ความคิดเห็นที่ 1 LH Bank (MLR 7.25% ,อายุสัญญา 5 ปี ฟรีค่าจดจำนอง เมื่อซื้อกับโครงการ L&H) >>>ทำประกัน : แบบที่ 1            ,เดือนที่ 1 – เดือนที่ 9    0.875%            ,เดือนที่ 10 – เดือนที่ 12 MLR -1.9%            , ปีที่ 2 – ปีที่ 3       MLR -1.50%            , ปีที่ 4 เป็นต้นไป      MLR -1.0% >>>ทำประกัน : แบบที่ 2            , ปีที่ 1 3.35%            , ปีที่ 2 3.75%            , ปีที่ 3 เป็นต้นไป MLR -1.0% >>>ไม่ทำประกัน : แบบที่ 1            ,เดือนที่ 1 – เดือนที่ 9   1.275%            ,เดือนที่ 10 – เดือนที่ 12 MLR -1.5%            , ปีที่ 2 – ปีที่ 3      MLR -1.5%            , ปีที่ 4 เป็นต้นไป     MLR -1.0% >>>ไม่ทำประกัน : แบบที่ 2            , ปีที่ 1 – ปีที่ 2       3.75%            , ปีที่ 3 เป็นต้นไป       MLR -1.0% ---------------------------------------------------------------------- แก้ไขเพิ่มเติม ธนาคาร UOB และธนาคาร กรุงศรีอยุธยา ค่ะ ---------------------------------------------------------------------- UOB (MLR 7.75% อายุสัญญา 3 ปี) >>>ทำประกัน :            , เดือนที่ 1 - เดือนที่ 6 0%            , เดือนที่ 7 - เดือนที่ 12 MLR -2%            , ปีที่ 2             MLR -2.25%            , ปีที่ 3                MLR -2%              , ปีที่ 4 เป็นต้นไป        MLR -1.25% >>>ไม่ทำประกัน            , เดือนที่ 1 - เดือนที่ 6 0%            , เดือนที่ 7 - เดือนที่ 12 MLR -2%            , ปีที่ 2             MLR -2%            , ปีที่ 3                MLR -2%              , ปีที่ 4 เป็นต้นไป        MLR -1.25% ---------------------------------------------------------------------- กรุงศรีอยุธยา (MLR 7.5% อายุสัญญา 3 ปี) >>>แบบที่ 1 :            , ปีที่ 1 เป็นต้นไป        MLR -2.1% >>>แบบที่ 2 :            , เดือนที่ 1 - เดือนที่ 3 0%            , เดือนที่ 4 - เดือนที่ 12 1%            , ปีที่ 2 เป็นต้นไป        MLR -1%       >>>แบบที่ 3 :            , ปีที่ 1 - ปีที่ 3      MLR -2.7%            , ปีที่ 4 เป็นต้นไป         MLR -1%           --------------------------------------------------------------------- ข้อมูลทั้งหมด ณ วันที่ 16 สิงหาคม 54 ไม่มีงาน Money ใดๆทั้งสิ้นเกิดจากการที่ จขกท. ไปสอบถามด้วยตัวเองที่ธนาคารต่างๆ บางข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงถ้าเลยเดือน ก.ย.นี้ไป บางธนาคารสามารถต่อรองได้ ถ้าท่านเป็น ข้าราชการ , รัฐวิสาหกิจ หรือพิจารณาเป็นรายๆไปแล้วแต่เจ้าหน้าที่ธนาคาร ^/\^ สวัสดีค่ะ แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 54 15:29:25 แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 54 15:28:12 จากคุณ : kooaeng_noon เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 21:19:06

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณครับ ใจดีจัง ส่วนดอกนี้ แพงๆ กันทั้งนั้นเลยเฮอย... จากคุณ : หมูน้อยบางวัว เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 21:32:19

ความคิดเห็นที่ 3 กำลังอยากได้พอดีเลยค่ะ ขอบคุณมากๆ สำหรับข้อมูลนะคะ จากคุณ : tamami เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 21:42:02

ความคิดเห็นที่ 4 ใช่ค่ะ ตอนนี้เป็นช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น แพงจัง TT เด๋วมาเพิ่มเติม ธนชาต กับ Standard chartered ให้นะคะ จากคุณ : kooaeng_noon เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 21:48:23

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณมากๆเลยคะ กำลังตัดสินใจเหมือนกันแล้ว จขกท เลืกธนาคารอะไรเหรอคะ จากคุณ : boyyimyam เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 22:02:28

ความคิดเห็นที่ 6 ธ.ธนชาต (MLR 7.25% ,อายุสัญญา 3 ปี) >>>ทำประกัน MRTA Plus และเซ็นสัญญาภายใน 7 วัน                 , ปีที่ 1       0.50%                 , ปีที่ 2  เป็นต้นไป MLR -1.5% >>>ทำประกัน MRTA และเซ็นสัญญาภายใน 7 วัน                 , ปีที่ 1       0.75%                 , ปีที่ 2  เป็นต้นไป MLR -1.5% >>>ทำประกัน MRTA หรือเซ็นสัญญาภายใน 7 วัน                 , ปีที่ 1       1%                 , ปีที่ 2  เป็นต้นไป MLR -1.5% >>>ทำประกัน MRTA หรือเซ็นสัญญาภายใน 7 วัน                 , ปีที่ 1       1%                 , ปีที่ 2  เป็นต้นไป MLR -1.5% >>>ไม่ทำประกัน และไม่เซ็นสัญญาใน 7 วัน                 , ปีที่ 1       1.25%                 , ปีที่ 2 เป็นต้นไป MLR -1.5% --------------------------------------------------------------------------- Standard Chartered (MHR 7.42% , อายุสัญญาไม่ทราบค่ะ ต้องลองสอบถามทางธนาคารอีกที) >>>ทำประกัน ฟรีจดจำนอง!         ,เดือนที่ 1 – เดือนที่ 6     0%         ,เดือนที่ 7 – เดือนที่ 12   3%         , ปีที่ 2 – ปีที่ 3        MHR -1.10%         , ปีที่ 4 เป็นต้นไป       MLR -1.50% >>>ทำประกัน         , ปีที่ 1      MHR -3.70%         , ปีที่ 2      MHR -3.40%         , ปีที่ 3 เป็นต้นไป MHR -2% >>>ไม่ทำประกัน : แบบที่ 1         ,เดือนที่ 1 – เดือนที่ 6        0 %         ,เดือนที่ 7 – เดือนที่ 12      3%         , ปีที่ 2 เป็นต้นไป          MLR -1.50% >>>ไม่ทำประกัน : แบบที่ 2         , ปีที่ 1 – ปีที่ 2        MHR -3.40%         , ปีที่ 3 เป็นต้นไป        MHR -2% --------------------------------------------------------------------------- จากคุณ : kooaeng_noon เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 22:08:27

ความคิดเห็นที่ 7 ครบแล้วค่ะ ^^ โชคดีนะคะทุกคน จากคุณ : kooaeng_noon เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 22:12:42

ความคิดเห็นที่ 8 มีประโยชน์มากเลย ขอบคุณคับ จากคุณ : tielek เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 22:47:51

