ความคิดเห็นที่ 1 ถามต่ออีกนิดครับ หรือว่าขั้นต่ำอย่างน้อยๆน่าจะซื้อรุ่นกี่ Hz ถึงจะเหมาะสม? รบกวนช่วยแนะนำด้วยครับ จากคุณ : Rapin.P เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 13:29:27

ความคิดเห็นที่ 2 ภาพที่ได้ก็จะนิ่งขึ้น ไม่กระพริบ อย่างน้อยก็ต้อง 100 hz ถ้างบไม่จำกัดก็ต้อง hz เยอะ คห ส่วนตัว ถ้าดูฟรีทีวี พลาสม่าภาพจะสวยเป็นธรรมชาติกว่า จากคุณ : 2475 เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 13:58:08 A:210.213.50.141 X: TicketID:363126

ความคิดเห็นที่ 3 ขึ้นอยู่กับอยู่ยี่ห้อด้วยนะ ตามหลักแล้วควร 100HZ แต่เช่นถ้าเป็น lg รุ่นใหม่ๆ จะเขียน mci 100 ขึ้นไป ให้เลือกตัว mci200 ขึ้นไปเพราะค่านี้ต้องนำมาหารสอง สำหรับ lg แต่กับยี่ห้ออื่น ก็ลองดู ข้อมูลก่อนว่าเป็นค่ามาตรฐานหรือ ค่าที่บริษัทที่ตั้งขึ้นมาเอง ต้องดูดีๆ แต่กับผมไม่ซีเรียจ เพราะ ที่บ้านก็ดูปกติชอบดู แบบ ประมาณว่า ฟิล์มมาอย่างไรก็ดูอย่างนั้น แล้วแต่คนชอบ ถามว่ายิ่ง hz มากดีอย่างไร มันก็ทำให้ภาพไม่กระพริบ เพราะมันคือการแทรกเฟรม จากภาพปกติเช่น มา 24 ภาพต่อวิ ก็ ใช้การประมวลผล เพิ่มเฟลมหลอกๆเข้าไป ให้กลายเป็น 60เฟลมต่อวิ เป็นต้น  ยิ่ง hz  ก็แทรก ได้มากขึ้นครับ ส่วนเดี๋ยวนี้ระบบพลาสม่ารุ่นใหม่ๆ ก็มีระบบนี้เข้ามาใช้แล้ว เพื่อให้ภาพไม่กระตุก เห็นเข้าใจผิดกันมากว่า พลาสม่า ภาพเคลื่อนไหวจะไม่กระตุก จริงๆแล้ว ยังไงก็กระตุก เหมือนกัน ถึง การตอบสนองต่อภาพจะไวก็ตาม แต่อัตราภาพที่รับมามันก็ 24 เฟลมอยู่ดี จึงมีระบบนี้เข้ามาในพลาสม่าด้วยรุ่นใหม่ๆ จากคุณ : panuroj เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 15:41:15

ความคิดเห็นที่ 4 ตัวเลขที่ยกมาใน LED นั่นคือการแทรกเฟรม หรือ จำลองเฟรมขึ้นมาเอง เพื่อให้ภาพเคลื่อนไหวได้ราบลื่นใกล้เคียงกับต้นฉบับและเป็นธรรมชาติมากที่สุดครับ การเคลื่อนไหวที่เป็นธรรมชาติตรงกับต้นฉบับมีแต่ Plasma ถึงจะตอบสนองจุดนี้ได้ ที่เป็นคนละประเด็นการกระตุกของภาพ(Judder) ซึ่งเกิดจากการถ่ายทำของผู้ผลิตในแบบเก่าที่ 24 เฟรมต่อวินาทีในขณะแพนกล้องเร็วๆ  ซึ่งจะให้อารมณ์หนังฟิลม์ในโรงภาพยนต์ครับ การดูภาพเคลื่อนไหวไม่ว่าจะเป็นรายการทีวีจากแหล่งต่างๆหรือหนังจากเครื่องเล่นทุกชนิด ถ้ากังวลเรื่องการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลเป็นธรรมชาติ ต้องการดูภาพที่ตรงกับต้นฉบับ LED ทุกเครื่องในโลกนี้ต้องอาศัยการแทรกเฟรมทั้งนั้นครับ ไม่มีทางที่ตัว LED TV เองจะทำยังงั้นได้ ไม่ว่าจะแทรกเฟรมอย่างไรก็ตาม เนื่องจาก LED ที่ดีที่สุด แพงที่สุด มีการตอบสนองต่อภาพที่กำลังเคลื่อนไหวที่ 0.5 มิลลิเซค(ms) ใน Philips ซีรี่ส์ 9 รุ่นมี Native Aspect Raio 21:9 ซึ่งเลิกผลิตไปแล้ว ส่วน LED ที่วางขายทั่วๆไป ที่มีสัดส่วนจอ(Native Aspect Raio) 16:9 ตามปกติ มี Response Time อยู่ที่ 1.0 - 5.0 ms ในชณะที่ Plasma ตอบสนองที่ 0.001 ms จะเห็นได้ว่าต่างกันเป็นพันเท่า ขอให้สังเกตว่านี่ไม่มีการพูดถึงตัวเลข Hz เลยนะครับ เพราะจำนวน Hz ใน Plasma มันคือการกระพริบซ้ำๆเพื่อให้ภาพนิ่งไม่สั่นในขณะแสดงภาพเคลื่อนไหว ส่วน Hz ใน LED คือการแทรกเฟรมอย่างที่ว่า . จากคุณ : จอห์น สก๊อตต์ เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 16:59:22

