ความคิดเห็นที่ 1 ส่วนสองรูปนี้ก็ยิ่งทำให้งงใหญ่ สายเชื่อมจุดเดียวกันแต่กระแสไม่เท่ากัน ฮ่วย จากคุณ : akamard เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 08:05:55

ความคิดเห็นที่ 2 รูปที่สอง จากคุณ : akamard เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 08:06:25

ความคิดเห็นที่ 3 ท่านใดมีความเห็นยังไงช่วยแนะนำได้ครับ คือผมเรียนจบอิเล็กทรอนิกส์มา พวกไฟบ้านนี่มีความรู้พื้นฐานครับ อธิบายเป็นภาษาช่างก็ได้ครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : akamard เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 08:09:00

ความคิดเห็นที่ 4 ผมว่ามันก็น่าจะถูกต้องแล้วครับ รอผู้รู้ตัวจริงอีกที จากคุณ : Zionism (Zionism) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 09:12:21

ความคิดเห็นที่ 5 ก็น่าจะถูกต้องแล้วนะ G ไม่จำเป็นต้องเป็นศูนย์เสมอไป เพราะบ้านหลังอื่น ๆอาจมีไฟรั่วลงดิน ทำให้เกิด stray voltage จากคุณ : --^ไชโย^-- เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 09:56:19

ความคิดเห็นที่ 6 ขอตอบให้หายสงสัยครับ การที่ Neutral กับ Ground ที่คุณลองวััดกระแสไฟฟ้าแล้วมันได้ค่ากระแส ทั้ง Neutral กับ Ground ก็เพาะว่าการต่อสาย Neutral กับ Ground รวมกันนั้น เป็นการทำให้ ความต่างศักดิ์ของ Neutral เท่ากับ Ground เพื่อป้องกันเมื่อมีกระแสรั่วหรือลัดวงจรลงดิน ดังนั้นเมื่ออุปกรณ์ไฟฟ้าทำงาน ค่ากระแสไฟฟ้าที่วัดได้ จาก เส้น Line หรือ เส้นNeutral กับ Ground กระแสไฟฟ้าย่อมเท่ากัน แต่เส้น Neutral และ Ground เมื่ิอนำไขควงเช๊คไฟวัดต้องไม่มีไฟ และส่วนที่มีคนบอกว่าสาย Ground สภาวะปกติต้องไม่มีกระแสไหล นั้นหมายถึงว่า สายนั้นไม่ได้ต่อรวมกับสายNeutral ถ้าสาย Ground นั้นยังมีกระแสไฟแสดงว่า สายนั้นเกิดการ leak หรือ รั่วข้ามเฟส  นะครับ จากคุณ : naka_nk เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 10:03:40

ความคิดเห็นที่ 7 สาย Neutral กับ Ground ต้องรวมกันก่อนเข้าเมนเบรกเกอร์ ดูในรูปเหมือนกับจะรวมกันหลังเมนเบรกเกอร์หรือเปล่าครับ จากคุณ : สงสัย เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 10:32:13 A:58.11.29.89 X: TicketID:236467

ความคิดเห็นที่ 8 ใช่ครับ N กับ G รวมกันหลัง main เบรกเกอร์ ตอนนี้ที่สงสัยมากสุด ค์อตามรูปครับวัดกระแสได้ไม่เท่ากัน ทั้งที่สายเชื่อมกันอยู่ ตอนที่วัดนี่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของโหลดนะครับ จากคุณ : akamard เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 10:44:50

ความคิดเห็นที่ 9 ตอบ ความคิดเห็นที่ 8 [ถูกใจ] [แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน ใช่ครับ N กับ G รวมกันหลัง main เบรกเกอร์ ตอนนี้ที่สงสัยมากสุด ค์อตามรูปครับวัดกระแสได้ไม่เท่ากัน ทั้งที่สายเชื่อมกันอยู่ ตอนที่วัดนี่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของโหลดนะครับ   ที่กระแสวัดได้ไม่เท่ากันก็เพราะมันขึ้นอยู่กับความต้านทานของแต่ละสาย ถ้าสายมีขนาดเท่ากันก็ขึ้นอยู่กับขนาดความยาวของสายครับ จากคุณ : naka_nk เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 13:48:44

ความคิดเห็นที่ 10 ความคิดเห็นที่ 7 สาย Neutral กับ Ground ต้องรวมกันก่อนเข้าเมนเบรกเกอร์ ดูในรูปเหมือนกับจะรวมกันหลังเมนเบรกเกอร์หรือเปล่าครับ  ต่อก่อนหรือหลัง เมนเบรกเกอร์ไม่มีผลกับกระแสแต่จะมีผลเมื่อต้องการให้เบรกเกอร์ทำงานครับ จากคุณ : naka_nk เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 13:52:58

