ความคิดเห็นที่ 1 บ้านเท่าไรงับ แค่นำ statement ที่เงินเข้าทุกเดือน หรือใบแจ้งปันผลหุ้นทั้งปีทั้งหมด ไปแสดงว่าเป็นรายได้ น่าจะ น่าพิจารณานะครับ แต่ ใบภาษีไม่มี แบงคืจะตรวงสอบยังไงหนอ รอดู คคห ต่อไปครับ น่าจะให้แง่คิดดีก่าผมครับ จากคุณ : torsakpet เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 22:01:14

ความคิดเห็นที่ 2 มีสลากออมสิน 5 ล้าน ได้รายได้เดีอนละ 12500 บาท (150000/ปี)ยังไงหรือครับ ช่วยอธิบายให้หน่อยได้หรือเปล่าครับ จากคุณ : Fastcat4100 เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 22:11:57

ความคิดเห็นที่ 3 หุ้น กับรายได้จากหุ้น แบงค์ไม่นับเลย เค้าว่าเสี่ยงสูง ตัดออกได้ แค่ขแวีซ่าสถานฑูตยังไม่แล มีเคส มีหุ้นอยู่50ล้าน ปันผลเฉลี่ยปีละ5% แบงค์บอกไม่ต้องขนหลักฐานมา เอาแค่สลิปเงินเดือน จบ จากคุณ : จขคต. เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 22:39:18 A:110.49.226.202 X: TicketID:336212

ความคิดเห็นที่ 4 อาจจะได้ถ้าคุณซื้อประกันเพิ่มกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร... เพราะบ้างธนาคารเหมือน...ให้พนักงานทำยอดจากขายประกันอัคคีภัยบ้านอะไรประมาณ แต่อย่างไรลองไปคุยน่ะคับ... แนะนำได้เท่านี้บอกไปตรง ๆ ปัญหาเราคืออะไรต้องการกู้มีหลักทรัพย์อะไรได้บ้าง... ที่ดินคุณอาจจะเอามาเป็นหลักทรัพย์ได้... จากคุณ : javabean เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 23:37:47

ความคิดเห็นที่ 5 คห. 3 นี่ มั่วเรียกพี่เลย คุณเคยมีหุ้น ถึง 5 ล้านรึเปล่าครับ อย่าเดาครับ ขอร้อง .. ผมมีครับ ไปขอ วีซ่าเชงเก้น ปีที่แล้ว ผ่านฉลุย ไม่มีงานประจำเหมือนกันครับ โทรไปขอให้ มาร์ ออก ใบสรุปให้ ว่ามีเงินเท่าไหร่ มาร์จะออกให้ฟรีครับ แล้วเอาไปยื่นขอวีซ่าได้ครับ .......... ส่วนเรื่องกู้ ผมว่า แค่ส่วนของ ที่ดิน หรือ ออมสินเนี่ย ก็เหลือเฟือแล้วครับ ถ้าจะเอาของ หุ้นไปด้วย ก็ยิ่งทำให้ดูดีขึ้นครับ ถ้าคุณมีเงิน เกินที่ มูลค่าของบ้าน ไม่มีปัญหาครับ ส่วนเรื่องประกัน ทุกวันนี้ ใครกู้เงิน โดนธนาคาร จับทำประกันทุกคนอยู่แล้วครับ เลี่ยงไม่ค่อยได้ครับ จากคุณ : เอก เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 00:20:56 A:110.169.253.226 X: TicketID:367882

