ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อก่อน นส 3 วัดพื้นที่ไม่แม่นยำ บางที่ใช้โซ่วัดระยะทาง พื้นที่ลาดเอียงยิ่งผิดมาก จากคุณ : ควนโส เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 55 10:08:43

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าไม่ได้เอาไปขายหรือจำนองก็ไม่น่าจะมีปัญหานะครับ เพราะจากที่อ่านดูยังงัยก็พื้นที่เท่าเดิม(ดูมุดที่ปักนะครับ ถ้ายังปักในที่ๆเป็นสุดเขตของเรา) จากคุณ : yonekura เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 55 10:14:31

ความคิดเห็นที่ 3 ทุกคนเวลาที่ดินหายก็โทษคนรังวัดอย่างเดียว ที่ดินของคุณเป็นสิทธิ์และหน้าที่ของคุณที่จะดูแลรักษาเนื้อที่ของคุณเอง เวลาข้างเคียงมารังวัดเค้าก็ต้องเรียกคุณมาชี้แนวที่ของคุณ พอที่หายก็มาโทษเจ้าหน้าที่รับสินบทคิดได้เท่านี้ เจ้าหน้าที่เค้าต้องมีระบบตรวจสอบที่คุณไม่รู้อยู่แล้วเพราะเค้าขี้เกียจมานั่งอธิบาย เนื้อที่หายแต่ตรวจสอบแล้วรูปที่ดินไม่เปลี่ยนแปลงมากเค้ายังออกโฉนดให้คุณได้ มีกรณีจะเล่าให้ฟัง มีคนซื้อที่ตาม นส.3 มา จะมาของออกโฉนด รังวัดแล้วที่หายข้างเคียงกินมา รูปที่ดินเปลี่ยนไป ไม่สามารถออกโฉนดได้เพราะไม่มีเจ้าหน้าทท่านใดยอมเสี่ยงเซ็นรับรองออกโฉนดให้ สรุปต้องซื้อที่ข้างเคียงคืนมาอีก ถึงจะออกโฉนดให้ได้ ปล.ขอบเขตที่ดินเป็นสิทธิ์และหน้าที่ของเจ้าของที่ดินต้องดูแลรักษา ไม่ให้ข้างเคียงกินที่มาที่ดินหายแล้วมาโทษเจ้าหน้าที่ จากคุณ : มหาเมต (มหาเมต) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 55 10:36:17

ความคิดเห็นที่ 4 ต้องขอโทษที่พูดไปอย่างนั้นครับ คุณ มหาเมต เนื่องจากเกิดและอยู่เติบโตที่เมืองไทย คิดว่าคนธรรมดาสามัญไม่มีสิทธิเพิ่มที่เองคับ ต้องเป็นคนมีอำนาจ หรือเป็นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมด้วย จึงจะสามารถครับ ที่ติดทะเล ภูเขา ออกโฉนดได้ก็ใช่ว่าแต่มีเงินอย่างเดียว ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ทำ ก็ไม่สำเร็จ ด้วยความเคารพ แบนแบน ***ถามกลับในกรณีของคุณ มหาเมต ข้อนึงว่า แล้วเจ้าของที่ข้างเคียงที่กินพื้นที่มามีความผิดหรือไม่ครับ เราต้องไปซื้อคืนจากเขาเพื่อออกโฉนดให้ได้ ทั้งที่ความจิงที่นั้นเป็นของเรา ทำไมเราจึงต้องเสียเงินซื้อที่คืน เพื่อให้ได้สิทธิในพื้นที่เรากลับคืนมาด้วยล่ะคับ ถ้าความผิดนั้นคือความผิดเราที่ไม่ไปรังวัดตอนเขาแบ่งโฉนด อันนี้ก็ยอมรับครับ แต่ถ้าหากเนื้อที่ของเขาเพิ่มเกินขึ้นมาจาก นส.3 เดิม มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอครับ ที่เจ้าของที่ตัวจิงต้องซื้อคืนที่ของตัวเองเท่านั้น จากคุณ : แบนแบน เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 55 10:51:51 A:223.205.12.132 X: TicketID:311431

