ความคิดเห็นที่ 1 หลังจากได้อ่านกระทู้เพื่อนสมาชิกที่เป็นกระทู้แนะนำอยู่ตอนนี้ "ทีวีระเบิด ต่อหน้าต่อตา" และมีเครื่องดับเพลิงขนาดเล็กติดบ้านไว้ ก็เลยอยากจะขอแบ่งปันข้อมูลให้เพื่อนๆสมาชิก..หากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัย และเพื่อนสมาชิกที่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ มาร่วมแบ่งปันข้อมูลกันนะครับ ภาพแรกเป็นการเลือกเครื่องดับเพลิงนะครับว่า น้ำยาแต่ละประเภทมีคุณสมบัติแบบใด แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 55 09:06:53 จากคุณ : Sunyawat เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 18:07:09

ความคิดเห็นที่ 2 จากรูปความคิดเห็นที่ 1 ดูแล้วน่าจะพอเข้าใจนะครับว่า ประเภทใหนคุณสมบัติเป็นอย่างไร ดับไฟที่เกิดจากเชื้อเพลิงประเภทใหนได้บ้าง โดยจะเรียกความสามารถในการดับเพลิงเป็น CLASS CLASS A : จะเป็นเพลิงที่เกิดจากเชื้อเพลิงของแข็ง, ไม้, กระดาษ, พลาสติก, ยาง CLASS B : เกิดจากน้ำมันเชื้อเพลิง, ก๊าซหุงต้ม CLASS C : เกิดจากอุปกรณ์ที่เกิดจากไฟฟ้า, อิเล็กโทรนิค CLASS K : เกิดจากน้ำมันพืช ส่วนประเภทของเครื่องดับเพลิงแต่ละประเภทดับอะไรได้ดูที่เป็นสีเขียวครับ ส่วนสีแดงไม่สามารถนำไปใช้ได้ครับ ส่วนที่เรานิยมและเห็นกันมากที่สุดคือถังสีแดง เรียกว่าเคมีแห้ง คุณสมบัติก็ดับได้ CLASS : A, B, C ข้อดี  : เครื่องสามารถดับไฟได้เกือบทุกประเภท ยกเว้น CLASS : K, ราคาถูกที่สุด, หาซื้อง่าย ข้อเสีย : เมื่อฉีดออกมาจะพุ้งกระจาย, เมื่อเราทำการฉีดแล้ว จะฉีดจนหมดหรือไม่หมดถัง แรงดันจะตก ไม่สามารใช้งานได้อีก ต้องส่งบรรจุใหม่, หลังฉีดไปแล้ว จะเป็นฝุ่นเต็มบริเวณที่เราฉีด ต้องมาทำความสะอาดกันเหนื่อย, และที่สำคัญ กฎหมายกำลังจะออกมาให้เลิกใช้ เนื่องจากอ้างว่าทำลายสิ่งแวดล้อมและระบบทางเดินหายใจ ขนาดมีตั้งแต่ 2.2 ปอนด์และ 5 ปอนด์ (นิยมนำไปติดไว้ในรถยนต์ที่ติดแก๊ส)  ส่วนถ้าติดตามบ้านและคุณผู้หญิงสามารถยกได้ จะมีขนาดประมาณ 10 ปอนด์ และ 15 ปอนด์ ส่วนขนาดตั้งแต่ 20 ปอนด์ขึ้นไปนิยมติในโรงงานอุตสาหกรรม ** หมายเหตุ ** 2.2 ปอนด์ เท่ากับ 1 กิโลกรัม โดยประมาณ  ส่วนรูปเครื่องดับเพลิง ผมไม่นำมาโพสให้ดูนะครับ เพราะเดี๋ยวหาว่ามาโฆษณา จากคุณ : Sunyawat เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 18:27:26

