ความคิดเห็นที่ 1 วันที่ 1 พ.ย. ดิฉันเดินทางกลับมากรุงเทพและทำงานตามปกติ  ระหว่างนั้น ก็รอทางคุณ ป.เธอจะติดต่อกลับมาหรือ คุณ ป.เธอจะแจ้งความคืบหน้าอะไรก็ตามแต่   สัปดาห์แรกถึงสัปดาห์ที่สอง ของเดือน พ.ย. เงียบ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น  แต่ดิฉันก็โอเค พอเข้าใจค่ะ แต่ก็โทรหาคุณ ป.ในวัน 2-3 วันถัดมา นั่นคือ เข้าต้นสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน พ.ย. เธอคุยดีค่ะ  เธอแจ้งว่า ธ.กสิกรที่แจ้งวัฒนะ มีเจ้าหน้าที่มาทำงานน้อยเนื่องจากน้ำท่วม  จึงทำให้งานล่าช้าไปบ้าง  ให้รอก่อน  โอเคค่ะ ดิฉันเข้าใจ .... ซึ่งทางเจ้าของโครงการเองก็ติดตามกับเธอซึ่งได้รับคำตอบเดียวกันค่ะ  เพราะดิฉันก็พยายาม update ทุกอย่างให้เจ้าของโครงการฟังเหมือนกัน ผ่านเข้าสัปดาห์ที่ 4 ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า แต่ที่ทำให้กังวลใจคือ  ดิฉันติดต่อเธอผ่านมือถือ  เธอไม่เคยรับโทรศัพท์และไม่เคยโทรกลับเลย  (ต่างจากครั้งแรก ๆ ตั้งแต่ยื่นเอกสาร)  ไม่ว่าดิฉันจะใช้เบอร์ตัวเองหรือเบอร์ของสามีโทรเข้าเธอไม่เคยรับโทรศัพท์  หรือแม้แต่เบอร์เจ้าของโครงการเอง เธอก็ไม่เคยรับโทรศัพท์และไม่โทรกลับเช่นเดียวกัน   เพียงแต่ทั้งดิฉันและเจ้าของโครงการต้องการทราบความคืบหน้าเท่านั้นเอง ว่าขั้นตอนอยู่ที่ใด เพราะปกติ การ pre approve หรือ approve สินเชื่อ เต็มที่ไม่น่าจะเกินหนึ่งเดือน สรุปว่าตอนนี้เข้ามาประมาณเดือนแล้ว แต่ยังไม่ทราบแม้แต่ ผลของ pre approve ที่ปกติใช้เวลาสักประมาณสัปดาห์หรือไม่เกินสองสัปดาห์ จากคุณ : Jo_Smart เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 17:13:02