ความคิดเห็นที่ 11 วัดได้ตามนั้นก็ถูกต้องแล้วครับ ... ให้กลับมาทำความเข้าใจขั้นพื้นฐานก่อนเกี่ยวกับระบบสายดิน จะแบ่งออกเป็น 2 ระบบ คืิอ 1. สายดินของระบบ ... มีกระแสไหลได้ในสภาวะปกติ ต่อจากกราวน์บาร์ลงดิน 2. สายดินของอุปกรณ์ ... สภาวะปกติจะไม่มีกระแสไหล ต่อจากกราวน์บาร์ไปยังโหลดต่างๆ ยิ่งคุณจบอิเลคโทรนิคย์น่าจะเข้าใจได้ไม่ยาก ให้นึึกถึงวงจรอนุกรม ถ้าครบวงจรถึงจะมีกระแสไหลในระบบได้ กระแสที่ไหลลงดินไม่ได้ไหลลงดินแล้วหายไปเฉยๆ แต่ความจริงเพียงอาศัยดิน เพื่อไหลผ่านกลับไปยังหม้อแปลงไฟฟ้าที่ต้นทาง เพื่อให้เกิดการครบวงจรทางไฟฟ้าเท่านั้นเอง จากภาพกระแสจะต้องไหลย้อนกลับไปหาหม้อแปลงของการไฟฟ้า ซึ่งจุดดังกล่าวกระแสจะไหลผ่านไปหาหม้อแปลงได้ 2 ทาง คือ - ผ่านทางสายนิวทรอล ...(1.85) - ผ่านทางสายกราวน์ที่ต่อกับหลักดิน...(0.41) (นิวทรอลที่หม้อแปลงก็มีการต่อลงดินด้วย) อันนี้เป็นมาตรฐานของการไฟฟ้า ... วัดเส้นไฟต้องได้ = 1.85+0.41 = 2.26 เนื่องจากความต้นทานที่ผ่านดินจะสูงกว่าผ่านทางสายโดยตรง จึงทำให้วัดกระแสที่ไหลผ่านสายนิวทรอลกลับไปหม้อแปลงได้สูงกว่า ลองวัดเปรียบเทียบตอนหน้าร้อนพื้นดินแห้งๆ-เทียบตอนหน้าฝนพื้นดินแฉะ สัดส่วนที่ไหลผ่านสายนิวตรอลจะมากกว่า *** การที่บางคนแนะนำให้ต่อสายกราวน์จากอุปกรณ์ เช่นเครื่องทำน้ำร้อน ลงดิน ผ่านกราวน์รอดโดยตรง จึงไม่ใช่การแนะนำที่ถูกต้อง...เพราะเราไม่สามารถควบคุมความต้านทานรวมของระบบได้ เช่นตอนหน้าแล้ง และการที่อุปกรณ์ฝังอยู่ในดินโอกาสเสียหายจากความชื้นก็มีมาก นานๆไปยิ่งอันตราย *** จากคุณ : open-krab (open-krab) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 14:14:11

ความคิดเห็นที่ 12 ความคิดเห็นที่ 11 คุณ open-krab ถ้าอย่างนี้ก็แสดงว่าสาย G ของผมไม่ปลอดภัย เพราะสมมุติครับว่าผมต่อ G เข้าตัวถังตู้เย็น แล้ววันดีคืนร้ายร่างกายผมมีความต้านทานต่ำมากๆ กระแสก็จะไหลผ่านผมลงดิสิครับ หรืออย่างที่คุณ open-krab ว่ากระแสอาศ้ย G กลับไปหม้อแปลงของการไฟฟ้า แต่สาย N น่าจะความต้านทานต่ำกว่ามากทำไมไม่ไปทางนั้นให้หมด แล้วกระแสที่ไปลง G ควรประมาณเท่าไรถึงจะถูกต้องครับ จากคุณ : akamard เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 14:59:55

ความคิดเห็นที่ 13 ใช้ ABB เหมือนบ้านผมเลย อะครับ แต่สงสัยว่า ทำไม main กันดูด ไปอยู่ด้านท้ายเลย ครับ ของที่บ้านผม ไม่ได้ ต่อ G กับ N ร่วมกันครับ แยกไปเลย เพราะว่า ถ้าเกิด วันดีคืนดี เราไม่ได้อยู่บ้าน แล้ว การไฟฟ้า มาตัดไฟเรา แล้วพอมาต่อ สลับสายไฟให้เราเฉยเลย มันจะอันตรายมากเลยนะครับ จากคุณ : kornar เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 15:29:14

