ความคิดเห็นที่ 1 เลือกทำเลดีๆ ให้คนเช่าก็ได้ค่ะ ถ้าคิดว่ายังไม่อยากเข้าไปอยู่ แต่ถ้าให้ดีจริงๆ ถ้าที่ัพักปัจจุบันต้องจ่ายตังค์ค่าเช่า คิดว่าหาซื้อบ้านหรือทาวเฮ้าส์ที่พอจะเดินทางไปทำงานได้ไม่ลำบากมากดีกว่าค่ะ   หรือไม่ก็ซื้อคอนโด แนวรถไฟฟ้า ยังไงก็ขายต่อได้แน่นอนค่ะ จากคุณ : khowhom160 เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 10:50:25

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วถ้าบังคับไม่ได้ละ เกิดช็อตขึ้นมา เดี๋ยวจะกลายเป็นภาระให้เครียดเปล่าๆ จ๊ะ และการซื้อบ้าน ยังไงก็ต้องสำรองค่าตกแต่ง ค่าดาว์น จิปาทะ ถ้าไม่เก็บเงินไว้เลย ยังไงก็ลำบาก ควรมีอยู่ในมือไม่ต่ำกว่า 200k และการซื้อบ้านแต่ไม่ได้อยู่ ก็อาจทำให้มันเสื่อมโทรมไปด้วย ควรจะเริ่มทำับัญชีรายรับรายจ่ายจ๊ะ พยายามหาดูว่าเงินหมดไปกับเรื่องอะไรและลองฝึกวินัยตัวเองโดยการฝากประจำที่มีการดึงจากบัญชีเงินเดือนอัตโนมัติ ถอนก่อนไม่ได้ อันนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะเริ่มเก็บเงินจ้า ความคิดเห็นส่วนตัว   ไม่มีคนเก็บเงินไม่อยู่   มี แต่คนไม่เก็บเงิน มากกว่าจ้า ยังไงก็สู้ๆจ๊ะ จากคุณ : kotkotkot เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 10:54:38

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าไม่มีความคิดจะอยู่อาศัยเองเลย (อย่างน้อยก็ในช่วง 4-5 ปีข้างหน้า) คำแนะนำของม่วยถ่าวคือ "ไม่ดี" ถ้าอยากมีภาระ มีทรัพย์สินอีกมากมาย ที่สภาพคล่องดีกว่า ปล่อยง่ายกว่า ราคาไม่ตกและ ไม่มีภาระผูกพัน (เช่นค่าสาธารณูปโภคส่วนกลาง) อาจไม่ได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ (กรณีที่จขกทโชคดี ได้เลือกซื้อของที่ทำเลดีจริง งานก่อสร้างดี มีคนกว้านซื้อต่อภายหลัง ซึ่งก็เป็นไปได้ยาก) ลงทุนด้านอื่นเถอะค่ะ เช่นซื้อหุ้น, พันธบัตร, ประกันชีวิต (ประเภทที่เงินจ่ายคืนสูงๆ) เป็นคำแนะนำที่มาจากประสบการณ์จริงของตัวเองล้วนๆ จากคุณ : ม่วยถ่าว เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 10:55:12

ความคิดเห็นที่ 4 ก่อนตัดสินใจลองซ้อมเก็บเงินก้อนเท่ากับที่คิดจะผ่อนสัก 6-12 เดือนก่อนดีมั๊ยครับ ถ้าไม่ติดขัดอะไรก็ลุยเลย เพราะบางทีในรอบปีอาจจะมีเหตุการณ์ที่ต้องใช้เงินก้อนหรือเงินฉุกเฉิน งวดผ่อนอาจสะดุดได้ ถ้าซ้อมผ่านก็เก็บเงินก้อนนี้ไว้ใช้ตอนฉุกเฉิน แล้วก็ลุยเรื่องซื้อบ้านเลยครับ ส่วนจะเอาบ้านไปสร้างรายได้ต่อยังไง ถ้าได้ก็ถือเป็นโบนัส แต่ถ้าคิดจะเอารายได้ตรงนั้นมาผ่อน ระวังไม่เป็นอย่างที่คิดแล้วจะยิ่งเครียดครับ จากคุณ : supat_mme เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 10:58:55

