ความคิดเห็นที่ 1 ที่บ้านทำติดไฟโรงรถ  กับในบ้านไว้แล้วค่ะ  เวลาออกไปข้างนอก หรือ ต่างจังหวัด สะดวกมากๆ จากคุณ : nice_piggyy เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 13:46:34

ความคิดเห็นที่ 2 ขอโทษครับรูปไม่ไป จากคุณ : tt_accord (TT_accord) เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 13:57:12

ความคิดเห็นที่ 3 มาดูของจีนก่อนครับ   ดูรอบๆ  จะเห็นว่าเป็น timer แบบปลั๊กเสียบ    คือตัวมันเองมีขาเสียบออกมา   นำไปเสียบกับเต้ารับตามบ้าน     แล้วก็นำอุปกรณ์ที่ต้องการคุมมาเสียบด้านหน้าอีกต่อหนึ่ง    ก็สามารถควบคุมอุปกรณ์ต่างๆได้  ตามเวลาที่ต้องการ จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 14:03:35

ความคิดเห็นที่ 4 เนื่องจากผมต้องการนำมาคุมหลอดไฟหน้าบ้าน    ตรงที่เป็นโรงจอดรถ   ซึ่งเดิมเป็นสวิทช์ไฟธรรมดาตัวหนึ่ง    สวิทช์ตัวซ้ายมือ  สีน้ำตาล จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 14:08:07

ความคิดเห็นที่ 5 สวิทช์นี้เก่ามากครับ   เป็นยี่ห้อ bticino  ไปขุดมาจากห้องเก็บของ   ต่อแยกออกมาต่างหาก     ตอนนั้นเคยคิดจะติด timer ครั้งหนึ่งแล้วยังไม่มีเวลา    เลยทำสวิทช์แยกออกมาไว้ก่อน     มาแกะดูภายใน   ก็เหมือนกับสวิทช์ทั่วไป     คือมีสาย 2 เส้น คือสายเมนเข้าหรือสาย  Line  และสายออกจากสวิทช์หรือสายโหลด   ภาษาช่างเรียกสายดับ จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 14:11:42

ความคิดเห็นที่ 6 ลองเอาไขควงวัดไฟ   วัดดู   จะเห็นว่าสายสีดำเป็นสายเมน   เพราะไฟที่ไขควงติดสว่าง      ส่วนอีกสายคือสีเทาเป็นสายโหลด   หรือสายที่ไปหลอดไฟ    เนื่องจากไฟที่ไขควงไม่ติด (ถ้าปิดสวิทช์ไว้) จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 14:17:40

ความคิดเห็นที่ 7 เส้นนี้ไม่มีไฟ (สายไปหลอดไฟ) จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 14:18:43

ความคิดเห็นที่ 8 เนื่องจากสวิทช์ทั่วไป   จะมีสายไฟเพียง 2 เส้นเท่านั้น  คือสายเมน (Line)  และสายโหลด (สายดับ)  แต่การที่จะติดตั้ง timer นั้น   โดยปกติแล้ว   จะต้องมีสาย Neutral ด้วย   timer ถึงจะทำงานได้   ก็เลยต้องเดินสายเพิ่มนิดหน่อย   คือเดินสาย Neutral จากเต้ารับที่อยู่ใกล้ๆแถวนั้นหรือจากที่อื่นก็ได้ที่มีสาย Neutral    มาที่สวิทช์    ขณะเดียวกัน เมื่อน้ำท่วมคราวที่แล้วเจอปัญหาที่ว่า  พอตัดเบรคเกอร์ชั้นล่าง   ไฟชั้นล่างก็ดับหมด   ไม่สามารถเปิดไฟทิ้งไว้ได้เลย   เนื่องจากไฟโรงรถก็จะผ่านเบรกเกอร์ชั้นล่าง  เลยคิดว่าต่อสายจากข้างบนมา  1 ชุดดีกว่า   เพื่อเป็นไฟโรงรถ   ถ้าน้ำท่วมคราวหน้า  ต้องตัดเบรกเกอร์ชั้นล่าง   ไฟโรงรถก็ยังติดอยู่   ไม่ต้องดับไปด้วย   ก่อนเลยต้องเดินไฟจากชั้นบนลงมาด้วย  จากรูปจะเห็นว่า   ในบล็อคไฟมีสาย 4 เส้นเลย   2 เส้นเป็นของเดิม   ส่วนอีก 2 เส้น  เดินมาใหม่จากชั้นบน  ซึ่งมีสาย Neutral มาด้วย จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 14:22:07

ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อเดินสายเรียบร้อยแล้ว    ต่อไปคือเตรียมสายใน timer ให้เข้ากับสายที่เราเตรียมไว้    เนื่องจาก timer ของจีนที่ซื้อมานี้เป็นแบบปลั๊กเสียบ   จึงต้องดัดแปลงนิดหน่อย   ให้ติดแล้วดูสวยงาม   ผมซื้อหน้ากากหน้าเรียบมา 1 อันเป็นของ Panasonic (national) รุ่นเก่า  มาเพื่อติดตั้งตัว timer  ขั้นแรกทำการเปิดด้านในของ timer  ไขน๊อตออก  2 ตัว จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 14:25:31

ความคิดเห็นที่ 10 ใช้ไขควงวัดไฟตัวเล็กกดที่ร่องแล้วแงะออก จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 14:27:19

ความคิดเห็นที่ 11 ข้างในเป็นแบบนี้ จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 14:32:37

ความคิดเห็นที่ 12 และก็แบบนี้ จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 14:36:18

ความคิดเห็นที่ 13 จะเห็นว่ามีสายทั้งหมด  3 เส้น   คือสายสีน้ำเงิน  2 เส้น   สีดำ  1 เส้น    สีน้ำเงิน 2 เส้นคือสายเข้า (line)  1 เส้น  และสายออก (สายโหลด)  1 เส้น   ส่วนสีดำคือสาย Neutral  ใช้ร่วมกันระหว่างเข้ากับออก    เพื่อกันสับสนก็เลยทำสัญญลักษณ์ติดไว้ให้ชัดเจน    เช่น  L  คือสายเมนเข้า (line)      out  หรือโหลด  คือสายออกไปหลอดไฟ  ส่วน N  คือสาย Neutral    รูปนี้จะเห็นชัดหน่อย   ว่าสายทั้ง 3 เส้นมีอะไรบ้าง  สังเกตุอย่างไร จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 14:40:44

ความคิดเห็นที่ 14 ก่อนจะยึดตัว timer เข้ากับหน้ากากต้องรื้อขาเสียบและขาตัวเมียออก  แล้วตัดทิ้งเพื่อที่จะต่อสายให้ยาวขึ้น จากนั้นยึดตัว timer เข้ากับหน้ากากหน้าเรียบ   ที่เตรียมไว้    โดยเจาะรูทั้งหมด 5 รู    คือ 2 รู สำหรับการยึดตัว timer กับหน้ากาก    ส่วนอีก 3 รู  ใช้สำหรับการร้อยสายไฟ จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 14:44:31

ความคิดเห็นที่ 15 จากนั้นทำการต่อสายของ timer ให้ยาวขึ้น   เนื่องจากสายเดิมสั้นเกินไป   แล้วร้อยผ่านรูออกไป จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 14:48:21

ความคิดเห็นที่ 16 จากนั้นก็ประกอบตัว timer กลับคืนเหมือนเดิม จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 14:52:01

ความคิดเห็นที่ 17 ผมไม่ลืมที่จะทำสัญญลักษณ์ของสายให้ชัดเจน เพื่อเวลาต่อสาย  จะได้ไม่พลาด  เพราะถ้าต่อผิด Timer นี้คงต้องโยนทิ้งเลย จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 14:55:35

ความคิดเห็นที่ 18 กลับมาที่บล็อคสวิทช์เดิม   ( อย่าลืมเอาเบรกเกอร์ลงก่อน   เพื่อความปลอดภัย  )  สายที่ไม่ใช้ 1 เส้นคือสาย  line ของเดิม ที่เป็นสายเมนจากเบรกเกอร์ชั้นล่าง จัดการพันเทปพันสายไฟให้เรียบร้อยแล้วม้วนเก็บไว้ในบล็อค    เหลือสายเพียง 3 เส้นคือ  สายเมน  (line) จากชั้นบน   สาย Neutral     และสายไปหลอดไฟ (out)     ซึ่งทั้ง 3 เส้นจะต่อกับ 3 เส้นที่ตัว timer ที่เตรียมไว้   ตามสัญญลักษณ์ที่เราทำไว้แล้ว จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 15:00:00

