หากเรามีเงินเท่านี้ เราควรจะซื้อบ้านในราคาเท่าไร ? เป็นคำถามที่หลายๆคนต้องการคำตอบ และผมก็มักจะได้ยินบ่อยๆ
คนส่วนหนึ่งใช้ นายธนาคาร เป็นคำตอบ ว่าถ้าคุณมีเงินเดือน 30,000 บาทนะ จะกู้ได้สูงสุดที่วงเงิน 2 ล้านบาท ผ่อน 20-30 ปี ซึ่งเป็นคำตอบของ การเป็นหนี้สูงสุด ที่คนๆหนึ่งจะสามารถทำได้ ซึ่งแน่นอน คำตอบนี้เป็นที่ โดนใจ ของทั้งนายธนาคารและนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่จะได้กำไรก้อนเบ้อเร่อจาก เงินในอนาคตของพวกคุณ ดังนั้นคำตอบนี้จึงเป็นคำตอบที่ แพร่หลายมากที่สุด และ ได้รับการโฆษณามากที่สุด อย่างไม่ต้องสงสัย ทุกคนพยายามจะให้คุณกู้ได้มากที่สุด เป็นหนี้มากที่สุด เพื่อเขาจะได้ดอกเบี้ยสูงสุดและขายบ้านได้ในราคาแพงที่สุด
หลายคนรวมถึงตัวผมในอดีตด้วย จะเถียงผมในปัจจุบันว่า บ้านเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงขึ้น เป็น การลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชีวิต เชียวนะ ทำไมเราไม่ควรซื้อในสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเรา เมื่อมูลค่ามันเพิ่มขึ้น เราก็สามารถ ขายทำกำไรได้ด้วยนะ
ผมในปัจจุบันจึงตอบกลับไปว่า แล้วคุณคิดจะขายบ้านหลังนี้ไหม? ขายเอากำไรแล้วกลับไปอยู่ห้องเช่าอย่างเดิม คุณจะทำไหม? ถ้าคำตอบคือ ไม่ นั่นก็ผิดแล้ว หรือถ้าคำตอบคือ ใช่ แต่จะขายก็เพื่อต้องการไปซื้อบ้านที่ใหญ่กว่า ขยับขยายไปอยู่ในที่อยู่ที่ดีกว่าก็ไม่ถูกอีก คุณก็ต้องเป็น หนี้ ใหม่ เพิ่มหนี้สินก้อนใหญ่ให้กับชีวิตอีกก้อน เอาเงินกูและกำไรตรงนี้ไปแปะเงินกู้ตรงนั้น จ่ายดอกเบี้ยให้กับนายธนาคารและจ่ายกำไรให้กับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่อไปในมูลค่าที่สูงขึ้น เข้าสู่วงจรเป็นหนี้อีกตามเคย และคุณก็จะได้รับคำชมเชยว่า เป็นลูกค้าที่ดีและมีความสำคัญที่สุด ของทั้งนายธนาคารและบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
ที่อยู่อาศัย เป็นสิ่งที่จำเป็นของชีวิต เป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ที่ขาดไม่ได้ ดังนั้น บ้านหลังที่เราอยู่ จึงเป็นสิ่งที่เราใช้ เป็นสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ไม่สามารถ ขาย ได้ โดยที่ไม่คิดจะไปหา ที่อยู่ใหม่ ต่างกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในบ้านหลังที่ 2-3-4-5
อย่างสิ้นเชิง ที่ได้ทั้ง ค่าเช่า จากการที่ปล่อยสินทรัพย์ของเราให้ไปหาเงินมาให้เรา และในขณะเดียวกันก็พร้อมที่จะขายออกไปโดยไม่ส่งผลกระทบใดๆกับชีวิตเราทั้งสิ้น
หนี้จากบ้านหลังหนึ่งเราควรจะแบกได้ด้วยตัวคนเดียว หรือครอบครัวเดียว ใช้เงินส่วนหนึ่งที่เราหามาได้นั้นจ่ายออกไป โดยให้คิดเหมือนว่าเรากำลัง เช่าบ้าน หลังนี้อยู่ไปจนตาย เพราะเราไม่คิดว่าจะ ขาย แล้วไปอยู่ในบ้านหลังที่เล็กลง กระจอกลงหรือถูกลง เพื่อทำ กำไร