ความคิดเห็นที่ 1 คุณผิดนัดชำระเค้านะคะ ค้าง 3  งวด ถ้าเป็นรถ บริษัทส่งคนมายึดถึงบ้านแล้ว ค้าง 3 งวด บัตรเครดิต สินเชื่อ คงโทรจิกกันทุกวัน เราว่า จขกท. ใจเย็นและหาทางแก้ไข โทรไปคุย ปรึกษา ว่า จะทำไงได้บ้าง ที่จะให้ดอกเบี้ยผิดนัด  13 % ลดลง คุณมีเหตุผล ความจำเป็นอะไร ต้องคุยกับbank อย่าวิ่งหนี หนี้   เราเคยวิ่งหนี ตอนปี 41  ต้มยำกุ้ง เสียดาย ที่ตอนนั้น ไม่มี Internet และเราไม่เปิดรับฟังข่าวสาร จากหนี้ 8 แสน กลายเป็น 1.6 ล้าน วันนี้ เราปิดบัญชีนั้นเรียบร้อยแล้ว และกู้บ้านหลังใหม่ได้อีก 3 ล้าน อย่าวิ่งหนี จากคุณ : boublekao เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 13:55:23

ความคิดเห็นที่ 2 มีปัญหา  เข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่เขาเลย....มีทางออกเสมอครับ... จากคุณ : papu เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 14:05:01

ความคิดเห็นที่ 3 http://www.pantip.com/cafe/home/topic/R10894849/R10894849.html ทู้นี้ มีวิธีการและแนะนำไว้ เข้าท่า   ลองพิจารณาแก้ไขปัญหาดูนะคะ จากคุณ : boublekao เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 14:06:41

ความคิดเห็นที่ 4 แล้วทำไมถึงค้างตั้ง 3 งวดละครับ ค่าดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น เพราะผิดนัดชำระผมคิดว่าเป็นเรื่องปกติอ่ะครับ ในสัญญาก่อนที่ท่านจะเซ็นต์ขอกู้ ก็น่าจะระบุชัดเจนอยู่เเล้ว ขึ้นชื่อว่าสินเชื่อหรือเงินกู้เป็นเเบบนี้ทั้งนั้นล่ะครับ ทางที่ดีผมว่าท่านชำระไปเถอะครับประวัติบูโรจะได้ไม่เสีย เเล้วก็ไม่เเนะนำเลยเรื่องให้ฟ้องทนาย ส่วนตัวคิดว่าไม่ชนะหรอกครับเพราะท่านไม่ทำตามสัญญาที่ท่านได้เซ็นต์ไว้เอง อีกอย่างค่าจ้างทนายสูงกว่าค่างวดที่ท่านค้างกับธนาคารหลายเท่าเลยนะครับ จากคุณ : นายกาป๋อง เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 14:10:11

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณทุกๆ ความเห็นมากๆ เลยครับ ทำไรกับธนาคารเสียเปรียบหมดเลย  สักวันถ้ามีอำนาจปกครองประเทศ จะจัดการเรื่องประชาชนเสียเปรียบ Bank ให้หมด (เพราะจะพึ่งรัฐบาล...คงรอชาติหน้า) ดอกเบี้ยเงินฝาก กับ ดอกเบี้ยเงินกู้ ต่างกันราวฟ้ากับเหว... ตอนนี้คิดแต่ว่า อยากจะเป็นสมุนของบินลาเดนจังเลย จะไปถล่มให้หมด ก็เพราะว่าธนาคารคือการโจรกรรม ที่แนบเนียน ที่สุดในโลก..... จากคุณ : kuaneu เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 14:21:41

ความคิดเห็นที่ 6 จะไปว่าเค้าก็ไม่ถูกมั้งครับ แบงค์ก็ไม่ใช่เพื่อนสนิท เพื่อนสนิทญาติมิตร บางทียังคิดดอก แล้วนี่เรายืมใครก็ไม่รู้ เค้าก็ต้องคิดเงินคิดดอกเป็นธรรมดา ก่อนยืมเค้าก็บอกว่าดอกเบี้ยจะเป็นอย่างไร และเมื่อเค้าให้ยืม เค้าก็ต้องมีเงื่อนไขเป็นธรรมดา ซึ่งตอนนั้นสามารถตัดสินใจได้ ว่าจะรับหรือไม่รับเงื่อนไข และดอกเบี้ยกู้แพงกว่าฝาก มันก็เป็นธรรมดา คงไม่มีใครให้กู้แบบฟรีๆ ไม่มีผลประโยชน์เข้าตัว และเราได้ผลประโยชน์ที่กู้มาใช้ตามต้องการ และถ้าเค้าเสียประโยชน์เค้าก็ทำตามกฎที่วางไว้ว่าต้องทำอย่างไร มันไม่ใช่แค่ ธอส. ด้วย เป็นทุกสถาบันการเิงินทั้งในระบบและนอกระบบ ยิ่งถ้านอกระบบคงไม่ได้เอาแค่เงินอย่างเดียวครับ มีมากกว่านี้แน่นอน จากคุณ : NakToad เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 14:48:42