ความคิดเห็นที่ 5 "ทุกคนเวลาที่ดินหายก็โทษคนรังวัดอย่างเดียว ที่ดินของคุณเป็นสิทธิ์และหน้าที่ของคุณที่จะดูแลรักษาเนื้อที่ของคุณเอง เวลาข้างเคียงมารังวัดเค้าก็ต้องเรียกคุณมาชี้แนวที่ของคุณ พอที่หายก็มาโทษเจ้าหน้าที่รับสินบทคิดได้เท่านี้ เจ้าหน้าที่เค้าต้องมีระบบตรวจสอบที่คุณไม่รู้อยู่แล้วเพราะเค้าขี้เกียจมานั่งอธิบาย เนื้อที่หายแต่ตรวจสอบแล้วรูปที่ดินไม่เปลี่ยนแปลงมากเค้ายังออกโฉนดให้คุณได้" ในฐานะคนที่เคยใกล้ชิดกับการรังวัดที่ดิน ยอมรับครับว่ามีการรับสินบนกันจริง และมีวิธีทางเทคนิค (ไม่สามารถเปิดเผยได้) แต่ปกติจะไม่หายมากขนาดนี้ครับ ปล.เคสนี้เจ้าของกระทู้น่าจะไม่เคยไปชี้แนวเขตนะผมว่า ภายหลังมีปัญหากฎหมายปิดปากแล้ว จากคุณ : คุณโคตรเซียน เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 55 11:14:59

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นด้วยกับคุณควนโสค่ะ หมุดก็หมุดเดิม ที่ก็เท่าเดิมแหละ เพียงแต่คำนวณออกมาแล้วได้ไม่เท่าเดิม บ้านเราก็หายไปเพราะเนื้อที่ถนนกินพื้นที่ จากคุณ : Lovely Creature เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 55 11:33:56

ความคิดเห็นที่ 7 ถามว่า ทำอะไรได้บ้าง ตอบ 1. ทำใจ 2. ลองสืบเสาะดูว่า ภายใน 365 วันที่ผ่านมา มีการรุกล้ำ เขตแดนเข้ามาในที่เราหรือไม่ 2.1 หากไม่มี เรื่องจบเพียงเท่านั้น 2.2 หากมี ต้องหาหลักฐานอันประจักษ์ ว่ามีการรุกล้ำเขตที่ดิน แล้วทำหนังสือแจ้งไปยังผู้รุกล้ำนั้น ให้ออกไป 2.3 จาก 2.2 หากไม่ออก ให้แจ้งความดำเนินคดี แล้วนำเรื่องขึ้นสู่ศาล ให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้นั้นออกจากเขตที่รุกล้ำ สืบพยานให้มั่นเหมาะ แล้วรอคำสั่งศาล เมื่อศาลสั่งไปทางใด ก็ทำตาม ไม่ว่าจะเป็นคุณหรือเป็นโทษ ควรยุติที่ขั้นนั้น 3. แม้นว่าภายใน 365 วันที่่ผ่านมา ไม่มีผู้ใดรุกล้ำเข้ามาถือครองสิทธิ์ หรือทำประโยชน์ บนที่ดินผืนนี้ ท่านว่า เจ้าของที่ดิน นส.3 แปลงดังกล่าว ได้สิทธิ์การครอบครอง ตามที่ปรากฏอยู่นั้นแล้ว 3.1 อธิบายเพิ่ม  แปลว่า หากมีคนรุกมา สองสามปีก่อน และ เจ้าของที่ดิน ไม่ท้วง ท่านว่า หมดสิทธิ์ การเรียกร้อง เนื่องจาก นส.3 เป็นหนังสือ แสดงการ"ครอบครอง"เพื่อทำประโยชน์ แม้นทิ้งร้างเกิน 1 ปี สิทธิ์นั้น จะหมดไปแล้ว หากมีผู้อื่นมาครอบครองต่อ ผู้ที่มาภายหลัง และได้ครอบครอง+ทำประโยชน์ เกิน 1 ปี ต่อเนื่องมาถึงวันนี้ ท่านว่า คนที่มาทีหลัง เป็นผู้ครอบครองทำประโยชน์ กฎหมาย และ ฏีกา เกี่ยวกับเรื่องนี้ ให้หาอ่านเอาเอง จาก อากู๋ จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 55 11:38:53