ความคิดเห็นที่ 9 เท่าที่ผมศึกษามาเหมือนกัน พบว่าอัตราดอกเบี้ยที่สามปี หากเราผ่อนกันตามปกติ และเลือกเวลาผ่อน 30 ปี ธ.ออมสิน จะดอกถูกสุด คงที่ 3.47% ส่วนที่อื่นๆถึงแม้จะมี 0% แต่ก็แค่ช่วงสั้นๆ พอขึ้นปีที่สองที่สาม จะสูง ถ้าไม่โปะในปีแรกเยอะๆ ก็จะไม่คุ้ม แต่ก็นั่นแหล่ะครับ พวกธนาคารที่ 0% หรือ 1% ในช่วงสามหรือหกเดือน ก็จะมีข้อจำกัดการโปะ เช่น ธนชาติ จะโปะได้ไม่เกิน 40% ของรายได้ของผู้กู้ หรืออย่าง ธอส. ที่ดูแล้วคุ้ม แต่ก็โปะได้แค่สองเท่าของค่างวด แลบะไม่สามารถปิดยอดได้จนกว่าสามปี หรือห้าปีขึ้นไป ส่วนธนาคารที่สามารถปิดงวดได้เลย ปีเดียวก็ปิดได้ เ่ช่นกรุงไทย กรุงศรี กสิกรไทย(ลองคุยดีๆ ต่อรองได้) ผมเองเป็นกลุ่มอาชีพพิเศษ ขนาดว่าดอกถูกๆแล้วก็ยังเยอะอยู่ดี เช่น fix 5% 3 ปี ต่อไป MLR -0.5% เทียบกับรายย่อยอื่นๆดอกถูกกว่า แต่ก็ยังสูงอยู่ดี TMB ที่บอกว่าฟรีจดจำนอง ไม่ใช่ค่าจดจำนองที่ต้องจ่ายที่ ที่ดินนะครับ เป็นค่าทำสัญญาจดจำนองเฉยๆครับ ซึ่งปกติจะอยู่ที่ 0.05% ของวงเงินกู้ ไม่เกิน 10000 บาท ผมได้คุยกับผู้จัดการสาขาของ ธ.กสิกรไทย เขาก็บอกว่า ไอ้พวกดอกเบี้ยโปรโมชั่นทั้งหลาย สุดท้ายคำวนแล้ว จะเท่ากันอยู่ดีครับ เขามีวิศวกรด้านการเงินมาคำนวนกันเลย ไม่ว่าจะเลือก 0% สามเดือน หกเดือน คงที่ไงก็ตาม สุดท้ายก็พอๆกัน แต่ต่างกันตรงการบริหารเงินของผู้กู้ครับ เช่น ช่วงนี้เรามีตังพอควร รายได้เยอะ ค่าใช้จ่ายน้อย การเลือก 0% เดือนแรกๆ ในธนาคารที่โปะได้เยอะๆ จะได้ประโยชน์ คือ โปะไปเยอะๆก่อนในช่วงดอกต่ำๆ บางคนมีเยอะ ปีเดียวปิดได้ก็จบ ก็แทบไม่เสียดอกเลย...แต่ถ้าใครรายได้คงที่ ม่ีค่าผ่อนต่างๆคงที่ ไม่สามารถเอามาโปะได้ ก็เลือกที่ดอกถูกๆ เป็นเวลายาวๆ หรือเลือก MLR น้อยๆ พ้นสามปีไป MLR-0.75 หรือ -1.1 พวกนี้ก็จะเป็นการดี เพราะดอกระยะยาวน้อย ไม่ต้องไปสนไอ้ 0% ตอนต้น ช่วงนี้ดอกแพงจริงครับ และมีแยวโน้มจะสูงขึ้นไปอีก ดังนั้นจะทำอะไรก็รีบๆครับ รัฐบาลใหม่มาก็ยุ่งกับค่าแรง ผมว่าอีกนานกว่าจะลดราคาค่าจดจำนอง หรือภาษี ค่าโอนต่างๆ ดังนั้นรีบเข้านะครับ อย่ารอเลย จากคุณ : Agent Molder เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 22:56:35

ความคิดเห็นที่ 10 ตาม คห.9 เลยค่ะ ถ้าคิดแค่ช่วงไม่เกิน 3 ปีแรก แต่ละธนาคารคิดออกมาแล้วดอกเบี้ยใกล้เคียงกัน จะต่างกันก็ตรงรายละเอียดปลีกย่อย เช่น ฟรีค่าโน่นค่านี่ เงื่อนไขการจ่ายคืน หรือการบริการ คนกู้ควรจะดูลักษณะรายได้ของตัวเองว่าเข้ามายังไง แล้วเลือกให้เหมาะสมดีกว่าค่ะ จากคุณ : Minnie On The Road เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 07:04:54

ความคิดเห็นที่ 11 ตอนนี้ธนาคารเขาใช้วิธีสลับ 3 เดือน 6 เดือน อะไรก็ไม่รู้ ทำให้คำนวณดอกยากมาก ถือเป็นเทคนิคการตลาดเลยนะเนี่ย จากคุณ : Vancin เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 07:26:54

ความคิดเห็นที่ 12 -ขอบคุณมากครับ  ไม่มีของ K-bank บ้างเหรอครับ สนใจอยู่พอดี จากคุณ : หนุ่มตักสิลา เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 07:42:18

ความคิดเห็นที่ 13 ขอนครหลวงไทย ด้วยคะ T_T จากคุณ : msh เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 08:04:41

ความคิดเห็นที่ 14 ตอนนี้ ธอส ดอกเบี้ย เป็น 7.125 แล้วค่ะ จากคุณ : Good Girl Go Bad เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 08:15:33

ความคิดเห็นที่ 15 ขอของธ.กรุงศรี ด้วยค่ะ จากคุณ : ไอยรินมาทวงถาม เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 08:45:39

ความคิดเห็นที่ 16 เลือก กรุงไทย เพราะ สามารถโปะได้ไม่มีข้อจำกัดค่ะ จากคุณ : MJdrawer เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 08:46:21

ความคิดเห็นที่ 17 คุณ หนุ่มตักสิลา >>>ไม่มีค่ะ พอดีเคยไปคุยตอนงาน Money Expo แล้วดอกก็ยังแพงกว่าที่อื่น ที่สำคัญแถวบ้านไม่มีค่ะ ขี้เกียจเดินทาง 555 คุณ msh >>> ธ.ธนชาติ เทคโอเวอร์ ธ.นครหลวงไทย  แล้วไม่ใช่หรอค่ะ??? คุณ Good Girl Go Bad >>> หมายถึง MRR หรือป่าวค่ะ จากแต่เดิม MRR 6.75% ขึ้นเป็น MRR 7.125% (ธนาคารอื่นใช้ MLR ที่นี่ใช้ MRR) พึ่งไปถามมาวันที่ 10 ส.ค.54 แล้วเองนะคะ สาขาบางใหญ่ ไม่ทราบขึ้นแล้วหรอเนี้ย กลายเป็นกระทู้แนะนำไปซะแล้ว ดีใจนะคะที่ข้อมูลมีประโยชน์กับเพื่อนๆ แต่ยังยืนยันค่ะว่านี่คือข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ถ้าจะกู้จริงอยากให้ลองไปด้วยตัวเอง เผื่อแต่ละสาขาจะสามารถขอโปรพิเศษได้ เช่นตัว จขกท.ซื้่อบ้าน Land ธ.กรุงเทพโคกับโครงการอยู่เลยให้ rate อาชีพพิเศษสายการแพทย์ แม้ตัว จขกท. จะไม่ได้เป็นแพทย์ก็ตาม จากคุณ : kooaeng_noon เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 08:48:07

