ความคิดเห็นที่ 1 LCD TV คืออะไร??? LCD TV ย่อมากจาก Liquid Crystal Display ซึ่งใช้หลอดไฟ CCFL หรือ Cold Cathode Fluorescent Lamp ซึ่งมีลักษณะเป็นหลอดผอมคล้ายๆหลอดกาแฟ เรียงในแนวนอนยาวลงมาเป็นตัวกำเนิดแสง และมี Liquid Crystal เป็นผลึกแข็งกึ่งเหลว 3 สี ทั้งสีแดง น้ำเงิน เขียว คอยบิดตัวเป็นองศา เพื่อให้แสงจากหลอด CCFL Backlight ส่องลอดผ่านออกมาเป็นสีสันต่างๆ ดูจากรูปนะครับ ที่เรียงกันอยู่เป็นแนวนอนยาวๆ นั้นคือหลอด CCFL ซึ่งก็คล้ายๆกับหลอดไฟที่ใช้กันตามบ้านเราเนี่ยแหละ หลอดชนิดนี้ค่อนข้างจะมีความ "อ้วน" อยู่ในตัว นั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลว่า ทำไม LCD TV ถึงได้มีความหนามากว่า LED TV ครับ จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 09:54:22

ความคิดเห็นที่ 2 มาดูรูปจริงๆกันบ้างครับ จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 09:55:54

ความคิดเห็นที่ 3 ต่อมาก็มาดู LED TV กันบ้างครับ LED TV คืออะไร ??? ทำไมมันแพงกว่า ??? เอ๊ะ คนนู้น ก็บอกว่า ภาพคมกว่า สีสันสดใสกว่า LED TV ย่อมาจาก Light Emitting Diode เป็นหลอดไฟขนาด “จิ๋วแต่แจ๋ว”  ถ้านึกไม่ออกก็เหมือนกับหลอดไฟ LED ของรถยนต์นั่นแหละครับ ด้วยคุณสมบัติที่ว่า - ขนาดเล็ก - ให้แสงไฟได้สว่าง - มีอายุการใช้งานยาวนาน - ที่สำคัญประหยัดไฟกว่าหลอด CCFL อีกด้วย ซึ่ง TV ใช้หลอด LED เป็นตัวกำเนิดแสงและมี Liquid Crystal เป็นผลึกแข็งกึ่งเหลว 3 สีทั้งสีแดง สีน้ำเงิน และสีเขียว คอยบิดตัวเป็นองศาเพื่อให้แสงจากหลอด LED ส่องลอดผ่านออกมาเป็นสีสันต่างๆ ตรงจุดนี้จะเห็นได้ว่าหลักการทำงานจะเหมือนกับ LCD TV เลยครับ เพียงแต่เราเปลี่ยนจากหลอด CCFL ที่อ้วนหนา ด้านหลัง มาเป็นหลอด LED เป็นตัวให้แสงแทน จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 10:03:09

ความคิดเห็นที่ 4 สรุปกันสั้นๆ ก่อนจะไปต่อกันที่ชนิดของ LED TV ที่สามารถแยกออกมาได้อีก !!! สรุปอย่างได้ใจความได้ว่า LED TV ก็คือ LCD TV ที่เปลี่ยนจากหลอด CCFL เป็นหลอด LED ในการกำเนิดแสงนั่นเอง โดยยังใช้ Liquid Crystral ผลึกแข็งกึ่งเหลว 3 สีในการสร้างสีในแต่ละพิกเซล ดังนั้นตามหลักการแล้วมันก็คือ " LED LCD TV " นั่นเอง เพียงแต่สลับจากการใช้หลอด CCFL ให้เป็นหลอด LED เพื่อใช้กำเนิดแสง อีกหนึ่งตัวอย่างก็คือ LED เป็นเทคโนโลยีที่มีให้เห็นกันบ่อยในจอโน็ตบุ๊คที่บางๆ หรือว่้าจอมอนิเตอร์ในปัจจุบัน จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 10:05:54

ความคิดเห็นที่ 5 LCD TV และ LED TV นั้น แต่ละพิกเซลไม่สามารถกำเนิดแสงได้เอง จำเป็นต้องพึ่งพาแหล่งกำเนิดแสงจากหลอด Backlight และมี "ประตู" Liquid Crystal ผลึกแข็งกึ่งเหลวเป็นตัวกำหนดว่าจะให้แสงลอดไปยังแม่สีใดบ้าง เพื่อแสดงสีสันต่างๆออกมาให้เราได้เห็นกันครับ ยกตัวอย่างเช่นหากฉากในทีวีตอนนั้นเป็นสนามบอลเขียวชอุ่ม เจ้าตัว Liquid Crystal ที่ทำหน้าที่เป็น "ประตู" หน้าด่าน ก็จะเปิดในส่วนที่ให้แสงลอดออกไปเจอ Color Filter สีเขียวเท่านั้น หรือหากฉากเป็นท้องผ้าสีนำเงิน เจ้าประตู Liquid Crystal ก็จะถูกเปิดในส่วนที่ให้แสงลอดออกไปเจอ Color Filter สีน้ำเงินเท่านั้นครับ จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 10:10:35

ความคิดเห็นที่ 6 ต่อครับ จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 10:21:21

ความคิดเห็นที่ 7 กำลังมันส์เลย.. จากคุณ : artjar_9 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 10:45:53

ความคิดเห็นที่ 8 มาต่อกันที่ชนิดของ LED TV นะ รอสักครู่นะครับ ขอพิมพ์ก่อน :D จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 10:50:28

ความคิดเห็นที่ 9 ชนิดของ LED TV ในปัจจุบันนี้ จะขอพูดแค่ที่วางขายในปัจจุบันเท่านั้นนะครับ เรื่องในอนาคตทั้ง OLED หรือ RGB LED เอาไว้ก่อน :D :D เอาแบบเนื้อๆดีกว่า ในปัจจุบันนี้ LED TV ทั้งหลายที่ขายกันอยู่ตามท้องตลาด เค้าเรียกว่า EDGE LED  ครับ ทั้ง Sony Samsung Panasonic LG Sharp ประมาณ 90% ในตลาดเป็นแบบนี้ทั้งนั้น EDGE LED : วางหลอด LED ไว้ตรงขอบของทีวี EDGE ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า “ขอบ” ครับ โดยหลอด LED จะถูกวางไว้ตามขอบบน ล่าง ซ้าย ขวา ของทีวีและคอยยิงแสงเข้ามาตรงกลางจอทีวี สำหรับข้อดีก็มีตรงที่ “ความบาง” ที่บางกว่า LCD TV ทั่วๆไปหลายเท่า เพราะหลอด LED อยู่แค่ด้านข้างครับ ส่วนอีกเรื่องคือเรื่องการประหยัดไฟครับ อย่างไรก็ตามข้อเสียหลักๆเมื่อเทียบกับ LED แบบ Full LED ก็คือ ไม่สามารถทำ " Local Dimming " หรือการเปิด/ปิดหลอดไฟเป็นกลุ่มๆได้เนื่องจากหลอดไฟอยู่ที่ขอบนั่นเอง ** เรื่อง Local Dimming ขอแปะไว้ก่อนนะครับ ** จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 10:55:05

ความคิดเห็นที่ 10 สวดยอดครับ จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 10:58:45

ความคิดเห็นที่ 11 อ้ะๆ ช้าก่อนครับ  ที่ผมบอกว่า EDGE LED ไม่สามารถทำ Local Dimming ได้ อาจจะดูโหดร้ายเกินไปหน่อย เอาเป็นว่า ในรุ่นสูงๆบางรุ่น มันก็สามารถทำได้ครับ แต่ขอเปลี่ยนเป็นใช้คำว่า " ไม่สามารถทำ Local Dimming ได้ดีเท่าที่ควร " ไหนๆก็มาเรื่องนี้แล้ว Local Dimming ก็คือ การเปิด/ปิดหลอดไฟเป็นกลุ่มๆ เช่นปิดไฟเฉพาะบริเวณที่เป็นฉากมืด เพื่อให้ Contrast ดีขึ้น และสีดำที่ดำสนิท มาดูตัวอย่างกันสำหรับ TV ที่ไม่มีการทำ Local Dimming เช่นในรูปนี้ จะเห็นว่าพระจันทร์อยู่ตรงกลางรูป  แล้วรอบๆด้านก็จะเป็นสีดำ จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 11:01:33