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าตกงานมา จะลำบากเรื่องผ่อนบ้านนะค่ะ แนะนำให้สร้างวินัยการออมดีกว่าค่ะ ลงทุนกับบ้านถ้ายังผ่อนไม่หมดมีหนี้ให้ปวดหัวเยอะมากค่ะ ถ้าวันหนึ่งตกงานมาโดนยืดฟรีๆไม่ได้อะไรเลยสักบาทแถมติดแบคลิสอีก ถ้าเก็บเงินไม่ได้ก็อย่าสร้างภาระหนี้เลยค่ะ จากคุณ : แป้ง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 11:00:29 A:182.232.58.17 X: TicketID:358210

ความคิดเห็นที่ 6 ดีครับ เปลี่ยนจากบ้านเป็น อาคารพาณิชย์ ที่ทำเล ดีๆ ในระหว่างที่เราไม่ได้อยู่ก็ให้เข้าเช่าเอาค่าเช่ามาช่วยผ่อนตัวมันเอง เป็นการลดถาระ เมื่อผ่อนหลังแรกเสร็จ ก็ซื้อหลังที่สอง เอาค่าเช่าหลังแรกรวมกับหลังที่สองส่ง หลังที่ สอง จะลดเวลาการส่งลง เกือบครึ่งหนึ่ง เมื่อผ่อนหลังที่ สองเสร็จ ซื้อหลังที่ สาม ทำอย่านี้ไปเลื่อยๆ ที่พูดได้เพราะผมก็ทำอย่างนี้อยู่ ตอนนี้ผมกำลัง จองหลังที่สามอยู่ครับ แต่หลังที่สามของผมเป็นบ้านครับ เพราะกะว่าจะเอาใว้อยู่เอง ผมอยู่ ตจว.ครับ เมืองกำลังขยายตัวก็เลยหาที่ทำเลดีได้ไม่ยาก กะว่าในช่วงชีวิตน่าจะหาได้สัก ห้า-หก หลัง เป็นทุนชีวิตให้ลูก แล้วถ่ายทอดแนวความคิดนี้ให้ลูกไปทำต่อ ถ้าแนวคิดเราสามารถถ่ายทอดไปได้ถึงชั้น หลาน ของหลานเราได้โดยไม่ขาดตอน รุ่นนั้นก็สามารถ นั่งกิน นอนกิน ไม่ต้องลำบากเหมือนเรา แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 55 11:02:39 จากคุณ : Adung เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 11:00:57

ความคิดเห็นที่ 7 คห 6 นั่นมัน ตจว ครับ แนวคิดคุณมาใช้กับ กทม ไม่ได้ครับ อาคารพาณิชย์แบบทำเลดีดีที่คุณว่า ในเมือง 6 - 20 ล้านนะครับ กว่าจะกู้ผ่านต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่กัน และกว่าจะผ่อนหมดตั้งใช้เวลาเกือบทั้งชีวิต จากคุณ : K เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 11:22:59 A:125.27.209.48 X: TicketID:286777

ความคิดเห็นที่ 8 แก้ที่นิสัย น่าจะดีกว่า เพราะอะไรเก็บเงินไม่อยู่ เงินไหลไปทำำอะไร  หยุดที่ตรงนั้น ซื้อบ้าน มีค่าใช้จ่ายโผล่มาทันทีคือ ดอกเบี้ยเดือนละเหยียบหมื่น ต้องจ่ายอีกเป็นสิบๆปี จากคุณ : itssmallworld (itssmallworld) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 11:33:43