ความคิดเห็นที่ 6 มาฟังคำตอบด้วยคน เป็นคำถามที่น่าสนใจค่ะ ถ้าเป็นยุโรปกู้ได้ค่ะ เพราะคนที่นี่ซื้อหุ้นผ่านธนาคาร ไม่ได้ผ่านโบรกเกอร์แบบบ้านเรา เมื่อคุณกู้ปุ๊บธนาคารจะคุมบัญชีคุณได้ คือคุณจะขายหุ้นก็ต้องให้ธนาคารอนุญาตก่อน กรณีประเทศไทยเราไม่ทราบจริง ๆ แต่ขออนุญาตเดาล่วงหน้าว่าน่าจะกู้ไม่ได้ เพราะเงินปันผลเป็นสิ่งไม่แน่นอน และมูลค่าของหุ้นก็ไม่แน่นอนอีกเช่นกัน ส่วนกรณีขอวีซ่า เราเห็นด้วยกับคห. ๓ การที่จะได้วีซ่าหรือไม่ได้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับมีหุ้นหรือมีเงินมากแค่ไหน แค่โชว์ได้เฉย ๆ ว่ามีตังค์เที่ยวชัวร์ ที่สำคัญคือผู้ขอวีซ่าต้องแสดงให้เค้าเห็นว่าตัวเองมีความผูกพันธ์หรือภาระหน้าที่อะไรที่ต้องกลับประเทศตัวเองแน่ ๆ ไม่มีแนวโน้มว่าจะหนีวีซ่า เพราะ ไม่จำเป็นต้องอยู่เมืองไทยก็เล่นหุ้นได้ คิดว่าคนที่ได้วีซ่าเพราะเหตุผลอื่นมาประกอบด้วยมากกว่าค่ะ สำหรับคห. ๑ เงินปันผลจากหุ้นจะถูกหักภาษีค่ะ แต่สามารถเรียกภาษีคืนได้ จริง ๆ หลักฐานนี้ก็น่าแสดงได้นะคะ รอฟังคำตอบจากผู้รู้นะคะ จากคุณ : Schnuckiputz เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 01:06:20

ความคิดเห็นที่ 7 กู้ได้ เอาสลากออมสิน และที่ดินเป็นประกัน คุณยังจะกล้ากู้มั๊ย จากคุณ : joe (joekk1) เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 08:16:43

ความคิดเห็นที่ 8 ความเห็นที่ห้า คุณเข้าใจผิดเรื่องการกู้เงินนะครับ ต่อให้คุณมีที่ดิน มีหุ้นในตลาดมากกว่ามูลค่าบ้านอีกสามเท่า ก็ไม่มีความหมาย ธนาคารไม่ได้ต้องการที่ดิน หรือหุ้นของคุณ  ในตอนที่คุณไม่สามารถชำระหนี้ได้ ธนาคารพิจารณาจากความสามารถในการชำระหนี้ อย่างสมำ่เสมอ และต่อเนื่อง ซึ่งก็คือรายได้ประจำ ญาติผมขนาดมีเงินสดมากกว่ามูลค่าบ้านเกือบสองเท่า ขอเอาเงินสดเป็นหลักประกัน แต่รายได้ประจำน้อย (แต่คอมมิชชั่นมากกว่าเงินเดือนหลายเท่า)ธนาคารยังปฏิเสธ บอกให้ไปซื้อเงินสดเลยครับ จากคุณ : PLAKORN เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 08:47:04

ความคิดเห็นที่ 9 ขอตอบความเห็นที่ 2 คุณ Fastcat4100 สลากออมสินแบบ 3 ปี ฝาก 5 ล้าน จะมีผลตอบแทนสุทธิเฉลี่ยที่ 3% ต่อปีครับ แต่กระแสเงินสดรับต่อเดือนจะได้น้อยกว่า เพราะจะได้แค่รางวัลขั้นต่ำที่จะต้องถูกทุกเดือน ตัวเลขที่ผมแสดงเป็นตัวเลขที่ได้รับเมื่อสลากครบดิวครับ คห. 7 คุณ joekk1 ผมยินดีให้แบงก์เอาที่ดินเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้ครับ แต่สลากออมสิน ผมแน่ใจนัก เพราะผมกู้ซื้อบ้านอายุการกู้ ก็จะยาวกว่าสลากแน่ๆ ถ้าสลากครบดิว สลากจะเป็นยังไงต่อไป ใครจะรับดอกผลจากสลาก ซึ่งอาจทำให้ผมเสียผลประโยชน์จากสลากได้ แต่ผมไม่กลัวถ้าเขาขอให้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันแค่ 3 ปี ครับ ขอบคุณทุกๆ ท่านมากๆ อีกครั้งครับ ท่านใดจะแสดงความเห็นต่อ ยินดีรับฟังนะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : รูปเงาะเดินสบาย เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 09:57:14

ความคิดเห็นที่ 10 เป็นผม จะแบ่งทรัพย์สินมาครึ่งหนึ่ง แล้วซื้อสด บ้านเป็นปัจจัย 4 ยังไงก็ต้องซื้อ จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 10:01:38