ความคิดเห็นที่ 2 เช้าวันจันทร์ที่ 28พ.ย. 54 ทางดิฉันจึงโทรเข้าที่สำนักงานสาขาหัวทะเล  (เพราะเธอไม่ยอมรับเบอร์มือถือเลย) เพื่อที่จะคุยกับหัวหน้าฝ่ายสินเชื่อเพื่อติดตามเรื่อง  .... เจ้าหน้าที่ที่รับโทรศัพท์แจ้งว่า คุณ ป. เธอไม่ได้สังกัดสาขาหัวทะเล  และในขณะนี้เธอย้ายไปอยู่สาขาพิมาย จ.นครราชสีมา  ให้ตามเธอได้ที่สาขาพิมาย  และ จนท.ก็ให้เบอร์ติดต่อมา  ดิฉันจึงโทรตามไปที่สาขาพิมาย  เจ้าหน้าที่ ที่สาขาพิมายรับโทรศัพท์ และแจ้งว่า  คุณ ป. เธอไม่ได้อยู่สาขาพิมายแล้ว  แต่เธอย้ายกลับสาขาหัวทะเล ....????     ดิฉันจึงแจ้งว่า  เมื่อสักครู่ ที่สาขาหัวทะเลตอบดิฉันว่า คุณ ป. ย้ายมาทีสาขาพิมาย  และอยู่ที่พิมายค่ะ  เจ้าหน้าที่ที่รับโทรศัพท์บอกว่า แต่ในวันนี้ มีหนังสืออนุมัติย้ายแล้วว่าเธอต้องไปอยู่สาขาหัวทะเล  ในขณะนี้สัปดาห์นี้ เธอลางานค่ะ...ดิฉันจึงสอบถาม จนท.ไปว่า  ถ้าอย่างนั้นสาขาไหนจะตอบดิฉันได้ว่า เรื่องราวการขอสินเชื่อของดิฉันอยู่ในขั้นตอนใด ใครจะเช็คให้ได้บ้าง  เพราะถ้าอยู่ที่สาขาแจ้งวัฒนะ(หรือขั้นตอนไหนก็ตามแต่ ดิฉันจะได้ไปตามเรื่องกับเจ้าหน้าที่เพื่อประมาณเวลาหรือประมาณขั้นตอนว่าน่าจะเสร็จสักเมื่อไหร่)   ทาง จนท.สาขาพิมายตอบว่า  ต้องตามเรื่องได้ที่คุณ ป.คนเดียว เพราะเอกสารทุกอย่างคุณ ป.เป็นคนดูแล  ดิฉันจึงแจ้งว่า ดิฉันกู้เงินกับ ธ.กสิกรไทย ไม่ได้กู้เงินกับ คุณ ป.  กรณีทีคุณ ป.จะโยกย้าย หรือไปอยู่สาขาไหน  ก็ควรมีเจ้าหน้าที่ดูแลและรับเรื่องต่อได้  ซึ่งมั่นใจว่าต้องเป็นสาขาหัวทะเล เพราะดิฉันยื่นกู้ที่นั่น  แต่ที่นั่นก็ปฏิเสธและให้เบอร์โทรสาขาพิมายมา  พอตามเรื่องที่พิมาย พิมายบอกให้กลับสาขาหัวทะเล  แต่เมื่อสาขาพิมายตอบแบบนี้ทำให้ดิฉันติดต่อกลับเข้ามาที่สาขาหัวทะเล อีกครั้งและขอคุยกับผู้จัดการสาขาหัวทะเลถึงปัญหาที่เกิดขึ้น  ....   จึงมีคุณ ว.  ตำแหน่ง รองผู้จัดการของสาขาหัวทะเล มารับสาย  และดิฉันได้แจ้งเรื่องราวทั้งหมดให้  ทั้งนี้คุณ ว. รับเรื่องเอาไว้ให้ แต่เธอแจ้งว่าอยากให้ดิฉันตามเรื่องโดยตรงกับหัวหน้าของคุณ ป.เองมากกว่าเพราะดูแลด้านสินเชื่อโดยตรงจะได้ทราบว่าขั้นตอน ณ ขณะนี้อยู่ที่ไหน  คุณคนนั้นชื่อคุณ ส.   และคุณ ว. ก็โอนสายให้คุณ ส. จากคุณ : Jo_Smart เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 17:28:12

ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อคุยกับคุณ ส. เสือ    คุณ ส.เสือ รับทราบเรื่องราวขั้นตอนการล่าช้าและรับปากจะติดตามงานให้ว่าอยู่ขั้นตอนใดและขอโทรกลับ  แต่ ก็เงียบ ไม่ติดต่อกลับใด ๆ ทั้งสิ้น  ช่วงบ่ายแก่ ๆ ดิฉันจึงติดต่อคุณ ว.อีกครั้ง  คุณ ว. จึงอธิบายให้ฟังชัดเจนยิ่งขึ้นว่า เธอติดต่อคุณ ป.ได้แล้ว   ตั้งแต่แรกเริ่มเดิมที คุณ ป. เธอคือพนักงานสาขาจอหอ จ.นครราชสีมา  แต่สาขาจอหอปิดตัวลง  เธอจึงถูกย้ายเข้า สำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพ  แต่ตัวเธอไม่อยากมาทำงานกรุงเทพฯ เธอจึงต้องสังกัดสาขาสำนักงานใหญ่ และรอที่ลงตำแหน่ง ดังนั้นจึงย้ายไปย้ายมา  เมื่อเรื่องเกิดแบบนี้ คุณ ว.ซึ่งเป็นรองผู้จัดการ แจ้งโดยมีนัยประมาณว่า เอกสารต้องยื่นกู้ใหม่  เนื่องจากคล้ายกับว่า เรื่องราวไม่ได้เข้าสาขาหัวทะเล แต่เป็นสาขา(ไหนก็ไม่รู้) รู้แต่ว่าของคุณ ป.   ดิฉันจึงยืนยันกลับไปว่า ดิฉันยื่นเรื่องและแจ้งเรื่องที่สาขาหัวทะเล ดังนั้น จะต้องเป็นการกู้ที่สาขาหัวทะเล  ต่อให้ย้ายไปพิมายดิฉันก็จะไม่ยอม เพราะเรายื่นที่หัวทะเล  หากธนาคารจะย้ายเราไปไหน เราควรได้รับทราบและยินยอมก่อน   คุณ ว.รับทราบเรื่อง เห็นใจเรา  แต่ก็เหมือนแบ่งรับแบ่งสู้ เพราะคล้ายกับว่าทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้.... เธอบอกเพิ่มอีกเพียงว่า คุณ ป. เธอสแกนเอกสารการกู้ยืมทั้งหมดเข้าสำนักงานที่แจ้งวัฒนะไปแล้ว  และคุณ ว. แจ้งว่า จากการสอบถามกับคุณ ป. เธอบอกว่า เธอเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์  และเธอรับโทรศัพท์ลูกค้าทุกคนและทุกครั้ง    อีกทั้งไม่เคยเห็นเบอร์ของดิฉันโทรเข้าไปเลย   (แน่นอนค่ะ ถ้าเป็นเบอร์ใหม่ของคุณ ป. ดิฉันจะโทรเข้าไปได้ยังไง ในเมื่อไม่รู้เบอร์ใหม่ของคุณ) แต่เบอร์เก่านี่ติดต่อหลายครั้งมาก    คุณ ว.จึงให้เบอร์มือถือเบอร์ใหม่ของคุณ ป.  กับดิฉัน  และดิฉันจึงโทรเข้ามือถือเธอในเย็นวันนั้น   เพื่อจะขอเอกสารคืนทั้งหมด  แล้วนำมให้กับคุณ ว. ทำเรื่องกู้ใหม่อีกครั้ง  (ตามที่ได้คุยกับคุณ ว.เมื่อสักครู่)   แต่ก็เหมือนเดิมค่ะ ไม่ว่าจะเบอร์ดิฉันหรือเบอร์สามี คุณ ป. หลบหน้าไม่ยอมรับโทรศัพท์  (ทางเจ้าของโครงการอีก 2 คน ก็ช่วยกันโทรให้ด้วย โดยดิฉันให้เบอร์โทรไป คุณ ป.ก็ไม่รับโทรศัพท์ใครเลยสักคน)  เพราะทั้งดิฉันและเจ้าของโครงการก็อยากรู้ว่าท้ายสุดคือยังไง  เรื่องราวถึงไหน  ก็เงียบค่ะ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากคุณ : Jo_Smart เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 17:33:28