ความคิดเห็นที่ 8 อีกประการหนึ่ง นส.3 นั้น ไม่มีการแสดงแนวเขตที่ชัดเจน ไม่มีระยะอ้างอิงที่ชัดเจน รูปแผนที่ไม่ชัดเจน มีแต่การวาดภาพเป็นแนวร่างเบื้องต้นเท่านั้น แล้วเขียนด้วยมือว่า ทิศเหนือติดใคร ทิศใต้ ออก ตก ติดใคร แม้นรูปที่ดิน เป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่สีเหลี่ยมผืนผ้า เจ้าพนักงาน ก้อจะวาดโดยคร่าวๆ ให้คล้ายของจริง โดยวาดเป็นภาพเหลี่ยม ไม่มีเส้นโค้ง พร้อมเขียนระยะโดย "ประมาณ" กำกับไว้ เช่น "สองเส้นสามวา" ได้ระยะครบทุกด้านแล้ว ก็มาคำนวณด้วยหนึ่งสมองกะสองมือ ไม่มีเครื่องคิดเลข ไม่มีขนาดมุมกำกับ ทำให้การคำนวณคลาดเคลื่อนไปได้มากๆ   โดยเฉพาะ การคำนวณแบบนี้ มักจะได้พื้นที่ออกมา มากกว่าความจริง เนื่องจากไม่มีมุม และระยะระหว่างมุมต่างๆ มากำกับ ทั้งยังเป็นการวัดแบบรอบพื้นที่ ไม่ได้มีการวัดแบบขึงเป็นสามเหลี่ยมภายในพื้นที่ จขกท ลองอ่านดูนะครับ "เนื้อที่โดยประมาณ" มีคำว่าประมาณอยู่ เรื่องของเรื่องก็มีเท่านี้ ส่วน ความเป็นไปได้ว่า ที่ของตน ถูกรุกล้ำ ที่ของตนถูกคนเลวหากินโดยทุจริต นั้น เป็นเรื่องรอง จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 55 12:00:01

