Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กะทู้ขอคำแนะนำคับ บ้านไฟไหม้ซอยเพชรเกษม88+กะทู้ระบายความเครียดครับ ติดต่อทีมงาน

ไม่รู้จะหาคำแนะนำที่ปรึกษาจากที่ไหนแล้วครับ ลองพยายามหาจากในเน็ตก็แล้ว โทรไป หลายที่แล้วครับ สมาคม/สภาทนายความ มูลนิธิที่ออกตัวว่าช่วยเหลือสังคมแห่งนึง  วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย สำนักงานเขต เพื่อนๆพี่ๆที่รู้จักกันบ้างหลายๆท่าน ก็ได้รับคำแนะนำบ้าง บางที่ไม่เพียงไม่ช่วยแต่ยังทำให้เราอารมย์เสียหงุดหงิดและท้อใจยิ่งขึ้นกว่าเดิม  โดยเฉพาะหน่วยงานราชการและ.... เข้าเรื่องเลยแล้วกันครับ เรื่องยาวหน่อยนะครับ ผมพยายามจะเล่าให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ


เมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา ขณะที่ครอบครัวผมพักอยู่ที่บ้านที่หมู่บ้านเทพนคร ซอยเพชรเกษม88 เขตบางแค เวลาประมาณ17 น.พ่อผมกำลังเตรียมทำกับข้าวเย็นอยู่ ก็ได้ยินเสียงคนตะโกนว่าไฟไหม้ๆ ช่วยที พ่อผมจึงมาเรียกคนในบ้านวซึ่งขณะนั้นมีผม และน้องอีก2คน รีบวิ่งไปดู ใช้เวลาไม่เกิน2นาทีออกจากบ้านไปถึงโรงงานข้างบ้าน ซึ่งมีประตูเหล็กปิดหนาทึบ คาดว่าเป็นบ้านต้นเพลิง พอเข้าไปถึงก็สวนกับภรรยาเจ้าของโรงงานวิ่งสวนออกมาพร้อมตะโกน เฮียช่วยหนูด้วย ไฟไหม้ ตอนนั้เห็นกองเพลิงลุกสูงท่วมหัวแล้วแต่ยังไม่กินพื้นที่มากนักน่าจะประมาณไม่เกิน10เมตร  คนงานในโรงงานพยายามดับเพลิงกันอยู่ หลายคนแถวนั้นวิ่งเข้ามาดูด้วยและถือถังดับเพลิงมาด้วย พอพ่อผมเห็นกองเพลิงก็บอกว่ามันเกินกำลังแล้วให้รีบโทรเรียกดับเพลิงเร็ว ผมก็ด้วยความตกใจกด 191 ซึ่งจะบอกภายหลังครับว่าเกิดอะไรขึ้น ...กด191พอติดก็มีข้อความอัตโนมัติเสียงหญิงสาว ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังให้บริการอยู่ กรุณารอสักครู่ ....  ผมรอประมาณ2-3นาทีจนไม่ไหว ตัดสายทิ้ง แล้วกดใหม่ก็เหมือนเดิม เป็นอย่างนี้ 4-5รอบ ระหว่างนั้นก็ตะโกนถามไทยมุงที่เริ่มมาดูเหตุการณ์ว่ามีใครโทรเรียกดับเพลิงหรือยังไปด้วย แล้วรีบวิ่งเข้าออกในบ้านเอาเอกสารที่จำเป็นพร้อม ทรัพย์สินที่พอคว้าได้ ยัดใส่กระเป๋าแล้ววิ่งออกมา โชคดีที่ยังมีสติคิดได้ว่าควรทำอะไรหาอะไรเก็บอะไรไว้ก่อน และมีเพื่อนบ้านในละแวกนั้นมาช่วยขนบ้างให้ที่เก็บของบ้าง ถ้าพี่ๆเข้ามาอ่าน ผมขอกราบบบบขอบคุณไว้ ณ ตรงนี้เลยครับ ถ้าไม่มีพี่ๆผมและครอบครัวคงเสียหายกันมากกว่านี้อีกไม่รู้เท่าไหร่ครับ ต่อครับโชคดีอีกอย่างคือบ้านผมโดนน้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมาเพิ่งซ่อมเสร็จและย้ายกลับเข้ามาอยู่เมื่อต้นเดือนมีนาคมนี่เอง ข้าวของส่วนใหญ่รวมทั้งเอกสารต่างๆจึงยังอยู่ในกระเป๋าและในถุงยังไม่ได้เอาออกมาใช้ ยกเว้นข้าวของที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ถึงกระนั้นก็ยังมีข้าวของสูญหายไปบ้างตามกำลังศรัทธาของผู้หวังดีประสงค์ทรัพย์ ไม่ว่ากันครับ หลังจากนั้นประมาณสัก20นาทีได้ แต่เหมือนเวลาผ่านไปร่วมครึ่งวันรถดับเพลิงก็เริ่มทยอยมารถดับเพลิงของหน่วยสาราธณภัยเล็กๆก็มาก่อนแล้วตามด้วยรถไทยมุง......