ความคิดเห็นที่ 7 เหนื่อยใจ... จากคุณ : ป้าแมงฯ เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:26:45

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณความเห็นที่ 6 มากครับ แต่ถ้าไม่เดือนร้อน ก็คงจะไม่รู้สึกแบบผมหรอกครับ มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้  ถ้าอยากได้บ้าน โดยไม่มีเงินซื้อสด ก็ต้องยอมรับกับดอกเบี้ย แต่กรณีที่ส่งช้า...หรือคราวเดือดร้อน มันเจ็บครับและเจ็บมากจริงๆ ตอนนี้ผมก็กำลังทำใจครับ... ....แต่อยากถามกลับว่าถ้า Bank ไม่มีลูกค้า Bank จะอยู่ได้มั้ย "และดอกเบี้ยกู้แพงกว่าฝาก มันก็เป็นธรรมดา" ==> อันนี้ผมว่ามันไม่ธรรมดา เพราะมันห่างกันมาก ค่าโอนเงินจาก ATM หรือทำธุรกรรมต่างๆ กับ ATM นั้น Bank ก็มีกำไรมากแล้ว โอนเงินให้แม่ใช้ ค่าโอน 25 บาท เกินไปไหมครับ.? เพราะ 25 บาทแม่ผมใช้ได้ 2 วันที่บ้านนอก.... ....แต่อยากรู้ว่าทำไมกฎหมายหรือรัฐบาลปล่อยให้ธนาคารทำกำไรกับประชาชนมากเกินไปขนาดนี้.... แบบนี้ที่เรียกว่า คนจนก็จะยังจน ส่วนคนรวยก็จะรวยยิ่งๆ ขึ้นไป แล้วเมื่อไหร่ มันจะมีจุดเปลี่ยนให้สมดุลหรือเหมาะสมสักทีครับผม.? จากคุณ : kuaneu เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:26:59

ความคิดเห็นที่ 9 คนไม่ดีก็ย่อมต้องมีกลไกคอยบังคับ คือ กฏหมายไง... จากคุณ : bb เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:28:47 A:183.89.184.14 X: TicketID:322641

ความคิดเห็นที่ 10 เข้าใจความรู้สึกนะค่ะว่าการที่เราเสียเปรียบเค้ามันรู้สึกแย่จริงๆแต่ยังไงก็คงมีคนโดนเหมือนเราเยอะเนอะยังไงเอาใจช่วยให้หาทางออกได้ไวไวนะค่ะ จากคุณ : มันหอมมาก (มันหอมมาก) เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:32:30

ความคิดเห็นที่ 11 ความผิดคนอื่น ใหญ่เท่าภูเขา ความผิดเรา เท่าเส้นขน จากคุณ : Oh-deh เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:08:51

ความคิดเห็นที่ 12 ผมกู้ต่อเติมบ้าน ต้องจ่ายประกันฯ   จ่ายค่าผ่อนไป ปีกว่าๆ   มีหนังสือมาทวงว่าผมค้างค่าประกันอยู่  สองร้อยกว่าบาท  ผมก็งงมาก  ตอนทำสัญญา เรียกเท่าไหร่ผมก็จ่ายเท่านั้น  ผ่านไปปีกว่าๆ  บอกว่าผมจ่ายไม่ครบ แสดงว่าแจ้งยอดผมไม่ครบสิ  แจ้งเท่าไหร่ผมก็จ่ายเท่านั้น  ถ้าไม่ครบก็ควรจะทักท้วงตั้งแต่แรก     ผิดพลาดแล้วโยนความผิดให้ลูกค้า  ทำเอาผมเกือบเสียะประวัติทางเงิน  เงินสองสามร้อย  ใครจะไปค้างให้เสียประวัติทางการเงิน  เรียกเก็บไม่ครบ  แล้วไม่บอก  มาทวงทีหลังผ่านไปเป็นปี     โกรธมากๆ  แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จากคุณ : Mr.Sata เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:09:45

ความคิดเห็นที่ 13 ดอกเบี้ยผิดนัดนี่มีทุกธนาคารล่ะครับอย่างออมสินนี่ 14%เลยครับ ยังไงคงต้องติดต่อ ธอส.ด่วนเลยครับหาทางแก้ไข จากคุณ : รักชีวิต เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:42:30

ความคิดเห็นที่ 14 แบงค์ต้องจ่ายดบ.เงินฝากทุกวัน ผิดนัดไม่ได้ ค่าทวงหนี้ต้องถามแบงค์ชาติดูว่าเก็บได้ไหม มันคงเป็นมาตรการป้องกันไม่ให้ลูกหนี้ผิดนัด จากคุณ : popyim เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 19:01:52

