 |
ขอขอบคุณครับ
และขอบคุณ คคห.2 คุณ บองหลา ที่ช่วยสรุปประโยชน์ของการใช้หลักวิทยาการจัดการมาใช้กับงานได้ทุกงานครับ
****************************************
ผมขอขยายความด้านบน ในแง่การบริหาร ก่อนที่จะเข้าสู่เนื้อหาของกระทู้นี้ครับ
ไม่ว่าจะทำงานประเภทไหนก็ตาม ถ้ามีการร่วมกันทำงานมากกว่า 1 คนขึ้นไป ทุกขนาดขององค์กร โดยเฉพาะองค์กรขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ควรที่จะทำแผนภูมิ ผังองค์กร เพื่อให้เห็นชัดเจนถึง ระดับตำแหน่งของผู้ปฏิบัติงานนั้นๆ อยู่ระดับไหน ทำหน้าที่อะไร ขึ้นตรงกับใคร และมีอำนาจสั่งการกับผู้ใดบ้าง
สิ่งนี้นอกจากจะทำให้ ผู้ทำงาน(โดยเฉพาะผู้ที่เริ่มเข้ามาทำงานใหม่)ทราบถึงขีดระดับหน้าที่ของตนเองแล้ว ยังทราบถึงขีดระดับหน้าที่ของผู้อื่นที่ร่วมอยู่ในองค์กรนั้น (ใครอยู่เหนือเรา ใครอยู่ระดับเดียวกับเรา และเรามีใครเป็นผู้ร่วมงานระดับล่างๆลงไป) และที่สำคัญคือ ยังจะทำให้บุคคลภายนอกที่จะต้องเข้ามาติดต่องานด้วย ทราบถึงว่า จะสามารถติดต่อกับผู้ใด ในขีดระดับหน้าที่ขนาดไหนครับ
แผนภูมินี้ ส่วนใหญ่จะ ติดวางไว้ ในสถานที่ทำงานที่สามารถเห็นได้ชัดเจนโดยทั่วถึงกัน เพื่อไม่ต้องอธิบายเป็นตัวหนังสือแจกจ่ายให้กับทุกคนที่ทำงานหรือเข้ามาติดต่องานครับ (สังเกตุตามหน่วยงานราชการ จะมีแผนภูมินี้ ติดอยู่ที่ผนังด้านหน้า แถวๆฝ่ายประชาสัมพันธ์ครับ)
ยกตัวอย่างง่ายๆดังเช่น ขณะที่ผมสวมหมวก อินเสปคเตอร์ อยู่นั้น ผมจะอยู่ใต้บังคับบัญชาของ เจ้าของบ้าน (ลูกๆของผม) ขณะเดียวกัน เจ้าของบ้าน ก็จะต้องทำรายงานขออนุมัติเบิกเงินเพื่อจ่ายให้กับผู้รับเหมา จากเจ้าของเงินทุน (เปรียบดังเช่น นายธนาคาร) เป็นต้น
*****************************************
หลังจากเซ็นสัญญาจ้างงานกันเรียบร้อยแล้ว ได้มีการทำพิธีกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามกำหนดฤกษ์แล้ว ทางผู้รับเหมาได้เริ่มมีการ ปลูกสร้างเพิงพักชั่วคราว ไว้สำหรับเป็น เวิร์คช๊อป ให้วิศวกรผู้คุมงานก่อสร้าง (ในงานนี้ คือผู้รับเหมา ซึ่งเป็นวิศวกรโยธา) และโฟร์แมน (ผู้ควบคุมควบคุมหน้างาน)ได้เป็นศูนย์ควบคุมงาน โดยจะมี โต๊ะเก้าอี้สำหรับทำงาน จะมีแบบแปลนบ้าน และอุปกรณ์ต่างๆเกี่ยวกับการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่ผนัง จะติด ภาพ 3D ของบ้าน และอีก 2 แผนภูมิ คือ แผนภูมิรวมระยะการทำงาน (เคยได้กล่าวแล้ว) และ แผนภูมิผังองค์กร (แผนภูมิผังองค์กรนี้ ระดับฝ่ายปฏิบัติ ตั้งแต่ โฟร์แมนลงมา จะมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ เมื่อมีเปลี่ยนแปลงหน่วยงานตามลักษณะของงานที่เปลี่ยนไปครับ)
การบริหารงานของผู้รับเหมาท่านนี้นั้น ใช้วิธี นำหน่วยงานที่มีทักษะงานเฉพาะด้าน เข้ามารับเหมาช่วง (ก็เป็นคล้ายๆคนงานประจำเช่นกัน แต่จะมีกลุ่มคนงานที่ความชำนาญงานเฉพาะด้าน เลือกที่จะรับค่าแรงประจำ หรือ รับเหมาทำงานเฉพาะงานนั้นๆก็ได้ โดยทางผู้รับเหมาจะให้กลุ่มคนงานนั้นๆ เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่ หัวหน้ากลุ่มคนงานนั้นๆ จะเลือกรับเหมาช่วงครับ) ทำให้ ผังองค์กร จะมีการเปลี่ยนแปลงเสมอตามลักษณะงานที่เปลี่ยนไป เช่น งานโครงสร้าง, งานก่ออิฐฉาบผนัง งานโครงหลังคา งานปูกระเบื้อง งานทาสี งานไฟ้า งานประปาระบายน้ำ เป็นต้น
ข้อดีของการบริหารงานดังกล่าวคือ
- ทำให้ได้คนงานที่มีทักษะเฉพาะด้านมาทำงานนั้นๆ - ทำให้ผลงานสำเร็จได้รวดเร็วตาม หมายกำหนดเวลา - ทำให้ควบคุมงบประมาณได้ง่ายขึ้น
แต่ผู้รับเหมาที่จะทำเช่นนี้ได้ จะต้องเป็นองค์กรขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีหลายไซด์งานให้ทำงานหมุนเวียน ครับ
จากคุณ |
:
Moonlight Sonata
|
เขียนเมื่อ |
:
13 ส.ค. 55 10:12:00
|
|
|
|
 |