ความคิดเห็นที่ 1 ตอนนี้ผมมี 2 ทางเลือก ช่วยผมหน่อยนะครับ (ได้โปรด) 1. เจรจากับทางนิติฯอาคารชุดว่า ผมรู้ว่าไม่มีการซื้อขายห้องนี้หรอก ถ้าจะให้ผมจ่ายขอจ่ายถูกลงมาอีกได้ไหม? ....ทางเลือกนี้ กลัวว่าจะเสี่ยงกับการผิดกฎหมาย แล้วจะมีผลกับทรัพย์สินของผมที่อยู่ในห้อง (หรือเปล่า) ....ข้อดี - คือมีคนคอยดูแลห้องให้(นิติฯ) ตอนกลางวันที่เราไม่อยู่ อย่างน้อยก็อยู่ใกล้กัน น่าจะพอช่วยเหลือเราได้ 2. คุยกับทาง ธนาคารโดยตรงเลยว่าผมเป็นผู้เช่าอยู่ในปัจจุบัน ควรจะไปจ่ายค่าเช่ากับใครดี? ....ทางเลือกนี้ เสี่ยงกับการที่ธนาคารจะให้ย้ายออกอย่างมาก เพราะผมคิดว่าทางธนาคารคงอยากจะขายห้องนี้มากกว่า   ... เอายังไงดีครับ รบกวนท่านทั้งหลายกรุณาช่วยผมคิดด้วยครับ ... ... ขอบพระคุณอย่างสูง ... จากคุณ : : + Jay lo leaW + : - [ 2 มี.ค. 48 21:12:32 ]

ความคิดเห็นที่ 2 รีบหาห้องใหม่ก่อนด่วนๆครับนิติจงใจโกงชัดๆเดี๋ยวมันแกล้งเอานา จากคุณ : มังกรร่อนฟ้า - [ 2 มี.ค. 48 22:13:31 ]

ความคิดเห็นที่ 3 นิติบุคคลกำลังตั้งใจจะผิดกฏหมายฐานฉ้อโกงหรือเปล่า หึหึ ให้ทนายมาช่วยตอบดีกว่า จากคุณ : ปากตรงกับใจ - [ 2 มี.ค. 48 22:59:57 ]

ความคิดเห็นที่ 4 นิติฯ คุณควรแจ้งว่าคุณได้ติดต่อกับธนาคารที่เป็นเจ้าของทรัพย์ แล้ว และธนาคารได้ให้ติดต่อกับเจ้าของเดิม เพื่อทำการยกเลิกสัญญา เนื่องจากหมดสิทธิ์ในทรัพย์เรียบร้อยแล้ว และขอทางธนาคารอยู่จนกว่าจะหมดเงินประกัน ส่วนค่าส่วนกลาง ก็จ่ายปกติ ธนาคาร คุณควรแจ้งว่าคุณอยู่ในฐานะผู้เช่า และมีเงินประกันอยู่กับเจ้าของเดิมอยู่ และไม่ยอมจ่ายคืน จะขออยู่จนครบเงินประกัน หรือธนาคารจะให้ดำเนินการอย่างไร ตัวคุณ พยายามหาที่พักใหม่ให้เร็วที่สุด จนกว่าเงินค้ำประกันจะหมด และเก็บหลักฐานเงินค่าส่วนกลาง ต่าง ๆ ไว้ให้ดี เนื่องจากนิติฯ เริ่มเล่นไม่ซื่อกับคุณแล้ว (ป้องกันการกลั่นแกล้ง ตัดน้ำ, ตัดไฟ) จากคุณ : charnnarong_d - [ 2 มี.ค. 48 23:03:10 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อีกหน่อยละกัน.. ขณะนี้ธนาคารฯ เป็นเจ้าของทรัพย์สิน ดังนั้นสัญญาเช่าที่ทำกับเจ้าของเดิมจึงสิ้นสุดลง เพราะไม่มีสิทธิ์ให้เช่าทรัพย์ที่มิใช่ของตัวเองอีกต่อไป ลองคุยกับทางธนาคารฯ ว่า ขณะที่ยังขายไม่ได้ ก็ขอเช่าไปก่อน จนกว่าธนาคารฯ จะขายห้องได้ หากตกลงกันได้ก็ทำสัญญาเช่าใหม่ให้ถูกต้อง โดยมีเงื่อนไขว่าสัญญาเช่าจะสิ้นสุดลงทันทีเมื่อธนาคารฯ ขายห้องเสร็จสิ้นอะไรทำนองนี้ น่าจะให้ธนาคารฯ มาเจรจากับทางนิติบุคคลในกรณีที่ทำตัวเป็นนักฉวยโอกาส เพราะมันผิดกฏหมาย ทำบ่อยๆ มันเคยตัว จากคุณ : ปากตรงกับใจ - [ 2 มี.ค. 48 23:11:48 ]

