ความคิดเห็นที่ 1 หดหู่มากค่ะ ขอให้คลี่คลายได้นะคะ จากคุณ : WeennieTheGooh เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 14:02:35

ความคิดเห็นที่ 2 โอวว ยายคนนี้ไม่เบาเลยครับ จัดหนักให้แกซะหน่อยซิครับ จากคุณ : Aek (Aek Aiem) เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 14:08:16

ความคิดเห็นที่ 3 ปรึกษาทนาย เอาตำรวจเข้าไปเคลียครับ อย่าลืมถ่าย รูปบ้านไว้ทุกซอก ทุกมุมครับ และ บอกเขาว่าถ้าทำสิ่งของภายในบ้านเสียหาย จะดำเนินคดีตามกฏหมาย ไม่มีการยอมความ จากคุณ : alpha_sss เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 14:11:11

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่น่าเสียที ตั้งแต่วางเงินมัดจำไป 500,000 บาทเลยค่ะ - เรื่องทะเบียนบ้าน เค้าไม่ให้ไม่เป็นไร ไปแจ้งหายแล้วนำสัญญาซื้อขายที่กรมที่ดินไปทำใหม่ที่เขตก็ได้ค่ะ แล้วก็คัดชื่อคนอยู่เดิมออกให้หมด - มิเตอร์น้ำ, ไฟ เอาสัญญาซื้อขายไปแจ้งหายที่ประปาและไฟฟ้าเพื่อเปลี่ยนชื่อใหม่ค่ะ - ส่วนเรื่องไม่ให้เข้าบ้าน แนะนำให้แจ้งความ ข้อหาบุกรุกไปเลยค่ะ ถ้าทำแบบนี้ก็ไม่ต้องเกรงใจกันแล้ว ใช้ไม้แข็งไปเลยค่ะ จากคุณ : Ms.Kyo เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 14:12:26

ความคิดเห็นที่ 5 ทะเบียนบ้านเรื่องเล็ก ยังไงก็ควรไปทำใหม่อยู่ดี เพราะจะได้ไม่มีชื่อ เจ้าของเก่า มีแต่ชื่อเราเป็นเจ้าบ้าน จากคุณ : oyho เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 14:14:01 A:110.168.2.70 X: TicketID:382313

ความคิดเห็นที่ 6 ขอให้ผ่านพ้นไปด้วยดีนะคะ แต่ถ้าครบตามสัญญาแล้วไม่ยอมย้าย คงต้องให้ตำรวจมาเชิญออกค่ะ ถ้าเจอตำรวจใจดีก็จัดการให้ไม่มีค่าใช้จ่าย ถ้าเจอตำรวจที่ดูยุ่งๆไม่มีเวลา ก็คงต้องมีค่าเสียเวลาให้นิดหน่อย ถ้ายังไม่ไปก็แจ้งความข้อหาบุกรุก เพราะบ้านเราชื่อเรา แนะนำควรมีเพื่อนไปด้วยนะคะ จะได้มีพยานบุคคล แล้วก็กล้องเอาไว้ถ่ายคลิปเหตุการณ์ จากคำบอกเล่า ดูเหมือนจะไม่จบง่ายๆ แต่อย่าให้ถึงกับต้องฟ้องขับไล่เลย ค่าใช้จ่ายทางศาลประมาณหลักพัน จะมีหมายมาติดหน้าบ้าน ถ้าไม่ย้ายก็โดนจำคุกประมาณเดือนกว่า โชคดีนะคะ (ปวดหัวแทน) จากคุณ : พุดซ้อน เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 14:22:48

ความคิดเห็นที่ 7 จขกท. ถูกอยู่แล้วอย่าไปยอมค่ะ   ต้องใช้ไม้แข็งไปเลยค่ะ   แจ้งความเลย บ้านก็เป็นของเราแล้ว   รู้จักกับใครไม่เกี่ยว แต่บ้านนี้เป็นของเราแล้ว เรามีสิทธิเต็มที่ จากคุณ : พาไล เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 14:38:19

ความคิดเห็นที่ 8 อ่านหัวข้อกระทู้แว่บแรก นึกว่าเรื่องผี ^^" จากคุณ : nungying เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 14:42:14

ความคิดเห็นที่ 9 ก็ทนายที่พี่จ้างเขาร่างสัญญา ได้ลองโทรไปปรึกษาเขาไหมครับ หาคนกลางเข้ามาเป็นพยาน รับรู้บ้างก็ดีนะพี่ พี่ไม่กลัวมันเผาบ้านพี่ทิ้งหรือ จากคุณ : ลองดู เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 14:50:18 A:27.55.0.146 X: TicketID:008482

ความคิดเห็นที่ 10 ตอนแรกเข้ากระทู้ นึกว่าวิญญาณ เจ้าของเก่ามาหลอกหลอน ที่ไหนได้ นี่ยังไม่ตายแต่หลอกแสบสรรค์ มาก มันตั้งใจหลอกตั้งแต่แรกแล้ว (ขออภัยสุภาพชน ที่เรียก มัน)  ไหนๆ ก็สู้แล้วแจ้งความเอาเต็มที่ไปเลยครับ   ให้ทนายคิดให้ละเอียดเลยครับค่าเสียหาย จากคุณ : เม่าปีกหลุด เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 14:50:33

ความคิดเห็นที่ 11 ผมเข้ามาอ่านกระทู้ ของ จขกท  แล้ว               ความจริง  เรื่องไม่น่าจะมีปัญหา ใหญ่ อย่างนี้  เลยนะครับ    สาเหตุใหญ่ มันเกิดจาก จขกท  ไม่ทำให้คนขายบ้าน เขาไว้เนื้อเชื่อใจ เอง ต่างหาก               เพียงแค่ วางเงิน 5,000 บาท แล้วจะทำสัญญาจะซื้อจะขายเลย  เจ้าของบ้าน  เขาก็กลัว ซิครับ               จขกท  จะกู้เงินซื้อบ้าน  ก็ควรจะ จัดการเรื่องกู้มันให้เรียบร้อยก่อน แล้วก็ค่อยแนะนำให้เจ้าของบ้าน เขาได้รู้จักกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร   พร้อมทั้งมอบเช็ค ให้เขาไป ตรวจสอบกับธนาคารก่อนก็ได้ ว่าเป็นเช็คจริงหรือเช็คปลอม  เพราะคนขาย เขาก็กลัวโดนโกงเหมือนกับ ที่คุณ กลัว นั่นแหละ             หลังจาก โอนเสร็จ  เขาขออนุญาต อยู่ต่ออีกสักพัก  จขกท  ก็น่าจะอนุโลม เขา  เพราะเรื่องย้ายบ้าน มัน ก็เป็นปัญหาใหญ่ นะครับ   หลังจากเขาอยู่จนครบเวลาแล้ว และส่งมอบบ้าน แล้ว  เราถึงจะเอาบ้านมาตกแต่งใหม่   ทุกอย่างมันก็น่าจะจบ แล้ว             แต่นี่ เรื่อง มันไม่จบ  เพราะ  จขกท  กลับจะย้ายของเข้าบ้านด้วยในขณะที่เขายังอาศัยอยู่   มันก็เป็นปัญหาซิครับ  เพราะเขาก็กลัวทรัพย์สินของเขาสูญหายได้   ใครจะรับผิดชอบ   แล้วถ้า ทรัพย์สินของ จขกท  ที่ขนย้ายเข้าไปในบ้าน เกิดสูญหาย ขึ้นมา    เจ้าของบ้านก็กลายเป็นขโมย หรือ            ลองไปคิดในแง่มุม ที่เป็นกลางหน่อย   จขกท เองนั่นแหละที่เป็นคนสร้างปัญหา ทั้งหมด  ทำให้การซื้อขายบ้านครั้งนี้ ไม่ราบรื่น           ส่วนทะเบียนบ้าน  ของเจ้าของบ้านเดิม  ก็ไม่ต้องไปเอาจากเขาซิครับ   จขกท ก็เอา หนังสือสัญญาซื้อขายบ้าน พร้อม โฉนด ที่ดิน ไปยื่นเรื่องทำทะเบียนบ้านฉบับใหม่ได้  ณ  ที่ ที่ว่าการเขตลาดพร้าว   ไม่จำเป็นต้องเอา ทะเบียนฉบับเดิมจากเจ้าของบ้าน      แล้ว จขกท  ยังจะไป จู้จี้ ให้เขาย้าย ทะเบียนบ้าน ทำไมล่ะครับ   ถ้าไม่เข้าใจกัน ก็มีปัญหา ซิครับ                       สรุปแล้ว  ที่มีปัญหา ก็เพราะต่างฝ่าย ต่างก็กลัวจะถูกโกง  และไม่ตกลงกันให้ดี ๆ           ถ้าอลุ้มอล่วยกันได้    บางที เจ้าของบ้าน เขาอาจจะให้ทรัพย์สินอื่นเพิ่มก็ได้ เช่นให้ แอร์เพิ่ม ให้ตู้เย็นเพิ่ม  หรือ อาจจะให้ส่วนลดค่าซื้อบ้าน ก็ได้ จากคุณ : รุ่งโรจน์ทวีคูณ (รุ่งโรจน์ทวีคูณ) เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 14:54:30

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าเป็นผม จะแกล้งทำดียอมให้มันอยู่ต่อทำแกล้งไม่ไปบอกให้ออก(คิดว่าคนแบบนี้มันต้องอยู่ต่อไปอยู่แล้ว)จากนั้นจะฟ้องขับไล่มันแม้วันเดียวก็ไม่ยอมเรียกค่าเสียหาย50สตางค์ อย่างเรียกให้ครบบาทเพราะพวกนี้มันไม่เต็มบาทจริงๆ จากคุณ : konansavto เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 14:58:23

ความคิดเห็นที่ 13 งงกับ #11 ได้เงินไป 5แสนแล้ว ยังกลัวโกงอะไรอีก  หนังสือสัญญาก็มี เคสซื้อบ้านแล้วเข้าอยู่ไม่ได้  เมื่อสัก 5-6เดือนที่แล้วก็มีขึ้นกระทู้แนะนำอยู่ ประมาณว่าธนาคารยึดขายทอดตลาด แต่เจ้าของเก่าไม่ยอมย้ายออก เจอแบบนี้ ปวดหัวแทนเลยครับ จากคุณ : Free Kick เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 15:12:05

ความคิดเห็นที่ 14 คห11 ครับ คุณอ่านที่ จขกจ ไม่ครบนะครับ ตามที่เจ้าบ้านเขาขออยู่ต่ออีกเดือนหนึ่ง และตกลงว่าจะย้ายออกวันที่25 จขกท เขาก็ตกลงให้อยู่ต่อได้อีกเดือน1 แต่เมื่อถึงเดือนตามที่ตกลงว่าเขาจะออกแล้วเขาไม่ออก จากคุณ : mepien3019 เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 15:20:48

ความคิดเห็นที่ 15 " เพียงแค่ วางเงิน 5,000 บาท แล้วจะทำสัญญาจะซื้อจะขายเลย  เจ้าของบ้าน  เขาก็กลัว ซิครับ "     กลัวทำมันแค่สัญญาจะซื้อจะขาย มันไม่ใช่สัญญาซื้อขายซะหน่อย  แล้วอีกอย่าง ไอ้สัญญานี่ ถ้าผู้จะซื้อผิดสัญญา ก็โดนลิบเงินเปล่า  ส่วนผู้ขายถ้าผิดสัญญาเขาจะมายึดบ้านไปได้เลยรึไงครับ     แล้วถ้าไปทำเอกสารอื่นเพื่อที่จะครอบครองบ้าน  มันเอกสารเท็จ ติดคุกนะครับ       คนซื้อบ้าน ไม่ได้บ้านมันเจ็บใจนะครับ  แล้วอ่านดู จขกท. เขาก็ละเอียด มีอธิบายทุกอย่าง ว่าเขาตกลงอะไรกันยังไง  คุณทำเป็นมองไม่เห็น หรือตั้งใจไม่เชื่อครับ        ชักสงสัยว่ารู้จักเจ้าของบ้านรึเปล่า จากคุณ : panupong_see เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 15:28:57

ความคิดเห็นที่ 16 เจอแบบนี้ปวดหัวครับ คงเกี่ยวกับเจ๊คนนี้ไม่มีความรู้เรื่องขายบ้าน โดนข้างบ้านพูดปั่นหัว ยิ่งกลัวไปใหญ่ และอีกอย่างเจ๊คนนี้ไม่ตรงไปตรงมา ได้เงินแล้วยังจะหัวหมออยู่อีก จากคุณ : ttttt เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 15:29:50 A:110.168.198.137 X: TicketID:312168

ความคิดเห็นที่ 17 ยายเจ๊นี่มีแววติดคุกนะเนี่ย จากคุณ : dansivilai เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 15:36:22

ความคิดเห็นที่ 18 คห11 'งงอะไรรึป่าว ให้เงินไปแล้วห้าแสเชี่ยวนะน จากคุณ : Cholesterol เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 15:37:01

ความคิดเห็นที่ 19 ตอบ คุณ ความเห็นที่ 13    คุณ Free Kick    และคุณ ความเห็นที่ 14  mepien  3019           คนขายบ้าน   เวลาขายบ้าน  เขา ประกาศขายไปเท่าไหร่  เป็นจำนวนเงินเท่าไร  เมื่อตกลงกันแล้ว   เขา ก็อยากได้เงินครบตามนั้น ก่อน จึงค่อยทำเรื่องโอนกัน           แต่ นี่  ได้เงินยังไม่ครบ  แล้ว จะให้ทำหนังสือสัญญาผูกมัดตัวเอง   เขาคงไม่ยอมหรอกนะครับ    ยิ่งถ้าคนขายเขาไม่ไว้ใจคนซื้อด้วย   ก็เป็นสิ่งที่คนซื้อ ต้องแสดงตน ด้วยความจริงใจ   ทำทุกวิถีทางให้เขาไว้ใจ   แล้วทุกอย่างจะได้ราบรื่น          ส่วนเรื่องบ้าน ที่ บอกว่า ถูกธนาคารขายทอดตลาดแล้ว  เจ้าของบ้านไม่ยอมย้ายออก   ก็เพราะคนอยู่ เขายังไม่พร้อมจะย้ายออก  กฏหมาย ก็ต้องอนุโลมให้เขาได้    และ ในกรณีส่วนนี้ ธนาคารเขาไม่รับผิดชอบ  ต้องปล่อยให้คนซื้อ มาตกลงกับคนอยู่เอง นะครับ             ส่วนคุณความคิดเห็นที่  14  คุณ mepien 3019           เรื่องที่จะให้เจ้ คนขายบ้าน ย้ายออก ตามวันเวลาที่ตกลงกันไว้นั้น   มันถูกต้องครับ   เพราะ เดิมที คนซื้อบ้าน อนุญาตให้ เจ้ เขาอยู่ต่อ อีก  หนึ่งเดือน  โดยไม่คิดค่าเช่า   แต่ เจ้ คนนั้น เดิมที พูดด้วยปากเปล่าว่า จะย้ายออก วันที่  25   แต่พอถึงเวลาจริง เขาอาจจะไม่ พร้อมย้ายออกวันนั้น ก็ได้  จะด้วยเหตุผล อะไร ก็แล้วแต่  เพราะเขาถึือว่าในสัญญากำหนดให้ย้าย ก่อนสิ้นเดือน   เขาก็ไม่ได้ผิดนะ    แต่เราไปเร่งให้เขาออกเอง  แล้ว ย้ายของมาเข้าบ้าน  โดยไม่ดูว่า เจ้  เขาพร้อมจะย้ายออก แล้วหรือยัง               ก็อย่างที่บอกแล้วว่า  ถ้า คนซื้อบ้าน อลุ้มอล่วย หรือ ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน   เข้าใจกันสักนิด ทุกอย่าง  มัน ก็ไม่น่าจะมีปัญหา นะครับ จากคุณ : รุ่งโรจน์ทวีคูณ (รุ่งโรจน์ทวีคูณ) เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 15:57:33