ความคิดเห็นที่ 11 ขอแชร์ความเห็น กับ คห.10 คุณหมึกสด ครับ ถ้าผมเอาสภาพคล่องครึ่งนึงไปซื้อบ้าน หากเกิดวิกฤติทางการเงิน หรือตลาดหุ้นพังอย่างกรณี sub prime ผมจะเสียโอกาสในการเข้าซื้อหุ้นในราคาต่ำติดดินได้ครับ เงินครึ่งนึงผมจึงยอมสตาฟไว้ และยอมรับผลตอบแทนต่ำแค่ 3% ต่อปี เพราะคิดว่าการถือสลากที่มีสภาพคล่องเทียบเคียงเงินสดก็คือการลงทุนอย่างหนึ่งครับ และเนื่องจากผมไม่มีรายได้จากการทำงานมารองรับ ถ้าได้รับเงินปันผลลดลง ก็อาจจะกระทบกระเทือนต่อรายรับ ที่ต้องนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ จึงต้องระมัดระวังในการใช้เงินมากกว่าผู้มีรายได้ประจำ จากการทำงานครับ อันที่จริงผมยอมรับว่างงๆ ชีวิตเหมือนกันนะ ว่าสิ่งที่ผมคิดเนี่ย มันถูกต้องหรือเปล่า หรือมีวิธีที่เหมาะสมกับผมมากกว่านี้ไหม แต่ ณ นาทีนี้ ผมคิดได้เท่านี้จริงๆ ครับ จากคุณ : รูปเงาะเดินสบาย เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 10:27:49

ความคิดเห็นที่ 12 ขายฉลากออมสินไปซื้อบ้าน ยังไงราคาอสังหาก็ขึ้นชนะออมสิน ไม่ควรกู้ถ้ายังมีเงินสดฝากดอกต่ำกว่าเงินกู้เยอะขนาดนี้ จากคุณ : densin เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 10:47:20

ความคิดเห็นที่ 13 เราว่ายากนะเพราะ จขกท ไม่มีรายได้ประจำที่แน่นอน หมายถึงงานประจำอ่ะค่ะ เงินที่ลงในหุ้นเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงแบงค์ไม่ค่อยรับ อีกอย่าง จขกท ยังโสดด้วยซึ่งเป็นข้อเสียในมุมมองของแบงค์ค่ะ ผู้ขอกู้ที่แต่งงานแล้วหรือมี แพลนจะแต่งงานพร้อมที่จะสร้างครอบครัวแสดงว่ามีความรับผิดชอบ ถือเป็น ข้อได้เปรียบในการพิจารณาสินเชื่อด้วยค่ะ จากคุณ : MY DOG CAN FLY เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 11:35:05

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 12 ครับ ถูกต้องที่สุดแล้ว จากคุณ : s.sup เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 12:34:49

ความคิดเห็นที่ 15 อยากปลูกต้นไม้มาอยู่บ้านผมก็ได้ครับ หุหุ จากคุณ : doctorit เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 13:00:51

ความคิดเห็นที่ 16 ตอบในฐานะเจ้าหน้าที่สินเชื่อบ้าน สลากออมสินใช้ได้ครับ เงินฝากประจำก็ใช้ได้แบงค์จะคำนวณดอกเบี้ยที่ได้รับมาเป็นรายได้ต่อเดือน หรือจะใช้เงินฝากfixค้ำก็ได้ ดอกเบี้ยที่คุณฝากเท่าใดแบงค์จะบวกไปอีก2% บ้านหรือที่ดินจะไม่นำมาค้ำประกัน แต่นำมาขอสินเชื่ออเนกประสงค์ได้ แต่ดอกเบี้ยจะสูงมาก จากคุณ : หม่ำ บ่อนไก่ (suanplu) เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 13:09:39

ความคิดเห็นที่ 17 คุณ หม่ำ บ่อนไก่ (suanplu) รบกวนสอบถามเพิ่มเติมครับ สลากมีอายุแค่ 3 ปี เมื่อสลากครบดิวแล้ว สลากจะมีสภาพเป็นยังไงต่อไปครับ แบงก์จะไปไถ่ถอนแทนผม? (เวลาค้ำประกัน กรรมสิทธิ์เป็นของใคร) หรือเมื่อสลากครบดิวแล้ว แบงก์จะให้ผมไปซื้อสลาก แล้วนำกลับไปใช้ค้ำประกันใหม่ครับ จากคุณ : รูปเงาะเดินสบาย เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 13:18:05

