ความคิดเห็นที่ 1 ใครไปเมืองนอกเมืองนา โดยเฉพาะเมืองฝรั่งตาน้ำข้าวทั้งหลาย คงเคยสังเกตุเห็นบ้านระหว่างก่อสร้างบ้าง ว่ามันดูๆแล้วเหมือนบ้านกระดาษ หรือบ้านไม้อัด เอาเป็นว่า 9 ใน 10 คนคงคิดว่า บ้านฝรั่งไม่แข็งแรง โดนพายุทีไรก็ปลิว ดูข่าวโทรทัศน์ก็เห็นบ้านโดนพายุพัดพังบ่อยๆ ใครเคยดูหนังเงียบจากยุค ชาลี แชปปลิ้น คงเคยเห็นมุขตลกที่บ้านพัง โดยผนังล้มลงเป็นแผงๆ นั่นแหละบ้านฝรั่งแบบเฟรมไม้ หรือ Wood framing แท้ๆเลย แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 47 01:17:26 จากคุณ : John Luc - [ 29 ต.ค. 47 22:37:39 ]

ความคิดเห็นที่ 2 วิธีการสร้างบ้านแบบนี้ฝรั่งใช้มากว่า 150 ปี ผมได้มีโอกาสไปเยี่ยมเพื่อนซึ่งอยู่ในบ้านอายุกว่า 50 ปี เป็นต้องทึ่งในสภาพอันสมบูรณ์ของโครงสร้าง ผมจึงเริ่มสนใจศึกษาวิธีการสร้างและเทคนิคที่ฝรั่งนำมาใช้ ต้องยอมรับว่าฝรั่งมันคิดเล็กคิดน้อย คิดละเอียดถี่ถ้วนในการสร้างบ้านมาก แม้ว่าฝีมือด้านความประณีตละเอียดอ่อนจะสู้เราไม่ได้ แต่กระบวนการคิดประยุกต์นั้นทำได้ดีทีเดียว จากคุณ : John Luc - [ 29 ต.ค. 47 22:47:35 ]

ความคิดเห็นที่ 3 บ้าน Wood framing มักไม่ค่อยมีเสา ใช้ผนังเป็นตัวรับโหลดต่างๆ ดังนั้นความแข็งแรงของบ้านก็ขึ้นกับความแข็งแรงของผนัง ใครเคยเอาแผ่นกระดาษบางๆมาสร้างบ้านจำลองคงเห็นว่ามันลำบาก แต่ถ้าเอากระดาษลูกฟูกที่ไม่บิดงอง่ายๆมาสร้างบ้านจำลอง จะเห็นว่าเมื่อประกอบเป็นผนังครบทุกด้านแล้ว บ้านจำลองมีความแข็งแรงมาก ขึ้นไปเหยียบยังไม่อยากจะพัง บางทีต้องกระทืบจึงยุบ นี่ก็หลักการเดียวกันกับการสร้างบ้าน wood framing โดยไม่ต้องใช้เสา จากคุณ : John Luc - [ 29 ต.ค. 47 22:55:08 ]