ความคิดเห็นที่ 3 ชนิดสูตรน้ำนั้น จะเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ทางบริษัท เครื่องดับเพลิงนำมาจำหน่ายกันไม่นานมานี้ และตัวนี้แหละที่จะมาแทนถังสีแดงในอนาคต แต่ละยี่ห้อจะใช้สีไม่ที่ถังไม่เหมือนกัน   ข้อดี : ดับไฟได้ทุก CLASS โดยเฉพาะ CLASS K ที่เกิดจากน้ำมันประกอบอาหาร ทำให้ไฟไม่ย้อนกลับมาติดอีก, เวลาฉีดไม่หมดถังก็ไม่จำเป็นต้องบรรจุใหม่ สามารถใช้ได้จนหมดถังแล้วค่อยบรรจุใหม่, สามารถฉีดอุปกรณ์ไฟฟ้าได้โดยไม่ทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรในขณะที่เราลืมตัดสวืตซ์ไฟ, ทำความสะอาดง่ายกว่าชนิดเคมีแห้ง ข้อเสียคืิอ : ราคาจะสูงกว่าเครื่องดับเพลิงชนิดเคมีแห้ง 2-3 เท่าตัว ชนิดสารระเหยเร็ว เมื่อก่อนเราจะเห็นว่าเป็นถังสีเหลืองเป็นสารฺBFC ซึ่งปัจจุบันห้ามใช้งานแล้ว ปัจุบันนี้มีบริษัทหนึ่งนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย และได้รับหนังสือรับรองว่าเป็นผู้นำเข้ามาเพียงเจ้าเดียว และผมก็เป็นตัวแทนเค้า แต่จะมีตัวใหนของบริษัทใหน ก็ลองไปหาดูนะครับ เพราะวงการนี้ก็มีการแข่งขันกันสูงพอสมควร ข้อดีคือ : สามารถดับได้ CLASS : A, B, C โดยที่ไม่ทิ้งคราบมากหรือเป็นอัตรายต่อระบบหายใจ นิยมใช้กับเครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยเฉพาะโรงงานที่มีห้องคอลโทน หรือคอมพิวเตอร์เยอะๆ หน่วยงานใหญ่ที่เป็นของต่างประเทศจะนิยมใช้ครับ เพราะเค้าจะรู้จักคุณสมบัติน้ำยาชนิดนี้ดี ข้อเสียคือ : ราคาสูงมากหลักพันปลายๆ เกือบหมื่น จากคุณ : Sunyawat เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 18:45:39

ความคิดเห็นที่ 4 ชนิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ Co2 เครื่องดับเพลิงชนิดนี้เราก็เห็นกันพอสมควรตามห้างสรรพสินค้าหรือตามหน่วยงานต่างๆ ความสามารถดับได้ CLASS : ฺB, C เท่านั้น ข้อดี : ไม่เป็นฝุ่นหรือน้ำ ไม่ทิ้งคราบสกปรก ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่ติดไฟ ข้อเสีย : หากเป็นห้องหรือที่ปิด การทำงานของเครื่องดับเพลิงชนิดนี้เป็นการตัดอากาศ หากมีคนอยู่ในห้องที่เกิดเหตุ จะไม่มีอากาศหายใจ, ไม่มีเกจน์วัดแรงดัน, มีน้ำหนักมากกว่าอากาศ 1.5 เท่า และไม่ควรตั้งตากแดด ต้องเก็บไว้ในที่ร่ม เวลาฉีดหรือฉีดเสร็จใหม่ๆไม่ควรจำปลายสาย ชนิดนำ้ำสะสมแรงดัน ดับได้แต่ CLASS : A เท่านั้น จึงไม่เป็นที่นิยมกัน ไม่ควรนำไปฉีดใส่ CLASS : B จะทำให้ไฟกระเด็นไปติดที่อื่นได้ เป็นการเพิ่มให้ไฟติดเร็วขึ้น และห้ามนำไปฉีด CLASS : C, K ชนิดโฟม ก็ไม่นิยมใช้ตามบ้านพักอาศัย จะนิยมใช้กับโรงงานอุตสาหกรรม โดยมากจะไว้ดับ เชื้อเพลิงประเภททินเนอร์ หรือสารระเหยที่ติดไฟง่าย ไม่ควรนำไปฉีด CLASS : C จะทำให้ไฟดูดเราได้ครับ จากคุณ : Sunyawat เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 18:59:31

