ความคิดเห็นที่ 1 การมีกิจการบ้านเช่า ถือเป็นการลงทุนชนิดหนึ่ง มูลค่าเพิ่มขึ้นทุกวัน และได้เงินสดทุกเดือน คำนวนให้แม่ดูสิครับว่าเงินฝากกับค่าเช่าบ้านต่อเดือนอันไหนมากกว่ากัน พี่ชายผมทำงานเกี่ยวกับรับเหมา เล่าว่ามีผู้หญิงคนนึงไม่ยอมแต่งงานสักที อาชีพของเธอ คือซื้อบ้านมือสองลงทุนปรับปรุงใหม่แล้วก็ขาย พี่ผมก็รับงานจากคนนี้นี่แหละ อยู่แถวสุขาภิบาล 3 ซะด้วย จากคุณ : dansivilai เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 08:15:22

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่ต้องสนใจ หากไม่ได้ยืมเงินใครมาผ่อน หรือทำให้ครอบครัวเดือดร้อน จากคุณ : ps เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 08:49:57

ความคิดเห็นที่ 3 ตั้งราคาซัก 30 ล้านครับ ถ้าน้าหาคนมาซื้อได้ในราคานี้ก็ค่อยทำตามน้า จากคุณ : ผู้ชายธาตุลม เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 08:53:14

ความคิดเห็นที่ 4 ผมก็เห็นด้วยกับการมีบ้านให้เช่า แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้เช่าหากดีและจ่ายตรงเวลาหรือเช่าระยะยาวน่าจะดีกว่าเก็บเงินฝากธนาคารนะครับ จากคุณ : panom.k (pano.tip) เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 09:25:55

ความคิดเห็นที่ 5 บ้าน ที่ดิน มีไว้ไม่ขาดทุน มีแต่ราคาจะขึ้นไปเรื่อยๆ เงินฝาก แม้ทองคำ ก็ยังมีมูลค่าลดลงได้ แต่บ้านและที่ดิน ยิ่งมีแต่คนแสวงหา ราคาขึ้นตลอดเวลา ขึ้นมากกว่าอัตราเงินเฟ้ออีก อีกทางที่จะให้แม่รู้ คือให้แม่มาอ่านกระทู้นี้ดู จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 09:31:41

ความคิดเห็นที่ 6 คิดเอาดู ประชากร มีเพิ่มมากขึ้นทุกวัน แต่พื้นที่  มีเพิ่มขึ้นหรือไม่  นับวันมีแต่จะลดน้อยลง ผมบอกกับเพื่อนๆ เสมอว่า  ถ้าที่ดินที่ไหนเห็นแล้วว่า มีอนาคต  ถึงจะแพงก็ต้องกัดฟันซื้อ เพราะอีก 10 ปี ข้างหน้า   คนทำงานทั่วไป  จะไม่มีปัญญาซื้อ เพราะราคามันเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา อย่างที่บ้านที่ผมอยู่  ผมซื้อมาเมื่อ 5 ปีก่อน ตอนซื้อ  วาละ 20000 ตอนนี้มีคนมาขอซื้อแล้ว 35000  ยังไม่คิดจะขายเลย แค่ 5 ปี เอง  ราคามันขึ้นมาเกือบเท่า จากคุณ : บ่งเสี้ยน เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 09:58:05

ความคิดเห็นที่ 7 เอางี้บอกน้าว่าขายน้านั่นแหละ ถ้าซื้อมา 3ล้าน ขายมัน5ล้าน เลย เจือกดีนัก จากคุณ : Tamจัง เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 10:03:53