ความคิดเห็นที่ 12 ตัวจุดสีขาวๆ ที่ผมแต้มไว้ ด้วยความสามารถสุดอาร์ตของผมก็คือ ตำแหน่งของหลอดไฟ EDGE LED ที่เปิดเอาไว้ ไม่มีการทำ Local Dimming เพราะรูปพระจันทร์ตรงกลางนั้นถูกใช้งาน ทำให้หลอดไฟรอบๆด้านถูกเปิดทั้งหมดเพื่อให้แสง ผลที่ตามมาก็คือ ส่วนที่ไม่ควรจะสว่าง มันก็ดันมีแสงของ LED ส่งมากวนใจ จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 11:06:01

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าเราดูในห้องที่มีแสงไฟสว่างๆ ส่วนมากเราก็จะไม่ค่อยเห็นชัดเท่าไหร่ มันก็ดำดีนี่หน่า  !!!! แต่ถ้าเราปิดไฟห้องให้มืดสนิท เหมือนเวลานั่งดูอยู่ในห้องน้ำ เอ๊ย ห้องนอน ครับ ส่วนที่มันควรจะเป็นสีดำมืด ไม่มีการเปิดของหลอดไฟ LED มันเปิดขึ้นมา ผลก็จะเป็นอย่างในภาพครับ ซูมให้ดูกันชัดๆ เห็นรึยังครับ ว่ามันจะออกเทาๆ หรือมีแสงสีขาวออกมาด้วย ทั้งที่ควรจะเป็นสีดำสนิท แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 11:16:41 จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 11:15:08

ความคิดเห็นที่ 14 แต่ถ้าเป็น EDGE LED ที่มีการทำ Local Dimming จะทำการแยกเป็นโซนๆไป เพื่อปิดหลอดส่วนที่ไม่ใช้งาน ทำให้โซนตรงนั้นจะมีความดำเป็นหย่อมๆ จากในรูปนะครับ จะเป็นการแบ่งโซนทำ Dimming ของหลอดไฟตามขอบ ของ EDGE LED ส่วนที่เป็นสีดำคือบริเวณนั้นไม่มีภาพ ส่วนที่เป็นสีขาว หรือสีเทา ก็จะปรับตามภาพที่ได้แสดงออกมาทางทีวี ** จะเห็นได้ว่า มันคุมได้ไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่ ดูแล้วไม่สม่ำเสมอกันทั้งจอ แต่ก็พอแก้ขัดได้บ้างครับ ** จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 11:21:09

ความคิดเห็นที่ 15 Full LED : หลอด LED เป็นแผงอยู่ด้านหลัง สำหรับแบบที่ 2 เราเรียกว่า Full LED (Direct LED) เพราะว่ามีหลอดไฟอย่าด้านหลังทั้งแผงคอยให้กำเนิดแสงนั่นเอง ข้อดีของ Full LED หรือบางค่ายก็เรียก Direct LED ก็คือ ความสามารถในการทำ Local Dimming หรือการเปิด/ปิด หลอด LED เป็นกลุ่มๆ หรือเฉพาะจุดนั้นเองอย่างอิสระ เช่นฉากๆ นึงด้านซ้ายเป็นสีดำ ด้านขวาเป็นสีขาว หลอด LED Backlight บริเวณด้านซ้ายก็จะปิดเพื่อทำให้สีดำบริเวณด้านซ้ายดำสนิท และกลุ่ม LED Backlightด้านขวาจะเปิดเพื่อให้แสงสามารถลอดออกมาเป็นสีขาวครับ ในขณะที่ CCFL และ EDGE LED ไม่สามารถได้ ** ดูจากรูปจะเห็นว่าตำแหน่งของหลอด LED กระจายอยู่ทั่ว Panel นะครับ แต่ถ้าเป็นของจริง มันจะไม่ติดชิดกันแบบในรูป แล้วแต่การวางของแต่ละยี่ห้อ ** จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 11:23:33

ความคิดเห็นที่ 16 นี่ล่ะครับ ข้อดีสุดๆ ของมันก็คือการทำ Local Dimming ได้ละเอียดมากกกกกก จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 11:24:32

ความคิดเห็นที่ 17 แล้ว LED TV กับ LCD TV อะไรดีกว่ากันหละ??? ขอตอบแบบฟันธงเลยนะครับ ในฐานะคลุกคลีกับจอภาพอยู่แทบทุกวันว่า LED TV ดีกว่า LCD TV ในหลายแง่ครับ เรามาดูตารางเปรียบเทียบกันในเชิงคุณภาพผลลัพธ์เลยนะครับ จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 11:29:49

ความคิดเห็นที่ 18 philips เป็น Full LED Backlight จากคุณ : Mr.pokpak เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 11:29:58

ความคิดเห็นที่ 19 ด้วยความที่เป็นหลอดไฟ “จิ๋วแต่แจ๋ว” โดยความสามารถของเจ้า LED นั้นสามารถให้ “แสงสว่างได้ดีกว่าโดยที่ใช้ไฟน้อยกว่า” ทำให้ LED เป็นแหล่งกำเนิดไฟที่มีประสิทธิภาพมากกว่าหลอด CCFL ทันทีครับ และที่สำคัญด้วยขนาดหลอดที่เล็กกว่า ทำให้ LED TV มีความบางกว่า LCD TV ทั่วๆไป ที่ใช้หลอด CCFL Backlight แต่อย่างไรก็ตาม LED TV นั้นก็ยังมีระดับราคาที่สูงอยู่ ณ ปัจจุบันนี้ ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า “คุ้มค่าหรือเปล่า” กับการลงทุนในช่วงนี้ โดยผมบอกได้เพียงสั้นๆว่า ค่าตัวของ LED TV ค่อนข้างแพงกว่า LCD TV อยู่พอสมควร แต่ก็มี LED TV ก็มีอัตราการกินไฟน้อยกว่า LCD TV อยู่ประมาณ 40% -50% เลยทีเดียวเชียวครับ ดังนั้นเรื่องความคุ้มค่าก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเองแล้วหละว่าจะเลือกตัวไหน จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 11:30:59

ความคิดเห็นที่ 20 ทีนี้มันจะมี Plasma TV อีกอย่างนึง ที่เป็นที่นิยมในขณะนี้ มีใครสนใจบ้างไหมครับ จะได้อธิบายว่า LED LCD VS PLASMA  มันต่างกันอย่างไร ผมจะได้จัดให้อีกหนึ่งยก ..... รอดู Feed Back ละกันครับ ^_^ แล้วจะมาต่อให้ รวมถึงหลักการเลือกซื้อให้เหมาะกับตัวเรา จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 11:33:16

ความคิดเห็นที่ 21 โผมสนใจครับท่านผู้เจริญ \**/ จากคุณ : roth09 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 11:41:05

ความคิดเห็นที่ 22 LED LCD VS PLASMA  มันต่างกันอย่างไร รอชมด้วยครับ จากคุณ : amnuayxp เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 11:43:34

ความคิดเห็นที่ 23 โผมก็สนใจครับ ต่อเลยนะครับ รออยู่ //พลีส ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ จากคุณ : คอบอล เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 11:59:43

ความคิดเห็นที่ 24 แจ่มเลยครับ อยากจะให้เทียบกีบ Plasma ด้วยนะครับ กำลังตัดสินใจอยู่เลย >_< จากคุณ : holysai เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 12:19:23

ความคิดเห็นที่ 25 มาโหวตให้ครับ สนใจครับ จากคุณ : AuT6 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 12:26:14

ความคิดเห็นที่ 26 โหวตให้ครับ เผื่อจะมีคนอ่านก่อนตั้งกระทู้มั่ง จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 12:30:11

ความคิดเห็นที่ 27 มารออีกคนครับ อ่านข้อมูลจากท่านแล้ว ผมจะฟันธงซื้อเย็นนี้เลย จากคุณ : felansear เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 12:34:28

ความคิดเห็นที่ 28 รอฟังการเปรียบเทียบแบบถึงแก่นต่อครับ จากคุณ : black_bean เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 12:45:29

ความคิดเห็นที่ 29 จัดไปเลย รออยู่  และก็ ขอบคุณ. จากคุณ : kowan เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 13:00:47

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณ จขกท. ค่ะ สรุปมาเข้าใจง่ายดี จากคุณ : สายยู เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 13:03:33