ความคิดเห็นที่ 9 ก่อนอื่น ต้องพิสูจน์ให้ประจักษ์ในขอบเขตของตนก่อน ว่า การคำนวณเนื้อที่ อันเกิดเป็นตัวเลข 6 -1 - 80 นั้น มีที่มาอย่างไร แม้นไม่รู้ ไม่ทราบ ก็ต้องหาให้ได้ว่า แต่ก่อน 50 - 60 ปี ที่ผ่านมานั้น เขาทำกันอย่างไร แล้วนำวิธีการอย่างนั้น มาเทียบเคียงว่า ถ้าเป็นของเรา ก็ย่อมทำแบบนั้น พอได้วิธีการที่ว่าแบบเดิมๆ มาแล้ว ก็ลองมำคำนวณดู หรือให้ผู้รู้คำนวณ โดยวิธีโบราณ แบบนั้น ดูว่า คำนวณแล้ว มันได้ เนื่อที่ใกล้ๆ กับที่เขาทำมาหรือไม่ ถ้าใกล้ ก็แปลว่า เขา "น่าจะ" ใช้วิธีนั้น ได้ตัวเลขเบื้องต้นแล้ว  ก้อลงพื้นที่จริง วัดจริง ตาม ตัวเลขที่เขาเขียนใน นส.3 เช่น "ทิศใต้ สองเส้น สองวา" ติดนาย สมนึก นางนิด ก็ลองวัดดู ว่าเป็นสองเส้น สองวาจริงหรือ วัดไปทุกด้าน สอบเอากะ ที่เขาเขียนไว้ใน ตัว นส.3 หากตัวเลขมันสอดรับกัน ก็แปลว่า ไม่น่าจะมีใคร รุกเข้ามา ถ้าตัวเลขมันเลื่อมกันมาก เช่น สองเส้นสองวา วัดแล้วได้ หนึ่งเส้นสิบห้าวา อย่างนี้ ก็น่าแปลก อย่างไรก็ตาม ต้องวัดไปให้ครบทุกด้าน แล้วทำรูป และตัวเลข เขียนกำกับไว้ทุกด้านไป แล้วมาดูว่า ของเดิมที่มีอยู่ใน นส.3 นั้น รูปได้เหมือนกะที่เราทำในวันนี้หรือไม่ และ ระยะที่ทำในวันนี้ มันคล้ายหรือสอดคล้องกับ วันก่อนหรือไม่ หากได้ พอๆ กัน รูปคล้ายๆ กัน ถือว่า ยุติได้ครับ ถ้าเป็นอย่างนี้ แปลว่า แต่ก่อน เขาวัดโดยคร่าวๆ คำนวณโดยคร่าวๆ ได้พื้นที่โดยประมาณ เอาหละ มาวันนี้ ลองทำตามวิธีโบราณ ดู ผลคือ ไม่เหมือน แต่ละด้านมีเพี้ยนไปมากกว่า 10 % อย่างนี้ ก็ชวนให้สงสัย สงสัย มีสามอย่างคือ 1. ที่ข้างเขียงโดยรอบ รุกล้ำเข้ามา 2. ข้างเคียงหลายรายร่วมกันทุจริต 3. ข้างเคียง + เจ้าหน้าที่ ทุจริต โดยส่วนตัว ผมเห็นว่า เจ้าหน้าที่ทุจริต นั้น มีโอกาสน้อยมากๆ เนื่องจากโทษแรง และเป็นคดีอาญา ต้องถูกออกจากงานสถานเดียว (ผมไม่ได้บอกว่า "ไม่มี" นะครับ) ส่วนจะปักใจไปในวินาทีแรกว่า เจ้าหน้าที่ทุจริตนั้น ผมเห็นว่าเร็วไป ลองสอบความเนื้อที่ของตัวเองดูก่อน ล้างบ้านของตัวเองดูให้สะอาดเอี่ยม ดูก่อนปะไร  ก่อนที่จะชี้หน้าไปที่คนอื่นว่า เอ็ง มัน "ทุจริต" น่าจะดีกว่า ด้วยกันในหลายฝ่าย คนในสังคม หากดูที่ตัวเองก่อน ทำตัวเองให้เหมาะให้สม ก่อนว่ากล่าวคนอื่น ผมเชื่อว่า สังคมจะดูดีกว่านี้เย้อออออ เลยนะครับ ท่านสมาชิกเห็นว่าไงครับ จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 55 12:05:03

ความคิดเห็นที่ 10 เอาหละ เรื่องการวัด การคำนวณ เพื่อให้ได้ตัวเลขโดยประมาณ น่าจะเห็นภาพแล้ว ทีนี้ มาดูสิทธิ์ แล หน้าที่ของเจ้าของที่ดินที่ได้ "ครอบครอง" เพื่อทำประโยชน์ กันบ้าง ก่อนอื่น มาทำความเข้าใจกันก่อน ว่า ที่ดินทุกตารางนิ้ว ในประเทศไทย ไม่ใช่ ของผม ไม่ใช่ของ จขกท และไม่ใช่ ของตาสี ตาสา ยายมี ยายมา แต่เป็นของประชาติไทย ทุกคน นี่คือหลักคิด แล เป็นข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ แม้นไม่เห็นด้วย ก็ให้โต้แย้งมา ในหลักการพื้นฐานนี้ก่อน หากไม่รับหลักการพื้นฐานนี้ ก้อป่วยการพูด หรือ หากมี หลักการที่แย้งกับข้างบน แล มีเหตุผลอันมีน้ำหนักมากกว่า หลักการที่ว่า นี้ ก็จะถูกรับ ด้วยหลักการใหม่ที่ดีกว่า จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 55 12:10:20