ความคิดเห็นที่ 20 เอ่อ....คนขายยักแม่ๆ จากคุณ : องค์ประกอบศิลป์ เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 15:59:10

ความคิดเห็นที่ 21 เป็นกำลังใจให้ จขกท ค่ะ หวังว่า้รื่องคงผ่านไปได้ด้วยดีนะ และก็ ยัยเจ๊นั่นน่าจะเป็นโรคจิตอ่อนๆรึป่าว หรือไม่ก็ยังหาที่อยู่ใหม่ไม่ได้ เลยต้องมาเล่นแง่แบบนี้ จากคุณ : แทยอน เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 16:00:06

ความคิดเห็นที่ 22 ความคิดเห็นที่ 11 อ่าน ความคิดเห็นที่ 1 ให้จบก่อนนะครับ จากคุณ : อ่องตวน เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 16:04:33

ความคิดเห็นที่ 23 ตอบคุณ ความคิดเห็นที่  15  panupong_see           ผมไม่ได้รู้จัก เจ้าของบ้าน  หรือ เจ้าของกระทู้ หรอกนะครับ             แต่ที่ผม อธิบาย เหตุผล เรื่องการซื้อบ้านมือสองให้อ่าน  เพราะอดีต  ผม ก็ซื้อบ้าน มือสอง มาก็หลายหลังแล้ว  ก็เจอเจ้าของคนขายแบบนี้ เหมือนกัน  แต่ เราต้องทำให้เขาไว้ใจให้ได้ก่อน ว่า เราจะไม่ใช่ พวก 18 มงกุฏ  ไม่ใช่พวกหลอกลวง   เงินทุกบาททุกสตางค์จะต้องให้เขาให้ครบ  ให้เขา ซึ่งเป็นคนขาย สบายใจก่อน แล้ว จึงค่อยทำเรื่องโอนกัน    ส่วนเรื่องจะให้เขาอยู่ต่อ   ส่วนมาก ผม จะให้เขาอยู่ต่อ ประมาณ 3 - 4  เดือน  โดยไม่คิดค่าเช่า    เมื่อถึงกำหนด ต้องย้ายออก โดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ   หาก ภายในบ้านมีอะไร เสียหาย  เขาต้องรับผิดชอบ            คนขายเขาก็อยู่ต่อ ไปได้แค่เดือน 2  เดือนเขาก็ย้ายออกแล้ว   แล้วหลังจากนั้น เราก็ค่อยเข้ามาตกแต่งต่อเติม ไปตามเรื่องตามราวครับ   ถ้าทำได้แบบนี้  ปัญหา มันก็จะไม่เกิดขึ้นครับ  และก็ไม่ต้องไปเสียเวลาจ้างทนาย ให้เสียเงินเล่น นะครับ จากคุณ : รุ่งโรจน์ทวีคูณ (รุ่งโรจน์ทวีคูณ) เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 16:18:13

ความคิดเห็นที่ 24 งง คห.11  จะกู้ธนาคารต้องใช้เอกสารจะซื้อจะขายด้วยนี่ครับ ไม่มีเอกสารจะขอกู้ได้หรอครับ ชื่อเอกสารมันก็บอกอยู่แล้วว่า "จะซื้อจะขาย" มันไม่ใช่สัญญาซื้อขายนะครับ จากคุณ : BETTERTHANWALKING เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 16:24:56

ความคิดเห็นที่ 25 "โดยเรายินยอมที่จะให้เขาอยู่ต่ออีกหนึ่งเดือน เพื่อเตรียมตัวย้ายเพราะเขาขอโดยคุยกันว่าระหว่างนั้นเราอาจขอเข้าไปปรับปรุงบ้านและเอาของ ของเราเข้าไปฝากได้ในบ้าน เขาก็พูดยินดียินยอม จึงทำสัญญาให้เขาสบายใจขึ้นมาอีกฉบับคือว่าให้อยู่อีกเดือน จนถึงสิ้นเดือนนี้ แต่เขาบอกว่า วันที่ 25 พี่ก็ออกแล้วล่ะในวันโอน พอไปโอนกันเสร็จสิ้น เขาก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนหลังจากได้เงินไปแล้ว" ^ ^ ตาม จขกท ว่ามา แสดงว่าโอนไปเรียบแล้ว แ่ต่เจ๊เค้าหัวหมอ ตั้งใจไม่ย้ายออกนะ คือเอาทั้งเงินเอาทั้งบ้าน จขกท อยากได้บ้าน ก้อไปฟ้องขับไล่เอาเอง จากคุณ : nat1234 เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 16:33:41

ความคิดเห็นที่ 26 เข้ามา งง คห.11 ด้วยคนค่ะ หนังสือสัญญาจะซื้อจะขายจำเป็นต้องใช้ในการประกอบการยื่นธนาคารค่ะ ถ้าไม่มีธนาคารเค้าก็ไม่ปล่อยหรอกค่ะ เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าคะ "หนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย" นะคะ ไม่ได้หมายถึงขายแล้ว ก็เหมือนกับเราไปจองบ้านมือ 1 เหมือนกัน ก็ไปทำสัญญาจะซื้อจะขายกัน กรรมสิทธิ์โอนต่อเมื่อจ่ายเงินครบ บ้านมือ 2 ก็ทำเหมือนกันค่ะ จากคุณ : Attar Nee Na เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 16:37:56

ความคิดเห็นที่ 27 คห. 11 คุณใจดีจังคับ ให้อยู่ต่อ 3-4 เดือน ไม่คิดค่าเช่าด้วย ค่าน้ำค่าไฟคิดด้วยรึเปล่าครับหรือว่าฟรีหมดละครับ แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 55 16:45:01 จากคุณ : GundJunk เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 16:40:54

ความคิดเห็นที่ 28 ตอบ         # 24    และความคิดเห็นที่  # 26            เรื่องการกู้เงินซื้อบ้านผ่านธนาคาร   มันจำเป็นต้องมีหนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย นั้น  ถูกต้องแล้วครับ      ก่อนจะยื่นเรื่องกู้ คุณจะทำหนังสือสัญญาอย่างเดียวไม่ได้  คุณต้องมี สำเนาโฉนดบ้าน  ถ่ายคู่ประกอบไปด้วย  ซึ่งจะต้องขอถ่าย สำเนา จาก เจ้  คนที่ขายบ้าน             ก็บอกแล้วไงครับ ว่า  คุณต้องทำให้คนขาย เขาไว้วางใจเราก่อน   ทุกอย่าง ก็จะราบรื่นนะ  และคุณต้อง ยอมให้เขา อยู่ฟรีไปก่อนสัก เดือน สองเดือน อย่าไปเร่งให้เขาย้ายออก  จะผิดใจกันเปล่า ๆ           ผมคิดว่า คนขาย เขาก็รู้ตัวดีนะว่า  เมื่อเขาขายบ้านไปแล้ว กรรมสิทธิ์ในบ้านที่ดิน ต้องโอนให้คนซื้อ   เขาจะยึดเพื่ออยู่ต่อทำไม แล้วเขาจะได้ประโยชน์อะไร    แต่เราต้องเข้าใจเขาก่อนนะครับ  สาเหตุที่เขาไม่ได้ย้ายออกทันที  เพราะ ความไม่พร้อม มากกว่านะครับ  แต่เมื่อถึง กำหนดเวลาที่แน่นอน  เขาก็คงจะย้ายออกแน่นอน   เขาคงไม่ได้คิด หัวหมอ จะยึดบ้าน ให้ติดคุก หรอกครับ            ขอให้ผู้อ่านทุกท่าน  อ่านอย่างมีเหตุผล  ตามความเป็นจริง ด้วยนะครับ   และทุกอย่างจะเข้าใจดีขึ้นครับ แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 55 17:08:58 จากคุณ : รุ่งโรจน์ทวีคูณ (รุ่งโรจน์ทวีคูณ) เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 17:00:53

ความคิดเห็นที่ 29 งงกะตรรกะ คห 28 ในเมื่อขายแล้ว ได้เงินไปแล้ว ทำไมไม่ย้ายออก ทำไม หน้าด้านอยู่ต่อฟรีๆ ไม่คิดถึงค่าใช้จ่ายคนซื้อบ้างเหรอ จากคุณ : 1ใน4ดรุณี เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 17:11:58

ความคิดเห็นที่ 30 สรุปสั้นๆคือ เจ้าของกระทู้ไปซื้อบ้านมือสอง ไปทำเรื่องโอนเปลี่ยนเจ้าของ จ่ายเงินค่าบ้านจากการกู้ธนาคารให้เจ้าของเดิมแล้ว แต่เจ้าของเดิมไม่ยอมย้ายออกหลังจากได้รับเงินแล้ว จะทำยังไงดี ถ้าเป็นผมน่ะผมเห็นด้วยกับความคิดเห็นข้างบน -ปรึกษาทนายคนเดิม -แจ้งตำรวจข้อหาบุกรุก จากคุณ : 12 เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 17:17:53 A:202.57.134.34 X: TicketID:099400

ความคิดเห็นที่ 31 ถ้าผมขายเสร็จแล้วจะออกไปอย่างโดยดี แค่นี้ทำไมคนขายคิดไม่ได้ ?? จากคุณ : น้องตัวแสบ เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 17:26:51

ความคิดเห็นที่ 32 คห.11 ยังไม่ตอบผมเลย ที่บอกให้อยู่ฟรี 3-4 เดือน ไม่คิดค่าเช่า ค่าน้ำค่าไฟจ่ายให้ด้วยป่าวครับ อยากรู้อะคับ เห็นตอบข้ามผมไปเลย จากคุณ : GundJunk เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 17:35:48

ความคิดเห็นที่ 33 เจ๊แกไม่ตรงไปตรงมา ขนาดโอนแล้วได้รับเิงินแล้ว ถือว่าได้เงินครบถ้วน ไม่ยอมให้นำของเข้าไปในบ้าน แบบนี้ก็เกินไป ถ้าย้อนเวลาได้คนแบบนี้ต้องให้ย้ายออกในวันโอนเลย จากคุณ : ttttt เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 17:53:18 A:110.168.198.137 X: TicketID:312168

ความคิดเห็นที่ 34 สรุป จขกท ผิด ที่จะขนของเข้าบ้านตัวเอง และก็เป็นตัวปัญหา จะซื้อบ้านทั้งที วางเงินจองไปแค่ 5000 แล้วจะเอานู่น นั่น นี่ ส่วน เจ้าของเก่าถูกทุกอย่าง ขายบ้านไปแล้วไม่ยอมย้ายออกไป ไหนบอกจะรีบกลับบ้านทางใต้ไง แล้วก็ทำถูกด้วยที่เบ่งกับเจ้าของใหม่ให้ไปแจ้งความได้เลย ดิฉันเข้าใจถูกต้องมั๊ยค๊าคุณบางความคิดเห็น จากคุณ : OeiAmp เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 18:05:06

ความคิดเห็นที่ 35 อ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกแปลกๆ หลายจุด  น่าจะมี something wrong เดี๋ยวไปต้มมาม่าก่อน จากคุณ : Yeemu เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 18:44:21

ความคิดเห็นที่ 36 เรียกตำรวจจับ ข้อหาฉ้อโกงให้เสียทรัพย์ได้ค่ะ จัดไปให้เต็มไม้เต็มมือ โทษฐานหัวหมอ หลอกเงินเรา ส่วนทะเบียนบ้าน เอาฉโนดที่ดินและสัญญาซื้อขายไปที่อำเภอ แล้วแจ้งขอทำทะเบียนบ้านใหม่ พร้อมอัปเปหิ ชื่อคนเก่าที่อยู่ออกไปได้ทันทีค่ะ ไม่ใช่ปัญหา จากคุณ : ป เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 18:45:13 A:203.146.3.251 X: TicketID:203339

ความคิดเห็นที่ 37 คุณรุ่งโรจน์ทวีคูณ ที่คุณคุยว่าคุณเคยซื้อขายบ้านมือสองมาหลายหลัง มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า ?????? คนเคยซื้อขายบ้านมาหลายครั้งต้องมีประสบการณ์ ที่สำคัญเรื่องโกงเงิน ข้อสังเกตุ 1 ถ้าเป็นคุณซื้อขายบ้านจะยอมวางเงินมัดจำเพื่อทำสัญญาเยอะๆ หรือ??? เพราะถ้าคุณกู้ไม่ผ่านเงินนั้นจะถูกยึดหรือไม่ 2 การกู้เงินธนาคาร ต้องมีเอกสารครบถ้วน เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบเอกสาร และที่ดิน เพื่อประเมินราคาให้ถูกต้อง 3 วันที่โอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน ผู้กู้ซื้อ และผู้ขายไม่มีสิทธิ์ได้แตะต้องเช็คที่ธนาคารนำมาจ่ายให้ผู้ซื้อได้ จนกว่าจะโอนกรรมสิทธิ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำได้อย่างมากคือขอถ่ายสำเนาเช็คให้ผู้ซื้อไปตรวจสอบ 4 ไม่มีใครบ้า เอาเช็คฉบับจริงให้ผู้ซื้อไปตรวจสอบก่อนหรอก ถ้าคนขายเอาเงินเข้าบัญชีเลย แล้วไม่มาโอนกรรสิทธิ์ ใครเป็นผู้รับผิดชอบ เคสนี้ตัวแทนธนาคารไม่อนุมัติเด็ดขาด ไม่ว่าผู้กู้จะเซ็นต์รับเช็คก่อนก็ยังไม่ได้ สรุป เราว่า ........................... คุณอย่าออกความคิดเห็นดีกว่า จากคุณ : ป เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 18:57:03 A:203.146.3.251 X: TicketID:203339

ความคิดเห็นที่ 38 เจ้าของกระทู้นะคะ ดีใจคะที่พวกของคนขายคนนั้น เข้ามาอ่านในกระทู้นี้  คำถามทุกๆ คำมีคำตอบนะคะ คุณเองที่ไม่เข้าใจและตั้งใจที่จะมีปัญหาเอง เราเองก็ยัง งง งง กับคุณว่า ตกลงคุณ อยากขายบ้านจริงหรือเปล่า และทำไมมีปัญหา ทั้งๆที่ เราก็ได้ให้เหตุผลทุกอย่างพร้อมทั้ง น้ำใจให้คุณ อนุญาตให้คุณอยู่บ้านได้ โดยที่ไม่ได้ไล่ ตามสัญญา ทุกอย่าง ไม่มีคำเอ่ยปากขับไล่ เลยแม้แต่น้อย เพียงแต่คุณเองที่พูดไม่เป็นคำพูดหรือคำพูดที่เชื่อถือไม่ได้ คุณจะออกไปวันไหน ก็ได้ตามสัญญาที่เขียนไว้เท่านั้นคะ แต่ เราก็มีสิทธิ์ตามกฏหมายที่จะเข้าไปในบ้านหลังนั้นเมื่อ ไหร่ก็ได้ (ถ้าจะพูดกันในแง่กฏหมาย) แต่คำพูดก่อนขายบ้านที่คุณขอเราอยู่ต่อเดือนนึง โดยเรา บอกว่า จะเอาของมาไว้ฝากไว้ในบ้านและมาปรับปรุงบ้านได้นั้น คุณก็ตอบตกลงด้วยยิ้มแย้มว่า "ยินดีเลยคะ"  ตอนนี้กลับไล่เราออกจากบ้านตัวเอง  คิดดูเอาเองนะคะถ้าเราไม่่มีน้ำใจ เราแจ้งความเอาคุณเข้าคุกได้แล้ว ไม่แน่อาจมีอะรไรผิดกฏหมายในบ้านเราก็ได้ คุณไม่ให้เราเข้าบ้านและไล่เรายังกับหมูกับหมานี่ จากคุณ : whitelife เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 19:24:27

