ความคิดเห็นที่ 1 การได้อยู่ Offshore ถือว่าเป็นความฝันของเด็กผู้ชายหลายๆคนเลยครับ ผมก็หนึ่งในนั้น และความฝันผมก็เป็นจริงแล้ว แต่แค่ช่วงสั้นๆ ไปมา 2 รอบ รอบล่ะ 1สับดาห์ ไป PRP(ปตท) กับ ERP(chevron) ผมทำงานระบบ SCADA เข้าเรื่องดีกว่า 1. พออยู่แล้วครับ เงินเดือนเพิ่มทุกปี อายุเยอะขึ้น จะมีความประหยัดมากขึ้น(ใช้เงินเป็น) อย่าลืมหาวิธีเงินต่อเงิน 2. ข้อนี้ตอบไม่ได้ เพราะผมยังโสดอยู่เลย 30 วัยขบเปราะ คริๆ มีลูกค้าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นแน่ๆ 3. การออมของผม เดือนๆผมก็เหลือเก็บไม่เท่ากันหลักการของผมคือ ทำให้มันเอาออกมาใช้ยาก แต่ก็ไม่ง่ายเกินไป เลยตัดสินใจซื้อฉลากออมสิน รางวัลใหญ่สุดที่เคยได้ คือเลขท้าย 5ตัว 300บาท ได้ทุกเดือน  ซื้อรวมแล้วก็หลายแสน  ไม่ค่อยมีดวงด้านนี้ หรือถ้าอยากเสี่ยง เก็บได้ซักก้อน ก็ลงทุนหุ้นระยะยาวก็ได้ครับ หรือซื้อทองเก็บไว้ 4. เอาเวลาว่างนั้น มาศึกษาเกียวกับการลงทุนดีกว่าครับ เช่น หุ้น หรือ Forex คิดว่าเรื่องภาษาไม่น่ามีปัญหากับเด็ก Offshore 5. เรื่องผ่อนก็แนะนำให้โปะ ซึ่งคุณก็ทำอยู่แล้ว โปะให้มากขึ้น จะได้เป็นไทเร็วขึ้น ส่วนเรื่องรถผมมองว่าไม่จำเป็นเท่าไร ถึงแม้ว่า 28วันจะอยู่ในเมือง แต่ก็มีระบบขนส่งที่พอจะพึ่งพาได้อยู่ คิดว่าไม่น่าเกิน 40 คุณอาจจะขึ้นมาทำพวก Office หรือ Operation บน Onshore ตอนนั้นคงเห็นลู่ทางแล้วแหละครับ มีพี่บางคนที่ผมรู้จักบน Offshore เค้าทำพวก Resort ที่พักกัน บอกว่ากู้มาลงทุน แล้วกินยาวๆ ช่วงพักก็กลับไปดูแลสวน ซ่อมแซมต่างๆเท่าที่จะทำเองได้ อยู่กับลูกเมีย หรือ 28 วันที่ว่างนั้น คุณลองทำความฝันสมัยเด็กๆให้เป็นจริงดูซิครับ เพราะชีวิตเกิดและตาย ได้ครั้งเดียว จากคุณ : Azumi_P เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 04:15:42

ความคิดเห็นที่ 2 ลองโพสห้องสินธร หรือยังครับ ผมว่าน่าจะได้คำตอบที่ชัดเจนกว่า จากคุณ : Piboonsak เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 07:03:54

