ความคิดเห็นที่ 1 ทำเองจะไหวใหม เพราะบ้านชั้นเดียวเท่านั้น ชวนเพื่อนมาช่วยก็ดี เย็นก็เลี้ยงสังสรรค์กัน ผมยังเคยช่วยเพื่อนบ้านทาสีบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้สองชั้น ทำเสาร์อาทิตย์ เพลินดี จากคุณ : KittySP เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 19:19:12

ความคิดเห็นที่ 2 อยู่เชียงใหม่เหมือนกันทาสีบ้านปูน ชั้นเดียว 10,000บาท เองจ้า จากคุณ : ป้านิด (Luktaharn) เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 19:41:25

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้า่างทำเองได้ครับ. ตั้งแต่นี้ต่อไปงานทำบ้านซ่อมบ้านเล็กๆน้อยๆต่อไปนับวันจะหาคนทำยากขึ้นเรื่อยๆที่มีก็แพง. ต่อไปต้องทำกันเองครับเหมือนแถบยุโรปครับ. ทำงัยได้หละดันมุ่งกันที่ปริญญากันหมดนี่ แก้ไขเมื่อ 06 พ.ย. 55 19:56:26 จากคุณ : นายช่างเฒ่า เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 19:54:38

ความคิดเห็นที่ 4 ผมทำงานอยู่อีกจังหวัดครับเลยทำเองไม่ได้ กำลังจะขายบ้านเลยอยากปรับปรุงก่อนขายครับ คคห.2 ถ้ามีเบอร์ช่างรบกวนหลังไมค์ได้ไหมครับ จากคุณ : younggun เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 19:59:25

ความคิดเห็นที่ 5 จากขนาดบ้านชั้นเดียวที่ให้มา พื้นที่ทาสีผนังไม่น่าเกิน 100 ตรม. และหากมีงานฝ้าชายคาก็เพิ่มอีกไม่เกิน 40 ตรม., ที่ว่าหากช่างตีราคาเฉพาะค่าแรง 15,000 บาท แพงหรือเปล่า? ก่อนอื่นควรทำเข้าใจกับช่างก่อนว่า มีกรรมวิธีการทำงานมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง? เพราะการซ่อมแซมสีอาคารเก่า คุณภาพช่างจะมีความสำคัญมากกว่าคุณภาพสีเสียอีก (60/40) ซึ่งหากเป็นอาคารใหม่จะสำคัญใกล้เคียงกัน (50/50) การเตรียมพื้นผิวก่อนทำงาน เป็นประเด็นสำคัญ โดยคุณอาจจะศึกษาจากปกหลัง Catalogue ผลิตภัณฑ์ที่คุณจะเลือกใช้ก็ได้, แต่ด้วยพื้นที่ใน Catalogue มีจำกัด จึงมักเขียนแนะนำอย่างย่อๆ(มาก) / หากต้องการละเอียดขึ้นเดี๋ยวจะ Post ให้ลำดับต่อไป สิ่งที่ควรกำหนดให้ละเอียด อาทิ การขัดล้าง/ฉีดล้าง, โป๊วรอยร้าว, วิธีกำจัดคราบตะไคร่/เชื้อรา เป็นต้น สำหรับอาคารเก่าหลายๆปีเช่นของคุณ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทารองพื้น "น้ำยารองพื้นปูนทับสีเก่า" อย่างน้อย 1 ครั้ง ทิ้งไว้อย่างน้อยุ 8 ชม. แล้วค่อยทาทับหน้าด้วย "สีอะครีลิคภายนอก" อีกอย่างน้อย 2 ครั้ง ซึ่งตัวสีมีให้เลือกซื้อ/เลือกใช้ หลากหลายยี่ห้อ ตามงบประมาณ/ตามยี่ห้อที่ชอบ ใคร่ขอแนะนำบางย่ห้อ/บางรุ่นไว้คร่าวๆ ดังนี้ เกรดคุณภาพพิเศษ (Premium Grade) ICI : สีรองพื้น : ดูลักซ์ มาซีล น้ำยารองพื้นทับสีเก่า สีทับหน้า : ดูลักซ์ เวเธ่อร์ชิล์ด อัลติม่า Jotun : สีรองพื้น : สีรองพื้นปูนเก่า ซีโต้ ไพร์เมอร์ 09 สีทับหน้า : โจตาชิลด์ Captain : สีรองพื้น : น้ำยาปรับสภาพผิวปูนเก่า กัปตัน รีเพ้นท์ ไพร์เมอร์ ทรีทเม้นท์ สีทับหน้า : กัปตัน รีเพ้นท์ ไตรชิลด์ TOA : สีรองพื้น : น้ำยารองพื้นปูนทับสีเก่า E1100 สทับหน้า : ซุปเปอร์ชิลด์ ไตตาเนียม ในเกรดนี้ : สีรองพื้นราคาประมาณ 450-500 บาท/กล. หรือประมาณ 2,000-2,400 บาท, สีทับหน้าประมาณ 2,700-3,000 บาท/ถัง เกรดคุณภาพสูง (High Quality Grade) ICI : สีรองพื้น : ดูลักซ์ มาซีล น้ำยารองพื้นทับสีเก่า สีทับหน้า : ดูลักซ์ อินสปาย ชนิดภายนอก Jotun : สีรองพื้น : สีรองพื้นปูนเก่า ซีโต้ ไพร์เมอร์ 09 สีทับหน้า : สีโจตาทัฟ ไฮชิลด์ Captain : สีรองพื้น : น้ำยารองพื้นปูนทับสีเก่า กัปตัน สีทับหน้า : กัปตัน ชิล์ดพลัส ภายนอก TOA : สีรองพื้น : น้ำยารองพื้นปูนทับสีเก่า E1100 สทับหน้า : ชิลด์วัน ภายนอก ในเกรดนี้ : สีรองพื้นราคาประมาณ 450-500 บาท/กล. หรือประมาณ 2,000-2,400 บาท, สีทับหน้าประมาณ 2,000-2,500 บาท/ถัง จากคุณ : siriwatch@captaincoating.com เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 21:13:22 A:124.122.247.53 X: TicketID:369622