ความคิดเห็นที่ 19 รอชมต่อครับ จากคุณ : สุภาพบุรุษยุคหิน เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 15:00:34

ความคิดเห็นที่ 20 ก่อนต่อสายเข้ากัน    อย่าลืมใส่หน้ากากตัวในเข้ากับบล็อคให้เรียบร้อยก่อน จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 15:04:03

ความคิดเห็นที่ 21 แล้วจึงต่อสายไฟเข้ากัน  จากนั้นก็กดหน้ากากเข้าไปให้เข้าล๊อค    ก็จะได้ timer ติดผนังหน้าตาพอดูได้ จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 15:07:19

ความคิดเห็นที่ 22 จากนั้นยกเบรกเกอร์ขึ้น  ทดลองกดให้ timer ทำงาน    โดยการกดปุ่ม  on/auto/off  ไปเรื่อยๆ   จะเป็นการสั่ง  เปิด-auto-ปิด  และ ปิด-auto-เปิด   สลับกันไป   เปิดคือสั่งเปิดตลอดเวลา    auto คือทำตามโปรแกรมที่ตั้งไว้     ปิดคือ  ปิดตลอดเวลา     เป็นอันว่าเสร็จไป 1 ตัว จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 15:09:24

ความคิดเห็นที่ 23 ต่อมาตัวที่ 2  timer ของไทย ยี่ห้อ Homexpert G-1   ยี่ห้อจะติดไว้ในครัว   เพื่อคุมไฟหลังบ้าน   ที่ต้องใช้ timer ตัวนี้มีเหตุผลคือสวิทช์ไฟในครัว   ซึ่งปูกระเบื้องทั้งหมด   ไม่สามารถเดินสาย Neutral มาที่สวิทช์ได้    ถ้าเดินลอยๆ  ก็ไม่สวยเท่าไรนัก  อีกทั้งบริเวณใกล้ๆสวิทช์ก็ไม่มีเต้ารับที่จะอาศัยเดินสาย Neutral มาได้เลย  จึงต้องเลือกยี่ห้อนี้มาใช้งาน     รูปสวิทช์ในครัว จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 15:50:13

ความคิดเห็นที่ 24 เริ่มแรก   แกะห่อสินค้าออกมา  ดูว่ามีอะไรบ้างที่ให้มากับตัว timer จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 15:53:19

ความคิดเห็นที่ 25 1. คู่มือการติดตั้งและใช้งาน (หนาพอควร รายละเอียดค่อนข้างมาก) 2. ตัว timer 3. ตัว capacitor 4. บล็อคลอย 5. น๊อต 6. ใบรับประกันสินค้าพร้อมเงื่อนไข ลงมืออ่านคู่มือก่อน   เนื่องจากในนั้นระบุไว้ว่าให้อ่านให้ละเอียด  มิฉะนั้นจะต่อผิด  และอาจจะพังได้     อ่านอย่างละเอียด    ได้ความว่า   timer ตัวนี้ต่อได้ 2 แบบ   คือ  1. ต่อแบบที่มีสาย Neutral  และ  2. ต่อแบบไม่มีสาย Neutral  (จริงๆแล้วพอรู้มาบ้างจากการศึกษาเบื้องต้นแล้ว)  จึงเลือกยี่ห้อนี้มาใช้ในครัว ผมเลือกต่อแบบไม่มีสาย Neutral    เพราะว่าตำแหน่งนั้นหาสาย Neutral ไม่ได้เลย จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 15:54:58

ความคิดเห็นที่ 26 ขั้นแรกเขาให้ต่อตัว capacitor ก่อน   โดยในคู่มือระบุว่าให้ต่อกับสายที่เข้าโคมไฟ  2 เส้น   โดยไม่ต้องสนใจว่าภายในโคมจะต่ออย่างไร     เนื่องจากผมใช้คุมไฟ ฟลูออเรสเซนต์  36 วัตต์ที่อยู่หลังบ้าน จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 15:59:20

