|
Smart TV ==> ต่อเน็ต 3D ==> สามมิติ ต้องดูกับแผ่นบลูเรย์ 3D และต้องสวมแว่น มี 2 แบบ คือ แบบที่ต้องใส่ถ่าน ( อันนี้ ดูนานๆแล้วปวดตา แถมหนักด้วย ) แบบที่สองคือแว่นไม่ต้องมีถ่าน ( เหมือนแว่นสามมิติในโรงหนัง ข้อดีคือดูนานๆแล้วไม่ปวดตา และแว่นไม่หนักมาก ) ส่วนใหญ่จะเป็นแบบแรกกันเสียมากกว่า 2D to 3D ==> เทคโนโลยีเปลี่ยนระบบภาพธรรมดาเป็นสามมิติ พอดูได้แต่ไม่เนียนเท่า กับ 3D จริงๆ Full HD ==> คือสเกลความละเอียดแสดงผลภาพ 1920×1080 pixels progressive ( 1080p)โดยจะให้ผลดีที่สุดหากดูกับแผ่นบลูเรย์แท้ ( TV ปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะเป็น Full HD เกือบหมดแล้วซึ่งเป็นความละเอียดสูงสุดที่จำหน่ายทั่วไปในตอนนี้ รองมาก็คือ HD Ready ) LED/LCD TV ใช้จอพาเนล LCD แต่ไฟส่องหลังเป็น LED จึงเรียกว่า LED ให้ภาพที่คมชัดสูง แสดงสีดำได้ดำสนิท เหมาะสำหรับดูหนัง Plasma TV แสดงภาพโดยการใช้แสงที่เกิดจากการแตกตัว ionized ของ neon gas ให้ภาพโทนสีไกล้เคียงธรรมชาติ เหมือนจอภาพในโรงหนัง เหมาะสำหรับดูหนังทั่วๆไปและฟรีทีวี ข้อเสียของจอพลาสม่าในตอนนี้คืออาการ Burn in และแสงสะท้อนบนจอภาพที่มักส่งผลมากกว่า LCD/LED TV ดังนั้น การติดตั้งจอพลาสม่าต้องคำนึงถึงองค์ประกอบแสงสว่างที่จะส่องมายังหน้าจอ หรือ ที่เข้าใจง่ายๆว่า คุมแสง นั่นเอง
50Hz , 60Hz , 100Hz , 120Hz , 600Hz คือ ??? 50 Hz - สัญญาณภาพในระบบ PAL ประเทศที่ใช้ก็ ไทย กัมพูชา ออสเตรเรีย ฯลฯ 60 Hz- สัญญาณภาพในระบบ NTSC ประเทศที่ใช้ก็ อเมริกา ญี่ปุ่น ฯลฯ 100 Hz - เป็นการ ดับเบิ้ลแสกน จากสัญญาณ 50 Hz ไปเป็น 100Hz โดยการยิงเฟรมภาพซ้ำๆเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า อย่างเช่น a b c ก็เป็น a a b b c c 120 Hz - เป็นการ ดับเบิ้ลแสกน ยิงภาพซ้ำเหมือน 100Hz แต่มาจากสัญญาณ 60 Hz ไปเป็น 120Hz เป็นต้น ตัวเลขพวกนี้มีความสำคัญอย่างไร ? ปกติการกระพริบจองจอภาพจะกระพริบด้วยสัญญาณความถี่ที่เร็วมาก แต่เมื่อเพิ่มดับเบิ้ลสแกนความถี่เข้าไปก็ยิ่งทำให้ตาเราแทบจับความแตกต่างสัญญาณกระพริบความถี่ไม่ออก เรียกว่าดูแล้วสบายตาขึ้น ไม่เห็นอาการกระพริบของภาพ (อยากรู้ว่า อาการกระพริบที่ความถี่ 50Hz เป็นแบบใหน ก็ลองเพ่งดูที่หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ก็ได้ มันจะกระพริบที่ความถี่ 50Hz ครับ ) ดังนั้น ความถี่ตัวเลขยิ่งมาก 100Hz , 120Hz , 200Hz ก็ยิ่งแพงครับ
แต่ข้อจำกัดนี้ใช้ไม่ได้กับ Plasma TV ที่มีความถี่ระดับ 600Hz เท่ากันทุกเครื่องเป็นมาตรฐาน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมดูจอพลาสม่าแล้วสบายตากว่ามาก
Motion Flow 100Hz 200Hz คือะไร ??? Motion Flow เป็นเทคโนโลยีการแทรกเฟรมอัจฉริยะบนจอ LCD/LED TV ( และ Plasma TV บางรุ่น ) โดยแทนที่จะแสดงผลภาพเดิมๆ เจ้าชิพประมวลผลจะคำนวณภาพเสมือนที่เกิดจากสองภาพ(ภาพก่อนหน้า และ ภาพถัดไป) แล้วสร้างภาพเสมือนที่อยู่กึ่งกลางขึ้นมา เพื่อทำให้การตอบสนองของภาพมีความไหลลื่นมากยิ่งขึ้น ( เทคโนโลยี Motion Flow อาจมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปในบางยี่ห้อ เช่น Samsung จะเป็น Motion Plus เป็นต้น) ดังนั้น ตัวเลขความถี่ Motion Flow 100Hz , 200Hz ==> ยิ่งมากยิ่งแสดงผลได้ไหลลื่นเนียนตายิ่งขึ้น( บางทีเนียนเกินไปกลายเป็นภาพลอยหลอกตาเลยก็มี) ซึ่งตัวเลขนี้สามารถบ่งบอกถึงความแพงและรุ่นของ TV ใหม่ๆได้เลยครับ
เพราะฉะนั้น การที่จะเลือกว่าเราเหมาะกับ TV รุ่นใหน ก็ให้ลองไปดูที่ร้าน ใช้เวลาสักระยะนึง อย่ารีบด่วนตัดสินใจ เพราะบางที การดูนานๆอาจจะทำให้เราสามารถแยกความแตกต่างของจอภาพ TV แต่ละรุ่น ว่าอันใหนมันเหมาะกับเรา โดยไม่ต้องจ่ายแพง ให้มานั่งปวดตา เวียนหัวเล่น ก็ได้ ครับ ^ ^
จากคุณ |
:
Cho_shang
|
เขียนเมื่อ |
:
21 มิ.ย. 55 09:46:29
|
|
|
|
|