ความคิดเห็นที่ 6 2. ผมไม่ทราบว่าตัวเองอยู่ในฐานะไหน ซึ่งจริงๆแล้วคิดว่าน่าจะหาทางย้ายออก ====> คุณกำลังอยู่ในฐานะลำบาก(ใจ) จากคุณ : ปลาแมน - [ 3 มี.ค. 48 04:38:02 A:61.90.95.98 X: TicketID:083855 ]

ความคิดเห็นที่ 7 โถ!ถัง!กะละมัง!ปีบ!!!คุณ : ปลาแมน นะให้กำลังใจเค้าหน่อยจิ.....              อยากช่วยค่ะ..บอกว่า...จขกท.ควรเจรจากะธนาคาร...แล้วข่มขู่นิติฯชั่วนั่นบ้าง..จากนั้นรีบหาที่อยู่ใหม่เลยนะคะ จากคุณ : อัปสรา (อัปสรา2000) - [ 3 มี.ค. 48 06:27:34 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ซื้อห้องคอนโดไปเลยสิค่ะ จากคุณ : nunom - [ 3 มี.ค. 48 08:51:42 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เตรียมหาทางย้ายออกเพื่อไว้เถอะครับ ตอนนี้ถ้าทำเรื่องนะ ก็คงอยู่ได้อีกระยะหนึ่งแหละครับ ต่อไปผมว่าเค้าก็ต้องให้คุณออกอยู่ดีแหละครับ ขึ้นอยู่กับว่าจะช้าหรือเร็วแค่ไหนเท่านั้นเอง (อยู่แล้วมีปัญหาแบบนี้นะทำเรื่องต่อไปก็คงยังมีปัญหาแหละ ย้ายๆออกหาที่ใหม่ดีกว่า) จากคุณ : +.+ - [ 3 มี.ค. 48 10:48:44 A:203.146.209.6 X: TicketID:079388 ]

ความคิดเห็นที่ 10 1. ดูสัญญาเช่าว่า มีการระบุว่า คุณจะต้องอยู่ได้ถึงวันไหน ถ้ายังอยู่ในสัญญาเช่า คุณมีสิทธิ์ที่จะอยู่ในห้องนั้น 100% จนถึงวันหมดอายุสัญญาเช่า ส่วนค่าเช่า คุณไม่ต้องจ่าย เก็บไว้กับตัวเองก่อน ดูว่า ควรจะจ่ายให้ใคร คิดว่าเจ้าของเก่าไม่กล้าเก็บ คุณก็จ่ายให้นิติฯ โดยขอ รับใบเสร็จหรือใบสำคัญรับ มีชื่อผู้รับชัดเจนก็ดี 2. แต่ถ้าสัญญาเช่าหมดอายุแล้ว และมีเงื่อนไขว่าจะต้อง แจ้งให้ย้ายออกภายใน 30 วัน จึงจะคืนเงินประกัน ก็แสดงว่า คุณต้องหาห้องใหม่ และย้ายออกภายใน 30-60 วัน เราคิดว่า เงินประกัน 3 เดือนที่คุณพูดถึง คือ เงินมัดจำ 2 เดือน ส่วนอีก 1 เดือนเป็นค่าเช่าล่วงหน้า ซึ่งหมายถึงว่า คุณอยู่อีก 60 วันไม่ต้องจ่ายค่าเช่า จ่ายแต่ค่าน้ำ+ไฟ ก็พอที่จะคุ้มค่าประกันแล้ว 3. ทางที่ดี คุณควรติดต่อธนาคาร ชี้แจงให้เขาฟัง เราคิดว่า เขาอาจจะให้อยู่ได้ภายใน 30-60 วัน โดยคุณเพียงแต่เสียค่าใช้จ่ายส่วนกลาง ค่าน้ำ+ไฟ ธนาคารไม่อยากมีเรื่องฟ้องร้องไล่ผู้เช่าหรอกค่ะ กว่าจะทำเรื่องเสร็จก็เป็นเดือนอยู่แล้ว แต่คุณเข้าใจถูกต้องแล้ว ที่ว่าธนาคารจะขอให้คุณย้าย ออกทันทีที่ทำได้ เพราะธนาคารไม่มีนโยบายให้เช่าห้องชุดค่ะ ต้องการขายให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ 4. ค่าน้ำ + ค่าไฟ + ค่าส่วนกลาง ถ้าเป็นการใช้น้ำและไฟของอาคารชุดฯ คุณควรจะติดต่อ นิติฯว่า คุณยินดีจะจ่ายค่าส่วนกลาง+ค่าน้ำ+ค่าไฟ เพื่อที่จะได้ไม่โดนตัดน้ำ+ตัดไฟในช่วงที่ยังอยู่นะคะ และจะอยู่อีก 30-60 วันเพื่อหาที่อยู่ใหม่ เราไม่แน่ใจว่า ค่าเช่าของคุณรวมส่วนกลางไว้แล้วหรือเปล่าหรือคุณต้องจ่ายต่างหากให้นิติฯทุกเดือน ถ้าคุณต้องจ่ายค่าส่วนกลางต่างหากให้กับนิติฯ ทุกเดือน ก็จ่ายต่อไป 5. ถ้าคุณอยากจะอยู่ห้องชุดนี้ต่อไป คุณก็ไม่ต้องสนใจว่าใครจะเป็นเจ้าของใหม่ เจ้าของเก่า หรือธนาคาร หรือนิติฯ คุณก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ ทำสัญญาเช่าใหม่กับเจ้าของใหม่ (ตาม ที่นิติฯบอก) และถามนิติฯว่า เงินประกันที่เสียให้กับเจ้าของเก่าไปแล้ว 3 เดือนจะได้รับคืนโดยทางไหน อาจจะขอกับเจ้าของใหม่ โดยให้อยู่ฟรี 3 เดือนโดยระบุในสัญญาเช่าชุดใหม่ว่า ให้อยู่ก่อน 3 เดือน โดยไม่ต้องจ่ายค่าเช่า เพื่อให้คุ้มกับเงินประกัน 3 เดือนที่จะจ่าย ให้กับเจ้าของเก่า วิธีนี้ นิติฯก็จะเป็นผู้รับผิดชอบทุกอย่างแทนคุณไปได้ หรือคุณลองติดต่อกับนิติฯ ว่ามีห้องชุดอื่นที่ปล่อยเช่า ได้ในราคาถูกกว่า หรือราคาเดียวกันหรือเปล่า จะได้ย้ายห้องไปอยู่ห้องที่ไม่มีปัญหา จากคุณ : ชีสสส - [ 3 มี.ค. 48 15:21:23 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณทุกความเห็นมากๆครับ เป็นประโยชน์จริงๆเลย ก็พอจะเห็นทางสว่างอยู่หน่อยๆ .... สงสัยต้องหาทางย้ายออกจริงๆเสียแล้ว แต่ของเยอะมากๆ และผมก็ยังไม่พร้อมที่จะขน หรือหาที่อยู่ใหม่เลย ยังไงใครพอจะมี คอนโดฯแนะนำหน่อยก็ได้นะครับ กะว่าจะหาแถวๆ รามอินทรา กม.8 ... อยากได้ที่มีแอร์ โทรฯสายตรง และมีที่จอดรถ อะครับ ราคาก็ราวๆ 3500 บาท รวมค่าส่วนกลางนะครับ ท่านใดพอจะนึกออก ก็รบกวนแนะนำด้วยครับ ส่วนทางนิติฯที่ผมอาศัยอยู่ คิดว่าจะลองเข้าไปลักไก่เอาคืนบ้าง ก็กะจะบอกเค้าไปว่า "ต้องเซ็นต์สัญญาเช่าใหม่ก่อน แต่เจ้าของใหม่ก็ต้องเอาหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของห้องมาให้ดูด้วย(คิดว่าคงไม่มี) ไม่งั้นผมก็คงจ่ายค่าเช่าให้ไม่ได้ .. เนื่องจากยังติดสัญญาเดิมอยู่ และมีเงินประกันที่ค้างไว้ อย่างน้อยก็ต้องอยู่จนเงินประกันหมด" ไม่รู้จะดีหรือเปล่าสิ... ยังไงก็ขอบพระคุณทุกๆท่านอย่างสูงเลยนะครับ แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 48 18:05:07 จากคุณ : : + Jay lo leaW + : - [ 3 มี.