เนื่องจากมีงูแวะมาเยี่ยมเยือนที่บ้านอยู่บ่อยๆ เลยอยากหาวิธีป้องกันจึงได้ลองรวบรวมหาข้อมูลวิธีป้องกันงู ทั้ง search หาทางอินเตอร์เนท และถามทาง fb ได้ข้อมูลรวบรวมออกมาเป็น ประเด็นได้ 9 ข้อ ดังนี้
(ส่วนที่มาของแต่ละประเด็น ไม่ได้เอามาทั้งหมด เอามาเฉพาะอันที่เห็นว่าสรุปใจความ)
1. ประเด็น ใช้กำมะถันกันงู
- เว็บที่ขายผลิตภัณฑ์กำมะถันมักกล่าวอ้างว่า กำมะถัน ใช้กันงูได้ คนส่วนใหญ่ก็เชื่อกันว่างูไม่ชอบกลิ่นกำมะถัน
- กำมะถันเมื่อเจอความชื้นจะเหม็นมาก ระคายจมูก (ซึ่งคงระคายกับทั้งคนและงู)
- แต่พอลองหาข้อมุลยืนยันจากการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือจากหลายๆที่ พบว่ากำมะถันไม่ประสบความสำเร็จในการป้องกันงู
- สารอื่นที่คนเชื่อว่ากันงูเช่น น้ำมัน มะนาว ฯลฯ ก็ได้ผลทดลองว่าไม่ประสบความสำเร็จในการป้องกันงู
ที่มา:
http://digitalcommons.unl.edu/cgi/viewcontent.cgi?article=1431&context=gpwdcwp
http://www.ehow.com/info_8422664_putting-house-keep-snakes-away.html
2. ประเด็น งูกลัวเชือกกล้วย
- มีหลายคนยืนยันว่า งูจะมีอาการอ่อนแรงลงเมื่อสัมผัสกับเชือกกล้วย (แต่มีผลเฉพาะกับงูเหลือมและงูหลาม)
- บางกระแสว่าเป็นแค่ความเชื่อ
- แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้เชือกกล้วยทำเป็นบ่วงไปคล้องคองูหรือมัดงู จะเป็นอุปกรณ์ที่สามารถทำให้งูดิ้นไม่หลุด เพราะเชือกกล้วยมีความพิเศษตรงที่ สามารถผูกหรือรัดสิ่งของที่มันหรือลื่นได้โดยไม่หลุด
- ดังนั้น ถ้าจะกล่าวให้ถูกน่าจะเป็น งูไม่ได้กลัวเชือกกล้วย แต่กลัวการถูกมัดด้วยเชือกกล้วย
ที่มา:
http://th.answers.yahoo.com/question/index?qid=20110331120516AA5K2xC
Clip งูเหลือม vs เชือกกล้วย: http://www.youtube.com/watch?v=JrjDyJTHpjM
3. ประเด็น ปลูกต้นเสลดพังพอนกันงู
- จากความเชื่อที่ว่าปลูกไว้เพื่อกันงู เมื่อหลายคนลองทำตาม ปรากฎว่ากันไม่ได้จริง งูเลื้อยบนต้นเสลดพังพอนอย่างสบายใจเฉิบ หลายคนยังถ่ายรูปยืนยัน
- อย่างไรก็ตามเป็นพืชที่มีสรรพคุณถอนพิษ โดยเฉพาะพิษแมลงสัตว์กัดต่อย ตะขาบ แมลงป่อง รักษาอาการอักเสบ งูสวัด ลมพิษ แผลน้ำร้อนลวก
- ต้นอื่นๆที่คนแนะนำเรื่องกันงูเช่น ต้นมะนาว ต้นพญาจงอาง ก็ยังมีงูเลื้อยเช่นกัน
ที่มา:
http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2009/03/J7595076/J7595076.html