ความคิดเห็นที่ 18 คุณ Agent Molder >>>ตามนั้นเลยค่ะ ตอนนี้เป็นช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น ธ.ออมสินก็กำลังจะปรับจาก คงที่ 3.45% เป็น 4.99% ทางธนาคารบอกมา ฉนั้นจะรีบทำอะไรต้องรีบทำค่ะ ถ้าค่าแรงเพิ่ม ราคาบ้านยิ่งขึ้นรุนแรง คุณ Agent Molder เป็นคุณหมอแน่เลย (^o^)/ คุณ Vancin >>>จขกท.ใช้วิธีบ้านๆค่ะ คือโปรแกรม excel นี่แหละ ไปโหลดโปรแกรมคำนวณดอกเบี้ยของธนาคารแล้ว งง? (-_-') จากคุณ : kooaeng_noon เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 08:53:50

ความคิดเห็นที่ 19 rate ดอกเบี้ยใช้กับบ้านมือสองหรือบ้านใหม่ค่ะ จากคุณ : เอ็ม เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 09:01:59 A:118.172.227.79 X: TicketID:324622

ความคิดเห็นที่ 20 SCB (MRR 7.9% ,อายุสัญญา 3 ปี) >>>ทำประกัน : แบบที่ 1              , ปีที่ 1 1.0%              , ปีที่ 2 MRR -1.84%              , ปีที่ 3 เป็นต้นไป MRR -1.50% >>>ทำประกัน : แบบที่ 2              , ปีที่ 1 1.25%              , ปีที่ 2 เป็นต้นไป MRR -1.50% >>>ไม่ทำประกัน   , ปีที่ 1 MRR -1.50%              , ปีที่ 2 เป็นต้นไป MRR -1.50% อ่า ทำไมได้ถูกจังเลยอ่ะ เราไปถาม บ้านมือสองนะคะ ปีแรก 5.25 ปีต่อไป MRR ทำประกันด้วยค่ะ จากคุณ : nooneknows (nooneknows) เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 09:22:24

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดี ๆ นะคะ  ให้ความรู้ทั้งกระทู้  และทุกคอมเม้นเลย กำลังจะยื่นกู้สร้างบ้านให้แม่ค่ะ  ส่วนตัวไม่ค่อยมีความรู้เรื่องพวกนี้สักเท่าไรนัก พอมาเจอกระทู้นี้และทุกคอมเม้นมันทำให้เหมือนมีความรู้เพิ่มมากขึ้น จากคุณ : เจ๋อน้อยน้อย เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 10:02:27

ความคิดเห็นที่ 22 ยืนยัน MRR ของ ธอส. 7.125 ครับ (15 ส.ค.) จากคุณ : batandtam เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 10:22:32

ความคิดเห็นที่ 23 K bank  ล่ะครับ จากคุณ : Chip lost เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 10:26:27

ความคิดเห็นที่ 24 ของ K-Bank นะครับ เลือกได้ 6 แบบ แบบที่ 1  อัตราดอกเบี้ยคงที่ 1 ปีแรก คิดอัตราคงที่ 2.50% แบบที่ 2  อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก คิดอัตราคงที่ 4.50% แบบที่ 3  อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรก คิดอัตราคงที่ 5.25% แบบที่ 4  อัตราดอกเบี้ยลอยตัวพิเศษ 1 ปีแรก MLR-4.50% แบบที่ 5  อัตราดอกเบี้ยลอยตัวพิเศษ 2 ปีแรก MLR-2.50% แบบที่ 6  อัตราดอกเบี้ยลอยตัวพิเศษ 3 ปีแรก MLR-1.75% หลังจากระยะเวลาข้างต้น คิดอัตราดอกเบี้ย MLR จนสิ้นสุดอายุสัญญาสำหรับที่อยู่อาศัยทุกประเภท MLR ล่าสุด 7.125 ครับ ถ้าเป็นอาชีพพิเศษ ดอกเบี้ยคงที่ 5% 3 ปี ต่อไป MLR -0.75% ครับ สามารถโปะเท่าไหร่ก็ได้ ปิดงวดไปเลยในปีแรกก็ได้ ยกเว้น re-finance เสีย 3% ของเงินกู้ ปล.ถ้าทำประกันโน่น นี่ นั่น ก็มีลดอีก ลองสอบถามดู จากคุณ : Agent Molder เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 11:22:14

ความคิดเห็นที่ 25 ตกลงธนาคารไหนดีกว่ากันอะ ดูแล้ว งง  จะได้เป็นข้อมูลการศึกษาข้อมูล จากคุณ : nuuna2007 เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 11:27:23

ความคิดเห็นที่ 26 เห.... เดี๋ยวนี้ LHBank minimum 5 ปีเลยหรอครับ ของผม 3 ปีนะ กู้เมื่อปีที่แล้ว ทำประกันหรือไม่ทำค่าเท่ากัน (เลยไม่ทำ ) เดือนที่ 1-12 ดอก 0% เดือนที่ 13 เป็นต้นไป MLR-1% เพิ่มเติมให้อีกหน่อย ตอนนี้ MRR ของ SCB ลดเหลือ 7.65% แล้วนะครับ จากคุณ : B@@M เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 11:44:20

ความคิดเห็นที่ 27 เพิ่มด้วยอีกคน บ้านมือสองนะคะ ของ SCB โทรไปถาม Call Center เมื่่อกี้ ปีแรก 5% ปีต่อไป MRR ไม่บังคับทำประกัน (ตอนเราไปยื่นให้เรา 5.25 ขอร้องให้ทำประกันด้วยอ่ะ) อยากถามค่ะว่าถ้าเรายื่นไปแล้ว แต่ยังไม่อนุมัติ หรืออนุมัติแล้วแต่ยังไม่ได้เซ็นสัญญา เราจะได้เรทดอกเบี้ยใหม่ หรือเปล่าคะ ถ้าหากว่าที่สาขาให้ดอกเบี้ยเรามาสูงกว่า ณ เรทปัจจุบัน เค้าบอกเรามาว่าถ้าอนุมัติแล้วจะแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วอ่ะค่ะ จากคุณ : nooneknows เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 12:00:02

ความคิดเห็นที่ 28 เมื่อ 3 ปีก่อน ผมเคยใช้บริการ AIA ดอกคงที่ 25 ปี ที่ 6.25% หากซื้อประกันกับเขาด้วย ดอกเหลือ 6.00% ตลอดอายุสัญญา แต่ในช่วงสามปีแรกห้ามจ่ายเกิน 1.5 เท่าของค่างวดเดือน แต่ถ้าเลยไปกว่านั้นก็สามารถโปะหรือปิดสัญญาได้เลย ณ เวลานั้น เมื่อคำนวณค่างวดเทียบกับธนาคารที่ดอกถูกกว่า ของ AIA กลับจ่ายต่อเดือนน้อยกว่า เพราะทราบแน่นอนว่าดอกเป็นเท่าไหร่ แต่ของธนาคารอื่นดอกเบี้ยอิงตาม MLR/MRR จึงต้องคิดค่าผ่อนเผื่อไว้ จึงผ่อนต่อเดือนแพงกว่า สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการความเสี่ยงเรื่องความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย fixed rate ก็น่าสนใจครับ จากคุณ : mr_en เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 12:39:57