ความคิดเห็นที่ 39 อีกอย่าง เรากู้เงินซื้อบ้านเป็นครั้งแรก ไม่ทราบต้องใช้เอกสารทำอะไรยังไงคะ เพียงแต่เจอบ้านที่ชอบแล้ว เห็น่ว่าเจ้าของใจดีคุยง่าย จึงทำสัญญามัดจำบ้าน ง่ายๆแค่ 2 บรรทัดเอง ว่ามัดจำไว้แล้วนะ เอาจะเอาจริงๆ แต่พอยื่นเรื่องธนาคารเรียบร้อยแล้ว ผ่านแล้ว ธนาคารต้องการสัญญาจะซื้อจะขาย เราก็พึ่งรู้ว่าต้องใช้และทำตามแบบให้ถูกต้องส่งธนาคาร เราก็ต้องนัดทำอีกครั้ง ก็เจอความเคี่ยว คือจะเอาเงินเป็น ล้านแม่จ้าว....   จะว่าเราสร้างเรื่องได้ไงคะคุณ เพราะในสัญญาจะซื้อจะขายระบุว่า ถ้าเราไม่ ทำตามสัญญาคือไม่เอาบ้านของคุณ เราเองต้องถูกริบเงินมัดจำตั้ง 500000 เลยนะคะ คุณฉลาดน้อย ไปหรือเปล่า จากคุณ : whitelife เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 19:28:04

ความคิดเห็นที่ 40 รอลุ้นๆๆ  เอาใจช่วยครับ จากคุณ : sanyakong เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 19:45:09

ความคิดเห็นที่ 41 ตอบ คุณ ความคิดเห็นที่  32   คุณ  GundJunk           ผมต้องขอโทษคุณด้วย  ที่ทำให้คุณ ต้องรอคำตอบ             ถ้าผู้ขาย มีความจำเป็นต้องอยู่ต่อ  เพราะความไม่พร้อมที่จะย้ายออกในทันที ทันใด   ผมก็อนุญาตให้เขาอยู่ต่อได้  โดยไม่คิดค่าเช่า ซึ่งส่วนมากจะอนุญาตให้อยู่ได้ประมาณ 3 - 4 เดือน  แต่ว่า ค่าน้ำ ค่าไฟ  หรือ ค่า โทรศัพท์ หรือ ค่า จิปาถะ ต่าง ๆ  เขาต้องออกเหมือนเดิมครับ            และถ้าพอถึงกำหนด ต้องย้ายออก   หาก เขายังไม่ยอมย้ายออกอีก  ผม ก็จะขอคิดค่าเช่า แบบ แพง ๆ  เลยครับ  และ ถ้าไม่จ่ายค่าเช่าให้ อีก   ผม จะใช้ไม้แข้ง  ขู่เสียงดัง เลยครับ   โดยอาจจะเอาลูกกุญแจ ปิดประตูบ้านในขณะที่เขาไม่อยู่บ้าน   ไม่ให้มีการเข้าออกแล้วครับ    แต่ส่วนใหญ่ เขาก็ย้ายออกก่อนกำหนดทั้งนั้นแหละครับ            ส่วนคุณ ความคิดเห็น ที่  37   คุณ ป        คุณอ่าน ข้อมูลผม  ยังไม่เข้าใจ      ผมจะซื้อบ้าน  ทีละหลัง ครับ ไม่ได้ซื้อทีเดียวหลายหลัง    ซื้อเพื่อ เอามาให้คนอื่น เช่าต่อ  เพื่อให้เงินมันทำงานแทนเรา   และต้องการสร้างมูลค่าบ้านให้เพิ่มขึ้นด้วย   และการซื้อแต่ละแห่ง ต้องประเมินความสามารถในการผ่อนชำระด้วยครับ  ไม่ได้ซื้อ แบบมั่ว ๆ  ครับ          สำหรับ เรื่อง เช็ค ที่กู้ธนาคาร มา  ถ้ามีความจริงใจ  ก็ควรจะบอกเลขที่เช็ค  ชื่อธนาคารที่กู้ และจำนวนเงินที่กู้  โดยขอทราบจากธนาคาร  แล้วนำมาบอกให้คนขายทราบ   หรือไม่ก็ขอถ่ายสำเนา เอาให้คนขาย เขาไปเช็คกับธนาคารก่อนก็ได้   เพื่อที่เขาจะได้สบายใจ  ควรจะทำความเข้าใจ กับ เจ้าหน้าที่ของธนาคารด้วยนะครับ         และขอขอบคุณ ที่ คุณ แนะนำ ผม ว่า ไม่ควร ออกความคิดเห็นอีก จะ ดีกว่า        ถ้าอย่างนั้น ผม ก็จะขอจบ ความคิดเห็นของผม สำหรับกระทู้นี้  เพียงแค่นี้ นะครับ  ขอบคุณครับ         และต้องขอโทษ  เจ้าของกระทู้ นี้ ด้วยนะครับ  ที่ บางครั้ง อาจจะทำให้การแสดงความคิดเห็นของผม   ทำให้ ท่าน ไม่สบายใจ   แต่ถ้าท่าน ทำอย่างที่ผมบอก  ทุกอย่าง ก็จะราบรื่น ครับ    ผมมั่นใจ ครับ ว่า  คนขาย เขาไม่คิดจะโกง หรือ ยึดบ้านหรอกครับ  เพียงแค่ ท่านให้โอกาส เขาบ้าง   ถ้าเขาพร้อมย้าย  ก็คงย้ายออกไป ไม่อยู่ยาว แน่นอนครับ  ครับ จากคุณ : รุ่งโรจน์ทวีคูณ (รุ่งโรจน์ทวีคูณ) เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 19:52:58

ความคิดเห็นที่ 42 คุณพูดเหมือนเข้าข้างเจ้าของบ้านเต็มเหนี่ยวเลยนะคะ ทั้งๆที่ไม่รู้ข้อมูลอะไรเลย น่าแปลกจริงๆ ทำไมมั่นใจนักละคะว่า เจ้คนนี้เป็นคนดีจริงๆ และ จขกท  เป็นคนที่แย่ จริงๆโดยใช้คำพูดว่ากล่าว น่าบาดใจจริงๆ ทั้งๆที่ เราก็ไมได้รู้จักกัน และสรุปเราไปทั้งๆที่ยังไม่ได้ถาม และทำไมถึงมั่นใจว่าคน ขายไม่คิดโกง ...??????  ไม่คิดโกงแล้วทำไมไม่ให้เจ้าของบ้านตัวจริงเขาเข้าบ้านล่ะมีสิทธิ์อะไรมาไล่......??????   ไม่ได้เอาเช็คเงินสดถ่ายเอกสารไปให้เจ้หรอก พาไปแบ้งค์เลยคะ พาไปทั้งยายเจ้และคนข้างบ้าน จอมยุ่งด้วย พาเข้าธนาคารทำเช็คให้เห็นๆ เลยคะ จะว่าโกงอีกหรือเปล่า เงินก็เอาไปแล้ว ทุก อย่างทำเสร็จเรียยร้อยโดยไม่ให้ต้องคิดมากเลย เงินหมดหรือเปล่าถึงมาหาเรื่องกันแบบนี้ อีกอย่าง ถ้าเป็นเช็คปลอม เจ้าหน้าที่ที่ดินไม่รับจำนอง หรอกนะคะ แหม เคยซื้อบ้านจริงป่ะเนี่ย ทำไมไม่รู้อะไรเลย... จากคุณ : whitelife เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 20:13:29

ความคิดเห็นที่ 43 คุณ  รุ่งโรจน์ทวีคูณ  ตรรกะพิสดาร ประหลาดมาก  คนธรรมดาคิดไม่ได้นะเนี่ย จากคุณ : เหม่ง-เป่ง-มัน เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 20:31:00

ความคิดเห็นที่ 44 เป็นกำลังใจให้ จขกท. นะครับ ขอให้เรื่องจบด้วยดีครับ . . ส่วนตัวไม่มีความรู้เรื่องนี้ เลยช่วย จขกท ไม่ได้...เเต่เอาใจช่วยครับ . . .สู้ๆครับ จากคุณ : MedicPusher เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 20:31:58

ความคิดเห็นที่ 45 " เพราะเจ้ บอกว่า เขาอยากย้ายกลับบ้านทางใต้เร็วๆ เขาอยู่เพื่อรอ ขายบ้าน นานมากแล้วขายไม่ได้สักที ถ้าน้องจะเอา พี่สามารถย้ายของไปคอนโดก่อนได้เลย แถวๆนี้แหล่ะ " แล้วทำไมไม่รีบไปล่ะครับ อยู่ทำเพื่อ  ถ้าย้ายไม่ได้หรือมีไรติดขัดลองคุยกันกับคนซื้อตรงๆสิ ก็คิดว่าน่าจะพอช่วยอะไรกันได้ " โอนแล้วจะขออยู่ต่ออีกเดือนบ้าง " โอเค ไม่เป็นไรช่วยๆกันได้ " แต่เขาบอกว่า วันที่ 25 พี่ก็ออกแล้วล่ะ " ไม่ออกแล้วพูดทำไมครับ " ด่าเราประจานพวกเราให้คนรอบบ้านได้ยินจนอับอาย แถบยังข่มขู่อีกว่า รู้จักผู้กำกับ สน.นี้ อยากไปแจ้งความก็แจ้งไป (สน.โชคชัยสี่) เขาไม่กลัว " เป็นผมนะ ไปแจ้งแล้ว ตำรวจเพื่อประชาชนครับ ไม่ใช่เพื่อเจ้คนเดียว จริงๆ้ถ้าเจ้แกมีอะไรไม่สะดวกยังไม่พร้อมย้ายอะไรหรืออะไรก็แล้วแต่ก็น่าจะคุยกับ จขกท.ดีๆนะครับ ไม่ใช่พูดเหมือนเพื่อให้ขายของได้ไม่ชอบเลยแบบนี้ ผมว่าเหมือนมีอะไรลับลมคมในยังไงไม่รู้ ตอนนี้ก็ใจเย็นๆนะครับ รอสิ้นเดือนตามสัญญา ถ้ายังผิดสัญญาอีก จัดหนักไปเลยครับเอาไว้ไม่ได้คนแบบนี้ จากคุณ : paxo&stamp เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 20:45:12

ความคิดเห็นที่ 46 บางทีคนมันโลภ ไม่ใช่พ่อค้าแม่ขายโดยกำเหนิด ได้เท่านี้มีลูกมีหลานยุแหย่ อยากได้เพิ่ม อยากได้มาก ลูกหลานแบ่งเงินไม่ลงตัวไม่ยอมกันก็มี คนแก่ก็อาจจะออกอาการแบบนี้ได้ครับ ผมซื้อขายบ้านมือสองอยู่เคยเจอ ถือวิสาสะเดินเข้ามาในบ้านที่เราเพิ่งซื้อก็มี บอกจะเอาให้ลูกสาวก็มีทุกวันนี้ผมห้ามขาดไม่ให้ปล่อยเข้ามาเหมือนกัน ของของเราเรื่องบ้านเรื่องที่ดินมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ให้ใครเข้ามาสักนิ้วได้เสียเมื่อไหร่ ของอย่างนี้เราเป็นเจ้าบ้านแล้วจะไปกลัวอะไร ผมว่าง่ายๆคุยกับทนายคนที่ว่า บางทีเขาแค่โทรศัพท์คุยให้ก็รู้เรื่องแล้ว พวกค่าลงค่าแรงคงไม่มีมั้งเพราะเขาก็ได้ไปตอนเซ็นสัญญาแล้ว เกิดคนนั้นไปมีวาจาสามหาวกับทนายอีกก็ยิ่งดีจะได้ดูเสือเขากัดกันเรานั่งดูอยู่บนภู จากคุณ : ลองดู เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 21:02:08 A:27.55.12.156 X: TicketID:008482

ความคิดเห็นที่ 47 สู้ ๆ นะคะ ขอเป็นกำลังใจให้ เนื่องจากเรากำลังคิดซื้อบ้านมือสองเหมือนกัน คงต้องคิดให้เยอะ ๆ และต้องระวังให้มาก ๆ เท่าที่อ่านมามันก็ฟ้องว่าเค้าตั้งใจจะโกง หรือคิดไม่ดี และจริง ๆ มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราเป็นเจ้าของบ้านใหม่ต้องให้เค้าอยู่ต่อ แค่นี้ก็รู้สึกถึงความมีน้ำใจของ จขกท. แล้วคะ สู้ ๆ นะคะ จากคุณ : ople2510 เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 21:10:16

ความคิดเห็นที่ 48 เรื่องนี้มีควายสองตัว ตัวนึง เจ้าของบ้านเดิม อีกตัวก็ ....... จากคุณ : Eig Q San เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 21:42:58

ความคิดเห็นที่ 49 เพลียกับคนแบบนี้จริงๆ จากคุณ : logarithm เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 21:58:28

ความคิดเห็นที่ 50 งง ตั้งแต่ วางเงิน 500,000 แล้ว บ้านราคากี่สิบล้านเนี้ย วางมัดจำ 500,000 เพื่อไปกู้เงินธนาคาร ผมซื้อบ้านมือสองมาสามหลัง หลังละ 3-4 ล้าน ยังวางเงิน 10,000 - 50,000 เอง จากคุณ : nonacc เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 22:12:40

ความคิดเห็นที่ 51 เราว่าคุณเจ้าของกระทู้ก็มีน้ำใจแล้วนะคะ ให้อยู่ฟรีเดือนนึง ความจริงกำหนดออกแล้วไม่ย้ายออกนี่ ทางฝ่ายโน้นเค้าก็ไม่ได้เห็นใจเจ้าของกระทู้เช่นกัน คนซื้อบ้าน เค้าก็ต้องอยากได้บ้าน ได้อยู่ในบ้านที่ตัวเองเสียเงินซื้อสิเนอะ ไม่ใช่จ่ายเงินไปให้คนอื่นอยู่ฟรีต่อไป คุณรุ่งโรจน์ฯ คะ ถ้าให้อยู่ฟรีอีก 3-4 เดือน งั้นเราว่าเค้าพร้อมจะย้ายออกแล้วค่อยขายดีมั้ยคะ เงินตั้ง 5 แสน ในเวลาเกือบครึ่งปี ถ้าเราเป็นผู้ซื้อเราขอฝากธนาคารกินดอกขำๆดีกว่าเอามาคงค้างอยู่กะบ้านที่ตัวเองซื้อแล้วให้คนที่ไม่รู้จักมาอยู่ฟรีค่ะ จากคุณ : สูงสุดสู่สามัญ (สูงสุดสู่สามัญ) เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 22:34:19

ความคิดเห็นที่ 52 เค้าจะอยู่ฟรี บวก เอาเงิน ด้วยน่ะครับ แนะนำว่า คุณแจ้งตำรวจไปดีกว่า เพราะพูดคุยตกลงดีๆ เค้าคงไม่ทำตามนั้น เพราะถ้าทำ เค้าทำไปตั้งแต่แรกแล้ว จากคุณ : จระเข้เจ้าเล่ห์ เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 23:12:17

ความคิดเห็นที่ 53 รู้สึกเพลียกับความเห็นของคุณ รุ่งโรจน์ทวีคูณ จริงๆนะ ไม่ได้พูดเล่น ผมเพลียกับความเห็นคุณจริงๆครับ พูดกันตรงๆ จากคุณ : naisandee เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 23:34:03