ความคิดเห็นที่ 6 ส่วนวิธีการทำงาน/การเตรียมพื้นผิว มีรายละเอียดดังนี้ การเตรียมพื้นผิว ปูน-คอนกรีต - กรณีที่ฟิล์มสีเสียหายมาก ( หลุดล่อน / ปริบวม / ร่วนเป็นฝุ่น ) ให้ทำการขูดลอกฟิล์มสีออก โดยใช้เกรียงเหล็ก บริเวณใดที่มีรอยแตกร้าวขนาดใหญ่ หรือปูนฉาบไม่ยึดติดกับผนังก่อภายใน ให้สกัดผิวปูนบริเวณนั้นออกและทำการฉาบแต่งใหม่ให้กลมกลืนกับบริเวณรอบๆ, ส่วนรอยแตกร้าวขนาดเล็ก ( ขนาดไม่เกิน 2 มม.) และการยึดเกาะของปูนฉาบยังอยู่สภาพดี ให้อุดโป้วด้วยวัสดุประเภท Acrylic Filler ( ห้ามใช้ผงยิบซั่ม หรือดินสอพอง ) โดยใช้ยี่ห้อเดียวกับสีที่จะใช้ แล้วขัดผิวให้เรียบกลมกลืนกับบริเวณรอบๆ ( หากรอยแตกร้าวมีความกว้างมากกว่า 1 มม. แนะนำให้อุดโป้วด้วยวัสดุประเภท Acrylic Sealant หรือ Polyurethane Elastomeric Sealant อาทิ Sika หรือ NP1 ) - ขัดล้างพื้นผิวทั้งหมดด้วยน้ำสะอาด พร้อมแปรงขนแข็ง ( ห้ามใช้แปรงขนโลหะ ) หรือใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง / High Pressure Cleaner ( ความดันไม่น้อยกว่า 120 บาร์ ) เพื่อขจัดคราบเขม่า / ฝุ่นผง / และฝุ่นสีเดิม ทิ้งไว้ให้แห้งอย่างน้อย 24 ชม. ( กรณีที่ไม่สามารถใช้น้ำขัดถู / ฉีดล้าง ให้เลือกใช้การเช็ดถูด้วยผ้าชุบน้ำสะอาดหมาดๆ เช็ดถูแทนหลายๆครั้ง จนมั่นใจว่าฟิล์มสีเดิมไม่หลุดล่อนออกมา และคราบฝุ่นสีหมดไปแล้ว ) - ผนังส่วนที่มีคราบเชื้อรา ให้กำจัดออกให้หมด ( มิฉะนั้นจะเกิดขึ้นอีกในบริเวณเดิม ) หลังจากการขัดล้างผนังแล้ว ให้ทาน้ำยากำจัดเชื้อรา (ใช้ยี่ห้อเดียวกับสีที่จะใช้)ง จากนั้นทิ้งไว้ให้แห้งอย่างน้อย 24 ชม. จากนั้นค่อยทาน้ำยารองพื้นปูนทับสีเก่าต่อไป การเตรียมพื้นผิวโลหะเหล็ก - กรณีฟิล์มสีมีความเสียหายมาก ( ผิวด้าน / ปริล่อน / ร่วนเป็นฝุ่น ) ให้ลอกสีเดิมออกให้หมด โดยใช้น้ำยาลอกสี ( Paint Remover ) และล้างคราบน้ำยาลอกสีออกด้วยน้ำมันก๊าด หรือ น้ำมันผสมสีเคลือบ กัปตัน แล้วจึงขัดผิวด้วยกระดาษทรายอีกครั้งจนผิวเรียบร้อย จึงเริ่มทาสีรองพื้นต่อไป ( ไม่ควรปล่อยให้โลหะเหล็กที่ทำความสะอาดแล้วสัมผัสกับอากาศ / ความชื้นนาน ควรทาสีรองพื้นทันทีที่เตรียมพื้นผิวเสร็จ ) - กรณีที่ฟิล์มสีเสียหายไม่มาก หรือมีคราบสนิมขึ้นบางจุด ให้ขจัดคราบสนิมและฟิล์มสีบริเวณนั้นออก โดยใช้กระดาษทราย หรือเครื่องขัดจนถึงผิวเหล็ก แล้วทาสีรองพื้นกันสนิมบริเวณนั้นทันที, ส่วนบริเวณที่ฟิล์มสีเดิมอยู่สภาพดี ให้ขัดลูบด้วยกระดาษทรายให้ฟิล์มมีความหยาบ แล้วสามารถทาสีน้ำมันซ่อมแซมได้เลย การเตรียมพื้นผิวไม้ - กรณีที่ฟิล์มสีมีความเสื่อมสภาพมาก ต้องขูด / ลอกสีโดยการขัดด้วยกระดาษทราย หรือใช้น้ำยาลอกสี ( หลังการลอกสี ให้แน่ใจว่าทำความสะอาดพื้นผิวไม้จนปราศจากคราบน้ำยาลอกสีแล้ว ), โดยหากส่วนใดมีรอยแตก ให้อุดโป้วด้วย สีโป้วประเภท วูด ฟิลเลอร์ แล้วขัดผิวให้เรียบกลมกลืนกับบริเวณรอบๆ - กรณีที่ฟิล์มสีเดิมค่อนข้างดี ให้ขัดเบาๆ หรือลูบด้วยกระดาษทรายละเอียด ให้ฟิล์มมีความหยาบ แล้วจึงทำความสะอาดให้ปราศจากคราบไข ฝุ่น น้ามันหรือสิ่งแปลกปลอมใดๆ แล้วสามารถทาสีน้ำมันซ่อมแซมได้เลย ลองทำความเข้าใจกับช่างสีคุณ ในวิธีการข้างต้นนะครับ ส่วนปริมาณสีที่จะใช้ ทาง จขกท.ควรคำนวณพื้นที่ที่จะทาสีให้ได้คร่าวๆก่อน, แล้วมาคำนวณโดยใช้หลักดังนี้ ปริมาณสีรองพื้น(ขนาด กล.) = พื้นที่ หารด้วย 30 ปริมาณสีทับหน้า(ขนาด กล.) = พื้นที่ หารด้วย 30 คูณ 2 หรือ(ขนาดถัง) = พื้นที่ หารด้วย 150 คูณ 2 จากคุณ : siriwatch@captaincoating.com เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 21:21:46 A:124.122.247.53 X: TicketID:369622