ค. 48 18:03:58 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ลองดูที่แยกถนนปัญญา-อินทรา หรือยัง พึ่งจะเปิดใหม่ติดแอร์เหมือนกัน แต่จำชื่อไม่ได้ แต่ไกลกว่า กม.8 นิดนึง ประมาณ 2 กม. หรือ เลยแฟชั่นไอส์แลนด์ เปิดใหม่เหมือนกัน ชื่อ ธีรวรรณ2 ไม่รู้ว่ามีแอร์หรือเปล่า ลองติดต่อดูแล้วกันนะ จากคุณ : charnnarong_d - [ 3 มี.ค. 48 22:09:30 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ป.พ.พ.มาตรา ๕๖๙ อันสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์นั้นย่อมไม่ระงับไปเพราะเหตุโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินซึ่งให้เช่า  ผู้รับโอนย่อมรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนซึ่งมีต่อผู้เช่านั้นด้วย        ในกรณีของคุณถือว่าคุณเป็นผู้เช่าห้องชุดจากธนาคารโดยถือตามสัญญาเดิมที่ทำไว้กับผู้ให้เช่ารายเดิม  ถ้าสัญญาเช่ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดจะฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้  (หมายถึง ทั้งฝ่ายผู้ให้เช่าและผู้เช่าจะฟ้องให้อีกฝ่ายหนึ่งปฏิบัติตามสัญญาเช่าไม่ได้)  ถ้าสัญญาเช่ามีกำหนดกว่า ๓ ปีขึ้นไป หรือกำหนดตลอดอายุของผู้เช่าหรือผู้ให้เช่า หากไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จะฟ้องร้องบังคับคดีได้เพียง ๓ ปี (หมายถึง ทำสัญญาเช่าเกิน ๓ ปีขึ้นไปเป็นหนังสือ แต่ไม่ได้ไปจดทะเบียน สัญญาเช่าฉบับนี้มีสามารถฟ้องร้องบังคับคดีได้เพียง ๓ ปี ถ้าไม่ได้ทำเป็นหนังสือก็ฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้เลย ภาษากฎหมายน่าเวียนหัว) สรุปว่าหากคุณอยากเช่าต่อคุณก็ไปติดต่อชำระค่าเช่าให้ธนาคารโดยถือตามสัญญาเช่าเดิม หากคุณชำระค่าเช่าให้บุคคลอื่นที่ไม่มีสิทธิได้รับค่าเช่า คุณก็ต้องชำระค่าเช่าซ้ำอีก ส่วนเรื่องเงินประกันนั้นคุณต้องไปติดต่อขอคืนจากผู้ให้เช่าเดิม มันไม่ได้เป็นเรื่องสิทธิและหน้าที่ที่โอนไปยังผู้รับโอน จากคุณ : พสธร - [ 4 มี.