Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
รวมมาตราการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของธนาคารต่าง ๆ ติดต่อทีมงาน

ธนาคารกรุงเทพ

ธนาคารกรุงเทพ เพิ่มมาตรการช่วยเหลือลูกค้ารายย่อย ลดดอกเบี้ยบัตรเครดิต 50% ลดยอดผ่อนบ้านสูงสุด 40%

17 ตุลาคม 2554

ธนาคารกรุงเทพ เพิ่มมาตรการช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยผู้ประสบอุทกภัย ผ่อนผันการชำระหนี้บรรเทาความเดือดร้อน โดยลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยพร้อมปรับลดยอดการผ่อนชำระรายเดือนสูงสุด 40% เป็นเวลา 1 ปี ส่วนลูกค้าบัตรเครดิตพร้อมลดอัตราดอกเบี้ยลง 50% จนถึงเดือนมิถุนายน 2555 อีกทั้งยกเว้นค่าธรรมเนียมและค่าบริการโอนเงินข้ามเขตแก่ลูกค้าที่โอนเงินไปยังบัญชีครอบครัวในพื้นที่ประสบภัย ทั้งนี้ลูกค้าที่ได้รับความเดือดร้อนและมีความประสงค์เข้าร่วมมาตรการดังกล่าว ติดต่อได้ที่สาขาของธนาคารทั่วประเทศ ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2554

นายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารได้ออกประกาศเพิ่มมาตรการการผ่อนชำระหนี้สำหรับลูกค้ารายย่อยของธนาคาร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ลูกค้าสินเชื่อที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยลูกค้าบัตรเครดิต ธนาคารได้ผ่อนผันในการลดยอดขั้นต่ำที่ต้องชำระเหลือเพียง 0-10% และผ่อนผันการชำระดอกเบี้ย โดยลดอัตราดอกเบี้ยลงจากอัตราปกติ 50% จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2555 ทั้งนี้หากถึงกำหนดเวลาดังกล่าวลูกค้ายังคงประสบปัญหาธนาคารยินดีจะพิจารณาขยายระยะเวลาการคิดดอกเบี้ยในอัตราพิเศษนี้ออกไปอีก 6 เดือน หรือสิ้นเดือนธันวาคม 2555

สำหรับลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือสินเชื่อบ้านบัวหลวง ธนาคารพร้อมผ่อนผันให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ยเป็นระยะเวลาสูงสุด 12 เดือน หรือปรับลดยอดการผ่อนชำระรายเดือนลงสูงสุด 40% เป็นเวลา 1 ปี ซึ่งเป็นมาตรการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากที่เคยประกาศให้สินเชื่อเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยด้วยอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนพิเศษในปีแรก 5% และเป็นอัตราดอกเบี้ย MRR ในปีถัดไป โดยสามารถผ่อนชำระสินเชื่อที่กู้เพิ่มได้สูงสุด 5 ปี

พร้อมกันนี้ธนาคารได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมและค่าบริการโอนเงินข้ามเขต (Inter Region) ให้แก่ลูกค้าที่ประสงค์จะโอนเงินไปยังบัญชีของครอบครัวในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมตามประกาศทางราชการ โดยระบุความประสงค์ลงในแบบฟอร์มใบรับฝากเงิน (Pay-in Slip) และดำเนินการโอนผ่านหน้าเคาน์เตอร์สาขาเท่านั้น

ลูกค้าที่ได้รับความเดือดร้อนและมีความประสงค์ในการใช้มาตรการดังกล่าวสามารถติดต่อไปยังสาขาของธนาคารทั่วประเทศ โดยลูกค้าบัตรเครดิตสามารถติดต่อโดยตรงได้ที่สายบัตรเครดิต โทร.0-2638-4000 ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2554 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บัวหลวงโฟน โทร.1333

นายสุวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ธนาคารได้ออกสินเชื่อพิเศษที่เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการที่ธนาคารดำเนินการภายใต้โครงการ ‘สินเชื่อบัวหลวงเอสเอ็มอีบรรเทาทุกข์จากอุทกภัย’ สำหรับการฟื้นฟูธุรกิจหลังจากน้ำลดแล้ว โดยมี
วงเงินรวม 5,000 ล้านบาท ลูกค้าสามารถกู้ระยะสั้นไม่เกิน 1 ปี ระยะยาวไม่เกิน 5 ปี วงเงินกู้สูงสุดรายละ 20 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 ในปีแรก หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR สำหรับลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ ธนาคารจะให้ความช่วยเหลือโดยการพิจารณาปรับเงื่อนไขการผ่อนชำระ ลดอัตราดอกเบี้ย หรือปรับโครงสร้างหนี้เดิม ตลอดจนให้สินเชื่อฉุกเฉินเพื่อบรรเทาปัญหาสภาพคล่อง โดยลูกค้าสามารถติดต่อขอรายละเอียดและยื่นกู้ได้ที่สำนักธุรกิจที่ใช้บริการอยู่ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 30 ธันวาคม 2554 ทั้งนี้ธนาคารจะพิจารณาอนุมัติตามความเหมาะสมแล้วแต่กรณี

http://www.bangkokbank.com/Bangkok%20Bank%20Thai/About%20Bangkok%20Bank/About%20Us/Media%20Room/2011/October/Pages/PressRelease17Oct.aspx
..............................

ธนาคารกสิกรไทย

กสิกรไทยประเมินความเสียหายลูกค้าทุกกลุ่ม พร้อมปรับมาตรการช่วยเหลือรอบใหม่
   
      นายกฤษฎา ล่ำซำ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากการที่สถานการณ์น้ำท่วมได้ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ธนาคารจึงได้ดำเนินการประเมินความเสียหายของลูกค้าอันเนื่องมาจากอุทกภัยร้ายแรงครั้งนี้ และได้ปรับมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้าเพิ่มเติม โดยลูกค้ารายย่อยผู้ใช้บริการสินเชื่อบ้าน ธนาคารได้เพิ่มแนวทางความช่วยเหลือ โดยการปรับลดยอดผ่อนชำระรายเดือนสูงสุด 40% เป็นระยะเวลา 1 ปี หรือลูกค้าสามารถผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 6 เดือน นอกจากนี้ธนาคารจะมอบวงเงินสินเชื่อเพื่อซ่อมแซมบ้านได้สูงสุดเท่ากับยอดสินเชื่อบ้านที่ผ่อนชำระมาแล้ว โดยคิดดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน

      สำหรับผู้ถือบัตรเครดิตกสิกรไทยที่ประสบภัยจากน้ำท่วม และไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามระยะเวลาที่กำหนด จะได้รับการผ่อนผันให้ชำระดอกเบี้ย 50% และปรับลดยอดผ่อนชำระขั้นต่ำให้เป็น 0-10% และสำหรับผู้ใช้สินเชื่อเงินสดทันใจกสิกรไทยที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับการผ่อนผันให้ชำระดอกเบี้ย 50% และปรับลดยอดผ่อนชำระขั้นต่ำเป็น 0-5%

      สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์กสิกรไทย จะได้รับการปรับลดยอดผ่อนชำระรายเดือนสูงสุด 50% เป็นระยะเวลานานสูงสุด 1 ปี และขยายระยะเวลาการผ่อนสูงสุด 6 เดือน โดยรวมสัญญาเดิมแล้วไม่เกิน 7 ปี
         สำหรับลูกค้าธุรกิจธนาคารจะขยายระยะเวลาปลอดชำระเงินต้น ให้แก่ลูกค้าที่ใช้วงเงินสินเชื่อกับธนาคาร ฯ เป็นเวลา 6 เดือน และต่อเพิ่มได้อีก 6 เดือนหากสถานการณ์ยังไม่กลับสู่สภาพปกติ ส่วนลูกค้าที่ใช้วงเงินสินเชื่อเพื่อการนำเข้า (T/R) หรือวงเงินตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N) สามารถต่อตั๋วออกไปได้อีก 6 เดือน โดยไม่ต้องมีเอกสารการสั่งซื้อรองรับการต่ออายุตั๋วสัญญา นอกจากนี้ธนาคารยังพร้อมจะช่วยเหลือลูกค้าหลังภาวะน้ำท่วมด้วยการให้วงเงินกู้เพื่อฟื้นฟูกิจการ ซ่อมแซมสถานประกอบการ เครื่องจักร หรือเงินช่วยเหลือกรณีสินค้าเสียหาย ระยะเวลาผ่อนชำระ 3 ปี และมีระยะเวลาปลอดชำระเงินต้นนาน 6 เดือน

         นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการศูนย์ลูกค้าธุรกิจในพื้นที่ประสบภัยที่ปิดทำการ สามารถย้ายไปใช้บริการศูนย์ลูกค้าธุรกิจในพื้นที่ใกล้เคียงได้ทุกแห่ง แม้ว่าจะไม่ใช่ศูนย์ที่เคยใช้บริการประจำก็ตาม

         ขณะเดียวกัน ลูกค้าผู้ประกอบการที่ใช้บริการ Cash Management ของธนาคาร ฯ สามารถทำธุรกรรมได้อย่างต่อเนื่อง โดยธนาคาร ฯ ตั้งศูนย์บริการลูกค้าฉุกเฉิน (Client Service Support Center) เพื่อรองรับการแจ้งเหตุขัดข้องและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ นอกจากนี้ ในกรณีที่บริการชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็คทรอนิกส์ และบริการจ่ายเงินเดือนพนักงานบริษัทที่ไม่สามารถทำรายการผ่านช่องทางอิเล็คทรอนิกส์ได้ตามปกติ ธนาคารได้ประสานงานกับลูกค้า เพื่อการทำธุรกรรมดังกล่าว และสำหรับบริการธุรกรรมทางการเงินอื่น ๆ ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมได้ในจุดสำรองที่ธนาคาร ฯ จัดเตรียมไว้เพิ่มเติม และสามารถชำระเงินได้ที่สาขาของธนาคาร ฯ ที่เปิดทำการทุกสาขา
         นายกฤษฎา กล่าวว่า ธนาคาร ฯ มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และมีการดำเนินการเพื่อช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มอย่างเต็มที่ ผ่านมาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยบรรเทาความยากลำบากของลูกค้าในช่วงที่ประสบภัย และให้สามารถฟื้นฟูสภาพความเป็นอยู่และการดำเนินธุรกิจให้กลับสู่ภาวะปกติได้โดยเร็วที่สุด ลูกค้าบุคคลที่ได้รับผลกระทบ สามารถติดต่อสอบถามและขอรับมาตรการช่วยเหลือได้ที่ K-Contact Center 0 2888 8888 สำหรับลูกค้าธุรกิจ ติดต่อ K-BIZ Contact Center 0 2888 8822  

http://www.kasikornbank.com/TH/WhatHot/Pages/Kbank_SupportFloods2.aspx

---------------------------------

ธนาคารไทยพาณิชย์

ไทยพาณิชย์ประกาศช่วยเหลือลูกค้าผู้ประสบภัยน้ำท่วมเต็มที่ ปรับเพิ่มวงเงินรองรับเป็น 20,000 ล้านบาท เพิ่มมาตรการช่วยเหลือทันที “หยุดผ่อน ลดดอกเบี้ย เพิ่มวงเงิน”
             ธนาคารไทยพาณิชย์ออกมาตรการความช่วยเหลือแก่ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติน้ำท่วมเพิ่มเติมปรับเพิ่มวงเงิน
สินเชื่อเพื่อรองรับการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าผู้ประสบภัยน้ำท่วมเป็น  20,000 ล้านบาท จากเดิม 10,000 ล้านบาท และสำหรับลูกค้า SME/SSME และลูกค้ารายย่อย ธนาคารเตรียมความช่วยเหลือพิเศษในโปรแกรม “หยุดผ่อน ลดดอกเบี้ย เพิ่มวงเงิน” เริ่มต้นทันที เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของลูกค้า



              ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร กล่าวถึง มาตรการความช่วยเหลือพิเศษแก่ลูกค้าของ ธนาคารว่า  “จากปัญหาน้ำท่วมรุนแรงที่เกิดขึ้นซึ่งได้ก่อให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง ธนาคารตระหนักถึงความเสียหายและความเดือดร้อนอย่างมากของลูกค้าในทุกๆ กลุ่ม จึงได้ออกมาตรการความช่วยเหลือเป็นการพิเศษ อันเป็นการเพิ่มเติมจากความช่วยเหลือเร่งด่วนต่างๆ  ที่ออกมาก่อนหน้านี้ โดยมาตรการความช่วยเหลือครั้งนี้จะเริ่มต้นทันที  และที่สำคัญ ในการประชุมคณะกรรมการธนาคารในวันนี้ ได้มีการเห็นด้วยกับข้อเสนอของฝ่ายจัดการในการปรับเพิ่มวงเงินช่วยเหลือรอง รับจาก 10,000 ล้านบาทเป็น 20,000 ล้านบาท และพร้อมที่จะขยายวงเงินเพิ่มเติม เพื่อช่วยลูกค้าที่ประสบภัยอย่างเต็มที่  ทั้งนี้ ธนาคาร   หวังเป็นอย่างยิ่งว่าด้วยความช่วยเหลือของทุกภาคส่วนที่เกิดขึ้นจะทำให้ทุก คนทุกธุรกิจที่เดือดร้อนสามารถก้าวพ้นช่วงเวลาลำบากนี้ไปได้”

ทั้งนี้ มาตรการความช่วยเหลือเพิ่มเติม ประกอบด้วย 2 เรื่องหลัก คือ

การเพิ่มวงเงินสินเชื่อเพื่อรองรับการให้ความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ เป็น 20,000 ล้านบาท จากเดิม 10,000 ล้านบาท
มาตรการความช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้ารายย่อย และลูกค้าธุรกิจ SME/SSME ที่ได้รับความเสียหายมาก ภายใต้มาตรการ “หยุดผ่อน ลดดอกเบี้ย เพิ่มวงเงิน” ดังนี้

ลูกค้ารายย่อย

คุณสมบัติ: เป็นลูกค้าที่มีประวัติการชำระเงินที่ดี ได้รับผลกระทบโดยตรงจากน้ำท่วม
รายละเอียดมาตรการ :

สินเชื่อบ้าน
- พักชำระหนี้สูงสุด 6 เดือน และลดดอกเบี้ยสูงสุด 50%  เป็นเวลา 3 เดือน
- วงเงินเพิ่มสูงสุด 120% ของราคาประเมินเดิม ดอกเบี้ย 0% เป็นเวลา 3 เดือน
บัตรเครดิตและ Speedy Loan  
- พักชำระหนี้และลดดอกเบี้ยสูงสุด 50% เป็นเวลา 3 เดือน
สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์  
- พักชำระหนี้สูงสุดเป็นเวลา 3 เดือน


ลูกค้า SME/SSME
คุณสมบัติ : เป็นกิจการที่ได้รับผลกระทบและเกิดความเสียหายโดยตรงจากน้ำท่วม
รายละเอียดมาตรการ:
พักชำระหนี้และดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 6 เดือน (ต่อได้อีก 6 เดือน ถ้าจำเป็น)
ลดดอกเบี้ยสูงสุด 50% เป็นเวลา 3 เดือน
เพิ่มวงเงิน O/D เป็น 20%
กรณีลูกค้า SME สามารถกู้เงินเพื่อฟื้นฟู  ระยะเวลา3 ปี ดอกเบี้ยปีแรก 5% ปีที่เหลือ MLR -1%


   ทั้งนี้ ลูกค้า สามารถสอบถามข้อมูลในรายละเอียดได้ที่สาขาและศูนย์ธุรกิจของธนาคารทั่วประเทศ และที่ศูนย์บริการลูกค้า (Call Center) โทร 02-777-7777

