ดิฉันต้องขอบอกก่อนว่าการตั้งกระทู้นี้ไม่ได้ต้องการทำร้ายหรือใส่ร้ายใคร แต่หากเป็นข้อเท็จจริงที่ได้ประสบเอง
เมื่อประมาณ ต้นเดือน มิถุนายน ดิฉันได้จองคอนโด City Home ของศุภาลัยไว้เนื่องจากเห็นว่าเป็นทำเลที่ดี เนื่องจากมีผู้สนใจเยอะทางผู้ขายจึงบอกให้จองไว้ก่อนเดี๋ยวจะไม่มีห้อง ดังนั้นจึงได้ไตร่ถามพนักงานขายแล้วว่า หากจะเปลี่ยนชื่อได้หรือไม่ ทางพนักงานขายบอกว่าได้แต่ต้องก่อนทำสัญญาจะไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ หากทำสัญญาไปแล้วจะเสียค่าปรับ 1% ของราคาขาย ดิฉันก็เลยจองก่อนเนื่องจากเห็นว่าเดี๋ยวค่อยเปลี่ยนชื่อก็ได้ และเมื่อใกล้วันเซ็นสัญญาดิฉันต้องการเปลี่ยนชื่อทางโครงการบอกว่าต้องจ่ายเงินค่าปลี่ยนสัญญาเนื่องจากเป็นนโยบายบริษัท ( ดิฉันถามว่าบริษัททำธุรกิจเข้าตลาดหุ้นและเพิ่งหลุดจาก NPL มา กำหนดนโยบายยังไงก็ได้เลยเหรอและคุณลองคิดว่าถ้ามีคนมีความจำเป็น 500 คนที่ต้องเปลี่ยนเนื่องจากสาเหตุใดก็ได้ บริษัท อย่างนี้ก็จะได้เงินจากประชาชน ไปคนละ 10,000 บาทสำหรับค่าเปลี่ยนชื่อแม้จะยังไม่ทำสํญญา รวมเป็นเงิน 5,000,000 บาท จากการทำธุรกิจแบบเห็นแก่ได้ ) ซึ่งในความเป็นจริงหากยังไม่มีการเซ็นสัญญาก็ควรจะเปลี่ยนได้เหมือนบริษัททั่วๆไป แต่หากเป็นเช่นนี้ดิฉันก็ยินยอมที่จะจ่ายเนื่องจากไม่ต้องการมีปัญหา ดิฉันจึงขอเปลี่ยนชื่อผู้ทำสัญญาแม้จะต้องเสียค่าใช้จ่าย 10,000 บาท ที่ไม่น่าจะต้องเสีย แต่กระนั้นทางบริษัทก็ยังไม่ให้เปลี่ยนเพราะบอกว่าต้องไปเปลี่ยนก่อนที่จะโอนโดยใช้เวลาอีกประมาณ 1 ปี 4 เดือน หรือ ต.ค. ปี 2549 และหากคุณต้องการเปลี่ยนช่วงนี้ก็ขอให้คืนห้องที่จองเพราะทางบริษัทมีผู้ที่ต้องการจะซื้อมากมาย และทางพนักงานบริษัทท่านหนึ่ง (ขอไม่เอ่ยนามเพราะเป็นพนักงานที่คงไม่ได้รับการอบรมและไม่มีจรรยาบรรณ ) บอกว่าถ้าคุณจะเปลี่ยนชื่อในตอนนี้โดยไม่รอช่วงก่อนโอนหรือประมาณ ต.ค. 2549 ก็ถือว่าคุณไม่ต้องการอยู่จริงๆ นี้เป็นคำพูดของบุคคลที่มีการศึกษาหรือนี้ เพราะการที่เราซื้อไปอยู่เองหรือไม่ได้อยู่เองก็เป็นสิทธิของเราโดยตรง การพูดเช่นนี้เหมือนกับว่าเราซื้อบ้านเอื้ออาทรอย่างใดอย่างนั้นที่ถ้าไม่อยู่ก็ซื้อไม่ได้แต่นี้เป็นเงินของเราทั้งนั้นบริษัทคุณก็ได้กำไร 100% อยู่แล้ว ซึ่งเป็นการดูถูกผู้ซื้อที่สุด และหากคนที่จองนั้นมีปัญหาทางการเงินที่ไม่สามารถโอนได้ในช่วงเวลาก่อนโอนที่บริษัทกำหนดจะทำอย่างไร และหากผู้ซื้อยอมที่จะเสียค่าปรับจากการเปลี่ยนสัญญาแต่กลับต้องถูกบังคับให้ไปเปลี่ยนก่อนโอนซึ่งเป็นระยะเวลา 1 ปี เท่านั้นเหรอ หากตั้งขอสังเกตุว่าทางบริษัทเห็นว่าหากกดดันให้คนคืนห้องที่จองแล้วบริษัทอาจจะขายใบจองนี้ให้กับผู้ซื้อท่านอื่นได้ราคาที่สูงขึ้น หากเป็นเช่นนี้จริงบริษัทที่ทำธุรกิจนี้ ก็มีความเห็นแก่ตัวและไม่มีจิตสำนึกของความดีแม้แต่น้อยการที่ดิฉันจอง Condo นี้โดยไม่ได้คิดมากเพราะเห็นว่าเป็น โครงการของบริษัทที่มีชื่อเสียงแต่การกระทำเช่นนี้ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะเกิดจากบริษัทที่มีชื่อเสียงแบบนี้
การที่ดิฉันตั้งกระทู้นี้ก็เพื่อบอกกล่าวให้ทุกคนรู้ถึง เล่ห์เหลี่ยมของผู้ประกอบการที่ฉวยโอกาศ และเห็นแก่ได้โดยไม่คำนึงถึงผู้อื่นเลยแม้แต่น้อยและดิฉันหวังว่าจะไม่มีใครตกอยู่ในสภาพเดียวกัน และขอให้ตัวอย่างนี้เป็นตัวอย่างสำหรับทุกคนที่ซื้อโครงการนี้ไปแล้ว โดยขอให้ตรวจสอบสัญญาให้ถี่ถ้วนเพราะบริษัทที่ทำธุรกิจแบบบริษัทนี้พร้อมที่จะเอาเปรียบลูกค้าได้ตลอดเวลาที่เขามีโอกาส และผู้คนในบริษัทเหล่านี้ก็ไม่ละอายต่อการทำชั่วแม้แต่น้อย และการขออนุญาติก่อสร้างก็ยังไม่ผ่าน, ยื่นชี้แจ้งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมก็ยังไม่ผ่าน ซึ่งหากไม่สามารถโอนได้ตามกำหนดหรือโอนไม่ได้ ทางบริษัทนี้จะจ่ายค่าปรับให้ผู้ซื้อหรือคืนเงินดาว์นหรือไม่ ในประเด็นนี้ผู้ที่จะเซ็นสัญญาควรให้ระบุลงไปในสัญญา มิฉะนั้นผู้ที่ไม่มีจิตใต้สำนึกของความเห็นใจและเป็นคนดีเหล่านี้จะมาเอาเปรียบเราได้
สุดท้ายนี้ก็ขอร้องว่า ทางบริษัทศุภาลัย อย่างได้ทำธุรกิจ บนความลำบากและความทุกข์ของผู้อื่นอีกเลย
จากคุณ :
คนที่ถูกหลอก
- [
1 ก.ค. 48 10:15:34
A:203.146.79.162 X:
]
" บ. ศุภาลัย ทำธุรกิจบนความทุกข์ของลูกค้า "
... เข้ามาดู