ความคิดเห็นที่ 5 เวลาซื้อเครื่องดับเพลิง แต่ละชนิด จะมีสัญลักษณ์ที่ข้างถังว่ามีคุณสมบัติอะไรบ้าง และที่เราจะเห็นอีกอย่างคือ Fire Rating อาทิเช่น 2A: 2B หรือ 6A : 20B คืออะไร เวลาซื้อ ผมแนะนำให้ซื้อ 6A:20B ไปเลยครับ หลายคนเวลาไปซื้อไม่ได้สนใจตรงนี้ ดูแต่ราคา เห็นว่าขนาดเครื่องเท่ากันแต่ ราคาทำไมต่างกัน (โดยเฉพาะเวลาผมเสนอลูกค้าโรงงานกับจัดซื้อ จะบอกว่าเค้าซื้อได้ถูกกว่า ผมต้องมานั่งอธิบาย) ผมเอารูปเปรียบเทียบมาให้ดูครับว่าเป็นอย่างไร จะได้เข้าใจง่ายๆหน่อยครับ ภาพนี้เป็นคำว่า A แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 55 19:34:47 จากคุณ : Sunyawat เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 19:04:13

ความคิดเห็นที่ 6 คำว่า B จากคุณ : Sunyawat เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 19:05:44

ความคิดเห็นที่ 7 ข้อมูลนี้พอจะทำให้เพื่อนสมาชิกตัดสินใจและเลือกซื้อเครื่องดับเพลิงมาใช้กันได้ตามที่ต้องการนะครับ คราวนี้มาดูการดูแลรักษาเบื้องต้นกันครับว่าการดูแลเบื้องต้นมีอะไรบ้าง โดยมาเมื่อเราซื้อเครื่องดับเพลิงมาใหม่ๆ ก่อนออกจากร้านหรือห้างสรรพสินค้า ควนดูที่เกจน์ก่อนนะครับว่าเกจน์ตกไม๊ สภาพถังเป็นอย่างไร และเมื่อเรานำมาติดตั้งที่บ้านพักแล้วอย่างน้อยควรตรวจสอบสภาพเครื่องด้วยตนเอง ทุกๆ 3-6 เดือนครั้ง เป็นอย่างต่ำ หรือจะให้ดีควรทุกๆเดือนครับ ให้มีสภาพพร้อมการใช้งานตลอดเวลา หลายๆคนชอบถามว่าแล้วเวลานานขนาดใหนควรเปลี่ยนหรือบรรจุใหม่ ไม่ใช่ซื้อมาตั้งไว้ เป็นเวลาหลายปีไม่ได้ใช้แล้วนำมาใช้เกิดปัญหา โดยมากเกจน์จะตกเองเนื่องจากซีลยางอาจรั่วหรือเปื่อยครับ .......อันนี้ขึ้นอยู่กับเครื่องดับเพลิงแต่ละยี่้ห้อครับ โดยมากเครื่องใหม่จะใช้เวลา 2-3 ปี ก็ควรส่งให้ร้านหรือบริษัทที่จำหน่ายทำการตรวจเช็คครับ อย่าไปเสียดายค่าใช้จ่ายไม่กี่บาทเพื่อแลกกับมูลค่าบ้านและทรัพย์สินของเพื่อนสมาชิก แต่เทคนิคการขายหรือน้ำยาที่ไม่ได้คุณภาพ ทางร้านจะชอบบอกว่า ปีละครั้ง จึงทำให้บุคคลทั่วๆไปเห็นว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก และมีค่าใช้จ่ายสินเปลือง........ลองถามเค้าดูนะครับว่ามีบริการตรวจเช็คเครื่องให้ถึงบ้านหรือเปล่า โดยมากบริษัท ที่เค้าจำหน่ายให้ลูกค้าจำนวนมากๆหรือโรงงานอุตสาหกรรม เค้าจะมีบริการตรวจเช็คให้ฟรี เพราะเค้าเน้นการบรรจุหลังการขายให้ลูกค้าไป บางค้าเค้าจะลงทุนห้องอัดเองเลยครับ สามารถรอรับได้เลย แต่ทางร้านที่มีห้องอัดจะต้องขออณุญาตทางเทศบาลหรือหน่วยงานที่ออกใบอณุญาต ....แต่ร้านใหนไม่มีก็ลองถามเค้าว่าเวลามาส่งอัดน้ำยาใหม่ว่า มีเครื่องสำรองให้ไว้ใช้งานไม๊ระหว่างรอเครื่องส่งอัด รูปนี้เป็นรูปการตรวจเช็คและการใช้งาน ขอลบภาพออกนะครับ เพราะมียี่ห้อของเจ้าของสินค้า แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 55 21:07:42 แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 55 21:07:19 จากคุณ : Sunyawat เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 19:23:40