http://www.scb.co.th/th/news/2011-10-18/nws_111018_flood

-----------------------

ธนาคารกรุงไทย

กรุงไทยเพิ่มมาตรการช่วยผู้ประสบภัย ดอกเบี้ย 0% 3 เดือน


กรุงไทยเพิ่มมาตรการช่วยผู้ประสบภัย ดอกเบี้ย 0% 3 เดือน
ธนาคารกรุงไทยเพิ่มมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย พักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยนาน 6 เดือน ส่วนลูกค้า SME และรายย่อยที่ไม่มีรายได้ ธนาคารคิดดอกเบี้ย 0% พร้อมพักชำระเงินต้นนาน 3 เดือน รวมทั้งได้ปรับ 7 มาตรการช่วยเหลือเดิม โดยขยายเวลาให้ดอกเบี้ยอัตราต่ำพิเศษเป็น 3 ปี และยืดระยะชำระหนี้เป็น 7 ปี
   นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า จากที่ได้เกิดเหตุอุทกภัยร้ายแรงในหลายพื้นที่ สร้างความเสียหายแก่ลูกค้าและประชาชนจำนวนมาก ซึ่งธนาคารกรุงไทยได้ออก 7 มาตรการ เพื่อเยียวยาและช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบภัยทั้งลูกค้าธุรกิจและลูกค้ารายย่อยในทันที อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์ยังมีความรุนแรง ธนาคารจึงเพิ่มมาตรการให้ความช่วยเหลือ พร้อมปรับ 7 มาตรการเดิม รวมทั้งขยายความช่วยเหลือไปยังลูกค้าของธนาคารที่คู่ค้าได้รับความเสียหาย
   “มาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมสำหรับลูกค้าสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อบุคคลนั้น ธนาคารพักชำระหนี้วงเงินกู้แบบมีระยะเวลาทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 6 เดือน หลังจากนั้น สามารถทยอยผ่อนชำระดอกเบี้ยที่พักแขวน สูงสุดภายใน 24 เดือน ส่วนลูกค้า SME และรายย่อยที่ไม่มีรายได้ สามารถเลือกพักชำระหนี้นาน 3 เดือน โดยธนาคารไม่คิดดอกเบี้ย ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจประเภทเงินทุนหมุนเวียนที่มีเอกสารประกอบ ทั้งที่เป็นเม็ดเงินและภาระผูกพัน ธนาคารจะพิจารณาต่อตั๋วออกไปอีก 6 เดือน โดยไม่ต้องมีเอกสารประกอบ”
   นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กล่าวต่อไปว่า ธนาคารยังได้ปรับมาตรการเงินกู้กรุงไทยสู้อุทกภัย สำหรับลูกค้าที่มีวงเงินสินเชื่อกับธนาคารและได้รับผลกระทบ โดยขยายระยะเวลาให้ดอกเบี้ยพิเศษในอัตรา MLR -1% ต่อปี จาก 1 ปี เป็น 3 ปี และขยายการผ่อนชำระจาก 5 ปี เป็น 7 ปี ส่วนมาตรการเงินทุนหมุนเวียนกรุงไทยสู้อุทกภัย ที่ลูกค้าต้องการเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติม ธนาคารได้ลดดอกเบี้ยในปีแรกลงเหลืออัตรา MOR-2.5% ต่อปี        
   นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ขยายการช่วยเหลือไปยังลูกค้าสินเชื่อของธนาคาร ซึ่งคู่ค้าที่มียอดค้าขายระหว่างกันไม่น้อยกว่า 50% ได้รับผลกระทบทางตรงจากอุทกภัย โดยสามารถขอรับความช่วยเหลือผ่าน 7 มาตรการข้างต้น จากเดิมที่ธนาคารให้ความช่วยเหลือเฉพาะลูกค้าที่ได้รับผลกระทบโดยตรงเท่านั้น

http://www.ktb.co.th/th/news_promotion/flood_help_taxzero.jsp

--------------------------------------
ธนาคารอาคารสงเคราะห์

ธอส. ออกมาตรการลดภาระหนี้ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ส่งทีมลงพื้นที่พร้อมมอบถุงยังชีพ เร่งสำรวจความเสียหาย ให้ความช่วยเหลือ
22 สิงหาคม 2554
ธอส. ออกมาตรการลดภาระหนี้ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
ส่งทีมลงพื้นที่พร้อมมอบถุงยังชีพ เร่งสำรวจความเสียหาย ให้ความช่วยเหลือ

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ จัดทำโครงการ เงินกู้เพื่อลดภาระหนี้ ปลูกสร้าง และซ่อมแซมที่อยู่อาศัยแก่ ผู้ประสบอุทกภัยปี 2554 โดยให้ “กู้ใหม่ กู้เพิ่ม ลดดอกเบี้ย ปลอดเงินงวด และปลดภาระหนี้” นอกจากนี้    ยังเตรียมงบประมาณในโครงการบ้าน ธอส.เพื่อมนุษยชาติ จำนวน 10 ล้านบาท สำหรับฟื้นฟูสภาพ    ที่อยู่อาศัย พร้อมส่งทีมสาขาลงพื้นที่มอบถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประสบอุทกภัยทุกพื้นที่อีกจำนวน 2,000 ชุด สำรวจความเสียหาย สร้าง – ซ่อมแซมบ้านทันที!!! หลังน้ำลดลงสู่ภาวะปกติ

