น้ำหมักชีวภาพ พด ๖ กับลูกบอลอีเอ็ม ความเหมือนที่แตกต่าง
|
|
จากกรณีที่มีหลายหน่วยงาน ได้ออกมาสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือ ในการฟื้นฟูบำบัดน้ำเน่าเสีย ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม ด้วยผลิตภัณฑ์ ต่าง ๆ ที่มีชื่อเรียกแตกต่างกันไป ตามแต่ละหน่วยงานที่ทำขึ้นมา แต่ประชาชนส่วนใหญ่ ยังคงเข้าใจและเรียกรวม ผลิตภัณฑ์ที่บำบัดน้ำเสียว่า อีเอ็มหรือลูกบอลอีเอ็ม
ก่อนอื่น ต้องทำความเข้าใจก่อน ว่า จุลินทรีย์ คือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ ส่องดู หรือเห็นเมื่อเกิดการเกาะกลุ่มกัน จุลินทรีย์ ประกอบด้วย แบคทีเรีย เชื้อรา ไวรัส และยีสต์ ซึ่งมีอยู่ตามธรรมชาติ และเป็นจุลินทรีย์ ที่มีประโยชน์และโทษ สำหรับอีเอ็ม ( EM ) ที่ใช้กันมากทางเกษตรกรรม ย่อมาจากคำว่า Effective Microorganism แปลว่า จุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่ง จริง ๆ แล้ว ก็เป็นหลักการเดียวกัน ที่นำจุลินทรีย์มาใช้ประโยชน์ ในด้าน ต่าง ๆ ขณะนี้ เกิดปัญหาน้ำท่วมขัง เกิดการเน่าเสีย และมีกลิ่นเหม็น จึงได้มีการคัดเลือกจุลินทรีย์กลุ่มหนึ่ง มาใช้ประโยชน์ แต่มีการเรียกชื่อผลิตภัณฑ์ ของแต่ละหน่วยงาน ตลอดจนการผลิตขาย โดยเอกชน ในชื่อที่แตกต่างกัน รวมถึงลักษณะของผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่างกัน เช่น เป็นของเหลว เป็นลูกบอล หรือเป็นผง
ในส่วนของกรมพัฒนาที่ดิน ได้เรียกว่า น้ำหมักชีวภาพ พด. ๖ โดยผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการ ที่มีความรู้ด้านนี้ โดยเฉพาะ ได้คัดเลือกเชื้อจุลินทรีย์ ที่มีประสิทธิภาพ ในการบำบัดน้ำเสียและขจัดกลิ่นเหม็น พัฒนาเป็นสารเร่ง พด. ๖ ซึ่งเป็นกลุ่มจุลินทรีย์ ที่ประกอบด้วย ยีสต์ ทำหน้าที่ผลิตแอลกอฮอล์ ช่วยรักษาความสะอาด แบคทีเรียย่อยโปรตีน และแบคทีเรียย่อยไขมัน ช่วยย่อยสลายซากสัตว์และไขมัน ได้เร็วขึ้น ไม่ให้เกิดการหมักหมม จนเกิดการเน่าเสียและมีกลิ่นเหม็น รวมทั้งแบคทีเรีย ที่ยับยั้งการเจริญเติบโต ของจุลินทรีย์ตัวร้าย ที่ทำให้เกิดน้ำเน่าเหม็น แล้วนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์พร้อมใช้ ในรูปของเหลวสีน้ำตาล เรียกว่า น้ำหมักชีวภาพ พด. ๖ ซึ่งกรมพัฒนาที่ดิน ได้พัฒนาและนำมาใช้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๗ แล้ว รวมทั้ง ได้มีการศึกษา วิจัย ทดสอบ ถึงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ จนเป็นที่มั่นใจได้ ในประโยชน์ของน้ำหมักชีวภาพ พด. ๖ ดังกล่าว รวมทั้งได้มีการนำไปใช้ ในเหตุการณ์สำคัญ ต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์คลื่นยักษ์ ที่เกิดขึ้นทางภาคใต้ของไทย และเหตุการณ์พายุนากิส ถล่มพม่า
นายธวัชชัย สำโรงวัฒนา อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า สำหรับการผลิตน้ำหมักชีวภาพ พด. ๖ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่มีปัญหาน้ำท่วมขัง เกิดการเน่าเสีย มีกลิ่นเหม็น ในครั้งนี้ ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า กระบวนการผลิตและคุณภาพน้ำหมัก จะได้รับการควบคุมและตรวจสอบ จากผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ ที่มีมาตรฐาน ตามที่กำหนด ประกอบกับ ได้มีการนำไปใช้ในพื้นที่ ต่าง ๆ ได้ผลเป็นที่ยอมรับและมีเสียงยืนยัน ตอบรับที่ดี ดังนั้น จึงยืนยันได้ว่า น้ำหมักชีวภาพ พด. ๖ ที่กรมพัฒนาที่ดิน ผลิตขึ้นนั้น สามารถนำไปใช้ ในการบำบัดน้ำเน่าเสีย ในชุมชนได้จริง และไม่กระทบต่อสุขภาพของผู้ใช้ ตลอดจนไม่ส่งผลทำให้น้ำเน่าเสีย มากกว่าเดิม อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม การนำน้ำหมักชีวภาพ พด. ๖ ไปใช้งาน ถ้าต้องการใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ต้องใช้ในบริเวณน้ำนิ่ง และใช้ในปริมาณที่เหมาะสม คือ น้ำหมักชีวภาพ ๕๐ ลิตร ต่อพื้นที่ ๒๕๐ ตารางวา ที่ระดับน้ำลึกไม่เกิน ๕๐ เซ็นติเมตร ซึ่งถ้าพื้นที่ใด มีน้ำระดับสูงกว่านี้ ก็ให้เพิ่มสัดส่วนน้ำหมักชีวภาพ พด. ๖ ขึ้นไปอีก และถ้ากลิ่นยังไม่หาย สามารถใส่ซ้ำได้อีก ในอัตราส่วนเดิม เช่น พื้นที่ ๑ ไร่ ระดับน้ำสูง ๕๐ เซ็นติเมตร ใช้น้ำหมัก ๘๐ ลิตร พื้นที่ ๑๐๐ ตารางวา ระดับน้ำสูง ๕๐ เซ็นติเมตร ใช้น้ำหมัก ๒๐ ลิตร พื้นที่ ๑๐๐ ตารางเมตร ระดับน้ำสูง ๕๐ เซ็นติเมตร ใช้น้ำหมัก ๕ ลิตร โดยเทในน้ำเสีย ทุก ๆ ๓ - ๗ วัน จนกว่าน้ำจะใสและกลิ่นลดลง
เกษตรกรหรือประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อน จากปัญหาน้ำเน่าเสีย สามารถแจ้ง ขอรับการช่วยเหลือ ได้ที่ กรมพัฒนาที่ดิน ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กท. ๑๐๙๐๐ โทร. สายด่วน ๑๗๖๐ กด ๗ ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ หรือที่สถานีพัฒนาที่ดินจังหวัด ทั่วประเทศ
คัดลอกจาก นสพ. เดลินิวส์ ฉบับวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ หน้า ๒๔
จากคุณ |
:
thitiwat
|
เขียนเมื่อ |
:
30 พ.ย. 54 19:25:23
|
|
|
|