ความคิดเห็นที่ 1 เปิดฝาแอร์ ขึ้นมา โอ้ แม่เจ้า พวกเจ้า(ของห้องเช่า) สูดเข้าไปได้ไง ทาแป้ง ในห้องนอนเหรอ ฝุ่นเยอะจัง มาอยู่ได้แค่ 4 เดือนเองนะ จากคุณ : tong308 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 13:00:50

ความคิดเห็นที่ 2 เดี๋ยวจะตกใจไปกันใหญ่ เขียนให้เกิดความรู้สึก ดีดีๆ ก่อนลงมือ สังหาร จากคุณ : tong308 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 13:01:31

ความคิดเห็นที่ 3 ถอด แผงดักฝุ่นออก แม่เจ้า คราบไขมัน มาได้ไงเนี่ยะ ทั้งดำ ทั้งเหนียว เฮ้ย ประโยคนี้ เหมือน ด่าใครในบ้านเลย 555 จากคุณ : tong308 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 13:03:11

ความคิดเห็นที่ 4 นำแผงดักฝุ่นมาฉีด ฉีด จากด้านใน ออกด้านนอกนะครับ ไม่งั้นจะกลายเป็น ดันฝุ่น ให้ทะลุแผ่น เดี๋ยวครั้งต่อไป ฝุ่นมันก็จะผ่านแผ่นมาได้ง่ายๆ จากคุณ : tong308 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 13:09:56

ความคิดเห็นที่ 5 สภาพ ของแผงดักฝุ่น ฉีดน้ำเปล่า ง่ายๆ ก็ได้แล้ว อย่าใช้ไฮเตอร์ หรือ แปรงขัดถู นะ เดี๋ยวแผงจะเสื่อมสภาพไว ไม่ดักฝุ่นให้เรา จากคุณ : tong308 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 13:11:15

ความคิดเห็นที่ 6 นำแผงดักฝุ่น มาผึ่งแดด ผึ่งลม จากคุณ : tong308 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 13:12:06

ความคิดเห็นที่ 7 เตรียมห้องเชือด  เอ้ย ห้องทำความสะอาด คลุมพลาสติก บริเวณผ้าม่าน และ ผนัง เพราะไฮเตอร์จะไปโดน ปูผ้าเช็ดตัวเก่าๆ ที่พื้น กันน้ำหยด เก้าอี้ พลาสติก ( รับ นน. ได้ไม่เกิน80kg เขาว่าอย่างงั้น ) จากคุณ : tong308 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 13:15:20

ความคิดเห็นที่ 8 รอบแรก ไฮเตอร์ 1 ฝา น้ำ ประมาณ1 ลิตร ประกอบอุปกรณ์  อัดลมเข้ากระบอกฉีด เตรียมลุย จากคุณ : tong308 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 13:16:43

ความคิดเห็นที่ 9 ลืมบอกไป ก่อนล้างแอร์  เอา เบรกเกอร์ ลงก่อนนะ เดี๋ยวไฟช็อตตตต ฉีดน้ำผสมไฮเตอร์ บริเวณ แผงคอยเย็น พอลมเริ่มอ่อน ก็หยุด พัก ซักแป๊ป อัดลมเข้าไปใหม่  ฉีดอีก รอบ ให้ทั่วๆ   ลมหมด พักก่อน อัดลมเข้าไปใหม่  ทั้งกระบอก ฉีดได้ประมาณ 3 ครั้ง จากคุณ : tong308 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 13:18:58

ความคิดเห็นที่ 10 สภาพน้ำจาก ท่อน้ำทิ้ง หลังจากฉีด ด้วยไฮเตอร์ ปล. มัวแต่ อัดๆ ฉีดๆ ลืม เก็บน้ำ ตั้งแต่แรก น้ำที่ได้ เป็นน้ำสุดท้ายล่ะ จากคุณ : tong308 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 13:20:21

ความคิดเห็นที่ 11 มาเตรียม น้ำยาล้างจาน ดีกว่า น้ำเปล่าประมาณ 1 ลิตร น้ำยาล้างจาน ประมาณ ครึ่งแก้ว เขย่าๆ ก่อนนะครับ แล้วก็อัดลมเข้าไป (ระวังระเบิด ) จากคุณ : tong308 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 13:22:54

ความคิดเห็นที่ 12 ปริมาณน้ำ หลังจากเติมน้ำยาล้างจาน หรือจะลอง จับดู เอาแบบลื่นๆ ไม่ต้องหนึดมาก หรือใสจน ล้างอะไรไม่ออก นะครับ จากคุณ : tong308 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 13:24:04