ความคิดเห็นที่ 31 หลังจากจบเรื่องของกลุ่ม LED LCD กันไปแล้ว มันจะมี TV อีกชนิดหนึ่งซึ่งได้ีัรับความนิยมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในด้านราคาหรือขนาด มันก็คือ Plasma TV นั่นเอง ว่ากันตามตรงสำหรับคนไทย เวลาเลือกซื้อทีวี ผมแบ่งได้เลย ว่าคนจะเลือกที่ 1. ขนาด --  เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่สุดๆๆๆ 2. ราคา -- ก็ด้วยงบมันมีเท่านี้แหละนะะะ 3. ยี่ห้อ -- เอาวะะ !! แบรนด์นี้มันห่วย "เค้าว่า.."   ไอเค้าคนนี้แหละครับ น่ากลัว ทำให้คนเรายึดติด จนมาถึงสุดท้ายก็คืออ " ใหญ่และถูก "  <-- เฮ้ย ข้อนี้โดนใจคนไทยแฮะ นั่นก็ถือเป็นหนึ่งในที่มาของความนิยม Plasma TV แหละครับ ในปัจจุบันนั้น Plasma TV ที่ขายอยู่ มียี่ห้อตามนี้คือ         1. LG -  ขนาดที่นิยมกันคือ ไซส์  42  และ 50 นิ้ว 2. Samsung - ขนาดที่นิยมกันคือ ไซส์ 42 นิ้ว  ( 43 สำหรับ Plasma + ในปี 2011 )  50 นิ้ว ( 51 นิ้วสำหรับ Plasma + ในปี 2011 ) 3. Panasonic - ขนาดที่นิยมกันคือ 42 และ 50 มี 3 ยี่ห้อนี้แหละครับ ที่ทำ Plasma มาตีตลาด  ส่วนตัวเทพอย่าง Pioneer ที่สมัยก่อนฮิตๆ ก็ไม่ผลิตมาแล้ว ขอย้อนไปที่ขนาดของ LCD LED ทีวี ด้วยนะครับ ขนาดมาตรฐาน ผมจะขอแบ่งเป็น 3 หมวดหลักๆ คือ 1. ขนาดเล็ก มีตั้งแต่ 19  / 24 /  26 นิ้ว 2. ขนาดกลาง ก็ 32 / 37 / 40 / 42  นิ้ว   3. ขนาดใหญ่ก็จะเป็น  46 /  55 นิ้ว ขึ้นไป     ในจุดนี้แต่ละแบรนด์จะทำมาต่างกัน เช่นในรุ่นที่สเปคเท่าักัน ยี่ห้อ A อาจจะเป็นไซส์  40 นิ้ว ยี่ห้อ B เป็น 42 นิ้ว   ปล. จะไม่มีตัวเลขแปลกๆ อย่าง 30 นิ้ว 29 นิ้ว 21 นิ้ว  อันนั้นจะเป็นขนาดของจอแก้ว CRT TV รุ่นโบราณครับ จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 13:27:54

ความคิดเห็นที่ 32 อยู่ๆ ก็โพสรูปไม่ขึ้นซะงั้น  เวรกรรม !! ทำไมเป็นแบบนี้ -*- จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 13:34:20

ความคิดเห็นที่ 33 อายุการใช้งาน แต่ละแบบ กี่ชั่วโมงครับ ? จากคุณ : น้องส้มเด็กดี เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 14:03:46

ความคิดเห็นที่ 34 รออย่างใจจดใจจ่อ เลือกไม่ถูกจริงๆ จากคุณ : Butter _ flyinG เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 14:28:46

ความคิดเห็นที่ 35 เจ๋งมากครับ จากคุณ : ขนมจีนแม่แต๋วอร่อยมาก เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 14:45:12

ความคิดเห็นที่ 36 ว่าจะซื้อPlasma จากคุณ : supawich เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 14:58:34

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ จากคุณ : Avantasia เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 15:15:50

ความคิดเห็นที่ 38 โหวตรอแล้วครับ **รบกวนช่วยอธิบาย แบบชัด ๆ เลยนะครับ เรื่องสัญญาณจากสายอากาศ+true ที่มี noise เยอะมากใน LED ครับ จากคุณ : งงงันวูบ เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 15:24:09

ความคิดเห็นที่ 39 Plasma เทคโนโลยีเทพกว่ากันเยอะ lcd ledเทียบไม่ติดเลยครับ จากคุณ : ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 15:26:35

ความคิดเห็นที่ 40 รอ Plasma ต่อครับ จากคุณ : เอาผมไปฆ่าให้ตาย ผมก็ยังรักคุณ เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 15:29:33

ความคิดเห็นที่ 41 มาอ่านแล้ว เก็บเข้าคลัง จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 15:41:28

ความคิดเห็นที่ 42 สาธุ ขอให้พลาสม่า ดีพอใช้ และ คุ้มค่าในราคา ต่อ ขนาด ด้วยเถอะ เพราะข้าพเจ้าถอย LG 3D 50  นิ้วมาแล้ว สวยงามสมใจดีแท้ ขอใช้ซัก 4-5 ปีไม่พังก่อนก็พอใจแระ ขอโบกกกกเลยนะครับใหญ่กว่าสะใจดีแท้ๆ จากคุณ : เด็กแคสติ้ง เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 16:24:10

ความคิดเห็นที่ 43 รอๆๆๆ จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 16:42:05

ความคิดเห็นที่ 44 LED TV Shape กับ philips เป็นแบบ FULL LED ไม่ใช่เหรอ ส่วน SS กับ SN จอภาพมาจากโรงงานเดียวกัน จากคุณ : Acmo เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 16:46:20

ความคิดเห็นที่ 45 นั่งรออยู่นะคร๊า รีบมาต่อด้วยค่ะ จากคุณ : minimuay เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 16:48:01

ความคิดเห็นที่ 46 รอด้วยคน จากคุณ : ทิดชา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 17:08:58

ความคิดเห็นที่ 47 รอชมครับ ขอบคุณสำหรับความรู้ กำลังคิดจะซื้ออยู่พอดีเลยครับ ^^ จากคุณ : CyCliC เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 17:16:57

ความคิดเห็นที่ 48 ทุกท่านใจเย็นนะครับ คืนนี้ผมจะมาต่อให้ ขอออกไปลุยน้ำท่วมก่อนล่ะคร้าบเด้อ ! อ้อ เห็นผ่านๆ คห.44 Philips ก็เป็น EDGE LED ด้วยครับ รุ่น 5606 6606 7956 7406 มีแค่รุ่น 9706 เท่านั้นที่เป็น FULL LED  (ในที่นี้ดูที่รุ่นปี 2011 นะครับ) ส่วน Sharp ก็เป็น EDGE LED นะครับ ทั้งรุ่น LE830M LE925 ^_^ Sony มี HX925 FULL LED กับรางวัล Best of the Best LCDTVTHAILAND Award ส่วน LG มีรุ่นของปีที่แล้ว 2010 ที่มาลดราคากระจายกับ LX9500 ครับ Toshiba ก็มี ZL800 ที่เป็น FULL LED แต่ราคาเอาเรื่อง ( หลายสิบเรื่องมากๆเลย ) จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 17:22:08

ความคิดเห็นที่ 49 มาลงชื่อรอติดตามอ่านครับ จากคุณ : pexaj เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 18:13:12

ความคิดเห็นที่ 50 มารอครับ... จากคุณ : ตั้มขาว เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 19:13:04

ความคิดเห็นที่ 51 กำลังจะซื้อ ช่วยแนะนำเรื่อง HD  กับ FULL HD ด้วยครับ เอาแบบไหน จากคุณ : jigkim เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 19:39:41

ความคิดเห็นที่ 52 มาเจอกันครับ ! จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 20:18:04

ความคิดเห็นที่ 53 หลังจากที่เรารู้หลักการทำงานของ LCD TV ไปคร่าวๆกันแล้ว คราวนี้มาดูอีกหนึ่งคู่แข่งที่เป็นคำถามยอดฮิต " LCD กับ PLasma อะไรดีกว่ากันครับ " ซึ่งก่อนที่เราจะวัดกัน ก็ต้องรู้หลักกการทำงานของมันกันก่อน PLASMA TV จอภาพแบบ Plasma TV เป็นจอทีวีที่สามารถก "กำเนิดแสงได้เอง"  กล่าวคือ เพียงแค่ปล่อยแรงดันไฟเข้าไปกระตุ้นเม็ดพิกเซลก็จะส่องสว่างได้เอง โดยเม็ดพิกเซลของ Plasma TV นั้นจะมี ก๊าซ Neon และ Xenon บรรจุอยู่ข้างในก็จะแตกตัวเป็น UV ซึ่งเมื่อเจ้า UV ไปกระทบกับสาร Phospor ซึ่งเป็นสารเรืองแสงที่เคลือบไว้ ก็จะก่อนให้แสงสีต่างๆออกมา สรุปง่ายๆหลักการทำงานของ Plasma TV คือหากต้องการให้เม็ดสีไหนส่องสว่าง ก็แค่ปล่อยแรงดันไฟฟ้าเข้าไปครับ เม็ดพิกเซลก็จะส่องสว่างขึ้นมาเองรวดเร็วทันใจมากมาย เพราะว่า "ก๊าซ" มันไวกว่าพวก "ของแข็งของเหลว" เหมือนที่เราเคยเรียนมาตอนเด็กๆนั่นแหละครับ นั่นเป็นอีกหนึ่งเหตุผลว่าทำไม Response Time ของ Plasma TV จึงต่ำแค่ 0.001 MS เท่านั้น ทำให้อาการ Ghost หรือเงาดำๆเวลาภาพเคลื่อนไหวเร็ว ที่พบได้บนจอ LCD LED นั้น ไม่ปรากฏบนจอของ Plasma TV ( อาการนี้จะพบได้ในเวลาที่เราดูภาพเคลื่อนไหวเร็วๆ เช่น การดูรถแข่ง การดูฟุตบอล ซึ่งถ้า Response Time สูง เราจะเห็นเงาตามลูกบอลไปเลยครับ ) แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 20:48:29 แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 20:26:49 จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 20:26:18