ความคิดเห็นที่ 4 จะว่าไปว่าไม่มีเสาเดี๋ยวหาว่าโกหก ก็รูปข้างบนมีไม้ตั้งเด่ตั้งหลายสิบอัน ฝรั่งเรียก Stud เป็นตัวรับแรงทางแนวตั้งของผนัง เหตุผลสำคัญที่ใช้ Stud ไม่ใช้เสาก็คงเป็นเพราะความจำเป็นในการสร้างฉนวนเนื่องจากต้องใช้ในเขตอากาศหนาว การใช้Stud จะสะดวกในการทำผนังให้กลวงเพื่อทำหน้าที่เป็นฉนวน โดยด้านนอกของผนังจะบุด้วย Sheathing(อธิบายข้างล่าง) และผนังด้านในบุด้วย ยิบซั่ม หรือฝรั่งเรียกว่า Dry wall ส่วนกลวงในผนังก็บุฉนวน จากคุณ : John Luc - [ 29 ต.ค. 47 23:09:02 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผนังนั้นนอกจากจะต้องรับโหลดของน้ำหนักบ้านและหลังคาในแนวตั้งแล้ว ยังต้องต้านการโย้ หรือที่เรียกว่า Shear force ตัวอย่างง่ายๆของ Shear force ก็คือแรงลม จากคุณ : John Luc - [ 29 ต.ค. 47 23:13:29 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าเป็นบ้านที่ใช้เสา เสาและคานที่บากล็อคตัวกัน หรือถ้าเป็นคอนกรีตก็หล่อประสานกัน ทำหน้าที่ต้านแรงโย้ แต่กรณี Wood framing จำเป็นต้องสร้างการต้านแรงโย้นี้ในผนัง ซึ่งทำได้ 2 วิธี วิธีแรกคือใช้ Sheathing คือแผ่นไม้อัดปิดตอกตะปูยึดที่ด้านนอกผนัง แผ่น Sheathing นี้ทำให้ผนังทึบกันลมรั่วด้วย(สำคัญมากในการรักษาพลังงาน) วัสดุที่นิยมใช้ทำ Sheathing คือ OSB หรือ Oriented Strand Board เป็นการนำเอาเศษไม้มาอัดเป็นแผ่น มีความแข็งแรงเพื่อเป็น Sheathing โดยเฉพาะ อันนี้ที่เราเห็นว่าเหมือนไม้อัด แต่จริงๆมันไม่ใช่ไม้อัด แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 47 23:28:13 จากคุณ : John Luc - [ 29 ต.ค. 47 23:26:40 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อีกวิธีคือการใช้ Bracing คือไม้ที่วางทะแยงมุม ล็อคตัวอยู่ใน Stud หลายๆตัวทำให้ผนังโย้ไม่ได้ วิธีนี้นำมาใช้แทนในกรณีที่ไม่มีแผ่น Sheathing หรือใช้เสริมความแข็งแรงเพิ่มเข้าไปอีก สำหรับพื้นที่ต้องทนพายุ หรือแผ่นดินไหว แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 47 07:45:43 จากคุณ : John Luc - [ 29 ต.ค. 47 23:33:12 ]