ความคิดเห็นที่ 11 ต่อนะครับ มาดู กรณี นส.3 กัน กรณีนี้ ขอให้เข้าใจตรงกันว่า ที่ดิน อันมีคนทำประโยชน์อยู่นั้น แม้นไม่ได้เป็นของใครหรือขัดกับข้อกฎหมายใด ก็ชอบที่จะเป็นของคนผู้นั้น   ท่านว่า การครอบครองเพื่อนทำประโยชน์ ถือว่า ได้ทำประโยชน์ทุกปีไป แล ติดต่อกันเรื่อยมา หากปีใด ช่วงใด เว้นว่างไป ก็ชอบที่คนที่ขาดที่ดิน หรือคนที่ต้องการทำประโยชน์ เข้ามาทำ  ด้วยที่ดินพื้นที่นั้นๆ เป็นของประชาติไทย คนที่มาทำประโยชน์ แลทำประโยชน์ต่อเนื่องกันไป ด้วยเจ้าของเดิมทิ้งไปเสียเกิน 1 ปี คนที่มาทำประโยชน์ ผู้นั้นโดยภายหลัง เป็นผู้ได้สิทธิ์ ครอบครองที่ดินแปลงนั้น การโต้แย้งสิทธิ์ ย่อมทำได้ แล ให้ทำในหนึ่งปี หากพ้นไปแล้ว แล ผู้อื่นได้ทำประโยชน์ มา ต่อเนื่องกัน เกิน 1 ปี และยังคงทำอยู่ ณ ปัจจุบัน ท่านว่า สิทธิครอบครองเพื่อทำประโยชน์ เป็นของผู้นั้น นี่เป็นหลัก ที่ท่านยึดถือมา ลองหาอ่านดู ฎีกา ที่เกี่ยวข้องนะครับ ในอากู๋น่าจะมีพอสมควร ลอง ไตร่ตรองดูครับ ว่า เรื่อง ของ จขกท เข้า ข่าย ไปในทางใด แล้ว ได้รับทราบหลัก กฎหมายเรื่องนี้หรือไม่ ปล. ที่ว่ามานี้ เป็นความเห็นของผมเอง หาก ท่านสมาชิก จะมีข้อโต้แย้ง หรือให้เหตุผลที่ดีกว่า ก็ขอเรียนเชิญครับ ไม่ต้องเกรงว่าผม จะหน้าแตก ด้วยผม เห็นว่า การถกกันด้วยเหตุผล ไม่ยกตนข่มท่าน ไม่ชี้หน้าว่าเอ็ง "โกหก" ไม่ว่ากล่าว ผู้อื่นว่า "โง่เง่า เต่าตุ่น" เสียจริง  จะเป็นเรื่องที่ดี เป็นสิ่งที่สังคมเรา ควรจะมีและควรทำเป็นอย่างยิ่ง การให้เกียรติ คู่สนทนา การให้เกียรติ ต่อเพื่อนสมาชิก จะช่วยให้ สังคม online มีเสน่ห์ และมีประโยชน์ควบคู่กันไปครับ เราอยากให้ลูกหลานเราเป็นอย่างไร อยากให้สังคมวันพรุ่งนี้เป็นอย่างไร ผมเห็นว่า เราควรทำเป็นแบบอย่างอันดีให้เขาเห็นครับ ขอบพระคุณครับ จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 55 12:20:52

ความคิดเห็นที่ 12 ให้ 3 like เลยครับ น้าพร ตรงใจทุกประการ  จากคุณ : yonekura เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 55 12:40:50