ความคิดเห็นที่ 8 และปัจุบัน มีระบบดับเพลิงชนิดใหม่ที่ทำงานเองโดยอัตโนมัติ ที่ไม่ใช่แบบที่นำเสนอมาข้างต้น นิยมไปติดที่ตู้ไฟ หรือตู้วงจรไฟ โดยมากตอนนี้โรงงานอุตสาหกรรมกำลังตื่นตัว และติดตั้งกันเยอะมากเนื่องจากทำงานเองโดยอัตโนมัติและแทบไม่ต้องบำรุงรักษาเลยในระยะเวลา 15 ปี แต่ราคาค่อนข้างสูงอยู่ เดี๋ยวผมรวบรวมรูปก่อนนะครับ แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 55 19:55:41 จากคุณ : Sunyawat เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 19:29:38

ความคิดเห็นที่ 9 เอาเป็นว่าระบบดับเพลิงอัตโนมัตินี้ผมจะไม่ขอให้ข้อมูลอะไรมากนะครับ เพราะเดี๋ยวหาว่ามาทำการโฆษณาสินค้า แต่จะขอบรรยายด้วยภาพและข้อมูลนิดหน่อย และตอนนี้กำลังทำตลาดกันในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมและสำนักงานใหญ่ๆครับ จากคุณ : Sunyawat เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 19:58:25

ความคิดเห็นที่ 10 อันนี้เป็นแต่ละขนาดครับ วิธีการคิดว่าเราจะใช้ขนาดใหน ก็ง่ายๆครับ คือ กว้าง x ยาว x สูง (ปริมาตร) x ด้วย 100 ตัวอย่างเช่น ตู้ไฟหรือบริ้เวณที่จะติดตั้ง มีขนาด กว้าง 1.2 x ยาวหรือลึก 0.8 x สูง 2.0 เมตร ก็จะได้ 1.92 ลบ.เมตร x 100 ก็จะได้ 101.92 เราก็มาดูว่าขนาดที่ใกล้เคียงสุดคือรุ่น PF200S ให้เราเลือกรุ่นที่มีจำนวนมากไว้ก่อนครับเพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ส่วนรุ่นPF8 หรือ PF20s สามารถนำไปติดในเคสคอมพิวเตอร์หรือตู้ไฟขนาดเล็กๆได้ครับ จากคุณ : Sunyawat เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 20:06:36

ความคิดเห็นที่ 11 ส่วนการทำงานหรือหลักการผมไม่ขอกล่าวถึงนะครับ ใครอยากรู้ก็ไปหาข้อมูลเอาเองครับ หรือหากมีคนสนใจจริงๆ ผมค่อยมาให้ข้อมูลกันอีกที เพราะให้ผมอธิบายมาก เดี๋ยวหาว่ามาขายของหรือโฆษณาแอบแฝง....... อีก 2 รูปครับ สำหรับการติดตั้งที่โรงงานอุตสาหกรรมนิยมติดตั้งกัน แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 55 20:20:06 จากคุณ : Sunyawat เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 20:13:16

ความคิดเห็นที่ 12 และรูปสุดท้ายครับ....เราสารมารถนำมาประยุกต์มาติดตั้งในบ้านพักเราได้ครับ โดยทำการติดตั้งซ่อนไว้ใต้ฝ้าเพดาน และหาแ่ผ่นอะไรมาทำการตกแต่งช่องนั้น การติดตั้งไม่จำเป็นต้องอยู่กลางห้อง.... อย่างที่บอกว่า อย่ามาถามราคาจากผม อย่ามาต่อว่าผม ผมเพียงแค่อยากมาแชร์ข้อมูลความรู้อันน้อยนิดที่มีการให้เพื่อนสามาชิกที่ยังไม่ทราบเรื่องเครื่องดับเพลิง ส่วนข้อิมูลที่มากกว่านี้ผมไม่ขอกล่าวนะครับ.......ส่วนที่ผมกล่าวมาแล้ว หากผิดพลาดต้องขออภัย และโปรดชี้แนะ และให้ความรู้เพื่อสมาชิก ที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์และนำไปใช้นะครับ แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 55 20:40:26 จากคุณ : Sunyawat เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 20:19:18