ค. 48 00:06:23 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมว่าคุณใจเย็นๆ อยู่ได้อีกหลายเดือน (ฟรี ๆ) ใครมาพูดอะไร  ให้ขอดูหลักฐาน  หรือทำหนังสือมา คุณก็อ้างอย่างเดียวว่า  คุณจ่ายค่าเช่ากับเจ้าของเดิม (ซึ่งตอนนี้ไม่กล้าโผล่หน้ามา) เขาให้คุณย้ายออกคุณก็บอกกำลังหาที่ใหม่อยู่ ใครเข้าทำอะไรในห้องคุณ  แจ้งข้อหาบุกรุกได้ทันที ไม่ต้องกลัวธนาคารจะเจ้ง เพราะคุณไม่จ่ายค่าเช่าหรอก ใจเย็น ๆได้ จากคุณ : screw (screw) - [ 4 มี.ค. 48 07:33:30 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณ คุณพสธร ที่ทำให้ได้รับความรู้เพิ่มไปด้วย จากคุณ : ปากตรงกับใจ - [ 4 มี.ค. 48 15:12:29 ]

ความคิดเห็นที่ 16 แวะมาเก็บข้อมูล.. จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 4 มี.ค. 48 23:05:43 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ตามข้อมูลที่ให้มานะครับ คุณมีสัญญาเช่ากับเจ้าของเดิมคุณสามารถอยู่อาศัยได้ตามสัญญาเช่าครับ แต่ก็ต้องจ่ายค่าเช่าให้กับเจ้าของเดิมผู้ให้เช่าตามสัญญาด้วย ตามทนายคุณแนะนำถูกต้องแล้วครับ แม้ต่อมาธนาคารยึดขายทอดตลาดเมื่อยังขายทอดตลาดไม่ได้ เจ้าของห้องเดิมก็ยังเป็นผู้มีกรรมสิทธิในห้องเช่าอยู่ คุณกับผู้ให้เช่ายังต้องปฎิบัติตามสัญญาเช่ากันอยู่ ในกรณีนี้นิติบุคคลอาคารชุดหรือธนาคาร ก็ไม่ใช่เป็นผู้มีกรรมสิทธิหรือเจ้าของห้องชุดที่จะเอาห้องให้คุณเช่าได้ หรืออนุญาตให้ใครเข้ามาดูภายในห้องคุณได้ ใครเข้ามาถือว่าบุกรุกเป็นความผิดอาญาติดคุกได้ง่ายๆนะครับ แต่ถ้าต่อมามีการขายทอดตลาดได้และมีการโอนกรรมสิทธิเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคุณต้องขอดูตามเอกสารแสดงกรรมสิทธิห้องชุดซึ่งมีลักษณะเหมือนโฉนดว่ามีการโอนกันจริงหรือไม่ ถ้ามีการโอนกันจริงให้คุณเจรจากับเจ้าของห้องใหม่นะครับว่าจะเอาอย่างไร ว่าจะให้เช่าต่อหรือไม่ แต่สัญญาเช่าเดิมที่คุณทำไว้กับเจ้าของเดิม ก็ผูกพันเจ้าของใหม่ที่จะต้องปฎิบัติตามสัญญาเช่าเดิม ตาม ป.พ.พ.มาตรา ๕๖๙ อันสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์นั้นย่อมไม่ระงับไปเพราะเหตุโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินซึ่งให้เช่า ผู้รับโอนย่อมรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนซึ่งมีต่อผู้เช่านั้นด้วย แต่อันนี้ก็ต้องดูด้วยนะครับว่าคุณทำสัญญาถูกต้องหรือไม่ ในกรณีนี้นิติบุคคลอาคารชุดหรือธนาคาร