แล้วก็เริ่มต่อท่อฉีดน้ำตั้งแต่ผมวิ่งไปดูเพลิงเริ่มไหม้สูงท่วมหัวตอนนี้เพลิงล้อมบ้านผมเป็นรูปตัว U โดยที่บ้านผมอยู่ตรงกลาง ตัว Uนั้นครับ! ใช้เวลาเพียงประมาณ15นาทีเท่านั้น ตอนนี้พ่อผมบอกไม่ต้องเข้าไปแล้วมันอันตรายเกินไป ไฟไหม้แรงมากครับ ครอบครัวผมได้แต่ออกมายืนอยู่หน้าบ้าน กอดกันแล้วได้แต่ยืนดูบ้านเราว่าจะเป็นยังไง แต่ผมก็ยังใจดีสู้เสือไปบอกพี่ๆดับเพลิงพร้อมยกมือไหว้พี่ๆช่วยฉีดน้ำเลี้ยงบ้านผมหน่อยครับ หลายๆคนก็ช่วยครับ รีบวิ่งไปให้ อีกหลายคนก็บอกว่าคุณเป็นใครมาสั่งผมได้ไง ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วครับว่าผมอาจไปขัดขวางการทำงานของพวกพี่ ขอโทษมา ณ ตรงนี้ครับ แต่อารมณ์นั้นนะครับ ขอให้พี่เข้าใจผมบ้างนะครับ ผมยอมรับครับว่าผมผิดแต่บ้านใครใครก็รักนะครับ ยิ่งเพิ่งเสียเงินเกือบครึงล้านทำบ้านใหม่แล้วย้ายมาอยู่ได้เดือนเดียวนะครับ    แต่บ้านผมไม่มีใครร้องไห้เลยนะครับ อาจเป็นเพราะมีแต่ผู้ชายทั้งบ้านก็ได้ครับ พ่อผมสติดีมาก60กว่าแล้ว บัญชาการได้หมดต้องทำอะไรยังไงดูแลอะไรใครที่ไหนยังไง ลืมอะไรหรือเปล่า โคตรเจ๋งอ่ะ .....เล่าเหตุการณ์ต่อครับ หลังจากพี่ๆระดมฉีดน้ำไปเรื่อยๆรถดับเพลิงคันใหญ่ก็มา ใจเราก็เริ่มชื้นครับ แต่.....รถเข้าไม่ได้เพราะ....ติดไอ้รถพวกไทยมุง ซึ่งซอยหมู่บ้านเป็นถนนแค่2เลน เข้าก็ไม่ได้ ถอยออกก็ไม่ได้ ไทยมุงร่วมหลายร้อย เอาไงดีหล่ะพี่ๆนักดับเพลิงเค้าก็กรูกันเข้าไปในบริเวณบ้านผม ซึ่งยังเป็นไข่ดาวอยู่ในบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้เริ่มลากเชื่อมต่อสายฉีดน้ำเส้นใหญ่ แล้วเริ่มฉีดน้ำ เราได้แต่ยืนลุ้นตลอด เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ประมาณ 18.30 มีแรงสั่นที่พื้นจนรู้สึกได้แล้วโรงงานต้นเพลิงด้านนึง ก็ถล่มลงมาทับ บ้านผมไปประมาณ1ใน3ของทั้งหลัง โชคดีทีไม่มีพี่ๆนักดับเพลิงหรือคนอื่นอยู่ใกล้บริเวณนั้น แต่ก็ยังไม่วายกระโดดหนีเอาตัวรอดกันไหวก่อน พี่ๆดับเพลิงทุกคนทำงานกันอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย บางคนเหนื่อยล้าที่ต้องสู้กับไฟก็ผลัดเปลี่ยนไปกินน้ำนั่งพัก แต่พวกเราก็ยังยืนดูอยู่ ตอนนั้นเพื่อนๆผมที่รู้ข่าวก็เริ่มเข้ามาหาที่บ้านบ้างเผื่อจะช่วยเหลือหยิบจับคิดอะไรได้บ้าง ต้องขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยอีกครั้ง ใครรักเราจริงรู้กันก็ตอนนี้แหละครับ ญาติบางคนรู้ข่าวตั้งแต่ตอนนั้น จนถึงตอนนี้เค้ายังไม่โทรมาเลยครับ เค้าจะโทรหาพวกผมตอนเค้าต้องพึ่งผมนี่แหละครับ

