั้งครับ จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 20:47:46

ความคิดเห็นที่ 13 วงจรควบคุมหลอด UV ทำไว้ตามนี้ครับ จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 20:48:39

ความคิดเห็นที่ 14 หลังจากทดลองใช้งาน หลอด UV ทำงานเฉพาะเวลาที่เปิดก๊อกครับ  หากเปิดน้ำใช้ไปเยอะและปิดก๊อกแล้ว UV จะทำงานต่อไปซักระยะจนความดันถึงจุดที่สวิทซ์ทำงาน  UV ก็จะตัดไป จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 20:50:51

ความคิดเห็นที่ 15 ทดลองวัด TDS ด้วยเครื่องมือที่มีอยู่ ได้ดังนี้ครับ น้ำก่อนเข้ากรอง  498 หลังออกจากกรอง 35 น้ำทิ้ง  516 ทอสอบค่าหินปูนโดยใช้สารทดสอบ ผ่านครับ ( ได้สีฟ้า ) จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 20:52:44

ความคิดเห็นที่ 16 แต่ทว่า น้ำทิ้งมากมายเหลือเกิน ทดสอบรองน้ำ 1 แก้วกาแฟ  ได้น้ำทิ้ง 2.5 แก้ว แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 54 20:53:47 จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 20:53:13

ความคิดเห็นที่ 17 แต่ไม่มีปัญหาครับ  น้ำทิ้งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อีก  เลยจัดการต่อสายน้ำทิ้งด้วยสายระบบน้ำหยดที่มีครับ   ต่อไม่ค่อยเรียบร้อยนะครับ ใช้อุปกรณ์เท่าที่มี จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 20:55:29

ความคิดเห็นที่ 18 ส่วนหนึ่งเอาไปใส่โอ่งไว้ใช้สำหรับปลูกผัก จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 20:56:04

ความคิดเห็นที่ 19 ผักที่ปลูกจากน้ำทิ้ง จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 20:56:23

ความคิดเห็นที่ 20 อีกส่วนหนึ่งนำกลับไปใช้ใหม่ครับ โดยต่อสายเข้าไปที่โอ่งเก็บน้ำก่อนปั๊มไปใช้ทั่้วไป ( ที่บ้านใช้โอ่งเก็บน้ำครับ ไม่ใช้ถังสมัยใหม่ ) จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 20:58:44

ความคิดเห็นที่ 21 ลืมหน้าตารีเลย์ที่ใช้ควบคุม UV ครับ  จะเป็นแบบอื่นที่ทำงานลักษณะเดียวกันก็ได้ครับ จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 20:59:53

ความคิดเห็นที่ 22 แล้วอย่างนี้ น้ำทิ้งจะมีสารตะกั่วและสารหนูไหม ไม่รู้สิ แต่น่าจะมีนะ จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 21:06:49

ความคิดเห็นที่ 23 หากจะถามว่าอยู่นอกเมืองแบบนี้ทำไมไม่ใช้นำฝน    เคยใช้ครับแต่หลังๆเริ่มไม่ไหว หลังคาเริ่มมีคราบตะไคร่และรา แถมนกพิราบมาทำรังในรางน้ำฝนอีก กระรอกก็ใช้รางน้ำฝนเป็นที่วิ่งเล่น จิ้งจกตุ๊กแกอาศัยเป็นบ้าน  เคยเปิดโอ่งน้ำฝนมาเพื่อจะล้าง พบตะกอนดำๆเต็มก้นโอ่งเลยครับ เห็นแล้วจึ๊กกะดึ๋ยพิลึก เลยตัดสินใจเอาน้ำใช้นี่ล่ะมากรองดู ส่วนน้ำฝนเก็บไว้ใช้ยามขาดแคลนจริงๆดีกว่า ( ยังมีแท๊งค์เก็บน้ำฝนอยู่ครับ ) วันนี้ลองเอา TDS ไปวัดน้ำฝนที่เก็บดู ได้ค่า 110  แถมลองหยดสารวัดหินปูนดูด้วย ได้ค่าราวๆ 10 - 25 ( ไม่ทราบหน่วยครับ เทียบสีเอา )  ไม่แน่ใจว่าเกิดจากโอ่งทำจากปูนหรือเปล่านะครับหรือเป็นจากวัสดุที่ใช้ทำกระเบื้องหลังคาก็ไม่อาจทราบได้ครับ จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 21:07:11