ความคิดเห็นที่ 54 ข้อดีของ Plasma TV 1. สามารถแสดงภาพเคลื่อนไหวได้ดีกว่า ลื่นไหลกว่า เพราะเม็ดพิกเซลสามารถกำเนิดแสงเองได้ เหมาะกับพวกหนัง Action และกีฬามาก อันนี้เราไม่นับรวมพวก LED LCD TV ที่ใช้ Motion 100Hz หรือ 200Hz นะครับ เพราะพวกนั้นมันเป็นการสร้างเฟรมหลอกขึ้นมา เป็นการแทรกเฟรมภาพเข้าไป เช่น เฟรมภาพเคลื่อนไหวปกติของ LCD LED I    I     I     I     I     I  <-- เฟรมภาพปกติ 50Hz / 60Hz  ^     ^     ^     ^     ^  I     I     I     I     I     <-- สร้างเฟรมขึ้นมาระหว่างกลาง โดยประมวลว่า ภาพนี้มันควรจะเป็นแบบนี้ 100Hz / 120Hz I  I  I  I  I  I  I  I  I  I  I <-- ผลก็จะออกมาเรียงกันแบบนี้ครับ 2. สามารถแสดงสีดำให้ดำสนิทและลึกมีมิติกว่า ไม่ต้องกังวลเรื่อง Backlight รั่ว เพราะว่าจุดที่เป็นสีดำ พิกเซลนั้นก็จะปิดไปเลย 3. มีคอนทราสต์ที่สูงกว่าทำให้เห็นมิติของภาพได้ดีกว่า 4. มุมมองจอภาพที่กว้างกว่า LCD TV มองด้านข้างสีไม่ซีดจาง 5. ให้สีสันที่ถูกต้องเป็นธรรมชาติมากกว่า ไม่ได้สดจนโอเวอร์เกินจริง 6. ระดับความสว่างของภาพและโทนสีเป็นมิตรต่อสายตามากกว่า ดูนานๆโอกาสปวดตาน้อยกว่า เรียกได้ว่าโทนภาพนุ่มนวล แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 20:44:33 จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 20:42:46

ความคิดเห็นที่ 55 ข้อดีของ LCD TV 1. ให้แสงสี่ที่สว่างสดใสกว่า   2. เหมาะสมกับการนำไปเป็น Monitor ของคอมพิวเตอร์แลต่อกับเครื่องเล่นเกมส์มากกว่าด้วยความละเอียดจอภาพที่มากกว่า 3. เหมาะสำหรับใช้ในห้องที่มีความสว่างสูง เช่นห้องนั่งเล่นหรือ ห้องรับแขกที่ไม่จำเป็นต้องคุมแสงได้ หรือท่านที่จะซื้อเพื่อใช้ไปติดตั้งในร้านค้าหรือร้านอาหาร  LCD TV ก็จะเหมาะสมกว่า 4. อาการ Burn-In หรือภาพไหม้ค้างติดหน่าจอจะไม่โอกาสไม่เกิดขึ้นเลย 5. แอลซีดีทีวียังกินไฟน้อยกว่า และหน้าจอร้อนน้อยกว่าด้วย 6. สามารถทำจอ LCD ขนาดเล็กๆอาทิเช่นจอมือถือ ไปจนถึงจอขนาดยักษ์ใหญ่ๆ 100 กว่านิ้วก็ยังได้ จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 20:48:07

ความคิดเห็นที่ 56 แล้วสรุปเลือกตัวไหนดีกว่ากันระหว่าง LCD TV VS Plasma TV ? LCD หรือ LED TV และ Plasma TV มันไม่มีอย่างไหนดีกว่ากัน เพราะมันดีกันคนละแบบครับ !!! โดยแต่ละตัวก็มีข้อดี+ข้อด้อยแตกต่างกันออกไป  ดังนี้เราจึงต้องศึกษาอ่านรีวิว+บทความ และไปทดลองรับชมภาพจริงๆทีเพื่อเลือกทีวีที่ "เหมาะสม" กับ "ห้องของเรา" และ "ไลฟ์สไตล์ของเรา" มากที่สุดครับ และการเลือกซื้อทีวีนั้นไม่ควรจะมองแค่ "ยี่ห้อ" เพียงอย่างเดียว ผมเห็นชาว Pantip หลายท่านที่ยึดติดกับยี่ห้อเสมอมา ผมยกตัวอย่างให้เห็นง่ายๆเช่น เอา LCD ยี่ห้อ A  ราคา 15000 บาท  เทียบกับ LCD ยี่ห้อ A ราคา 30000 บาท  แค่นี้มันก็ต่างกันแล้ว นี่ขนาดเทียบให้ยี่ห้อตัวเองอย่างเดียวนะ ถ้าไปกับยี่ห้ออื่นด้วย คนสนุกกันไปใหญ่ ฉะนั้นอย่าไปเชื่อทั้งหมดว่า ใช้อันนี้ดีแล้วมันจะดีทุกรุ่น เอาที่ตัวเราเองเป็นหลัก ศึกษาข้อมูลให้มากๆ เพราะซื้อของเงินหมื่น ไม่ใช่ถูกๆ ซื้อแล้วใช้กันไปอย่างน้อยก็ 2 - 3 ปีอยู่แล้ว จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 20:53:53

ความคิดเห็นที่ 57 การเลือกซื้อทีวีคือ "ศาสตร์" ที่เรียกว่าการ "Matching" ครับ หากคนเล่นเครื่องเสียงจะเข้าใจความหมายนี้ดี เลือกโดยปัจจัยหลักเหล่านี้ 1. ยี่ห้อ :: ความชื่นชอบ / ชื่อเสียง / แนวภาพ 2. ขนาดของจอ :: ใกล้ๆ = จอเล็ก / ไกลๆ = จอใหญ่ เป็นต้น 3. ประเภทของจอ :: LED TV / LCD TV / Plasma TV ให้เหมาะสมกับ 1. ห้องที่เราจะเอาไปตั้ง :: ห้องนอน / คอนโด / ห้องนั่งเล่น / ห้องโฮมเธียเตอร์ / คุมแสงได้ดีหรือไม่ ? 2. ไลฟ์สไตล์ของเรา 3. งบประมาณ และไม่จำเป็นต้องเลือกทีวีตัวที่ดีที่สุดเสมอไป และอย่างที่บอกไลฟ์สไตล์ของคนเราไม่เหมือนกัน ฉะนั้นการที่จะไป "ตัดสิน" ว่า LCD TV หรือ Plasma TV ตัวไหนดีกว่ากัน ? มันไม่มีคำตอบที่ถูกต้องที่สุดของคำถามนี้บนโลกใบนี้ !!! แต่กลับกันหากเรายึดหลัก "Matching" ทีวีให้เหมาะสมกับเรามากที่สุดทั้งเรื่องของ ห้องที่จะวาง / ไลฟ์สไตล์ / งบประมาณ ทีวีเครื่องนั้นก็จะสามารถสร้างความสุขให้กับคุณได้อย่างเต็มที่โดยคุณไม่ต้องมาห่วงหน้าพะวงหลังเรื่องอื่นๆอีกเลย ---------------------------------------------------------------------------------------------- ตัวอย่างการ Matching LCD TV หรือ Plasma TV ให้เหมาะสมกับผู้ใช้ 1. LCD TV มันเหมาะสมกับห้องคุณมากกว่านะ เพราะว่า ตั้งไว้ในห้องรับแขก คุมแสงไม่ค่อยได้ ดูหนังไฮเดฟกับเล่นเกมส์บ่อย ต่อคอมบางครั้งบางคราว LCD TV น่าจะเหมาะกว่านะ 2. ห้องคุมแสงได้ดีระดับนึง ชอบภาพนวลสบายตา ดูหนังไฮเดฟและฟรีทีวีบ่อยมาก ขอไม่แพงนักแต่ได้จอใหญ่ๆสะใจ ==> ก็แนะนำ Plasma TV 3. เพิ่งเปิดโรงแรม ต้องการทีวีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ทนทาน+ทนไม้ทนมือแขกมือบอนที่ชอบเปิดทิ้งไว้นานๆ ไม่ร้อนง่าย เอาราคาถูกๆด้วย ==> ก็ LCD TV 32" ไปเลยครับเพ่ 4. ชอบภาพแนวโรงหนัง ขอภาพเคลื่อนไหวลื่นๆเป็นธรรมชาติหน่อย แต่ห้องคุมแสงได้ระดับนึงแต่ไม่ถึงกับดีมาก มีม่านบังตาบ้าง ==> ก็แนะนำ Full HD Plasma TV รุ่นท็อปๆที่จอกันสะท้อนได้ดี 5. ชอบภาพสีสดใส แต่ขอจอบางๆหน่อยนะ เพราะอยู่คอนโดต้องแขวนผนัง แบบว่ามีพื้นที่จำกัด และรวมถึงชอบดีไซน์บางเฉียบล้ำๆด้วย ดู Blu-ray และ DVD บ่อยๆ ดูฟรีทีวีจากจานแดงบ้าง (ติดกันทั้งคอนโด) ระยะห่างประมาณ 2 เมตร ==> แนะนำจอ LCD TV ที่ใช้หลอดไฟ Backlight แบบ LED ขนาดจอ 40" ไปเลยครับท่าน รวมถึงเรื่องไลฟ์สไตล์ด้วยครับ เป็นสิ่งที่เป็นปัจจัยแรกๆในการตัดสินใจซื้อของหลายคนมากกว่าคุณภาพของภาพด้วยซ้ำ อาทิเช่น ดีไซน์ความบาง สีของตัวเครื่อง ความชื่นชอบจงรักภักดีต่อแบรนด์ ซึ่งจะยิ่งเป็นเหตุผลส่งเสริมให้คุณหาทีวีตัวที่ "เหมาะสม" กับคุณได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกระดับ ทิ้งท้ายไว้ด้วย รีวิว Plasma TV ตัว Top สักตัวนะครับเป็น FULL HD / รุ่น 50PZ950 http://goo.gl/wCWI2 แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 21:07:51 จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 20:57:43