ตอนที่เพลิงไหม้อยู่นั้น ผู้หลักผู้ใหญ่คนเดียวที่ผมเห็นคือท่านผู้อำนวยการดับเพลิงอะไรสักอย่างนี่แหละครับ ท่านตัวเล็กๆท้วมๆครับ ต้องกราบขออภัยนะครับที่ผมจำตำแหน่งและนามท่านไม่ได้จริงๆ ตอนนั้นผมรบกวนท่านหลายๆอย่าง ผมชี้ตรงไหนไฟลุกไหม้ ท่านรีบ ว ไปบอกลูกน้องท่านทันที ลูกน้องท่านก็วิ่งไปฉีดทันทีเหมือนกัน กราบขอบคุณครับ ท่านอยู่ ณ สถานที่เกิดเหตุยันตีสี่เลยนะครับ อันนี้พ่อผมเล่ามา ส่วนราชการอื่นๆก็มีตำรวจมาสอบปากคำผู้ประสบภัยหลายรายรวมทั้งผมด้วย ส่วนหน่วยงานอื่นผมก็อยู่ในที่เกิดเหตุตลอดเวลายันตี1นะครับ แต่ผมไม่เห็นพวกท่านครับ และท่านที่ประสบภัยรายอื่นๆเท่าที่ได้คุยกันก็เหมือนกับผมนะครับ ถ้าผิดพลาดผมจะมาแก้ไขeditให้ภายหลังนะครับ กลับสู่เหตุการณ์ครับหลังจากที่ใช้บ้านผมเป็นไข่ดาวสู้กับไฟเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วก็เริ่มควบคุมเพลิงได้ในวงจำกัด แต่ตอนนั้นคือรอบบ้านผมที่เป็นรูปตัวUนั้นไหม้ไปหมดแล้วเหลือแต่บ้านผมที่โดนไหม้ไปบางส่วนและโดนโรงงานถล่มลงมาทับหลายส่วน พี่ๆดับเพลิงบอกว่าคงไม่สงบง่ายๆต้องเลี้ยงน้ำไปเรื่อยๆอาจยันเช้า พ่อผมจึงบอกให้ผมพาน้องไปนอนที่บ้านญาติก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ ที่นี่เค้าจะอยู่ดูเอง นิดนึงครับ มีโทรศัพท์สายนึงโทรเข้ามาตอนหัวค่ำ ผมไม่ได้รับสายมัวแต่ห่วงบ้านอยู่ เป็นสายของเพื่อนของญาติผมครับญาติที่บัดนี้เค้ายังไม่โทรมาหานั่นแหละครับ ผมโทรกลับไปหาเค้าตอนดึก เค้ารู้ข่าวจากเพื่อนๆผมที่เค้าทำธุรกิจด้วยกันอยู่ เค้าจะโทรมาบอกว่าเค้ามีบ้านอยู่หลังนึง ให้ผมไปยกครอบครัวไปนอนที่นั่นได้เลยแบบไม่มีกำหนด บ้านหลังนั้นเค้าไม่ได้อยู่แล้ว จะได้ไม่ต้องแยกกันไปอยู่ที่อื่น ซาบซึ้งมากครับผมไม่ได้คุยกับเค้าเป็นปีๆเลยนะครับอย่างมากแค่ส่งข้อความไปตอนเทศกาลต่างๆเท่านั้น ขอบคุณอาโกสมใจมากๆๆๆๆๆๆครับ แต่ผมไปส่งน้องไปนอนบ้านญาติแล้วครับ พ่อผมก็เกรงใจด้วย แล้วผมก็ไปนอนที่ทำงานครับ ง่วงมากกกก แต่นอนไม่หลับครับ ใจมันไม่สงบ หลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้แต่หลังตีสามแน่นอนครับ

