 |
การลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนจำนอง.... เหลือร้อยละ 0.01
|
|
ขออนุญาตแชร์ประสบการณ์ตรงที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ค่ะ เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ต้องทำธุรกรรมการจดจำนองบ้าน (ไม่รู้ว่าจะช้าเกินไปหรือเปล่า พอดีมือใหม่สำหรับพันทิปค่ะ) ขอเริ่มต้นจากสินเชื่อ Soft Loan 3% 5 ปี ที่ใครก็ตามที่มีภาระสินเชื่อบ้านอยู่ ต่างก็ต้องการได้รับสิทธิ์ในสินเชื่อ Soft Loan นี้ แต่เมื่อขอใช้สิทธิ์จะรู้เลยว่ามันไม่ได้ได้มาง่ายๆ อันนี้จากประสบการณ์ของตัวเองนะคะ และเห็นจากพี่ที่ทำงาน เคสของตัวเองคือไม่สามารถจะรีไฟแนนซ์ธนาคารเดิมโดยได้รับ Soft Loan เพราะธนาคารแจ้งว่าวงเงินเต็มแล้ว ส่วนของบางธนาคารบอกว่ามีเปิดวงเงินรอบ 2 พี่ที่ทำงานไปติดต่อธนาคารตอน 9 โมงเช้า ของวันแรกที่บอกว่าเปิดรอบ 2 พนักงานธนาคารแจ้งว่าวงเงินเต็มแล้ว !!!!! โห อะไรกันเนี่ยยยยยย !!!! วงเงินเค้าไปคีย์กันตอนไหนเนี่ยย 9 โมงเช้า แค่ถามลูกค้าแล้วก็ตอบได้เลย เฮ้ออ ความโปร่งใสของการเรียงลำดับมันคงไม่มีอยู่จริง T_T
ต่อเรื่องของตัวเองต่อนะคะ พอไม่สามารถรีไฟแนนซ์ธนาคารเดิมได้แล้ว เราก็ต้องขวนขวายหาธนาคารอื่นที่ยังมีวงเงิน Soft Loan อยู่ ซึ่งก็เจอธนาคารหนึ่งมีป้ายติดอยู่ที่สาขา เราจึงเข้าไปสอบถาม และรีบดำเนินการจัดเตรียมเอกสารทุกอย่างที่ต้องใช้ให้ครบถ้วน และรีบส่งธนาคาร เพราะกลัวจะแห้วอีก เรียกได้ว่าเตรียมเอกสารได้ครบมาก พนักงานบอกว่าเตรียมได้เรียบร้อยครบถ้วน ไม่ต้องขออะไรลูกค้าเพิ่มอีกเลย ชั้นตอนต่าง ๆ ดำเนินไปตามปกติ ประเมินบ้าน ทราบผล จนกระทั่งนัดจดจำนอง (ดีใจน้ำตาจะไหล เพราะตอนนี้อัตราดอกเบี้ยธนาคารเดิมของเราเป็น MLR 0.5) (ระยะเวลาดำเนินการทั้งหมดโดยประมาณ 27 ก.ค.55 ธนาคารใหม่ส่งเอกสารเข้าสนง.ใหญ่พิจารณา, 6 ส.ค.55 เจ้าหน้าที่มาประเมินราคา, ประมาณ 9-10 ส.ค.55 ทราบผลอนุมัติวงเงิน, 14-15 ส.ค.55 ทราบแน่ๆ แล้วว่าธนาคารเก่าไม่มีวงเงินรอบ 2 สำหรับ Soft Loan นั่นหมายถึงว่า เราจะต้องจ่ายค่าจดจำนองใหม่ 1% ส่วนใหญ่ก็เป็นหลักหมื่นบาท ขึ้นกับมูลค่าบ้าน มูลค่าจดจำนอง)
ตัดสินใจละ ยังไงก็ต้องไปธนาคารใหม่ ขืนอยู่ธนาคารเดิม ดอกเบี้ยอ่วมแน่ๆๆๆ เปิดดูใบเสร็จเดือนสุดท้ายที่ต้องนำไปยื่นธนาคารใหม่ต๊กกะใจ ยอดผ่อนแต่ละเดือนนั้น ในใบเสร็จแสดงเป็นดอกเบี้ยเกือบ 80% ส่วนที่เหลือน้อยนิดไปหักเงินต้น เฮ่ออออ ดูใบเสร็จแล้วก็เพลีย เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงตอบตกลงธนาคารใหม่เพื่อนัดจดจำนอง แต่พนักงานบอกว่าจะทำประกันชีวิตด้วยมั้ยคะ เราเลยถามว่ามันจำเป็นมั้ย เพราะรู้สึกว่ายังไงก็ต้องทำประกันอัคคีภัยอยู่แล้ว พนักงานเงียบกับคำถามของเราไป (คงอึ้งกับคำว่า จำเป็น มั้ย?) ก่อนจะตอบว่า ถ้าถามพี่ว่าจำเป็นมั้ย? ความจริงมันก็ไม่จำเป็นค่ะ แต่ผู้จัดการสาขามีนโยบายให้วงเงินกับลูกค้าที่สนับสนุนผลิตภัณฑ์ของธนาคารก่อน .... !!!! ชัดเจนค่ะ สรุป ก็เราอยากได้ Soft Loan นิเนอะ เลยตอบพนักงานไปว่า แล้วตกลงหนูต้องเสียค่าเบี้ยประกันเท่าไหร่คะพี่ พนักงานก็บอกตัวเลขทันทีเหมือนคิดมาเรียบร้อยแล้ว อายุน้องเท่านี้ ค่าเบี้ยประกันเท่านี้ค่ะ แล้วน้องจะลดหย่อนภาษีได้เท่านี้ค่ะ เราคิดในใจ ยังไงก็ต้องทำอยู่แล้วนิคิดมาให้เสร็จสรรพขนาดนี้ (- -)
ลำดับต่อไปธนาคารใหม่คุยกันเรียบร้อยละ เราก็ติดต่อธนาคารเก่าว่าจะปิดสินเชื่อต้องทำยังไงบ้าง ธนาคารเก่าก็แจ้งว่าสำนักงานเขตที่ดินบ้านเรา เจ้าหน้าที่วิ่ง 2 วัน คือ อังคาร กะพฤหัส สรุปเรานัดพฤหัสที่ 23 ส.ค.55 โอเคเอาวันที่ที่ได้ไปแจ้งธนาคารใหม่ จากนั้นก็รอธนาคารเก่าแจ้งยอดคงค้างโดยคำนวณดอกเบี้ยถึงวันที่ปิดสินเชื่อ เพื่อเราจะต้องเตรียมแคชเชียร์เช็คส่วนต่างไปจ่ายเอง เรื่องน่าจะจบลงตามที่ควรจะเป็นแต่เพียงเท่านี้ (อันนี้เป็นความเหนื่อยของการจะได้มาซึ่งสินเชื่อ Soft Loan ที่เล่ามาเป็นโดยสรุปนะคะ เพราะความจริงตื๊อธนาคารเก่านานมาก เสียดายที่ไม่ทันวงเงิน แล้วก็มีหวังพนักงานบอกว่าจะมีรอบ 2 แล้วก็หมดหวังอีกเมื่อพนักงานฟันธงว่าไม่มีค่ะ)
| จากคุณ |
:
SMOKEY EYES 
|
| เขียนเมื่อ |
:
1 ต.ค. 55 20:23:36
|
|
|
| |