ความคิดเห็นที่ 18 คุณหม่ำ บ่อนไก่ ค่ะ ไม่ทราบอยู่แบงค์ไหน พอจะให้ข้อมูลสินเชื่ออเนกประสงค์ด้วยได้ป่ะคะ จากคุณ : MY DOG CAN FLY เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 13:42:11

ความคิดเห็นที่ 19 เคยคุยกับเจ้าหน้าที่แบงค์ เงินในหุ้น รวมทั้ง ตราสารหนี้  เอามาค้ำประกันเงินกู้ไม่ได้ ที่ค้ำประกันได้ คือ เงินฝากประจำ สลากออมสิน พันธบัตรรัฐบาล พวกนี้เทียบเท่าเงินสด กู้ได้ 90% ถึง 100 %  แล้วแต่แบงค์  ถ้าใช้พวกนี้ ค้ำ กู้ง่าย แบงค์ไม่ถามอะไรมาก เพราะถือว่าความเสี่ยงต่ำ และได้อัตราเงินกู้ ดอกเบี้ยต่ำ คือ (อัตราดอกเบี้ยที่เราได้จากแบงค์)+2  ทำเรื่องไม่กี่วัน(ประมาณ 3 วันอย่างช้า 1 สัปดาห์) ก็สามารถได้เงินเลย ค่าธรรมเนียมต่ำ  เท่ากับเราได้เงินก้อนออกมาซื้อบ้านเงินสด  ไม่ต้องโดนซื้อประกันด้วย แต่ถ้าใช้ค้ำกู้ผ่อนบ้าน แบบ 30 ปี ก็ต้องเสียอัตราดอกเบี้ย อีกอัตรา แล้วแต่เราจะเลือกว่า จะเอาอัตราแบบไหน แบบนี้ส่วนใหญ่โดนบังคับซื้อประกันชีวิต+บ้าน      ถ้าใช้ทรัพย์สิน บ้านและที่ดินค้ำ ต้องประเมินและเสียค่าประเมินและค่าธรรมเนียมอื่นๆ ก่อนการกู้  แพงกว่า จะทำเรื่องช้า(1-2 เดือน) และกู้ได้ น้อย เพราะส่วนใหญ่การประเมินที่ดิน (บางแบงค์ต้องมีบ้านด้วย มีแต่ที่ดินก็กู้ยาก)มูลค่าจะต่ำกว่าความเป็นจริง แล้วให้กู้ได้ไม่เต็ม100 % อีก น่าจะประมาณ 50 %  เคยเอาบ้านพร้อมที่ดินที่มีคนมาขอซื้อ 8 ล้าน ไปให้แบงค์ประเมินดู ได้ 2 ล้าน ฟังแล้วตกใจ อิอิ เลยใช้เงินฝากค้ำแทน  และถ้าแจ้งว่า มีอาชีพเล่นหุ้น(ลงทุนในหุ้น) จะดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือ(คนไทยยังไม่ค่อยยอมรับ ขนาดบอกว่าลงทุนในหุ้น อิอิ ) เพราะมีความเสี่ยงสูง  แบงค์จะไม่ค่อยอนุมัติ     ให้แจ้งทำธุรกิจส่วนตัว ถ้ามีทะเบียนการค้ายิ่งดี ถ้าไม่มีให้ไปทำ(ล่วงหน้าสัก 6เดือน - 1 ปี) ฉบับละ 50 บาท  แล้วเอาเสตทเม้นท์ที่มีการหมุนเวียนเงินแสดง (ซื้อขายหุ้นอย่าใช้บัญชี cash ให้ใช้บัญชี cash balance (T+3) จะได้มีเงินหมุนเวียนเข้าออกในบัญชีธนาคาร เอาไว้แสดง เงินหมุนเวียน เวลาทำธุรกรรมต่างๆกับแบงค์ สำคัญมาก เช่นทำบัตรเครดิต ทำเรื่องกู้ ฯลฯ  แบงค์จะดูเสตอทเม้นท์เป็นหลัก )        ถึงจะมี บ้านที่ดิน เอามาค้ำประำักันก็กู้ยาก ถ้าไม่มีการทำธุรกิจ ที่มีการหมุนเวียนเงินที่ก่อให้เกิดรายได้ ทางแบงค์ส่วนใหญ่จึงดูการหมุนเวียนเงิน จากเสตทเม้นต์เป็นหลัก เพราะต้องการ ดูรายได้ เข้า- ออก ของเรา ว่าเรามีรายได้ ที่หักค่าใช้จ่ายแล้ว สามารถที่จะได้มีเงินมาจ่ายดอกเบี้ยได้หรือเปล่า แบงค์ต้องการดอกเบี้ย มากกว่าการยึดทรัพย์สินที่ใช้ค้ำประกัน       ดังนั้น ถ้าจะกู้จึงควรแจ้งว่าทำธุรกิจส่วนตัว (ในเคสของ จ.ข.ก.ท ส่วนใหญ่จะ แจ้งว่า ทำธุรกิจขายสินค้าออนไลน์  หรือค้าส่งแบบไม่มีหน้าร้าน แล้วใช้ เสตทเมนต์ ที่มีเงินเข้าออกจากการซื้อขายหุ้น แสดง  ก็จะกู้ผ่านสบายๆ เพราะเงินซื้อขายหุ้นเข้าออก ตัวเลขสวยอยู่แล้ว  )    ป,ล สลากออมสิน(รวมถึงพันธบัตรรัฐบาล) ถ้าเรานำมาใช้ค้ำประกันเงินกู้ จะมีเจ้าหน้าที่ของทางแบงค์เป็นตัวแทนไปกับเรา (ณ.แบงค์ที่เราซื้อสลาก) เพื่อทำเซนต์เอกสาร ว่าเราใช้สลาก (พันธบัตร) เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้ ดอกเบี้ยสลาก (พันธบัตร) ที่ได้ระหว่างการกุ้ จะ โอนเข้าบัญชีเราเหมือนเดิม แบงค์ที่เรากู้ไม่มีสิทธ์ในดอกเบี้ย  เพียงแต่ ตัวสลาก แบงค์จะเก็บเอาไว้เป็นหลักประกัน โดยมีการสลักหลัง ว่าเราใช้เป็นหลักประกันการกู้    เมื่อครบดิว(ในที่นี้ 3 ปี)  แบงค์จะให้เจ้าหน้าที่ไปกับเราทำการไถ่ถอน และเราสามารถซื้อสลากรอบใหม่แล้วทำการ สลักหลังค้ำประกันต่อได้  หรืออาจไถ่ถอน กรณีหนี้สินเราลดลง  เราสามารถคุยกับทางแบงค์ได้   .....  ***** เมื่อ ชำระเงินกู้ (ผ่อนบ้านหมด) กับทางแบงค์หมด ทางแบงค์จะให้เอกสาร เราไปทำเรื่องไถ่ถอน หลักทรัพย์ สลากออมสิน(พันธบัตร) ที่ใช้ค้ำประกัน  เอาสลาก (พันธบัตร) กลับมาเป็นของเราเหมือนเดิม ****** แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 55 14:04:21 จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 13:52:53