http://topicstock.pantip.com/home/topicstock/2010/03/R8991919/R8991919.html
http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_20_6.htmhttp://www.atriumtech.com/cgi-bin/hilightcgi?Home=/home/InterWeb2000&File=/home2/searchdata/Forums/http/www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J2009995/J2009995.html
4. ประเด็น การเลี้ยงแมว
- จากข้อมูลเว็บบอร์ดหลายๆแห่ง คนที่เลี้ยงจำนวนมากยืนยันว่า แมวกันงูเล็กงูน้อยได้
- แต่ถ้างูเหลือมตัวใหญ่มาเจอแมว แมวจะกลายเป็นอาหารงูแทน ... หรือถ้าเจองูพิษ แมวก็ตายหรือพิการ
5.ประเด็น การเลี้ยงห่าน
- จากข้อมูลเว็บบอร์ดหลายๆแห่ง คนที่เลี้ยงจำนวนมากยืนยันว่า ตั้งแต่เลี้ยงห่านก็ไม่ได้เห็นงูในบ้านอีกเลย จะมีเห็นก็แค่ตอนที่ห่านกินงู
- นอกจากนี้มีหลายคนเชื่อว่างูไม่ถูกกับกลิ่นขี้ห่าน บ้างก็ว่าเสียงร้องของห่าน
- ข้อควรระวัง: ธรรมชาติของห่านจะส่งเสียงดังมาก อาจสร้างความรำคาญต่อคนในบ้านและคนข้างบ้าน
- เท่าที่หาข้อมูลในอินเตอร์เนท มีประเด็นที่น่าแปลก ... เพราะแมวโดนงูใหญ่กินนั้นมีให้เห็นและคนบอกเล่าเยอะ แต่ประเด็นห่านเต็มวัยโดนงูใหญ่กินนั้นยังหาไม่เจอเลย จะเจอก็แค่คลิปงูเหลือมกินลูกห่านตัวเล็กๆ
6.ประเด็น การเลี้ยงพังพอน
- พังพอนจัดเป็นสัตว์ที่มีความปราดเปรียวว่องไวมาก อีกทั้งมีนิสัยที่ไม่กลัวใคร จึงเป็นที่ทราบกันดีว่าชอบที่จะสู้กับงูพิษ โดยเฉพาะงูเห่าเมื่อเผลอจะโดดกัดคองูจนตาย อีกทั้งยังเลี้ยงไว้จับหนูได้ผลดีกว่าแมวเสียอีก
- ข้อควรระวัง: พังพอนเป็นสัตว์ดุ (แต่หากเลี้ยงตั้งแต่เล็กก็จะเชื่องกับเจ้าของ) และ ปัจจุบันเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535
ที่มา: http://th.wikipedia.org/wiki/พังพอน
7. ประเด็น การสวดบท "ขันธปริตร" ซึ่งเป็นคาถากันงู แมลงมีพิษ สัตว์เลื้อยคลาน
บทสวด search ทาได้ทั่วไปตามอินเตอร์เนท
- อันนี้คิดว่าคงยังไม่มีใครทำผลทดสอบทางวิทยาศาสตร์เป็นหลักฐานยืนยัน ดังนั้นก็จะแบ่งคนตามความรู้ความเชื่อนี้ออกเป็น 4 แบบ คือ (1) เชื่อว่าจริง (2) เชื่อว่าไม่จริง (3) รู้ว่าตัวเองว่าไม่รู้ และยังไม่ปักใจเชื่อ (4)รู้จริงว่าความจริงเป็นอย่างไร
- สำหรับ (1)คนที่เชื่อว่าจริง ก็ถือว่าเป็นวิธีที่ช่วยให้รู้สึกอุ่นใจขึ้น เมื่อใช้ด้วยความไม่ประมาท ระลึกรู้ ระวังตัว และป้องกันด้วยวิธีอื่นๆเท่าที่ทำได้ประกอบด้วย
