|
คห ๒๔
ต้องขอโทษด้วยที่่เขียนให้ผู้ที่จ่ายถูกต้องตามระบบ (อย่างที่น่าจะดูชอบธรรม) รู้สึกแปลกแยก แตกต่าง และเสียเปรียบ
อันนี้มิได้เจตนาจริงๆ
สิ่งที่เราต้องการ คือ อยากเห็นการตลาดแบบเป็นธรรม หรือ แนวมวลชนจริงๆ (mass marketing) เหมือนอย่างที่เราเห็นมาในประเทศฝรั่งเศสคือ
Orange หรือ France TELECOM เขาเป็นเจ้าตลาดในด้านโทรคมนาคมจริง หมายถึงกินส่วนแบ่งการตลาดส่วนใหญ่ในประเทศ เพราะเป็นคนวางเครือข่ายสายโทรศัพท์ไฟเบอร์ออปติก
ทว่า เขามิได้งกำไร หรือกะจะกินคนเดียว ตามหลักการตลาดแบบทุนนิยมสามานย์ แต่เมื่อเขาลงทุนไปเยอะทางด้านเทคนิก เขาก็แบ่งเค้กให้ผู้ประกอบการรายอื่นอย่างเช่น Buygues Telecom, SFR, Nooz, Free, Darty, etc ให้เป็นผู้ประกอบการร่วม มิใช่คู่แข่ง โดยรับผิดชอบในการหาตลาดตัวเอง
ราคามาตราฐานทั่วประเทศของแพ็คเก็จ โทรศัพท์ บวก โทรทัศน์เคเบิ้ลร้อยกว่าช่อง บวก อินเตอร์เน็ต เท่ากันหมดคือ 29.99 ยูโร หรือ ๑๒๐๐ บาท โดยประมาณ
เป็นราคาที่ยุติธรรม และเข้าถึงได้ถึงชนชั้น (รายได้ขั้นต่ำตามกม ฝรั่งเศส คือ ๑ พันยูโร โดยประมาณ) คิดเป็นอัตราส่วนเพียงร้อยละ 0.03 เท่านั้น
ในขณะที่ อัตราค่าเคเบิ้ลทีวี แต่ลำพัง แพ็คเกจแบบดูได้หน่อยก็โกลด์ ต้องจ่ายไม่ต่ำกว่า ๑๕๐๐ บาท (หากแพงกว่านั้นก็ต้องขออภัย เพราะไม่ได้อัพเดท) คิดเทียบกับรายขั้นต่ำวันละ ๓๐๐ บาทของบ้านเรา เดือนหนึ่งก็ ๙๐๐๐ บาท เท่ากับร้อยละ 16.66
มันมากและแพงกว่าในฝรั่งเศสกี่เท่ากับคูณเองนะ นี่แค่ทีวีแต่ลำพังเท่านั้น ยังไม่มานับโทรศัพท์ และเน็ตอีก
เพราะความละโมภของผู้ประกอบการแบบผูกขาด ไม่แบ่งเค้กให้ชาวบ้าน ทำให้ต้นทุนการประกอบการของตัวเองสูง ก็เลยต้องมาขูดเอาจาก ผู้บริโภค
จริงหรือเปล่า
สรุป เราไม่มีทีวี ที่บ้าน เพราะรำคาญขยะในโทรทัศน์ (โฆษณาแฝงและไม่แฝงทั้งหลาย) และไม่อยากจะเสียตังค์ให้กับผู้ประกอบการที่เห็นแก่ตัวอย่างทุย
ส่วนใครที่มีปัญญา หรือสามารถปล่อยให้ตัวเองถูกเอาเปรียบ(ในคหสต ของเรา) ก็เชิญต่อไป เราไม่ได้ว่า เพราะความสุขของคนเรามันไม่เหมือนกัน เราไม่มีทีวี เราก็หาทางหาความสุขให้ตัวเองได้
หวังว่าจะเข้าใจเจตนารมย์ ของเรา เราไม่ได้ส่งเสริมให้คนขโมยสัญญานดู แต่มันเป็นปรากฏการณ์ในสังคมไทย เพราะเหตุผลที่เราอธิบายไปข้างต้นก็ชัดพอสมควร
จากคุณ |
:
ปากจัดชะมัดยาด (ปรารถนาดี ไม่มีแอบแฝง)
|
เขียนเมื่อ |
:
16 ก.ค. 55 16:00:40
|
|
|
|
|