ความคิดเห็นที่ 20 ขออนุญาตแนะนำ จ.ข.ก.ท ใช้เงินสด ซื้อบ้าน .....ประหยัดดอกเบี้ย แล้วเอาบ้านพร้อมที่ดิน ....ที่ซื้อใหม่ ทำเรื่อง กู้ แบบ โอดี (ใช้ก็เสียดอกเบี้ย ไม่ใช้ ก็ไม่เสียดอก เอาไว้เล่นหุ้น ถ้าเล่นแบบ ซื้อมาขายไป แต่ถ้าเล่นแบบลงทุน ก็ไม่แนะนำ เพราะดอกเบี้ย โอดี สุง ) ป,ล ถ้าซื้อแบบลงทุน ก็แนะนำ แบบแรก เก็บเงินไว้ช้อนซื้อตอนหุ้นตก เพราะทำแบบนั้นเหมือนกัน ตอนนี้พักเงินไว้ใน ออมทรัพย์  3 % หรืออาจใช้แบบ ผสมผสาน ใช้เงินสดครึ่งหนึ่ง กู้ครึ่ง .....เดินทางสายกลาง  เสียดอกน้อย  ช่วงไหนกำไรหุ้นมาก ก็โปะจ่ายแบงค์ให้หมด ...... ...........ขอให้โชคดี ได้บ้านที่มีบริเวณปลูกต้นไม้สมใจ กำลังคิดจะสร้างบ้านอีกหลังเหมือนกันค่ะ อยู่ระหว่างการตัดสินใจเลือกแบบ  มีที่ดินล้อมรั้ว แล้ว  มีโรงเรือนกล้วยไม้แล้ว แต่ขาดคนไปอยู่ด้วย    ......... จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 14:14:13