ความคิดเห็นที่ 13 สภาพน้ำ จากท่อน้ำทิ้งแอร์ หลังจาก ฉีดด้วย น้ำยาล้างจาน ขุ่นดี สีไม่จืด   น้ำที่ออกมายังลื่นๆ กะว่าจะเอาไป ซักผ้าถูพื้นต่อดีป่าว  555 จากคุณ : tong308 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 13:25:33

ความคิดเห็นที่ 14 ซูมให้ดู ใกล้ๆ ว่าสะอาดไหม (ช่วยพิจารณาด้วยครับ ว่าผ่านไหม) ไปดู Thailand Open ก่อนนะครับ เดี๋ยวมาประกอบแผงดักฝุ่นอีกที วันนี้ อากาศครึ้มๆ  แผงดักฝุ่นคงยังไม่แห้ง เดี๋ยวจะเหม็นอับ ปล. อย่าเพิ่งเปิดแอร์ นะครับ เผื่อยังมีน้ำค้างเครื่อง ลองเปิดพัดลม เป่าดู ซักครึ่งชั่วโมง จากคุณ : tong308 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 13:27:47

ความคิดเห็นที่ 15 ปลูกเองกับมือ นะเนี่ยะ   ไม่ได้เกี่ยวกับกระทู้   แต่อยากให้ ทุกคน มีความสุข ครับผม จากคุณ : tong308 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 13:28:39

ความคิดเห็นที่ 16 เป็นประโยชน์ครับ ขอบคุณหลาย จากคุณ : ปอยยอย เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 14:55:12

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ต้มส้มปลากระบอก เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 16:12:11

ความคิดเห็นที่ 18 แจ่ม ต้องให้กิ๊ฟ จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 16:30:39

ความคิดเห็นที่ 19 Sodium hypochlorite มันไม่ทำให้เป็นสนิมเหรอครับ จากคุณ : Avexiouz เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 16:33:59

ความคิดเห็นที่ 20 เอ่อ มันอันตรายไปนิดส์นะครับ น้ำยาไฮเตอร์นี่มันกัดนะครับ ลองใช้อื่นๆ ดีกว่านะ จากคุณ : Vancin เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 18:00:04

ความคิดเห็นที่ 21 ***** ถ้าใช้ไฮเตอร์ก็ไม่ต่างอะไรกับใช้พวกกรด ฤ ด่างทำความสะอาดนะครับ ถามว่าใช้ได้ไหม ก็ตอบว่าได้ แต่ต้องล้างสารพวกนี้ออกไปจากแผงคลอยเย็นให้หมดด้วย ไม่งั้นแผงคลอยเย็นจะเริ่มผุน่า 666 ***** ปกติที่ทำเองที่บ้านก็จะใช้วิธีคล้ายๆ กัน แต่ของผมจะใช้กระป๋องอัดลมแบบสะพาย 3 ลิตร ส่วนน้ำยาทำความสะอาดก็จะใช้แค่ผงซักฟอกเท่านั้นเอง ฉีดพ่นรอบแรกไปแล้ว ก็เอาแปรงทาสีบ้านๆ (1 นิ้วเล็กดี)  ไปปัดทำความสะอาดแผงคอลยเย็นแล้วก็ฉีดพ่นล้างคราบอีกที จากนั้นก็เปิดบานเกล็ดช่องลมออกด้านล่าง ตัวที่สกปรกจริงๆ ของตัวแอร์ในห้องก็คือ พัดลมกระรอกที่อยู่ข้างในนะแหละครับ  (จะเย็นไม่เย็น ลมแรงไม่แรงก็อยู่ที่นี่แหละ)  วิธีทำความสะอาดของผมก็เอาน้ำฉีดทีละแถว แล้วใช้แปรงทาสีเข้าไปปัดเอาฝุ่นที่เกาะอยู่ข้างในให้หลุดออกมา แล้วก็พ่นน้ำซ้ำเอาฝุ่นให้ตกลงมา เมื่อแถวนี้สะอาดแล้วก็หมุนพัดลมแล้วทำความสะอาดทีละแถวจนล้างเอาฝุ่นในพัดลมออกจนรอบแล้ว  เมื่อเสร็จตรงนี้ ก็เทน้ำที่ผสมผงซักฟอกทิ้ง เอาน้ำเปล่าใส่ในกระบอกอัดลมใหม่ จากนั้น ก็ล้างคอลยเย็นและพัดลมด้านในซ้ำอีกรอบ เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วละครับ 666 ***** ทำเอาก็ได้ไม่ยาก ไม่ต้องไปโดนหลอกฟันเติมน้ำยาแอร์ทีละพัน  ขนาดแอร์ตัวแรกของบ้าน สมัยบีทียูละบาทไม่มียี่ห้อ ผ่านไป 20 ปี "แรงดัน" น้ำยาแอร์ยังเหลืออยู่ 80 ปอนด์ เหมือนเดิม ขนาดแอร์ห่วยๆ ยังไม่ต้องเติมน้ำยาแอร์เลย แล้วทำไมแอร์ราคาแพงๆ ถึงต้องเติมน้ำยาแอร์ทุกครั้งที่ล้างแอร์ด้วยละครับ 666 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 18:32:09