ความคิดเห็นที่ 54 เพิ่งขายบ้านไปค่ะ เข้ามาอ่านแล้วรู้สึกสงสารเจ้าของกระทู้จังเลย เป็นหนี้แล้วยังย้ายเข้าไปอยู่บ้านตัวเองไม่ได้ ของเราพอตกลงขายแล้ว ทำสัญญาจะซื้อจะขายกันเลย พร้อมเงินมัดจำ 30000 บาท คนซื้อก็รีบยื่นกู้ ระหว่างนั้นเราก็ซ่อมแซมทำความสะอาดให้ตามที่ตกลงกัน พอกู้ผ่านก็รีบโทร.มานัดโอน เราก็รีบย้ายของออกไปบ้านใหม่จนเรียบร้อยก่อนวันโอนเป็นอาทิตย์ วันโอนก็นัดแบงค์เค้า แบงค์เราไปที่ดิน เซ็นต์สัญญา รับเช็ค มอบกุญแจบ้าน เอกสารเกี่ยวกับบ้านทั้งหมด แล้วก็แยกย้ายกันกลับ เราว่าคนส่วนใหญ่ก็ทำแบบนี้ทั้งนั้น แต่ความเห็นของบางคน เอิ่ม คิดได้ไงอ่ะ คุณได้เงินแล้ว บ้านก็ไม่ใช่ของคุณแล้ว คุณจะยึกยักทำไม่เนี่ย เครียดแทนเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ จากคุณ : ชลันธร เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 23:36:40

ความคิดเห็นที่ 55 เล่าเคสของเรานะคะ ซื้อบ้านมือ 2 มาเหมือนกันเมื่อกลางปีนี่เอง ขั้นตอน - ทำสัญญาจะซื้อจะขาย วางมัดจำไว้ 20,000 บ้าน 2 ล้านกว่า - หลังจากนั้นเราทำเรื่องกู้กับธนาคาร - ประมาณ 2 - 3 อาทิตย์ ธนาคารก็โทรมาอนุมัติว่าผ่าน ก็เข้าไปเซ็นสัญญากู้ 2 วันหลังจากนั้น ก็นัดกันไปโอนที่กรมที่ดิน เจ้าของบ้านเก่าขออยู่ต่ออีก 15 วัน เราก็โอเคคะ ไม่ได้เดือนร้อนอะไร มีบ้านหลังเก่าอยู่ เพราะว่าเค้ารับเช็คจากเราแล้วไปจ่ายให้บ้านที่เค้าซื้อใหม่ ขอเวลาทำบ้านใหม่ ย้ายของ พอครบ 15 วัน เค้าก็ย้ายออก เราก็เข้าไปอยู่ แต่ปัญหาที่เจอ คือ - ทะเบียนบ้านเค้าไม่ได้ให้เรามา เราก็ไปติดต่อที่เขต เอาหนังสือสัญญาซื้อขายไป จนท.เขตเช็คก็เจอว่า ยังมีคนอยู่ในทะเบียนบ้านอีก 7 คน เราก็เลยโทรไปบอกเจ้าของบ้านเก่าว่า ให้ย้ายคนออกด้วย ประมาณครึ่งเดือนก็ย้ายออกหมด เราก็ทำเรื่องแจ้งหาย แล้วก็ย้ายเข้าเป็นเจ้าบ้าน - ค่าน้ำ ค่าไฟ ค้างจ่ายประมาณ 2 - 3 เดือน ตอนแรกเห็นบิลโมโหเหมือนกัน ว่าทำไมไม่จ่ายให้เรียบร้อยก่อน ก็โทรไปหา เค้าก็มาจ่ายให้คะ สรุปว่า ก็จบลงด้วยดีคะ ยังไงเป็นกำลังใจให้ จขกท. นะคะ ...  เจ้คนนี้ท่าทางเอาเรื่อง ว่าแต่งงตรงที่ ต้องวางเงิน 5 แสนเลยหรอคะ สำหรับสัญญาจะซื้อจะขาย เป็นเรา ๆ คงไม่วางหน่ะค่ะ ถึงอยากได้บ้านแค่ไหน จากคุณ : dekba_com เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 23:46:52

ความคิดเห็นที่ 56 อยากเห็นหน้าเจ้ ถ่ายรูปมาให้ดูหน่อย ... จากคุณ : wishsine (wishsine) เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 23:50:36

ความคิดเห็นที่ 57 เราก็เคยเจอคนขายงี่เง่าคล้ายคล้ายกันคะ  เปลี่ยนไปเรื่อย จะเอานั่นเอานี่ เปลี่ยนสัญญากะเราสามสี่รอบ วุ่นวายมาก ธนาคารและนายหน้าปวดขมับกันหมด แล้วยังมีหน้าเอาเมียน้อยมานั่งด่าเราอีกว่าขายบ้านให้เราเนี่ยถือเป็นบุญคุณมากจนเราต้องตอกกลับไปว่าเราไม่ซื้อก็ได้นะ คืนเงินเรามาเราก็ไม่ว่าอะไรถ้ามันลำบากขนาดนั้น ถึงจะเงียบ ถึงเราจะเคยอยู่ตรงจุดนั้นมาก่อน แต่เราเข้าใจ คคห 11 นะคะ ทุกอย่างมี 2 มุม ที่ คคห 11 พูดก็ไม่ผิดหรอกคะ แต่อาจนำเสนอมุมมองอีกด้านเพียงด้านเดียวเท่านั้นเอง เราว่าถ้าให้เจ๊เจ้าของเดิมมาโพสกระทู้ ทุกคนอาจจะรุมด่า จขกท ก็ได้นะคะ คนที่ว่า คคห 11 ลองมองในมุมที่เป้นกลางสักนิด ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา คนบางคนเค้าก็ขี้กลัวจริงนะ  เรื่องการยืนยันเช็คเราทำบ่อยนะคะ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับอสังหาเพาะยอดส่วนใหญ่จะเยอะ  แม้เคชเชียเช็คที่เราทำไปให้เค้าเรายังบอกให้คนรับเช็คโทรไปยืนยันกะทางธนาคารก่อนเลยว่าเช็คเรามีเงินแน่นอน เป็นเรื่องปรกติ คคห 11 อาจจเขียนไม่ชัดเจนตั้งแต่แรกเลยมีผู้ที่ไม่รู้ไม่เข้าใจเข้ามาด่าเสียเละ ลองนึกดูว่าถ้ามี 18 มงกุฎปลอมมาเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร ทำเช็คปลอมมาให้คุณ แล้วหลอกคุณโอนบ้านไป จะเกิดอะไรขึ้น ขายบ้านไปนราคา 5 แสนเลยนะคะนั่น อาจจะฟ้องกลับคืนมาได้แต่ก็คงไม่มีใครอยากปวดหัวหรอกคะ ส่วนตัวเราคิดว่า จขกท ก็ไม่น่าทำเรื่องให้วุ่นวายโดยการเอาของไปวางนะ เพราะเราจะไว้ใจได้ยังไงว่าของเราจะปลอดภัย ถ้าเป็นเราเราจะไม่ทำอะไรให้มันเสี่ยงต่อ การต้องมานั่งทะเลาะถกเถียงกันภายหลัง  คนเราชอบทำอะไรง่ายง่ายตอนแรก  หยวนหยวน แล้วก็ต้องมานั่งถกเถียงทะเลาะกันภายหลังเสมอ ไม่ใช่ว่าเราจะเห็นด้วยกะการกระทำของเจ้าของเดิมนะคะ อยากให้ จขกท ทำอะไรให้รอบคอบกว่านี้ ตอนที่เอาเงินไปจอง น่จะตกลงกันก่อนว่าต้องใช้เงินดาวเท่าไหร ยังไง ถ้าเราไม่ถามแล้วเค้าบอกมา 5 ล้านเค้าก็ไม่ผิดหรอกคะ สัญญาวางเงินมัดจำจรืิงจริงควรตกลงทำกันตั้งแต่แรกแล้ว  ปกป้องผลประโยชน์ตนเองและพยายามเข้าใจผู้ขายว่าเค้ามีความเสี่ยงอะไรที่เค้าต้องกลัวบ้าง อยากให่้ผู้อ่านกระทู้ลองมองและยอมรับในมุมต่างบ้าง  เราไม่ได้รู้ทุกเรื่อง  เรื่อง  สื่งที่เราคิดว่าทำไม่ได้อาจจะเป็นเพราะเราแค่ไม่รู้  เรื่องการซื้อบ้านแล้วให้เจ้าของเดิมอยู่ไปก่อน 2-3 เดือน ก็ไม่แปลก  เราเองก็ทำ  คนซื้อบ้านอยู่กะคนซื้อบ้านลงทุนอาจจะคิดไม่เหมิอนกัน คุณไม่เคยทำไม่ได้แปลว่าคนอื่นที่บอกว่าเค้าเคยทำแปลว่าเค้าโกหกนะคะ ถ้าเรามองด้วยใจเป็นกลาง เราคงไม่ด่า คคห 11 ว่า บ้าเหรอใครจะเอาเช็คไปให้ตรวจ  คนที่มองด้วยใจเป็นกลาง น่าจะคิดว่า เออ ชั้นไม่เคยมองอีกมุมเลยนะว่าคนอื่นเค้าอาจจะไม่สบายใจ มีวิธีการแก้ปัญหาแบบที่เราไม่คิดว่าทำได้ด้วย เค้าทำอย่างไหรนะ แล้วลองถาม คคห 11 ดีดี ก็ได้ไม่ต้องกระแนะกระแหนกัน เราจะได้เรียนรู้อะไรจากคนที่เค้ารู้มากกว่าเรา และน่าจะลดปริมาณกระทู้มาม่าได้นะคะ   ยกเว้นว่า  มาม่านี่แหละคือสิ่งที่เรารอคอยอย่างใจจดใจจ่อ สนุกมันสะใจเหมือนละครแรงเงาอะไรอย่างนั้น อันนี้ก็เป็นไปตามเทรนแล้วกันนะคะ จากคุณ : Pudgy the Dog เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 00:12:59

ความคิดเห็นที่ 58 จขกท.ข้ามๆบางคห.ไปก็ได้ค่ะ ปล่อยให้บ้าไปคนเดียว ส่วนเจ้ ทรามมากค่ะ เห็นแก่ตัว เอาแต่ได้ พูดจากลับกลอก คบไม่ได้นะคะคนแบบนี้ จขกท.ใจดีเกินไป คนบางประเภทไม่ชอบไม้นวมแต่ชอบไม้แข็งค่ะ คนบางคนทำดีด้วยแล้วยิ่งได้ใจ เรียกร้องมากขึ้นเรื่อยๆไม่รู้จักพอค่ะ เหมือนนิทานชาวนากะงูเห่าน่ะค่ะ คนบางคนทำดีด้วยไม่ได้หรอกค่ะ จัดเต็มไปเหอะค่ะ ดูเจ้จะว้อนท์อยู่ จากคุณ : YanYanMachiko เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 00:17:36

ความคิดเห็นที่ 59 คนขายบ้าน   เวลาขายบ้าน  เขา ประกาศขายไปเท่าไหร่  เป็นจำนวนเงินเท่าไร  เมื่อตกลงกันแล้ว   เขา ก็อยากได้เงินครบตามนั้น ก่อน จึงค่อยทำเรื่องโอนกัน          แต่ นี่  ได้เงินยังไม่ครบ  แล้ว จะให้ทำหนังสือสัญญาผูกมัดตัวเอง   เขาคงไม่ยอมหรอกนะครับ    ยิ่งถ้าคนขายเขาไม่ไว้ใจคนซื้อด้วย   ก็เป็นสิ่งที่คนซื้อ ต้องแสดงตน ด้วยความจริงใจ   ทำทุกวิถีทางให้เขาไว้ใจ   แล้วทุกอย่างจะได้ราบรื่น เกิดมาก็พึ่งจะเจอคนอย่างรุ่งโรจน์ทวีคูณ ไม่รู้ตอนขายแกต้องรอเงินครบก่อนด้วยหรือเปล่า ถ้าเป็นเช็คคงต้องเอาเข้าบัญชีก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าเช็คไม่เด้ง ถึงจะไปโอนที่กรมที่ดิน ผมเคยขายบ้าน เก็บมัดจำ 5,000 บาท เพราะต้องการขาย ไม่ได้ต้องการยึดเงินมัดจำ ทำสัญญาจะซื้อจะขาย พร้อมสำเนาเอกสาร โดยระบุในสัญญาภายใน 1 เดือน เพื่อป้องกันการเสียโอกาสของเราไว้ด้วย หากกู้ไม่ผ่านโดยมีหลักฐานมาแสดงผมจะคืนเงินมัดจำให้ จากคุณ : Raining Man เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 00:26:13

ความคิดเห็นที่ 60 ตอนแรกที่ติดต่อกัน เจ้าของเดิมบอกสามารถย้ายของได้เลย คอนโดอยู่แถวๆนั้น แล้วตอนหลังกลับขออยู่ต่อ ไม่ทราบว่าเจ้าของเดิมเค้าติดปัญหาอะไรเหรอครับ อีกอย่างนะครับ จากที่ จขกท แจ้งไว้ "โดยเรายินยอมที่จะให้เขาอยู่ต่ออีกหนึ่งเดือน เพื่อเตรียมตัวย้ายเพราะเขาขอโดยคุยกันว่าระหว่างนั้นเราอาจขอเข้าไปปรับปรุงบ้านและเอาของ ของเราเข้าไปฝากได้ในบ้าน เขาก็พูดยินดียินยอม" จากตรงนี้ ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ จขกท เค้าขนข้าวขนของไปซะเมื่อไร เห็นว่ามีการแจ้งและคุยกันก่อนแล้ว ต่อมาพอ จขกท ขนของไปก็เลยโดนเจ้าของเดิมโวยวาย คุยกันก่อนแล้ว อีกฝ่ายก็รับทราบและยินดี พอ จขกท ขนของเข้าไป กลายเป็นว่า จขกท กลายต้นเหตุของปัญหา เพราะขนของเข้าไปขณะที่เจ้าของเดิมยังอาศัยอยู่ อ้างอิงตามข้อมูลที่ จขกท เค้าว่ามา เป็นแบบนี้ก็ไม่ไหวนะครับ ไปๆมาๆ กลายเป็นตัวปัญหา ไม่อลุ้มอล่วยซะงั้น จากคุณ : Meng_Thachalom เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 00:44:12

ความคิดเห็นที่ 61 ผมก็เห็นด้วยกับ คุณรุ่งโรจน์ นะครับ ส่วน จขกท จะไม่เห็นด้วย แล้ว คิดแต่ว่าเขาโกงก็คงไม่มีใครห้ามได้ แต่คุณเองเป็นคนเขียนสัญญาเองว่าให้อยู่ถึงสิ้นเดือน "ทำสัญญาให้เขาสบายใจขึ้นมาอีกฉบับคือว่าให้อยู่อีกเดือน จนถึงสิ้นเดือนนี้" ก็สัญญาบอกให้อยู่ถึง 30 พ.ย. วันที่ 26 อยู่ดีๆ ทำไมจะไปย้ายของเข้าไปเลยละ คุณผิดเองก็ต้องยอมรับ เพราะปกติจะย้ายของเข้า ก็ต้องรอให้ เจ้าของเดิมย้ายของออกให้หมดก่อน ก็ค่อยส่งมอบบ้านกัน จขกท ขนของไป ทั้งๆ ที่เจ้าของเดิมยังอยู่ แล้วถ้าเกิดว่า คนขาย เขาขนของ ของ จขกท กลับไปภาคใต้ คุณจะตามไปเอาคืนมั้ย   คุณซื้อบ้านแล้วโอนแล้ว บ้านเป็นชื่อคุณแล้ว แต่ถ้าคนขายยังไม่ย้ายออก คุณก็ยังไม่สามารถย้ายเข้าได้ ถ้าคนขายยังไม่ย้ายออก คุณถึงจะมีสิทธิ์ไปฟ้องขับไล่ ซื้อบ้านมือสองนะครับ ไม่ใช่ ซื้อรถมือสอง จะได้จ่ายครบก็ขับออกไปได้เลย คือบางทีคนเราก็ต้องมอง ใจเขา ใจเรา นะครับ คุณย้ายบ้าน คุณก็มีของต้องขน ต้องเก็บจำนวนมาก คนขายเขาก็มีเหมือนกัน เวลาซื้อบ้านจึงต้องใช้เวลาย้าย จขกท ใจเย็นๆ อีกแค่ 3 วัน เท่านั้นเองครับ จากคุณ : webkit เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 00:52:30