ความคิดเห็นที่ 21 เปิดมาจิ้นเพิ่ม.  จบ  แล้วเอาเงินไปชื้อบ้าน จากคุณ : aladin34 เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 14:39:24

ความคิดเห็นที่ 22 คุณ panmai ครับ ในส่วนของสลากออมสิน ถ้าหากหลักเกณฑ์ของการค้ำประกันเป็นลักษณะนั้นคือให้ใช้ค้ำประกันต่อไปได้เรื่อยๆ ถ้าผมจะกู้เงิน 4 ล้าน แล้วใช้สลากค้ำ 5 ล้าน แบบนี้แบงก์ ไม่น่าจะคิดมากเลยเนอะ เพราะความเสี่ยงที่จะสูญเงินแทบไม่มีเลย ยกเว้นออมสินจะเจ๊ง สลากถึงจะสูญค่าไป ในส่วนการลงทุนผมเน้นลงทุนระยะยาวครับ ไม่ถนัดในการเก็งกำไรเลยครับ ขอบคุณมากๆ ครับ จากคุณ : รูปเงาะเดินสบาย เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 14:45:04

ความคิดเห็นที่ 23 คห. 21 คุณ aladin34 มาร์จิ้น ผมไม่กล้าใช้อ่ะครับ ผมลงทุนในตลาดทุนมา 9 ปี ไม่เคยใช้มาร์จิ้นเลยครับ ผมว่ามันเสี่ยงเกินไปครับ จากคุณ : รูปเงาะเดินสบาย เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 14:52:13

ความคิดเห็นที่ 24 1......ใช้สลากออมสินประกอบยื่นโชว์ (อาจไม่ต้องใช้ค้ำด้วยซ้ำ เพราะบ้านที่เราผ่อน ก็เป็นหลักทรัพย์ค้ำตัวมันเองอยู่แล้ว )   2 ....เสตทเม้นต์ เดินบัญชีสวยๆ อย่างน้อยสัก 6 เดือน  เขาจะคิดเป็นเปอร์เซนต์ ว่า ยอดหมุนเวียน ต่อการกู้ เ่ท่าไหร่ (น่าจะประมาณ 10เท่า ) หมายถึงเงินเข้าแล้วแช่สักสองสามวัน เป็นอย่างน้อย  แล้วค่อยออก ให้มียอดเข้าออกบ่อยๆ หรือแช่นานๆหน่อยยิ่งดี ไม่ใช่เข้าแล้วออกเลยเพื่อทำยอดก็ไม่ได้ 3 ....ทะเบียนการค้า ยิ่งนานยิ่งดี ของเราทำเรื่องใช้ทะเบียนการค้า ของแม่ ...บอกว่าสืบทอดธุรกิจ   จริงๆ พนักงานแบงค์เขาดูชื่อเสียงของคน  และการหมุนเวียนเงินในบัญชีเป็นหลัก   ถ้าเป็นคนประวัติดี ยิ่งถ้าเคยเป็นลูกค้าแบงค์ ทุกอย่างก็ง่าย    แต่อย่างอื่นเขาก็ทำตามขั้นตอนที่ทางธนาคารระบุมา พอเป็นพิธี ป,ล ของเรา พนักงานแบงค์ก็รู้ว่า ช่วงหลัง ลงทุนในหุ้นอย่างเดียว (แต่มีรายได้อย่างอื่นด้วย)   อาศัยเคยทำธุรกิจ   ประวัติ ชื่อเสียงเดิมของตัวเองและครอบครัว รุ่นคุณพ่อ คุณแม่ดีเลย  ติดต่ออะไร ง่ายไปหมด แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 55 19:16:17 จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 15:19:37