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณ จขกท. มากเลยนะค่ะ ที่เอาข้อมูลมาแบ่งปัน :))   ธ. ออมสินจะปรับจาก คงที่ 3.45% เป็น 4.99% จิงหรอค่ะ เริ่มมีผลบังคับเมื่อไรอ่ะ..เราตั้งใจจะยื่นกู้กับที่นี่ แต่บ้านเราก็ไม่เสร็จสักที โครงการผลัดไปเรื่อยๆ สงสัยจะอดโปร 3.45% เศร้าใจจัง -_- จากคุณ : a_neung เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 13:13:50

ความคิดเห็นที่ 30 ขอสอบถามนะครับ ถ้าที่บ้านผมมี 5 คน 4 คนไปกู้เงินซื้อบ้านมา 1 หลังตอนนี้ผ่อนไปได้ระยะนึงแล้ว แต่เกิดเปลี่ยนใจอยากขายบ้านนั้นทิ้ง พร้อมกับทำบ้านใหม่ที่ที่เดิม อย่างนี้มีวิธีกู้เงินอย่างไรดีครับ ผมเป็นคนที่ 5 ยังไม่ได้มีบัตรเครดิต หรือ หนี้สินใดๆ แต่รายได้แค่ สองหมื่นบาท จากคุณ : ผมเป็นภูมิคุ้มกันอาหมวยบกพร่อง เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 13:57:07

ความคิดเห็นที่ 31 คุณ ไอยรินมาทวงถาม >>> ไม่มีค่ะ พอดีไม่มีธนาคารกรุงศรีแถวบ้าน แล้วอยากกู้กับธนาคารใกล้บ้านเพื่อสะดวกเวลาทางธนาคารจะมาประเมินนะคะ คุณ nooneknows คุณ เอ็ม >>>สำหรับบ้านมือหนึ่งค่ะ คุณ B@@M >>>ดีจังเลยค่ะ ของดิฉันอายุสัญญา 5 ปี TT คุณ a_neung >>>ออมสินจะปรับอัตราดอกเบี้ยจริงๆค่ะ ลองไปถามมาหลายสาขาแล้ว แต่ไม่รู้เมื่อไหร่เหมือนกันค่ะ จขกท. ก็ยื่นกู้กับออมสิน ลุ้น! อยู่เหมือนกัน ขอให้ทันทีเถอะ จากคุณ : kooaeng_noon เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 14:31:37

ความคิดเห็นที่ 32 เพิ่มเติม ตอบ คุณ B@@M นะคะ >>>LH bank ถ้าให้เค้าออก ค่าจดจำนองให้ อายุสัญญาจะ 5 ปี แต่ถ้าออกเองอายุสัญญาจะ 3 ปีค่ะ (โทรไปสอบเพื่อความมั่นใจแล้วค่ะ) แต่เมื่อมาคำนวณ LH bank ดอกเบี้ยก็ยังแพ้ธนาคารอื่น แต่จะให้วงเงินกู้ที่สูงกว่า (ก็จะซื้อบ้านของเค้านี่ค่ะ)ดังนั้น แม้ จขกท. จะซื้อบ้าน land ก็เลือกกู้กับธนาคารอื่นอยู่ดีค่ะ จากคุณ : kooaeng_noon เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 14:36:37

ความคิดเห็นที่ 33 คุณ nuuna2007 >>> ต้องดูหลายอย่างที่เหมาะสมกับตัวเองค่ะ 1.บ้านใหม่ หรือ บ้านมือสอง 2.วงเงินที่กู้ บางที่ดอกเบี้ยถูก แต่ให้กู้ไม่ 100% เช่น ออมสิน บ้านราคา 6 ล้าน อาจให้แค่ 5 ล้าน แล้วจะหาเงินอีก 1 ล้านจากไหนละ (-_-') คุณ nuuna2007 ลองบอกรายได้ บ้านที่อยากได้ ราคาบ้านให้เพื่อนๆในนี้ช่วยก็ได้นะคะ เพราะตัว จขกท.เองก็ศึกษาจากที่นี่แหละค่ะ จนตอนนี้จะมีบ้านเป็นของตัวเองแหละ \(^o^)/ จากคุณ : kooaeng_noon เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 14:42:05

ความคิดเห็นที่ 34 ถามนิดนึงครับ ผมรายได้ 19000 มีหนี้ หมื่นกว่าบาทเป็นสินเชื่อเงินสด แฟนผม 15000 มีหนี้ 7 หมื่นกว่าบาทเป็นสินเชื่อเงินสดเช่นกัน ต้องการกู้ร่วม ซื้อคอนโดมือสองราคาประมาณ 1400000 มีโอกาสผ่านไหมครับแล้วมีโอกาสที่จะได้กู้เต็ม 100% หรือมากกว่ามั้ยครับ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : eakclub1za เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 15:59:41

ความคิดเห็นที่ 35 เป็นแนวทางได้ค่ะ กำลังจะยื่นขอสินเชื่อพอดีเลย อยู่ระหว่างเลือกธนาคาร ใครที่กู้แล้วธนาคารไหนเป็นยังไงบ้างแนะนำด้วยน่ะค่ะ จากคุณ : เนยสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 16:26:06

ความคิดเห็นที่ 36 เป็นแนวทางได้ค่ะ กำลังจะยื่นขอสินเชื่อพอดีเลย อยู่ระหว่างเลือกธนาคาร ใครที่กู้แล้วธนาคารไหนเป็นยังไงบ้างแนะนำด้วยน่ะค่ะ จากคุณ : เนยสีรุ้ง (เนยสีรุ้ง) เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 16:26:19

ความคิดเห็นที่ 37 ไม่ได้ว่า จขกท. นะครับ แต่พวกกระทู้แนวนี้ผมเห็นผ่านๆตาแบบไม่ได้รวมอัดแน่นมาแบบนี้บ่ิอยมากๆ ส่วนตัวผมอยากให้ลองมีกระทู้ตั้งโจทย์ง่ายๆเข้าใจง่ายๆเกี่ยวกับเรื่อง MLR MRR โดยไม่ต้องใช้ศัพท์เฉพาะ ไม่ต้องเป็นทางการมากมาย ขึ้นมาซักกระทู้นึง ผมจะรออ่านนะครับ จากคุณ : abadeebee เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 17:21:58

ความคิดเห็นที่ 38 before the interest was about 3 % the people'd complained bla... bla..., now more 7 %. .. จากคุณ : lucky เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 19:04:33 A:138.188.100.224 X: TicketID:322214

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : lovehappiness เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 19:24:36

