ความคิดเห็นที่ 50
นายบี ต้องการกู้เงินซื้อที่ดินและกู้เพื่อปลูกสร้าง
วันหนึ่ง หลังจากที่นายบีตระเวนหาซื้อที่ดินที่ถูกใจมาร่วมแรมปี ก็ไปเจอที่ดินแปลงหนึ่ง ที่ถูกใจ จำนวน 100 ตารางวา ประกาศขายไว้ ตารางวาละ 20000 บาท
.ไม่รอช้า
ก่อนที่นายบีจะโทรหาเจ้าของที่ โดยที่นายบี ได้มานั่งคิดคำนวนสระตะ แล้ว คิดว่า จากฐานรายได้ที่มั่นคงของตัวเอง คงจะกู้ผ่านได้ไม่ยาก นายบีก็เริ่มแผนการอันชั่วร้าย ดังนี้..
นายบีรีบตรวจสอบก่อนทันทีว่า ที่ดินบริเวณนี้ ราคาประเมินของทางราชการมันอยู่ที่ เท่าไร และได้มาพบว่า อยู่ที่ 17000 บาท/ตารางวา
ที่นายบีทำเช่นนี้ ก็เพื่อเป็นข้อมูลในการเจรจาต่อรองราคากับผู้ขาย และพอมองลู่ทางอันชั่วร้าย ในการที่จะสามารถเอาเงินส่วนต่างจากราคาประเมินที่ดินมาใช้จ่ายได้
หลังจากนั้น เมื่อนายบีได้สอบถามกับผู้ขายและพบว่า ที่ดินนี้ยังไม่ถูกขายไป นายบีจึงเริ่มการเจรจาต่อรอง เพื่อให้ได้ราคาถูกที่สุด
ในท้ายที่สุดแล้วนายบี สามารถตกลงราคาซื้อขายกันได้ที่ 18000 บาท/ตารางวา เป็นเงินทั้งสิ้น 1 ล้าน 8 แสนบาท
โดยที่นายบี ได้มานั่งคิดคำนวนสระตะ แล้ว คิดว่า 1. สมมติธนาคารให้กู้ได้ 80 เปอร์เซ็นต์ ของราคาประเมินของธนาคาร ถ้านายบีระบุ ในสัญญาจะซื้อจะขาย เพื่อทำเรื่องขอกู้ ในราคา 1 ล้าน 8 แสนบาท ตามที่ตกลงไว้ ถึงแม้ว่าในท้ายที่สุด ราคาประเมินของธนาคาร จะออกมาที่ 1 ล้าน 8 แสนบาท หรือมากกว่านั้น นายบี ก็จะสามารถกู้ได้เพียง 1 ล้าน แปดแสนบาท เป็นอย่างมาก
ตัวอย่างเช่น 1.1 ถ้าราคาประเมินออกมาเป๊ะ ที่ 1.8 ล้าน---80% ของ 1.8 ล้านจะอยู่ที่ 1,440,000 และนายบี ต้องควักเงินเพิ่มอีก 3 แสน 6 หมื่นบาท เพื่อ ให้ครบ 1.8 ล้าน ตามที่จะตกลงซื้อขายกัน 1.2 ถ้าราคาประเมินออกมา ที่ 2 ล้าน 3 แสนบาท----80% ของ 2.3 ล้าน อยู่ที่ 1,840,000 บาท แต่บังเอิญนายบีระบุในสัญญา ว่าจะขอกู้เพียง 1 ล้าน 8 แสนบาท ตามจริง นายบีจะได้เงินกู้มาเพียง 1 ล้าน 8 แสนบาท ตามราคาขายเท่านั้น อดได้ส่วนต่าง 4 หมื่นบาทตามราคาประเมิน
