ความคิดเห็นที่ 1 ไม่มีคนตอบ ผมไม่ใช่ช่างมากมาย  แค่เคยรื้อ ๆ แก้ๆ มาบ้าง เจ้า Bimetal จะเป็นอุปกรณ์อิเลคโทรนิค  เหมือนสวิทซ์  แต่ทำงานเมื่ออุณหภูมิเย็นจัด ก็จะต่อกระแสให้ ขดลวด หรือ Heater เกิดความร้อน พออุ่นๆ ทำให้น้ำแข็งที่เกาะ และปิดทางเดินลมเย็น หรือ ปิดท่อคอยล์เย็น ทำให้ความเย็นจากท่อคอยล์เย็นกระจายส่งออกมาไม่ได้ พร้อมกันนั้นจะจ่ายกระแสไปที่ timer หมุนจนหน้าคอนแทกซ์ ตัดกระแสที่ส่งไปคอมเพรสเซอร์ ตัดการทำงานของคอมเพรสเซอร์ในระหว่างนั้น ต่อเมื่อน้ำแข็งละลาย เจ้าตัว Bimetal ก็ตัดกระแสไฟที่จ่ายให้ heater จังหวะนั้น หน้าคอนแท๊กซ์อีกคู่ใน Timer จะจ่ายไฟให้ตัว Timer หมุนต่อ เพื่อให้หน้าคอนแทกซ์ที่จ่ายไฟไปที่คอมเพรซเซอร์ทำงาน แต่บางครั้ง เจ้าตัว Timer ไม่ยอมหมุน จะด้วยเหตุที่หน้าคอนแทกซ์ หรือ มอเตอรืรอบช้า หรือเฟืองข้างในติดขัด  เราจึง "ช่วย" หมุนให้จนหน้าคอนแทกซ์ต่อกัน คอมเพรสเซอร์จึงทำงาน จึงมีคำแนะนำว่า  ถ้าหมุนตัว Timer แล้วต่อมา ยังมีปัญหา ให้พิจารณา ให้เป็นจำเลย อันดับต้นๆ นี่ผมไล่เรียงเอาตามความเข้าใจ ที่เคยรื้อ เคยแก้ปัญหาของตัวเองมาบ้าง  จะถูกผิด ก็รอผู้ที่รู้มากกว่า มายืนยัน ถ้าถูกต้อง  หรือ จะแก้ไข กรณีไม่ตรงข้อเท็จจริง แล้วจะพอพลอยได้ความรู้ใหม่ที่ถูกต้อง  ครับ จากคุณ : ขอนเก่า เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 55 19:33:04

ความคิดเห็นที่ 2 ขั้นตอนแรกเลย ตัว timer เหมือนนาฬิกา มันจะหมุนด้วยไฟฟ้า มันหมุนไปเรื่อยโดยสลับการตัดต่อระหว่างไฟไปที่ compressore กับให้ไฟไปที่ ขดลวดความร้อน เมื่อไฟไปที่ขดลวดแล้ว มันร้อน ทำให้น้ำแข็งละลาย มันจะร้อนไปนานเท่านานจนกว่า timer จะหมุนเลยไป บางทีปริมาณน้ำแข็งน้อย เมื่อละลายแล้วใช้เวลานิดเดียวก็ละลายหมดแล้ว ถ้ามันยังละลายความร้อนจะมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเป็นอย่างนี้ห้อง freeze เราจะกลายเป็นตู้อบแน่ ก็เลยใส่ bimetal เข้าไป มันคือเหล็ก 2 ชนิด ที่มีอัตราการหดยืดตัวตามความร้อนในอัตราที่ต่างกัน เหมือนที่อยู่ในเตารีดผ้า เมื่อร้อนมากมันจะแยกจากกัน ทำให้เกิดการตัดไฟออกจากขดลวด จะเห็นปัญหา no forst ที่เจอกันคือ ไม่ละลายน้ำแข็ง เป็นไปได้ 2 อย่างคือ นาฬิกาเสีย กับ bimetal เสีย ค้าง และอีกอย่างไม่เย็น คอม ไม่หมุน จากคุณ : ควนโส เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 07:24:29