ความคิดเห็นที่ 40 ตอบในฐานะเจ้าหน้าที่สินเชื่อ ทุกคนก็คงต้องขอบคุณเจ้าของกระทู้ แต่อยากชี้แจงนิดนึงในเรื่องอัตราดอกเบี้ย ของแต่ละแบงค์ เนื่องจากผุ้กุ้แต่ละรายซื้อบ้านหรือคอนโด ต่างๆกันซื่่งเรทดอกเบี้ย จะแตกต่างกันไปตาม เจ้าของโครงการ ตามเกรดโครงการของแต่ละแบงค์ ส่วนบ้านมือสองจะเป็นอีกเรทนึง  ทุกแบงค์ทุกทางเลือกนั้น  คำนวณ แล้วไม่หนีกันมากขี้นอยู่กับการเงินของแต่ละคนว่าต้องการจ่ายมากหรือน้อยในช่วงเวลาใด  บางคนอยากได้ดอกเบี้ยถูกแต่ไม่ผ่านเกณฑ์แบงค์ แต่อีกแบงค์กับอนุมัติให้ แล้วจะว่าดอกเบี้ยสูงก็ใช่ที่ เนื่องจากแบงค์มีความเสี่ยงสูงที่ยอมอนุมัติวงเงินให้ อย่างลูกค้าผม ทั้งบริษัทมีพนักงานเพียง 5 คน อายุงานก็แค่ปีเดียว ซึ่งแต่ละแบงค์อายุงานต้องรวมที่เดิมต้องไม่น้อยกว่า 2 ปี ดังนั้นผู้กุ้แต่ละรายเมื่อได้ติดต่อโครงการใดๆแล้วขออัตราดอกเบี้ย ในโครงการนั้นๆได้เลย จะดุจากกระทู้ต่างๆไม่ได้ อย่างที่บอกไว้ว่าทุกธนาคารแบ่งเกรดของโครงการไว้ และยื่นกับทางโครงการจะดีกว่าเนื่องจากเซลล์โครงการสามารถตามเรื่องได้ดีกว่า จากคุณ : นัธ บ่อนไก่ (suanplu) เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 21:00:58

ความคิดเห็นที่ 41 คุณ eakclub1za >>>จขกท. ไม่ใช่สินเชื่อ หรือเจ้าหน้าที่ธนาคารนะคะ ขอตอบกลางๆละกัน อาจผิดถูกยังไงต้องรอคนที่รู้จริงๆอีกทีนะคะ จากประสบการณ์ที่ไปกู้ธนาคารมา เค้าจะดูจาก 1.รายได้รับ เน้นว่าต้องประจำด้วยนะคะ ถ้าค้าขายก็ต้องมีอะไรที่เป็นหลักฐาน เช่น book bank ว่าเราได้รับเงินจำนวนนี้เป็นประจำทุกเดือนจริง 2.หนี้สินค่ะ ซึ่งข้อนี้อาจทำให้ คุณ eakclub1za มีปัญหาได้ แนะนำให้ไปที่ธนาคารเลยค่ะ อย่าไปกลัวลองไปปรึกษาเค้าก่อนก็ได้ค่ะ โชคดีนะคะ คุณ abadeebee >>>จริงๆกระทู้นี้ตั้งใจ ตั้งขึ้นมาเพื่อจะบอกต่อค่ะ รู้มาก็บอกต่อไป เลยไม่ได้คิดถึงว่าอาจทำให้หลายคนสับสน ยังไงจะรับไว้ปฎิบัติค่ะ ขอบคุณนะคะ คุณ นัธ บ่อนไก่ >>>ขอบคุณที่มาช่วยเพิ่มเติมให้เข้าใจการกู้ธนาคารมากยิ่งขึ้นค่ะ จากคุณ : kooaeng_noon เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 22:02:32

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณมากเลยนะคะ จะได้เก็บไว้เป็นข้อมูล เพราะต้องเตรียมยื่นกู้แล้วล่ะ จากคุณ : Love2_smile เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 16:17:27

ความคิดเห็นที่ 44 ความคิดเห็นที่ 33     คุณ nuuna2007 >>> ต้องดูหลายอย่างที่เหมาะสมกับตัวเองค่ะ 1.บ้านใหม่ หรือ บ้านมือสอง 2.วงเงินที่กู้ บางที่ดอกเบี้ยถูก แต่ให้กู้ไม่ 100% เช่น ออมสิน บ้านราคา 6 ล้าน อาจให้แค่ 5 ล้าน แล้วจะหาเงินอีก 1 ล้านจากไหนละ (-_-') คุณ nuuna2007 ลองบอกรายได้ บ้านที่อยากได้ ราคาบ้านให้เพื่อนๆในนี้ช่วยก็ได้นะคะ เพราะตัว จขกท.เองก็ศึกษาจากที่นี่แหละค่ะ จนตอนนี้จะมีบ้านเป็นของตัวเองแหละ \(^o^)/ จากคุณ : kooaeng_noon   เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 14:42:05   ขอบคุณค่ะ พอดีเลือกเป็นบ้านใหม่โครงการเสร็จปลายปีนะค่ะ ราคา 3.5 ผ่อน 30 ปี ช่วยแนะนำธนาคารหน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : nuuna2007 เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 20:36:57

ความคิดเห็นที่ 45 จริงตามที่ คห.40 บอกครับ เพราะแต่ละโครงการ แบงก์เดียวกันดอกเบี้ยยังไม่เหมือนกันเลยครับ เพราะมันจะแบ่งเกรดแยกออกไปอีกหลายส่วนครับ บ้านใหม่ ก็จะแบ่งเป็นเกรดโครงการหลายเกรด รีไฟแนนซ์ ก็จะเป็นอัตราดอกเบี้ยอีกแบบไม่เหมือนบ้านใหม่ ก่อสร้างบ้าน ก็เรทไม่เหมือนกัน นำบ้านปลอดภาระไปจำนอง ก็ดอกเบี้ยแพงที่สุด บ้านมือสอง ก็อีกเรทนึง อาชีพของลูกค้าเองก็มีส่วนในเรื่องดอกเบี้ยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นผมว่าเอาดอกเบี้ยมาเทียบแบบนี้มันจะงงเอาน่ะสิครับ จากคุณ : Black Absolute เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 23:31:30

ความคิดเห็นที่ 46 MLR MRR คืออะไร คำนวนยังไง หาอ่านอย่างละเอียดได้ที่ไหนอะครับ กำลังจะซื้ออยู่ โอนปีหน้า อยากศึกษาไว้ก่อน จากคุณ : natural killer เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 23:48:10

ความคิดเห็นที่ 47 คุณ natural killer >>>MLR MRR คืออะไร? เวลานำมาคำนวณ เช่น ธนาคารแห่งหนึ่ง MLR 7.125% ,ปีที่ 1 MLR -4.90% ,ปีที่ 2 เป็นต้นไป  MLR -1.5% แปลว่า คุณต้องเสียดอก ,ปีที่ 1 7.125-4.9 = 2.225% ,ปีที่ 2 เป็นต้นไป 7.125-1.5 = 5.625% MRR ก็เช่นเดียวกันค่ะ เช่น ธนาคารแห่งหนึ่ง MRR 7.9% ,ปีที่ 1 MRR -4.90% ,ปีที่ 2 เป็นต้นไป  MRR -1.5% แปลว่า คุณต้องเสียดอก ,ปีที่ 1 7.9-4.9 = 3% ,ปีที่ 2 เป็นต้นไป 7.9-1.5 = 6.4% เข้าโปรแกรม excel คำนวณออกมาเลยค่ะว่า ดอกเบี้ยภายใน 3 ปี 5 ปี คุณต้องเสียเท่าไหร่? ธนาคารไหนถูกกว่ากัน ไม่ต้องแปลว่า MLR MRR คืออะไรก็ได้ค่ะ แค่นำ rate MLR หรือบางธนาคารใช้ MRR ที่ธนาคารกำหนดไปลบเท่านั้นเอง หวังว่าคงเข้าใจมากขึ้นนะคะ จากคุณ : kooaeng_noon เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 09:57:24