ความคิดเห็นที่ 14 กันดูดใช้เฉพาะเครื่องทำน้ำอุ่นครับ จากคุณ : akamard เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 15:49:37

ความคิดเห็นที่ 15 คุณ kornar ครับ ถ้าคุณต่อพ่วงสาย N กับ G และมีการต่อหลักดิน ถ้าการไฟฟ้ามาตัด-ต่อสายสลับ L กับ N คือสาย L จะถูกต่อเข้าบ้านทางสาย N และต่อไปลง Ground ทางสาย G ลงหลักดิน เท่ากับต่อสาย L ลงดิน ผลคือไฟฟ้าจะลัดวงจร เกิดประกายไฟ...บึ้ม!! ใส่หน้าพนักงานการไฟฟ้าผู้นั้นก่อนที่จะต่อสายครับ จากคุณ : นายสันทัด เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 15:53:56

ความคิดเห็นที่ 16 ถ้าถอดแล้ววัด L ได้กระแสเท่า N พร้อมกับไฟไม่ตก ก็ปกติครับมัน อาการนี้จะเิกิดแบบนี้หรือไม่เกิดก็ได้ขึ้นกับหลายๆอย่าง การต่อจาก N ไป G มันจะมีปรากฏการณ์นี้ได้อยู่แล้ว เพราะเส้นทางการไหลไม่ได้บังคับเหลือทางเดียวแบบแยกต่อ N-G และอาจจะทำให้คุณแปลกใจกว่านี้ถ้าเจอว่ากระแสฝั่ง N สูงกว่าฝั่ง L เช่นข้างบ้านต่อสายดินหลังเครื่องไฟฟ้าลงดินตรงๆ  กระแสมันก็จะหาทางไปครบวงจรที่นิวทรอลของหม้อแปลงให้ได้ซึ่งก็คือทางหลักดินตรงหม้อแปลงแรงต่ำ แต่ถ้าหลักดินคุณไปอยู่ข้างๆบ้านนั้นกระแสมันจะอาศัยหลักดินคุณกับสู่สายนิวทรอลได้ด้วย(เพราะมีต่อ N-Gอยู่) ทำให้เหมือนว่ามีกระแสขึ้นจากหลักดินกลับสู่สายนิวทรอลผ่านทางสายขวางเส้นนั้นของคุณ จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 20:58:56

ความคิดเห็นที่ 17 มันเป็นแบบที่คุณ Ph บอกครับ คือบางทีกระแส N มากกว่า L ทำผมงงเลยครับ ไปต่อไม่ถูกเลย อย่างนี้แสดงว่าข้างบ้านอาจมีไฟรั่วใช่ไหมครับ แล้วสรุปว่าบ้านผมจะปลอกภัยจากไฟไหม้ หรือไฟดูดจากการไปจับตัวถังอุปกรณ์ไหมครับ จากคุณ : akamard เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 08:29:11

ความคิดเห็นที่ 18 อีกอย่างคือมันจะกระทบค่าไฟผมด้วยมั๊ย จากคุณ : akamard เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:01:12

ความคิดเห็นที่ 19 ค่าไฟไม่กระทบครับ มิเตอร์ไฟฟ้าวัดกระแสด้วย Current coil ที่อนุกรมในสายฝั่ง L เหมือนคุณคล้องแอมป์มิเตอร์ที่สาย L เส้นเดียว  มิเตอร์จึงสนใจแค่กระแสในสายฝั่งนี้เอาไปหมุนจาน  โดยไม่สนว่าอีกเส้นจะมีกระแสเท่าใด ถ้าข้างบ้านไฟรั่วแล้วคุณจับตัวถังอุปกรณ์ฝั่งคุณไม่ต้องห่วงครับ  ยังไงมันก็ไ่ม่ดูดแม้จะต่อ G เข้ากับระบบในสภาพนี้   เพราะกระแสในสายเส้นขวาง(ที่ต่อคร่อม N-G) มันเกิดจาก ความต่างศักดิ์ระหว่างสาย N กับ สาย G กระแสจึงไหลข้ามระหว่าง N กับ G แต่ตอนคุณสัมผัสเครื่องไฟฟ้า ผมขอเรียกตัวถังเครื่องที่มันต่อมาจากกราวด์ในระบบว่า G1 แล้วกัน  ส่วนพื้นที่ยืนอยู่ถือว่าเป็นกราวด์อีกจุดขอเรียกว่า G2 ตอนจับตัวถังเครื่อง  มันเสมือนว่าร่างกายถูกต่อเข้าในวงจรในลักษณะคร่อม G1 กับ G2 คือเท้าอยู่ที่พื้น(G2) และสัมผัสเครื่องไฟฟ้า(G1)ถ้าจะโดนไฟดูดมันจะต้องมี V ที่เกิดระหว่าง G1 กับ G2  กรณีนี้จึงจะเกิดกระแสไหลผ่านร่างกายไปสู่พื้น(ไฟดูด) ถ้าระบบปกติดี สายดินดี ไม่ขาด แรงดันที่วัดระหว่าง G1 เทียบกับ G2 มันจะต่ำมากๆจนเกือบเป็น 0 จึงไม่มีกระแสผ่านร่างกายแต่อย่างใดถ้าไปสัมผัส ส่วนกระแสในสาย N-G ถ้ามันมีความต่างศักดิ์ระหว่างกันก็มีกระแสไหลระหว่างกันของมันต่อไป   (การไปจับตัวถังตัวเครื่องร่างกายเราไ่ม่ใช่การคร่อม N กับ G เพื่อรับความต่างศักดิ์นี้  จึงอยู่นอกเส้นทางที่กระแสจะไหล) จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 13:56:06