ความคิดเห็นที่ 5 ค่า Hz ที่ว่า ก็คือ Refresh Rate ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยจอแก้ว CRT แล้ว โดยปกติการออกอากาศของระบบโทรทัศน์ ในแถบอเมริกา จะใช้ระบบ NTSC จะมีความถี่ของสัญญาณ 60Hz และ ในแถบยุโรป รวมทั้งเอเชีย และ ประเทศไทย จะใช้ระบบ PAL (หรือ SECAM) จะมีความถี่ของสัญญาณ 50Hz Refresh Rate คือค่าความไวในการเปลี่ยนภาพขณะที่เราดูทีวี ซึ่งหลักการของภาพเคลื่อนไหว ก็คือ การนำภาพนิ่งหลายๆภาพมาเรียงต่อกัน การที่มีค่า Refresh Rate สูง ใน LCD/LED หมายความว่า การเปลี่ยนภาพในแต่ละภาพ (Frame) จะมีความไวขึ้น เช่น หากโทรทัศน์เครื่องนั้น เป็นระบบ 100Hz นั่นหมายความว่า จะมีระบบแสกนภาพเร็วเป็นสองเท่า โดยใน TV แต่ละเครื่องจะมีชิปประมวลผลที่จะ ทำนายการเคลื่อนไหวของframeถัดไปที่กำลังจะตามมา แล้วนำframeนั้นมาแทนที่ ทำให้เกิดความนิ่งมากขึ้น สัญญาณรบกวนที่เกิดจากสิ่งรอบด้านก็ลดลงไปด้วย ระบบ Motion Flow เป็นเทคนิคในการคำนวณแทรกเฟรมภาพใหม่ระหว่าง ภาพต้นฉบับ (ตามรูป) โดยส่งผลให้ภาพเคลื่อนไหวและในฉากแพนกล้องเนียนมากขึ้น ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับคือการรับชมที่ได้อรรถรสมากขึ้นเพราะพวกหนังแอ็คชั่น หรือกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวเร็วๆ ต.ย. TV ที่มีระบบ MotionFlow ใน LCD/LED Motionflow 100Hz คือการแสดงเฟรมภาพได้สูงถึง 100 เฟรมภาพต่อวินาที เป็นเทคนิคการคำนวณแทรกเฟรมภาพใหม่ 1 เฟรมภาพระหว่าง 2 เฟรมภาพต้นฉบับ Motionflow 200Hz คือการแสดงเฟรมภาพได้สูงถึง 200 เฟรมภาพต่อวินาที เป็นเทคนิคการคำนวณแทรกเฟรมภาพใหม่ 3 เฟรมภาพระหว่าง 2 เฟรมภาพต้นฉบับ เป็นต้น จากคุณ : Cho_shang เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 55 10:03:39

ความคิดเห็นที่ 6 สำหรับ Plasma TV ที่ระบุว่าเป็น 600Hz จะมีกำกับไว้เสมอว่าเป็น Sub Field Drive ซึ่งจริงๆแล้วระบบนี้มีความคล้ายคลึงกับระบบการแสกนภาพ 100Hz นั่นแหละ แต่ Sub Field Drive นี้เป็นขั้นตอนที่จะแสดงภาพออกมาด้วยความเร็วสูงบนจอ โดยเวลาที่แต่ละ frame แสดงขึ้นบนจอ Sub Field Drive จะแสดงภาพ 10 ครั้ง (หรือมากกว่า) นั่นหมายความว่า มันกระพริบ 600 ครั้งต่อวินาที (สำหรับ 600Hz) ยิ่งภาพหนึ่งภาพ กระพริบในจำนวน frame ที่มากๆ สิ่งที่ตามมา นั่นคือภาพเคลื่อนไหวที่เนียนเป็นธรรมชาติ เงาซ้อนก่อนจะเปลี่ยนภาพ ก็จะลดเลือนหายไป ทำให้ ภาพเคลื่อนไหวบนจอ Plasma มีความลื่นใหลมากกว่า ภาพบนจอ LCD/LED TV ดังรูป จากคุณ : Cho_shang เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 55 10:07:17

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณมากครับสำหรับทุกตอบ จากคุณ : Rapin.P เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 13:26:17