ความคิดเห็นที่ 22 กลับมาแล้วคร๊าฟฟฟฟฟ ถ่ายรูปมาให้ดูหลังจากเครื่องเริ่มแห้ง จากคุณ : tong308 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 19:09:39

ความคิดเห็นที่ 23 (มองจากภายนอก) สะอาด เจง เจง ประหยัดตังค์ กินหน๋มไปหลาย จากคุณ : tong308 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 19:10:22

ความคิดเห็นที่ 24 ประกอบเสร็จแล้วคร๊าฟฟฟฟฟ จากคุณ : tong308 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 19:10:45

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณ ที่เสียสละเวลาเข้ามาชม ขอบคุณ ทุกความคิดเห็น นะครับ ปล. ไฮเตอร์ ท่าจะแรงจริงๆ คราวหน้า (อีก 27 เครื่อง) คงจะไม่ใช้ไฮเตอร์ล่ะ  ใช้แต่ น้ำยาล้างจาน ก็คงจะเพียงพอ คหสต ผมใช้ไฮเตอร์ ฉีด แล้วตามด้วยน้ำยาล้างจาน หรือเปล่า เครื่องก่อนหน้านี้ เลยไม่มีปัญหา ( ผ่านมา 1 ปีแล้ว ) ขอแถมนิด....ผมใช้ไฮเตอร์ ผสมน้ำ อัตราส่วน เหมือนที่โพสต์ ฉีดโถสุขภัณฑ์ กับ อ่างล้างหน้า  ก่อนจะขัด ประมาณ 5นาที สุขภัณฑ์สีขาวของผม ยังขาวสวย ไม่เหลือง ไม่มีคราบหินปูนเลยครับ เพื่อนๆ ลองใช้สูตรนี้ดูนะครับ ประหยัดตังค์ แถม ไม่ต้องมายาแนว กระเบื้องอีก  ( ความรู้ทั้งหมด ก็หามาจาก ห้องชายคา นี่แหละครับ ) จากคุณ : tong308 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 19:15:05

ความคิดเห็นที่ 26 ในความเป็นจริงแทบจะไม่ต้องผสมอะไรไปทั้งสิ้นครับ แค่น้ำเปล่าสะอาดก็เพียงพอ สำหรับการล้างเครื่องปรับอากาศในที่พักอาศัย ห้องนอน เช่นนี้       จขกท. เก่งมากที่สามารถล้างเครื่องปรับอากาศด้วยวิธีง่ายๆ ที่ผู้ใช้งานทั่วๆไปสามารถทำได้เอง มีจุดหนึ่งที่มักเกิดการหมักหมมของฝุ่น ก็คือบริเวณแผงคอยล์เย็นด้านหลัง หรือที่เรียกกันว่า Sub Coolling ตรงบริเวณดังกล่าวถือเป็นจุดวิกฤต ของแทบจะทุกแบรนด์ที่มักจะซ่อนพื้นที่เอาไว้ เผื่อให้หน้าตัดของตัวเครื่องมีขนาดเล็ก กระทัดรัด ( แต่บำรุงรักษายาก )  ไว้วันหลังผมจะมาเล่าเรื่อง Design ให้รับฟังกัน จากคุณ : ดาราเดช เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 19:41:36

ความคิดเห็นที่ 27 .. แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 55 19:52:48 แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 55 19:52:16 จากคุณ : ระเบิดเด่น เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 19:51:24

ความคิดเห็นที่ 28 .. แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 55 19:54:35 จากคุณ : ระเบิดเด่น เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 19:53:17

ความคิดเห็นที่ 30 ลองดูวิดีโอนี้ ก็ดีนะครับ อธิบายไล่ตั้งแต่ถอดออก จนถึงประกอบกลับ  ละเอียดดีครับ จากคุณ : ระเบิดเด่น เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 19:55:49

ความคิดเห็นที่ 31 ตอนผมล้างแอร์ ผมใช้แบบเป็นโฟมกระป๋องละครับ ซื้อตามห้าง จะ 2 แถม1 แล่้วก็จะฉีดล้างด้วย ที่อัดลมเหมือนของ จขกท แต่เมื่อยมาก เพราะต้องถือฉีด ตอนหลังผมไปได้ตัวฉีด 5 ลิตร จาก hp ลดไปลดมาเหลือแค่ตัวละ 2 ร้อนต้นๆ เอง ผมว่าสะดวกกว่ากันเยอะ ทั้งจุน้ำ ทั้งสายฉีดยาววางตัวถังที่โต๊ะได้ ลองหามาใช้ดูนะครับ และถ้าจะล้างบ่อย ผมว่า ลองหาผ้าใบล้างแอร์มาเก็บไว้สักชุด ของผมไปได้มาจากแถวบ้านหม้อ สะดวกดีมีท่อต่อออกไปทิ้งได้เลย จากคุณ : น้องปลาดาว เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 00:38:38