ความคิดเห็นที่ 25 อย่างผมจะกู้เงินเพื่อซื้อบ้านสัก 4 ล้าน ได้ไหมครับ ดาวสัก 1 ล้าน ได้ครับง่ายด้วย ที่ดิน ตจว.                                4 ล้านบาท แค่คุณเปลี่ยนจากที่ดิน ต่างจังหวัด 4 ล้าน มาเป็นบ้านเดียวในเมือง ราคา 4 ล้าน ไม่ต้องดาว ไม่ต้องเสียดอก มูลค่า การลงทุน ยังคงอยู่เช่นเดิม แล้วเอาเงิน ที่คิดจะผ่อนบ้าน เก็บไว้ เอาไปซื้อที่ต่าง จังหวัดแทน จากคุณ : กระดุมพี เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 00:23:22

ความคิดเห็นที่ 26 คห.25 คุณ กระดุมพี ขอบคุณครับ เป็นแนวทางที่ดีมากๆ เลยครับ แต่บังเอิญว่าที่ดินแปลงนั้นเป็นที่รับโอนมาจากคุณแม่ ซึ่งท่านไม่เห็นด้วยที่จะให้ขาย ก็ตามสไตล์คนหัวเก่านะครับ ผมก็เข้าใจท่านเลยเสียดายทางเลือกนี้เหมือนกันครับ จากคุณ : รูปเงาะเดินสบาย เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 06:21:06

ความคิดเห็นที่ 27 ^ ^ เชื่อผม คุณอยู่บ้านเดี่ยวคนเดียว มีเปอร์เซ็นต์ที่คุณจะไม่ชอบสูงมาก เอาอย่างนี้ ลองไปเช่า L&H บ้านเดี่ยวอยู่ก่อน 6 เดือน - 1 ปี ค่าเช่า 2-3 หมื่น ต่อเดือน ครบกำหนด กลับมาตั้งกระทู้ใหม่อีกครัง จากคุณ : ---------------- เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 12:48:30 A:203.185.134.4 X: TicketID:275893

ความคิดเห็นที่ 28 ^ ^ ค่อนข้างแน่ใจครับ ว่ารักการอยู่บ้านเดี่ยว แต่คอนโด ผมก็ชอบนะ แต่ต้องตัดใจเรื่องปลูกต้นไม้ไปเลย จริงๆ คือมีอีกประเด็นที่ผมไม่ได้เล่าเพราะคิดว่าคนไทยเสพดราม่ากันพอแล้ว คือผมต้องการให้มีพื้นที่รอบบ้านให้คุณแม่ได้เดินออกกำลังกายด้วยครับ ท่านอายุเยอะแล้ว และข้อเข่าเสื่อม ไม่กล้าให้ไปเดินออกกำลังกายข้างถนน กลัวรถจะเฉี่ยว กลัวพื้นไม่สม่ำเสมอ เกรงจะล้มครับ ทุกวันนี้ให้ท่านเดินอยู่ในทาวเฮาส์อ่ะครับ ยังไงก็ขอบคุณนะครับสำหรับคำแนะนำ จากคุณ : รูปเงาะเดินสบาย เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 13:55:45

ความคิดเห็นที่ 29 เอาข้อมูลที่คุณมีอยู่ทั้งหมดไปปรึกษา จนท แบงก์ที่คุณจะกู้ดีกว่านะคะ น่าจะได้คำตอบดีกว่าค่ะ ไปหลายๆๆแบงก์นะคะ แนะนำออมสิน ก่อนค่ะ เพราะคุณมีสลากออมสินอยู่ ลองไปคุยกับคุณพนิตา ออมสิน ราชวัตรดูนะคะ เผื่อจะให้คำปรึกษาได้ค่ะ จากคุณ : Bit_Bloom เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 14:41:19

ความคิดเห็นที่ 30 รายได้ 41500 กู้ 3 ล้านน่าจะยากอยู่นะคะ จากคุณ : Bit_Bloom เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 14:43:21