นายวรวิทย์  ชัยลิมปมนตรี กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดในปัจจุบัน ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบด้านที่อยู่อาศัยทั้งทางตรงและทางอ้อม ธอส. จึงได้ออกมาตรการช่วยเหลือด้านสินเชื่อเพื่อลดภาระหนี้ที่อยู่อาศัย ตาม “โครงการเงินกู้เพื่อลดภาระหนี้ ปลูกสร้าง และซ่อมแซมที่อยู่อาศัยแก่ผู้ประสบอุทกภัยปี 2554” โดยธนาคารจะพิจารณาตามระดับความเสียหาย ดังนี้  
มาตรการที่ 1 สำหรับลูกค้าเดิมของธนาคาร กรณีหลักประกันได้รับความเสียหาย ธนาคารจะยกเว้นการผ่อนชำระเงินงวดค่าบ้านเป็นระยะเวลา 4 เดือน และลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนที่ 1 – 4 = 0% ต่อปี หลังจากนั้นมีอัตรา   ดอกเบี้ยให้เลือก 2 แบบ คือ แบบที่ 1 เดือนที่ 5 – 24 อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR-2% ต่อปี เดือนที่ 25 – 36 อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR-1% ต่อปี หลังจากนั้นเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัวตามประกาศธนาคาร แบบที่ 2 เดือนที่ 5-16 อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ 1% ต่อปี หลังจากนั้นเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัวตามประกาศธนาคาร      
มาตรการที่ 2 กรณีลูกค้าเดิมได้รับผลกระทบด้านรายได้ จะลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 1% ต่อปี เป็นระยะเวลา    1 ปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัวตามประกาศของธนาคาร
มาตรการที่ 3 กรณีลูกค้าเดิมได้รับอุบัติเหตุจากเหตุการณ์น้ำท่วมจนทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง หรือเสียชีวิต ธนาคารจะลดดอกเบี้ยให้เหลือ 0.01% ต่อปี ตลอดระยะเวลากู้ที่เหลืออยู่  
มาตรการที่ 4 กรณีลูกค้าเดิมที่อาคารที่อยู่อาศัยพังเสียหายทั้งหลังจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ จะได้รับการปลดภาระหนี้ตามยอดหนี้คงเหลือในส่วนของอาคาร โดยผู้กู้ผ่อนชำระหนี้ในส่วนของที่ดินที่คงเหลือ    
มาตรการที่ 5 สำหรับลูกค้าเดิมของ ธอส. และลูกค้าใหม่ ที่อาคารได้รับความเสียหายสามารถขอกู้เพื่อปลูกสร้างอาคารทดแทนอาคารเดิม และซ่อมแซมอาคารที่ได้รับความเสียหาย ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2% ต่อปี เป็นระยะเวลา 5 ปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัวตามประกาศของธนาคาร
ประชาชนที่ได้รับผลกระทบสามารถยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่บัดนี้ ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2554  และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 มีนาคม 2555 โดย ธอส. จะยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ทุกวงเงินกู้ และค่าธรรมเนียม ค่าเบี้ยปรับในรายการที่เกี่ยวข้องทุกกรณี ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์. โทร 0-2645-9000 หรือ http://www.ghbank.co.th/

นายวรวิทย์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากมาตรการช่วยเหลือด้านสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแล้ว ธนาคารยังมีแผนฟื้นฟูสภาพที่อยู่อาศัยหลังน้ำลดอีกด้วย โดยเตรียมงบประมาณไว้จำนวน 10 ล้านบาท จาก “โครงการบ้าน ธอส.เพื่อมนุษยชาติ” สำหรับช่วยเหลือสร้าง - ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ให้กับพี่น้องประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในปีนี้รวมถึงผู้พิการและผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้อีกด้วย  ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือแบบให้เปล่า โดยธนาคารจะพิจารณาคัดเลือกคุณสมบัติผู้ที่จะได้รับการช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์เดียวกับเหตุการณ์อุทกภัยใน 7 จังหวัดที่ผ่านมา ซึ่ง ธอส.ได้ช่วยเหลือสร้าง-ซ่อมบ้านไปแล้วจำนวนทั้งสิ้น 764 ครัวเรือน ซึ่งเป็นภารกิจหลักของธนาคารในการสนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองตามอัตภาพและยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ CSR (Corporate Social Responsibility) ด้านที่อยู่อาศัยของธนาคารอีกด้วย

http://www.ghb.co.th/th/news_detail.php?cms_id=281&MenuT=19&cid_id=43&parent=news.php