ความคิดเห็นที่ 3 จากคห.ที่ 1 & 2 ผมเข้าใจถูกต้องไหมครับ ตัว Timer จะเป็นตัวกำหนดเวลาว่าเมื่อใดจะให้ตัว Heater ทำงาน และให้ Compressor หยุดทำงาน เมื่อตัว Heater ทำงานแล้ว อุณหภูมิสูงขึ้น ตัว Bimetal ก็จะตรวจพบและสั่งให้ Heater หยุดทำงาน และเมื่อถึงเวลาตามที่ Timer กำหนด Timer ก็จะสั่งให้ Compressor เริ่มทำงาน และวนไปตามลานนาฬิกาของ Timer แบบนี้ไปตลอด โดยมีเวลาที่กำหนดไว้แน่นอนตายตัว (จะมีที่เป็นตัวแปรก็คือ Bimetal สั่งให้ Heater หยุดก่อนกำหนดเวลาของ Timer) หรือ ตัว Timer ต้องรับการสั่งให้เริ่มทำงานของรอบนาฬิกาใหม่โดย Bimetal - ถ้า Timer เสีย ก็มี 2 ลักษณะ คือ ค้างในจังหวะตัด (ตู้ก็จะไม่เย็นเลย) หรือค้างในจังหวะต่อ (ตู้จะเย็นจนเป็นน้ำแข็ง) - ถ้า Bimetal เสีย ก็มี 2 ลักษณะ คือ ไม่สั่งให้ Heater หยุดทำงาน (ตู้ก็จะเย็น แต่จะเย็นไม่เต็มที่ เพราะ Heater ทำงานแต่ตามจังหวะของ Timer อย่างเดียว ซึ่งอาจจะนานเกินไป) ไม่สั่งให้ต่อ ซึ่งก็จะทำให้ Heater ไม่ทำงานตลอดเวลา เพราะ Bimetal ค้างที่สั่งให้ตัดไฟ ผลก็คือเย็นจนจับเป็นน้ำแข็ง รบกวนช่วยอธิบายส่วนที่ผมเข้าใจไม่ถูกด้วยครับ ขอบคุณ แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 55 11:06:01 จากคุณ : winsabb2 เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 11:04:21

ความคิดเห็นที่ 4 กลับมาอีกรอบ   เจ้าตัว bimetal เมื่อร้อน หรืออุณหภูมิห้อง  มันไม่ต่อนี่ครับ  แต่พอเอาไปแช่ในน้ำแข็งเย็นจัด มันจึงต่อ (จ่ายกระแสไฟให้ Heater) แล้ว bimetal ที่ผมรื้อ มันหนีบติดกับท่อคอยเย็น  ทำให้สันนิษฐานว่า เมื่อท่อคอล์ยเย็น เย็นจัด มีนำแข็งเกาะ จึงต่อกระแสให้ Heater ส่วน Heater ก็มักอยู่ในหลอด หรือ แผง ใต้ช่องฟรี๊ซ แต่ไม่ได้ ไล่ดูวงจรทั้งหมดครับ  ทำให้ไม่กล้ายืนยันตนับ จากคุณ : ขอนเก่า เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 12:58:56

ความคิดเห็นที่ 5 ตัวอย่างตู้เย็นที่ใช้ไทเมอร์อันที่ผมลงภาพไว้ ตัวที่ผมตรวจสอบแล้ว การออกแบบเป็นการออกแบบที่ฉลาดมาก กลไกเฟืองในไทเมอร์จะหมุนตลอดเวลาที่คอมเพรสเซอรทำงาน ถ้าเทอร์โมสตัต(ตัวตั้งความเย็น)สั่งหยุดคอม ตัวกลไกของไทเมอร์ก็จะหยุดหมุน ทำให้มันจับเวลาแค่เฉพาะตอนที่คอมทำความเย็นเท่านั้น  จังหวะนี้มันใช้แรงดันไฟฟ้าจากตัวคอมเพรสเซอร์ จึงทำงานพร้อมกันและหยุดด้วยกัน เมื่อคอมเพรสเซอร์ทำงานนานพอ เฟืองจะไปตกในตำแหน่ง Defrost ตำแหน่งนี้คอมจะโดนบังคับตัดไฟ และฮีตเตอรจะติดแทน ขณะฮีตเตอร์ติด เฟืองจะไ่ม่หมุนครับ จังหวะนี้ตัวไฟเลี้ยงมอเตอร์ไทเมอร์มันจะไ่ม่มีแรงดัน  ต้องรอจนกว่า bimatal ที่ฝังอยู่ใกล้ๆฮีตเตอร์ปลดวงจรก่อน เพราะจังหวะนี้มันใช้แรงดันตกคร่อมตัว bimatal ซึ่งมันช็อตขาหากันอยู่จึงยังไม่มีแรงดันเข้าตัวมอเตอร์ของไทเมอร์ (bimatal ตรงฮีทเตอร์  การทำงานหากเย็นมากๆ ขั้วมันจะต่อถึงกัน พออุ่นได้ที่มันจะแยกจากกัน) เฟืองในตัวไทเมอร์จะเริ่มหมุนเ้มื่อขั้ว bimatal มันแยกตัวจากกัน ทำให้ไม่ว่าน้ำแข็งจะพอกหนา หรือบาง ก็ไม่มีปัญหามันจะละลายน้ำแข็งได้นานพอจนหมดแล้วค่อยเริ่มเดินมอเตอร์ไทเมอร์ต่อ เมื่อจังหวะที่ bimatal แยกตัว(ละลายน้ำแข็งเสร็จ)ฮีตเตอร์จะหยุดทำงานทันที และเฟืองเริ่มหมุน  จะมีช่วงว่างที่ระบบไม่มีอะไรทำงานเลยครู่หนึ่ง ต้องรออีกประมาณ 1 นาทีจากอัตราทดเฟืองกว่าเฟืองตัวใหญ่จะขยับคอนแทคไปสู่จังหวะคอมเพรสเซอร์ จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 14:12:32