ความคิดเห็นที่ 13 เป็นเหตุและเป็นผลครับ น้าพร จากคุณ : kittisak_k เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 55 14:09:41

ความคิดเห็นที่ 14 ตอบ จขกท. #4 คำตอบอยู่ใน # 7 แบบครอบครองปรปักษ์ ที่โฉนดก็เป็นน่ะครับ 10 ปี กรณีมีที่ดินอยู่ จะมาทำการสร้างบ้านแล้วที่หายเลยมาสอบเขต โดยครอบครองปรปักษ์ไปแล้วครับ ปล.น้าพรสุดยอดข้อมูลเลยครับ จากคุณ : มหาเมต (มหาเมต) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 55 15:10:50

ความคิดเห็นที่ 15 ...เห็นด้วยตามน้าพรครับ... จากคุณ : นชท. เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 55 16:28:56 A:59.97.128.6 X: TicketID:363230

ความคิดเห็นที่ 16 เอาเป็นว่าถ้าหลักหมุดไม่เบี้ยว ก็ไม่มีอะไรเสียหาย เพราะโฉนดเค้าวัดละเอียดกว่า เลยมีเสียพื้นที่ไปบ้าง หายเยอะไม่เยอะต้องดูรูปที่ดินด้วย ถ้าไม่ชัวร์ ก็ขอดูประวัติโฉนดข้างเคียงว่ามีใครได้เพิ่มไปรึเปล่า ถ้ามีแสดงว่าหลักหมุดเคลื่อน อันนี้เรื่องใหญ่เลยล่ะ ต้องมีการสืบพยาน หรือไม่ก็ต้องฟ้องร้องกันเลยทีเดียว จากคุณ : oatcpe เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 00:27:08

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหน รับเงินเพื่อออกโฉนดกินที่ข้างเคียงหลอกครับ หลักฐานมันชัดเจนเกินไป ส่วนใหญ่จะเป็นเกี่ยวกับ รุกที่สาธารณะมากกว่า จากคุณ : นายสบายสบาย เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 09:18:46

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณ คุณน้าพร และคุณมหาเมต ครับ ผมออกโฉนดเรียบร้อยเมื่อวานนี้ครับ เหลือ 5 ไร 3 งาน 13 ตารางวา -*- ก็ยังดีที่ยังเหลือครับ ถ้าทิ้งไว้นานกว่านี้อาจจะไม่มีเหลือเลยก็เป็นได้ จากคุณ : แบนแบน เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 11:48:51 A:49.48.123.130 X: TicketID:311431

ความคิดเห็นที่ 19 เจ้าของที่ดิน มีหน้าที่ดูแลรักษาสิทธิของตนเอง ที่ดินของเรา ใครรุกล้ำเข้ามาก็ต้องรู้ การรังวัด เค้าจะรังวัดตามที่เจ้าของที่ดินชี้ และข้างเคียงชี้ + หลักฐานการรังวัดเดิมประกอบ ใครชี้แค่ไหนก็วัดไป ตกลงกันไม่ได้ก็ทำแผนที่พิพาท ตกลงไม่ได้อีกก็ฟ้องร้องกันไป การรังวัด น.ส.3 ใช้เทป มีหย่อนยานยืดย้วยได้ตามการดึง+ตอนรังวัดจดผิดก็เป็นได้ การรังวัดออกโฉนดสมัยใหม่ ใช้กล้องสำรวจประมวลผล ค่าจะเป๊ะกว่า การรังวัดออกโฉนดสักแปลงเป็นเรื่องยาก แม้แต่ที่ดินของเราเองไม่ได้รุกล้ำใคร ถ้าได้เนื้อที่เกินจากหลักฐานเดิมก็ใช่ว่าจะออกโฉนดมาได้ง่ายๆ  ต้องพิสูจน์ให้ได้..เป็นเรื่องยืดยาวเกินกว่าจะอธิบาย จากคุณ : เอื้ออารี เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 09:43:03