ความคิดเห็นที่ 13 ขอลงภาพที่ลบออกไปใน ความคิดเห็นที่ 7 ครับ เนื่องจากลืมลบยี่ห้อสินค้า และรูปนี้อาจไม่ชัดมากเนื่องจาก ในเครื่องผม ไม่มีโปรแกรมตกแต่งภาพ ก็เลยต้องไปทำใน Word แล้วปริ้นออกมา จากนั้นมาสแกนใหม่ครับ จากคุณ : Sunyawat เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 21:21:21

ความคิดเห็นที่ 14 ในฐานะ จป. คนนึงนะ ขอเตือนผู้ประกอบการว่า ให้พนง.ที่ มีความรู้มานั่งฟังและ พิจขารณาตอนที่ บ. เสนอด้วย เพราะ ผมเจอมาหลายที่ มี การสเนอ อุปกรณืที่ ไม่ได้อะไร กับ บ. เลยก็มี ไม่ขอพูดอะไรมาก ขอให้ดูความเป็นจริง อ้อ สำหรับที่ ไหนยังมี ถังเหลือง ที่ใช้ดับไฟจากไฟฟ้า ขอแจ้งว่า ใช้ไม่ได้แล้วนะครับ และไม่มีน้ำยาให้เติมแล้ว แต่สามารถ เปลี่ยนไปใช้ พวก เวเปอรื หรือ น้ำยายี่ห้ออื่นที่ใกล้เคียงได้ ราคาไม่แพงเท่าไหร่ติดบ้านไว้ก็ดีครับ  เอาไว้ใกล้ๆ แผงไฟฟ้า คัทเอาท์ บ้าน ดีครับ ไฟลัดฉีดเลยไม่ต้องกลัวกระแสไฟฟ้าย้อนเข้าตัว จากคุณ : เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 09:41:14

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณ"เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน" ครับ ที่มาช่วยเสริมความรู้ให้เพื่อนสมาชิกและแบ่งปันความรู้กัน จากคุณ : Sunyawat เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 10:06:43

ความคิดเห็นที่ 16 กิฟท์หมดแล้วค่ะ ขอแปะไว้ก่อน แต่ในฐานะ User ที่ไม่ใช่แนวช่างเทคนิค  คำอธิบายแบบบ้านๆ สำหรับแม่บ้าน  คิดเอาเองว่า ถ้าจะซื้อติดบ้านไว้ (เน้นว่าใช้ที่บ้านซึ่งเป็นที่พักอาศัยปกติ) ควรจะเป็นเคมีสูตรน้ำใช่มั๊ยคะ จากคุณ : ink (siam) เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 11:56:47

ความคิดเห็นที่ 17 แปะไว้ก่อน แล้วจะเข้ามาอ่านเอาเรื่องภายหลัง ขอบคุณ จขกท มากค่ะ จากคุณ : น้องเหมียวสีสวาด เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 12:19:30

ความคิดเห็นที่ 18 กระทู้ดีๆ ช่วยส่งเสริมครับ จากคุณ : TuWaMaS เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 15:13:32

ความคิดเห็นที่ 19 ผมสงสัย ว่า ประเภทคาร์บอน ตามรูปภาพไม่สามารถดับไฟจากน้ำมันเชื้อ หรือก๊าซหุงต้มได้ แต่ทำไมตอนผมไปอบรมดับเพลิงของ บ. เค้าใช้ตัวคาร์บอนดับไฟจากน้ำมันกับแก๊สล่ะคับ งง มากมาย งั้นแสดงว่าถ้ามี ฮาโรตรอน (ถังเหลือง) ควรเก็บให้ดีสิครับ เพราะว่าหาไม่ได้แล้ว แต่ถ้ามันดีแล้วทำไมถึงให้เลิกใช้ล่ะคับ เพราะว่าราคาแพงอย่างเดียวเหรอคับ ??? ผมว่าดีซะอีก เวลาดับเสร็จแล้วจะได้ไม่เลอะเทอะ ครับ จากคุณ : เจ้าหนูจัมมัยตัวน้อยนิด เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 15:32:53