ความคิดเห็นที่ 62 ตอบคำถามทีละข้อนะคะ เราคิดว่าเรามีน้ำใจเพียงพอและทำอะไรเปิดเผยมากเลยคะ ขณะที่จ่ายเงินเป็นเช็ค ก็อัญเชิญเจ้ๆ ตัวแสบทั้งหลายไปถึงแบ้งค์ โอเค บ้านราคาไม่เกิน 4 ล้านหรอกคะ ไม่ได้สูงมาก เจ้อยากได้เงิน ก็โอเคไมว่ากัน คุยกันง่ายๆ ส่วนเรื่องธนาคารนัดสำรวจบ้านหรืออะไร พนักงานมาถึงบ้าน เขามี นามบัตรจากธนาคาร และหนังสือธนาคารมาเพื่อให้ตรวจสอบอยู่แล้วว่าตัวจริง สนใจที่จะตรวจสอบไหม??   คุยไม่รู้เรื่องก็ให้คุยกับพนักงานเลย เพราะขอถ่ายเอกสารเช็คจากแบ้งค์แล้วเขายังไม่ ออกให้ เขาจะเอาเช็คไปเลยในวันโอนที่ที่ดิน ซึ่งเขาเองก็บอกว่า สามารถตรวจเช็คที่ที่ดินในวันนั้น ได้ในทันทีคะ  สรุปว่า ตอนนี้เราใสสะอาด ได้เงินครบไปหมดแล้ว ไมมีะไรติดขัด ชัดเจนไหมคะ เราไม่รู้และไม่คิดว่าเขาโกงไหม แต่ทำไม ถึงไม่อนุญาตให้เราเข้าบ้านตัวเองและพูดจาที่ไม่ใช่ ภาษาคน รวมทั้ง ถ้าอ่านหนังสือเป็นควรจะอ่านให้หมดว่า " เราไม่เคยพูดไล่เขาออกจากบ้าน เลยสักคำเดียว" เพราะรู้ว่าเขาไม่ออก โอเคไหมคะจะได้ไ่ม่ต้องพูดหลายเที่ยว เราเข้าบ้าน เพราะเรามีสิทธิ์ และเคยพูดเอาไว้แล้วก่อนหน้า """"ก็สัญญาบอกให้อยู่ถึง 30 พ.ย. วันที่ 26 อยู่ดีๆ ทำไมจะไปย้ายของเข้าไปเลยละ คุณผิดเองก็ต้องยอมรับ เพราะปกติจะย้ายของเข้า ก็ต้องรอให้ เจ้าของเดิมย้ายของออกให้หมดก่อน ก็ค่อยส่งมอบบ้านกัน จขกท ขนของไป ทั้งๆ ที่เจ้าของเดิมยังอยู่ แล้วถ้าเกิดว่า คนขาย เขาขนของ ของ จขกท กลับไปภาคใต้ คุณจะตามไปเอาคืนมั้ย  """" ทำไมย้ายของเข้าไป ของอะไรคะ เราเอาของเราเข้าบ้านผิดตรงไหน และยอมรับอะไรคะ ปกติจะย้ายของเข้าต้องรอ ย้ายออก = ไม่จำเป็นคะ ไม่มีกฏหมายอะไรเลย เราเคยตกลงกับ เจ้ไว้ว่าขอห้องนึงสำหรับเอาของบางอย่างที่เราไม่มีที่่เก็บมาไว้ที่นี่ และเขาจะทยอยย้ายของออก ไป   ถ้าขนของเราไปภาคใต้เลย อันนี้โกงจริงๆ ขอก็ได้นะคะจะให้ ไม่ต้องขโมยหรอก เราใจดีอยู่แล้ว สรุปแล้วว่า กระทู้นี้อาจพอจะรู้ก่อนตั้งแล้วว่าอาจจะมีตรรกะแปลกๆ โผล่อออกมาในบางความเห็น ก็ไม่ได้ซีเรียสนะคะ แต่บางทีแสดงความโ... ออกมามากเกิน ความเป็นคนไปหน่อย จึงขอบอกว่า ถ้าจะแสดงความคิดเห็นในเชิงตำหนิ ก็อย่ามายุ่งหรือกวนเลยคะ จุดมุ่งหมายสำหรับกระทู้นี้ คือ เตือนคนที่คิดจะซื้อบ้านว่ามีปัญหานี้มาแล้ว ให้ระวังและ หากใครมีข้อแนะนำก็แนะนำกันได้จะ ขอบคุณมากเลยคะ สำหรับคนที่เอาความคิดตัวเองมาตัดสินก็ ขอร้องละคะ ไปๆ กระทู้อื่นเถอะ ถ้าเวลาว่างมาก ขอบคุณหลายๆความเห็นนะคะ คุยกับเราง่ายๆ ขออะไรก็ให้ แต่ขอร้อง คุยกันให้เป็นปัญญาชนหน่อยเถอะ จากคุณ : whitelife เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 01:29:14

ความคิดเห็นที่ 63 บางความเห็นสงสัยเป็นญาติของอิเจ้นั่นแน่ๆ ให้กำลังใจเจ้าของกระทู้นะคะ แก้ไขเมื่อ 28 พ.ย. 55 04:53:00 จากคุณ : giftmybenbag เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 04:51:51

ความคิดเห็นที่ 64 หลังจากโอนบ้านแล้วคุณก็เป็นเจ้าของบ้าน มีสิทธิ์ทุกอย่างในตัวบ้านครับ ไปแจ้งความทะเบียนบ้านหายแล้วขอใหม่ คัดชื่อคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกให้หมด ไม่ได้โหดนะครับ แต่คุณจะให้ชื่อคนที่คุณไม่รู้จักอยู่ในทะเบียนบ้านคุณเหรอ  มีหลายวิธีที่จะไล่ครับ ขอใช้คำว่าไล่ เพราะมันเป็นบ้านคุณ  เริ่มจากแจ้งว่าช่างจะมาซ่อมแซมบ้านไปจนถึงตัดน้ำไฟ และอย่าลืมนะครับว่าหลังจากอีเจ๊ออกไปแล้วยังมีค่าไฟที่มันยังตกค้างอยู่แถมมีค่าน้ำอีก จากคุณ : อยากพากย์มาก เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 08:15:09

ความคิดเห็นที่ 65 ให้กำลังใจ จขกท. นะคะ จากคุณ : Natthanuch1 เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 08:38:42

ความคิดเห็นที่ 66 11ครับ....สีข้างถลอกแล้วครับ จากคุณ : เม้ง บางปู เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 08:55:38

ความคิดเห็นที่ 67 เราก็เคยมีประสบการณ์ขอแชร์ ซื้อจากเจ้าของบ้านโอนกันเรียบร้อยจากเจ้าของบ้าน   คนที่เช่าอยู่รับทราบและรู้ล่วงหน้าเพราะเจ้าบ้านแจ้งเค้าล่วงหน้าแล้ว ตัวเราก็เคยเข้าไปคุยแล้วก่อนซื้อ คนเช่าบอกว่าจะขออยู่ต่อ 2 เดือนเป็นอันว่าตกลงกันได้ดีโดย 2 เดือนนั้นอยู่ฟรีแต่จริงๆ คงอยู่ฟรีมาหลายเดือนแล้วจนเจ้าของบ้านเอื่อมเลยขายบ้านทิ้งในราคาถูกจาก 25..... เป็น 20.....เพราะเบื่อเก็บค่าเช่า พอถึงกำหนดเลยมาเกือบครึ่งเดือนไม่มีทีท่าเก็บของ เราเข้าไปคุยอ้างโน้นอ้างนี้บอกหาบ้านไม่ได้อะไร............. เราก็เลยจัดหนักโดยไม่ได้คิดว่ามันจะช่วยอะไรได้หรือไม่ได้แค่โมโห (จากดีกลายเป็นร้าย) ถ้าไม่ย้ายออกไปเอาบัตรประชาชนมา เราจะให้ทำสัญญาเช่าบ้าน ไม่ออก ไม่ว่า  แต่ต้องจ่ายค่าเช่าจะอยู่ไปกี่ปีกี่ชาติก็อยู่ไป แต่จะเข้ามาเก็บทุกเดือน (พี่ชายเป็นทนายด้วยนะ อยู่ดีๆ ก็พูดออกมาว่าคุณทำอย่างนี้ไม่ได้) เราเลยแหกปากดังลั่นไม่สนใจอยากอยู่ก็ต้องทำสัญญาเช่า เราต้องเอาเงินไปจ่ายแบงค์ทุกเดือนพวกคุณจะมาอยู่ฟรีได้ไง สุดท้ายยอมเอาบัตรมาให้ทำสัญญาเช่า แต่พอสิ้นเดือนนั้นพี่แกก็ย้ายออกเลย ระหว่างก่อนทีเค้าจะย้ายออกก็เครียดซื้อบ้านก็อยากอยู่แต่ไม่ได้อยู่  แต่พอเค้าออกก็มานั่งนึกในใจ  เราก็ใจร้ายไปหรือป่าวเค้าอาจจะยังหาบ้านไม่ได้จริงๆ   กลับมาเป็นทุกข์อีก เหอะ..........(*~*) ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าซื้อเลยค่ะ  บ้านมือสอง จากคุณ : I don't "Compare" เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 09:25:01

ความคิดเห็นที่ 68 เข้าใจและเห็นถูกต้องตามจขกท.ทุกประการค่ะ เราเองก็เคยกู้ซื้อบ้านมาแล้วรู้ดีว่าขั้นตอนทั้งหมดเป็นยังไง มันไม่ได้ง่ายอย่างอย่างที่คุณ...... คนนั้นว่านะคะ ซึ่งถ้าเค้าทำอย่างที่เค้าบอกจริงมันก็งี่เง่ามาก และปัญญาอ่อนสุดๆ ด้วย ไม่ใช่แค่รวยมีเงินซื้อบ้านหลายๆ หลังเท่านั้นจะทำได้นะคะ แต่ต้องโง่!!! ด้วยค่ะ จากคุณ : Moody Girl เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 09:33:10

ความคิดเห็นที่ 69 บาง คห. ตอบเหมือนเจ๊มาเองเลย อิอิ จากคุณ : kwan_za44 เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 09:59:03

ความคิดเห็นที่ 70 เป็นกำลังใจให้ครับ ขอให้เรื่องจบ ลงด้วยดีครับ จากคุณ : D_YONG เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 10:17:35

ความคิดเห็นที่ 71 ขอบคุณกระทู้นี้... ที่ช่วยย้ำความเชื่อของผมอีกครั้งว่า... " คำพูดคน มันเชื่อถือไม่ได้จริงๆ "      เจอมาเยอะแล้ววววว จากคุณ : bhO_bhE เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 10:28:04

ความคิดเห็นที่ 72 ผม งงกับคุณ"รุ่งโรจน์ทวีคูณ" มาก ถ้าอ่านและเข้าใจแบบชาวบ้าน ทั่วไปก็น่าจะรู้ว่า ปัญหาอยู่ที่เจ๊เจ้าของบ้าน เล่นแง่ ไม่ยอมย้าย จขกท. ทำถูกทุกอย่าง ยอมทุกอย่างที่ยอมได้แล้วนะ หรือว่า ผมเข้าใจ อะไรผิดไป ขอบอกว่า "งง" กับความคิดคุณจริงๆนะ เงินเค้าก็เสีย ให้เจ้าของอยู่ต่อตามตกลง ไม่ได้ไล่ออกไปซักหน่อย ผมว่าจขกท.เค้าก็อธิบายได้ชัดเจนนะ งงกับคุณจริงๆ ส่วนจขกท. เห็นด้วยว่าควรใช้ไม้แข็งครับ แจ้งตำรวจข้อหาบุกรุกได้เลย ไม่ต้องเจรจาอะไรแล้วหละเสียเวลากับคนแบบเดียวกับบางคห.ในกระทู้นี้ จากคุณ : เมาคลีกับลูกหมาป่า เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 11:11:17

ความคิดเห็นที่ 73 เพลียแทนครับ.. คุณ จขกท ทนอีกนิดนะครับ ไหนๆก็ทนมาแล้ว วันนี้ก็ปล่อยให้สิ่งไม่ดีลอยไปกับกระทงครับ (เอาอิเจ้ไปลอยได้ ก็จะดีมั๊ยๆ 55) เรื่องที่คุณจะย้ายของไปไว้ก่อนผมว่าอย่าเพิ่งเลยครับ เสี่ยงเปล่าๆ คุณจะเจ็บใจไปอีกถ้าเจ้แกบอกว่าของนั้นเป็นของแก แล้วขนไปเลย รอครับอีก 2-3 วันเอง แล้วก็เอาน้ำมนต์ไปพรมรอบบ้านล้างอัปมงคล เสริมสิริมงคลครับ บ้านจะได้หน้าอยู่ครับ บ้านผมทุกหลัง ซื้อ มือ 2 มาหมด ผม เดินพรมน้ำมนต์เองทุกหลัง ก่อนจะนิมนต์พระมาทำบุญบ้าน ขอให้มีแต่เรื่องดีๆ สิ่งดีๆเข้ามานะครับ (อย่าลืมแผ่เมตตาให้เจ้แกด้วยครับ แกรอรับอยู่นะผมว่า) จากคุณ : pomcondo เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 11:29:55

ความคิดเห็นที่ 74 เราขายบ้านมา 3 หลัง ที่ดิน 1 แปลง ไม่เห็นจะต้องทำเรื่องมากมายกับผู้ซื้ออย่างยัยเจ๊นั่นเรยย ตอนตกลงซื้อขายกัน ก็ทำสัญญาจะซื้อจะขายให้ผู้ซื้อนำไปกู้แบงก์ โดยผู้ซื้อก็วางเงินมัดจำ 10000 - 1 แสน ตามราคาบ้านมากน้อยลดหลั่นกันไปแค่นั้นเอง ซึ่งบ้านที่ขายก็ไม่มีคนอยู่ โอนเสร็จคนซื้อก็หิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เรยยเพราะตกแต่งไว้แล้ว ถ้าวางเงินมัดจำ 5 แสน บ้านน่าจะหลัก 5 ล้านอัพนะเนี่ยยย จากคุณ : Bit_Bloom เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 11:33:00

ความคิดเห็นที่ 75 แปลกดีนะ มีคนมาแก้ต่างให้ คนที่จะขายบ้าน สงสัยจะพรรคพวกเดียวกัน หรือเปล่า ยิ่งอ่าน ยิ่งสงสัย จากคุณ : josjack1 เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 11:39:27

ความคิดเห็นที่ 76 เจ๊เค้าเหลี่ยมจัด จากคุณ : ploynisa เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 11:56:13