ความคิดเห็นที่ 4 ทางเจ้าของโครงการซึ่งอยู่ที่ จ.นครราชสีมา  ก็ร้อนใจเพราะเกรงใจว่า คุณ ป.เป็นคนที่ตัวเองแนะนำ แล้วก็ดูจะไม่ค่อยรับผิดชอบเท่าไหร่  จึงพยายามติดต่อหัวหน้าคุณ ป.ให้คือคุณส.เสือ ซึ่งสามารถติดต่อได้และได้ข้อสรุปจากคุณ ส.เสือ ประมาณว่า  ตอนนี้ ทาง กสิกรไทยไม่มีนโยบาย ปล่อยสินเชื่อ จึงชะลอเรื่องทั้งหมดไว้ก่อน  คุณส.เสือฝากเจ้าของโครงการมาบอกดิฉันว่า จะแจ้งให้คุณ ป. โทรมาหาดิฉันแล้วให้ดิฉันขอเอกสารคืนจากคุณ ป. เพื่อเอาไปยื่นแบงค์อื่นต่อไป สิ่งที่ดิฉันเคืองมากคือ แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกว่าไม่มีนโยบาย ทำให้เราเสียเวลาอยู่ได้ตั้งเดือน แถมยังให้ไปเซ็นต์เอกสารเกี่ยวกับ โครงการบสย.   เรื่องวงเงินกู้ด้วย (เมื่อวันที่ 27-28 นั่นแหล่ะ)  ยิ่งถ้าไม่มีนโยบายปล่อยกู้ ยิ่งไม่ต้องให้ไปเซนต์แบบฟอร์มเพิ่มเติมเลย   และคุณ ส.เสือตอบง่ายมาก ไม่มีแม้แต่คำขอโทษ ที่ทำเราเสียเวลาไปเป็นเดือน จากคุณ : Jo_Smart เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 17:38:25

ความคิดเห็นที่ 5 เช้าวันที่ 29 พ.ย. 54ดิฉันจึงโทรเข้า 0-2888-xxxx  เพื่อสอบถามว่า ธ.กสิกรไทยไม่มีนโยบายปล่อยสินเชื่อบ้านหรือคะ .... เจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องคือคุณ สชด.  แจ้งว่า  นโยบายของธนาคารมีค่ะ ปล่อยสินเชื่อบ้านโดยให้ 80% ของราคา (ฯลฯ คืออธิบายตามเงื่อนไขของธนาคาร)  ซึ่งก็คือ สิ่งที่คุณ ส.เสือตอบมา นั้นไม่เป็นความจริง  ดิฉันจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ คุณ สชด.ฟัง .....อย่างละเอียดตามข้างบน  พร้อมกับคุณ สชด.ขอเบอร์ติดต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อจะตามเรื่องให้ บ่ายวันที่ 29 คุณ สชด. แจ้งกลับว่า สรุปได้ว่า ทางสาขาแจ้งวัฒนะ ไม่เคยได้รับสแกนเอกสารการกู้ยืมเงินจาก สาขาหัวทะเล  และคุณ ป. จะกลับเข้ามาทำงานในวันพรุ่งนี้คือวันที่ 30 พ.ย.  คุณ ป.แจ้งต่อคุณ สชด ว่าจะรีบสแกนเอกสารให้ (สรุปว่า เรื่องที่ยื่นไปทั้งหมด ไม่เคยถึง สนง.แจ้งวัฒนะ เอกสารแช่อยู่เป็นเดือน) โอเค เข้าใจตามคุณ สชด.แจ้ง  .....  และทางดิฉันขอให้คุณ สชด แจ้งผล หรือความก้าวหน้า อะไรก็ตามแต่ อย่างด่วน ขอเป็นกรณีพิเศษเพราะล่าช้านานมาก ๆ  ทางคุณ สชด.รับปากว่า จะแจ้งให้ทราบไม่เกินวันที่ 6 ธ.ค.54 แก้ไขเพิ่มเติมนิดหน่อยค่ะ แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 54 18:17:35 จากคุณ : Jo_Smart เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 17:52:16