ความคิดเห็นที่ 3 1.เงินจะพอไหม ตอบยากอ่ะ มันขึ้นอยู่กับวิถีชีวิตของคุณตอนโน้นด้วยค่ะ ต่อให้อยู่ offshore แต่เวลากลับเข้าฝั่ง อยู่กรุงเทพกับ ตจว ก็ต่างกันแล้วนิ...แต่ที่แน่ๆ ค่าของเงินไม่เท่าตอนนี้แน่นอนค่ะ อันนี้ห้องอื่นคงตอบเป็นตัวเลขได้แม่นยำกว่า... 2.อันนี้ไม่ทราบเลยค่ะ ถึงจะเลยวัยขบเผาะมาแสนนาน แต่ไม่มีลูกแท้ๆ เป็นของตัวเอง.. 3.แนะนำให้ซื้อทองค่ะ เพราะมีค่าเสมอและเปลี่ยนเป็นเงิน/สินค้าได้เร็ว ถ้าเดือนนั้นไม่พอซื้อทอง (อย่างต่ำสลึง ก็ >5,000 บาท). ก็ซื้อสลากออมสินแทน 4.เวลาว่างก็ไปทำงานอาสา อ่านหนังสือคนตาบอด ไปทำทาน ทำบุญ แบ่งปันคนอื่นบ้าง .... แต่ถ้าอยากมีรายได้ด้วย ก็หางานทางเนทที่ทำที่บ้านได้ เช่น งานแปล(ซึ่งมีกำหนดส่งชัดเจน) หรือไปเป็นอาจารย์พิเศษตามสถาบัน เลือกวันสอนได้ หรือถ้าชอบค้าขาย ก็ไปขายของค่ะ... 5.อืมมม ตอบยากนิ... ไม่มีหนี้ก็ดีกว่าอยู่แล้วอ่ะนะ แต่ประกันชีวิตก็ดีเหมือนกัน...  ถ้าจะซื้อประกันชีวิต แนะนำให้เป็นแบบสะสมทรัพย์ค่ะ เพราะของบริษัทจะเป็นแบบเสียชีวิตหรือทุพพลภาพแล้วได้เงินก้อน จะไม่มีเงินปันผลอะไรแบบนั้น... จริงๆแล้วน้องคงมีประกันชีวิตของแบงค์ที่ผ่อนคอนโดอีกตัวนะ... งั้นแนะนำให้เก็บเป็นสินทรัพย์อย่างอื่นที่มีสภาพคล่อง เช่น เงินสด ทอง หรือ สลากออมสิน ดีกว่าค่ะ... เพราะเผื่อฉุกเฉินเรื่องอื่น เจ็บไข้ได้ป่วยของเรา ของแฟน หรือ ของครอบครัว... ต่อไปมีลูก เงินสดๆที่ต้องใช้อีกเพี๊ยบ ตอนนั้นถ้ายังมีเงินเหลือแน่ๆ ต่อเดือน ค่อยซื้อประกันสำหรับบุตรอะไรดีกว่า...คอนโดก็โปะเล่นๆ ระดับนึง เช่น เวลามีโบนัส ขอชื่นชมที่วางแผนชีวิตการเงินอย่างดี คิดได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ดูเป็นผู้ชายที่เป็นเรื่องเป็นราวดีจัง น่าร๊ากกกกก จากคุณ : ซอด้วง เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 07:10:49

ความคิดเห็นที่ 4 @Azumi_P   ขอบคุณมากๆ เลยครับ ผมพอได้แนวคิดหลายๆ อย่างเลยครับ ทำ Offshore มันส์มากครับทำงานยาวๆ แต่หยุดทีกลับมาทำงานแทบไม่เป็นเลย หยุดนานไปหน่อย อิอิ เรื่องสลากออมสินนี่ก็คิดไว้เหมือนกันครับ ส่วนเรื่องหุ้นนี้ทำไมผมไม่เคยคิดถึงมันเลยนะเนี่ย สงสัยต้องเริ่มศึกษาดูแล้วครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ @Piboonsak ยังเลยครับผม เดี๋ยวจะลองไปโพสดูครับ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ จากคุณ : Dek Offshore (Dek Offshore) เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 07:15:44

ความคิดเห็นที่ 5 @ซอด้วง ขอบคุณมากๆเลยครับสำหรับคำแนะนำ ให้แนวคิดผมหลากหลายเลยครับ ^_^ จากคุณ : Dek Offshore (Dek Offshore) เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 08:52:06