ความคิดเห็นที่ 77 บอกตามตรง  ตั้งแต่ทำการซื้อขายบ้านมา(บ้านมือหนึ่งนะคะ ไม่ใช่มือสอง)  ก็งงกับความเห็นของคุณรุ่งโรจน์ เหมือนกันค่ะ ความเห็นของคุณแปลกและตลกมากเลยค่ะ ไม่ว่าเราจะมองมุมไหน คุณก็แปลกอยู่ดีค่ะ ไม่ได้เข้าข้าง จขกท หรอกนะคะ แต่เคสนี้เราว่าเจ้แกมีพฤติกรรมที่น่าสงสัยอยู่ในทีแหละค่ะ กรณีการซื้อขายบ้าน  มันต้องทำสัญญาจองและสัญญาจะซื้อจะขายกันอยู่แล้ว อยุ่ที่ตกลงกันว่าจะทั้งจองทั้งทำสัญญาซื้อขายทีเดียวเลยหรือไม่เพื่อความสะดวก เช่นครั้งแรกอาจจะแค่จองก่อน และผู้ซื้อทำยื่นเรื่องกู้แบงค์ รอผลว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน  ในขั้นตอนนี้ ผู้ซื้อผู้ขายก็สามารถตกลงกันได้ว่าถ้ากู้ไม่ผ่าน ผู้ขายจะริบเงินจองหรือว่าจะคืน อันนี้อยุ่ที่ตกลง ซึ่งส่วนใหญ่ถ้ากรณีคืนเงินจอง ถ้ากู้ไม่ผ่าน กรณีนี้ ระหว่างการรอผลแบงค์ผู้ขายก็ยังมีสิทธิ์ขายผู้อื่นได้อยู่  แต่ต้องแจ้งให้ผู้ซื้อทราบด้วย   พอแบงค์ผ่านก็ค่อยมาตกลงทำสัญญาจะซื้อจะขายกัน  โดยอาจมีการวางมัดจำเพิ่มเพื่อให้ผู้ขายมั่นใจในเครดิตผู้ซื้อ อันนี้ก็ว่ากันไป ว่ากี่% ส่วนใหญ่ก็5-10% หรือแล้วแต่ว่าผู้ซื้อเค้ากู้ได้เท่าไร่ ทีเหลือก็เอามาเป็นมัดจำ แล้วเราผู้ขายค่อยไปรับเงินจำนวนทีเหลือในวันโอน  ความจริงมีเท่านี้เอง ขั้นตอน ทีนี้พอวันโอน เข้าใจว่าผู้ขายกลัวโดนเช็คปลอม เช็คเด้ง  สามารถตรวจสอบได้จากเจ้าหน้าที่แบงค์ แต่กรณีของ จขกท มันตลกตรงที่ เจ้แกจะขอเอาเช็คไปตรวจ ซึ่งถ้าเป็นคุณ ถ้าคุณมีเช็คอยู่ในมือ คุณจะให้เช็คเข้าไปตรวจเหรอค่ะ ทั้งที่ยังไม่ได้โอนบ้านเลย  เกิดเค้าไปขึ้นเงินแล้วหายไปเลย ทำไงค่ะ แต่จริงๆแล้ว เช็คแบงค์จะเป็นฝ่ายถือมาเองค่ะ ในวันโอน การตรวจสอบก็แค่ติดต่อกับเจ้าหน้าที่หรือไปที่แบงค์ที่ดำเนินการอยุ่ณ สาขานั้นๆ ( ซึ่ง จขกท เค้าก็ได้ให้เบอร์โทรเจ้าหน้าที่แบงค์ให้ไปพูดคุยกันแล้ว สำหรับใครที่อ่านไม่จบหรืออ่านไม่เคียร์นะคะ ก็น่าจะจบเรื่องนะเราว่า ก็ถือว่า จขกท เค้าค่อนข้างจะจริงใจจริงๆ) พอ ณ วันโอน เมื่อเจ้าหน้าแบงค์นำเช็คมาให้ที่กรมที่ดิน เมื่อตรวจสอบเสร็จแล้วก็ควรจะโอนให้เรียบร้อยไม่ควรจะยึกยัก อีกเรื่องคือ เรื่องขอเข้าอยุ่  เราอ่านวนอยู่หลายรอบ  เราว่า จขกท เค้าค่อนข้างมีน้ำใจอยุ่มากโข  ทั้งที่ตอนแรก เจ้แกปากดีทำเป็นว่าถ้าขายได้จะย้ายออกทันทีเลยงั้นงี้  แล้วเอาเข้าจริงมาลีลาว่าขออยู่ต่อถึงวันที่25 เดว 25 ก็ออกแล้ว  จขกท เค้าก็ยังอุส่าเผื่อให้อยุ่จนสิ้นเดือน เรื่องจะได้จบๆกันไป แต่ขอแค่เอาของบางส่วนเข้าไปเก็บในห้องใดห้องหนึ่ง ซึ่ง จขกท เค้าอาจจะล๊อคห้องนั้นไว้กันของหายก็ได้ (อันนี้หลายความเห็นเบี่ยงประเด็นมาสนใจจุดนี้กันมาก ซึ่งในความจริงมันเป็นคนละเรื่องกับปัยหาเลย ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของ จขกท เค้านะคะ ของจะหายไม่หาย เค้ารับผิดชอบเอง คุณไม่ต้องเดือดร้อนแทนก็ได้นะคะเราว่า) อ่านกี่รอบๆ เราก็ว่า จขกท ไม่ว่ามองมุมไหนเค้าก็ไม่ผิดนะคะ ถ้าทุกอย่างเป็นแบบที่เล่ามาจริงๆ จากคุณ : glamor เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 12:19:28

ความคิดเห็นที่ 78 จะซื้อบ้านต้องวางเงิน 5 แสน ถ้าเป็นอย่างนี้หมด ผมคงต้องเช่าบ้านเค้าอยู่ตลอดชีวิตมั้งครับ กำ...จริง T-T จากคุณ : Piboonsak เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 12:26:03

ความคิดเห็นที่ 79 สงสัย คุณ"รุ่งโรจน์ทวีคูณ"  อะไรเนี้ยะ จะเป็นญาติ หรือกิ๊กยายเจ๊หรือป่าว  เข้าข้างซะสีข้างถลอกเลย เฮ้อ จากคุณ : benjyja เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 12:39:11

ความคิดเห็นที่ 80 ก็ใครบางคน บอกว่าจะไม่ออกความคิดเห็นแล้ว แต่ก็แปลงกายมาใช้ชื่ออื่น ออกความคิดเห็นอยู่ดี จากคุณ : ป เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 13:12:02 A:203.146.3.251 X: TicketID:203339

ความคิดเห็นที่ 81 ตอนแรกว่าจะอ่านเฉยๆ เพราะความเห็นอื่นๆ แนะนำไปหมดแล้ว แต่พอเห็น เม้นท์ของคุณรุ่งโรจน์ทวีคูณ แล้วอดไม่ได้ เออ...มีคนคิดอย่างนี้บนโลกนี้ด้วยวุ้ย จากคุณ : Girl From Jupiter เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 13:12:17

ความคิดเห็นที่ 82 จากที่อ่านดู  ท่าทางไม่น่าซื้อแล้วอ่ะค่ะ แล้วจะอยู่เป็นสุขได้ยังไง  ในเมื่อเพื่อนบ้าน ที่อนาคตก็จะเป็นเพื่อนบ้านของคุณ   ยังเข้าข้างเจ๊คนนี้เป็นปี่เป็นขลุ่ย จากคุณ : KIMdEARJAE เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 13:32:05

ความคิดเห็นที่ 83 'รุ่งโรจน์'อะไรนี่ อวตารมาเป็น log in  อื่นเฉยเลย --" จากคุณ : ปฎิทินบินได้ เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 13:34:30

ความคิดเห็นที่ 84 คุณ รุ่งโรจน์ทวีคูณ ยังอ่านกระทู้อยู่เปล่า ถ้าคุณไม่ใช่ญาติยายเจ๊นั่น ผมว่าคุณน่ะบ้าไปแล้ว จากคุณ : Acer เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 13:44:14 A:115.87.64.96 X: TicketID:366060

ความคิดเห็นที่ 85 คุณ รุ่งโรจน์ จะบ้านเก่า บ้านใหม่ จ่ายครบต้องได้อยู่ คนขายออก คนซื้อเข้า สมมุติถ้าคุณซื้อรถใหม่สักคัน จ่ายเงินเสร็จจะสดหรือจะผ่านไฟแนนซ์ก็ตาม ประกฏว่าทางโชว์รูมบอกว่า พอดีรถที่ให้ลูกค้าทดสอบมีปัญหา จะขอยืมใช้รถของคุณก่อนสักประมาณ 1-2 เดือน เมื่อใช้เสร็จจะโทรแจ้งให้คุณมารับรถไปได้เลย อย่างนี้ใช้ได้ไหมครับ เพราะอย่างไรคุณก็ได้รถคันที่คุณซื้ออยู่แล้ว คุณน่ายอมๆกันหน่อยนะ คุณรับได้ไหมครับ จากคุณ : ฮ เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 13:54:00 A:101.109.167.91 X: TicketID:207097

ความคิดเห็นที่ 86 อุตส่าห์ซื้อบ้านที่ถูกใจได้แล้ว เจอปัญหาแบบนี้น่าเห็นใจจขกท.นะคะ ยัยเจ๊ทำเสียฤกษ์หมด แทนที่จะได้เข้าบ้านแบบชืนมื่น ยังไงก็ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดี ถ้าพวกเจ๊มาอ่านก็ดี จะได้รู้ว่าคนทั่วๆไปเค้าทำกันยังไง ขายแล้วไม่ยอมออก บ้าไปแล้ว เราซื้อบ้านตอนย้ายไปต่างประเทศ ไปดูบ้าน ทำสัญญาทันทีหลังจากดู ขอเจ้าของบ้านว่าถ้าเป็นไปได้ขอเข้าอยู่ในอีกสองอาทิตย์ บร๊ะเจ้า เจ้าของบ้านโอเค ขนของย้ายออกทันด้วย นี่แหละ เค้าต้องทำแบบนี้ พูดไว้ยังไงต้องทำอย่างนั้น เจ้าของบ้านใจหายน่าดูเลย บอกขายปุ๊บ ขายได้ปั๊บ ย้ายออกในสองอาทิตย์ จากคุณ : ปลาหมึกโป๊งโป๊งชึ่ง เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 13:57:00

ความคิดเห็นที่ 87 เราว่าคุณรุ่งโรจน์ฯ ก็ออกความเห็นกลางๆทั่วๆไป โดยนำเสนอให้เห็นมุมมองของอีกฝ่าย เพื่อช่วยให้ จขกท มองเห็นปัญหาและแก้ให้ตรงจุดมากกว่า บางความเห็นก็แรงเกิน สังคมจะอุดมปัญญาเพราะความเห็นต่างและเสนออย่างมีเหตุผล (แกก็ไม่ได้เห็นต่างแบบเกรียนๆซะหน่อย) ส่วน จขกท. ขอให้ผ่านพ้นปัญหาไปได้ด้วยดีค่ะ เป็นกำลังใจให้ จากคุณ : thekay เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 14:07:46

ความคิดเห็นที่ 88 อยากเห็นหน้าเจ๊  ครับว่าหน้าตาเป็นยังไง ส่วนคุณอีกคน ไม่อยากเห็นหน้าครับ กลัว เพลีย... จากคุณ : หัวใจละเหี่ย เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 14:12:17

ความคิดเห็นที่ 89 สงสัยว่าเวลาทำสํญญาจะซื้อจะขายต้องวางเงินเท่าไหร่เหรอคะ  เพราะตอนเราซื้อบ้านเราวางแค่หนึ่งหมื่นบาท ซึ่งในสัญญาจะมีเขียนไว้อยู่แล้วว่าถ้าเราไม่มาซื้อมาโอนภายในวันนั้นวันนี้ เจ้าของบ้านก็ได้เงินไปเลย  เราไม่เห็นว่าเค้าจะเสียหายอะไรเลย ทำไมต้องกลัวด้วยล่ะ  มันไม่ใช่สัญญาซื้อขายนี่นา  แค่ "จะ"ซื้อ "จะ"ขาย ไม่ใช่เหรอคะ จากคุณ : Anonym เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 14:26:54

ความคิดเห็นที่ 90 รุ่งโรจน์ ฯ ไม่แสดงความเห็นอะไรจะงามกว่านะ หรืออยากมีชื่เสียง ? จากคุณ : ลุงโถน เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 14:36:06

ความคิดเห็นที่ 91 คนประสาทแบบเจ๊คนนี้มีอยู่จริงค่ะ ญาติเราซื้อบ้านในซอยโชคชัย 4 เหมือนกัน ตกลงราคากันดิบดีกับเจ้าของบ้านที่มีดีกรีเป็นถึงด็อกเตอร์ คุยตกลงราคากันเรียบร้อย แต่ด็อกเตอร์บอกว่าไม่รับมัดจำใด ๆ ทั้งสิ้น รับแต่เงินสดและไม่รับเช็คด้วย (แคชเชียร์เช็คยังไม่ยอมรับเลย) ต้องนำเงินสดหรือโอนเงินเข้าธนาคารให้เขาเท่านั้น เขาถึงจะยอมโอนให้ ญาติเราอยากได้บ้านนี้มาก วัดใจกันไปเลย เพราะดูแล้วด็อกเตอร์คงไม่โกงหรอกเพราะมีบ้านหลายหลัง แต่คงจะวิตกจริตมากเกินไป ญาติเราเลยโอนเงินเข้าบัญชีให้เขาไปเลย 2 ล้าน ใคร ๆ ก็บอกว่าทำแบบนี้เสี่ยงเกินไป แต่ sense คงบอกว่าไม่เป็นไรมั้ง สุดท้ายด็อกเตอร์พอเช็คว่ามีเงินเข้าจริง ก็ไปโอนบ้านให้ค่ะ ตอนแฟนเราซื้อบ้านมือสองมูลค่าบ้าน 2 ล้านกว่า ก็วางมัดจำ 5 หมื่นค่ะ  วางมัดจำน้อย ๆ เจ้าของบ้านก็อาจจะกลัวได้ค่ะ (ความเห็นส่วนตัว) จากคุณ : paripan เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 14:37:39

ความคิดเห็นที่ 92 อ้าว ซื้อบ้านแล้ว กำหนดเข้าอยู่ก็ตกลงกันแต่แรก   คุณรุ่งโรจบอกเราต้องหยวนๆ ให้เขาอยู่ไป 3- 4 เดือนจะได้ไม่มีัปัญหา  O_o สมมุติ เราเช่าห้องไว้และบอกเลิกห้องเพื่อเตรียมเข้าอยู่ในวันนี้ๆ มาเจอยังเจ้นี้ด่ากราดและไม่ยอมย้ายออก   นี่มันเป็นเรื่องที่ควรหยวนเหรอคะ สรุป  เราก็ต้องเช่าห้องต่อไป และก็ต้องมานั่งจ่ายค่างวดบ้านอีกทาง (ทั้งที่บ้านเป็นกรรมสิทธิ์เราแล็ว??????????) จากคุณ : นาโนจัง เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 14:39:41

ความคิดเห็นที่ 93 ผมว่าประเด็น 500000 มันไม่ใช่ประเด็นแล้วนะครับ เพราะการซื้อขายมันจบไปแล้ว ตอนนี้เหลือสัญญาที่ให้อยู่ต่อ จนถึงสิ้นเดือนนี้ ผมว่า จขกท. ก็รอจนถึงสิ้นเดือนนี้ ก่อน ถ้าไม่ออก ก็ไป ไล่ ให้ออกทีหลังได้ครับ ส่วน ทะเบียนบ้าน ก็ไม่จำเป็นต้องขอเค้าหรอกครับ ลองติดต่อที่เขตดูว่าเค้าจะทำยังไงให้ได้ ในเมื่อ จขกท. ทำสัญญาให้อยู่ต่อถึงสิ้นเดือนแล้ว ก็ต้องยึดตามนั้นครับ .. สิ่งที่พูดๆกัน มันเลื่อนลอย ใช้เป็นหลักฐานไม่ได้เลยครับ จากคุณ : padawan เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 14:46:08