ความคิดเห็นที่ 6 จนกระทั่งวันนี้วันที่ 7 ธ.ค.54  ไม่เคยได้รับการติดต่อจาก KBANK  ดิฉันจึงโทรตามเรื่องในช่วงบ่าย ๆ ได้รับคำตอบจากคุณ สชด.ว่า  ณ ขณะนี้ คุณ ป. ยังไม่ได้สแกนเอกสารเข้ามาเลย ทาง KBANK ยังไม่สามารถดำเนินการต่อได้ ท้ายสุด ดิฉันสอบถามคุณ สชด ตรง ๆ ว่า  คุณ สชด จะช่วยเหลืออะไรได้มากกว่านี้ไหม  เพราะขั้นตอนการส่งเอกสารจากสาขาเข้า สนง.ในกรุงเทพ มันเป็นเรื่องในองค์กร ดิฉันคงไปตามเอกสารเองไม่ได้ เพราะแม้แต่โทรศัพท์พนักงานกสิกร ยังไม่ยอมรับสายเลย ........ ถ้า KBANK บอกว่า  "ฝากให้เราช่วยดูแล"  ถ้าอย่างนั้น ฝากให้คุณดูแลติดตามเอกสารให้ได้ไหมคะ......ฝากให้คุณดูแลติดตามเรื่องให้ได้ไหมคะ กับลูกน้องที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อลูกค้าที่เดินเข้าไปหาคุณเอง แบบนี้ จากคุณ : Jo_Smart เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 17:54:05

ความคิดเห็นที่ 7 จนกระทั่งวันนี้วันที่ 7 ธ.ค.54  ไม่เคยได้รับการติดต่อจาก KBANK  ดิฉันจึงโทรตามเรื่องในช่วงบ่าย ๆ ได้รับคำตอบจากคุณ สชด.ว่า  ณ ขณะนี้ คุณ ป. ยังไม่ได้สแกนเอกสารเข้ามาเลย ทาง KBANK ยังไม่สามารถดำเนินการต่อได้ ท้ายสุด ดิฉันสอบถามคุณ สชด ตรง ๆ ว่า   จะช่วยเหลืออะไรได้มากกว่านี้ไหม  เพราะขั้นตอนการส่งเอกสารจากสาขาเข้า สนง.ในกรุงเทพ มันเป็นเรื่องในองค์กร ดิฉันคงไปตามเอกสารเองไม่ได้ เพราะแม้แต่โทรศัพท์ลูกน้องของคุณยังไม่ยอมรับสายเลย ........ฝากให้คุณดูแลติดตามเอกสารให้ได้ไหมคะ......ฝากให้คุณดูแลติดตามเรื่องให้ได้ไหมคะ กับลูกน้องที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อลูกค้าที่เดินเข้าไปหาคุณเอง แบบนี้ คุณ สชด. จึงโอนสายให้คุยกับ หัวหน้าอีกระดับหนึ่งเพื่อรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้น  ซึ่งหลังจากคุยกัน ก็สรุปว่าจะติดตามเรื่องให้  ......  ดิฉันก็จะรอต่อไปค่ะว่า KBANK จะแก้ไขปัญหานี้ยังไง   ฝากให้คนที่จะกู้กับ KBANK อ่านนะคะ  เผื่อซื้อกับโครงการต่างจังหวัดและโครงการที่ไม่ได้มีชื่อเสียงนัก บางทีขั้นตอนการกู้ เป็นรอง จากโครงการดัง ๆ ที่มีเจ้าหน้าที่ดูแลให้ จากคุณ : Jo_Smart เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 18:01:32