ความคิดเห็นที่ 48 คุณ Black Absolute >>> อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นค่ะ ว่านี่คือดอกเบี้ยของบ้านโครงการ AA ได้แก่ Land and house ,SC Asset ,Q.house อาจมีโครงการอื่นๆเพิ่มเติมนะคะ ทำให้ดอกเบี้ยถูกกว่าปกติหน่อยค่ะ เนื่องจากเป็นการร่วมมือกันระหว่างธนาคารกับโครงการค่ะ เห็นด้วยกับ คุณ Black Absolute ใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้นนะคะ ถ้าจะกู้จริงต้องไปธนาคารนั้นๆค่ะ จากคุณ : kooaeng_noon เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 10:02:46

ความคิดเห็นที่ 49 ดีงามและเป็นประโยชน์มากเลยคะ :) จากคุณ : MaijaMonet เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 13:38:50

ความคิดเห็นที่ 50 เพิ่งรู้ว่ามันคิดแบบนี้ คุคุคุคุ จากคุณ : moshita เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 16:07:09

ความคิดเห็นที่ 51 เอาของธนาคารอิสลามมาฝากนะค๊า ทางเลือกที่1 ปีที่ 1 2.00% ปีที่ 2 SPRL - 1.75% ปีที่ 3 เป็นต้นไป SPRL - 1.375% ทางเลือกที่2 ปีที่ 1 3.75% ปีที่ 2 4.75% ปีที่ 3 เป็นต้นไป SPRL - 1.375% ทางเลือกที่3 ปีที่ 1 SPRL - 4.00% ปีที่ 2 SPRL - 2.50% ปีที่ 3 เป็นต้นไป SPRL - 1.375% ทางเลือกที่4(ปลอดชำระเงินต้น) ปีที่ 1 % 3.75% ปีที่ 2 SPRL - 1.75% ปีที่ 3 เป็นต้นไป SPRL - 1.375% หมายเหตุ : ปัจจุบัน SPRL = 7.40% ต่อปี ประกาศ ณ วันที่ 29 มิถุนายน 2554 จากคุณ : เขมทอง เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 22:03:24

ความคิดเห็นที่ 52 ผ่อนกับกรุงศรีอยู่ ดอกโหดมาก ขึ้นปีที่ 3 โดนดอกเดือนละ 7.5% งงเลย ทำไมกลายเป็น MLR เพียวๆ ไม่มีลบเลย งง จากคุณ : Nonz-Kaze เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 08:20:58

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณ คุณ เขมทอง ที่มาแบ่งปันค่ะ จากคุณ : kooaeng_noon เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 18:54:55

ความคิดเห็นที่ 54 เพิ่ง refinance ไปเหมือนกันค่ะ เลือกออมสินเพราะถูกสุดแล้วค่ะ จากคุณ : SemiMe เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 20:27:35

ความคิดเห็นที่ 55 การทำ refinace ต้องทำอย่างไรบ้าง ยากไหม ฝากถามผู้รู้ด้วยครับ จากคุณ : ซิว ซิว เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 54 11:02:13 A:171.4.29.217 X: TicketID:326830

ความคิดเห็นที่ 56 ดีจังเลยคนที่กำลังจะกู้ ก็จะได้เอามาเปรียบเทียบ ผมเองก็พึ่งกู้ไปกับ KBANK 3 ปีแรกคงที่ 4.75% หลังจากนั้น MLR - 0.75% โดยที่ MLR = 7.125% ทำประกัน 10ปี (ประมาณ 70,000) ได้ส่วนลดดอกเบี้ยปีแรกอีก 0.3% แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 54 13:00:44 จากคุณ : OnTheRock@TH เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 54 13:00:19

ความคิดเห็นที่ 57 เห็นดอกเบี้ยแล้วถึงกับเข่าอ่อนเลยทีเดียว ... แต่ก็ขอบคุณจขกทนะคะ จากคุณ : Moment Sweet เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 54 15:52:02

ความคิดเห็นที่ 58 Update ข่าวค่ะ ธ.ออมสิน พึ่งแจ้ง จขกท.มาค่ะว่า อนุมัติ แต่วงเงินที่ขอไม่ได้ ลดไปตั้ง 5 แสน!!!! แว้ววว..เซ็งง จะเก็บเงินไว้ซื้อเฟอร์นิเจอร์สักหน่อย คุณ SemiMe >>>ดอกเค้าถูกจริงค่ะ แต่ปล่อยยากจัง! อยากถามเพิ่มเติมได้ไหมค่ะ เวลา refinance กับ ธ.ออมสินเค้าคิดเท่าไหร่ค่ะ ใช่ 1% ของวงเงินกู้ใหม่หรือป่าว พอดีกำลังจะเข้าไปเป็นลูกค้าเค้าเหมือนกันค่ะ ^/\^ คุณ ซิว ซิว >>>จขทก.ยังไม่เคย refinance เลยค่ะ ลอง smart search หรือตั้งกระทู้ถามไปเลยค่ะ จะได้มีคนเห็นเยอะๆ จะได้มาช่วยตอบค่ะ(จขกท.ก็อยากรู้เหมือนกัน 555) คุณ OnTheRock@TH >>>ขอบคุณที่มาแบ่งปันค่ะ ^^ คุณ Moment Sweet >>> มีแต่แน้วโน้มว่าจะเพิ่มด้วยนะคะ จากคุณ : kooaeng_noon เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 54 16:23:43

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณครับ จากคุณ : oatomail เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 08:19:09

ความคิดเห็นที่ 60 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆคร่า จากคุณ : YdnaC เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 11:58:35

ความคิดเห็นที่ 61 ของออมสิน เวลา refinance เขาจะคิด 1% ของวงเงินกู้เก่าค่ะ เคยถามจนท.แล้ว หลายครั้งว่าทำไมคิดของวงเงินกู้เดิม ไม่คิดอันใหม่ เขาก็ว่าต้องคิดอันเดิมอยู่ดีค่ะ จากคุณ : นักรบหน้าใหม่ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 13:20:36

ความคิดเห็นที่ 62 อยากสอบถามครับ กรุงศรี เลือกแบบที่1 MLR-2.1ตลอด ดีไหมครับ ถ้าเทียบกับ ออมสินแบบที่2  , ปีที่ 1        1.25%          , ปีที่ 2          MLR -2%          , ปีที่ 3 เป็นต้นไป   MLR -0.5% อันไหนจะดีกว่ากันครับ จากคุณ : การใช้ชีวิต...สำคัญที่จิตใจ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 15:20:19