ความคิดเห็นที่ 7 ส่วนที่ว่า 15,000 บาท แพงไหม? ควรจัดหาช่างมาตีราคาอย่างน้อย 2 ราย, แต่คุณควรแจ้ง Scope งานและตกลงวิธีการทำงานให้เหมือนๆกันและชัดเจน ช่าง : น่าจะหาช่างสีโดยเฉพาะ เพราะน่าจะได้คุณภาพงานดีกว่าช่างจำพวกที่ทำสารพัดอย่าง(ปูกระเบื้อง/ต่อเติม/ไฟฟ้า/ประปา) วิธีหาช่างสี : สอบถามจากคนใกล้ตัวก่อน (ญาติ/เพื่อนบ้าน/เพื่อนที่ทำงาน/เพื่อนเก่า) หรือถามหาจากร้านสี(ที่คุณตั้งใจจะไปซื้อสี) อันนี้น่าจะได้การกลั่นกรองจากร้านระดับหนึ่งอยู่แล้ว เพราะร้านสีก็ต้องสร้างเครดิตให้ตนเองเหมือนกัน ไม่แนะนำหาช่างจากป้ายตามเสาไฟฟ้า หรือใบปลิวตามตู้โทรศัพท์ครับ (โอกาสที่จะได้ช่างมีคุณภาพน้อยครับ) เมื่อได้ช่างสีที่คาดหวังซัก 1-2 ราย ก็ขอดูผลงานที่เพิ่งแล้วเสร็จ เพื่อจะได้ไปดูประกอบการพิจารณา (โดยหากได้มีโอกาสพูดคุยกับเจ้าของบ้านนั้นๆด้วยก็ยิ่งดี), ช่างที่มีคุณภาพ ส่วนใหญ่ยินดีที่จะแจ้งผลงานให้ทราบหลายๆแห่ง และยินดีให้รายละเอียดนายจ้างให้ทราบด้วย, แต่หากช่างสีใดอิดๆเอื้อนๆเรื่องผลงาน อันนี้แย่ละครับ จากคุณ : siriwatch@captaincoating.com เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 21:24:39 A:124.122.247.53 X: TicketID:369622

ความคิดเห็นที่ 8 ชัดเจน จากคุณ : น้าโต๋ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 10:30:37

ความคิดเห็นที่ 9 มืออาชีพมาเอง ขอชื่นชมคุณsiriwatch@captaincoating.com เป็นอย่างมาก เพราะมีปัญหาเรื่องสีส่วนใหญ่จะเข้ามาตอบทุกกระทู้เลย เห็นตั้งแต่อยู่กับสีอีกยี่ห้อหนึ่งแล้วจมาถึงอีกยี่ห้อหนึ่ง ขอบคุณที่แนะนำครับ จากคุณ : speedbird เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 14:06:12