ความคิดเห็นที่ 8 บนหลังคาก็มีโครงสร้างคล้ายๆผนัง แทนที่จะเรียกว่า Stud แต่พอมาวางเอียงๆ(ขนาดใหญ่ขึ้น)แล้วเรียกว่า Rafter และมี Sheathing บิดทับ ทำให้หลังคารับ Shear force ได้ และเป็นแผ่นฐานในการปูวัสดุมุงหลังคาต่อไป จากคุณ : John Luc - [ 29 ต.ค. 47 23:41:04 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มาว่าเรื่องหน้าที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของผนัง คือการควบคุมสภาวะอากาศในบ้าน คืออุณหภูมิและความชื้นนั่นเอง ใครที่ว่าเมืองหนาวไม่มีปัญหาเรื่องความชื้น ผมขอบอกว่าบ้านเมืองหนาวต้องต่อสู้กับปัญหาความชื้นมากกว่าเมืองไทย! ด้วยอุณหภูมิที่แตกต่างกันอย่างมากระหว่างภายนอกกับภายใน (อาจต่างกันถึง 30-40 องศา C ทีเดียว) ทำให้เกิดปัญหาการจับตัวเป็นหยดน้ำ ในหน้าหนาว อากาศร้อนในบ้านกระทบกับผนังเย็นๆก็กลั่นจะเป็นหยดน้ำ ที่อันตรายที่สุดคือการกลั่นตัวในโพรงผนังซึ่งไม่มีทางออก ในปัจจุบัน โดยทั่วไปองค์ประกอบของผนังจะมีวัสดุ ไล่จากภายในออกมาคือ แผ่นยิบซั่ม แผ่นพลาสติกกันความชื้น ฉนวนความร้อน(อยู่เสมอกับStud) OSB แผ่นHousewrap และวัสดุปิดหน้าภายนอก(Siding) โดยทุกส่วนมีหน้าที่สำคัญในการควบคุมอุณหภูมิและความชื้น จากคุณ : John Luc - [ 30 ต.ค. 47 00:00:08 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แต่อะไรทำหน้าที่อะไร สงสัยต้องมีอีกกระทู้นะครับ มาดูโครงสร้างต่ออีกนิด จะเห็นว่าตามช่องเปิด(วงกบ)ประตูและหน้าต่าง จะมีคานนอนด้านบน ที่เรียกว่า Header อันนี้จะต่างจากบ้านไทยซึ่งจะไม่มี เหตุก็เพราะว่าผนังในระบบนี้ต้องรับแรงในแนวตั้ง หากเจาะเป็นช่องประตูหรือหน้าต่างโดยไม่มี Header มารับ จะทำให้วงกบแอ่นลง ซึ่งตัว Header นี้จะกระจายโหลดออกไปที่ Trimmer studs ด้านข้าง มีรายละเอียดที่อยากให้ดูอีกจุดคือ Fireblocks ที่คั่นในแนวนอนระหว่าง Stud ตัวนี้ถูกบังคับโดยกฎหมาย ใส่ไว้ป้องกันกระแสลม(และเปลวเพลิง)ไหลในแนวดิ่ง ช่วยยืดระยะเวลาไม่ให้มีการไหม้รุนแรง ซึ่งระบบ Wood framing ถ้าสร้างโดยถูกวิธีแล้ว จะให้ความปลอดภัยในอัคคีภัยไม่แพ้ระบบอื่น จากคุณ : John Luc - [ 30 ต.ค. 47 00:14:17 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณนะคะ จากคุณ : น้องนาง ณ บ้านนา - [ 30 ต.ค. 47 00:25:05 ]

ความคิดเห็นที่ 12 การใช้วัสดุภายนอก เลือกได้หลายแบบ เช่น ไวนิล ไฟเบอร์ซีเมนต์ ปูนStucco แผ่นไม้Shingle น่าเสียดายเมืองไทยไม่ได้พัฒนาวัสดุพวกนี้ไปมากเท่าไหร่ ในรูปนี้เป็นการใช้อิฐก่อปิด ฝรั่งเรียก Brick veneer ซึ่งจะเว้นระยะห่างจาก OSB ประมาณ 1 นิ้วเพื่อให้หายใจได้ ด้านล่างของแนวอิฐจะมี Weep hole เอาไว้ให้น้ำระบายออกได้ ฝรั่งจะให้ความสำคัญกับการใช้ Flashing มาก จะไม่ให้ตัวโครงสร้างไม้ได้มีโอกาสโดนความชื้นโดยตรง ซึ่งการใช้ Flashing ตามส่วนต่างๆของบ้านนั้น จะทำให้ได้ดีต้องมีประสบการณ์พอควรทีเดียว เพราะรายละเอียดมาก ในเรื่องนี้ขอให้สังเกตุว่าฝรั่งเป็นผู้คิดค้นกาวยาแนวสารพัด แต่การสร้าง Wood framing ให้อยู่ทนได้นานๆนั้น อยู่ที่ฝีมือการทำ Flashing และเก็บรายละเอียดให้ถูกต้อง"โดยไม่ต้องใช้กาวยาแนว" เพราะกาวพวกนี้มีอายุการใช้งานจำกัด แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 47 07:40:32 แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 47 00:31:04 จากคุณ : John Luc - [ 30 ต.ค. 47 00:29:37 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อันนี้เป็นตัวอย่างการทำ Flashing ง่ายๆสำหรับด้านบนขอบหน้าต่าง ที่เห็นเขียนว่าBuilding paper นั้นคือ House wrap นั่นเอง ซึ่งมีคุณสมบัติในการกันน้ำ ในขณะเดียวกันก็ยอมให้ไอน้ำภายในผนังระเหยออกไปได้ (ให้ผนังหายใจได้) ปัจจุบัน Tyvek ของ Dupont เป็นที่นิยมมาก จากคุณ : John Luc - [ 30 ต.ค. 47 00:37:55 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เดี๋ยวนี้ฝรั่งยิ่งสนุกกันใหญ่ เมื่อโปรแกรม CAD ช่วยออกแบบบ้าน สามารถออกแบบเฟรมไม้ให้เสร็จ คนมือคันสามารถซื้อไม้มาสร้างบ้านเอง แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 47 01:25:23 จากคุณ : John Luc - [ 30 ต.ค. 47 00:41:41 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สำหรับหลังนี้ ใช้พื้นคอนกรีตครับ ซึ่งในการสร้างก็จะอาศัยพื้นเรียบๆนี้แหละ วางแบบเฟรมไม้ลงไป แล้วยิงตะปูยึดตามแบบ ทำผนังขึ้นทีละด้านๆ จากคุณ : John Luc - [ 30 ต.ค. 47 00:45:37 ]

