ความคิดเห็นที่ 35
ขออนุญาตตอบคำถามก่อนแล้วกันนะครับ
ใครที่รออ่านต่อ ก็อดใจรอนิดครับ
ผมอาจจะต้องไปเปิดเป็นกระทู้ใหม่
เอ..หรือว่าไปเขียนเป็นหนังสือ แล้วออกขายดี
.55
ขอตอบตามคิวแล้วกันนะครับ
ตอบคุณอ้วน สารภาพให้ก็ได้ครับว่าผมไม่ค่อยเก่งเรื่องคำนวนเลขเท่าไหร่
(อย่าเข้าใจผิดนะครับ ผมไม่ใช่พนักงานแบงค์) แต่จะพยายามแนะนำแนวทาง และกลยุทธ์ ให้ไปปรับใช้ในการกู้นะครับ
ประเด็นแรก เจ้าของบ้านบอกว่า
. ผมว่าอาจจะเป็นไปได้ยากครับ ถ้าราคาซื้อขาย แค่ 1 ล้าน 2 แสนบาท (ที่ระบุในสัญญาจะซื้อจะขาย) แล้วธนาคารจะให้กู้ เกินจากราคาขาย คือ 1,450,000 บาท ถึงแม้ว่ามันจะเป็นราคาประเมินก็ตาม อย่างดีที่สุดๆ คือเท่ากับราคาซื้อขายครับ (แบบที่หลายๆ โครงการเขามีโปรโมชั่น กู้ 100% อะไรนั่นแหละครับ) แต่นั่นก็ต้องหมายถึงว่า เขาต้องมองเห็นแล้วว่าเรามีศักยภาพในการจ่ายดอกเบี้ยให้เขาแน่ๆ
ส่วนที่เกินราคาขายออกมานั้น ก็มีสิทธิ์ที่จะกู้เพิ่มออกมาได้ครับ แต่ต้องไม่ใช่ loan บ้านแล้วครับ อาจจะต้องเป็น กู้เพิ่มเติม เพื่อตกแต่ง อะไรประมาณนี้
แน่นอนครับ ในเมื่อมันเป็น loan คนละชนิดกัน อัตราดอกเบี้ย ต้องไม่เหมือนกันครับ ส่วนใหญ่ประเภทหลังนี่ จะแพงกว่าครับ
.จะบอกไว้เลยครับ ธนาคารไม่โง่ครับ
อันว่าด้วยราคาประเมินนี่ ตามที่ผมประสบมา ถ้าเรายื่นกู้
มันจะต้องมีการประเมินหลักทรัพย์ใหม่ทุกครั้งไป ซึ่งอาจจะไม่ถึง 1,450,000 บาท ก็ได้ครับ สมมติว่าราคาประเมินออกมาได้ 1,450,000 บาท จริง ถ้าธนาคารคำนวนปล่อยสินเชื่อที่ 80% ของราคาประเมิน คุณก็อาจจะได้เงินที่ใกล้เคียงกับราคาขาย ใช้เงินออมน้อยหน่อย เพื่อทำสัญญามัดจำ อะไรต่างๆ
ธนาคารให้เหตุผลได้ถูกต้องแล้วครับ ว่าต้องเหลือเงินไว้กินใช้บ้าง ไม่ต้องกลัวครับ ถ้าเรามีรายได้ซะอย่าง ถึงแม้ว่ามันจะไม่ค่อยประจำนัก เราก็ทำให้มันประจำได้ พนักงานสินเชื่อไม่ได้โหดร้ายทุกคนครับ
เอ
พ่นมาตั้งนาน ตอบคำถามไปได้บ้างหรือยังครับเนี่ย เดี๋ยวมาต่อครับ ขอไปซดกาแฟซักแก้ว
จากคุณ :
lar
- [
15 ธ.ค. 47 07:50:29
A:203.152.9.158 X: TicketID:081990
]
|
|
|