|
10 โมงเช้าวันอาทิตย์เป็นกิจวัตรประจำวันที่ผมต้องปั่นจักรยานไปเซเว่นหน้าหมู่บ้านหาซื้อเสบียงมารองท้องให้ตัวเองและครอบครัวก่อนที่จะคิดทำภาระกิจอื่นๆต่อไปนั้น...ขณะขี่จักรยานใกล้จะถึงปากทางหมู่บ้านย่านวงศ์สว่าง ก็ได้พบเห็นชายหนุ่มในวัยฉกรรจ์ผิวคล้ำรูปร่างสันทัดอายุอานามน่าจะประมาณ 30 ปีเห็นจะได้ กำลังนั่งสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อหนึ่งซึ่งโฆษณาว่าผสมวิตามินบี 12 บำรุงสมองบำรุงประสาท ชายผู้นั้นผมไม่เคยเห็นหน้าค่าตาในโครงการมาก่อน การแต่งกายค่อนข้างสกปรกซอมซ่อ เหลือบมองไปที่คอเห็นพระเครื่องพวงใหญ่มีพระหลายองค์และในมือกำลังถือพระเครื่องหนึ่งองค์พลิกไปมาพิจารณาอยู่แบบไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
สมองผมประมวลผลอย่างฉับไวว่าจากเหตุการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในช่วงระยะนี้ ชายคนดังกล่าวเป็นไปได้ว่าอาจเป็นชายแปลกหน้าที่ลักลอบเข้ามาในโครงการและกดกริ่งเพื่อเสนอขายพระเครื่องบังหน้าและมีจุดประสงค์ที่จะดูลาดเลาเพื่อลักทรัพย์ในโครงการ ผมเหลือบมองไปรอบข้างมีแต่ผมและชายแปลกหน้า เนื่องจากว่าจุดที่ชายคนนั้นนั่งอยู่ในช่วงโค้งซึ่งเป็นจุดอับสายตาที่ รปภ.หมู่บ้านไม่สามารถมองเห็นเป็นเส้นตรงจากป้อมยามได้ ผมค่อนข้างมั่นใจเลยทีเดียวว่าชายแปลกหน้าต้องมีเจตนาไม่บริสุทธิ์แน่นอน ผมตัดสินใจในไม่กี่วินาทีว่าต้องเข้าชาร์ทชายคนดังกล่าวให้ได้ว่ามาดีหรือมาร้ายอย่างไร ถ้าไม่ได้รับคำตอบที่น่าพอใจแล้วนั้น คงต้องตะโกนเรียก รปภ.หมู่บ้านซึ่งอยู่ห่างไปแค่ประมาณ 100 เมตรเศษๆมาช่วยกันรวบส่งตำรวจเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไป และเป็นการป้องปรามให้เห็นเป็นรูปธรรมว่าหมู่บ้านเราไม่ใช่จะมาเข้าออกดูลาดเลากันได้ง่ายๆ
ผมก้าวลงจากจักรยานปรี่เข้าไปประชิดตัวชายคนนั้นในระยะห่าง 2 ก้าว พร้อมกับยิงคำถามไปว่า.....เฮ้ย...ไอ้น้องมานั่งทำอะไรตรงนี้มาหาใครเหรอ...ผมทำสีหน้าเคร่งขรึมอย่างเอาจริง...ชายแปลกหน้าลุกพรวดขึ้นยืนมองหน้าผมด้วยสีหน้าค่อนข้างตระหนกตกใจแล้วตอบด้วยสำเนียงเหน่อๆคาดว่าจะเป็นเหน่อปทุมธานีหรืออยุธยา เพราะถ้าเป็นเหน่อสุพรรณฯผมจะคุ้นเคยสำเนียงจากคุณสันติสุขจากภาพยนต์เรื่องบุญชูเนื่องจากดูมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยนั่นเอง...