ความคิดเห็นที่ 20 ตามความเห็น3ที่ดับไฟได้ทุกคลาส มันต้องมีเติมทุกปีไหมคะ จากคุณ : ซาซิมิจัง เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 16:11:13

ความคิดเห็นที่ 21 พอดีเพิ่งกลับมาจากออกไปทำธุระข้างนอกน่ะครับ กลับมาดูกระทู้ตัวเอง ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำซะงั้น ดีครับ เพื่อนสมาชิกจะได้มีข้อมูลและมีความรู้เกี่ยวกับเครื่องดับเพลิงไว้ ดีกว่าไม่รู้อะไรเลย อย่างที่ผมบอกไว้นะครับว่า ที่ผมเอามาแบ่งปันนั้น ไม่สามารถนำมาอธิบายได้มากกว่านี้ หรือลงไฟล์ภาพหรือไฟล์ VDO. ที่มีอีกมากมาลงให้ดู...เนื่องจากกลัวว่ามาชี้นำสินค้าหรือมาทำธุระกิจแอบแฝงในกระทู้.............หากท่านใดที่มีความรู้และอยากเสริม เพื่อให้เพื่อนสมาชิกห้องชายคา ได้รับข้อมูลมากกว่านี้เชิญได้เลยครับ +++ เครื่องดับเพลิง เป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยระงับเหตุเริ่มต้นเท่านั้นนะครับ ในกรณีเพิ่งเกิดเพลิงไหม้ใหม่ๆ และกลุ่มเพลิงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากเกิดเหตุที่ไหม้มากพอสมควร ให้เอาชีวิตและคนในครอบครัวออกมาให้ไวที่สุดนะครับ ถึงบ้านและทรัพย์สินภายในบ้านจะมีมูลค่ามากเพียงใด ก็ไม่เท่ากับ "ชีวิตคุณและคนที่คุณรัก" ทุกอย่างสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ครับ +++ คุณ ink(siam) : แนะนำให้ใช้ " เคมีสูตรน้ำครับ" ไม่ใช่ "สูตรน้ำ"  เนื่องจากต่อไปในอีกไม่นานจะบังคับห้ามใช้แล้วครับ แต่ผมยังไม่รู้ว่าเมื่อใหร่นะครับ และที่สำคัญไม่เป็นฝุ่นละออง และสามารถดับได้ทุกประเภทของเชื้อเพลิง โดยเฉพาะหากเรากำลังทอดอาหารอยู่และลืมไว้ เมื่อน้ำมันพืชเกิดติดไฟแล้ว ยากที่จะดับ และอย่านำน้ำไปสาดหรือราดนะครับ จะทำให้"ระเบิด" และเปลวไว้พุ่งขึ้นสูง ทำให้ไหม้บริเวณอื่นได้ หากไม่มีเคมีสูตรน้ำ ใช้ฝาหม้อหรือฝาอะไรที่ใหญ่กว่ากะทะ ปิดลงที่กะทะก็ได้ครับ ทำให้ไม่มีอากาศ ไฟก็ดับได้ครับ .........จำไว้นะครับ " อย่าใช้น้ำสาดเป็นอันขาด " ..........ราคาอาจแพงกว่าชนิดเคมีแห้งเท่าตัว แต่การใช้งานก็คุ้มกว่ากันครับ คุณเจ้าหนูจัมมัยตัวน้อยนิด : CLASS : B กับ CLASS : K ต่างกันนะครับ B คือเชื้อเพลิงหรือของเหลวและก๊าซที่ติดไฟ (น้ำมันที่สามารถจุดไฟติดได้ทันที)  ส่วน K คือ น้ำมันที่ประกอบอาหาร ที่ไมาสามารถจุดไฟติดทันที แต่ต้องให้ความร้อนถึงจุดสูงมากๆ จึงจะติดไฟ เมื่อติดแล้วไม่สามารถดับได้ทันที และเมื่อดับแล้ว อุณหภูมิยังคงสูงอยู่ ก็จะย้อนกลับมาติดไฟได้อีกครับ .........Co2 ดับได้ดีใน CLASS : B, C ครับ.... ส่วนใครที่ใช้หรือมี "ฮาโรตรอน" ควรเก็บไว้นะครับเพราะว่า "ของแท้" แพงครับ ส่วน สาร "CFC" ข้อเสียของน้ำยาดับเพลิงชนิดนี้คือ มีสาร CFC ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม "กระทรวงอุตสาหกรรมได้ห้ามใช้สารในกลุ่ม CFF-11,CFC-12 และควบคุมการนำเข้าของสารที่ทำลายชั้นโอโซนในปี 2541 ส่วน CFC-113,CFC-114,CFC-115 เมทิลคลอโรฟอร์มและสารฮาลอน เลิกใช้ในปี 2541 คุณซาซิมิจัง : ไม่ต้องเติมทุกปีครับ ให้สังเกตุเกจน์ว่าตกไม๊ หากเราซื้อมาใหม่ๆ 2-3 อยู่ได้สบายครับและที่สำคัญเมื่อฉีดแล้วไม่หมดถัง ก็ไม่ต้องเติมครับ สามารถใช้ได้จนหมดถังครับ...ไม่เหมือนเคมีแห้ง ฉีดไม่หมด ก็ต้องส่งบรรจุและอัดใหม่ครับ จากคุณ : Sunyawat เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 19:40:59