ความคิดเห็นที่ 9 ... ดีครับ ระยะทางพันลี้ เริ่มด้วยก้าวแรกเสมอ   ... ถ้าคุณคิดจะทำก็ต้องตั้งใจทำ แต่ถ้าไปถามคนที่ไม่ได้คิดจะทำ เค้าก็มีเหตุผลสนับสนุนในการที่จะไม่ทำของเขาแหละครับ จากคุณ : ปลาทูออนไลน์ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 11:41:07

ความคิดเห็นที่ 10 เก็บในกองทุนดีกว่าค่ะ ตั้งหักบัญชีอัตโนมัตไว้เลย จากคุณ : via iPad (not defendant) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 11:42:01

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่ดีครับ.. เพราะผมถือว่า การซื้อบ้าน เป็น -ภาระ มากกว่าการลงทุน .. บ้านสภาพคล่องต่ำมากๆๆๆ  ถึงแม้ว่า จะราคาขึ้นก็ตาม ต้องทำเล ดีจริงๆ ..หรือไม่ก็มีเงินเย็นเหลือเยอะๆ ในกรณี จขกท .. ไม่มีเงินเก็บเลย !? การลงทุนบ้าน ..โดยการซื้อแบบผ่อน ยิ่งเป็นการ เสียดอกเบี้ย 5-8% ต่อปี (แล้วต่อธนาคาร).. นี่ยังไม่รวมค่าบำรุงรักษา อื่นๆ อีกมากมาย .. หากเก็บเงินไปอยู่ ไปลงทุน แบบอื่นได้ ครับ ไม่ว่าจะเป็น ตราสารหนี้ พันธบัตร etc และให้คิดว่าการซื้อบ้าน เป็นการซื้อปัจจัยสี่ .. ไม่ใช่การลงทุนหลัก ..ส่วนจะได้กำไร ตอนขายนั้น เป็น เรื่องของ กลไก ตลาด จังหวะ ..และ เวลาที่เหมาะสม จากคุณ : NPM เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 11:43:04

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณค่ะทุกคน ถ้าซื้อบ้านแล้ว อาจจะอยู่แค่เสาร์อาทิตย์ค่ะ นอกจากอยากเก็บเงินแล้ว ก็อยากมีบ้านส่วนตัว ที่ตกแต่งได้ตามใจ เก็บเงินไม่อยู่ เพราะไม่มีภาระอื่นๆ เลยไม่ค่อยมีวินัย แต่จะหมดไปกับพวกค่ากิน ค่าเสื้อผ้า ให้เพื่อนยืม ไรงี้ค่ะ ถ้าเอาเงินไปผ่อนบ้านแทนก็อาจจะบังคับตัวเองเวลาจะซื้ออะไรแล้วก็มีข้ออ้างเวลาเพื่อนมายืมเงิน จากคุณ : The Beginner เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 11:47:05

ความคิดเห็นที่ 13 เพิ่มเติม ซื้อกองทุนไว้บ้างเหมือนกันค่ะ แต่ตอนนี้เหมือนขาดทุน T T และก็ซื้อสลากออมสินไว้นิดหน่อยค่ะ อ่อ มีบัญชีฝากประจำด้วย แต่เดือนละ 2 พัน จากคุณ : The Beginner เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 11:49:08

ความคิดเห็นที่ 14 เป็นเราจะเลือกซื้อกองทุน และ เปิดบัญชีเงินฝากประจำ มันจะมีสภาพคล่องดีกว่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ จากคุณ : เด็กหญิงไข่ไก่ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 11:53:30

ความคิดเห็นที่ 15 ทีแรกคิดว่าตัวเองเก็บเงินไม่อยู่เหมือนกันแต่ถ้าจริงจังที่จะเก็บก็แค่บังคับตัวเองเปิดบัญชีฝากประจำแบบรายเดือนคะตอนนี้ก็ผ่านไปได้ด้วยดีคะฝากเดือนละเท่าไหร่ก็ได้คะที่ไม่กระทบกับเรามาก จากคุณ : ดูเธอทำ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 12:08:42