ความคิดเห็นที่ 27 ก่อนจะต่อตัว capacitor  ก็เลยแกะสวิทช์ออกมาเพื่อวัดไฟ  ว่าเส้นไหนเป็นสายเมน (line)  เส้นไปเป็นสายโหลด (ไปหลอดไฟ)  แล้วทำสัญญลักษณ์ไว้ให้เรียบร้อยก่อน   แล้วจึงสับเบรกเกอร์ลง เพื่อตัวต่อ capacitor เริ่มแกะฝาครอบตัวโครงหลอดไฟออกก่อน    จะเห็นบาลาสต์    สายไฟ 2 เส้นที่เข้ามาในตัวโคม  สาย 2 เส้นนี้คือสายโหลดจากสวิทช์เส้นหนึ่ง   กับสาย Neutral ที่มาจากตู้เมนเบรกเกอร์   (แต่ไม่ผ่านที่ตัวสวิทช์ ) จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 16:02:56

ความคิดเห็นที่ 28 ทำการต่อตัว capacitor  เข้ากับสายเข้าโคมทั้ง 2 เส้น  ดังรูป   (ตัว capacitor  ไม่มีขั้ว   สลับสายกันได้) จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 16:05:32

ความคิดเห็นที่ 29 เมื่อต่อเรียบร้อยแล้ว  ก็จับตัว capacitor ยัดเก็บไว้ในรางโคมไฟให้เรียบร้อย   แล้วปิดฝากลับคืนอย่างเดิม ใส่หลอดไฟกลับให้เรียบร้อย  มาที่ตัวสวิทช์ หลังจากทำสัญญลักษณ์สายไฟไว้แล้ว  ก็ทำการแกะสวิทช์เดิมออก   จากนั้นแกะหน้ากากของ timer ออก  จะเห็นอุปกรณ์ภายในดังรูป จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 16:10:21

ความคิดเห็นที่ 30 ไขน๊อตที่ล๊อคหน้ากากกับบล็อค   เพื่อดึงตัว timer ออกจากบล็อค  เนื่องจากตำแหน่งที่ติดตั้ง  ไม่จำเป็นต้องใช้บล็อคลอยที่ให้มาด้วย  ดูด้านหลังตัว timer จะเห็นสาย 3 เส้น  (กรณีที่ต่อแบบมีสาย Neutral จะใช้หมดทั้ง 3 เส้นและต้องทำการย้าย jumper ภายในด้วย )   แต่เนื่องจากผมจะต่อแบบไม่มี  Neutral จึงใช้เพียง 2 เส้น   (แล้วต่อ capacitor  ที่โคมไฟแทนการต่อสาย Neutral )    คือสาย  Line  (สีแดง)   และสีดำ (สายโหลด) จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 16:14:02

ความคิดเห็นที่ 31 ด้านหลังของตัว timer จะบอกวิธีการย้าย jumper ในกรณีที่ต้องต่อแบบมีสาย Neutral ให้โยก jumper ซึ่งอยู่ภายใน จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 16:17:29

ความคิดเห็นที่ 32 จากนั้นก็ต่อสายของ timer แทนสวิทช์เดิม   โดยสายเมน (line)  ต่อกับสาย Line ของ timer (สีแดง)   สายโหลดต่อกับสายโหลด (load)  ของ  timer (สีดำ)  ง่ายๆเพียง 2 เส้น จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 16:20:48

ความคิดเห็นที่ 33 จากนั้นก็ไขน๊อตล๊อคตัว timer แทนที่สวิทช์เดิม   และปิดหน้ากากเข้าไป   ยกเบรกเกอร์ขึ้นตามเดิม ก็จะปรากฏตัวเลขขึ้นบนตัว timer    แสดงเป็นนาฬิกาปัจจุบัน   ส่วนไฟ led จะแสดงสถานะการทำงาน  ว่าอยู่สถานะ   ON (led ติดค้าง)   หรือ Off (led ดับ)     หรือ  Auto (led กระพริบ) จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 16:24:02

ความคิดเห็นที่ 34 รอชมกระทู้ดีดีค่ะ จากคุณ : นู๋จู เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 16:24:03

ความคิดเห็นที่ 35 ทดลองการใช้งานเบื้องต้น   คือกดปุ่ม OFF เพื่อปิดไฟ (led สีแดงจะดับ)    กดปุ่ม ON เพื่อเปิดไฟ  (led สีแดงจะติดค้าง)   กดปุ่ม mode ด้านขวามือเพื่อให้เข้าโหมด auto (led สีแดงจะกระพริบ) คือทำการเปิดปิดตามเวลาที่ตั้งไว้  ทดลองการใช้งานเบื้องต้นไม่น่ายากเท่าไรนัก จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 16:29:43