ชายแปลกหน้าตอบผมด้วยเสียงค่อนข้างดังว่า.....ผ่มมาตีขิม.....ชะชะช้า...ผมนึกในใจ...ไอ้นี่โกหกหน้าด้านๆจะมาดูลาดเลาพอโดนซักเข้าหน่อยแก้ตัวน้ำขุ่นๆในโครงการนี้มีใครตีขิมที่ไหนวะ...ผมอยู่มาปีกว่าไม่เคยมีบ้านไหนตีขิมและไม่มีบ้านไหนเป็นอาจารย์สอนอุปรากรณ์จีนด้วย....ผมถอยห่างออกจากชายแปลกหน้าอีกหนึ่งก้าว...กะว่าจะขอถีบจั๋งๆซักทีพร้อมกับร้องตะโกนเรียกหัวหน้า รปภ.กะนั้นมารวบส่งตำรวจให้เข็ดหลาบ
ผมถามอีกครั้งอย่างคาดคั้นเสียงแข็งเพราะในใจกะว่าวันนี้ได้ออกแรงแน่ๆพร้อมกับชำเลืองมองระยะห่างจากป้อม รปภ.อีกครั้งว่าถ้าผมโดนสวนผมจะได้แหกปากร้องให้ รปภ.ช่วยได้ทันท่วงที....ว่ายังไงนะไอ้น้อง...ตอบชัดๆอีกทีซิ...ผมนึกต่อไปอีกว่าถ้าไม่ได้คำตอบที่ดีกว่าเมื่อกี๊ผมต้องทำตามแผนที่คิดไว้ทันที....ชายแปลกหน้าเสียงเหน่อคนดังกล่าวตอบมาอย่างค่อนข้างปากคอสั่นและน้ำเสียงอันดังจนเกือบจะตะโกนว่า...!!!...ผ่มมาตีขิมอยู่ที่บ้านซอย 4 เข่าจ้างมาตีขิมทำหลั่งคาจอดรถหน้าบ้าน...ลงไปหล่ายหลุมแล้วเหนื่อยเลยแวะมาหาซื้อน้ำกินน่อย...
ผมกลืนน้ำลายเอื๊อกติดๆกันหลายครั้ง....บอกกับชายผู้นั้นไปว่าอ๋อ...ไม่เป็นไรน้องเป็นช่างตีเข็มต่อเติมอาคารล่ะสิ...พี่ก็ต้องถามละเอียดหน่อยเพราะตอนนี้มีคนแปลกหน้าเข้ามาในโครงการหลายครั้ง ถ้ารู้ที่มาที่ไปว่ามาทำอะไรบ้านไหนก็ไม่มีปัญหาอะไร...พักหายเหนื่อยแล้วก็ไปตีเข็มต่อล่ะเดี๋ยวงานจะไม่เสร็จ ตามสบายเลยนะน้องชาย...ผมอธิบายให้ฟังด้วยเสียงอันอ่อนหวาน...พร้อมกับรีบขึ้นรถจักรยานไปหน้าเซเว่นอย่างนึกขำและเหนียมอายอยู่ในใจ...
นี่เป็นเหตุการณ์หนึ่งซึ่งยกมาเป็นตัวอย่างให้เพื่อนสมาชิกฟังว่า...สถานะการณ์ในช่วงชุลมุลวุ่นวายจากอุทกภัยในครั้งนี้นั้นอาจมีคนแปลกหน้าที่แปลกปลอมเข้ามาซ้ำเติมสถานะการณ์ในโครงการหมู่บ้านของท่านได้ทุกเมื่อ ถ้าเขาไม่ใช่มิจฉาชีพก็จะสามารถตอบท่านเจ้าของบ้านได้อย่างไร้ปัญหา แต่ถ้าเป็นมิจฉาชีพแอบแฝงเข้ามาก็จะไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่ามีธุระเข้าออกในโครงการได้อย่างไร อันจะได้ดำเนินการตามกฏหมายกับผู้บุกรุกต่อไป...และสุดท้ายขอท่านเจ้าของบ้านอย่าลืมแคะหูด้วยคัตตั้นบัดทุกสัปดาห์เอย....
สวัสดี....
แก้ไขเมื่อ 21 พ.ย. 54 12:28:04
| จากคุณ |
:
ลุงกร 
|
| เขียนเมื่อ |
:
21 พ.ย. 54 11:38:54
|
|
|
| 
+++ระวังคนแปลกหน้า+++