2. แต่ถ้าหากว่า นายบี ระบุราคาในสัญญาจะซื้อจะขายเป็น ตารางวาละ 20000 บาท รวมเป็นเงิน 2 ล้านบาท และหากราคาประเมินของธนาคาร มาตกที่ข้อ 1.2 นายบี นอกจากจะไม่ต้องควักกระเป๋าตังค์จ่ายจะได้ส่วนต่าง แล้ว นายบียังได้อีก 40000 บาท มาช่วยจุนเจือครอบครัว เพราะ 1,840,000 บาทนั้น คือ 80% ของราคาประเมิน และไม่เกินราคาขาย (ที่ระบุไว้ 2 ล้าน ประกอบกับรายได้ของนายบีสามารถผ่อนชำระได้)
คงจะพอนึกภาพกันออกนะครับ ทีนี้พอเข้าใจวิธีการอันชั่วร้ายไปแล้ว
.มาถึงตอนสำคัญครับ
.นั่นคือ
คำเตือน!!!!! ก่อนที่คุณจะตัดสินใจทำแบบนายบี..ต้องคำนึงดังนี้ครับ ทุกข้อล้วนสำคัญกับชีวิตและอนาคตของทุกท่านทั้งสิ้นครับ โปรดอ่านให้เข้าใจอย่างละเอียดครับ
1. ฐานรายได้ของตัวเอง กล่าวคือ หากเราต้องการส่วนต่างมาเพื่อจุนเจือ เราต้องมั่นใจครับ ว่าหากได้ส่วนต่างมาแล้ว เราจะมีปัญญารับผิดชอบกับจำนวนเงินผ่อนต่อเดือนที่เพิ่มขึ้น เพราะถึงจะตะบี้ตะบัน ขอเท่าไหร่ ธนาคารไม่โง่ครับ หากธนาคารเห็นแล้วว่ารายได้ มันยังผ่อนได้แค่นี้ ผลลัพธ์ก็เท่าเดิมครับ แถมแย่กว่าเดิมด้วยซำ้
2. เราต้องมั่นใจจริงๆ ว่า รูปการณ์ในอนาคต จะต้องเป็นไปตามที่คาดไว้ ทั้งแนวคิดของนายบี และองค์ประกอบ ในข้อ 1, 1.1, 1.2 และ 2 3. การที่เราจะสามารถระบุราคาซื้อขายมากกว่าความเป็นจริงนี่เสี่ยงมากครับ เพราะนั่นหมายความว่า คนขายจะต้องเซ็นลงไปในสัญญาด้วย ซึ่งเราก้จะต้องทำความเข้าใจกับเค้าให้เป็นที่แน่นอนก่อนว่า เราต้องการทำเพื่อวัตถุประสงค์อันใด เพราะการระบุลงไปเช่นนี้ เราเสียเปรียบอย่างมาก ยกตัวอย่าง เกิดวันที่ไปจดจำนอง เจ้าของที่เกิดเห็นช่องโหว่ตรงนี้ แล้วมาบอกว่า อ้าว ก็ตกลงในสัญญาที่ 2 ล้านนี่ ยังได้เงินไม่ครบเลย แล้วแกเกิดไม่เซ็นโอนขึ้นมา พอจะนึกออกถึงความเสียหายอันบรรลัยวายวอดที่จะเกิดขึ้นกับเราแล้วใช่ไหมครับ
.. อันนี้เถียงไม่ขึ้นเลยนะครับ
กลับกลายเป็นได้ ไม่คุ้มเสียไป ลองพี่แกไม่เซ็นโอนซะอย่าง ธนาคารก้ทำอะไรไม่ได้ครับ เพราะเขาบอกว่า เขายังได้เงินไม่ครบตามที่ระบุในสัญญา
อันว่าข้อ 3 นี่สำคัญที่สุด
สรุป ผมแนะนำตรงนี้เลยดีกว่าครับ
แนะนำอ่านพอเป็นความรู้ไว้ อย่าเสี่ยงทำเลยขอรับ
..กู้ได้เท่าไหร่ ก็ได้เท่านั้นแหละครับ อย่าไปโลภ
จากคุณ :
lar
- [
19 ธ.ค. 47 17:38:37
A:203.152.9.158 X: TicketID:081990
]
|
|
|