ความคิดเห็นที่ 94 อ่านยังไงคนขายก็ผิดค่ะ เพราะบ้านเป็นของคนซื้อตั้งแต่โอนบ้านแล้ว จะมาอ้างอย่างโน้นอย่างนี้ไม่ได้หรอกค่ะ แล้วที่จะต้องให้อยู่บ้านต่ออีกกี่่เดือน ตามที่คุณรุ่งโรจน์ทวีคูณแนะนำไว้เป็นตัวอย่างเนี้ยก็ไม่ได้มีกฏให้ต้องทำตามนะคะ แค่ให้อยู่ 1 เดือนก็มีน้ำใจมากแล้วค่ะ แต่ที่ไม่เข้าใจคือ เวลาจะขายบ้านและรับเงินเขามาตั้ง 5 แสนเนี้ยยังไม่แน่ใจอีกหรือคะว่า เขาจะมาซื้อบ้านเราแน่ๆแล้วจริงๆ เลยไม่เตรียมตัวไม่คิดที่จะเก็บข้าวเก็บของอะไรเลย และอีกอย่างคนขายก็บอกว่าตัวเองมีที่ไป จะรีบไป แต่ที่ชักช้าอยู่เนี้ยเพราะอะไร ไม่เข้าใจ ทีพ่อเราจะเอาบ้านให้คนอื่นเช่าทั้งที่ตัวเองยังไม่ย้ายออก ยังเก็บบ้านซะเรียบร้อยเลย หรือมันอยู่ที่สันดานคนค่ะ จากคุณ : เกตุวงศ์จันทร์ เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 15:29:00

ความคิดเห็นที่ 95 แจ้งความ พาตำรวจไปเป็นพยายาน เอาให้หนัก จัดให้เต็ม ข้อหาฉ้อโกง,บุกรุก , หมิ่นประมาท ฯลฯ ใส่เข้าไปให้เสียค่าปรับเยอะๆ จากคุณ : ปลิง เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 15:31:05 A:203.146.3.251 X: TicketID:203339

ความคิดเห็นที่ 96 ผมซื้อบ้าน 1.85 ล้านย่านลาดพร้าว มัดจำทำหนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย หมื่นเดียวเอง จากคุณ : tum911 เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 15:38:19

ความคิดเห็นที่ 97 @คุณรุ่งโรจน์ทวีคูณ ใจเขาใจเราคือสิ่งที่เรายึดมั่น ถ้าคิดถึงใจเขาอย่างเดียว ไม่คิดถึงใจเราก็ไม่ต้องซื้อบ้านอยู่แล้วล่ะค่ะ ไปอยู่วัดเหอะ อ่านแล้วก็จับใจความนิดนึงนะคะ จากคุณ : PlaTonGzaA เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 15:45:46

ความคิดเห็นที่ 98 ผมว่าคุณรุ่งโรจน์ทวีคูณ เป็นคนจิตใจเอื้ออารีย์จึงแสดงความเห็นออกมาอย่างนี้ 100 คนก็ 100 ความคิด 100 เหตุผล นานาจิตตังคับ อย่าไปตัดสินว่าเค้าเข้าข้างคนขายหรือว่าเค้าเป็นคนไม่ดีเลย (บางคคห.ก็ดันไปว่าเค้าเป็น...) ผมเห็นพี่เค้าแสดงคคห.ดีๆมาหลายกระทู้แล้ว อย่าไปตัดสินคนๆนึงจากกระทู้เดียวเลย.. จากคุณ : kk (kreingwit) เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 16:06:49

ความคิดเห็นที่ 99 ปะติดปะต่อเรื่องราว สรุปเองได้ว่า... จริง ๆ เจ้าของบ้านคนเดิม  อาจไม่ใช่คนเลวร้ายนัก แต่มันแย่หนัก ตรงที่มี   "เพื่อนบ้านตัวแสบ"  มายุแยงให้กลัวนั่นกลัวนี่ ไม่เข้าเรื่อง!! แถมยังเนียน...เข้ามาโชว์ตรรกะเพี้ยน ๆ  ในกระทู้นี้อีกหลายความเห็นเลย  จขกท. คะ ... เราว่าคุณคงยังต้องปวดหัวไปอีกนานค่ะ  ที่กำลังจะมีเพื่อนบ้านแบบนี้อยู่ใกล้ ๆ บ้านคุณ  ... เพลียแทน!! **edit เพิ่มข้อความ ปล.** ปล.  คห. 98 คะ เราลอง search ชื่อที่คุณว่าแล้ว ก็ไม่เห็นว่าเค้าจะมีน้ำใจช่วยตอบคำถามอะไรมากมายเลย แถมยังเป็นผู้หญิงมั่ง ผู้ชายมั่ง ... ตอนเป็นหญิง ก็บอกยืมล็อคอินพี่ชายแฟนมา  แต่ขอโทษค่ะ ไม่เนียน!! เพราะสำนวนการเขียน การเว้นวรรค ช่องไฟต่าง ๆ เหมือนเดิมทุกครั้ง  ... กลับไปฝึกมาใหม่นะคะ คราวหน้าขอเนียนกว่านี้หน่อยค่ะ แก้ไขเมื่อ 28 พ.ย. 55 20:41:34 แก้ไขเมื่อ 28 พ.ย. 55 20:38:39 จากคุณ : nattynine เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 16:14:36

ความคิดเห็นที่ 100 เราว่า  คุณรุ่งโรจน์ทวีคูณ  หยุดให้ความเห็นเถอะค่ะ   ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่เข้าข้าง หรือ เข้าใจในตรรกะ ปัญญาอ่อน ของคุณ ไม่ต้องดึงดัน ให้คนอื่นเค้าเห็นแบบคุณหรอกค่ะ   เพราะคนอื่นเค้ายังสติดีอยู่ จากคุณ : ขออภัยในความสวย (//JaE_PhUn) เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 16:30:53

ความคิดเห็นที่ 101 แนะนำ จขกท.ดีกว่า พอถึงวันที่ 1 ธ.ค. หากเจ้าของเก่ายังไม่ย้ายออก คุณเอากุญแจไปล็อคประตูไว้เลย ไม่ต้องให้ใครเข้าออกบ้านได้ พร้อมถ่ายรูปบ้านให้ละเอียดที่สุดเท่าที่ทำได้ จากนั้นไป สน.ท้องที่ ขอลงบันทึกเป็นหลักฐานไว้ เรื่องที่ล็อคบ้านของคุณ และกำหนดเวลาที่คุณจะเข้าไปใช้บ้านหลังนั้นในวันที่... (5 วัน 7 วัน ก็ว่าไป) และหากพบว่าเจ้าของเก่ายังไม่ขนย้ายทรัพย์สินออกไป จขกท.จะนำไปเก็บ หรือขนย้ายออกมาจากตัวบ้าน โดยจะไม่รับผิดชอบความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับทรัพย์สินดังกล่าว ขอถ่ายสำเนาบันทึกนั้นไว้ อย่างน้อย 2 ฉบับ เก็บไว้กับตัว 1 เอาไปติดที่บ้านหลังนั้นอีก 1  แล้วถ่ายภาพที่ติดบันทึกไว้กับบ้านเก็บไว้ อย่างน้อย คุณก็ควรมีสิทธิ์ทำอะไรกับทรัพย์สินที่ตัวเองซื้อมาได้บ้าง ขอให้ปัญหาจบสวยๆ ละกันครับ จากคุณ : กระชอนซ่อนเม่า เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 16:33:09

ความคิดเห็นที่ 102 ผมว่ากรณีนี้ หาดพ้นกำหนดที่ตกลงกันแล้ว ยังเข้าใช้ประโยชน์ทรัพย์สินไมได้ ลองปรึกษาทนาย ฟ้องขับไล่ดีน่าจะได้ครับ เรียกค่าเสียหายไปด้วยเลย พร้อมค่าขาดประโยชน์จากการใข้ทรัพย์สิน ฟ้องขับไล่ คงใช้เวลาไม่นานมาก พอศาลพิพากษาแล้ว ก็ให้ตำรวจมาจับไป แก้ไขเมื่อ 28 พ.ย. 55 17:51:53 จากคุณ : CasanovaTank เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 17:46:36

ความคิดเห็นที่ 103 รุ่งโรจน์ เนี่ย ผัวเจ้ป่ะ เห็นต่างไม่ได้เท่ห์เสมอไปนะครับ จากคุณ : King_Baboon เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 17:54:11

ความคิดเห็นที่ 104 อืมม น่าสนใจ จากคุณ : กระเฉดหมูกรอบ เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 19:26:41

ความคิดเห็นที่ 105 อ่านแล้วมันก็กระจ่างชัดนะ ไม่เห็นว่า จขกท เค้าไม่ได้ทำอะไรผิดนี่นา เธอก็ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง  แล้วสาเหตุที่เธอมาบ่นก็คือ  เจ้าของบ้านเดิม ที่เป็นคนไม่ใช่ผี ยื้อเวลาไม่ยอมย้ายออก ทั้งที่ได้เงินครบแล้ว   เธอมาระบายความอัดอั้น เผื่อใครในนี้จะมีคำแนะนำดีๆให้เธอบ้าง เธออยากได้กำลังใจนะคะ เราสรุปตามที่เข้าใจนะ  คือ เนียะเป็นการกู้ธนาคารเพื่อซื้อบ้านมือสองครั้งแรกในชีวิตของเธอ และก็ทำตามขั้นตอนในการขอกู้ไปจนเสร็จสิ้น ได้เงินมาให้เจ้ ทำเรื่องโอนกับทางที่ดิน (แม้เจ้จะโยกโย้ หลายตลบ ก็ยังผ่านมาได้)   ส่วนเจ้เจ้าของบ้านเดิมเนียะ อยากจะขายบ้าน ก็น่าจะรู้ตัวอยู่แล้วว่าขายแล้วจะไปอยู่ใหน (จะรีบกลับใต้ จะย้ายของไปคอนโด เท่าที่อ่าน) แล้วที่นี่พอได้เงิน ก็เล่นแง่ ลีลา ท่าเยอะ กลัวโกง แต่ทั้งหมดก็ผ่านไป ไม่โดนโกงนี่นา  เงินล้านถึงมือ แล้วจะกลัวอะไรอีก ได้เงิเป็นล้านเชียวนะ  แต่ไม่ยอมออก ทำสัญญาให้อยู่จนถึงวันใหน พอถึงกำหนด ก็ไม่ออก  จขกท ก็ยังเข้าใจยอมให้อยู่ แต่ เมื่อเธอคือเจ้าของบ้านคนใหม่ มีสิทธิ์ทุกอย่าง เสียเงินซื้อด้วยนะ เธอแค่อยากไปแสดงความเป็นเจ้าของบ้านซักหน่อยโดนการขอย้ายของเข้าไปในบ้าน โดยแจ้งให้คนเก่าทราบด้วยนะ ไม่ใช่สุ่มสี่สุ่มห้าเข้าไป ทั้งที่เธอก็ทำได้ แต่สิ่งนี้ทำให้เธอโดนด่าจากเจ้เจ้าของคนเก่า นั้นคงเพราะเจ๊หมดมุขแล้ว เจ๊ เลยเล่นแนวบู๊ซะเลย  เฮ่อ  คนนะไม่ใช่ผี  เป็นเราเจอแบบนี้ก็ท้อ เห็นใจคุณนะคะ เพราะเราเองเคยมีความคิดระหว่างซื้อสร้างบ้านใหม่หรือซื้อบ้านมือสอง ดูๆอยู่ ทั้งทางเว็ป และทางกรมบังคับคดี บ้านหลุดจำนองธนาคาร และเข้ามาอ่านในห้องนี้บ่อยๆ  แต่เท่าที่ติดตามมา ปัญหาเรื่องกู้ธนาคารยังไม่ยากเท่า จะทำยังไงเมื่อเจ้าของเดิมไม่ยอมย้ายออก จากคุณ : มณีดารา เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 20:33:09

ความคิดเห็นที่ 106 โหวตให้ค่ะ ให้ผ่านไปด้วยดีนะค่ะ  จะจำไว้ถ้าซื้อบ้านมือสองค่ะ จะไล่เจ้าของบ้านเก่าออกไปตั้งแต่วันโอนเลยทีเดียว ไม่อยากมาเจ็บใจทีหลัง จากคุณ : นางร้ายของเจสัน เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 20:34:53

ความคิดเห็นที่ 107 คุณจขกท. พอครบกำหนด ไปกับตำรวจท้องที่ พร้อมทนายความเลยก็ได้ เพราะมีกฎหมายอยู่ข้อหนึ่ง จำไม่ได้แล้วว่า ถ้าไม่ขนย้ายออกตามกำหนดเวลา จะต้องเสียค่าฝากของ/ เดือน จะยอมจ่ายไหม เพราะทำให้เราเสียโอกาส ขาดรายได้ เสียเวลา ทำนองนี้แหละ เพราะที่บ้านก็ชอบซื้อบ้านมือสอง ส่วนมากพี่สาวจะดำเนินการเอง ก็ไม่ค่อยมีปัญหา ถ้ามีก็จะนำตำรวจท้องที่ไปด้วย จากคุณ : checgo (ji-ju) เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 20:55:57

ความคิดเห็นที่ 108 เพลียพวกโง่แต่ขยัน ครับ จากคุณ : sooroo14 เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 21:42:24

ความคิดเห็นที่ 109 เจ้เค้าอาจจะเอา 500000 ที่วางมัดจำไว้ เอาไปปล่อยกู้นอกระบบดอกร้อยละ 20 ยังไม่ได้ต้นคืนหรือป่าว อย่างต่ำมันต้อง 5 เดือนถึงจะได้ดอก 500000 แล้วก็เอาดอกทีได้มารวมกับเงินในเช็คที่ได้ไปซื้อบ้านหลังใหม่ของเจ้ได้ บ้านก็ยังอยู่ได้ต่อ เงินก็มีใช้ เป็นเทคนิคง่ายของพวกหัวหมอทั้งหลาย เป็นผมวางมัดจำ 500000 สามเดือนนี้ผมเผ่นแล้ว เงินมากขนาดนี้ฝากประจำ 3 เดือนได้ดอกเกือบหมื่นแล้ว กรณีนี้ฟ้องศาลอย่างเดียว ให้ศาลบังคับย้ายออกทันทีพร้อมค่าเสียหายต่างๆ แก้ไขเมื่อ 28 พ.ย. 55 21:55:29 จากคุณ : march_k เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 21:54:34

ความคิดเห็นที่ 110 ทายว่าเจ๊เจ้าของบ้านเอาเงินไปติ้วแล้วหมุนไ่่ม่ทัน เลยกลัวผัวรู้หรือเปล่า .... จากคุณ : บะหมี่น้ำชามนึง เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 23:08:57

ความคิดเห็นที่ 111 คห.28  " ก็บอกแล้วไงครับ ว่า  คุณต้องทำให้คนขาย เขาไว้วางใจเราก่อน   ทุกอย่าง ก็จะราบรื่นนะ  และคุณต้อง ยอมให้เขา อยู่ฟรีไปก่อนสัก เดือน สองเดือน อย่าไปเร่งให้เขาย้ายออก  จะผิดใจกันเปล่า ๆ  " เราต้องเอาใจคนขายขนาดนั้นเลยเหรอครับ???   คือถ้ากรรมสิทธิ์ เป็นของเราเมื่อไหร่ เข้ามาอยู่โดยไม่ได้รับอนุญาต คือบุกรุกแล้วครับ ต่อให้ จะเป็นเจ้าของเดิมก็ตาม   คือไม่ใช่ใจร้ายนะครับ แต่คิดเอาใจเขาใจเรา ถ้าเราต้องมาตามจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ค่าซ่อมบำรุงบ้าน ในช่วง 2-3 ที่ให้อยู่ฟรีเนี่ยก็   :-)  แล้วครับ   ไหนบอกมีคอนโด ใกล้ๆสามารถย้ายออกได้ทันที ก็ควรรีบออกเถอะครับ   กรณีแบบนี้คือ  หวงก้าง แล้วหละ จากคุณ : EleMent M@stER เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 00:02:23

ความคิดเห็นที่ 112 คุณรุ่งโรจน์ทวีคูณ เป็นใครบอกให้ชัดดีกว่า อ่านเกือบไม่จบก่อนมาเขียน ซะอีก ทนอ่านจนจบกับความคิดเห็นของคุณที่ตลกมากในโลกใบนี้ ที่จะมีคนเช่นนี้อยูอีกหรอ จากคุณ : penza เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 00:24:46