เช้ารุ่งขึ้นตื่นมาวันที่ 10 เมษายน  7โมงกว่ารีบโทรหาพ่อ บอกไปเจอกันที่บ้านตอนเก้าโมง ไปถึงก็ยังมีรถดับเพลิงจอดอยู่หลายคนครับ มีแต่รถใหญ่ รถเล็กกลับไปหมดแล้ว ควันก็ยังกรุ่นอยู่ทั่วไป ต้องฉีดน้ำอยู่หลายจุดครับตำวจกองพิสูจน์หลักฐานก็มาแต่ยังทำอะไรไม่ได้เพราะไฟยังไม่ดับสนิทจึงได้แต่รอดูแค่รอบๆต้องรอให้ทางโยธามาดูสถานที่แล้วจัดการเคลียร์สถานที่ก่อน แล้วก็กลับไป พี่ๆดับเพลิงบอกจะเข้าไปดูบ้านหรือเปล่า เดี๋ยวเค้าจะพาเข้าไปจะได้ปลอดภัย ก็เข้าครับ พอไปเห็นก็อยากจะทรุดตรงนั้นเลย บ้านที่ซ่อมแซมเพื่อจะสู้กับน้ำท่วม เตรียมป้องกันไม่ให้น้ำเข้าบ้าน ตอนนี้กลับกลายเป็นน้ำที่มาจากการดับเพลิงระบายออกนอกบ้านไม่ได้ น้ำท่วมสูงระดับ1ฟุต ไหลเข้าท่วมห้องทุกห้อง บ้านผมเป็นบ้านชั้นเดียวครับ ข้าวของเครื่องใช้ไฟฟ้าแตกหัก เสียหาย โดนรื้อ เคลื่อนย้าย แตกหักกระจุยไม่มีชิ้นดี  ซึ้งเลยคำว่า โจรขึ้นบ้าน10ครังไม่เท่าไฟไหม้บ้านครั้งเดียว รู้ในใจทันทีเลยคำว่าหมดตัวเป็นยังไง ในสมองเริ่มคิดจากนี้จะทำยังไง จะไปอยู่กันที่ไหน จะใช้ชีวิตยังไง เงินเพิ่งจะทุ่มไปกับการซ่อมบ้านครั้งที่แล้วจนหมดตัว เหลืออยู่ไม่ถึงสองหมื่น แค่คิดก็ท้อไม่อยากจะคิดต่อแล้วครับ พี่ๆที่เคยโดนเหตุการณ์อย่างนี้คงนึกออกใช่ไหมครับ ผมเป็นลูกชายคนโตครับคุยกับน้องเลยนะครับว่าอยากร้องไห้แต่มันร้องไม่ออกอ่ะ ถ้าเราไม่เข้มแข็งแล้วเราจะเป็นที่ยึดให้คนอื่นยังไง พ่อก็หกสิบกว่าแล้ว เงินก็เหลือไม่เท่าไหร่ เฮ้อ จนตอนที่พิมพ์อยู่นี่ยังอดคิดไม่ได้เลยครับว่าจะทำยังไงต่อไป นอนไม่เต็มตื่น มันฝันร้ายทุกคืนสะดุ้งตื่นทุกครั้งครับ