ความคิดเห็นที่ 8 น้าคงรอยืมเงินแม่อยู่ ที่จริงมีบ้านเช่าก็ดีนะอาชีพนี้ไม่ต้องทำไรมาก เรื่องบ้านเสียเพราะคนเช่ามันไม่กี่ตังหรอก ยังมีคนมาซื้อบ้านผมเอาไปทำบ้านเช่าเลย เขาจะเอาหมดเลยรวมบ้านที่ผมอยู่ด้วยให้ราคาพอใช้ได้ เพราะหลังที่ผมขายเขามีฝรั่งมาขอเช่าผมอยู่แต่ผมไม่มีเวลาไปซ่อมบ้านให้เขาเลยเอาไปทำเลย คิดดูบ้านก็ได้เงินก็ได้ ไม่มีอะไรดีกว่านี้แล้ว จากคุณ : ไม่รู้เรื่องอะไร?แต่ขอก่อน เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 10:08:28 A:124.120.72.112 X: TicketID:332225

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าคุณมีเงินสดอยู่ในมือ จะมีเหตุให้คนมาขอยืมคุณ ถ้าไม่ให้ยืม ก็ว่าใจดำ จากคุณ : ตังชัย เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 10:39:06

ความคิดเห็นที่ 10 บ้านชื่อคุณหรือเปล่า ถ้าใช่ ยังไง ๆ ต้องคุณเท่านั้นถึงจะขายได้ เพียงแต่คงรำคาญหูไปเรื่อย ๆ เท่านั้นค่ะ อย่าใส่ใจก็หมดเรื่อง หรืออาจจะอือ ๆ ออ ๆ ไป แล้วบอกว่าขายไม่ได้ แค่นั้นแหละค่ะ เดี๋ยวค้านมาก ๆ ก็หมดแรงไปเอง จากคุณ : papa mama love u เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 11:26:16

ความคิดเห็นที่ 11 ตั้งราคาขายแพงเวอร์ แค่นี้เรื่องก็จบแล้วน่ะผมว่า จากคุณ : Car_Bomb เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 12:07:51 A:202.183.200.133 X: TicketID:318772

ความคิดเห็นที่ 12 ระวังเงินหมด เพราะคนยืม ไม่ให้ก็ไม่ได้ โกรธกันอีก จากคุณ : แน่เลย เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 12:14:18 A:171.5.100.165 X: TicketID:232449

ความคิดเห็นที่ 13 บอกแม่ไปเลยค่ะว่าการซื้อบ้านคือการเก็บเงินของหนู   แก่ตัวไปขี้เกียจทำงานก็ให้บ้านทำงานให้   ไม่ทำงานก็มีเงินใช้จ่ายพึ่งตัวเองได้ไม่เดือดร้อนใคร   หากจำเป็นขึ้นมาก็ขาย    แต่ถ้าเก็บเป็นเงินสดเดี๋ยวก็มีคนมายืม   ให้ยืมไปก็ต้องมานั่งกลุ้มใจว่าเค้าจะคืนหรือเปล่า   ไม่ให้ยืมก็โกรธกัน   ให้ยืมแล้วไม่คืนก็เท่ากับที่เก็บมาน่ะหมดเลยแถมเกลียดกันอีก   ทุกวันนี้ถึงต้องผ่อนบ้านก็ไม่ได้เดือดร้อน   ไม่ได้ไปขอยืมเงินใครมาใช้ จากคุณ : SWEET TOFFY เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 12:27:21

ความคิดเห็นที่ 14 ผมก็ทำแบบคุณครับ ไม่รู้ว่าของคุณมีปัญหาเรื่องผู้เช่ามั้ย  ของผมบังเอิญโชคดี  คนเช่ารักบ้าน ทำบ้านสะอาด น่าอยู่ ผมว่าลงทุนเรื่องบ้าน มันคุ้มนะ มีเสียบ้างซ่อมบ้าง  ตามเวลา ค่าเช่าก็มาสบทบกับค่าบ้าน เผลอๆ เหมือนจะได้บ้านฟรีเลยนะครับ ลองคุยกับคุณแม่ดูครับ  อนาคต บางที มีเงิน แต่ไม่มีคนขายนี่ก็พูดยากนะ แต่ผมไม่อยากให้ขายครับ  ถ้าเราไม่เดือดร้อนเรื่องการเงิน และไม่มีปัญหาเรื่องผู้เช่า จากคุณ : เด็กโขทัย เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 15:06:36