ความคิดเห็นที่ 16 ถ้ายังไม่คิดอยู่อย่าซื้อครับ แนะนำให้เปิดบัญชีเงินฝากที่ต้องฝากทุกเดือน อยากเก็บเดือนเท่าไหร่ก็ระบุไปเลย เป็นการผูกมัดไปในตัว หรือเกิดปัญหาเรื่องสภาพคล่องทางการเงินก็ไม่ต้องไปเครียดอะไร จากคุณ : ซาตานกลับใจ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 12:56:09

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าเป็นคนรักบ้านก็น่าทำ  เพราะจะรู้สึกอยากประหยัด  อยากหารายได้เพิ่ม  แต่ถ้าไม่ใช่  อย่างอื่นได้ผลตอบแทนดีกว่าอย่างที่หลายท่านว่า จากคุณ : marupong เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 13:48:33

ความคิดเห็นที่ 18 เจ้าของกระทู้เก็บเงินไม่อยู่  ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องซื้อบ้าน ซื้อเพื่ออะไร ต้องถามตัวเองก่อน ให้เช่า ซื้อเพื่อเอาเงินเดือนมาผ่อน แบบนี้ไม่เวิร์ค บ้านสภาพคล่องต่ำ แต่ผลตอบแทนสูง (ในทำเลที่ดี)   คิดจะเก็บเงินมันมีหลายวิธี แต่เล่นหุ้น เงินเยอะก็เล่นไป กินเงินเดือน อย่าเลย แมลงเม่าเปล่าๆ ให้พวกขาใหญ่ ที่นั่งอยู่ตาม บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ โทรกริ๊งงง เดียว คุณก็เจ๊งแล้ว หรือเจอพวกบริษัทเงินทุน แต่อาศัยนอมินีคนไทย ที่นั่งอยู่ตามบริษัทเงินทุนทั้งหลาย เค้าอยากเอียงไปทางไหน เราไม่รู้หรอกครับ สลากออมสินก็เวิร์ค ชอบความเห็นที่ 6 เป็นการส่วนตัว วิธีแบบนี้ดี ผมชอบ แต่เหมาะกับคนที่ประเภทมีบ้านอยู่แล้ว ไม่ได้มีภาระอะไร ได้เปรียบคนอื่นอยู่โข อยู่ที่ว่าความคิดจะไปทางไหน ส่วนตึกแถว แถวๆ กรุงเทพ ราคาแพง หรือไม่แพง แต่ไม่สน  นอกจากพวกโครงการใหญ่ๆ เค้ามาซื้อแล้วก็ทุบทิ้งซะ จะให้มาซื้อ แล้วขายของ ตอนนี้มันลำบาก ส่วนจะมีเงินเดือน แน่นอน ไม่แน่นอน มันก็ทั้งนั้นแหละ จะมีธุรกิจ มันก็ไม่แน่นอน  จะกลัวอะไร มัวแต่กลัว โน่นกลัวนี่ ชีวิตก็ไม่ต้องซื้อ ต้องทำอะไรแล้ว ถ้าใจชอบอะไรก็เอาเลย อย่าไปกลัว ประเภท "นกน้อยทำรังแต่พอตัว" "การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ" "มีหนี้อยุ่แล้ว แต่อยากมีอีก" อะไรประมาณนี้ เยอะจริงๆ มีหนี้น่ะมีได้แต่มีให้เหมาะมันก็ประเสริฐ  ทำรังแต่พวกตัว เงินเดือนเยอะ พ่อแม่รวยก็ซื้อแพงหน่อย แบบนี้ก็เรียกว่าทำรังแต่พอตัวเหมือนกัน   มีหนี้แล้วอยากมีอีก  ก็แน่ล่ะครับ เงินมันเยอะอ่ะ อยากซื้ออีก มีปัญญาผ่อน ก็ทำเลยอย่ารอ เวลามันไม่รอใครนะครับ จากคุณ : fillerneck เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 14:34:57