ความคิดเห็นที่ 15 เรื่องปรับดอกเบี้ยเป็น 13% เพราะค้างชำระเกิน 3 งวดเป็นเรื่องปกติของ ธอส.อยู่แล้วค่ะ ถ้าคุณไปจ่ายชำระครบ  แล้วไม่มียอดค้าง  ดอกเบี้ยก็จะปรับลดลงมาเท่าเดิม คือ 6.5% เวลาที่เรามี ปัญหาไม่สามารถจ่ายเงินได้ตรงตามสัญญาเงินกู้ที่เราทำไว้แต่แรก ลองเข้าไปคุยที่ธนาคารดูนะคะ  ว่าสามารถแก้ไขอะไรได้บ้าง  เชื่อว่าทางแบงค์คงไม่โหดร้ายเกินไปนัก น่าจะมีทางออกที่ดี เช่น ปรับโครงสร้างหนี้  ลดจำนวนเงินผ่อนต่อเดือน น่าจะดีกว่าที่คุณเงียบหายไปเฉยๆ แบบนี้  ทางแบงค์ก็ต้องเพิ่มดอกเบี้ยเป็น 13% เป็นธรรมดาค่ะ ส่วนเรื่องค่าทวงถาม 1,000 บาท  นี่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยค่ะว่ามีด้วยเหรอ ^^ ยังงัยลองเข้าไปคุยกับทางธนาคารโดยตรงเลยจะดีกว่านะคะ ให้กำลังใจค่ะ ^^ จากคุณ : chicken demon เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 20:14:36

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่อยากโดนเอาเปรียบก้ออย่าไปกู้ครับ เก็บเงินเองให้พอแล้วค่อยไปซื้อบ้าน สบายใจกว่า อกเขาอกเราครับ ถ้ามีคนยืมเงินเราแล้วเงียบไปเราคงแย่เหมือนกัน แต่เห็นใจจขกท น๊ะครับ ปัญหามีทุกคนครับ ค่อยๆแก้กันไปครับ ปัญหาเค้ามีไว้ให้แก้ครับ จากคุณ : chareeve เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 10:23:38

ความคิดเห็นที่ 17 เรื่องค้างค่างวดแล้วโดนปรับนี่ไม่ออกความเห็นละกันนะครับเพราะธนาคารไหนก็เป็น เรื่องมาตรการหลังผิดนัดชำระหนี้นี่คงต้องติดต่อธนาคารเองละครับ ส่วนเรื่องดอกเบี้ยเงินกู้สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากมันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วครับ คิดง่ายๆ ถ้าดอกเบี้ยเงินกู้คือรายได้ ดอกเบี้ยเงินฝากก็คือรายจ่าย ถ้ารายได้น้อยกว่ารายจ่ายทุกธุรกิจหรือแม้แต่เราๆท่านๆมันก็อยู่ไม่ได้ มองให้กว้างหน่อยนะครับ อย่าอะไรก็เรียกร้องแต่สิทธิ ลองมองย้อยกลับดูตัวเองก่อนกว่าปฏิบัติตามหน้าที่ที่ควรทำได้รึยัง แล้วนั่นแหละถึงจะได้รับสิทธิอันสมควร จากคุณ : เบื่อ....... เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 00:22:25 A:223.206.208.135 X: TicketID:326236

ความคิดเห็นที่ 18 ครับ  เข้าใจว่า ดอกเบี้ยเงินฝากน้อยกว่าดอกเบี้ยเงินกู้ แต่ที่ผมได้บอกไปคือมันห่างกันมาก ทำไมไม่ให้มันสมน้ำสมเนือหรือใกล้กันหน่อยเช่น ดอกเบี้ยเงินฝาก 3% ดอกเบี้ยเงินกู้ 6% ประมาณนี้ แต่นี่ดอกเบี้ยผิดชำระ 13%, Credit Card 15-20%, เงินกู้ 18% เข้าใจไหมครับ  ผมไม่ได้บอกว่าให้ดอกเบี้ยเงินฝาก = ดอกเบี้ยเงินกู้นะครับผม ....แต่ขอบคุณทุกๆ ความคิดเห็นมากๆครับ.... สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม... จากคุณ : kuaneu เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 20:23:46

ความคิดเห็นที่ 19 เอ่ออ เค้าต้องมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่นเงินเดือนพนักงานเป็นหมื่นๆ คน และสวัสดิการ แค่ค่าใช้จ่ายในเรื่องอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ค่าทำตู้ ATM และอื่นๆ อีกมากมาย จากคุณ : Noo Toey เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 54 02:15:36

ความคิดเห็นที่ 20 ตอบความเห็น 19 เพื่อนผมทำงานวงใน แค่ค่าบริการต่างๆของ ATM หรือธุรกรรมของแบงค์ เดือนเดียวก็สามารถจ่ายเงินเดือนพนักงานได้ทั้งประเทศครับ Bank ทุกแบงค์เข้าตลาดหลักทรัพย์หมดครับ และบริษัทที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ต้องมีกำไรอย่างต่ำ 200 ล้านบาทต่อปี ลองคิดดูนะ บางธนาคารมีทรัพย์สินที่เป็นกำไรเป็นหมื่นล้าน... ปัจจุบันดอกเบี้ยเงินฝาก 3% ดอกเบี้ยเงินกู้ 20% ผมอยากให้ดอกเบี้ยเงินฝาก 3% ดอกเบี้ยเงินกู้ไม่เกิน 10% ครับ .....แต่ทำยาก เพราะนี่คือ Thailand Only....   จบข่าว. จากคุณ : kuaneu เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 15:00:08