ความคิดเห็นที่ 1 คุยกับครอบครัวเธอก่อนไม่ดีเหรอ เธออาจจะแกล้งเพี้ยนก็ได้ เพื่อไม่ให้คนเช่าบ้านคุณ หรือไม่ก็แรงมาแรงกลับไปให้เธอกลัวบ้าง ขู่เธอไปเลย จากคุณ : แก๊งเหมียวอาละวาด เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 55 14:51:39

ความคิดเห็นที่ 2 ปรึกษาทนายเลยคะ ยอมเสียค่าทนายหน่อย ฟ้องให้หายบ้าไปเลย จากคุณ : Monkey Mia เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 55 14:57:47

ความคิดเห็นที่ 3 ถ่ายวิดีโอไว้ครับ แล้วฟ้องเพ่งครับ เรียกเงินค่าเสียโอกาส และหากละเมิดเอากุญแจมาคล้องบ้านคุณ ก็ฟ้องละเมิดบุกรุกครับ เป็นคดีอาญาครับ จากคุณ : [STYX] บัตรผ่านยังโดนแบน เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 55 15:02:44 A:125.25.145.225 X: TicketID:267882

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าเป็นเรา ใครมาล้ำเส้นขนาดนี้ไม่ได้มีชีวิตปกติสุขแน่ จากคุณ : ฟ้าคำราม เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 55 15:05:06

ความคิดเห็นที่ 5 คุย/ขู่กับคนบ้าคงลำบากครับ ต้องคุยกับคนในครอบครัวเขาดีกว่าครับน่าจะดีที่สุด จากคุณ : danky เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 55 15:09:17

ความคิดเห็นที่ 6 นึกถึงที่แม่เราเคยเจอเลยค่ะ แต่ของคุณแรงกว่ามาก เพื่อนบ้านที่ติดกันกับบ้านแม่เราเคยพึ่งพาอาศัยช่วยเหลือกันมาตลอด เพราะแถวนั้นมีแค่บ้านแม่เรากับเพื่อนบ้านหลังนี้ที่อยู่ติดกัน นอกนั้นก็ทิ้งห่างกันออกไป (บ้านต่างจังหวัด) เธอป่วย เมื่อไปหาหมอๆแนะนำให้พบจิตแพทย์ เธอด่าหมอรุนแรงมากเพราะคิดว่าหมอหาว่าเธอบ้า จนแม่เรา(แม่จบด้านสุขศึกษามาค่ะ) บอกว่าคนที่พบจิตแพทย์ไม่ใช่คนบ้านะ เป็นการป่วยทางจิตชนิดหนึ่งแต่ไม่ได้เป็นโรค เธอก็เลยยอมไปพบจิตแพทย์และรับยามาทานตลอดค่ะ จนวันหนึ่ง...เธอมาบอกแม่เราว่าเธอจะทำรั้ว แม่เราก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ มันเป็นสิทธิ์ของเธอที่เธอพึงทำ จนเธอทำรั้วบ้านเธอเสร็จ ผ่านมาช่วงหนึ่งเธอก็มาโวยวายว่า ที่ดินของเธอยังอยู่ในที่ดินเราส่วนหนึ่งนะ บ้านเราโกงที่ดินเธอมาค่ะ ตอนแรกแม่เราเข้าใจว่าเธอหมายถึงดินที่เธอถมที่ดินตัวเองแล้วไหลมาบ้านเรา แม่เราบอกว่า ถ้าอย่างนั้นก็มาขุดกลับไปเถอะ พี่ไม่ได้ว่าอะไร ดินมันไหลมาพี่เองก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน แต่เธอบอกว่าไม่ใช่ดิน แต่เป็นแนวเขตที่ดินบ้านเธอต่างหาก แม่เราบอกว่า อ้าว ทำไมตอนทำรั้วไม่ให้รังวัดมาวัดที่ให้ดีล่ะ หมุดเขตที่ดินก็มี เธอบอกว่าก็นั่นแหละ ตาเรา (อายุ 89 ปีแล้ว) มาถอนหมุดเขตออกไป เลยกินที่ดินเธอ แม่เราบอกว่าเป็นไปไม่ได้หรอก ถ้าเธอเห็นจริงทำไมไม่ทักท้วงล่ะ แล้วหมุดเขตเป็นเสาคอนกรีตที่กดลงไปในดินโผล่แค่หัวหมุดมานิดหน่อย ตาเราจะถอนขึ้นมาด้วยมือได้อย่างไร แม่บอกว่า ครั้นมาต่อว่าแม่นั้นแม่ยอมได้ เพราะพอเข้าใจว่าเธอป่วย แต่การลามปามมาถึงตาเรา แม่เราบอกว่าล้ำเส้นกันเกินไป แม่เราเลยบอกว่า เอาอย่างนี้นะ ให้สำนักงานเขตที่ดินมารังวัดใหม่ ถ้าเขายืนยันว่าที่ดินอยู่ในที่เราจริงก็ให้สำนักที่ดินปักหมุดหลักเขตใหม่ แล้วแม่เราจะออกค่าใช้จ่ายเอง แต่ถ้าที่เป็นอยู่นี้ถูกต้องแล้ว ค่าใช้จ่ายเธอต้องออกนะ เพื่อนบ้านเราก็เงียบไปแต่ยังด่าทอตาเราว่าแก่ปูนนี้แล้วยังจะโกงกันอีก ตั้งแต่นั้นมาแม่เราก็ไม่ไปสุงสิงกับเธออีกค่ะ กลัวจะมีเรื่องอีก เพราะเธอดูแลแม่แก่ๆที่เป็นอัมพาตอยู่ที่บ้านด้วย กลัวว่าถ้ามีเหตุร้ายเกิดขึ้น เธอจะกล่าวหาว่าแม่เราเป็นคนทำ แต่ก็เป็นห่วงคุณยายบ้านนั้นเหมือนกันว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจะพึ่งพาใครเพราะแม่เราก็ไม่กล้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรแล้ว ผ่านไปพักใหญ่ๆ เธอก็เอากับข้าวมาให้บ้านเรา แล้วขอโทษแม่ขอโทษตาเราบอกว่าเธอเข้าใจผิด แม่กับตาไม่ได้ถือโทษอะไรเธอหรอกนะคะ แต่ก็ยังระวังตัวและทิ้งระยะห่างกับเธอเหมือนเดิม จากคุณ : T_Romance เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 55 15:25:38