ความคิดเห็นที่ 8 สรุปว่า ตั้งแต่วันที่ได้ธนาคารได้รับเอกสาร 21 ต.ค.54 ถึงวันนี้ 7 ธ.ค. 54  เอกสารทีส่งเข้าไปทั้งหมด  ไม่ถูกดำเนินการใด ๆ ทั้งสิ้น  เงียบมาตลอด  เสียเวลากับ KBANK มาก ๆ จนสามีสงสัยว่า หรือต้องจ่ายใต้โต๊ะให้ คุณ ป. เรื่องถึงจะเดิน มีนโยบายแบบนี้ด้วยหรือ  เพราะบ้านหลังแรกที่ซื้อกับ ธนาคารสีม่วง มันก็ไม่ใช่แบบนี้ ทั้ง ๆ ที่จัดเตรียมเอกสารมันก็ลักษณะเดียวกัน ตรงกันข้ามเลย เร็วมาก ๆ ค่ะ  จำได้ว่า 2-3 สัปดาห์ทุกอย่างเรียบร้อย โอนบ้านได้ทันที (แต่ถึงเป็นต่างจังหวัด เอกสารก็ไม่น่าถูกดองนานขนาดนี้)   เข็ดมาก ๆ KBANK จากคุณ : Jo_Smart เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 18:06:47

ความคิดเห็นที่ 9 เปลี่ยนธนาคารไม่ดีหรือคะ ของออมสินกับ CIMB ยื่นไปอาทิตย์เดียวเอง พนักงานตามเราตลอดๆ ดอกก็ถูกกว่าด้วย จากคุณ : my_whitechristmas เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 19:20:44

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณมากเลยค่ะสำหรับข้อมูล เกือบไปแล้วเหมือนกัน "ฝากให้เรา ช่วยดูแล" เมื่อสองวันก่อนก็ไปธนาคารนี้สาขาจอหอ (ตกลงสาขานี้ปิดแล้วเหรอคะ) กับสาขาถนนมิตรภาพ จนท.ทั้งสองสาขาก็บอกมาว่าช่วงนี้ธนาคารชะลอการปล่อยสินเชื่อบ้าน หรือวงเงินสินเชื่อเต็มอะไรทำนองนี้อ่ะค่ะ ก็เลยถอยออกมาซะก่อน จากคุณ : ลูกน้ำโตขึ้นก็ต้องเป็นยุง (ลูกน้ำโตขึ้นก็ต้องเป็นยุง) เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 19:56:47

ความคิดเห็นที่ 11 ^^^ คุณ my_whitechristmas คะ   กู้ไว้ 2 ธนาคารค่ะ ตั้งแต่แรกเลย  ธนาคาร ท...ให้วงเงินต่ำกว่าหลักทรัพย์มากไปหน่อยค่ะ อาจเป็นเพราะ สาขาที่ดิฉันติดต่อคือกรุงเทพฯ แต่หลักทรัพย์อยู่นครราชสีมาจึงถูกกดราคาไปหน่อย   เจ้าของโครงการจึงแนะนำว่า ให้ไปที่ KBANK กับคุณ ป. นี่แหล่ะค่ะ เรื่องเร็ว ไม่นาน และอีกอย่าง ธนาคารก็อยู่ในพื้นที่เดียวกับหลักทรัพย์ด้วย  จึงตัดสินใจว่าน่าจะที่นี่....ปรากฎว่านานมาก ๆ จน เจ้าของโครงการที่ร่วมหุ้นกันอีกคนนึง  ขอให้ช่วยชำระเงินจองเพิ่มอีก 70,000 บาท รวมเป็น 100,000 บาท  ดิฉันจึงโอนเงินให้เจ้าของโครงการไปเมื่อวานนี้เองค่ะ เพราะเกรงใจเจ้าของโครงการมาก ๆ เนื่องจากไปอยู่บ้านเขาแล้ว  แต่ก็ได้สอบถาม เจ้าของโครงการไว้นานแล้วล่ะค่ะ ว่าจะให้ช่วยค่าใช้จ่ายอะไรให้บอกเลย (ตั้งแต่ไปเริ่มอยู่ของเขา)  แต่ เจ้าของโครงการใจดีมากเลยค่ะ บอกว่าไม่เป็นไร ไม่คิดอะไรหรอก ช่วยเหลือกัน เห็นว่าหนีน้ำท่วมมา  ยังไงถ้าสิ้นเดือนพฤศจิกายน ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร เดี๋ยวไว้ค่อยคุยกันอีกที   ================ คุณลูกน้ำโตขึ้นก็ต้องเป็นยุงคะ....สาขาจอหอที่บอกว่าปิด คือตามคำอธิบายของ จนท. แบงค์ที่ตอบชี้แจงมาค่ะ  แต่ปิดตัวแผนกสินเชื่อ หรือ ปิดเมื่อไหร่วันไหน อันนี้ไม่ทราบเลยค่ะ  ซึ่ง จนท.แจ้งมาว่าดังนั้นจะตามเรื่องหรือร้องเรียนที่สาขาจอหอไม่ได้แล้ว  (คุณ ป. จึงลอย และต้องเข้าสังกัด สำนักงานใหญ่ เพื่อรอลงสาขาที่ว่าง) ================ แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 54 21:10:26 จากคุณ : Jo_Smart เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 21:07:21