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : ink (siam) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 12:37:07

ความคิดเห็นที่ 23 เป็นประโยชน์มาก ๆ เลย ขอบคุณจ้า จากคุณ : น้องหยก เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 22:56:14

ความคิดเห็นที่ 24 อย่างนี้แสดงว่าที่ควรมีไว้ติดบ้าน น่าจะเป็นชนิด Low Pressure Water Mist หรือเปล่าครับ เพราะสามารถดับไฟได้ทุกประเภท ว่าแต่ว่าประสิทธิภาพในการดับไฟใช้ได้ดีไหมครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : zenario เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 08:35:05

ความคิดเห็นที่ 25 ทางเลือกเสริมครับ สำหรับเชื้อเพลิง ประเภทK หรือ น้ำมัน ในห้องครัว.... หาพวก Fire Blanket มาติดเอาไว้ ในห้องครัว พอเวลา เกิดเหตุ สามารถนำมาใช้คลุมดับไฟ...จะง่ายกว่า ครับ.. เหตุผล สำหรับผมเพราะ 1 เราสามารถฝึกการใช้งานแบบแห้งได้...(แบบแห้งคือไม่มีไฟติดจริง แค่ลองท่าทาง การเข้าคลุมไฟ การห่อผ้าคลุมมือ ก่อนคลุมไฟ) 2 ราคาไม่แพงมาก ดูแลรักษาง่าย ติดตั้งไม่เปลืองพื้นที่ 3 แบบ เคมีถังบรรจุแรงดัน ถ้าไม่เคยฝึกการใช้งานเลย มีโอกาส ที่จะดับไม่ได้ หรือใช้งานไม่ถูกต้องได้ครับ (ตามประสบการณ์ ที่เคยเห็น ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ ฝึกใช้ถังเคมีแรงดัน บางคนไม่สามารถดับไฟได้ในครั้งเดียว บางคนฉีดผิด ทำให้น้ำมันที่ติดไฟอยู่กระจายกลายเป็นเพลิงลูกใหญ่ขึ้น..) แต่ข้อเสียก็มี คือ ถ้าไม่กล้า กลัวที่จะเข้าไปคลุมก็จบ... อันนี้เป็นความคิดเห็นเสริมนะครับ.... แบบถังดับเพลิงแรงดัน ยังไง ก็ควรมีติดบ้านไว้ อย่างน้อย สัก 1 ถังก็ยังดีครับ.... จากคุณ : ==NokWeed== เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 09:34:45

ความคิดเห็นที่ 26 รบกวนขอสรุปทีครับว่า 1. ห้องครัวที่ใช้เตาแก๊สอย่างเดียว ควรจะเลือกสูตรไหน 2. ห้องครัวที่ใช้เตาไฟฟ้าอย่างเดียว ควรเลือกสูตรไหนดี 3. ห้องครัวที่ใช้ทั้งเตาแก๊สและเตาไฟฟ้าละครับ ควรเลือกสูตรไหน 4. ภายในตัวบ้านที่ตกแต่งไปด้วยเฟอนิเจอร์ไม้ และผ้าม่าน ควรเลือกสูตรไหนครับ ขอขนาดถังดับเพลิงด้วยนะครับ ว่าข้อ 1-4 ควรเลือกถังขนาดเท่าไหร่ดี จากคุณ : JustDoIt เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 10:56:31