ความคิดเห็นที่ 7 เราว่าทำอย่างที่ คคห 5 บอกก่อน แล้วถ้ายังไม่ work ก็ แบบ คคห 3 จากคุณ : ohhioh เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 55 15:26:06

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าว่า เราจะแรงเราก็เคยออกไปด่ากับเธอมาแล้วค่ะ คนในซอยขึ้นโรงพักกับบ้านนี้เป็นว่าเล่น บ้านเราก็ขึ้นโรงพักกับบ้านนี้มาหลายครั้งแล้ว จนทุกคนลงมติว่าเธอต้องบ้าแน่ๆ ครั้งที่แล้วตำรวจมาขอเรียกดูเอกสารโฉนดที่ดินหรือเอกสารที่เธออ้างว่าเธอผ่อนกับแบงค์ เธออยู่ในแต่รั้วไม่ออกมาคุยกับตำรวจเลย เชิญไปโรงพักก็ไม่ยอมไป จนพวกเราจนใจ ก็เหมือนต้องมาทะเลาะกับคนบ้า แต่ครั้งนี้หนักเกินไปค่ะ เราก็คิดว่าจะทำแบบคห. ที่ 2 และ 3นะคะ ตอนนั้นเรามัวแต่ตกใจเพราะเขาถือมีดไม่กล้าอัดวีดีโอ แตมีพยานบุคคลเห็นกันหลายคนเลยค่ะ ลำบากหน่อย พวกคนในซอยไม่ค่อยมีใครอยากมาเสี่ยงยุ่งด้วย ปวดหัวมาก ส่วนเรื่องล๊อครั้วบ้าน ตำรวจมา เขาก็คงไม่ยอมรับว่าเป็นคนล๊อคหรอกค่ะ ไม่มีหลักฐานอีก เฮ้อ กะว่าจะโทรไปปรึกษาตำรวจ ไม่รุ้จะรับฟังเรื่องมากน้อยแค่ไหน เราอยู่กัน 3 คนพ่อแม่ลูก ลูกก็ยังเล็กคะ จ้างคนในซอยนั้นแหละเลี้ยง กลัวลูกโดนแกล้งด้วย จะลองหาเวลาไปคุยกับสามีเขาดูค่ะ สามีขายของอยู่หน้าตลาด ส่วนเธออยู่บ้านทั้งวัน  อยากขายบ้านแต่สงสารคนมาซื้อต่อคะ และกลัวเขามาต่อว่าเราทีหลังด้วยแหละ ต้องอยู่ซอยบ้านเดียวกันด้วย จากคุณ : On the road เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 55 15:48:05