ความคิดเห็นที่ 36 สรุป  (ตามความเห็นส่วนตัวผม) 1. เรื่องราคา     ถ้าเทียบกันตัวต่อตัวแล้ว  ของจีนถูกกว่ามากๆ  ของจีนสองร้อยกว่าๆถึงสี่ห้าร้อย  แล้วแต่   ว่าซื้อที่ไหน    ของไทยพันปลายๆ   แต่ถ้าไม่มีสาย Neutral หรือเดินสายลอยแล้วไม่สวย  รับไม่ได้   กับการมีสายลอยๆเดินบนผนัง   ต้องผ่าผนังฝังสายเก็บให้เรียบร้อย   ค่าผ่าผนังฝังสายน่าจะแพงกว่าตัว     timer   2. เรื่องการติดตั้ง     ถ้าตำแหน่งที่ต้องการติด timer มีสาย Neutral อยู่แล้ว  จะเป็นเรื่องง่ายสำหรับ   การใช้ timer ของจีน   หรือติดตั้งในห้องแผงไฟ   ซึ่งหาสาย Neutral ได้ง่าย   ก็จะหมดปัญหาไป   เลย  แต่ถ้าไม่มีสาย Neutral ก็นี้เป็นเรื่องใหญ่พอสมควร  ถ้าจะทำให้มีสาย neutral แล้วบ้านยังคง   สวยอยู่ด้วย  คงต้องจ่ายค่าเดินสายแบบฝังพอสมควร       แต่เนื่องจากที่บ้านผม   เดินสายลอยอยู่แล้ว     และเป็นบ้านเก่าก็เลยไม่ค่อยรู้สึกอะไรมากนัก 3. เรื่องการใช้งาน    เท่าที่ลองใช้งาน   timer ของจีนก็ตั้งไม่ยากนักในความรู้สึกผม   แต่สำหรับคนที่ไม่   ค่อยใช้เทคโนโลยี่แล้ว    ผมว่าไม่ง่ายเท่าไรนัก   เนื่องจากปุ่มการตั้งเยอะมาก  หลายคนคงสับสนไม่น้อย       โดยเฉพาะผู้ใหญ่ในบ้านไม่ต้องคิดเลย  ท่านคงไม่จำวิธีการใช้หรอกครับ    ส่วนของไทย  homexpert   G-1  ใช้งานง่ายกว่า               4. กำลังวัตต์ที่ทนได้    ของจีนรู้สึกว่าจะทนกระแสได้  2000 วัตต์   ดูจากรีเลย์ภายใน   น่าจะได้มากกว่า   นั้น   ส่วนของไทย  homexpert   G-1 ใช้ไตรแอคในการสั่งงานแทนรีเลย์   ในคู่มือระบุว่าทนกำลัง   ได้  600 วัตต์  ในส่วนนี้ถ้าใครใช้กับโหลดที่กินไฟมากๆ  ของจีนจะได้เปรียบกว่า         5. ความสวยงาม   เรื่องของความสวย   ถ้าเป็นบ้านใหม่บ้านจัดสรรบ้านราคาแพง  คงต้องใช้ของไทย     homexpert  G-1 เนื่องจากติดตั้งแล้วเข้ากับพวกสวิทช์เดิมได้ดีกว่า   ส่วนของจีน   ติดตั้งแบบที่ผมทำ     หลายคนคงรับไม่ได้   เพราะมันเหมือนมีก้อนอะไรบางอย่างโผล่มาแถวๆสวิทช์   ทำให้บ้านที่แสนจะสวยงาม   หมดราคาไปพอสมควร   อันนี้แล้วแต่ความชอบ   และการยอมรับได้ระหว่างความสวย กับราคาที่ต้องจ่าย หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับหลายท่าน  ที่ยังไม่เคยใช้งาน หรือกำลังคิดจะใช้งาน  จะได้มีข้อมูลในการตัดสินใจ    ว่าจะเลือกแบบไหนดี จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 16:35:21

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณมากจ้า จากคุณ : pornpun@sut เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 18:11:00

ความคิดเห็นที่ 38 กำลังจะติดเหมือนกัน ขอบคุณมากๆค่ะ จากคุณ : เรือหางยาว เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 18:59:05

ความคิดเห็นที่ 39 กำลังจะไปขนจากคลองถม ๑๐ตัว (แบบจีน) จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 19:17:00