ประมาณสายๆก็มีเจ้าหน้าที่เขตมา3-4ท่าน ก็มาถามว่าเป็นผู้เสียหายใช่ไหม ให้เตรียมเอกสารสำเนาบัตรประชาชน และทะเบียนบ้านอย่างละ1ใบ มาเพื่อรีบนำไปออกเอกสารรับรองเป็นผู้ประสบเหตุอัคคีภัยให้ สำหรับผมบัตรประชาชนอยู่ในกระเป๋าตังค์ ยังพอหาได้ แต่ทะเบียนบ้านอยู่ไหนหว่า ก็ถามพี่ๆเค้าว่าจะทำไงดีหาไม่เจอครับ ข้าวของที่ขนๆไปได้ยังไม่ได้รื้อเลย เค้าก็บอกว่าต้องใช้อ่ะ ผมก็เลยต้องนั่งมอเตอร์ไซค์ไปสำนักงานเขตบางแคซึ่งน่าจะห่างจากบ้านผมต่ำๆก็ร่วม10กิโล ไปกลับก็20กิโล ไปถึงก็หาประชาสัมพันธ์ น่ารักมากให้แบบฟอร์มมากรอก แล้วไปถ่ายบัตรประชาชนมา1ใบนะคะ แล้วรอเรียกตามคิวค่ะ ผมก็ไปถ่ายบัตรมา1ใบนั่งรอประมาณ40นาทีก็ได้เข้าช่องๆนึง เจ้าหน้าที่เขตผู้หญิงท่านนี้คงเหนื่อยมาตั้งแต่เช้า ผมรีบวิ่ง วิ่งนะครับพี่ๆเพื่อนๆไม่ได้อ่านผิด เพราะผมอยากให้ทุกอย่างมันเร็ว เจ้าหน้าที่เขตรอผมอยู่ที่บ้าน ผมวิ่งไปที่เก้าอี้ และนั่งและกล่าวคำทักทาย "สวัสดีครับ" อีกฝ่ายเงียบ ยื่นเอกสารที่กรอกรอไว้อยู่แล้วให้ พร้อมกับ "รบกวนด้วยนะครับ" อีกฝ่าย "ขอบัตรประชาชนด้วย" เออ ดีหว่ะ ทักทายกันเป็นไหมนี่ ผมอยากรู้จัง ตอนเค้าสอบข้าราชการกทมเนี่ย เค้ามีข้อสอบประมาณว่า คำว่าข้าราชการ แปลว่าอะไร ไหม ผมว่าคงมีแต่2+2 =?แน่ๆเลย  สรุปแล้วผมต้องเสียเวลาไปกลับสำนักงานเขต ต้องเสียเวลานั่งรอ ต้องเสียค่าถ่ายเอกสาร ค่าออกทะเบียนบ้านเล่มใหม่ ค่ารถค่าน้ำมัน เพื่อเอาเอกสารจากสำนักงานเขตมาให้เจ้าหน้าที่เขตเพื่อจะกลับไปทำงานที่เขต งงไหมครับ และที่งงยิ่งไปกว่านั้น ตกลงว่าที่ให้ผมถ่ายเอกสารบัตรประชาชนไปยื่นตอนออกทะเบียนบ้านเล่มใหม่เนี่ย ถ่ายไปทำอะไรครับ ผมเห็นเจ้าหน้าที่หญิงท่านเอาไปแล้วก็โยนลงกะบะเอกสาร ไม่ดูด้วยซ้ำ ดูแต่บัตรตัวจริง แล้วบัตรตัวจริงเนี่ยใช้ทำอะไรได้มั่งครับ เห็นตอนมาใหม่ๆ โฆษณากันจังว่าเก็บข้อมูลทะเบียนราษฏรได้ทุกอย่าง แต่ทำไมไปเขตทีไรต้องสำเนาทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน ทำไมครับ ใครตอบได้มั่งผมให้ กี๊บ หน่วยงานของรัฐเค้ารณรงค์paperlessกันนะครับ หน่วยงานกทมก็เริ่มแล้วหลายที่ เอกชนเค้าก็รณรงค์ใช้กระดาษอย่างประหยัด จะได้ไม่ต้องตัดไม้ทำลายป่าถึงแม้ต้นไม้ที่ทำกระดาษมันจะเป็นต้นไม้ที่ปลูกเป็นอุตสาหกรรมก็เหอะแต่กว่าจะโตได้ก็สิ้นเปลืองทรัพยากรอื่นเยอะนะครับ ผมว่าพี่ๆน่าจะฉลาดมากกว่านี้ อันนี้ผมตำหนิเลยนะครับตรงๆ