ความคิดเห็นที่ 63 กรุงศรีอยุธยา MLR 7.5% ตลอดอายุสัญญา MLR -2.1% แสดงว่า คุณ ต้องจ่ายดอกเบี้ยต่อปี 7.5-2.1 = 5.4 % ค่ะ ลองคำนวณเล่นๆ สมมุติฐานนะคะ กู้ 6 ล้านบาท ผ่อนเดือนละ 43,000 บาท คิด 3 ปีพอนะคะ เพื่อจะ refinance ออมสินจะเสียดอก 700,581 บาท กรุงศรีจะเสียดอก 925,444 บาท แสดงว่า ออมสินถูกกว่าค่ะ จากคุณ : kooaeng_noon เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 21:01:50

ความคิดเห็นที่ 64 ความรู้ทุกอย่างหาได้จาก Google นะคะ .. ===================================== ปัจจุบันสินเชื่อเงินกู้ซื้อบ้านในตลาดมีดอกเบี้ยให้เลือกมากมายหลายสิบรูปแบบ ที่นิยมกันมากเห็นจะเป็นดอกเบี้ยแบบผสมที่คิดดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate) ในช่วงแรก แล้วตามด้วยดอกเบี้ยลอยตัวหรือดอกเบี้ยอ้างอิงประเภทต่างๆ การเลือกดอกเบี้ยแบบนี้ต้องดูให้ตลอด เพราะดอกเบี้ยคงที่ต่ำๆ ที่เห็นนั้นเป็นเวลาช่วงสั้นๆ เท่านั้น แต่ดอกเบี้ยหลักจริงๆ คือดอกเบี้ยที่อ้างอิงในตอนท้าย ซึ่งดอกเบี้ยอ้างอิงแต่ละประเภทมีความแตกต่างกันดังนี้ ดอกเบี้ย MLR (Minimum Loan Rate) เป็นดอกเบี้ยใช้สำหรับลูกค้าสินเชื่อรายใหญ่หรือลูกค้าชั้นดีของธนาคาร ใช้สำหรับเงินกู้ที่มีกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนโดยเฉพาะสินเชื่อที่อยู่อาศัย เป็นดอกเบี้ยเงินกู้ที่อัตราถูกที่สุดของธนาคาร มีความผันผวนน้อยเมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยประเภทอื่น เป็นดอกเบี้ยที่ขึ้นลงตามประกาศของธนาคาร และตามสภาพคล่องของสภาวะต้นทุนเงินฝาก ปัจจุบันเงินกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยของธนาคารส่วนใหญ่อ้างอิงดอกเบี้ยประเภทนี้ ดอกเบี้ย MRR (Minimum Retail Rate) เป็นดอกเบี้ยที่ใช้สำหรับลูกค้าสินเชื่อรายย่อยของธนาคาร ใช้ได้สำหรับเงินกู้ทุกประเภทที่มีกำหนดระยะเวลาแน่นอน เช่น สินเชื่อบุคคล สินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อบัตรเครดิต เงินเกินบัญชี ฯลฯ อัตราดอกเบี้ยจะสูงกว่า MLR และมีความผันผวนพอสมควร ขึ้นลงตามประกาศของธนาคารและตามสภาพคล่องของสภาวะต้นทุนเงินฝากเช่นกัน ธนาคารที่ใช้ดอกเบี้ย MRR อ้างอิงสำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัย เช่น ธนาคารอาคารสงเคราะห์, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย เป็นต้น ดอกเบี้ย MHR (Minimum Housing Rate) ใช้สำหรับเงินกู้สินเชื่อบ้านของธนาคารเท่านั้น ปกติอ้างอิงกับดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านเฉลี่ยของ 5 ธนาคารใหญ่ ดอกเบี้ยจะสูงกว่า MLR ขึ้นลงตามประกาศของธนาคารและตามสภาพคล่องของสภาวะตลาด มีความผันผวนพอสมควร ปัจจุบันมีธนาคารเดียวที่ใช้ MHR อ้างอิงสินเชื่อซื้อบ้านคือ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) นอกจากดอกเบี้ยอ้างอิงแต่ละประเภทจะแตกต่างกันแล้ว ดอกเบี้ยประเภทเดียวกันของแต่ละธนาคารก็ยังแตกต่างไม่เท่ากัน หลักการเลือกดอกเบี้ยอ้างอิงควรเลือกประเภทที่มีความผันผวนน้อยที่สุด และถ้าเป็นดอกเบี้ยประเภทเดียวกันนอกจากดูความต่าง (ถูก-แพง) ของอัตราดอกเบี้ยแล้ว อาจต้องดูทั้งความมั่นคงของธนาคารและพิจารณาดูอัตราขึ้นลงของดอกเบี้ยย้อนหลังด้วย เพราะอัตราดอกเบี้ยที่ผันผวนน้อยหรือคงที่มากๆ จะทำให้เราสามารถบริหารจัดการหนี้ได้ง่ายกว่า credit : http://www.home.co.th/H5_home_data_detail.aspx?S_N_DATA_ID=46928 จากคุณ : TsuTaYa เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 54 06:53:44