ความคิดเห็นที่ 32 ชิ้นส่วนแอร์แต่ละยี่ห้อ  วิธีการถอดหรือประกอบจะไม่เหมือนกัน บางยี่ห้อ  บางจุดถอดง่าย  บางจุดถอดยาก   อย่างแอร์ที่ใช้อยู่  2 ยี่ห้อ    - มิตซูเฮฟวี่   พัดลมกรงกระรอก  ถอดออกมาล้างข้างนอกได้ง่าย   คอยล์ เย็น  สามารถเปิดพับ(แบบเปิดหน้าต่าง) ออกมาล้างด้านหลังได้โดยไม่ต้องถอด ท่อน้ำยา  แม้ด้านหน้าล้างจนสะอาด   แต่ด้านหลังดูไม่ได้เลย (อย่างที่คุณ ดาราเดชบอก)   แต่เมื่อถอดแล้วต้องระวังเรื่องข้อเหวี่ยงพลาสติกติดมอร์เตอร์ ที่ควบคุมบานเกล็ด  ต้องใส่ให้ถูกจังหวะ  มิฉะนั้นบานเกล็ดไม่ทำงาน ชิ้นส่วนดัง กล่าวอาจหักได้     - อมีน่า  ที่แถมมากับคอนโด  3   ตัว  ไม่สามารถเปิดคอยล์เย็นแบบตัว บนได้  จะล้างด้านหลังคงต้องถอดท่อน้ำยา  และเติมน้ำยาใหม่ ต้องช่างอาชีพ เท่านั้น   พัดลมก็ถอดยาก  ไม่รู้ถอดอย่างไร  เลยต้องใช้ภู่กันแบนขนแข็ง แบบใช้เขียนป้าย  สอดเข้าไปปัด      ส่วนที่ฉีดน้ำล้างคอยล์เย็น   ผมใช้เครื่อสตรีมไอน้ำร้อน   รูปร่างคล้ายที่ฉีดน้ำ ของ จขกท.   แต่ต้องเสียบไฟฟ้าจนน้ำเดือด จะตัดไฟ  เอามาฉีดล้าง  ไอน้ำแรงดี ช่วยฆ่าเชื้อได้ด้วย   อันละพันกว่าบาท ที่คลองถมมีขาย แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 55 10:00:54 แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 55 09:50:53 จากคุณ : dpdome32 เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 09:50:22

ความคิดเห็นที่ 33 ที่บ้านก็ล้างเองนะครับ ใช้สเปรย์ยี่ห้อดัง กระบอกพ่นน้ำเหมือนกัน พ่นน้ำชุ่มก่อน แล้วสเปรย์ฟองๆตาม ปัญหาคือใบพัดด้านใน ใช้น้ำสายยางกพบฝักบัวรดน้ำที่ปรับรูปแบบน้ำได้หลายๆแบบ ล้างแรกๆก็จะดี แต่น้ำแรงสู้ปืนแรงดันไม่ได้ คราบฝุ่นมันติดที่ใบ แล้วฝุ่นเกาะใหม่จะไวขึ้น สองเดือนกว่าฝุ่นเต็มใบพัดอีก จึงต้องใช้ปืนแรงดันจึงจะดี ส่วนผ้ายางคลุมตอนฉีดน้ำ เราเห็น่างแอร์ใช้กันจะมีผ้าใบหนาๆ เลยมาปรับใช้เป็นผ้าพลาสติดหนา ผ้ายางห้องน้ำ ก็ใช้ดี แต่มันแข็ง เวอร์ชั่นใหม่ ก็ลักจำจากช่างที่มาล้างแอร์ที่ต่างๆครับ จะใช้เป็นผ้าใบแบบผ้าเต็นท์ ที่ใช้กางนอนพักตามป่าเขาแหละครับ มันนิ่ม กันน้ำได้ คลุมเครื่องและให้ห้อยยาวรวบลงถังสีใบใหญ่เลย ง่าย ไม่ต้องทำท่อด้วยครับ ลองดูครับ จากคุณ : นายยศ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 08:44:21

ความคิดเห็นที่ 34 จัดกิ๊ฟไปก่อนเลย จากคุณ : nanakase เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 14:58:06

ความคิดเห็นที่ 35 เจ๋งจริงๆ จากคุณ : alannann เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 09:39:54