--------------------------------------------------------
ธนาคาร ทีเอ็มบี

ทีเอ็มบี เพิ่มเติมมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้าบุคคลและธุรกิจที่ประสบภัยน้ำท่วม
17 ตุลาคม 2554
กรุงเทพฯ, 17 ตุลาคม 2554: นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบี หรือธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารตระหนักถึงความสำคัญในการมีบทบาทในการให้ความช่วยเหลือทั้งประชาชนทั่วไปและผู้ประกอบธุรกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่อยู่ในขณะนี้ จึงได้พิจารณามาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจที่กำลังได้รับความเดือดร้อน เพื่อบรรเทาทุกข์และเพื่อให้สามารถกลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

สำหรับลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ ธนาคารจะพิจารณาเป็นรายๆ ไปตามความเหมาะสม โดยมีมาตรการที่จะสนับสนุนเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำไปซ่อมแซมอาคาร โรงงาน และเครื่องจักร ทั้งนี้ สินเชื่อดังกล่าว จะเป็นสินเชื่อระยะยาวตามความเหมาะสมซึ่งส่วนใหญ่มีระยะเวลาประมาณ 5 ปี และมีระยะเวลาปลอดการชำระเงินต้นไม่น้อยกว่า 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับความเสียหายและระยะเวลาที่ต้องใช้ในการฟื้นฟู นอกจากนี้ ธนาคารจะขยายระยะเวลาในการผ่อนชำระคืนเงินทุนหมุนเวียนอีกสูงสุดเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งมาตรการทั้งหมดนึ้ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถมีเงินทุนที่เพียงพอ และใช้เวลาและทรัพยากรไปกับการฟื้นฟูกิจการได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องพะวงถึงการชำระคืนเงินกู้ในขณะที่ยังอยู่ในช่วงของการซ่อมแซมปรับปรุงกิจการ

สำหรับลูกค้าเอสเอ็มอี สามารถผ่อนผันด้านการพักชำระเงินต้น และยืดอายุหนี้ออกไปเป็นระยะเวลา 6-12 เดือน และธนาคารจะพิจารณาให้ความสินเชื่อเพิ่มเติมแก่ลูกค้าที่มีความจำเป็น เพื่อใช้ในการปรับสภาพสถานประกอบการ หรือ ใช้เป็นวงเงินหมุนเวียนในธุรกิจเพิ่มเติม โดยวงเงินกู้ใหม่นี้ จะมีระยะเวลาผ่อนชำระคืนประมาณ 7 ปี และ ระยะเวลาปลอดการชำระคืนเงินต้นสูงถึง 6 เดือน ทั้งนี้ ลูกค้าเอสเอ็มอีขนาดเล็กที่ขอวงเงินกู้เพิ่มไม่เกิน 20% ของวงเงินเดิมไม่ต้องนำหลักทรัพย์มาค้ำประกันเพิ่ม

สำหรับลูกค้าบุคคลนั้น มาตรการความช่วยเหลือของทีเอ็มบีประกอบด้วย การอนุมัติสินเชื่อบุคคลเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ และการผ่อนผันเกณฑ์การชำระเงินสำหรับลูกค้าที่ค้างชำระหนี้เนื่องจากได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม

ลูกค้าสินเชื่อบุคคลทีเอ็มบีแคชทูโก ที่มีความจำเป็นและต้องการสินเชื่อเพิ่มเติม ธนาคารจะพิจารณาให้กู้โดยให้วงเงินสินเชื่อเท่ากับวงเงินสินเชื่อเดิมที่มีอยู่กับธนาคาร และเพิ่มโบนัสพิเศษ ให้อีก 10% ของวงเงินสินเชื่อ ในวงเงินกู้ตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 1,000,000 บาท สูงสุด 5 เท่าของรายได้ ทั้งนี้ เมื่ออนุมัติสินเชื่อแล้ว ธนาคารจะดำเนินการหักกลบลบหนี้สินเชื่อทีเอ็มบีแคชทูโก ที่มีอยู่เดิม และจะโอนเงินส่วนที่คงเหลือให้ลูกค้าต่อไป โดยลูกค้ายังไม่ต้องชำระค่างวดในช่วง 3 เดือนแรกนับจากวันอนุมัติ แต่จะเริ่มผ่อนชำระค่างวดตั้งแต่ เดือนที่ 4 เป็นต้นไป และนอกจากนี้ ธนาคารยังขยายระยะเวลาการผ่อนชำระค่างวดออกไปให้อีก 3 เดือน

ลูกค้าบุคคลที่ใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของธนาคารอยู่แล้ว สามารถติดต่อขออนุมัติสินเชื่อทีเอ็มบีแคชทูโก เป็นกรณีพิเศษ ในวงเงิน ตั้งแต่ 20,000 -1,000,000 บาท สูงสุด 5 เท่าของรายได้ ลูกค้าไม่ต้องผ่อนชำระค่างวดคืนธนาคารใน 3 เดือนแรกนับจากวันอนุมัติ แต่จะเริ่มผ่อนชำระงวดแรกตั้งแต่ เดือนที่ 4 เป็นต้นไป นอกจากนี้ ธนาคารยังขยายระยะเวลาการผ่อนชำระให้เพิ่มอีก 3 เดือน

ลูกค้าบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและมีค่างวดค้างชำระตั้งแต่ 1-30 วัน หากเป็นลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สามารถขอชำระเฉพาะดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นโดยยังไม่ต้องชำระเงินต้นเป็นเวลา 6 เดือน และขยายระยะเวลาผ่อนชำระจากปัจจุบัน ออกไปอีก 6 เดือน ส่วนลูกค้าสินเชื่อทีเอ็มบีแคชทูโก จะสามารถชำระเฉพาะดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นเป็นเวลา 3 เดือน และ ขยายระยะเวลาผ่อนชำระออกไปอีก 3 เดือน และสำหรับลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิตทีเอ็มบี สามารถติดต่อขอชำระเงินเป็นรายเดือน เดือนละเท่าๆกัน เป็นเวลา 3 เดือน โดยขั้นต่ำชำระไม่น้อยกว่าจำนวนดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือน ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าที่มีการค้างชำระตั้งแต่ 31 วัน ขึ้นไป ธนาคารจะพิจารณาอนุมัติเป็นกรณีๆ ไป และ ธนาคารจะยกเว้นค่าธรรมเนียมทุกประเภทเพื่อช่วยเหลือลูกค้าบุคคลที่ได้รับผลกระทบ เช่น ค่าธรรมเนียมกรณีผิดนัดชำระหนี้ รวมทั้งจะอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าด้วยการยกเว้นการลงนามในเอกสารด้านนิติกรรมของผู้กู้ร่วมและผู้ค้ำประกัน ในกรณีสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย

ลูกค้าทีเอ็มบีที่ประสงค์จะขอรับความช่วยเหลือและบริการสินเชื่อกรณีประสบภัยน้ำท่วมดังกล่าวข้างต้น โปรดติดต่อขอใช้บริการได้ที่สาขาของธนาคาร ศูนย์ธุรกิจ หรือ เจ้าหน้าที่ดูแลความสัมพันธ์ลูกค้า หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ทีเอ็มบี โฟนแบงกิ้ง โทร. 1558 ทั้งนี้ การอนุมัติสินเชื่อ เป็นไปตามเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารกำหนด

http://www.tmbbank.com/newsroom/news-details.php?id=273

--------------------------


ธนาคารซีไอเอ็มบี
ธนาคารกรุงศรี
ธนาคารยูโอบี
ธนาคารธนชาต
... ยังไม่เห็นประกาศ หรือว่าผมหาไม่เจอ ใครทราบช่วยบอกต่อด้วยครับ

จากคุณ : lucky-top
เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 54 22:45:31




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com