ความคิดเห็นที่ 20 ข้างบนเขียนให้สบายใจแล้ว ขอเขียนในอีกมุมมองบ้าง ในกรณีที่มีความผิดปกติ กรณีที่สัมผัสเครื่องไฟฟ้าแล้วจะโดนดูด ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลย แต่มันเกิดได้ยาก คือกรณีที่หลักดินคุณไม่ดีพอหรือขาดไปจากระบบ เท่ากับตัวถังเครื่องไฟฟ้าทั้งบ้านจะเหมือนต่ออยู่ลำพังกับสาย N (โดยผ่านสายที่เชื่อม N-G) เท่ากับว่าหากสาย N มีความแตกต่างทางแรงดันไฟฟ้ากับพื้นที่ยืนอยู่ พอสัมผัสเข้าก็จะมีโอกาสโดนค่าแรงดันตรงนี้ได้ (ส่วนมากจะมีแรงดันต่ำๆ ) ส่วนกรณีเลวร้ายสุดคือสาย N คุณหลุด(ในช่วงก่อนเมนเบรกเกอร์ย้อนไปถึงภายนอก) กรณีนี้โหลดทั้งหมดในบ้านจะไหลไปครบวงจรทางหลักดินแทนทันที (โดยย้อนผ่านสายต่อเชื่อม N-G) หากสภาวะนี้หลักดินดันขาดไปจากระบบ เท่ากับว่ากระแสไม่มีทางไปแล้วและผลคือจะมีแรงดันไฟฟ้าที่กราวด์บาร์ในตู้  ซึ่งจะส่งต่อย้อนไปรออยู่ที่ตัวถังเครื่องไฟฟ้าที่ต่อกราวด์ไว้กับระบบไฟบ้าน ผลกระทบกรณีนี้ไม่เกี่ยวกับไฟรั่วจากข้างบ้านเช่นกันครับ มันอยู่ที่การดูแลหลักดินและจุดต่อต่างๆของวงจรเราเอง  ถ้ามันต่อได้ดีแน่นหนาได้มาตรฐานก็ลดอันตรายลงได้ และถ้าสายดินดีต่อแน่นหนา หากใครมาสลับสายหรือต่อ L N หน้าบ้านผิดสาย มันจะบึ้มใส่คนต่อสายตาม คห.15 ที่คุณสัดทัดบอก    แต่ถ้ากราวด์คุณไม่ดี/ขาด แล้วไม่ตรวจสอบแก้ไข ผลคือคนต่อสายจะไม่โดนบึ้ม  แต่จะมาอันตรายอย่างร้ายแรงกับคนในบ้านแทน จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 14:14:08

ความคิดเห็นที่ 21 สบายใจแล้วครับที่บ้านผมไม่ได้ผิดปกติ ขอบคุณทุกท่านครับ จากคุณ : akamard เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 07:33:54