ความคิดเห็นที่ 9 อีกนิด เราคิดเล่นๆ ว่าจะมีทางไหนได้บ้างให้ ทำการพิสูจน์สุขภาพจิตเธอว่า บ้าหรือไม่ เธอจะได้ไปทำการรักษาและอยู่ในที่ๆเธอควรจะอยู่ เพื่อความปลอดภัยต่อสังคม  ได้ยินข่าวลือมาว่า เธอเคยอยู่ที่หมู่บ้านนึงแถวแบริ่งแต่โดนไล่ออกจากหมู่บ้าน ไม่รุ้จริงไหมค่ะ  บ้านหลังนี้เธอย้ายเข้ามาอยู่ที่หลังคนในซอยค่ะ แต่ก็ย้ายมาหลายปีแล้ว แรกๆก็ดูปกติดี แต่ อยู่ๆไปก็เริ่มส่งเสียงด่าคนโน้นคนนี้ ซึ่งไม่รู้ว่าเธอด่าใครเลยไม่ได้สนใจ แต่หลังๆ เริ่มอากาารหนักขึ้นๆ คะ เฮ้อ จากคุณ : On the road เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 55 15:52:39

ความคิดเห็นที่ 10 ข้างบ้านอาเราเคยเจอเหตุการณ์ เพื่อนบ้านมีอาการทางประสาทเหมือนกัน เขาอยู่กัน 3คนพี่น้อง มีพี่ชายหนึ่งคน ป้าคนนี้ และก็น้องสาวเขา บ้านหลังนี้ อาอยู่มาเกือบ 20ปี ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีปัญหามาก่อน เมื่อก่อนเขาอยู่กันเยอะกว่านี้ด้วย ตอนกลางคืน ประมาณ 4ทุ่ม เขาก็จะเริ่มทุบ เริ่มตอกอะไรสักอย่างในบ้าน เขาตอกทุกวัน เขาจะตอกตอนตี5 2ทุ่ม 4ทุ่ม จนอาทนไม่ไหว เลยไปถามเขาว่า เขาตอก อะไรทุกวัน มันรบกวนที่บ้านมากๆ บ้านอาเราเป็น ทาวน์เฮ้าชั้นเดียว กำแพงมันก็เลยจะติดๆกัน พอไปถามเขา ถามป้าคนนั้นเลย เพราะตอนเช้าประมาณตี 5 พี่ชายกับน้องสาวเขาจะออก ไปทำงาน แล้วกลับมากันประมาณ 4-5ทุ่ม ใช่แล้วเขาค่ะ เขาจะมีอาการเวลาอยู่คนเดียว จากการไปถามเขาว่าเขาตอก เขาทุบอะไร ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อเขาโวยวายว่า บ้านอาเรานั่นแหละตอก ทำเขาหลับเขานอนไม่ได้เลย แล้วยังจะมาหาเรื่องเขาอีก ก็ทะเลาะกันไปมา ไม่นานก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเวลาออกมายืนทะเลาะกันหน้าบ้าน ป้าก็จะไปเรียกเพื่อนๆป้าให้มาดูว่าอาเราไปด่า ใส่ร้ายเขา คือเพื่อนๆป้าเป็นคนในหมู่บ้าน แต่ก็ไม่ใช่คนที่รั้วบ้านติดกันอย่างอา ฝั่งขวามือเป็นกำแพงฝั่งบ้านอา ส่วนด้านซ้ายก็มีบ้านอีกหลังนึง เป็นบ้านเช่า แต่ก็ไม่เคย เห็นใครมาเช่าอยู่เลย หลังๆเขาเริ่มตอกไม่เป็นเวลา อาก็เลยพยายามดักเจอพี่เจอน้องเขา เพื่อคุยเรื่องปัญหา พอได้คุยกับพี่กับน้องเขา ก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมาเลย เขาตอบแค่ว่าครับ/ค่ะ แต่ก็ไม่ได้ จะขอโทษ จะไปคุยกับพี่สาวให้ หรือยังไง ทีนี้พอมีปัญหาอีกอาเราก็โทรแจ้งความเลย ตำรวจก็มา ตำรวจก็ขอเข้าไปดูในบ้าน เราก็ตามเข้าไปดูด้วย ผนังบ้านเขาฝั่งที่ติดกับอา มีแต่รอยค้อนทุบ จนกำแพงเป็นรูเต็มไปหมด แล้วในรูพวกนั้น ก็มีขยะยัดอยู่เต็มไปหมด ป้าเขาก็บอกตำรวจว่า อาเราเป็นคนทุบมา ทุบจนทะลุมาบ้านเขา เขาเลยต้องหาถุงมาม่า ห่อขนม กระดาษมาอุดไว้ แล้วบอกให้ตำรวจจับอาเราด้วย ตำรวจก็คุยกับญาติพี่น้องเขา พี่น้องเขาก็บอกว่า ป้าเขาป่วยมานานแล้ว แต่เมื่อก่อนกินยาตลอด แต่พอพ่อกับแม่ตาย เขาก็เลยไม่ได้กินยา ที่เราสงสัยคือ ยามันแพงมากเลยหรอ พี่ชายกับน้องสาวเขาที่อยู่ด้วยกันถึงไม่ยอมซื้อให้ป้าคนนั้นกินต่อ ป้าคนนั้นเขาอยู่บ้านเฉยๆนะคะ เขาไม่ได้ทำงานอะไร เวลาบ่ายๆเขาก็จะออกมานั่งคุยกะสมาคมผู้สูงวัยในหมู่บ้านทุกวัน บางทีก็นัดออกไปเดินซื้อของตามห้าง เวลาที่ป้าเขาออกมานอกบ้านเขาดูปกติมาก พูดจารู้เรื่อง คุยกับเพื่อนอย่างสนุกสนาน แถมพูดภาษจีนเก่งมาก เพราะเราเคยเห็นเขาชอบมานั่งคุยกับอาม่าข้างบ้านเราบ่อยๆ เราอยู่หมู่บ้านเดียวกับอา แต่คนละซอย ไม่ว่าจะแก้ปัญหายังไง ก็ดูแล้วไม่มีทีท่าว่าจะจบ แต่แล้ววันนึง 3คนพี่น้องก็ย้ายกันไปอยู่ที่อื่น บ้านหลังนี้เขาก็ไม่ได้ขาย แต่ก็จ้างช่างมาทำ ช่างบางคนเป็นคนหมู่บ้าน เขาก็เอาไปเล่าให้บรรดาภรรยาเขาฟัง ว่าสภาพบ้านข้างในมันพรุนขนาดไหน แล้วกลุ่มแม่บ้านก็มีมาคุยกับอา ว่าไม่น่าเชื่อเลยนะว่าป้าเขาจะป่วย ค่ะก็ไม่มีใครเชื่ออาเราไง มีแต่เชื่อว่าคนแก่โดนรังแก จะมีบ้างบางคนที่สนิทกัน อาจะเรียกให้เข้าไปฟังในบ้านตอนที่ป้าคนนั้นเขากำลังทุบ ก็ถือว่าเป็นโชคดีของอาที่กลับมาสงบสุขอีกครั้ง แต่ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ป้าแกย้ายไปทุบผนังบ้านใครอีก พี่น้องเขาก็ใจร้ายกันจัง หรือมองว่าค่ายามันเป็นภาระของเขา เลยปล่อยให้ป้าเขามาเป็นมลภาวะของคนอื่น เราสงสารป้าเขานะ แต่เราก็เข้าใจอาเพราะเขาต้องอยู่กับเสียง ตึง ตึง ตึง ทั้งวัน จากคุณ : Moment Sweet เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 55 15:56:40