ความคิดเห็นที่ 24 จบการรายงานผลครับ  คงพอเป็นแนวทางเบื้องต้นสำหรับท่านที่ต้องการใช้น้ำบาดาลเพื่อการบริโภคนะครับ  และขอย้ำนะครับว่าต้องนำน้ำไปวิเคราะห์ก่อนนะครับ ที่เห็นใสๆน่ะ ไม่รู้มีอะไรละลายปนอยู่บ้าง จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 21:09:59

ความคิดเห็นที่ 25 มีชัวร์ครับคุณต้น จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 21:11:04

ความคิดเห็นที่ 26 ค่าใช้จ่ายตอนตรวจ 2 รอบนี่เท่าไรอะครับ อยากส่งตรวจเหมือนกันรอบ้านเสร็จก่อน จากคุณ : Arai_เนี่ย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 21:21:28

ความคิดเห็นที่ 27 รอบแรก 4,300 ครับ  รอบหลังตรวจแค่ 2 รายการ  800   ถ้าจะตรวจครบทุกรายการก็ราวๆ 5,700 ครับ  ผมตัดบางรายการออกไปเลยได้ราคาเท่าที่บอก แต่ละที่ราคาไม่เท่ากันด้วยครับ แตกต่างกันนิดหน่อย จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 21:30:51

ความคิดเห็นที่ 28 มีคำถามด้วยครับ  หลอด UV ตามรูปซื้อที่ไหนครับ ได้ราคาด้วยก็ดีเลยครับ จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 21:47:18

ความคิดเห็นที่ 29 สับสนกับไส้กรองอ่ะ ปกติต้อง กรองหยาบ กรองคาร์บอน ครองเรซิน กรองเซรามิค ยูวี ไหงเป็นแบบนั้นอ่ะ จากคุณ : sanshiro2 เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 22:31:25

ความคิดเห็นที่ 30 กรองหยาบเปลี่ยนเป็นเซรามิกครับ ส่วนคาร์บอนเอาไปไว้หลังเรซิน แล้วเอาเซรามิกใส่เข้าไปต่อเผื่อมีผงสารกรองหลุดออกมา แล้วไปเข้า UF เมมเบรนก่อนเพื่อลดภาระก่อนเข้า RO เมมเบรน จากนั้นจึงผ่านคาร์บอนอีกครั้งเพื่อปรับกลิ่นรส  แล้วถึงเข้า UV ก่อนนำไปใช้ครับ จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 54 07:42:55

ความคิดเห็นที่ 31 เยี่ยมไปเลยครับ                        เครื่องกรองน้ำ RO.                      =    2,900                        เครื่องกรองน้ำ 4 ขั้นตอน + UV       =    2,500                        เครื่องกรองน้ำ 3 ขั้นตอน               =    1,100                        Adaptor 220 vac. - 24 vdc.         =       150                        Relay 24 vdc.                            =       100                        High Pressure Switch                 =        80                        รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดโดยประมาณ   =     6,830  บาท จากคุณ : naytee เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 54 16:38:04

ความคิดเห็นที่ 32 น้ำที่ออกจาก RO ถ้ามันไม่ถูกปนเปื้อน อย่าว่าแต่เชื้อโรคเลย กลิ่นกับรสที่เกิดจากโมเลกุลของสารที่ละลายน้ำ มันถูกกรองที่ RO ไปหมดแล้ว การใส่เพิ่มอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนของสารเคมี และเชื้อภายหลังได้ รวมถึงการใช้ UV ต้องมีความเข้มของรังสีมากพอ รวมถึงระยะเวลาของน้ำที่ผ่านด้วย จากคุณ : Waterman (LN106) เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 54 21:06:21

ความคิดเห็นที่ 33 ลองติดต่อสอบถามดูนะครับ จากคุณ : naytee เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 54 22:40:55

ความคิดเห็นที่ 34 ถ้ารู้ยี่ห้อ ขนาดWatt  ของหลอดไฟ UV. ลองโทรสุ่มไปสอบถามจากร้านต่างๆเลยซิครับ... จากคุณ : naytee เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 54 22:52:25

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณมากครับคุณ naytee จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 07:19:16