ความคิดเห็นที่ 27 คุณ zenario : เอาเป็นว่าผมขอตอบแค่ว่าสามารถดับได้ทุก CLASS ครับ มากกว่านี้หรือให้ผมฟันธง จะหาว่าชี้นำเกินไปครับ คุณ NokWeed : ดีครับที่ร่วมแชร์ข้อมูลให้เพื่อนสมาชิก คุณ JustDoIt : ผมขอให้คุณไปดูตารางที่ผมโพสไว้ในความคิดเห็นที่ 1 ครับ จะบอกว่าเครื่องดับเพลิงชนิดใหนมีความสามารถอย่างไร ส่วนขนาดถังที่นำมาใช้ในบ้าน ควรคำนึกถึงสุภาพสตรีใช้ด้วยนะครับ ว่าอย่าเอาแบบหนักจนเกินไป เดี๋ยวคุณผู้หญิงจะยกไม่ขึ้น ผมแนะนำให้ใช้ขนาดตั้งแต่ 10 - 15 ปอนด์ ต้องขออภัยหากเพื่อนสมาชิก ต้องการให้ผมระบุว่าต้องใช้รุ่นใหนหรือสูตรใหนดี .......ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความพึ่งพอใจ และการเลือกใช้ของผู้ใช้งานเอง เนื่องจากเครื่องดับเพลิงในแต่ละประเภท ราคาต่างกันครับ คุณสมบัติในการทำงานก็ต่างกันไป  หากผมมาบอกว่าต้องใช้รุ้นนี้นะ ดีอย่างนั้น ดีอย่างนี้ เดี๋ยวจัเป็นการชี้แนะและชี้นำการขายครับ ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไร ขอให้ทุกคนมี "สติ" และ "ตั้งสติ" ให้ดีครับ และศึกษาวิธีการใช้งานให้ถูกวิธี จากคุณ : Sunyawat เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 12:09:00

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณค่ะ กระทู้ดี มีสาระ จากคุณ : แม่บ้านเต็มขั้น เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 12:45:18

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณมากนะคะ เดี่ยวจะหาไปไว้ที่บ้านบ้าง จากคุณ : Clover_romance เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 17:11:04

ความคิดเห็นที่ 30 ผมเห็นเค้าขายใน tv เป็นลูกบอล อันนี้น่าใช้ไหมครับ จากคุณ : พ่อน้องโบนัส เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 18:42:01

ความคิดเห็นที่ 31 คุณพ่อน้องโบนัส : แนะนำเป็นแบบฉีดด้วยตัวเองดีกว่าครับ เราสามารถบังคับหรือควบคลุมด้วยตัวเราเอง.......แบบลูกบอลหากเวลาเราโยนลูกบอลไปแล้วไม่ไปโดนกองเพลิงที่มีอุณหภูมิ มันก็จะไม่ทำงานครับ เท่ากับเราโยนไปเสียเปล่า จากคุณ : Sunyawat เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 19:19:05

ความคิดเห็นที่ 32 ถ้าพักอาศัยในอาคารสูงอย่างคอนโด สามารถใช้ถังดับเพลิงได้เหมือนตามบ้านไหมคะ มีประเภทไหนที่ใช้ได้ หรือใช้ไม่ได้บ้าง จากคุณ : วันนี้อากาศดีนะคะ เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 11:07:55

ความคิดเห็นที่ 33 คุณวันนี้อากาศดีนะคะ : ที่พักแบบคอนโดก็สามารถใช้ได้ครับ แถมในอาคารหรือคอนโด มีระบบดับเพลิงทั้งตู้ที่ใส่เครื่องดับเพลิงและฉายฉีดน้ำดับเพลิงไว้ต่อกับหัวจ่ายน้ำด้วยครับ รวมทั้งระบบเตือนภัยเวลาเกิดเหตุ........หากเรามีไว้ในห้องของตัวเองก็ยิ่งดีใหญ่เลยครับ จากคุณ : Sunyawat เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 11:47:09