- สำหรับ (2)คนที่เชื่อว่าไม่จริง และ (3)คนที่รู้ว่าตัวเองว่าไม่รู้ และยังไม่ปักใจเชื่อ ก็คงไม่ได้สนใจจะใช้วิธีนี้อยู่แล้ว
- สำหรับ (4)รู้จริงว่าความจริงเป็นอย่างไร ... ก็คงใช้สิ่งที่รู้ให้เป็นประโยชน์ ... แต่ถ้าคิดว่าตัวเองรู้ในแบบที่คิดเอาเอง ก็จะเข้าข่าย (1) หรือ (2)
- ตัวผมเองคงเป็นแบบ (3) ที่ค่อนไปทาง (1) ... ปกติก็ไม่ได้สวด แต่พอเวลาที่ต้องไปค้างคืนในวัดหรือสถานที่ซึ่งมีงูชุกชุมแบบว่าเลื้อยมาให้เห็นเต็มไปหมด ก็จะสวดบทนี้กันไว้สักหน่อย
- เกร็ดเล็กน้อยสำหรับผู้ที่นำไปใช้: สวดด้วยจิตที่ตั้งมั่น ตั้งพระรัตนตรัยเป็นประธานและแผ่เมตตา ด้วยใจที่ไม่คิดทำร้ายชีวิตเขา ขอให้พวกเขาหลายหลีกไปด้วย (แนะนำโดย คุณ Alisa Chatranon )
8. วิธีอื่นๆ ซึ่งเป็นคำแนะนำที่ให้พยายามแก้ที่ต้นเหตุ
- 8.1) กำจัด/ป้องกัน ห่วงโซ่อาหารอาหารของงู - เค้าว่า เหตุผลหลักที่งูเข้าบ้านคน เพราะสัญชาตญาณในการหาอาหารของมันรู้ว่า มี อาหาร เช่น หนู นก กบ สัตว์เล็กน้อยอื่นๆ และที่มีสัตว์เล็กน้อยพวกนี้ก็เพราะเราปล่อยให้มีอาหารของสัตว์เหล่านั้นอยู่ในบ้าน
- 8.2) อุดช่องโหว่ รู ร่อง รอย ตามบ้าน ที่เปิดโอกาสให้งูเลื้อยเข้ามาได้ และปิดประตู หน้าต่าง ฝาท่อ ให้มิดชิด - ไม่เปิดช่องทางให้แล้วจะเข้าทางใหนล่ะเนอะ
- 8.3) อย่าทำบ้านรก รวมทั้งสวนและสุมทุมพุ่มไม้ - ความเห็นส่วนตัวคิดว่า ข้อนี้ยากมากๆ :P
ที่มา : http://www.getridofthings.com/pests/reptiles/get-rid-of-snakes.htm
9.วิธีการอื่นๆ ที่แนะนำกันมา
- 9.1) แผ่นกันงู เอาไว้กันในแนวดิ่ง เช่นเสา กำแพง วัสดุมีความลื่นสูงจนงูไม่สามารถเลื้อยขึ้นไปได้ (ข้อมูลจากเว็บขายผลิตภัณฑ์, แนะนำโดยพี่ DrManta Jaroensook )
- 9.2) เอาตาข่ายใสที่เค้าขายกันเป็นม้วนๆมาล้อมบริเวณบ้าน ให้สูงสักเข่า วิธีนี้งูจะมาติดตาข่าย ซึ่งเราต้องมาเอาออกเมื่อเค้ามาติดตาข่าย (แนะนำโดยพี่ DrManta Jaroensook )
- 9.3) ย้ายไปอยู่บนคอนโดสูงๆ - หนีพิษงูด้วยวิธีนี้อาจต้องไปเจอพิษดอกเบี้ยแทน
- 9.4) สวดมนต์แผ่เมตตาบอกเขาให้อย่าเข้ามาในเขตบ้าน - อันนี้ก็มีคนทำและเอามาเล่าสู่กันฟัง http://www.gotoknow.org/blogs/posts/426818
... ข้อมูลที่รวบรวมมานี้ ถ้าใครเห็นว่าตรงใหนผิดพลาด หรือมีข้อมูลเสริมเพิ่มเติม ก็ช่วยชี้แนะด้วยครับ