ความคิดเห็นที่ 36 ขอรอผลการใช้งานสัก ๅเดือนนะครับแล้วมารีวิวใหม่ว่าครบ1เดือนเป็นอย่างไร เผื่อผู้ที่ใช้น้ำบาดาลจะได้เอาไปเป็นแนวทางติดตั้งครับ ด้วยตนเองไม่ต้องไปเชื่อลมปากจากพวกขายตรงกรองเทพต่างๆๆครับ ให้ 10กรีบ ครับ ได้นักประดิษฐ์ แปรรูป สาวก RO มาอีกคน จะได้วางมือเสียทีเรา ปล . พวกกระบอกกรอง ลองไปเปลี่ยน เป็นแบบใหญ่ขึ้นดูครับ 20"ดูครับ เวลาล้างหรือบำรุงรักษาจะง่ายครับ หรือต่อ บายพาส ทำ back wart กรองดูครับ จากคุณ : peengineer19/68 เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 10:58:50

ความคิดเห็นที่ 37 เย๊ ... ได้สาวกRO.เพิ่มมาอีกคนแระ :-)                     เหล่าเพื่อนๆ สาวก  RO. ด้วยกัน                                                                      by k. peengineer19/68 ผู้ดำริ ริเริ่มและ ก่อตั้ง                                1. peengineer19/68                                2.       naytee                                3. คุณ : Travel Dev                                 4. คุณ : saasukea                                 5. คุณ : maxcom                                 6. คุณ : Ch_jew10                                 7. คุณ : eileenza                                 8. คุณ : โกรกพระ                                 9. คุณ : Carnegie                               10. คุณ : กำธร                               11. คุณ : puttsi                              12. คุณ : สลัก ลูกสูบ                              13. คุณ : mr_spurs                               14. คุณ : หัวใจ                              15. คุณ : well_off                              16. คุณ : Msgt.sit_sak                              17. คุณ : T_Mania                              18. คุณ : หมูยิ้มแป้น                              19. คุณ : อย่าไปรู้เลย  จากคุณ : naytee เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 16:30:16

ความคิดเห็นที่ 38 http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X10806748/X10806748.html   ดูที่คห.24  ไม่ลองหาของคุณภาพใช้มั่งหรอครับ  ไหนๆก็ต้องซื้อใหม่แระ   จากคุณ : naytee เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 17:53:15

ความคิดเห็นที่ 39 ไว้ต้องรองบอีกซักระยะน่ะครับ ถึงจะเริ่มเปลี่ยนอุปกรณ์บางตัวให้เหมาะกับการใช้มากขึ้น จากที่ไปอ่านกระทู้ที่คุณ naytee แนะนำ ผมคิดว่าต้องสลับตำแหน่ง UV ไปไว้หลังเมมเบรนแล้วล่ะ เนื่องจาก flow rate ตรงนั้นน่าจะต่ำที่สุดแล้ว น้ำจะได้ผ่าน UV ได้นานหน่อย จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 20:53:50

ความคิดเห็นที่ 40 ใช่ครับ เห็นด้วยอย่างแรง จากคุณ : naytee เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 21:35:11

ความคิดเห็นที่ 41 คุณอย่าไปรู้เลย .... สรุปแล้ว ขั้นตอนการกรอง Pre filter เป็นดังนี้ ตัวที่ 1  เซรามิก .. เรซิน .. เรซิน .. ตัวที่ 2  เรซิน .. เรซิน .. เรซิน .. ตัวที่ 3 คาร์บอน .. คาร์บอน .. เซรามิค .. UF จากนั้นก็มาเข้า Membrane ของตัวที่ 1 .. เข้าถังความดัน .. Post carbon แล้วผ่าน UV ของตัวที่ 2 แล้วเข้าก๊อกน้ำดื่ม แหะๆ ขอเข้าคำถามครับ 1. ทำไมจึงออกแบบขั้นตอนอย่างนี้ครับ 2. แรงดันน้ำด้านเข้าเท่าไรครับ เพราะเห็นว่าต้องการขั้นตอนเยอะแยะ ดูแล้วมันน่าจะดรอปเยอะอยู่นะครับ ขอบคุณครับ .. จากคุณ : rawi เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 20:39:46

