::: เมื่อข้าพเจ้าจะกู้ซ่อมแซมบ้าน ตอนที่ 1 ::

::: เมื่อข้าพเจ้าจะกู้ซ่อมแซมบ้าน ตอนที่ 1 ::

แต่งงานอยู่กินกับภรรยามาหลายปี มีลูกด้วยกัน 1 คน
บ้านที่เราอยู่ก็เป็นที่พ่อแม่ของภรรยาท่านยกให้(แม่ยายใจดีมาก)
บ้านเป็นบ้านครึ่งไม่ครึ่งปูน 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นปูน 1 ห้อง ชั้นบนเป็นไม้สองห้อง

บ้านถูกสร้างมาประมาณ 11 ปี ก็ผุพังไปตามกาลเวลา เลยปรึกษากับภรรยาว่า
"จะกู้สร้างบ้านใหม่" ออกแบบเรียบร้อยพอดูงบประมาณแล้ว แม้จะหลังไม่ใหญ่
พออยู่กันได้ 3 คนพ่อแม่ลูก ก็ดูงบจะมากอยู่(ประมาณ 7แสน)
พยายามลดนั้นลดนี่แล้วก็ยังช่วยอะไรได้ไม่มากนัก

คิดไปคิดมาก็เลยสรุปว่า "เราจะซ่อมบ้านกัน" เหตุผลคือ "ความพอเพียง" เป็นหลัก
ดูกำลังตัวเอง ไม่ให้ผ่อนมากจนเกินไป คุณแม่ผมท่านให้แง่คิดว่า
"ผ่อนแต่ละงวดอย่าให้หนักมาก อาจจะผ่อนนาน หรือต้องเสียดอกบ้าง แต่ดีกว่าต้องมานั่งกลุ้มในแต่ละเดือน"

โดยย้ายห้องน้ำและบันไดเจ้าปัญหา(อยู่กลางบ้าน) ไปไว้ตำแหน่งที่คิดว่าดีแล้ว
โดยปรึกษาแม่หมอที่อยู่บ้านตรงข้ามให้ช่วยดูฮวงจุ้ยให้
เบ็ดเสร็จก็สรุปได้ตำแหน่งต่างๆ ตามที่คิดไว้ ถึงแม้จะแก้แบบบ้านไปประมาณ 10 กว่ารอบก็ตามที
จากนั้นก็เรียกช่างจากเทศบาลที่รู้จักกัน(สำคัญมาก) มาช่วยเขียบแบบซ่อมแซมให้
ช่างถึงกับส่ายหน้าเพราะแก้ยากมาก บ้านมันเป็นแบบบ้านพักตากอากาศ
(แม่ยายไปเที่ยว ไปเห็นแล้วชอบ เลยจำแบบมาสร้าง) ชั้นบนมีสองห้องซ้ายขวา มีห้องน้ำตรงกลาง
สามารถทะลุหากันได้ และมีบันไดตรงกลาง ด้านล่างมี 1 ห้องนอน พร้อมห้องครัว

คุยกันกับช่างออกแบบเกือบ 2 ชั่วโมงเกี่ยวกับตำแหน่งบันได
เพื่อให้ได้ตรงกับตำแหน่งที่แม่หมอวางไว้ ให้ได้มากที่สุด
จากแบบที่แก้กว่า 10 แบบก็ลงตัว

ก่อนหน้าที่ผมจะคุยกับช่างออกแบบนั้น ก็ได้ไปที่ธนาคารมาหลายธนาคารเหมือนกัน
สรุปไปลงตัวที่ ธอส(ดอกอาจแพงกว่าออมสิน แต่ระเบียบน้อยกว่ามากกกกก สรุป รองจากออมสินก็ ธอส นี่หล่ะ)
เตรียมเอกสารเข้าไปหาเจ้าหน้าที่(เคยคุยกันมาแล้ว 1 รอบ) โดยใช้สิทธิสวัสดิการและกู้ร่วมกับภรรยา

เจ้าหน้าที่ก็แสนดีแนะนำขอมูลต่างๆได้ดีมาก...

แต่ก็เกิดปัญหาใหญ่....

เจ้าหน้าที่ขอดูสัญญาซื้อขายที่ดิน ผมยื่นให้ พอได้ดูเจ้าหน้าที่ก็ส่ายหน้าว่า "กู้ยังไม่ได้น่ะครับ"
ผมตกใจสุดขีด "ทำไมเหรอครับ"
เจ้าหน้าที่ตอบว่า "โฉนดเป็นของภรรยาคุณครับ แต่บ้านยังเป็นของมารดาของภรรยาอยู่"
ผมงงมาก เจ้าหน้าที่เลยชี้ให้ดู ว่า "ในสัญญาซื้อขายระบุว่า สิ่งก่อสร้างเป็นของแม่ภรรยา"

ผมรีบกลับมาบ้านสอบถามกับภรรยาก็ได้ทราบว่า "ตอนโอนที่ดิน เจ้าหน้าที่ที่ดินถามว่า บนที่ดิน
มีสิ่งปลูกสร้างหรือไม่" ภรรยาตอบว่า "มี" เจ้าหน้าที่ถามต่อว่า "ใครเป็นคนสร้าง"
ภรรยาใจซื่อมือสะอาดเลยตอบว่า "แม่เป็นคนสร้าง" นี่หล่ะครับพี่น้อง

วันต่อมาเลยต้องดำเนินเรื่องการโอนบ้านซึ่งแม่ยายก็เข้าใจว่า "โอนไปพร้อมที่ดินแล้ว"
ภรรยาเลยเตรียมเอกสารเพื่อทำเรื่องโอนบ้าน ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี แต่....

- ต้องติดประกาศ 30 วัน (เข้าใจได้)
- ค่าธรรมเนียม ร้อยละ 2 อากรร้อยละ 50สตางค์ และภาษีอีก ร้อยละ 2.5
รวมกันเป็น ร้อยละ 5

เจ้าหน้าที่ประเมินบ้านออกมาได้ราคา.....

ลุ้น...    7 แสนกว่า อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
สรุปเสียค่าธรรมเนียมทั้งหมด 35,XXX บาท

ตายๆ ไปหาเงินที่ไหนหล่ะเนี้ย ภรรยาก็เครียดมาก(น่าสงสาร)
แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี โดยแม่ยาย(ที่แสนดี) จะให้ยืมเงินก่อน(น่าจะให้เลยน่ะครับ อิอิอิ)

สรุปคือ

อีก 30 วันไปทำการโอน และเสียค่าธรรมเนียม
เจ้าหน้าที่นัดวันที่ 9 พ.ย.54 ครับ

เรื่องราวตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร
จะมีอุปสรรคใดๆ มาขวางกันเรา(ในการเป็นหนี้)หรือไม่
ค่อยมาเจอกันอีก 30 วันน่ะครับ


แมนมณี

จากคุณ	: แมนมณี
เขียนเมื่อ	: วันเกิด PANTIP.COM 54 16:29:10