ความคิดเห็นที่ 58 เรื่องความละเอียดของการดูทีวี HD หรือ Full HD เรื่องทีวี 3D เรื่อง HD Player วันหลังจะมาต่อนะครับ :D:D:D จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 21:01:45

ความคิดเห็นที่ 59 ตอนซื้อทีวีเข้าบ้านใหม่ ผมเลือก Plasma โดยไม่ลังเล ด้วยเหตุผลส่วนตัวหลักๆ 3 ประการคือ 1. ในขนาดที่เท่ากัน (50")  Plasma ถูกกว่ามาก เหลือเงินไปซื้อชุด HT ได้สบาย 2. ให้สีภาพเป็นธรรมชาติ เหมาะกับ Life Style ที่ดูหนัง และทีวี  มากกว่าเล่นเกม 3. ในห้อง built-in Home Theater ที่มืดสนิท  Plasma ให้การดูหนังในบ้านเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากๆ จากคุณ : ๐๐ Quezer ๐๐ เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 22:19:34

ความคิดเห็นที่ 60 รีวืวแจ่มมากเลยค่ะ กำลังจะซื้อทีวีใหม่ให้คุณแม่พอดี อยากซื้อใหญ่ๆ แต่ที่วางทีวีกับเตียงมันใกล้กัน คงใหญ่มากไม่ได้ คนแก่ดูไม่รู้แบบไหนเหมาะดีคะ แบบดูนานๆแล้วไม่ปวดตาน่ะค่ะ (เท่าที่อ่าน LCD หรือเปล่า) ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ท่านหญิงแพรวพรรณราย เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 02:44:31

ความคิดเห็นที่ 61 ข้อมูลแน่นสุดๆ ขอบคุณ "เทพทีวี" มากๆครับ "ทิ้งท้ายไว้ด้วย รีวิว Plasma TV ตัว Top สักตัวนะครับเป็น FULL HD / รุ่น 50PZ950" เข้าไปดูข้อมูลทั้งหมดและค่าตัวที่ลงไว้ที่ 49,990 บาท หารออกมาก็ตกนิ้วละพัน ก็ถือว่าไม่สูงเกินเอื้อม ไม่รู้ว่าราคาขายจริงอยู่ที่เท่าไหร่ จากคุณ : ลุงขายน้ำปั่น เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 04:41:32

ความคิดเห็นที่ 62 เยี่ยมมากครับ ได้ความรู้มากมาย ขอบคุณเพื่อนเพื่อน ห้องชายคามากครับ จากคุณ : huahinman เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 08:26:39

ความคิดเห็นที่ 63 เก็บเข้าคลัง เยี่ยมมาก จากคุณ : ต้มส้มปลากระบอก เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 09:35:20

ความคิดเห็นที่ 64 จ๊าบบบมากครับ จากคุณ : Jack Rider เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 09:38:21

ความคิดเห็นที่ 65 ขอกอดที.. จากคุณ : ฤทัยนาวา เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 09:51:34

ความคิดเห็นที่ 66 ที่บ้านแสงสว่างเยอะ (หน้าต่าง 2 ฝั่ง) ดูทีวีกันทั้งวัน (ส่วนใหญ่จะเน้นดู True กับแผ่น DVD) อนาคตอาจมี Blue ray เสาร์ อาทิตย์ วันหยุดราชการ ปิดเทอม ดูกันตั้งแต่ 7 โมงเช้ายันตี 1 ตี 2 วันธรรมดาดูกันประมาณ 5-6 โมงเย็นถึง 5 ทุ่มเที่ยงคืน ควรใช้แบบไหนดีคะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : nungying เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 10:06:34

ความคิดเห็นที่ 67 ผมซื้อ เดือนที่แล้วให้คุณแม่ ผมเลือกพลาสม่าทีวี เนื่องจากเป็นเทคโนโลยี ที่ กำลัง จะจากไป แต่อะไหล่อยู่ในตลาดอีก 10 ปี แน่นอน อายุการใช้งาน 100,000 ชั่วโมง  ถ้าเปิด แบบไม่บันยะบันยัง  ก็ 11 ปี จอจึงจะเริ่มหมดสภาพ ซึ่ง ผมมองว่า คุ้มค่าแล้ว ไม่ได้เืลือก LCD LED เลย ในสายตาเพราะ มองว่า  มูลค่าการตลาดยังมากเกินไป เราไม่ได้ซื้อ LCD LED ในราคา ที่ควรเป็นเลย แต่เป็นเพราะ demand supply ตะหาก ผม ดู มาตั้งแต่ จอแก้ว จอโปรเจคเตอร์ จอแบน จอพลาสม่า จอ CRT  จอLCD จนมาถึง LED ลอง มองกลับสิครับ จอโปรเจคเตอร์ ตอนออกใหม่ กี่แสน ? พลาสม่าละ กี่แสน ? ทุกวันนี้ ผมยอมรอ หลายปี เพื่อซื้อ จอพลาสม่า 42 นิ้ว ที่เคยมีราคา 70000 ด้วยเงินเพียง 15xxx  บาท แถมถูกใจซะด้วย แม่ดู AF ภาพเสียงคมชัด   ไม่ได้ ไม่เห็นด้วยกับ LED LCD นะครับ เพียงแต่เป็นอีกมุมของคนที่เลือกพลาสม่า ครับ ปีนี้ มีบ. เปิดตัว ILED มาในตลาดอีก 2 เจ้า ซึ่งวันนึง LCD ราคาก็จะดิ่งแบบ พลาสม่านี่แหละ (ตอนนี้ก็เริ่มแล้ว) ดังนั้น เป็นไปตามกลไกตลาดครับ ถูก และ คุ้มค่า นาที นี้ ผมให้ พลาสม่า ครับ  แต่เวลาก็ไม่มากแล้ว เพราะ เหลือแค่ไม่กี่ยี่ห้อที่ยังทำอยู่ และ ตัวเป้งอย่าง LG และ PANASONIC  จะทำอีกแค่ 2 ปี เท่านั้น จากคุณ : เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 10:10:49

ความคิดเห็นที่ 68 ปล. สำหรับแฟนกีฬา ต้อง พลาสม่า จอ 42 ขึ้นไป ครับ เต็มอิ่มแน่นอน  ดูในห้องมืดนะ รับรอง ดีกว่า LCD แน่นอน  ผมเทียบมาแล้ว จากคุณ : เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 10:13:44