ความคิดเห็นที่ 42 ออกแบบไปเรื่อยตามที่หาข้อมูลได้น่ะครับ แล้วก็ทดลองแล้วดูผล ไม่ได้มีวิชาการรองรับเท่าไหร่ เซรามิกตัวแรกที่ใช้เพราะเคยใช้กรอง PP แล้ว ผลคือกรองมีคราบสนิมเหล็กจับเยอะพอประมาณ ต้องเปลี่ยนบ่อย เลยเปลี่ยนมาใช้เซรามิกครับ เพราะำพอที่ะทำความสะอาดได้และได้ความละเอียดในการกรองที่ดีกว่า เรซิน 5 กระบอก  ดักจับหินปูนครับ ซึ่งมีมากพอควรเลยทีเดียว ตอนแรกใช้เพียง 2 กระบอก ผมใช้น้ำวันละราว 10 ลิตร ผลคือ 2 อาทิตย์ต้องนำเรซินออกมาแช่น้ำเกลือแล้วครับ ( วัดหินปูนจากการหยดสารเคมีเทียบสี ) ก็เลยเพิ่มเป็น 5 กระบอก จะได้บือระยะเวลาไปนานอีกหน่อย คาร์บอน 2 กระบอก อันนี้ใส่ไปเพราะอ่านมาว่าสามารถดักจับกลิ่นและสารเคมีบางตัวได้ เรซินอีกตัวเอาไว้ดักสารกรองที่อาจจะหลุดมาจากการกรองชุดแรกครับ UF ก่อนที่จะเพิ่ม RO เข้าไปเคยใช้น่ะครับ จะถอดออกก็น่าเสียดายก็เลยต่อกลับเข้าไปเพื่อช่วยลดภาระของเมมเบรน เมมเบรน RO   ก่อนใช้ส่งน้ำไปวิเคราะห์แล้วพบสารปนเปื้อนตาที่กล่าวมาครับ เลยเอามาเพิ่มเข้าไปแล้วส่งวิเคราะห์ใหม่  ผลคือมันสามารถกรองเอาสารที่ปนเปื้อนมาออกไปได้ UV ย้ายมาตำแหน่งนี้ครับ เพื่อฆ่าเชื้อเท่าที่ทำได้ ย้ายมาตำแหน่งนี้เพราะ flow rate ตำแหน่งนี้ต่ำที่สุดแล้วครับ น้ำจะไหลผ่าน UV ได้นานที่สุดในระบบแล้ว Post carbon มาพร้อมกับกรอง RO ทั้งชุดครับ ส่วนแรงดันน้ำขาเข้าไม่มีปัญหาครับ ที่บ้านใช้ถังแชมเปญครับ ถังไม่ได้สูงมากแต่แรงดันพอควร ไม่เคยวัดแรงดันเลย เรื่องแรงดันไม่น่าเป็นปัญหา ครับ   ระบบ RO มีปั๊มของมันเองอยู่แล้ว แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 54 06:34:13 จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 06:21:50

ความคิดเห็นที่ 43 " ถังแชมเปญ "  เป็นไงเอ่ย ขอภาพปลากรอบ .... :-) จากคุณ : naytee เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 17:07:39

ความคิดเห็นที่ 44   จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 18:26:34

ความคิดเห็นที่ 45 อ้อ" ถังแชมเปญ " แบบนี้นี่เอง ...       แต่นี่ก็แชมเปญนะ อิอิ (ผ่อนคลายบรรยากาศนิดนึง) จากคุณ : naytee เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 18:56:21

ความคิดเห็นที่ 46 คุณ naytee เอารูปถังรั่วๆมาให้ดู จากคุณ : rawi เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 20:52:55

ความคิดเห็นที่ 47 5555 จากคุณ : อย่าไปรู้เลย เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 21:17:30

ความคิดเห็นที่ 48 เอิ๊ก ๆ ถังรั่วแต่มีลุ้นนะ ว่ามีสาหร่ายดำหลงแพรมมามั่งอะป่าว         งั้นพาไปบ้าน แชมเปญ ซะเลย   ไหนๆ ก็ออกทะเลมาแระ ... จากคุณ : naytee เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 14:55:55

ความคิดเห็นที่ 49 จากชาว ro จะกลายเป็น ชาย ลัลล้ากันซะหมดมั่ง จากคุณ : peengineer19/68 เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 15:29:01

ความคิดเห็นที่ 50 ไม่กลายพันธ์หรอกครับ ดูสาวๆ Girl Generation ที่มาเบียด Wonder Girl  จนตอนนี้เงียบไปแระ คลื่นลูกใหม่มาแรง จำนวนคนเยอะกว่า เก่งกว่า น่ารักกว่า ... จากคุณ : naytee เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 22:20:33