ความคิดเห็นที่ 15 แม่เชื่อน้าค่ะ เพราะน้าเป็นคนที่ช่วยส่งเราเรียนด้วยค่ะ แต่แม่ก็เล่าให้ฟังว่า เพราะน้าเคยมายืมเงินยายเราทำการค้า ยายเราเลยสั่งน้าและลุงไว้ว่าอย่าทิ้งแม่เรา ดังนั้นตอนเรียนเราเลยมีคนอุปถัมก์ทั้งคุณลุงคุณน้า แต่เราก็มีคนเห็นด้วยนะคะ แต่น้าเค้าอยู่เชียงใหม่ เค้าว่าเราทำถูกแล้ว เพราะน้าเค้าก็ชอบซื้อบ้านและที่ดินเก็งกำไร แต่เค้าก็อยากให้เราทำประเภทซื้อมาขายไป เก็งกำไรระยะสั้นๆมากกว่า แต่เราไม่ค่อยอยากยุ่งยากเพราะการซื้อหรือขายบ้านแต่ละครั้งไหนจะทำเรื่องที่ธนาคาร ไหนจะค่าโอนอีก ปวดหัว เราเลยกะว่าจะผ่อนไปเรื่อยๆเอาค่าเช่ามาผ่อน เอาดอกเบี้ยมาลดหย่อนภาษี แต่น้าที่อยู่กรุงเทพเค้าชอบนัดเรากับแม่เพื่อเลี้ยงอาหาร พร้อมกับถามเรื่องราวต่างๆด้วย ทุกครั้งก็พูดทุกครั้งเรื่องบ้าน จนแม่เราเริ่มจะเชื่อน้า หาว่าซื้อบ้านระวังโดนเค้าโกง ซื้อแล้วมีโฉนดหรือเปล่า เราก็เถียงเราจดจำนองถูกต้องกับธนาคารจะโดนโกงได้ไง แต่แม่เค้าจะชอบอ้างเพื่อนบ้านด้วย เค้าบอกว่าเพื่อนข้างบ้านที่สนิทเค้าเคยผ่อนที่ดิน แล้วไม่ได้โฉนด แล้วบังเอิญข้างบ้านทำงานธนาคาร แม่ก็ยิ่งเชื่อ จนเรากล่อมก็หันมาหาเรา แต่สงกรานต์ที่ผ่านมาโดนน้ามาพูดให้ฟังอีก เราก็เลยปวดหัวอีกแล้ว เราไม่อยากขายเลย กลัวมีปัญหากับคนเช่าด้วย เค้าก็ดีนะคะ ไปต่อสัญญาปีที่ผ่านมาบ้านเราก็เรียบร้อยมากๆสะอาดเชียว เงินเค้าก็โอนให้ก่อนทุกครั้งไม่เคยทวง ขนาดเงินมัดจำตอนที่เค้าจะเช่าเราครั้งแรกเค้านึกว่าจะจ่ายเราหลังจากอยู่แล้ว แต่พอเราบอกว่าต้องก่อนเซ็น เค้ายังรีบไปเอามาให้เราเดี๋ยวนั้น แต่พี่ที่ทำงานเราเค้าเข้าใจเรานะคะ มีแต่คนเห็นด้วย ว่ามีไปเถอะบ้านที่ดิน ที่จริงเรายังมีที่ดินให้เค้าเช่าอีกแปลงหุ้นกับเพื่อนที่ทำงาน ซื้อไว้นานแล้วตั้งแต่แถวลาดกระบังยังไม่เจริญ ตอนนี้ให้เค้าเช่าทำร้านคาราโอเกะ (แต่ขายไม่ได้นะคะ สัญญายาวนาน แต่ก็ไม่คิดจะขายเพราะราคาที่ดินแค่ 80,000 แต่ให้เค้าเช่าได้เดือนละ ห้าพัน) เรื่องมีเงินแล้วมีแต่คนมายืมเรื่องจริงเลยค่ะ แบบว่าตอนให้ยืมนี่พูดดีมากๆ เห็นเป็นเพือนสนิทกัน แต่พอไปทวงเหมือนเราเป็นหนี้เค้าเลย เค้าพูดว่าเราว่า "รู้ว่าไม่มียังมาทวงอีก" อ้าวเงินตูนะ ทำไมพูดกันยังงี้ ตอนนี้ก็เลยกรวดน้ำคว่ำขันกันไป ไม่ได้ก็ขี้เกียจทวงแล้ว จากคุณ : ชอบออกกำลัง เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 15:18:21 A:1.20.0.188 X: TicketID:004573