ความคิดเห็นที่ 6 1. ลองคิดที่เงินเฟ้อ 3-4% ต่อปี ไปเรื่อยๆ ดู 2. ลองเอาไปคำนวณเล่นๆ ก่อน https://www.k-weplan.com/Pages/K-SvingMemoOnline.aspx แต่ผมบอกก่อนนะครับว่า เลี้ยงเด็กสมัยนี้ใช้เงินสูงมาก 3. ลองลงทุนพวกหุ้น ทองคำ หรือน้ำมัน แต่ให้หลีกเลี่ยงพวกสินค้าเกษตร และอาหาร ถ้าไม่มีเวลาติดตามก็ให้เน้นที่หุ้นปันผล หรือลงทุนในกองทุนรวม LTF แทน (พวก RMF กับ LTF เอาไปลดหย่อนภาษีได้เหมือนประกันชีวิต) 4. รับจ้างสอนภาษา หรือ แปลเอกสารก็ได้ครับ 5. ถ้ามีประกันฯ อยู่แล้วก็โปะคอนโดให้หมดนั่นแหละครับ หลังจากหนี้หมด ก็เอาเงินที่ต้องผ่อนคอนโดไปลงทุนต่อ ส่วนจะทำอะไรก็แล้วแต่ชอบครับ แต่ถ้ากู้ ขอให้กู้ให้น้อยที่สุด เพราะถึงตอนนั้นด้วยอายุที่ค่อนข้างมาก คุณจะรับความเสี่ยงไม่ได้มากเท่าช่วงวัยทำงาน จากคุณ : lermylene (lermylene) เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 10:02:44

ความคิดเห็นที่ 7 ผมขอแสดงความเห็นไล่ไปทีละประเด็นนะครับ เรื่องเงินใช้คืนหนี้สิน หลักการนี้จริง ๆ ควรใช้หนี้ ที่มีภาระดอกเบี้ยสูงสุดก่อน ซึ่งกรณีนี้ ถ้าหากว่า จขกท.มีหนี้สองกอง คือผ่อนคอนโด กับบัตรเครดิต ยังไงก็ควรที่จะผ่อนบัตรเครดิตให้หมดก่อน เพราะดอกเบี้ยสูงกว่า ดังนั้นที่โป๊ะเพิ่มค่าผ่อนคอนโด น่าจะเอามาลดหนี้บัตรเครดิตให้หมดก่อนจะดีกว่า ประเด็นต่อมาคือเรื่องหนี้สินและเงินที่เหลืออยู่ ผมว่าขั้นตอนการคิดของ จขกท.จะมองในแง่ที่ควรจะเป็นเท่านั้น พอเราวางแผนชีวิตจากจุดนี้ ก็หมายความว่าเราต้องผูกมัดกับการใช้ชีวิตแบบนี้ไปอีกนานพอสมควร สมมติว่า ปัจจุบัน จขกท.มีหนี้สินน้อยกว่านี้ ซึ่งก็จะทำให้มีเงินเก็บมากกว่า ทำงานกลางทะเลอีกสัก 3-4 ปี อาจจะเบื่อ ยิ่งถึงตอนมีลูกแล้ว อาจจะอยากจะใช้ชีวิตอยู่กับลูก ก็อาจจะต้องมองหางานใหม่ ที่ทำงานบนฝั่ง หยุดเสาร์อาทิตย์ ซึ่งการทำงานแบบนี้ ก็คาดได้ว่า คงทำให้เงินเหลือน้อยลง อาจจะทำให้แผนที่วางเอาไว้ ลำบากมากขึ้น อันนี้คงต้องลองวางแผนให้ละเอียดอีกนิด เผื่อไว้ในความเปลี่ยนแปลงที่อาจจะมาในอนาคตด้วยครับ ในประเด็นเรื่องการเอาเงินไปลงทุน ผมว่าฝากประจำก็ไม่น่าเกลียดเท่าไหร่หรอกครับ เราฝากเป็นยอด ๆ ไป เพราะถ้าเอาไปลงทุนทางอื่นที่ได้ผลตอบแทนสูงกว่า ก็อาจจะมีความเสี่ยงมากกว่าตามไปด้วย แต่ถ้าหากมองภาพว่า ในช่วงที่หยุดอยากทำอะไรที่มีรายได้ ก็น่าจะเก็บเงินนี้ลงทุนธุรกิจเล็ก ๆ ไปก็ดีครับ ยิ่งถ้าเป็นธุรกิจที่เป็นไปได้ ก็ยิ่งดีครับ จากคุณ : Lpg_Horse เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 12:15:10

ความคิดเห็นที่ 8 เงินที่จะออม เอามาซื้อหุ้นปันผลดีๆ สะสมไปเรื่อยๆน่าจะดีนะครับ จากคุณ : หนุ่มธนู เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 12:29:28