ก็ไม่ใช่เป็นผู้มีกรรมสิทธิหรือเจ้าของห้องชุดที่จะเอาห้องให้คุณเช่าได้ หรืออนุญาตให้ใครเข้ามาดูภายในห้องคุณได้ ใครเข้ามาถือว่าบุกรุกเป็นความผิดอาญาติดคุกได้ง่ายๆเช่นกันครับ สรุป ครับขอให้คุณใจเย็นๆ รอดูว่ามีการโอนกรรมสิทธิให้เจ้าของใหม่หรือยัง ถ้ามีให้คุณเจรจากับเจ้าของใหม่ว่าจะให้เช่าต่อหรือดำเนินการอย่างไร ไม่ต้องไปคุยหรือทำสัญญาเช่ากับกับนิติบุคคลอาคารชุดหรือธนาคารนะครับเพราะไม่ใช่ผู้มีอำนาจให้เช่าได้เว้นแต่จะเป็นเจ้าของใหม่ ส่วนข้อมูลที่คุณให้มาว่าวันที่ 2 มีนาคม ห้องชุดที่คุณอยู่ ยังเป็นทรัพย์สินของทางธนาคาร โดยมีการขายทอดตลาดแล้ว แต่ธนาคารก็ซื้อคืนมาเอาไว้เอง นั้น ผมว่าน่าจะเข้าใจผิด เพราะตามข้อมูลที่คุณให้มาเพิ่งยึด 1 ก.พ. ไม่น่าจะขายทอดตลาดได้เร็ว แต่ถ้าวันที่ 1 ก.พ. เป็นวันประกาศขายทอดตลาดก็อาจใช่ตามที่คุณบอก ถ้าธนาคารซื้อได้จริง ถ้าคุณยังอยากอยู่ต่อ ก็สามารถติดต่อขอเช่ากับธนาคาร หรืออยู่ ฟรี เฉยๆต่อไปเรื่อยๆ รอจนกว่าธนาคารจะติดต่อ แต่อาจถูกฟ้องขับไล่ แต่ก็ยังอยู่ได้อีกนานครับ ถ้ามีข้อมูลใหม่ให้เมล์มานะครับ kim9serm@yahoo.com จากคุณ : ทนายผู้น่ารัก - [ 8 มี.ค. 48 15:21:15 A:203.209.28.130 X: TicketID:090743 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณมากๆเลยครับ คุณทนายผู้น่ารัก คือห้องผมตั้งแต่อยู่มา(3ปี) ก็มีหมายฯ มาตลอดเลยครับ เป็นระยะๆ ผมเลยคิดว่า ตอนหลังเนี่ยน่าจะเป็นการขายทอดตลาดไปแล้ว และธนาคารคงซื้อคืนมาไว้แล้วครับ ... เดี๋ยวคงต้องหาวิธี คุยกับทางนิติฯ ดูใหม่ .. วันก่อนยังมาทวงค่าเช่ากับผมอยู่เลย ผมก็บอกไปว่า ตอนนี้กำลังเคียร์เรื่องค่าประกันห้องที่จ่ายไปกับทางเจ้าของเก่าอยู่ เค้าบอกว่า "ยังไงก็ต้องจ่ายค่าเช่าให้เจ้าของใหม่ได้แล้วนะ ... เพราะเค้าเสียเงินซื้อห้องไปแล้ว" (โกหก สุดๆ!) ก็อาจจะต้อง จ่ายผิดๆอย่างนี้แหละครับ เพราะผมก็ยังไม่พร้อมที่จะย้ายตอนนี้จริงๆ แถมถ้าดื้อดึงไม่จ่าย ก็กลัวว่า ตอนเราไม่อยู่ จะกลั่นแกล้งต่างๆนาๆ (เช่นตัดน้ำ โทรศัพย์ ฯลฯ) ไม่รู้จะแก้เผ็ด นิติฯ ขี้โกงอย่างนี้ยังไงดี ของผมนี่ไม่ใช้กรณีแรกแน่นอน ไม่รู้มีกี่ห้องที่เค้าทำอย่างนี้ อยากเอาไปฟ้องใครซักคนให้มาจัดการหน่อย ... แผ่นดินจะได้สูงขึ้นบ้าง ยังไงก็ขอบคุณทุกๆท่านมากๆเลยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : : + Jay lo leaW + : - [ 10 มี.ค. 48 00:08:39 ]