ความคิดเห็นที่ 16 ผมว่าน้าคุณต้องการใช้เงินแน่เลยถ้าแม่คุณไม่ยอมขายจะเป็นเรื่องใหญ่ไหมครับ ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ผมถือว่าน้าคุณรักเงินมากกว่าแม่คุณแน่ บ้านผมก็เป็นเหมือนกัน ถ้าบ้านที่ให้เช่าเป็นชื่อของแม่คุณลองคุยกับแม่ว่าวันข้างหน้าเมื่อแม่หรือคุณแก่เฒ่าไม่มีแรงจะเอาเงินที่ไหนมาใช้ ถ้าฝากหรือเก็บไว้ในธนาคารอาจหมดได้ถ้าไม่มีการวางแผนการใช้จ่าย เรื่องมรดกไม่เข้าใครออกใครนะครับทางที่ดีควรคุยกับแม่ว่าอย่าขายผมเชื่อว่าแม่คุณก็ยังลังเลใจอยู่เหมือนกันถ้าขายขายเพราะน้าคุณยังไงผมว่าแม่กับลูกย่อมสนิดกว่าน้าครับ  ถ้าผมแนะนำคุณลองไปกู้มาให้น้าดีกว่าถ้าเค้าต้องการเงินจริง ๆ  ถือเป็นค่าส่งเสียคุณก็แล้วกัน จากคุณ : a (ladaja) เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 16:59:32

ความคิดเห็นที่ 17 จะบ้าไปแล้ว เงินฝากประจำ ดอก 3% อสังหาริมทรัพย์ ผลตอบแทนไม่รวมราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้น 7-10% ใครขายเป็นเงินเอามาให้ญาติยืมก็โง่มาก จากคุณ : Vancin เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 17:35:11

ความคิดเห็นที่ 18 บ้านที่ให้เช่าเป็นชื่อเราทั้งคู่ค่ะ แต่เค้าอยากให้เราขายเพราะเราเป็นลูกคนเดียว มีไว้ทำไม เค้าว่าอยากให้เราเก็บเป็นเงินมากกว่า แต่เราเก็บเงินไม่ค่อยอยู่น่ะสิคะ ชอบซื้อของ ประกอบกับดอกเบี้ยบ้านก็เอามาลดหย่อนภาษีได้ แต่น้าเรากับอาเราเค้าอยากให้ขาย ไม่ได้หวังเงินเราหรอกค่ะ เราว่าน้ากับอาเราไม่อยากให้เรามีภาระมากกว่า ประกอบกับกลัวเราเจอคนเช่าไม่ดีมากกว่า จากคุณ : ชอบออกกำลัง เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 18:17:23 A:1.20.1.169 X: TicketID:004573

ความคิดเห็นที่ 19 อย่า..อย่าขาย..และอย่าขาย...เก็บไว้ดีแล้วครับในเมื่อบ้านนั้นสามารถทำรายได้ให้เราและเราไม่เดือดร้อน ค่าเชาที่ได้มาคุ้มกับค่าผ่อนยิ่งไม่ต้องขาย..หากแม่อยากขายคุณก็ขอซื้อในส่วนของคุณแม่ละกัน..น้าหรือญาติไม่ต้องสนใจอาจเป็นไปได้ตามที่คห.อื่นสงสัยไว้ญาติเชียร์ขายจะได้มายืมตัง..หรือเป็นพวกหัวเก่าไม่นิยมการเก็บกิน จากคุณ : mr.digital เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 18:47:03