กลับมาที่เหตุการณ์บ้านผมกันต่อ ตอนบ่ายหลังจากที่ได้เอกสารถ่ายสำเนามาแล้ว ก็ให้เจ้าหน้าที่ไป เจ้าหน้าที่บอกจะเอาเอกสารรับรองมาให้น่าจะเย็นวันนี้เสร็จ ส่วนเรื่องโยธาได้เสนอไปทางท่านผู้อำนวยการเขตแล้ว ต้องรอท่านเซ็น ไม่รู้เมื่อไหร่ ตอนนี้ติดประชุมเยอะ ใกล้วันหยุดยาวสงกรานต์แล้วด้วย พวกเราก็โอเค ระหว่างนั้นก็ได้แต่สำรวจนอกๆบ้านเดินถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน มีกี่มุม ถ่ายแหลกเท่าที่ถ่ายได้ แวะมาเรื่องประกันนิดนึงครับ ตั้งแต่คืนวันที่9ที่เกิดเพลิงไหม้พ่อก็บอกให้เตรียมติดต่อธนาคารเพราะบ้านยังผ่อนธนาคารอยู่ เช้าวันที่10ก็รีบโทรไปธนาคารแต่เช้า ธนาคารกรุงไทยครับ สาขาวรจักร ประสานงานให้อย่างดีครับ ขอบคุณน้องแอร์และเพื่อนพนักงานน้องอีกคนด้วยนะครับที่ให้กำลังใจและช่วยเท่าที่ช่วยได้ครับ ก็ทราบว่าเป็นบริษัททิพยประกันภัยที่เราทำประกันอยู่ก็รีบโทรไปคุย ตกบ่ายก็มีตัวแทนบริษัทประกันเข้ามาที่เกิดเหตุก็มาถ่ายรูป ให้คำแนะนำขั้นตอนต่างๆ สิ่งที่ควรต้องทำต่อไปและสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป อันนี้เค้าพูดเผื่อไว้ก่อนครับ คือเรื่องคนที่รับผิดชอบเหตุการณ์ครั้งนี้ และยังไม่รู้เลยว่าจะได้เงินจากตรงนี้เท่าไหร่ วงเงินบ้านผมน้อยมากครับแค่สองแสนเอง ตกเย็นผู้เสียหายทั้งหมดก็ได้รวมตัวกันเดินทางไปที่ สน หลักสองเพื่อลงบันทึกประจำวันเพิ่มเติมถึงสิ่งที่เสียหายของแต่ละบ้าน โดยมีตำรวจที่เมื่อคืนไปบันทึกเหตุการณ์เป็นผู้บันทึกในวันนี้อีกครั้ง พี่ตำรวจเค้าให้พวกเราประเมินค่าเสียหายเท่าที่จะทำได้แล้วลงบัทึกประจำวันไว้และให้เซ็นชื่อรับทราบ ของบ้านผมผมตีค่าทรัพย์สินพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าและเฟอร์นิเจอร์ที่เสียหายไว้ประมาญ320,000บาท ทั้งนี้ยังไม่รวมโครงสร้างใดๆของบ้าน รั้ว4ด้าน ผนัง ฝ้า หลังคา กระเบื้อง พื้น ประตูใหญ่หน้าบ้านครับ เนื่องจากผมไม่มีความรู้เกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างเลย ราคาก็ไม่รู้ ผมก็เลยขอเว้นไว้ก่อน อีกบ้านนึงที่โดนตีไปสองล้านกว่าครับ หลังจากนนั้นพี่ตำรวจก็บอกว่าคงต้องรอผลการสืบสวนและจากพิสูจน์หลักฐาน ว่าเป็นประมาท หรือจงใจ แล้วจะเรียกทุกฝ่ายมาตกลงกันภายหลัง เสร็จแล้วก็แยกย้ายกันกลับไปพักผ่อน ราว2ทุ่ม

เช้าวันที่ 11 เมษายน ผมไปถึงบ้านประมาณ 7.30 พอถึงบ้านก็พบกลุ่มควันบางๆจึงโทรแจ้งดับเพลิงอีก พอมาถึงพี่ๆดับเพลิงถามว่าโยธายังไม่มาอีกเหรอ ผมก็บอกว่าไม่เห็นเลยครับ ดับเพลิงบอกว่าถ้าไม่เอารถมาไถเปิดพื้นที่แล้วไล่ฉีดน้ำหล่ะก่อมันก็จะเป็นอย่างนี้ตลอด เพราะน้ำมันไม่สามารถลงไปถึงต้นเพลิงได้  ก็ฉีดน้ำกันสักพักพอควันหมดพี่ๆก็กลับกันไป ผมก็หาข้าวกินแถวนั้น ระหว่างนั้นเพื่อนๆบ้านใกล้เคียงก็ถามว่าเป็นไงบ้างเรื่องไปถึงไหนแล้ว ผมก็บอกว่ามันไม่ไปไหนเลยครับ เจ้าของโรงงานต้นเพลิงยังไม่มาคุยอะไรกับพวกเราเลย ทั้งๆที่เค้าก็เดินผ่านหน้าเราไปหลายๆๆๆๆรอบมาก แต่เหมือนกับพวกเราไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้น  มีหลายๆคนขับรถหรูๆมาถามเจ้าของโรงงานว่าเป็นยังไง เค้าก็กระซิบกระซาบกัน ไม่รู้มันจะปิดอะไรกันหนักหนา  ไม่รู้จะทำไงก็เลยกลับไปพักดีกว่าประมาณเที่ยงๆ หลังจากนั้นก็ปิดสงกรานต์ แล้วผมก็ยังไม่ได้เข้าไปที่บ้านอีกเลย เพราะไม่รู้จะเข้าไปทำอะไร ติดต่อหน่วยงานอะไรก็ทำไม่ได้ เดินหน้าทำอะไรต่อก็ไม่ได้จนกระทั่งทุกวันนี้ครับ