ความคิดเห็นที่ 40 แบบของไทย  ดูเรียบร้อยน่าใช้ดีจัง น่าเอามาติดโชว์ ใช้แค่สวิทช์สัมผัส มีหน้าจอตัวเลข ให้ดูไฮเทค แต่ราคา อึม   ไม่เบา ถ้าติดซัก 2 จุด  ก็หลายพันแฮะ  ไม่เอาดีกว่า จากคุณ : ไฟลามทุ่ง เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 19:41:22

ความคิดเห็นที่ 41 ไม่ได้กวนนะผมว่าใช้สวิทช์เเสงจันทร์( Light Control Switch ) ดีกว่าครับ ง่ายๆ...เบสิค ปัญหาน้อย,ราคาไม่เเพง,ใช้งานได้ดี เพีบงเเต่คุณเลือกสวิทช์เเสงจันทร์ยี่ห้อดีๆเช่น ของ SELCON ญี่ปุ่นเเท้ๆ คุมหลอดไฟ 1 หลอด ขนาด  3 AMP ใช้คุมหลอด 2-3 ดวงก็ขนาด 6 AMP ส่วนใหญ่ตัว Photocell Switch ที่หลายๆคนใช้เเล้วมีปัญหาส่วนใหญ่มาจากใช้ของเลียนเเบบคุณภาพห่วยๆ , ตำเเหน่งการติดตั้ง Photocell Switch ไม่เหมาะสม ถ้าคุณได้ช่างไฟฟ้าที่ติดตั้งเป็นคุณใช้งานเวิร์ค,ใช้งานลืมไปเลยครับ ( หลายๆที่ๆผมติดตั้งมากว่า 25-28 ปี ใช้งานไม่มีปัญหาเรื่องการใช้งาน จะมีการเปลี่ยนตัวใหม่ในบางจุดเพราะเสื่อมตามอายุการใช้งานกว่า 12-15 ปี หรือ มอดเเมลงเล็กๆในบางที่เข้าไปข้างในสวิทช์ก็เเค่ถอดมาเป่าให้สะอาด+ปิดเทปใสรูอากาศเล็กๆไปไม่ให้เเมลง,มอดเข้ามาข้างในอีก จากคุณ : pinhead2000 เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 20:20:16

ความคิดเห็นที่ 42 Photocell Switch ของ SELCON ญี่ปุ่นเเท้ๆ ...........ใช้ลืมครับ จากคุณ : pinhead2000 เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 20:21:42

ความคิดเห็นที่ 43 PhotoSwitch ตามยี่ห้อข้างบน ผมติดหน้าประตูบ้านมามากกว่าสิบปีแล้วยังไม่มีเสีย ปกติดีอยู่ (ต่อสายให้แน่นหนาอย่าให้น้ำเข้า) แต่บางอารมณ์ก็ใช้ Timer บ้าง อย่างช่วงน้ำท่วม ไม่มีใครอยู่บ้านกันหลายอาทิตย์ ผมก็ติดไฟรอบบ้าน(แถวบ้านไฟฟ้าไม่ดับ) ต่อผ่านTimer 1 วงจร ดึงไฟมาจากตู้โหลด ชั้นล่างปิดเบรกเกอร์ทุกตัว (Timer switch เป็นแบบมีแบตเตอรี่ กันเวลาคลาดเคลื่อนหากไฟฟ้าดับ) จากคุณ : เสือห้าว เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 20:40:29

ความคิดเห็นที่ 44 โชคดีบ้านเราเป็นแค่ที่นอนกับที่กินข้าว ไม่ได้เก็บสมบัติ มีเครื่องตั้งเวลาแบบจีน กะแบบเสียบหมุด ใช้ตั้งเวลารดน้ำต้นไม้ตอนไม่อยู่บ้านหลายวันเท่านั้น ตอนน้ำท่วมต้นไม้คงได้รับนำเต็มที่อยู่แล้ว เลยไม่ต้องตั้งเวลา น้ำมาก็ตัดน้ำตัดไฟเผ่นละครับ ไม่เสี่ยงให้ไฟช็อต อีกอย่างบ้านเราไฟมาใต้ดิน น้ำมาหมู่บ้านก็ตัดไฟมืดมิดสนิดเลย ปล่อยบ้านแช่น้ำตามลำพัง จากคุณ : LOSTinHOME เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 22:19:29