ความคิดเห็นที่ 31 ซื้อเงินสดดีกว่าไหมครับ ถ้าเงินที่มีไม่ได้เอาไปเล่นหุ้นลงทุน แต่ดันเอาไปฝากประจำกับสลากออมสิน เหมือนอยู่ๆก็จ่ายส่วนต่างให้แบงค์เล่นๆงั้นแหละ 2% จากคุณ : Tamจัง เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 22:16:33

ความคิดเห็นที่ 32 คห.31 คุณ Tamจัง มันเป็นเรื่องของการวางแผนรบหน่ะครับ คิดซะว่าสลากออมสินเป็นที่พักเงิน หรือเป็นทหารกองหลังแล้วกันนะครับ ถ้าทหารกองหน้าเจ็บหนัก ก็ยังมีกองหลังออกมารบแทนอ่ะ จริงๆ ก็ทำใจลำบากเหมือนกันครับ 50% ของพอร์ตเลย แต่เนื่องจากชีวิตผมไม่ได้ต้องการความร่ำรวยมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ผมต้องการความมั่นคง จึงต้องวางแผนการรบแบบนี้ครับ จากคุณ : รูปเงาะเดินสบาย เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 08:27:27

ความคิดเห็นที่ 33 คห. 29 คุณ Bit_Bloom ขอบคุณครับที่กรุณาแนะนำ จนท.ออมสิน ที่ราชวัตรให้ แต่ว่าผมอยู่ ตจว.อ่ะครับ จากคุณ : รูปเงาะเดินสบาย เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 08:29:26

ความคิดเห็นที่ 34 เป็นความคิดที่ดีค่ะที่ต้องการพื้นที่ให้คุณแม่ไว้เดินออกกำลัง คุณพ่อเราชอบไปเดินออกกำลังตอนเช้า วันดีคืนดีโดนมอเตอร์ไซค์เฉี่ยวล้ม ลงศีรษะกระแทกพื้น เข้าๆออกๆ ICU ได้ 3 เดือนก็เสียค่ะ เพิ่งไม่กี่เดือนนี้เอง คิดถึงท่านมากเลย T T จากคุณ : MY DOG CAN FLY เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 11:10:13

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณครับคุณ MY DOG CAN FLY เสียใจด้วยนะครับ เข้มแข็งนะครับ :) จากคุณ : รูปเงาะเดินสบาย เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 18:22:05

ความคิดเห็นที่ 36 คือถ้ามันต้องไปวางเป็นหลักประกันแล้ว มันก็เอาออกมาใช้ไม่ได้แล้ว อยู่ดีไม่ใช่หรอครับ สู้เป็นเงินสดไปเลยดีกว่า จากคุณ : Tamจัง เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 55 22:59:42

ความคิดเห็นที่ 37 ตอบ คุณ Tamจัง ครับ ถ้าเอาเข้าไปวางเป็นหลักประกันก็หมดสิทธิ์เอามาใช้ครับ ผมก็อยากให้เป็นกรณีของการใช้ที่ดินเป็นสินทรัพย์ค้ำประกันมากกว่า หรืออาจเป็นไปอย่างกรณี คห.24 ว่าไว้ว่าอาจแค่ยื่นประกอบการพิจารณา แต่ไม่ได้ใช้ค้ำประกันครับ ขอบคุณทุกๆ ท่านมากนะครับ กิฟขอแปะโป้งไว้ก่อน เดี๋ยวต้นเดือนจะมาแจกครับผม จากคุณ : รูปเงาะเดินสบาย เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 07:57:15

ความคิดเห็นที่ 38 ผมว่าใช้สเตจเม้นกู้แค่ 1 ล้านกว่าๆ น่าจะผ่าน หรือไม่ผ่านก็ใช้สลากค้ำกับ ธ.ออมสินเลย จะได้ฟังรายละเอียดด้วย แล้วก็นำเงินไปปลูกบ้านที่ดินของตัวเองเลยครับ ได้บ้านเดี่ยวราคาถูกด้วย มีพื้นที่ปลูกต้นไม้ทำการเกษตรอื่นๆ ได้อีก เผลอๆ ใช้ที่ดินคุณแม่ให้เกิดประโยชน์แล้วให้แม่ไปอยู่ด้วยน่าจะมีความสุขนะ จากคุณ : pusiwat243 เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 23:40:31 A:171.7.22.197 X: TicketID:382314