ความคิดเห็นที่ 6 มาดูการทำงานคร่าวๆ Themostat(เทอร์โมสตัต) สีน้ำตาล คือตัวปรับตั้งความเย็นของช่องแช่ ตามภาพคือเทอร์โมสตัตกำลังต่อวงจร ไฟจะวิ่งผ่านหน้าสัมผัสในไทเมอร์ไปสู่คอมเพรสเซอร์   และเช่นกัน ตัว M สีชมพูคือมอเตอร์ที่หมุนเฟืองในตัวไทเมอร์ั ตัวนี้จะหมุนอยู่ตลอดเพื่อขับเคลื่อนเฟืองให้เดินหน้าไปอย่างช้าๆ สังเกต สายสีน้ำเงินของมอเตอร์ (M) มันอยู่ที่สาย L และสายสีเขียวของมอเตอร์ (M) ต่อไปรับนิวทรอลโดยผ่านทางขดลวดทำความร้อนอีกทอดหนึ่ง  ซึ่งกระแสที่ไหลผ่านมอเตอร์ (M) นี้จะต่ำมากไม่ทำให้ขดลวดฮีทเตอร์ร้อน ในจังหวะนี้คอมเพรสเซอร์จะำทำงานและมอเตอร์ไทเมอร์ (M) จะหมุน.. ส่วนฮีทเตอร์จะมีกระแสผ่านต่ำมากๆ และไม่ร้อน  (หากเทอร์โมสตัตพบว่าเย็นพอมันจะตัดวงจรทั้งหมด หยุดทั้งคอมเพรสเซอร์และไทเมอร์) จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 14:45:31

ความคิดเห็นที่ 7 พอทำความเย็นไปสักระยะ เฟืองในมอเตอร์ (M) หมุนไปจนครบรอบที่ต้องสั่งละลายน้ำแข็ง กลไกหน้าสัมผัสของไทเมอร์จะดีดลง  ทำให้คอมเพรสเซอร์หยุดการทำงาน และไฟจากสาย L จะมาจ่ายที่ฮีทเตอร์แทน โดยผ่านทาง bimatel (สีชมพู)และเข้าสู่ขดฮีทเตอร์ การสลับคอนแทคในไทเมอร์นี้จะทำให้ขั้วด้านบนของฮีทเตอร์เป็นสาย L ทันที และสังเกตว่ามอเตอร์(M) ขาด้านสีเขียวที่ต่ออยู่กับขั้วฮีทเตอร์นั้นกลายเป็นสาย L ไปเสียแล้ว เท่ากับมอเตอร์ (M) สายฝั่งน้ำเงินและเขียวจะเป็น L ทั้งคู่ มันจะหยุดหมุน จอดแช่อยู่ในโหมดละลายน้ำแข็งตลอดกาล... (ไทเมอร์ไม่มีสิทธกำหนดว่าจะละลายนานเท่าไหร่) จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 14:51:02

ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อการละลายน้ำแข็งผ่านไปจนกระทั้งน้ำแข็งละลายหมดสิ้น อุณหภูมิมันจะสูงพอทำให้ bimatel (ใกล้ๆีฮีทเตอร์)ปลดวงจร ผลคือสาย L ที่จะเข้าสู่ฮีทเตอร์จะโดนตัด(เริ่มโดนตัดจาก bimatel ก่อน) จากนั้นขั้วด้านบนของฮีทเตอร์จะกลายเป็นสาย N อีกครั้ง ทำให้มอเตอร์ (M) เริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง ตอนนี้จะเป็นช่วงสับเปลี่ยนที่ต้องอาศัยเวลาประมาณ 1 นาที กว่าคอนแทคในไทเมอร์จะดีดขึ้นด้านบน(ไปสู่คอมเพรสเซอร์) ระหว่างรอกลไกหมุนนี้ไฟจะยังคงจ่ายลงทาง bimetal อยู่ (แต่ bimatal แยกตัวแล้ว) จะเห็นว่าจังหวะการละลายน้ำแข็งจะนานแค่ไหน ตัวกำหนดคือ bimetal ไม่ใช่ไทเมอร์ จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 14:57:14

ความคิดเห็นที่ 9 จากผังการทำงาน จะเห็นว่าหากฮีทเตอร์เสียเช่นขาด ทั้งๆที่มันเป็นส่วนไว้ทำความร้อน เมื่อมันเสียตู้จะไม่เย็น คอมเพรสเซอร์จะไม่ทำงานด้วย  เพราะมอเตอร์ (M) มันจะหยุดทำงาน(เนื่องจากมันอาศัยสาย N จากขดฮีทเตอร์) ซึ่งมีโอกาสที่มอเตอรมันหยุดในขณะตำแหน่งคอนแทคลงด้านล่าง(โหมดละลายน้ำแข็ง) แล้วค้างอยู่ตรงนี้ ไม่ดีดคืนไปที่ฝั่งคอมเพรสเซอร์ ทำให้คอมเพรสเซอร์ไม่ทำงาน ในกรณีที่ฮีทเตอร์ขาด หากไปหมุนบังคับกลไกให้คอนแทคสลับไปสู่คอมเพรสเซอร์ก็จะได้ยินเสียงคอมทำงาน แต่มันก็จะอยู่ในตำแหน่งนี้ถาวรไม่สลับมาที่ฮีทเตอร์อีก ทำให้ตู้เย็น เย็นจนน้ำแข็งเกาะหนา(ด้านใน)แล้วลมไม่ออก จนต้องถอดปลั๊กบ่อยๆเพื่อคอยละลายน้ำแข็งเอง จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 15:03:47

ความคิดเห็นที่ 10 คุณ Ph อธิบายได้ละเอียดจริงๆครับ ขออนุญาตถามเพิ่มเติมครับ - อาการที่ช่องเย็นเป็นน้ำแข็งจนช่องล่างไม่เย็นนั้น (ซึ่งสามารถแก้ชั่วคราวด้วยการดึงปลั๊กออกให้น้ำแข็งละลาย)นั้น อาจจะเป็น Timer หรือ Bimetal ตัวใดตัวหนึ่งเสียก็ได้ใช่ไหมครับ - ขอวิธีตรวจเช็คว่าเป็นอุปกรณ์ใดที่เสีย จากคุณ : winsabb2 เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 17:01:08