ความคิดเห็นที่ 9 รายรับ ห้าหมื่น แต่ผ่อนบ้านราคาเกือบ ห้าล้าน ต้องบอกว่า มันเกินตัวไปหน่อยนะ เอาง่าย ๆ เลยนะ หากคิดจะผ่อนรถอีกสักคัน ซึ่งไม่แน่ใจว่าคุณมีแล้วหรือเปล่า แค่คิดก็จบแห่แล้ว.. สมัยตอนที่ผมรายรับประมาณนี้ ผมผ่อนคอนโดที่ราคาครึ่งล้านนิด ๆ เองนะ เคยได้ยินคำพูดนี้ไหม "ชีวิตคนเรานั้นไม่แน่นอน แต่หนี้สินเป็นเรื่องแน่นอน" ยังไงก็ลองหาทาง ลดรายจ่ายลง อย่าไปหวังว่าจะเพิ่มรายได้ให้มากนัก (รายรับที่อยากจะได้เพิ่มมามันทำได้ไม่ได้บอกว่าอย่าทำ เพียงแต่อย่าไปคาดหวังให้มาก) อะไรที่ผ่อนก็หาทางเก็บกวาดให้เรียบร้อยซะ ไล่จากของเล็กไปของใหญ่น่าจะดี จากคุณ : บ้านฉัน เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 15:12:34 A:223.206.240.236 X: TicketID:336412

ความคิดเห็นที่ 10 @lermylene (lermylene) ขอบคุณมากๆ ครับ @Lpg_Horse ขอบคุณครับ แต่หนี้บัตรผมไม่มีดอกเบี้ยครับ ตอนนั้นที่รูดไปเพราะได้ของแถม + ได้ลดเพิ่ม 5 % ครับ เป็นโปร 0% 10เดือนครับ เลยใช้บัตร อิอิ @หนุ่มธนู ขอบคุณครับ @บ้านฉัน คือจริงๆแล้ว ถ้าเอาจากใบรับลองเงินเดือนคืออยู่ที่ 65000 ต่อเดือนครับ แต่ผมหักภาษีเผื่อเว่อๆ หักค่านู่น ค่านี่เผื่อไว้เว่อๆน่ะครับ แล้วจะคอยคิดว่าตัวเองมีเงินใช้แค่ 53,000 ทั้งๆที่จิงแล้วแต่ละเดือนมีใช้มากกว่านั้น และค่าใช้จ่ายต่อเดือนผมก็ตีไว้เว่อๆ ทุกรายการ ทำให้ความเป็นจริงแล้ว เงินผมจะเหลือทุกเดือนครับ ส่วนเรื่องผ่อนนี้ ไม่ได้ราคาเกือบ 5 ล้านนะครับ 4 ล้านนิดๆ เอง อิอิ รถยนต์เมื่อก่อนมี 2 คันครับ แต่ขายไปแล้ว 1 คัน เพราะแทบไม่ค่อยได้ขับเลยตัดใจขาย เหลือเก็บไว้ 1 คันให้ว่าที่ภรรยาใช้ไปทำงานครับ ส่วนเวลาผมอยู่บ้านนี้แทบไม่ได้ไปไหนเลย ถ้าจะไปจริงๆ ตอนเช้าผมก็ไปส่งว่าที่ภรรยาที่ทำงานแล้วเอารถไปทำธุระ แล้วก็ไปรับตอนเย็นครับ ปล. เงิน 14,000 ที่กล่าวไว้ข้างต้นนี้ ส่วนมากหมดกับตัวเองครับข้าวของเครื่องใช้ และพวกสินค้าสนองกิเลสทั้งหลาย อิอิ  น้ำมันนี้เต็มที่จ่าย 1000 เดียวตอนที่เอารถไปขับ แล้วว่าที่ภรรยาบังคับว่ากลับมาต้องเต็มถังอิอิ ซื้อของเข้าบ้านก็แบ่งๆกันระหว่างผมกับว่าที่ภรรยาครับ กินข้าวนอกบ้านก็ 2 อาทิตย์ครั้ง ไม่ก็อาทิตย์ละครั้งครับ ส่วนมากซื้อกับข้าวสำเร็จรูป ไม่ก็ทำกินเองครับ มื้อละ 100 +/- สบายๆ อาจมีของมึนเมาเล็กน้อยให้หลับสบายอิอิ จากคุณ : Dek Offshore (Dek Offshore) เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 20:29:40