ความคิดเห็นที่ 12 โอ้ว แค่อ่านก็เหนื่อยแทนเจ้าของกระทู้แล้วครับ เจอพนักงานรับเรื่องห่วยๆ แบบนี้แย่เลยนะครับ นี่ขนาดเจ้าของโครงการเค้าดูแล้วว่าไว้ใจได้นะเนี่ย อะไรๆ มันก็ไม่แน่จริงๆเล๊ย จากคุณ : 2ndHand_Fanclub เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 21:18:16

ความคิดเห็นที่ 13 คุณ 2ndHand_Fanclub คะ ใช่ค่ะเหนื่อยใจตรงไหนรู้ไหมคะ.... ปัญหาที่เกิดขึ้นรู้จากที่ดิฉันต้องเป็นคนโทรตามเอง  ตามกับเจ้าหน้าที่หลายคน ตามไปสาขาอื่น ตามกลับมาสาขาต้นเรื่อง ตามไปหัวหน้าโดยตรง  ท้ายสุดมาตอบดื้อ ๆ ว่า แบงค์ไม่มีนโยบาย ให้ดิฉันขอเอกสารคืนจากคุณ ป. ทำไมตั้งแต่แรกหรือเมื่อรู้ข้อเท็จจริงไม่รีบโทรแจ้งว่าอะไรเป็นอะไร  (แต่ถ้าไม่มีนโยบายปล่อยกู้ ทำไม call center ถึงแจ้งว่ามีและยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับการกู้สินเชื่อด้วย) จี๊ดสุดยังมีหน้ามาตอบว่า ไม่เคยเลี่ยงการรับโทรศัพท์ เพราะไม่เคยมีเบอร์ดิฉันโทรเข้าไป   ครั้งสุดท้ายที่ได้เบอร์ใหม่ล่าสุดมา โทรเข้าไปตั้ง 2 - 3 ครั้งก็ยังไม่ยอมรับสายอีก   ก็เลยส่ง SMS เข้ามือถือเพื่อให้เขารับโทรศัพท์   ปรากฎ ก็ไม่รับเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเบอร์ไหน  ไม่เข้าใจว่าหลบหน้าทำไม จนถึงทุกวันนี้ไม่เคยแม้แต่จะโทรมาไถ่หรือแจ้งอะไรอีกเลย ตอนนี้ คิดว่าน่าจะเพราะ ทำเอกสารดิฉันหายหมดแน่ ๆ เพราะมันไม่มีเหตุผลอื่นเลยค่ะ  ไม่เคยมีปากเสียงกัน ไม่เคยอะไรเลย คุยกันดี ๆ ตลอด เพราะอย่างที่บอก คุณป. เคยทำเรื่องสินเชื่ออื่นให้กับเจ้าของโครงการมาก่อน  ฟังดูเขาก็ดูเกรงใจคุณเจ้าของโครงการนะ  แต่เอาเข้าจริง ก็หลบหน้าไม่รับโทรศัพท์ใครเลยเหมือนกัน แปลกใจมาก อะไรกัน แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 54 21:38:33 แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 54 21:31:09 จากคุณ : Jo_Smart เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 21:29:34