ความคิดเห็นที่ 69 ตอบ คห.60 ผมมีตารางตัวอย่างให้ดูด้านล่างนะครับว่า LCD หรือ Plasma TV ขนาดต่างๆควรมีระยะในการรับชมเท่าไหร่กันนะครับ ขนาดหน้าจอ (นิ้ว)         ระยะนั่งใกล้ที่สุด              ระยะนั่งไกลที่สุด        26                                0.98                                1.95        32                                1.25                                2.50        42                                1.58                                3.15        47                                1.76                                3.53        50                                1.88                                3.75        55                                2.06                                4.13        60                                2.25                                4.50        70                                2.63                                5.25        80                                3.00                                6.00 (หน่วยเป็นเมตรจ้า ) จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 11:36:26

ความคิดเห็นที่ 70 #31 ขนาดไซส์แปลกๆ ก็มีครับ (แต่ผมไม่แน่ใจว่าในไทยจะมีนำเข้าไปหรือเปล่า) อย่าง ไซส์เล็กของญี่ปุ่น มีตั้งแต่ 19"-23" ครับ ซึ่งส่วนมากจะทำ 20" กับ 22" มาเยอะหน่อย ส่วนขึ้นไปอีกก็เป็น 26"-28" ครับ แต่ถ้าจอยิ่งใหญ่ขึ้นส่วนใหญ่ขนาดที่ทำ จะมาตรฐานกันอยู่แล้วครับ อาจจะต่างกันไม่เกินบวกลบ 1" จากคุณ : เฉาก๊วยกะบ๊วยเค็ม - -" เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 11:55:15

ความคิดเห็นที่ 71 จขกท  ช่วยแจกแจง 3D กับ 2D ให้ด้วยซิครับ .. จากคุณ : naytee เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 12:31:54

ความคิดเห็นที่ 72 ขอบคุณครับ จากคุณ : lovefit (Leethanakorn) เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 14:02:36

ความคิดเห็นที่ 73 ชอบพลาสม่าแต่กลัวเปลืองไฟ เพราะที่บ้านเปิดฟรีทีวีกระจาย 12 ชั่วโมงต่อวัน ตั้งใจจะซื้อพลาสม่า 50 นิ้วเลยเบนเข็มมาเป็น LCD ธรรมดา 42 นิ้วแทน ในราคาที่ใกล้เคียงกัน ว่าแต่พอจะคำนวณได้มั๊ยครับว่าค่าไฟพลาสม่า 50 นิ้ว (LG PT350) ถ้าเทียบกัน LCD (LG LK450) ถ้าดูวันละ 12 ชั่วโมงเท่ากันจะต่างกันประมาณกี่บาทต่อวันต่อปี ถ้าไม่มากจะได้จัดพลาสม่ามาเลยครับ จากคุณ : นัยแว่น เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 15:24:31

ความคิดเห็นที่ 74 ขอบคุณค่ะ ที่บ้านยังเป็นจอนูนๆ อยู่เลยค่ะ   เขาเรียกว่าจอแก้วใช่ไหมคะ จากคุณ : ข้าวเหนียวเขาวง เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 15:43:16

ความคิดเห็นที่ 75 เคยดูมอนิเตอร์ 23 นิ้ว  ของACER ตั้งเทียบกันระหว่า LED LCD LCD ราคาถูกกว่า 600 บาท  แต่ดันสีสด คมชัดกว่าซะงั้น   อาจจะเป็นเพราะ จอ LCD เป็นแบบผิวมัน  ส่วน LED เป็นแบบด้าน จากคุณ : ZXR เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 15:52:18

ความคิดเห็นที่ 76 จขกท.ครับ ขออีกหนึ่งยกได้ไหม ในอนาคต รัฐบาลบอกว่า 2558 (แต่ผมไม่เชื่อ เพราะดูตัวอย่างจาก 3 G) ประเทศไทยจะเปลี่ยนระบบการออกอากาศจากอนาล็อกไปใช้ระบบDigital แทน ไม่ทราบว่าจะมีผลต่อการเลือกซื้อทีวีหรืไม่ครับ ต้องเปลี่ยนทีวีใหม่ไหม ปอลิง ผมซื้อ LCD 32ตอนที่มันราคา 29,990 (ประมาณ 4 ปีที่แล้ว) อยากจะเปลี่ยนใหม่แต่มันยังไม่พังเลย แฮ่ะๆ จากคุณ : deletenumlock เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 18:58:14

ความคิดเห็นที่ 77 จริงๆแล้ว แนวทางการเลือกทีวีในแต่ละรุ่นให้เข้ากัน ลองดูจากรางวัล LCDTVTHAILAND AWARDS เป็นแนวทางก็ได้ครับ เป็นรางวัลที่จะมอบให้ทีวีแต่ละตัวที่ดีที่สุดในแต่ละหมวดทั้งหมด 10 หมวด คือ 1. Best of The Best TV Award - ทีวีที่ดีที่สุดแห่งปี 2. ฺBest LED TV Award - LED TV ที่ดีที่สุดแห่งปี 3. ฺBest LCD TV Award - LCD TV ที่ดีที่สุดแห่งปี 4. Best Plasma TV Award - Plasma TV ที่ดีที่สุดแห่งปี 5. Best VALUE LED TV Award - รางวัล LED TV สุดคุ้มค่าแห่งปี 6. Best VALUE LCD TV Award - รางวัล LCD TV สุดคุ้มค่าแห่งปี 7. Best VALUE Plasma TV Award - รางวัล Plasma TV สุดคุ้มค่าแห่งปี 8. ฺBest 3D TV Award - รางวัล 3D TV ที่ดีที่สุดแห่งปี 9. ฺBest Design AWard - รางวัลดีวีที่ออกแบบสวยที่สุดแห่งปี 10. Editor's Choice Award - รางวัลขวัญใจทีมงาน จริงๆ ในทีวีของปี 2011 ได้ประกาศผลไปแล้วครับที่นี่ http://goo.gl/mdvB0 แต่ว่าตัวที่เข้าชิงแต่ละรางวัลจะมีทั้งหมด 3 รุ่น http://goo.gl/Fri9o หวังว่าจะช่วยเป็นแนวทางได้สำหรับคนที่ยังไม่มีรุ่นอยู่ในใจเลย กำลังมืดแปดด้าน ไม่รู้จะเอาอะไร ก็ใช้แนวทางการเลือกทีวีให้เหมาะกับตัวเองครับแล้วก็ไปดูรุ่นที่ชอบหรือคุ้มที่สุด จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 19:14:19

ความคิดเห็นที่ 78 ตอบคุณ คห. 66 นะครับ ุุ้ถ้าคุมแสงไม่ได้เนี่ย ยังไงก็ต้องบังคับเป็นพวก LCD กับ LED เลยครับ อีกอย่างดูทรูวิชั่นหรือฟรีทีวี ถึงแม้ว่าพลาสม่ารุ่นใหม่ๆ จะไม่มีอาการเบิร์นให้เห็นบ่อยนัก แต่พวกโลโก้ต่างๆก็ยังเสี่ยงจะติดอาการเบิร์นอินได้ จริงๆแล้ว ถ้าเอามาเน้นดูทรูกับพวก DVD ไม่จำเป็นต้องใช้งบเยอะ ถ้าขนาด 32 นิ้ว ก็หารุ่นที่เป็น HD Ready มาใช้ ความละเอียด 1366 x 768 ก็เพียงพอครับ แต่ถ้าจอใหญ่กว่านั้นก็ต้องเล่น FULL HD อย่างเลี่ยงไม่ได้ ขึ้นอยู่กับงบประมาณท่านเลย ^^ ตอบ คห. 70 ตามนั้นเลยครับท่าน แต่ว่าพอดีอยากจะแนะนำเพื่อนๆในห้องนี้เลยแนะนำไซส์ที่เป็นมาตรฐาน พบได้ทั่วไปครับ ^^ ตอบ คห. 73 จริงๆแล้ว Plasma กับ LCD กินไฟเยอะใกล้เคียงกันเลย แต่ว่า Plasma จะกินหนักกว่าหน่อยๆ อย่างตัวรีวิว TV ที่ลงไว้ใน คห. 57 ก็จะมีเปรียบเทียบการกินไฟ โดยใช้เครื่องวัดไฟ ในโหมดทีวีต่างๆด้วยครับ ตอบ คห. 74 เป็นจอ CRT TV หรือว่า จอแก้วครับ ใช่แล้ว ^^ ตอบ คห. 75 น่าจะเป็นจอด้านกับจอกระจกใช่ไหมครับ ตอบ คห.76 เรื่องการออกอากาศเป็นระบบดิจิตอล จริงๆแล้วข้อมูลอย่างเป็นทางการ ก็ยังไม่มีอะไรยืนยันได้ 100% แต่ผมคิดว่ายังอีกนานแน่นอน ^^ จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 19:26:09