ความคิดเห็นที่ 113 ถึงบางอ้อ ได้ข้อมูลมา ให้ทุกๆท่านระวังภัยไว้คือ เหตุที่อดีตเจ้าของบ้านเรียก เงินมัดจำจำนวนมาก เพราะอะไร และเหตุที่เป็นแบบนี้เพราะอะไร สืบมาได้ความว่า บ้านไม่ใช่ขายไม่ได้ ขายได้มีคนจะเอาหลายคน วางเงินมัดจำไปหลายคนแล้ว แต่ กู้แบ้งค์ไม่ผ่าน  จึงริบเงินมัดจำคนอื่นๆไปได้เยอะ อ่อ.. เข้าใจในทันทีว่าทำไมถึง มีท่าที แบบนี้และตกใจพอเราบอกว่ากู้แบ้งค์ผ่านแล้ว.... สำคัญคือยึกยักไม่ยอมไปโอนบ้าน อ้างโน่นนี่ ดีที่ทำสัญญาจะซื้อจะขาย ที่ค่อนข้างรัดกุมเพราะมีทนาย ไปด้วย จึงผ่านพ้นไปด้วยดี แถมยังมาโวยวายหาว่าเราแกล้งรีบโอนบ้าน ยังไม่ครบ 3 เดือนเลย เหอๆ  เพราะสัญญาระบุไว้ว่าให้เวลาเรายื่นกู้แบ้งค์ ภายใน 3 เดือน โอ้ว.. เราคิดว่าคุณอยากได้เงินเร็วๆ  เสียอีก และอีกอย่างเราก็ต้องรีบดำเนินการเพราะไม่รู้ว่า เรื่องกู้เงินจะใช้เวลาขนาดไหน เกิดว่าเกินสามเดือนเราก็แย่สิ แต่นี่ อนุมัติไว เพราะงบบ้านของ ธนาคารหมดแล้ว และต้องรีบจัดการโอนภายในวันเวลาที่ธนาคารกำหนด เจ้ก็มาโวยวายกับเรา ว่าแกล้ง ... เรางง นะแกล้งยังไง และทำไมคุณไม่ยอมไปโอนบ้าน ยึกยักให้เวลามันเลยกำหนด เพื่อที่จะได้ริบเงินเรางั้นเหรอ...  ไม่แปลกเลยที่คุณบอกว่า จะเอาเงินมัดจำล้านห้า เท่านั้น ถึง จะออกหนังสือสัญญาจะซื้อจะขายให้คุณได้ งั้นไม่ออกให้  ... แต่เจ้แกยังใจดีลดให้เหลือ 500000 แหม ใครจะยอมเสียเงินมัดจำละ ไม่ใจดำไปหน่อยเหรอ คิดจะเอาเงินคนอื่นเขาหามายากเย็น... เอาไปทำบุญสร้างพระสร้างวัดยังดีกว่ามั้ง ขอบคุณทุกๆ ความเห็นที่มาให้กำลังใจและคำแนะนำนะคะ เรื่องนี้ก็เป็นอุทหรณ์ได้ดีทีเดียวคะ ระวัง 18 มงกุฎ ส่วนเรื่องค่าน้ำค่าไฟ ไม่เป็นไรบริจาคให้ ขอให้ไปจริงๆเถอะ แต่ถ้าหาเรื่องกวนพูดจา ไม่ดีก็ระวังจะได้ของฝากกลับบ้านไปด้วยนะจ้ะ แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 55 01:39:24 จากคุณ : whitelife เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 00:38:07

ความคิดเห็นที่ 114 ผมก็เพิงจะซื้อตึกแถวมือสองไป โชคดีมากๆที่ไม่มีปัญหา เมื่อต้นปีนี้เอง แต่นึกถึงตอนนี้จะไม่ซื้อขายแบบนี้อีกวางเงินมัดจำไปเยอะมาก ถ้าคิดไม่ซื่อแบบนี้ก็คงหมดตัวแน่ๆ ฟ้องเลยครับ จัดให้หนัก หวังริบเงินมัดจำแบบนี้ จากคุณ : Eastern rising เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 02:12:31

ความคิดเห็นที่ 115 เอาใจช่วยคุณเจ้าของกระทู้ค่ะ  สู้เอาให้ถึงที่สุดค่ะ จากคุณ : JidNince เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 08:26:30

ความคิดเห็นที่ 116 ที่นี้รู้หรือยังหละว่าทำไมเค้าถึงรั้นที่จะอยู่ต่อหา? ท่านผู้มีประสบการณ์ที่โชว์ความคิดเห็นที่ ให้ถ้าอลุ้มอล่วยกัน อยากให้มาเจอยายเจ๊นี่จัง จากคุณ : jray เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 09:15:31

ความคิดเห็นที่ 117 เพลียกับหลาย คคห. กับพวกโลกสวย น้ำใจงาม เจ้าของบ้านเค้ากู้แบงค์มาซื้อนะครับ คคห.ประเภทบอกให้เค้าอยู่ฟรีไปก่อน 3-4 เดือน พร้อมเมื่อไหร่ค่อยออก รู้หรือเปล่า ดอกเบี้ยมันเดินตั้งแต่วันที่ซื้อ ไม่ใช่วันที่เข้าอยู่ ลองคิดเป็นเงินค่าดอกเบี้ยที่ต้องเสียเท่าไหร่ต่อเดือน สมมุติ จขกท. กู้บ้าน 3 ล้าน ดอก 3% ถ้าให้อยู่ฟรี 4 เดือน เท่ากับเสียเงินฟรี ๆ 3 หมื่นนะครับ ถ้า จขกท. ไม่มีบ้านอยู่ต้องเสียค่าเช่าบ้าน ระหว่างที่ยังย้ายเข้าไม่ได้อีก คิดเป็นเงินอีกเท่าไหร่ คิดกันเป็นบ้างไหม ส่วนเจ๊นิสัยแย่นะ เงินเจ๊ก็ได้ไปแล้ว ถ้าเอาไปฝากต่อได้ดอกเท่าไหร่ แถมได้อยู่บ้านฟรีอีก ผมว่า จขกท. ให้อยู่อีก 1 เดือนนี้ก็ดีมาก ๆ แล้วนะ แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 55 09:35:53 จากคุณ : HINTCY เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 09:32:18

ความคิดเห็นที่ 118 ก็ฝาก จขกท นะครับ ทุกอย่างตัดสินกันตามกฎหมาย ไม่ใช่ตามอารมณ์นะครับ กฎหมายดูที่พยานหลักฐาน เอกสาร คือ หนังสือสัญญา เรื่องที่ จขกท เขียน ก็คือการกล่าวหา คนขายแต่ฝ่ายเดียว ปกติคนเราก็ต้องเขียนเข้าข้างตัวเอง ทุกคน ถ้าให้ คนขาย มาเขียน ก็คงจะเขียนเข้าข้างตัวเองอีก ดังนั้นเวลาตัดสินเขาถึงดูที่พยานหลักฐานไงครับ เมื่อสัญญาให้สามารถอยู่อาศัยได้ถึงสิ้นเดือน เจ้าของบ้านคนเก่า ก็ยังอยู่ในบ้านนั้นได้ ไม่ได้ถือว่าเป็นการละเมิดสัญญานะครับ ส่วนที่คุณตกลงกันก่อนซื้อขายว่าจะขอเอาของมาเก็บ แล้วภายหลังป้าเจ้าของเดิมเปลี่ยนใจ ไม่ยอม ผมก็ไม่รู้ว่า ป้าแกมีเหตุผลอะไร เพราะ จขกท ไม่ได้เขียนอธิบาย เหตุผลที่ป้าคนขายไม่ยอมให้ จขกท เอาของเข้าไปฝากไว้ในบ้าน คือเวลาคนทะเลาะกันนะครับ บางทีไม่มีเหตุผลหรอก แค่พูดไม่เข้าหูกันก็เขม่นกันได้แล้ว ดังนั้นคนนอก ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ก็ไม่เข้าใจหรอก แต่สรุปว่าตอนนี้ จขกท เสียเปรียบ เพราะ เขียนสัญญาไว้แล้ว ต้องรอจนถึงวันเสาร์ ที่ 1 ธันวาคม ถ้าเจ้าของเก่าไม่ยอมย้ายออก จึงจะไปฟ้องขับไล่ได้ การฟ้องขับไล่ มันมีขั้นมีตอน ถึงบ้านจะเป็นของเราซื้อแล้ว โอนแล้ว แต่ถ้าจะเอากฎหมายไปบังคับจะต้องใช้เวลาฟ้องร้อง ให้ศาลบังคับ คุณจะไปใช้กำลังบังคับเองไม่ได้ เพราะมันเป็น คดีแพ่งครับ แม้สุดท้ายเราจะชนะ แต่ก็ต้องใช้เวลาครับ ดังนั้นการประนีประนอมกัน จึงเร็วกว่า การฟ้องร้อง ผมก็หวังว่าสุดท้ายจะประนีประนอมกันได้นะครับ win-win ทั้งสองฝ่าย แต่ถ้าสมมติว่าวันที่ 1 ธันวาคม เจ้าของเดิมยังไม่ออก พูดง่ายๆก็คือผิดสัญญา คุณจะแจ้งความว่าเขาบุกรุกไม่ได้ เพราะ เขาเคยมีสิทธิอยู่แต่เดิม การบุกรุก ก็คือ คนเข้ามาอาศัยในบ้านของคุณ หลังจากที่บ้านนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของคุณ ส่วนกรณีนี้ เจ้าของบ้านเดิมเขาอาศัยมาก่อนที่จะขายให้คุณ ดังนั้น จะไปฟ้องว่าเขาบุกรุกไม่ได้ สรุปก็คือ ถ้าวันที่ 1 ป้าแกยังไม่ออกไปจริงๆ คุณก็ต้องไปเร่งให้ออก ไม่ออกก็ต้องไล่ละครับ แต่ก็ยังฟ้องว่าเขาบุกรุกไม่ได้ คือ ถ้าเข้าข่ายบุกรุกเนี้ยเรียกตำรวจไปไล่ได้ ถ้ายังไงก็ไม่ออก ก็ต้่องไปฟ้องศาล ไม่ใช่ฟ้องตำรวจ เพราะกรณีนี้เป็นคดีแพ่ง ต้องฟ้องศาลแพ่ง ให้ศาลออกหมายบังคับ ระหว่างที่ไม่มีหมายศาล คุณไม่มีสิทธิเข้าไปนะครับ ไม่งั้นจะโดนข้อหาบุกรุกเสียเอง ต้องระวังนะครับ อย่าไปเชื่อคำยุยง ว่าบ้านเราซื้อแล้ว จะทำอะไรก็ได้ มันมีกรณีคล้ายๆ กันนะครับ ลองอ่านดูนะครับ มีคนโดนจับ ข้อหาบุกรุกบ้านตัวเอง มาแล้ว ==================== http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/เจ้าของกับคดีบุกรุก หลายท่านซึ่งมีบ้านหรือที่ดินไว้ให้เช่าอาจเคยประสบปัญหาผู้เช่าไม่ยอมจ่ายค่าเช่าและยังคงอยู่ต่อไปอย่างท้าทาย หรือ ทำละเมิดสัญญาเช่าข้ออื่นอันเป็นเหตุให้เจ้าของจำต้องให้ออกจากสถานที่เช่า แต่ผู้เช่ามีทีท่าดื้อดึงไม่ยอมออกง่ายๆ บางท่านถึงขั้นเข้าไปขนย้ายข้าวของซึ่งเป็นของผู้เช่าออกไปจากบ้าน ทำให้ถูกแจ้งความดำเนินคดีบุกรุกกับตำรวจ เจ้าของบ้านกลับกลายเป็นผู้ต้องหาในคดีบุกรุกไปในท้ายที่สุด    ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกับความผิดอาญาฐานบุกรุกซึ่งบัญญัติในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๒ ว่า "ผู้ใดเข้าไป ในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น เพื่อถือการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดหรือบางส่วนหรือเข้าไปกระทำการใดๆอันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของเขาโดยปกติสุข ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"    สำหรับกรณีตัวอย่างในที่นี้ คือ การเช่าบ้าน เมื่อมีการทำละเมิดสัญญาเช่า เช่น ค้างค่าเช่า ก่อความเสียหายแก่บ้านเช่าเกินเหตุ เป็นต้น หากผู้ให้เช่าบอกเลิกสัญญาเช่าและให้ผู้เช่าออกไป แต่เขายังดื้อดึงอยู่อาศัยต่อไป ทำให้ผู้เช่าซึ่งเป็นเจ้าของบ้านเดือดดาลใจจนกระทั่งบุกเข้าไปรื้อย้ายสิ่งของที่เป็นของผู้เช่าในบ้านพิพาท ขอให้พึงเข้าใจด้วยว่า การกระทำเช่นนี้ถือเป็นการเข้าไปกระทำการใดๆเพื่อรบกวนการครอบครองบ้านพิพาทของผู้เช่าโดยปกติสุข อันเป็นการกระทำผิดฐานบุกรุกทันที แม้ว่าท่านจะเป็นเจ้าของบ้านก็ตาม เพราะการขับไล่ออกจากบ้านเช่าหลังจากเลิกสัญญาเช่าอันเป็นกรณีทางแพ่งต้องกระทำตามขั้นตอนของกฎหมายเท่านั้น นอกเหนือจากผู้เช่ายอมปฏิบัติตามเองแล้ว เจ้าของบ้านต้องฟ้องคดีขับไล่โดยอาศัยสัญญาเช่าเป็นหลักซึ่งต้องใช้เวลานานกว่าจะได้บ้านคืนมา ทำให้ผู้เช่าอาศัยบ้านเช่าต่อไปจนกว่าคดีจะสิ้นสุด ซึ่งอาจสร้างความอึดอัดใจแก่เจ้าของหรือผู้ให้เช่าอย่างมาก กฎหมายบัญญัติขึ้นมาเพื่อคุ้มครองผู้สุจริต จึงมีหนทางบรรเทาความเสียหายไว้เช่นกัน   ดังนั้น ศาลมีคำพิพากษาฎีกาสำหรับกรณีดังกล่าว คือ คำพิพากษาฎีกาที่ ๓๐๒๕/๒๕๔๑ ข้อตกลงล่วงหน้าระหว่าง ผู้ให้เช่ากับผู้เช่าที่ว่า หากผู้เช่าทำผิดสัญญาข้อใด จักยินยอมให้ผู้ให้เช่าเข้าครอบครองห้องเช่าได้ทันที ใช้บังคับกันได้ ดังนั้น ผู้ให้เช่าย่อมมีอำนาจใช้สิทธิเข้ายึดถือครอบครองตึกแถวที่ให้เช่าได้โดยชอบตามที่ตกลงกันไว้   กรณีศึกษาข้างต้นนี้ คงเป็นวิธีการหนึ่งในการปกป้องสิทธิของผู้ให้เช่าในการดูแลทรัพย์สินของตัวเองได้ดีกว่าการใช้กำลังแก้ปัญหา ซึ่งอาจทำให้ท่านต้องถูกดำเนินคดีบุกรุกบ้านของตัวเอง ดังนั้น ในการทำสัญญาเช่าทุกครั้ง ผู้ให้เช่าพึงกำหนดสิทธิดังกล่าวไว้ในสัญญาเช่าเพื่อป้องกันการถูกฟ้องคดีบุกรุกให้ต้องเจ็บใจภายหลัง และพึงระลึกด้วยว่า กฎหมายคุ้มครองผู้สุจริตเสมอ ทุกวิธีซึ่งใช้แก้ปัญหาความขัดแย้งกันต้องอยู่ภายใต้อำนาจของกฎหมาย สังคมจึงสงบสุขได้ จากคุณ : webkit เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 09:35:15