PANTIP.COM : R12089843 ต้นไม่ในกระถาง ต้องใส่ปุ๋ยแบบไหน พรวนดินยังไงครับ [ตกแต่ง-จัดสวน]

ความคิดเห็นที่ 4

เมื่อมีการปลูกต้นไม้ลงดินในกระถางนั้น ต้นไม้จะเจริญเติบโต ด้านบนเป็นลำต้น กิ่ง ใบ ดอก ผล ส่วนด้านล่าง จะเจริญเติบโตเป็น รากแก้ว รากแขนง รากฝอย เพื่อยึดดินและดูดซึมสารอาหารจากดินครับ

ดังนั้น เมื่อส่วนของราก ถูกปิดกั้นบริเวณด้วยกระถาง แต่การเจริญเติบโตก็ยังดำเนินต่อไป รากจึงขดวนอยู่ภายในรอบๆกระถางนั่นเอง สารอาหารที่อยู่ในดินก็จำกัด เมื่อถูกดูดขึ้นไปใช้อยู่เรื่อยๆ สารอาหารในดินจึงค่อยๆหมดไป เป็นที่มาของ คำถามที่ว่า ทำไมดินมันจึงแห้งแข็งครับ

ต้นไม้ที่ถูกจำกัดเนื้อที่อยู่ในกระถาง การเจริญเติบโต จึงถูกจำกัดไปด้วยครับ โตก็โตไม่ได้ อาหารก็ถูกจำกัด จึงทำให้ต้นไม้แคระแกน เติบโตน้อยและช้ากว่าลงดินครับ

เมื่อเราทราบที่มาที่ไปของดินและต้นไม้ในกระถางแล้ว วิธีแก้ไขและปฎิบัติ เพื่อให้ต้นไม้เจริญงอกงาม และมีสารอาหารในดินเพียงพอต่อการเจริญเติบโต ก็คือ

- หมั่นเพิ่มสารอาหาร ลงไปที่ดินในกระถาง แต่ไม่ควรใส่มากเกินไป เพราะจะเกิดความเข้มข้นย้อนกลับ แทนที่รากจะออสโมซีสสารอาหารเข้าลำต้น กลับจะกลายเป็นถูกดูดสารอาหารออกจากลำต้น ทำให้ต้นไม้ตายได้ครับ สารอาหารบางตัว ก็อาจจะไม่เป็นที่ต้องการของต้นไม้ในเวลานั้นๆก็มีครับ เช่น ไนโตรเจน เป็นสารทำให้ต้นไม้เจริญเติบโตงอกงามโดยเฉพาะทางใบ แต่ถ้าให้มากกับต้นไม้ที่ต้องการเจริญงอกงามทางดอก ก็ไม่มีประโยชน์ กลับกลายเป็นสะสมในดินมากเกินไป ต้นไม้นั้นจะไม่ออกดอกก็ได้ครับ ดังนั้น ปุ๋ยที่เราจะใส่ให้ต้นไม้ในกระถาง จึงควรให้ในปริมาณที่เหมาะสม และให้สารอาหารที่เหมาะกับต้นไม้นั้นๆครับ เช่น การให้ปุ๋ย ออสโมโคส ซึ่งเป็นปุ๋ยประเภทค่อยๆปล่อยสารอาหารออกมาจนหมดภายใน 3 เดือน ก็เหมาะกับการใส่ลงกระถาง หรือ สูตรปุ๋ยเสมอ เหมาะกับต้นไม้ทั่วไป สูตรปุ๋ยตัวกลางและตัวหลังเยอะ เหมาะกับ ต้นไม้ที่ให้ดอก และผล เป็นต้นครับ หรือจะให้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกซึ่งเป็นปุ๋ยธรรมชาติก็ได้ จะช่วยทำให้ดินไม่จับแข็งตัวเกินไปครับ

- ทุกๆ 6 เดือน ถึง 1 ปี จะต้องมีการเปลี่ยนกระถาง เปลี่ยน/เพิ่มดิน ในกระถาง เพราะว่า รากไม่สามารถขยายการเจริญเติบโตได้ สารอาหารในดินในส่วนที่อยู่ข้างในก็หมดไปโดยถูกแทนที่ด้วยรากของต้นไม้ครับ วิธีการเปลี่ยนกระถางต้นไม้ ขึ้นอยู่กับขนาดและรูกลักษณ์ของกระถาง ถ้ากระถางขนาดเล็ก มูลค่ากระถางต่ำ หรือ รูปลักษณ์ของกระถางไม่สามารถให้แซะรากและดินออกมาได้ (รูปร่างปากแคบท้องกว้างคล้ายโอ่ง) ก็คงต้องใช้วิธีทุบให้แตก จากนั้น อาจจะต้องใช้มีดตัดรากบริเวณรอบๆออกบ้าง แล้วเปลี่ยนกระถางที่ใหญ่ขึ้น รากก็จะได้ ดินใหม่ที่มีสารอาหารและปุ๋ยที่เติมเพิ่มในกระถางใหม่

ส่วนรากก็สามารถเจริญออกไปได้มากขึ้นครับ ส่วนถ้าเป็นกระถางที่ใหญ่ การเปลี่ยนขนาดกระถางจะเป็นการยาก ก็ต้องใช้วิธี แซะดินและรากรอบๆกระถางออก ให้ขนาดของดินที่ยึดลำต้นอยู่นั้น เล็กกว่าปากกระถาง ซึ่งอาจจะสามารถยกลำต้นออกจากกระถางได้ ก็สามารถเพิ่มและเปลี่ยนดินในกระถางได้ครับ ในกรณีที่ยกลำต้นขึ้นมาไม่ได้ หลังจากการแซะดินรอบๆกระถางออกมาได้แล้ว ก็นำดินใหม่ที่มีส่วนผสมของปุ๋ยหยอดใส่เข้าไปแทนที่ก็ได้ครับ

ถ้าทำการเปลี่ยนขนาดกระถางและเปลี่ยนดิน ทุกๆ 6 เดือน ถึง 1 ปี คุณจะเห็นการเจริญเติบโตงอกงาม ของต้นไม้ในกระถางได้อีกนานครับ และถ้ามีการให้ปุ๋ยที่เหมาะสม หรือมีการให้ปุ๋ยหมักลงในดินในกระถาง ก็จะทำให้ดินไม่แห้งแข็งครับ

จากคุณ : Moonlight Sonata

เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 10:34:40