ความคิดเห็นที่ 16 จากนั้นสองคนผัวเมียก็ค่อยๆตั้งผนังขึ้นทีละส่วนแบบนี้ จากคุณ : John Luc - [ 30 ต.ค. 47 00:47:56 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เผลอจ๊ะจ๋ากันแป๊บเดียว ก็พรึบแบบนี้ จากคุณ : John Luc - [ 30 ต.ค. 47 00:49:57 ]

ความคิดเห็นที่ 18 รูปนี้ ทำ OSB Sheathing ไปเกือบเสร็จแล้ว ด้านบนจะเห็น Tyvek สีขาวๆหุ้มทับ OSB ไฟล์รูปภาพ จากคุณ : John Luc - [ 30 ต.ค. 47 00:53:30 ]

ความคิดเห็นที่ 19 การเดิน Utilities ก็เจาะทะลุ Stud เลย (ส่วนโพรงจะใช้ฉนวนใส่ภายหลัง) จากคุณ : John Luc - [ 30 ต.ค. 47 00:57:45 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ให้ดูการเดินท่อน้ำชัดๆ ทั้งท่อน้ำร้อนและเย็น ใช้ท่อทองแดง การเชื่อมต่อใช้บัดกรีโดยใช้หัว Propane ดูแล้วง่ายมากเลย ที่เห็นรอยไหม้บน Stud ก็จากการบัดกรีแหละครับ ไฟล์รูปภาพ จากคุณ : John Luc - [ 30 ต.ค. 47 01:02:00 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เอานะครับ พอหอมปากหอมคอ ขอป่าวประกาศแหล่งข้อมูลที่ผมไปขโมยเค้ามาด้วยละครับ ภาพสเก็ตมาจากสองแหล่งครับ คือ หนังสือ Graphic Guide to Frame Construction ของ Rob Thallon เล่มนี้ดีมากครับ และหนังสือ Details for conventional wood frame construction โดย American forest and paper association ดาวน์โหลดได้ที่ www.awc.org ส่วนรูปการสร้างบ้านมาจากweb ของคุณลุง Phil และป้า Lisa ซึ่งบรรยายถึงการสร้างบ้านของแกที่ http://www.ourcoolhouse.com ปิดท้ายด้วยรูปบ้านกระผมเอง ถ่ายเมื่อ 17 วันนับจากวันลงเข็มครับ ไฟล์รูปภาพ จากคุณ : John Luc - [ 30 ต.ค. 47 01:14:36 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 30 ต.ค. 47 02:40:08 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เป็นกระทู้ที่มีประโยชน์ดีครับ จากคุณ : อืมม... - [ 30 ต.ค. 47 08:04:47 ]