ความคิดเห็นที่ 19 ดีครับ หลายๆคนก็ซื้ออสังหาริมทรัพย์เป็นการเก็บเงิน หรือลงทุนในอนาคต แต่ ลองหัดเก็บเงินกับ ธอส ก่อนดีกว่ามั้ย ฝากแบบไม่เสียภาษี 24 เดือน ฝากครบ 24 เดือนได้สิทธิ์เงินกู้ดอกเบี้ยลดลงอีก 0.5 และได้สิทธิกู้เงิน 80 เท่าของเงินที่ฝากประจำในแต่ละเดือน ซื้อบ้านโดยไม่มีเงินเก็บ และยิ่งเป็นคนที่มีนิสัยไม่เคยเก็บเงินด้วยแล้ว ผมว่าความเสี่ยงสูงมากครับที่จะมีปัญหาในอนาคต เพราะต้องรักษาระเบียบวินัยทางการเงินอย่างมาก ถ้าไม่อยากผ่อนจนแก่อายุ 60 กว่า คุณก็ต้องผ่อนให้มากกว่าเกณฑ์ทุกๆเดือน ถ้ากู้ 25 ปี ก็ต้องผ่อน 300 เดือนเชียวนะครับ ไม่ใช่ 30 เดือน มั่นใจแล้วรึยังว่าจะมีเงินผ่อนทุกเดือนโดยไม่เคยชีอต จากคุณ : Rapter เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 14:43:00

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณทุกๆ ความเห็นค่ะ จขกท. ไม่รวย เงินเดือนไม่เยอะ (แต่อายุเริ่มเยอะ 5555) กะว่าจะซื้อบ้านทาวน์เฮ้าส์ราคา 1.2-1.3 ล้าน ผ่อนเดือนละ 1 หมื่นนิดๆ น่าจะพอไหว   อย่างที่บางความเห็นบอกค่ะ เวลาไม่รอใคร อายุเริ่มเยอะแล้ว อยากจะซื้อ อยากจะผ่อนอะไร คงต้องรีบตัดสินใจแล้วค่ะ ^^ จากคุณ : The Beginner เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 19:52:50

ความคิดเห็นที่ 21 เราก้ออายุพอๆกับจขกท.  ตอนแรกผ่อนคอนโดถูกๆไว้ ผ่อนหมดก้อเริ่มอยากขยับขยายขายคอนโดแล้วเอามาดาวน์ทาวเฮ้ามือสองราคาประมาณนี้เหมือนกันค่ะ ถ้าคิดว่าจะอยู่เองซื้อไปเถอะค่ะ ฝึกวินัยไปในตัว จากคุณ : pletetad เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 21:58:12

ความคิดเห็นที่ 22 ฝากประจำ หรือว่า ซื้อทองแท่งเก็บทุกเดือนก็ดีค่ะ จากคุณ : ป้าแมงฯ เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 55 08:56:56

ความคิดเห็นที่ 23 เหมือน 22 ครับ บ้านถ้าซื้อแล้วไม่เข้าไปอยู่มันโทรม ค่าดูแล ค่าประกัน ลงทุนให้ถูกวิธีดีกว่า ของผมพอมีเงินเหลือก็ซื้อสลากออมสินเก็บไว้ เพื่อถูกรางวัล จากคุณ : popyim เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 55 09:06:25