ความคิดเห็นที่ 11 ดีฟรอสไม่ทำงาน ทำให้เย็นจนเป็นน้ำแข็งเต็มแผงทำความเย็น  จนกระทั่งลมไม่ผ่านจนทำให้ช่องแช่ไม่มีลมเย็น สาเหตุเกิดได้หลายอย่าง 1.ไทเมอร์เสีย (เช่นมอเตอร์ภายในชำรุดทำให้เฟืองไม่หมุน หรือเฟืองแตก หลุด) 2.ขดลวดฮีทเตอร์ขาด 3.Bimatel เสีย (ขาดวงจรถาวร) 4.เทอร์โมฟิวส์ในขดลวดฮีทเตอร์ขาด (มีไว้ฉุกเฉินกรณีละลายน้ำแข็งหมดแล้วฮีทเตอร์ไม่หยุดทำงาน) หากคอมเพรสเซอร์ทำงานอยู่ ให้ทำการปรับไทเมอร์ให้เข้าสู่โหมดดีฟรอส(ฮีทเตอร์) โดยหมุนแกนเฟืองหลักด้านหลังไทเมอร์ให้ดังแกร๊ก คอมเพรสเซอร์จะหยุด เอาแคล้มป์แอมป์วัดกระแสที่เข้าตู้เย็น จะต้องมีกระแสไหลเข้าเพราะฮีทเตอร์กำลังทำงาน(ควรปิดประตูตู้เย็นไว้ มิฉะนั้นอาจสับสนว่ากระแสนี้ของหลอดไฟในตู้หรือฮีทเตอร์) วิธีนี้จะง่ายสุดโดยไม่ต้องรื้อตู้ออกมา หากแคล้มมิเตอร์อ่านกระแสไม่ได้เลยแสดงว่ามีปัญหาในวงจรฮีทเตอร์(ต้องไล่ต่อ) หากมีกระแสเข้าตู้แสดงว่าฮีทเตอร์ทำงานอยู่ ให้ปล่อยทิ้งไว้ หากสักระยะคอมเพรสเซอร์กลับมาทำงานต่อได้เอง(รอชั่วโมงหนึ่งโดยประมาณ) แสดงว่าระบบปกติทั้งหมด ปัญหาอาจเกิดจากกลไกคอนโทรลช่องลม(ไม่เกี่ยวกับระบบไฟฟ้า) จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 17:46:48

ความคิดเห็นที่ 12 กรณีอ่านกระแสในขณะโหมดดีฟรอสไม่ขึ้น ให้ถอดปลั๊กและเช็คโอห์มที่คอนแทคของไทเมอร์คู่ฝั่งฮีทเตอร์ ในภาพข้างบนให้วัดโอห์มตรงขา Line กับ OUT จะต้องวัดโอห์มขึ้น วัดโดยไม่ตอ้งรื้อออกมานะครับ ผมแค่แกะให้ดูข้างในเฉยๆ (ผมจำไม่ได้ว่า OUT1 หรือ OUT2 คือฮีทเตอร์ แล้วอันที่เหลือก็คอมเพรสเซอร์) ให้ลองวัดทีละคู่พอเจอแล้วลองหมุนแกนเ้ืฟืองไป สักครึ่งรอบมันจะต้องวัดเจอที่ขา OUT อีกข้างสลับกัน  ถ้าได้ตามนี้คือปกติ ถ้าไม่ได้ก็แสดงว่าคอนแทคภายในมีปัญหาแล้ว จากนั้นลองวัดโอห์มคร่อมขา Line กับ Neutral ถ้าวัดไ่ม่ขึ้นก็แสดงว่ามอเตอร์ภายในขาดไปแล้ว หากวัดขึ้นก็แสดงว่าปกติไทเมอร์ควรจะทำานได้ แต่ก็อาจจะมีกรณีที่เฟืองภายในแตก หรือติดขัดจากสิ่งสกปรก อันนี้เช็คจากการวัดไม่ได้ต้องลองปล่อยให้ทำงานจริงดู (ลองตามโพสข้างบนที่ผมเขียนไว้ คือเข้าสู่ดีฟรอสแล้วรอให้มันออกจากโหมดนี้เอง) อุปกรณ์ตัวอื่นๆ รื้อและวัดโอห์มคร่อม Bimatel และวัดคร่อม heater มันจะต้องขึ้นทั้งหมด  หากตัวไหนไม่ขึ้นแสดงว่ามันขาดวงจรแล้ว หากอ่านกระแสขึ้นในโหมดดีฟรอส(ฮีทเตอร์)แล้วไทเมอร์ไม่เดินหน้าไปสู่คอมเพรสเซอร์ต่อ  แสดงว่ามอเตอร์ในตัวไทเมอร์อาจจะเสียหรือเฟืองต่างๆภายในติดขัด-ชำรุด  ให้เปลี่ยนตัวไทเมอร์ใหม่ จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 18:32:13

ความคิดเห็นที่ 13 คห.12 ขอบคุณมากครับสำหรับวิธีการตรวจสอบ ผมมีความรู้ด้านนี้น้อยมาก จึงยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่จะพยายามทำความเข้าใจ แล้วคงมีคำถามเพิ่มเติมให้ต้องรบกวนอีก จากคุณ : winsabb2 เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 19:21:11

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณ Ph ที่ผมเคยรู้มาบ้างนิดๆ หน่อยๆ พอได้รับความรู้เพิ่มอีกมากมากมาย ขอขอบคุณอีกครั้งครับ จากคุณ : ขอนเก่า เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 19:18:02