ความคิดเห็นที่ 24 น่าสนใจแฮะ จะถามราคาต้นทุนเท่าไหร่น่ะครับ มาใช้ที่เมืองไทย จะทนฝนไหวไหมนั่น จากคุณ : `SEPULTURA_`FROM_`HELL - [ 30 ต.ค. 47 09:06:14 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คุณ : John Luc ครับ เดินขึ้นบันใด ดีๆนะ ระวังลื่นคับ ............ ทู้ดีมากเลยครับ ผมโหวตกระทู้ให้เลยนะครับ ใสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส จากคุณ : คนหน้าใส - [ 30 ต.ค. 47 09:45:07 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ฮ้า.................ฮ้า......................2 คน สามี ภรรยา ก็ทำได้ ............... เห็นแล้วอยากทำจัง..........เลย แพงไม๊คะ อยากเห็นบ้านคุณ John อะคะ เอามาโชว์ หน่อยซิ .......น่า.....น่า..........นะ........นะคะ โหวต.....ให้ด้วยคนอะ............... จากคุณ : ป้ามือใหม่ - [ 30 ต.ค. 47 12:21:29 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ถ้าต้นทุนถูกกว่าก็น่าสนนะครับ อย่างนี้คนแพร่ก็สบายน่ะสิ โฮ๊ะๆๆๆ จากคุณ : polyline - [ 30 ต.ค. 47 12:22:05 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอโหวตกระทู้ให้ด้วยคนค่ะ.... จากคุณ : thai orchid - [ 30 ต.ค. 47 12:27:56 ]

ความคิดเห็นที่ 29 บรรยากาศเหมือนตอนเรียนหนังสือ... เข้ามาชูมือโหวตกระทู้ความรู้อัดแน่นให้คุณณองลุค ด้วยอีกคน จากคุณ : terri - [ 30 ต.ค. 47 14:24:55 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ดีจัง สองสมองสี่มือ ก็สร้างบ้านได้แล้ว จากคุณ : หนึ่งสมอง สองมือ - [ 30 ต.ค. 47 14:26:43 A:161.246.27.177 X:161.246.1.34 TicketID:077045 ]