ความคิดเห็นที่ 45 ที่บ้านผมมีใช้ทั้ง 2 แบบ แต่ละแบบจะมีวัตถุประสงค์การใช้งานแตกต่างกัน แบบ Photoswitch ใช้กับไฟเสาประตูรั้วหน้าบ้านเพื่อให้ถนนและบริเวณประตูรั้วหน้าบ้านสว่างในเวลากลางคืน ผมติดตั้งมาหลายปีแล้วพอตกเย็นโพ้ลเพล้ก็ติดสว่างขึ้นมาเอง พอเช้ารุ่งสางก็ดับ ยกเว้นหน้าฝน เวลากลางวันแท้ๆ  พอเมฆฝนคลึ้มมืดมาก็จะติดสว่างเองเหมือนกัน   แต่ขอยืนยันว่าถ้าใช้ของดีมีคุณภาพและติดตั้งถูกต้องจะใช้งานได้นานจนลืม   ขนาดหลอดไฟคอมแพคที่ประตูรั้วยังเสียเปลี่ยนไปหลายหลอดแล้ว สำหรับแบบ Timer ผมจะใช้บริเวณระเบียงหน้าบ้าน  โรงรถ และห้องครัวหลังบ้าน ตั้งไว้ให้ติดเวลาประมาณ 6 โมงเย็น และดับประมาณเที่ยงคืน เพราะส่วนใหญ่ผมจะกลับเข้าบ้านดึก 3-4 ทุ่มทุกคืน จึงต้องทำไม่ให้บ้านมืดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ให้ดูเหมือนว่ามีคนอยู่ในบ้านตลอดเวลา จากคุณ : Topkapi เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 23:49:07

ความคิดเห็นที่ 46 ต่อแบบใช้ไทม์เมอร์จีนมาหลายปีแล้วครับ ก็ใช้ได้ดีไม่เคยรวนเลย แหมต่อเหมือนที่บ้านเปี๊ยบเลย ช่างเก็บสายไฟเจาะออกหลังไทม์เมอร์เหมือนกันเลย แต่แนะนำทำสวิทช์ตัดไฟไทม์เมอร์อีกสักอัน เวลาหลอดขาดหรือโคมเสียจะได้ตัดไฟที่เข้าไปไทม์เมอร์ได้  ที่บ้านมีไฟบางดวงในบ้านพ่วงกับไทม์เมอร์ไว้ เวลาไม่ต้องการใช้ก็ใช้กดสวิทช์ที่ทำไว้นี่แหล่ะ จะได้ไม่ต้องยุ่งกะตัวไทม์เมอร์ให้โปรแกรมมันรวนด้วย จากคุณ : Blue_Earth เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 23:56:12

ความคิดเห็นที่ 47 ทำไม ไม่ซื้อหลอดแบบ มีตัวเซ็นเซอร์  ติดเอง เมื่อมืดอ่ะ ง่ายกว่า ถูกกว่าเยอะเลย จากคุณ : SuperCrazyBoy เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 06:20:43

ความคิดเห็นที่ 48 สนใจครับ รบกวนถามครับ มันมี back up ไฟไหมครับ ทั้ง 2 รุ่นเลย กลัวว่าหากมีการตัดไฟหรือไฟดับต้องมาตั้งใหม่ จากคุณ : HvO เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 21:29:13 A:58.64.55.50 X: TicketID:348585

ความคิดเห็นที่ 49 มีทั้ง2รุ่นครับ. ของจีนเป็นแบตเตอรี่ ของไทยเป็นsuper cap ครับ.  Super cap. จะ. Backup. ได้น้อยกว่า. แต่ไม่ต้องเปลี่ยนตลอดการใช้งาน (ตามspecนะครับ).  ของจริงจะเป็นอย่างไร ไม่ทราบ จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 21:13:43

ความคิดเห็นที่ 50 ผมหา Timer G1 หาซื้อไม่ได้เลยครับ จากคุณ : เอ็กซ์คันเกียร์ เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 55 00:48:06

ความคิดเห็นที่ 51 ลองติดต่อที่บริษัทดูครับ   ผมหาในเวป  www.homexpert.us ครับ  ปกติที่เซนทรัลจะมีขาย  แต่จากการสอบถามไปที่บริษัท   เขาแจ้งว่าเนื่องจากเป็นสินค้ารุ่นใหม่  จึงยังไม่มีจำหน่าย จากคุณ : TT_accord เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 15:30:03