ความคิดเห็นที่ 14 KBank ช่วง re-engineering ผมว่าทำงานฉับไวดีนะครับ บริการเหนือกว่าทุกแบ้งค์ที่ผมใช้บริการเลย แต่ช่วง 2-3 ปีมานี้ผมก็รู้สึกว่า KBank เปลี่ยนไป ไม่ดูแลลูกค้าเลย และออกอาการไม่สนใจด้วยซ้ำ ไม่ใช่เฉพาะสาขาที่โคราช แต่กรุงเทพและ สนญ ก็เป็น จนผมต้องตัดใจย้ายไปเดินบัญชีธนาคารกรุงเทพมาเกือบ 2 ปีแล้ว เงินกู้ (จำเป็นต้องใช้เงินกู้บ่อยๆ) ก็หันไปใช้ SCB ซึ่งบริการดีกว่า เสียอย่างเดียวตรงดอกเบี้ย ของ SCB รู้สึกจะแพงกว่าเขาหน่อย ก็คงลองไปเรื่อยๆ ว่าที่ไหนบริการดีด้วย ดอกเบี้ยถูกด้วย KBank คงลาจากกันเท่านี้ทั้งที่ใช้บริการกันมาตั้งแต่ปี 28 จากคุณ : oddy.freebird เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 23:05:03

ความคิดเห็นที่ 15 ผมก็เปนครับ kbank สาขาในเมืองพัทยา ผมได้ยื่นเรื่องรีไฟแนนท์บ้านไว้ พนง ดองเรื่องไว้นานมาก(ปรมาณ 5 อาทิตย์) ผมติดต่อคอลเซนเตอร์ คอลเซนเตอร์บอกไม่พบข้อมูลแต่พนง บอกว่ารอผลอนุมัติ สรุปออมสินอนุมัติก่อนครับ โดยใช้เวลาหกอาทิตย์ ผมยังตามกับkbank callcentre บอกไม่พบข้อมูลการยื่นกู้กับเลขบัตรประชาชน แต่สาขาก็บอกว่ายื่นไปแล้ว สรุปเข็ดครับ โดนหลอกตอนนี้ดีกว่าครับคุณจขกท เพราะไม่รู้ว่าหลังกู้แล้วจะมีอะไรหมกเม็ดรึเปล่า ขอเวลาอีกเดือนยื่นออมสินดีกว่า ไม่ได้เลวร้ายอะไรเลย แค่ทำงานตามขั้นตอนไปหน่อย เลยใช้เวลา แต่ถ้าโทรตามบ่อยๆไวครับ จากคุณ : Little Black Swan เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 09:28:47

ความคิดเห็นที่ 16 น่าเศร้าใจ ใช้เงินสดอย่างเดียว สบายใจกว่า พึ่งแบงค์เยอะเลย จากคุณ : Decorman เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 20:46:03

ความคิดเห็นที่ 17 re-engineering ผมว่าบางที มันเพื่อเพิ่มกำไรให้กิจการ มากกว่าเพื่อลูกค้านะ อันที่จริง บางทีการลดต้นทุน อาจทำให้บริการลูกค้าแย่ลง กสิกร แก้ฮวงจุ้ย ลือซินแซค่าตัวชั่วโมงเป็นแสน http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/business/bizweek/20100118/95646/%EF%BF%BD%C7%A7%EF%BF%BD%EF%BF%BD%EF%BF%BD%C3%82-%EF%BF%BD%EF%BF%BD%EF%BF%BD%D1%A7%EF%BF%BD%EF%BF%BD%EF%BF%BD%EF%BF%BD%C2%B9-%EF%BF%BD%EF%BF%BD%D4%A1%EF%BF%BD%EF%BF%BD%EF%BF%BD%C3%82.html จากคุณ : Spetsnaz เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 17:23:51