ความคิดเห็นที่ 31 โหวตค่ะ โหวต จากคุณ : Wengwang - [ 30 ต.ค. 47 14:55:14 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณครับ ยอดจริงๆ แต่ที่เค้าสร้างบ้างเองกันได้เพราะเค้ามี อุปกรณ์เฉพาะทางขายเยอะ เค้าสร้างบ้านทีก็เหมือนบ้านเราลงแรงทำนา บ้านเราต้องมาปรับกันเอง จากคุณ : Dr.slump - [ 30 ต.ค. 47 15:30:51 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อยากดูบ้านคุณ John Luc ตอนเสร็จแล้วด้วยน่ะค่ะ (อิอิ ไอ้คืบจะเอาศอกง่ะ) ขอบคุณค่ะ จากคุณ : Monti Ta - [ 30 ต.ค. 47 22:09:06 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบพระคุณมิตรรักแฟนเพลง สายันต์.. เอ้ยกระผมไปยืนเต๊ะท่าทำเป็นคุมการก่อสร้างมาทั้งวัน กลับมาเห็นกระทู้ถูกโหวดไปก็ดีใจ ก็ใช้เวลาไปหลายชั่วโมงเหมือนกันนี่นะ ขอตอบรวมๆนะครับ เรื่องราคา อยู่ที่ หมื่นต้นๆถึงหมื่นปลายๆ ต่อ ตร.ม. แล้วแต่วัสดุภายนอกและภายใน และการมุงหลังคา ของกระผมอยู่ที่หมื่นต้นๆเพราะไม่ใช้ OSB Sheathing แต่ใช้ Bracing แทน และเอาเณอร่าเป็น Siding ส่วนหลังคาก็เอากระเบื้องซีแพคมันนี่แหละ ไม้ที่เหมาะจะเอามาทำยังต้องนำเข้า เป็นไม้สนอัดน้ำยา CCA (Copper Chrome Asenic) ทำให้ทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศและแมลง(รวมทั้งปลวก) ได้ดี สามารถใช้งานภายนอกตากแดดตากฝนได้ด้วยซ้ำ แต่ก็ยังเบาและเลื่อยตัดง่าย และยังตรงและมีขนาดสม่ำเสมอดี ทำงานง่าย เป็นที่น่าเสียดายและเป็นเหตุผลหนึ่งที่ระบบนี้ยังไม่เหมาะกับเมืองไทย ไม่ใช่เพราะไม้ไม่สามารถทนสภาพอากาศได้ แต่ว่าเป็นของต้องนำเข้า ถ้าเห่อทำกันมากสงสัยประเทศชาติล่มจมอีก อะแต่ว่าวันก่อนมีฝรั่งผ่านมา พอเห็นไม้และวิธีการสร้างก็สนใจมากเพราะมันบอกว่า ยอดเยี่ยมกระเทียมดอง ไอหามานาน อยากจะเอาแบบนี้บ้าง ก็คงเป็นหน้าที่ผู้รับเหมารับภาระไปฟันเอาเงินฝรั่งหนักๆหน่อย ให้หัวล้านข้างแตกไปเลย เครื่องไม้เครื่องมือเฉพาะทางในเมืองนอก ช่วยให้เจ้าของบ้านทำงานเองได้มาก มันมีสารพัดนึกจริงๆ อันนี้ยอมให้มัน ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผัวเมียในเมืองนอกจะช่วยกันสร้างบ้านได้ทั้งหลัง(มีการลงแรงจากญาติมิตรบ้างในบางกระบวนการ) ถ้าใครคิดจะไปหาเมียเมืองนอก เอาแบบที่สร้างบ้านได้ด้วย กลับมาเมืองไทยคุณอาจเป็นมหาเศรษฐีเลยเชียว ส่วนบ้านกระผม วันนี้เป็นวันที่ 20 นับจากเริ่มลงเข็ม ก็ไปได้ตามรูปนี่แหละครับ จากคุณ : John Luc - [ 30 ต.ค. 47 23:23:22 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขิอบคุณค่ะ ได้ความรู้ที่น่าสนใจมาก ๆ เลยค่ะ นี่ก็เพิ่งกลับจากงานเลี้ยงที่บ้านสถาปนิกฝีมือเยี่ยมท่านหนึ่งมา บ้านและที่พักของท่านทุกหลังจะมีโครงสร้างที่เรียบง่ายแต่สวยงาม ร่มรื่น อยู่สบาย ร่วมสมัยเสมอ ผู้เป็นแขกไปเยือน ก็รู้สึกสบายตา สบายใจทุกครั้งที่ได้ไปเยือนค่ะ จากคุณ : ทะเลใจ (ทะเลใจ) - [ 31 ต.ค. 47 00:45:16 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอดูรูปบ้านตอนเสร็จแล้วด้วยครับ จากคุณ : Zenbe - [ 2 พ.ย. 47 14:44:02 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ดูแล้ว เหมือนบ้านใน the sims เลยค่ะ ..... เวลาสร้างบ้านใน the sims รูปแบบประมาณนี้เลย ... จากคุณ : ประกายเพชร - [ 4 พ.ย. 47 18:02:41 A:203.150.206.9 X: TicketID:038396 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ตกลงบ้านสร้างอยู่แถวไหนครับ เผื่อผ่านไป จะได้แวะแอบดูมั่ง ใสสสสสสสสสสสสสสสสสส จากคุณ : คนหน้าใส - [ 5 พ.ย. 47 03:53:00 ]

ความคิดเห็นที่ 39 กระทู้ดีค่ะ แต่ทำไมต้องใช้แทนฝรั่งว่า "มัน" ทุกคำเลยอ่ะคะ ถ้าเค้าใช้แทนคนไทยว่า it มั่งจาเป็นไงหนอ ฮิๆ ล้อเล่นค่ะอย่าโกรธน๊า จากคุณ : jan - [ 5 พ.ย. 47 06:07:45 A:80.57.67.202 X: TicketID:076832 ]