ความคิดเห็นที่ 22 ตอบ ...ความคิดเห็นที่ 12 ความคิดเห็นที่ 11 คุณ open-krab ถ้าอย่างนี้ก็แสดงว่าสาย G ของผมไม่ปลอดภัย เพราะสมมุติครับว่าผมต่อ G เข้าตัวถังตู้เย็น - บอกก่อนครับว่า ปลอดภัย ... การต่อสายดินเข้ากับตัวถังตู้เย็น เรียกว่า สายดินของอุปกรณ์ (Equipment grounding) สภาวะปกติต้องไม่มีกระแสไหลในสายเส้นนี้ - ถ้ามีไฟฟ้ารั่วลงมาที่ตัวถัง จะไหลกลับผ่านสายเส้นนี้ กรณีคนไปแตะกระแสจะไหลไหลผ่านทางสายดินมากกว่าที่จะไหลผ่านร่างกาย เพราะความต้านทานของเส้นทางผ่านสายดินจะต่ำมากกว่า (มองง่ายๆว่ามี R 2 ตัว ต่อขนานกัน กระแสไหลผ่าน R ค่าน้อยมากกว่า ขึ้นกับว่าสัดส่วนต่างกันแค่ไหน) แล้ววันดีคืนร้ายร่างกายผมมีความต้านทานต่ำมากๆ กระแสก็จะไหลผ่านผมลงดิสิครับ - ถูกต้องครับ นั่นคือบางพื้นที่ที่ติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า จะแนะนำให้ติดตั้งเครื่องตัดไฟฟ้ารั่วร่วมด้วย เช่น เครื่องทำน้ำอุ่น ในห้องน้ำ หรือ ภายนอกอาคาร เป็นต้น เพราะร่างกายเปียกๆจะเป็นสื่อทางไฟฟ้าที่ดี หรืออย่างที่คุณ open-krab ว่ากระแสอาศ้ย G กลับไปหม้อแปลงของการไฟฟ้า แต่สาย N น่าจะความต้านทานต่ำกว่ามากทำไมไม่ไปทางนั้นให้หมด แล้วกระแสที่ไปลง G ควรประมาณเท่าไรถึงจะถูกต้องครับ - ไม่สามารถระบุได้ ถ้าการทำ System groundingก ดี ใช้ขนาดสายเหมาะสม การเชื่อมต่อกับหลักดินใช้การเชื่อมโดยความร้อน ดินมีความชื้นสูง ... * อย่านำไปปนกับสายดิน Equipment grounding เช่น สายดินที่ต่อกับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ นะครับ คนละส่วนกัน จากคุณ : open-krab (open-krab) เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 09:40:01

ความคิดเห็นที่ 23 เดี๋ยวครับเดี๋ยวครับ ร่างกายคนเรามีความต้านทานประมาณ 1,000 โอห์ม ครับ ส่วนความต้านทานดิน ปกติมีค่าประมาณ 5 โอห์ม ถึง 10 โอห์ม ถ้าติดตั้งระบบสายดินถูกต้อง ไม่ต้องกลัวกระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านร่างกายเรามากกว่าสายดิน ยกเว้น ระบบสายดินล้มเหลว จากคุณ : เด็กไฟฟ้า555 (เด็กไฟฟ้า555) เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 54 18:47:54

ความคิดเห็นที่ 24 ระบบสายดินที่ถูกต้อง สาย G และสาย N ต่อเข้าด้วยกันที่แผงเมนสวิตช์ เพียงจุดเดียวเท่านั้น จากรูปกรณีต่อถูกต้อง ในภาวะปกติจะต้องไม่มีไหลในสายดินจากเครื่องใช้ไฟฟ้ามาที่แผงเมนสวิตช์ แต่ถ้ามีไฟรั่วที่เครื่องใช้ไฟฟ้า กระแสไฟฟ้าที่รั่วจะไหลผ่านสายดินไปที่แผงเมนสวิตช์ ทำให้กระแสในสาย L และสาย N ไม่เท่ากัน และหากมีการติดตั้งเครื่อตัดไฟรั่วที่ถูกต้อง เครื่องตัดไฟรั่วจะทริป ถ้ามีกระแสไหลในสาย G แล้วเครื่องตัดไฟรั่วไม่ทริป แสดงว่าอาจต่อผิดหรือเครื่องอาจมีปัญหาก็ได้ การมีกระแสไฟฟ้าไหลในสาย G จากเครื่องใช้ไฟฟ้ามายังแผงเมนสวิตช์ มีความเป็นไปได้ดังนี้ 1) เกิดไฟรั่วที่เครื่องใช้ไฟฟ้า 2) มีการต่อสาย G กับสาย N เข้าด้วยกันที่จุดอื่น นอกเหนือจากที่แผงเมนสวิตช์ 3) มีการต่อสายที่เต้ารับไม่ถูกต้อง อาจมีการต่อสายสลับกัน ซึ่งควรมีการตรวจสอบ ฝากไว้เท่านี้ก่อนครับ จากคุณ : เด็กไฟฟ้า555 (เด็กไฟฟ้า555) เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 54 19:17:42