ความคิดเห็นที่ 79 มาลองดูตัวอย่างรีวิวของ Smart TV ในปัจจุบัน ที่สามารถใช้ อินเตอร์เน็ตได้ และสามารถลงแอพพลิเคชั่นต่างๆได้ อย่างตัวที่รีวิวนี้เป็น SMART TV D8000 ของ Samsung ครับ น่าจะเคยเห็นบ่อยๆ ตามห้าง จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 19:28:59

ความคิดเห็นที่ 80 อย่างนี้ต้อง 10 ริคเตอร์!!!!!!!! ปล. ผมใช้ LCD จากคุณ : อยู่คนเดียวเปล่าเปลี่ยวใจ เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 20:01:52

ความคิดเห็นที่ 81 เพิ่งถอยอันนี้มาไม่นาน ถือว่าพอเข้าข่าย ทีวีดีๆ มั้ยคะ จากคุณ : Labaluna เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 21:24:42

ความคิดเห็นที่ 82 ตอนนี้ประทับใจกับพลาสม่า50นิ้วมาก ได้ภาพเหมือนชมในโรงภาพยนตร์เลย สีสันธรรมชาติไม่เว่อร์ ไม่ปวดตา เสียอย่างเดียวร้อนและเปลืองไฟไปหน่อย ต่างจากแอลซีดี32นิ้วในห้องนอนเลย จอเล็กกว่าแต่ความคมชัดกับน้อยกว่า จากคุณ : antonio_o เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 23:59:34

ความคิดเห็นที่ 83 เริ่มรักคุณ  ให้อีกคนหนึ่งแล้วหละ ขอแทรกหน่อยน่ะค่ะ เร่ิมจากกำลังซ่อมแซมบ้านอยู่ จนลุล่วงมาเป็นที่พอใจพอสมควรจากคนที่ไม่มีความรู้ใดๆเลย แต่ก็ค่อยผ่านไปได้ด้วยดี อะไรที่ไม่รู้ก้หาความรู้ในชายคานอนไม่หลับมีปัญหาก็รีบค้นหาในนี้ ต้องขอกล่างอ้างถีงเพื่อกราบขอบพระคุณท่านทั้งหลายเหล่านี้เป็นอย่างสูงและหลายคนที่มีปัญหาอย่างฉ้นก็คงคิดเหมือนฉัน 1.คุณ naytee รักมากที่สุด ที่เอาข้อมูลทุกเรื่อง(ได้ทุกเรื่องจริงๆ)มาใช้เป็นประโยชน์สำหรับเราและกับช่างด้วย   เพราะช่างบางคนได้อ่านวิธีของท่านที่เราพิมพ์ให้บอกขอเอาไปใช้ศึกษา อันนี้คุณ naytee ได้กุศลอย่างแรง 2. คุณร่มโพธ์ร่มไทร(จริงๆ)เปลี่ยนจากต้นเถาะค่ะ) คุณน้าพร pinhead นายสันทัด คุณคีรีบูนปีกบาง ตุณปุลากง    และในอีกหลายๆท่านที่ เขียนเข้ามาถาม(คุณม่ายเถา) ในจังหวะที่คนหลายคนอยากรู้แต่ลืมนึกถึง 3.สุดท้ายนี้ต้องยกให้ พันธ์ทิปและบุคคลที่ดำเนินการในพันธ์ทิปนี้ และเนื่องในโอกาสวันเกิดของพันธ์ทิป ดิฉันขอให้พันธ์ทิปอยู่คู่คนไทยตลอดไปด้วยน่ะค่ะ 4. คุณทำงาน 10 โมงเช้าเข้านอนคี 5 พอดีกำลังอยากได้ข้อมูลในการซื้อทีวีใหม่เพื่อให้เหมาะกับห้องใหม่ก็ได้คูณมาช่วยชีวิตอีกคนขอรักเพิ่มอีกสักคน คงไม่ว่ากันน่ะค่ะ เพราะข้อมูลแจ่มชัดมากจริงๆ จากคุณ : Tmrwii (TmrWll) เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 06:14:04

ความคิดเห็นที่ 84 ห้องผมค่อนข้างมืด แสงเข้าน้อย ระยะ3เมตร จากเตียง-จอ ส่วนใหญ่ใช้ดูทีวีเป็นหลัก 3-5-7-9 ต่อสายอากาศธรรมดา ควรใช้จอแบบ พลาสม่า 32" ผมเข้าใจถูกต้องไหมครับ กำลังหาซื้ออยู่พอดี จากคุณ : minkexotic เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 14:10:56

ความคิดเห็นที่ 85 ผมเพิ่งซื้อ LCD INTERNET TV 32" รุ่น CX520 ของ Sony มาครับต่อกับเสา หนวดกุ้งในบ้านแล้วดูฟรีทีวี ขอโทษน่ะครับ ชัดมากมาย ลบทุกทฤษฎีเลยครับ ตอนแรกกลุ้มใจกะว่าจะต้องติดจานใด จานหนึ่ง ใครๆก็บอกว่ามันจะดูไม่ได้  ลายตาไปหมด แถมนางเอกละครจะอ้วนผิดปกติและเตี้ยด้วย ก็เลยซื้อมาก่อนเมื่อ วันพฤหัษที่ผ่านมา กะติดจานวันเสาร์ โล่งอกแล้วครับไม่ต้องติดจาน มีความสุข ในการดูฟรีทีวีเหมือนดั่งจอแก้วเหมือนเดิม แถมไม่ต้องกลัวเรื่องเงาจากแสงส่วาง ใดๆอีกด้วยครับคุณท่าน จากคุณ : felansear เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 14:27:32

ความคิดเห็นที่ 86 ตอบ 84. Plasma จะเริ่มต้นที่ขนาด 42 นิ้วนะครับ จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 16:06:07

ความคิดเห็นที่ 87 ^ ^ ^ อุย!!!! งั้น.... แบบไหนดีครับน้า ภรรยาให้มาหาข้อมูล >< จากคุณ : minkexotic เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 16:29:23

ความคิดเห็นที่ 88 ชอบจังกระทู้แบบนี้ ขอบคุณมากมาย จากคุณ : RW. เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 17:30:33 A:125.24.74.10 X: TicketID:322054

ความคิดเห็นที่ 89 สุดยอดค่ะ ได้ความรู้เพิ่มจากที่ไม่มีเลย จากคุณ : aya BGIRL เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 23:30:32

ความคิดเห็นที่ 90 ขอบคุณรีวิวดีๆครับ ขอถามเพิ่มเติมครับ แล้วค่าไฟระหว่าง LED กับ Plasma ล่ะครับ อันไหนประหยัดกว่ากันครับ.. จากคุณ : Pogio เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 00:59:52

ความคิดเห็นที่ 91 อยากได้พลาสม่า แต่ว่ามันร้อน ตั้งในห้องนอน กลัวแอร์กินไฟ เลยอยากถามดู ว่ามีบ้างไหม พลาสม่าจอใหญ่ แต่ไม่ร้อนเกิน กระทู้แสนดี มีประโยชน์เกิ๊นนน อาจแล้วเพลิดเพลิน ผมขอขอบคุณ(ครับ) :) /|\ จากคุณ : pojjaman เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 08:58:02

ความคิดเห็นที่ 92 เคยเป็น PC ของซัมซุง ชั่วคราว 4 วัน โชคดีมีงานเปิดตัว LED TV ก็ได้ยกขึ้นไปเก็บไปโชว์ ขอบอกว่าเบามาก บางมาก และแพงมาก (2 ปีก่อน) เจ้าของจากเกาหลีมาดูเองเลย ที่ เซ็นทรัลเวิร์ล รปภ.เดินตามกันเพียบ แต่ขอบอกว่า ลูกสาว ผู้บริหารซัมซุงในไทย สวยมาก *0* (ไม่ได้เกี่ยวกับที่ จขกท. ตั้งกระทู้เลย) จากคุณ : lessimol เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 13:00:22

ความคิดเห็นที่ 93 แจ่ม จากคุณ : sunman เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 13:19:52

