บ้านเราอยู่ไม่ไกลจากบ้านคุณค่ะอยู่ใกล้ๆ ม.กรุงเทพฯ
บริเวณหน้าบ้าน ระดับน้ำสูงประมาณ คอผู้ชาย
(สามีบอก เพราะตัวเรา หอบลูกหนีขึ้นเหนือ)
สามีถ่ายรูปจากมือถือ แล้วเก็บให้ดูตอนน้ำลดแล้ว
ในบ้านก็พอๆกับของคุณ ครัวบิ้วอิน ต้องรื้อทิ้งหมด
ห้องรับแขก ยกสูงได้ แต่ความชื้นก็ทำให้พวกโซฟาขึ้นราอยู่ดี
เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า เอาขึ้นมาในบ้าน และยกสูง แต่ก็ไม่พ้นอยู่ดี
ตู้เย็น 2เครื่อง เครื่องทำน้ำเย็น ยกแล้วก็ไม่รอด
ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า ในครัว ไม่ต้องพูดถึง ไม่รู้จะยกไปไว้ที่ไหน โดนหมดแช่น้ำเกือบ 2เดือน
สามีอยู่บ้านคนเดียว วิ่งดูบ้าน หมา1ตัว วิ่งไปช่วยคนไข้ที่ ศูนย์ธรรมศาสตร์
ขนย้ายคนไข้ หมา และต้องยังวิ่งมาขนของที่บ้านตัวเองอีก
หน้านี้ดำ ขึ้นฝ้าเต็มหน้าไปหมด ทุกวันนี้ยังเหลืออยู่ยังไม่หาย
เราและลูก ต้องหนีไปอยู่เหนือเกือบเดือน
และย้ายไปอยู่โรงแรมที่ระยอง 2สัปดาห์ ย้ายไปอยู่ในกทม.แถวรามคำแหงอีก 2สัปดาห์
กว่าจะได้กลับเข้าไปดูบ้าน เมื่อน้ำเหลืออยู่ตรงถนนหน้าบ้านประมาณ ฟุตบาต
เห็นสภาพต้นไม้ บริเวณรอบๆรังสิต (ลงจาโทลเวย์)แทบร้องไห้
พอเห็นบ้านตัวเองครั้งแรกที่จากไปสองเดือนกว่า จุกในอกหมด น้ำตาคลอ
ช่วงน้ำท่วมบ้าน และกทม. ได้แต่เสพข่าวจากทีวี หนังสือพิมพ์ ไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง
เพราะสามีไม่ยอมให้กลับเข้าบ้าน เพราะมีลูกอีก สองคน
ตัวสามีช่วงน้ำท่วม ไม่ดูทีวี หรืออ่าน นสพ.เลย เพราะข่าวช้ากว่าความเป็นจริง
และเห็นว่า ไม่ตรงกับความจริงด้วย สามีเป็นโรคเครียด กินได้น้อย และนอนไม่หลับ
ภาพหลอนไปหลายเดือน สามีอยู่ช่วยศูนย์อพยพในธรรมศาสตร์จนกระทั่งย้ายคนออกหมด
เพราะธรรมศาสตร์แตก ตัวจึงได้ออกมาอยู่กับครอบครัวที่ระยอง
ทุกวันนี้ยังไม่ได้ซ่อมแซมบ้านเลย ได้แต่ล้างบ้านอย่างเดียว
รอย้ายบ้านไปอีกหลัง ค่อยซ่อมบ้านเดิม ซึ่งเข้าของรกมาก เพราะเฟอร์ที่เป็นตู้รื้อทิ้งหมด