ความคิดเห็นที่ 20 พิมพ์กระทู้นี้ ไปให้แม่อ่านนะคะ โดยเฉพาะความเห็นของม่วยถ่าว จะว่ามองโลกในแง่ร้ายก็ยอม แต่คนที่แนะนำ เชื่อแน่ว่า ในใจเค้าไม่ได้นึกถึงเหตุผลที่อธิบายมาแม้แต่น้อย คิดแต่เพียงว่า ถ้าเก็บไว้ในรูปเงินสด เค้าก็มีโอกาสขอหยิบขอยืมง่ายกว่า (และอาจไม่คืน) จากคุณ : ม่วยถ่าว เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 19:16:54

ความคิดเห็นที่ 21    น้าไม่มีสิทธิ์  เราโตแล้ว แม่ก็ไม่มีสิทธิ์บังคับเรา  เพราะเป็นทรัพย์สินส่วนตัว  น้าจุ้นมากๆ   ก็บอกให้ขายบ้านน้าไปก่อน  ผู้ใหญ่ชอบเจือกเรื่องชาวบ้าน  ไม่ต้องนับถือหรอก   จากคุณ : พุดน้ำผึ้ง เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:13:05

ความคิดเห็นที่ 22 โดยเฉพาะกรณีจขกท บ้านไม่ใช่ว่าจะว่างผู้เช่า จากคุณ : ม่วยถ่าว เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 22:46:22

ความคิดเห็นที่ 23 ตลกดี มีอ้างคนเช่าพังบ้าน ก็บ้านจะเช่าต้องมีค่ามัดจำอยู่แล้ว แล้วถ้ามันพังหลังคาแล้วคนเช่าจะอยู่เองยังไง -- จากคุณ : 3N เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 00:53:19

ความคิดเห็นที่ 24 ก็บอกน้าให้ขายบ้านแล้วมาเช่าบ้านคุณอยู่สิครับ ขอซื้อต่อน้าสัก 500,000 บาทเพื่อตัดปัญหา จากคุณ : TLL01 เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 10:49:29

ความคิดเห็นที่ 25 เราว่า ทั้งน้าทั้งแม่คุณต่างก็หวังดีกับคุณมากกว่าจะสนใจเรื่องเงินอะไรนั่น เค้ากลัวคุณโดนโกง หรือ มีปัญหากับผู้เช่า เพราะคุณก็เป็นผู้หญิงจะำอะไรผู้ใหญ่เค้าย่อมห่วงใยมากกว่าอยู่แล้ว เท่าที่อ่านๆ มาเราว่า คุณค่อนข้างจะอ่อนต่อโลกพอสมควร เค้าถึงได้ห่วงคุณมาก และอยากให้คำแนะนำ ถ้าคุณเห็นว่า คุณสามารถดูแลทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง ก็บอกเค้าให้แน่นอนว่า ไม่ขายจะให้เช่าต่อไป คุณทำได้ แม่กับน้าก็จะคงไม่บังคับคุณหรอก จากคุณ : kwanmanee เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 13:27:28

ความคิดเห็นที่ 26 เหตุการณ์ต่างกับเรา เราอยากขายบ้าน มาโปะลดหนี้บ้านใหม่ที่เพิ่งกู้ ไม่อยากเก็บค่าเช่า มาจ่าย ดอกเบี้ย ส่วนเรื่องน้า คล้ายกับเราอีกแหละ ตอนแม่มีปัญหา น้าก็ช่วยมาตลอด แต่หลังๆ น้าใช้เงินผิดวิธี ก็เลยเป็นฝ่ายมาขอความช่วยเหลือ เรื่องเงิน เรื่องทอง มันอึดอัดเกินพูด แต่ถ้ามองเรื่อง บุญคุณ อันนี้อยู่ที่คุณแล้วค่ะ ว่าจะกำหนดขอบเขตขนาดไหน ตอนเด็กๆ เราก็คิดแบบหลายๆคน ไม่อยากให้ยืม ตอนนี้เราว่า อีกหน่อยคนเราก็ตายจากกันไป อะไรไม่หนักหนา ก็ให้ไปเถอะค่ะ จากคุณ : โซดาจืด เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 22:22:10