ความคิดเห็นที่ 24 ดอกเบี้ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ผ่อนเดือนละหมื่นกว่า คุณจะ ต้องจ่ายดอกเบี้ย เกือบเดือนละหมื่น เหมือนกัน คุณจะตกใจ เมื่อเห็นตัวเลข ว่า เงินที่จ่ายไปแต่ละเดือน เงินต้น เท่าไหร่ และ ดอกเบี้ยเท่าไหร่ ดอกเบี้ย ปีละ แสนนึง แล้วนะครับ ตรงนั้น คือ เงินสูญ ถ้า ราคาบ้านและที่ดินไม่ขึ้น ในระยะยาว ถ้ามีคนเช่า ค่าเช่า จะพอๆกับค่าดอกเบี้ย อันนั้น โอเค แต่บ้านจะโทรม อย่าดีกว่าครับ จากคุณ : ไฟล์ท B ทีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 55 10:10:10

ความคิดเห็นที่ 25 เห็นด้วย ซื้อเลย เอาที่พอผ่อนไหวนะ เพราะเราก็เป็นคนนึงที่เก็บเงินไม่อยู่ ก็ซื้อเป็นบ้านเป็นช่องไปผ่อนห้าปีสิบปีก็หมด  ถ้าไม่ได้อยู่ก็ปล่อยให้เช่า แต่ต้องดูทำเลด้วยนะ จากคุณ : natlapoon เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 55 14:12:04

ความคิดเห็นที่ 26 ดีครับ จะซื้อตอนไหน สุดท้ายก็ต้องผ่อนเหมือนกัน จะผ่อนบ้านหมดก่อนตาย  หรือรออีกหน่อย ก็เป็นประเภท ตายก่อนผ่อนบ้านหมด เลือกทำเลดีๆไว้ก่อน แล้วตัดสินใจซื้อ ซื้อหลังประมาณว่า พอจะค้าขายได้ เช่น เลือกติดถนนเมนของหมู่บ้าน แพงกว่าหน่อย แต่ระยะยาวคุ้มค่ากว่ามาก จากคุณ : atid100 เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 55 21:51:15

ความคิดเห็นที่ 27 แล้วแต่มุมมองครับ ถ้าคุณมองบ้านเป็นทรัพย์สิน (แต่ธนาคารมองว่าเป็นหนี้สิน นี่สิ ที่สำคัญ คุณต้องอยู่ไปกับมันอีกยาวเลย) แต่ผมว่าคุณเลือกทำเลหน่อยก็ดีนะครับ หากในกรณีจำเป็นต้องขายตอนที่เปลี่ยนที่อยู่ใหม่ จะได้กำไรเมื่อขายต่อ เพราะบางที่ราคาผ่านมาหลายปีราคายังไม่กระดิกเลย จากคุณ : หวังดีดอกจึงบอกให้ (keepLife) เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 22:44:08

ความคิดเห็นที่ 28 เมื่อก่อนก้อเคยเป็นเหมือน จขกท. เก็บเงินไม่อยู่ บางทีมีหนี้สิ้น ที่จำเป็นต้องผ่อน มันจะบังคับตัวเองไปโดนอัตโนมัติน่ะค่ะ ว่าทุกเดือนเรามีภาระที่จะต้องจ่าย แต่ที่คุณจ่ายไปมันเป็นทรัพย์สิน ยังงัยก้อยังขายต่อได้ ดีกว่าเราละลายเงินไปแต่ละวัน ไม่ได้อะไรเลย. คือเมื่อก่อนเราอยากได้รถ พอเราได้่รถมา เงินที่เราใช้แบบไร้สาระแต่ละเดือนก้อมาลงที่รถหมดน่ะค่ะ จริงๆอยากได้บ้านแต่กำลังทรัพย์ไม่ถึง จขกท เงินเดือนสามหมื่น น่าจะทำได้อยู่แล้วค่ะ จากคุณ : yatalovely เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 15:15:04

ความคิดเห็นที่ 29 ต้องกู้แบ๊ง อย่าซื้อ........ ถ้าไม่คิดจะอยู่ ไม่งั้นก็ซื้อตึกแถวปล่อยเช่าก็ได้ จากคุณ : ด เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 16:29:38 A:125.24.254.248 X: TicketID:365080