ความคิดเห็นที่ 65 ข้อแนะนำในการเลือกใช้อัตราดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้าน ในการซื้อบ้านผู้ที่ไม่มีเงินก้อนหลังจากการผ่อนดาวน์บ้านซึ่งจะตกประมาณ 10-20% ของราคา บ้าน ส่วนที่เหลืออีก 80-90% จึงต้องพึ่งเงินกู้จากธนาคารโดยนำบ้านที่ซื้อเป็นหลักค้ำประกัน ซึ่ง การกู้เงินซื้อบ้านมีปัจจัยและเงื่อนไขที่ผู้กู้ควรพิจารณาก่อน เช่น จะกู้อัตราดอกเบี้ยคงที่หรือลอย ตัวดี  วงเงินที่จะกู้ ระยะเวลากู้ จะกู้อัตราดอกเบี้ยคงที่ หรือลอยตัวดี  ในการกู้ต้องเสียค่าใช้จ่าย อะไรบ้าง และจะต้องผ่อนชำระเงินงวดเท่าใด รวมถึงเงื่อนไขการให้บริการต่างๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่ ผู้กู้ควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจแล้วนำข้อมูลเหล่านั้นมาเปรียบเทียบระหว่างสถาบันการ เงินแต่ละแห่ง แล้วจึงเลือกสถาบันการเงินที่ให้ประโยชน์มากที่สุด ในส่วนของ อัตราดอกเบี้ย ที่จะเลือกใช้ก็เป็นสิ่งที่ผู้ซื้อบ้านบางท่านอาจจะคิดไม่ตกว่า จะเลือกแบบไหนดี เพราะในปัจจุบันสถาบันการเงินแต่ละแห่งมีเลือกมากกว่า 1-2 ทางเลือก สำหรับอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารเสนอในตลาดในขณะนี้จะมีทั้งแบบ “อัตราดอกเบี้ยลอยตัว” (Floating rate loan), “อัตราดอกเบี้ยคงที่” (Fixed rate loan) และแบบ “อัตราดอกเบี้ยคงที่ ระยะหนึ่งและปรับเป็นคงที่ใหม่ทุกรอบเวลา (Rollover Mortgage Loan) ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีรูป แบบที่แตกต่างกัน ดังนี้ อัตราดอกเบี้ยลอยตัว หมายถึง อัตราดอกเบี้ยที่กำหนดมาแล้ว แต่จะไม่อยู่คงที่ตาย ตัวตลอดระยะเวลากู้ ธนาคารสามารถปรับเปลี่ยนขึ้น-ลง ตามที่เห็นสมควร ขึ้นอยู่กับสภาพ คล่องในระบบการเงิน หรือตามต้นทุนการเงินของธนาคาร บางปีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวอาจมีการ ปรับเปลี่ยนไปถึง 4-5 ครั้ง แต่บางปีก็แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงเลยก็มี การปรับเปลี่ยน (อัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว) นี้อาจจะส่งผลกระทบต่อเงินงวดที่ผู้กู้ชำระในแต่ละ เดือนได้ โดยเฉพาะหากมีการปรับตัวสูงขึ้นในภายหลัง จนทำให้เงินงวดต่อเดือนที่ผู้กู้ผ่อนชำระ กับธนาคารไม่พอชำระดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น อาจจะต้องเพิ่มเงินงวดต่อเดือนในภายหลังจนเกินที่จะ รับภาระไหว ฉะนั้นผู้กู้เงินแบบอัตราดอกเบี้ยลอยตัวในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ จึงต้องระวังใน กรณีนี้ด้วย แต่ในการคำนวณเงินงวดแม้ธนาคารฯ ส่วนใหญ่จะคิดอัตราดอกเบี้ยตามประกาศจริง แต่มีบาง ธนาคารใช้วิธีการคำนวณเงินงวดต่อเดือนของลูกค้า โดยคิดเพิ่มจากอัตราดอกเบี้ยจริงบวกด้วย 1-3% ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับผู้กู้ในกรณีดอกเบี้ยเพิ่มในภายหลัง หรือหากดอกเบี้ยไม่เพิ่มหรือลด ลงเงินงวดที่ผู้กู้จ่ายเกินไว้ก็จะไปตัดเงินต้นมากขึ้น และทำให้หนี้เงินกู้หมดเร็วขึ้นกว่าที่ระบุใน สัญญากู้ เช่น กู้ 30 ปี อาจจะเหลือ 27-28 ปี เป็นต้น ส่วนอัตราดอกเบี้ยคงที่  ที่เสนอในตลาดในขณะนี้แบ่งเป็น 3 รูปแบบ คือ อัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอดระยะเวลากู้ ธนาคารจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่หรือ ตายตัวตามประกาศของธนาคารในขณะที่ขอกู้ โดยไม่ปรับเปลี่ยนขึ้นลงตามสถานการณ์ตลาด เงินหรือต้นทุนทางการเงิน ดังนั้นเงินงวดที่ชำระในแต่ละเดือนก็จะคงที่ตลอดระยะเวลากู้ 5- 10-15-20-30 ปี ตามแต่ผู้กู้จะเลือก   อัตราดอกเบี้ยคงที่ในช่วงแรกจากนั้นเป็นลอยตัว ธนาคารจะกำหนดดอกเบี้ยคงที่ระยะ สั้นๆ 1-5 ปี จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นดอกเบี้ยลอยตัว ซึ่งอาจจะสูงหรือต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยคงที่ เดิมก็ได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ตลาดเงินและต้นทุนทางการเงินของธนาคารในขณะนั้น อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้นแบบขั้นบันไดในช่วงแรกจากนั้นเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว จะกำหนดดอกเบี้ยแบบคงที่ในระยะสั้นประมาณ 1-5 ปี แต่ในระหว่างนั้นอาจกำหนดคงที่แบบ ขั้นบันได เช่น คงที่ 4 ปี ปีแรก = 1%,ปีที่ 2 = 2.5%,ปีที่  3 = 3.5%,ปีที่ 4 = 4.5% หลังจากนั้น จะเปลี่ยนเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว เป็นต้น อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะหนึ่งและปรับเป็นคงที่ใหม่ทุกรอบเวลา ธนาคารจะกำหนด ดอกเบี้ยคงที่ระยะหนึ่ง เช่น 3 ปี หรือ 5 ปี และจะปรับเป็นคงที่ใหม่ทุกรอบเวลา 3 ปี หรือ 5 ปี ตลอดระยะเวลาตามสัญญากู้เช่น สินเชื่อเคหะรวมใจ ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ ร่วมกับ ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ปล่อยกู้ โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในแต่ละช่วงจะคงที่จะอิงกับต้นทุนพันธ บัตรบวก 2.5% เช่น ต้นทุนพันธบัตร 5% อัตราดอกเบี้ยจะ = 7.5% เป็นต้น หรือ สินเชื่อที่อยู่ อาศัยอัตราดอกเบี้ยคงที่นาน 30 ปี ของบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน (บตท.) ร่วมกับ สถาบันการเงินทุกแห่งรวมถึงบริษัทเงินทุนต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการ โดยอัตราดอกเบี้ยคงที่ในแต่ ละช่วงจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์อัตราดอกเบี้ยและต้นทุนการระดมทุนของ บตท.ในขณะนั้น เพราะฉะนั้นผู้กู้แต่ละรายที่กู้ต่างเวลากันหรือในช่วงต่อครั้งที่ 2,3,4 ฯลฯ อัตราดอกเบี้ยจึงไม่เท่า กันอาจจะต่ำหรือสูงกว่า เป็นต้น ในส่วนของผู้กู้แนะนำให้รวบรวมอัตราดอกเบี้ยและประเภทเงินกู้ของสถาบันการเงินหลายๆ แห่ง เมื่อรวบรวมประเภทเงินกู้แบบต่างๆ ของแต่ละสถาบันการเงินแล้ว ผู้กู้ก็นำอัตราดอกเบี้ยจริงมา เปรียบเทียบว่าที่ไหนให้เท่าใด สูงต่ำกว่ากันอย่างไร ซึ่งหลักโดยทั่วไปหากเป็นเงินกู้ประเภทเดียว กัน ดอกเบี้ยต่ำที่สุดก็จะเป็นประโยชน์กับผู้กู้มากที่สุด เพราะดอกเบี้ยที่ต่ำจะทำให้เงินงวดราย เดือนที่ผ่อนชำระต่ำไปด้วย credit : http://www.khomesmilesclub.com/homesmiles.aspx?gSelPG=SuggestDetail&DataID=56 จากคุณ : TsuTaYa เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 54 06:55:14

ความคิดเห็นที่ 66 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ปลาสลิดบางบ่อ เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 54 10:04:18

ความคิดเห็นที่ 67 ขอบคุณนะครับ คุณ kooaeng_noon จากคุณ : การใช้ชีวิต...สำคัญที่จิตใจ เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 54 10:40:16

ความคิดเห็นที่ 68 ขอบคุณครับ.... จากคุณ : paradise29 เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 54 18:01:09

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณ จขกท. และทุกท่านที่ร่วมให้ข้อมูลค่ะ จากคุณ : nupook538 เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 54 17:52:03

ความคิดเห็นที่ 70 เป็นประโยชน์มากคะ ขอบคุณทุกท่านที่มาโพสให้ความรู้นะคะ จากคุณ : เด็กอ้วน_Piggy เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 18:22:06

ความคิดเห็นที่ 71 ได้ประโยชน์มากๆๆๆ ขอบคุณคะ จากคุณ : catcute เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 22:14:01