ความคิดเห็นที่ 40 น่าสนใจมากครับ คุณ John Luc จัดทริปดูงานดีไหมครับ จากคุณ : Ray - [ 5 พ.ย. 47 15:57:45 A:203.118.109.147 X: TicketID:077163 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ผมคิดว่าถ้าประยุกต์สำหรับเมืองไทย - ไม่สร้างชิดดิน แต่ต้องมีโครงสร้างพื้นชั้นล่างรับเหมือนในรูป หรือ ผนังปูนสูงขึ้นมากันน้ำท่วม ชื้น ปลวก ซัก 50 ซม. - ใช้ไม้เนื้อแข็งในประเทศ ไม้สักไทยเราไม่แพ้กันหรอกครับ แต่อาจจะแพงไป ต้องลองดูๆกันหลายตัวหน่อย - ไม้กระดานใช้เฌอร่าก็ไม่เลวครับ - ที่สำคัญ เทคนิคการกันน้ำตรงรอยต่อแผ่นไม้กระดาน ตรงนี้จะ critical กว่าที่ฝรั่งทำกันมากครับ จากคุณ : Ray - [ 5 พ.ย. 47 16:17:04 A:203.118.109.147 X: TicketID:077163 ]

ความคิดเห็นที่ 42 บ้านอยู่ตจว.ครับ สงสัยจะไม่ให้ไปดูหรอกครับแหะ..แหะ แต่จะถ่ายรูปมาให้ดูบ่อยๆแล้วกันนะครับ ถ้าอยากดูบ้านประเภทนี้ ในกรุงเทพก็มีให้ดูครับ ในซอยทองหล่อกลางๆซอยมีร้านขายอาหารสุนัข จำชื่อไม่ได้ครับ อยู่ฝั่งตรงข้ามสน.ทองหล่อ ก็สร้างด้วยวิธีนี้ ตรงบางนา กม.4.5 ฝั่งขาเข้า มาจากชลบุรีก่อนถึงแยกศรีนครินทร์ มีโชว์รูมบริษัท คนสร้างบ้าน มีให้ดู 3 หลังครับทั้งเฟรมไม้และเหล็ก ส่วนมากนิยมยกพื้นอย่างคุณ Ray ว่า ของผมยก 1 เมตรครับ ด้านล่างก่ออิฐปิดรอบ แต่ทำช่องระบายอากาศใต้ถุนไม่ให้ชื้นครับ เรื่องไม้ในประเทศ ผมไม่ค่อยมีความรู้ครับ แต่ไม้เนื้อแข็งไม่ไหวมังครับ หนักและเลื่อยตัดลำบาก ผมเองก็เชื่อว่าถ้าขยันพัฒนาจริงๆ คงหาวัสดุในประเทศทดแทนได้ แต่บริษัทที่มีศักยภาพของเรายังสนุกกับการผลิตปูนขายอยู่ครับ เรื่องเทคนิคการกันน้ำ ยังต้องยกให้ฝรั่งอยู่ครับ เพราะมีการใช้วัสดุหลายอย่างที่เราไม่มี บ้านของเค้าไม่ต้องมีชายคาก็ไม่กลัวน้ำครับ แต่กระผมขอเอาชายคาเยอะๆไว้ก่อนครับ ส่วนที่เรียกฝรั่งว่า "มัน" ก็ดัวยความเอ็นดูครับ(เหมือนลูกเหมือนหลาน) จากคุณ : John Luc - [ 5 พ.ย. 47 23:14:02 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณครับคุณ John Luc ถ้าไม่บอกคงนึกว่าเป็นสถาปนิก ไว้วันหลังถ้ามีงานลักษณะนี้ขอปรึกษาหน่อยนะครับ จากคุณ : Ray - [ 8 พ.ย. 47 12:15:50 A:203.118.105.215 X: TicketID:077163 ]