ความคิดเห็นที่ 94 ตอบ คห.90 ลองมาดูตัวอย่างการกินไฟของ LCD / PLASMA / LED กันครับ ผมเทียบให้ดูคร่าวๆนะครับ จริงๆแล้วจะต่างกันตามรุ่นอีกทีนึง LCD จะเป็น Polytron 42M11 ขนาด 42 นิ้ว รีวิว http://goo.gl/XdLTP Plasma จะเป็น Panasonic X30T ขนาด 42 นิ้ว  รีวิว http://goo.gl/6qmI3 LED จะเป็น Sony HX925 ขนาด 46 นิ้วครับ รีวิว http://goo.gl/Vqu2B มาเริ่มที่ LCD ก่อนครับ ในตัวอย่างเทสเรื่อง  Eco Mode อยู่  175W คือ ใช้ Eco แบบ LOW คือจะลดแบคไลท์ลงไป ใช้สำหรับในห้องมืดๆ จะไ้ด้ไม่ปวดตาและประหยัดพลังงาน ถ้าไม่เปิดโหมดก็จะมากขึ้นอีกหน่อย ต่อมาคือ Plasma เทสเรื่อง Picture MODE จะเห็นว่าแต่ละอันจะอยู่ราวๆ ๅ160W - 170W และสุดท้าย LED TV ขนาด 46 นิ้วใหญ่กว่าชาวบ้าน จะอยู่ราวๆ 100W - 130W ครับ อ้อ อย่างตัวนี้จะเป็น FULL LED ด้วย ซึ่งหลอดแบคไลท์จะมากกว่า EDGE LED ตัวอื่นๆด้วยครับ จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 16:28:53

ความคิดเห็นที่ 95 ตอบ คห 91 จริงอยู่ว่า Plasma มันร้อนครับ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตมากมาย เพราะมันร้อนโดยหลักการของมันอยู่แล้ว เอาจริงๆก็ไม่ค่อยมีผลกับการกินไฟของ "แอร์" เท่าไหร่ เพราะอย่างในร้าน แมคโดนัล ก็ใช้ Plasma หรือว่าตาม 7-11 ตามห้างสรรพสินค้า ถ้าเห็นจอใหญ่ๆ ส่วนมากจะเป็น Plasma ครับ :D จากคุณ : ทำงาน 10 โมงเช้า เข้านอน ตี 5 เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 16:32:13

ความคิดเห็นที่ 96 ทุกวันนี้บ้านหนูยังดู Samsung slim fit จอแก้ว21นิ้ว อยู่เลยค่ะ ก็ดูได้นะ ดูข่าวดูอะไรรู้เรื่องหมด ไม่มีภาพวิญญาณให้ตามมากวนตาด้วย ^_^ จากคุณ : เสือน้อยจอมซน เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 16:50:35

ความคิดเห็นที่ 97 รอราคาลงรับรองไปถอยแน่led จากคุณ : watyong เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 18:02:21

ความคิดเห็นที่ 98 ผมเขียนสั้นๆนะครับ 1 plasma, lcd, LED มันจะถูกลงทุกปี 2 lcd, led มันเหมือนกัน แต่ led เป็นของที่พัฒนาใหม่ พึ่งมา แพงกว่า บางกว่า สว่างกว่า ทนกว่า (lcd ที่มันจอดำต้องไปเปลี่ยนกันมากมายก็เพราะวงจรไฟแรงสูงหรือหลอดนีออนมันขาด) 3 lcd led นี้ ถ้าภาพไม่พอดีกับจุดบนจอเป๊ะๆ มันจะดูน่าเกลียด  มันถึงต้องทำ bluray มาขาย แต่ plasma มันจะเนียนสวย เหมือนจอแก้ว  เปิด dvd ก็ยังเนียน ผมดูหนังด้วย ทีวี sony 29" จอแก้วอยู่เลย ใช้สายคอมโพเนน สามสีแยก ผมใช้ sub woofer ตั้งแต่ เลเซอดิส สมัยหนังจูราสสิค พวิสเตอร์ ตอนนี้ดู DTS, 5.1 dvd ค่ายที่ทำในไทย ทุกวันนี้ หลายค่ายยังทำเสียงออกมาโมโนอยู่เลย ทั้งเสียงไทยเสียงอังกฤษ แย่ยิ่งกว่า 20 ปีก่อนซะอีก ไม่เห็นมีใครโวย แล้วจะเถียงกันเรื่องจอเพื่ออะไร ปีหน้า samsung LED 40" บาง ขายไม่ถึงสองหมื่น   lcd ไม่มีใครเอา แต่ข้าวมันไก่จะจานละ 50 นะ จากคุณ : Retire Young เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 18:03:46

ความคิดเห็นที่ 99 ใช้มาหมดทุกแบบ สุดท้ายมาจบที่ LED FullHD ของ Philips 9705 เน้นดูหนังไฮเดฟ กับ เล่นเกมส์ จากคุณ : Tommy Rocker เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 20:15:07

ความคิดเห็นที่ 100 ดูบ้านเพื่อน LCD Full HD กับบ้านผม Plasma ผมว่า ภาพบ้านผมดูสบายตาเนียน ไหลลื่นกว่าเยอะเลย แต่พลาสม่าเรื่องแสงสำคัญนะครับถ้ามีแสงล่ะ เซ็งจริง ๆ จากคุณ : แมลงปอร่อแร่ เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 20:58:51

ความคิดเห็นที่ 101 Plasma TV  มีค่า RT ต่ำสุด ทำให้ภาพใหลลื่น สบายตา แต่ข้อจำกัดของ Plasma คือ ขนาดจอ มาตรฐานเล็กสุด 42 นิ้ว การสะท้อนแสง Burn In ความร้อนที่แผ่ออกมาจากเครื่อง กล่าวโดยสรุป เทคโนโลยี Plasma เ้น้นที่ การแสดงผล ชัดเจน สบายตา จอใหญ่ ราคาไม่แพง เหมาะสำหรับดูฟรีทีวี ข้อจำกัด คือ เรื่องของสถานที่ เนื่องจากจอภาำำพมีขนาดใหญ่ และต้องระมัดระวังเรื่องการคุมแสง สิ่งสำคัญคือ ต้องระวังเรื่องการ Burn In ซึงปัจจุบัน รุ่นใหม่ๆ จะมีวงจรป้องกันมาให้ นอกจากนี้ Plasma ราคาถูกๆ มักจะไม่มีฟังก์ชั่นใหม่ๆ อย่าง Internet , 3D หรืออาจจะมีอย่างใดอย่างนึงเท่านั้น LED TV นับว่ามาแรง โดดเด่นที่เทคโนโลยีใหม่ๆ มักจะุถูกยัดลง LED ก่อน อาทิ Internet / 3D รวมไปถึงการดีไซน์ที่สวยงาม นอกจากนี้ จอ LED ยังมีขนาดให้เลือกมากมาย ผู้ใช้สามารถเลือกให้ตรงกับความต้องการได้ แต่ สำหรับจอที่มีขนาดใหญ่ๆ จะบรรจุฟังก์ชั่นไว้มากมายและมีราคาสูง สำหรับ ข้อจำกัดของ LED คือ  ไม่สามารถออกแบบค่า RT ให้ต่ำเท่ากับ Plasma ได้ ดังนั้น จึงต้องมีเทคโนโลยีการแทรกเฟรมมาช่วย ซึ่งราคาก็จะสูงตามไปด้วย นอกจากนี้ ฟังก์ชั่นบางอย่าง ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตกำหนด (ตามความต้องการของตลาด) ทำให้ไม่สามารถกำหนดราคาให้ต่ำๆได้ โดยเฉพาะ LED/LCD ที่มีจอขนาดใหญ่ ๆ เมื่อเทียบกับพลาสม่า ตรงจุดนี้ สำหรับคนที่ตัดสินใจซื้อ LED/LCD ต้องทบทวนให้้ดีว่า ต้องการไปใช้งานแบบใด เนื่องจากจอ LED ไม่มีปัญหาในเรื่องแสงสะท้อน การ Burn In แต่จะมีจุดอ่อนในเรื่องราคา และ การแสดงผลภาพไม่ลื่นไหล สำหรับคนที่อยากได้เทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง Internet , 3D และอยากได้จอใหญ่ๆ ด้วย ก็ต้องชั่งใจให้ดีกับงบประมาณที่จ่ายไป เพราะอาจต้องตัดฟังก์ชั่นบางอย่างออกไป หากงบประมาณไม่ใช่ปัญหา LED TV ย่อมจะได้อะไรทีี่มากกว่า Plasma TV แต่สำหรับผู้ที่เน้นกาีีรแสดงผลภาพเป็นหลัก ไม่สนเทคโนโลยีที่เกินความจำเป็น ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องสถานที่ Plasma TV อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สดสำหรับคุณ อย่างน้อยๆ ก็เอามาดู ฟรี ทีวี ได้ครับ จากคุณ : Cho_shang เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 54 15:24:13