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นใจ จ.ข.ก.ท ที่จังหวัด ก็มีคนหนึ่ง เป็นอาซิ้มแก่ๆ แต่ร้ายมาก เป็นโรคประสาทชอบด่าคน หาว่าโดนโกงแบบนี้เลย(สงสัยจะเป็นโรคประสาทเฉพาะ เหมือนพวกย้ำคิดย้ำทำ) วันดีคืนดี ก็ถือมีด ถือไม้ จะไล่ทำร้ายคน ลูกๆแก ก็ทนไม่ไหว ไม่รู้จะทำอย่างไร  เลยมาเช่าบ้านให้อยู่ ในซอยเดียวกับบ้านเรา ใครเดินผ่านบ้านแก แกด่าตลอดเสียงดังมาก ด่าหยาบๆคายๆด้วย   เป็นที่อับอายของคนที่เดินผ่าน  ทุกคนก็พยายามไม่ไปยุ่งกับแก เพราะเข้าใจว่าคนเป็นโรคประสาท  พยายามเลี่ยงๆเอา  วันดีคืนดี แกเดินผ่าน บ้านใครแล้ว เหมือนบ้าจี้ ก็ชี้หน้า ด่า คนที่แกเห็น โดยที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ก็มี จนคนที่โดนด่า อับอายและตกใจ      แถวบ้านก็ทนๆกันอยู่หลายปี ตอนนี้แกเสียชีวิต แล้ว เลยสบายหู สบายใจกันหน่อย   ป,ล คงต้องแก้ปัญหา โดยการคุยกับ สามีแก แสดงความเห็นใจ แต่ว่าให้ดูแลให้ดี เพราะอาจทำร้ายคน จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 55 21:08:03

ความคิดเห็นที่ 12 อาจช่วยให้คำแนะนำได้นะครับ http://www.dmh.go.th/main.asp สายด่วนกรมสุขภาพจิต 1323 จากคุณ : Raining Man เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 10:29:49

ความคิดเห็นที่ 13 เคยเจอประสาทเหล้าคนนึงครับ เวลาได้ยินผมเปิดเพลงเขาจะหงุดหงิด เขวี้ยงก้อนหิน ตะโกนด่าเรียกมาต่อย จนกระทั่งเรื่องถึงโรงพัก เขาจึงหยุด ณ ปัจจุบันเขาไม่กล้ามองหน้าผมเลย ทั้งๆที่ พ่อของเขาคือพี่ชายของแม่ผมเอง จากคุณ : wawabp เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 55 15:47:16