หลังจากที่ได้อ่านมาทั้งหมดแล้ว ผมขอรบกวนถามดังนี้ครับ

1 ผมควรจะเริ่มต้นติดต่อที่ไหนดีครับ ตอนนี้ผมสับสน งงไปหมด ไม่รู้จะเริ่มไงดี

2 ตอนนี้สิ่งที่ผมกังวลมากที่สุดคือเรื่องตัวบ้านครับ ผมอยากหาวิศวกรมาตรวจสอบโครงสร้างของบ้านครับ ว่า มันยังพอซ่อมไหวไหม หรือต้องรื้อทิ้งแล้วสร้างใหม่ มีคำแนะนำใดๆบ้างครับ ผมโทรไปวิศวกรรมสถานแล้วเค้าบอกให้ติดต่ออีกทีวันศุกร์ จะมีวิศวกรอาสามาให้คำปรึกษา แต่ผมใจร้อนครับอยากให้รู้ว่าจะทำอะไรได้บ้าง จะได้วางแผนชีวิตต่อไปครับ

3 ถ้าเจ้าของโรงงานต้นเพลิงเค้าไม่รับผิดชอบ พวกผมจะทำอะไรได้บ้างครับ มีหน่วยงานไหนที่จะช่วยเหลือได้บ้างครับ ผมโทรไปสมาคมทนายความแล้ว ก็เจอคุณทนายพูดว่าฟ้องแพ่งเลย ผมเป็นทนายให้ คิดไม่แพงหรอก ผมถามว่าประมาณเท่าไหร่ เค้าตอบว่าไม่เท่าไหร่หรอก ไอ้ไม่เท่าไหร่ของพี่มันอาจจะเยอะของผมก็ได้นะครับ ทำไมเค้าบอกค่าจ้างไม่ได้ครับ แล้วผมก็โทรไปสภาทนายความอีก ก็เจอคำตอบประมาณว่าก็ต้องฟ้องแพ่งไง แต่งตั้งทนายเอาไง เรียกร้องค่าเสียหาย เป็นไหม จะใช้เวลาเท่าไหร่ บอกไม่ได้หรอก ไม่รู้เรื่องศาลหรือไง ใช่ครับผมไม่รู้ถ้าผมรู้ผมไม่โทรหาพี่หรอกครับ  

4 ถ้าผมจำเป็นต้องสร้างบ้านใหม่ผมควรจ้างบริษัทรับสร้างบ้านที่มีชื่อเช่นซีคอน หรือบริษัทรับเหมาดีครับ ราคาต่างกันมากไหมครับ เป็บบ้านชั้นเดียว ยกสูง ขนาดประมาณ15x20x3เมตรครับ 4ห้องนอน 1ห้องน้ำ  

5 ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะหมดแรงครับ ไม่รู้จะกระตุ้นตัวเองยังไง ทำไงดีครับ

ขอบคุณทุกๆท่านล่วงหน้าเลยนะครับ ที่อดทนอ่านและให้คำแนะนำผม พยายามจะเข้ามาอ่านและตอบทุกวัน รายงานความคืบหน้าด้วยครับ หากมีสิ่งใดที่ผมเข้าใจผิดไป ผมพร้อมจะแก้ไขeditให้นะครับ ขอบคุณมากๆจริงๆครับ

จากคุณ : jiniw
เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 01:06:40




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com