PANTIP.COM : R3984942 ข้อคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์กับหมู่บ้าน L&H [ที่พักอาศัย]

ความคิดเห็นที่ 8

เคยอ่านเจอหลักในการเลือกซื้อบ้านจัดสรรนะครับ หลักใหญ่ๆมีดังนี้ครับ

- เลือกโครงการที่มีผู้ประกอบการใหญ่ มีชื่อเสียงและทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์มานาน มันเป็นสิ่งที่รับประกันได้ไปหนึ่งเปราะ เพราะเขาทำมานาน มีชื่อเสียง โอกาสเสี่ยงในการล้มงานมีน้อยมาก การบริหารจัดการดี เป็นต้น

- เลือกทำเล โดยดูจากชีวิตของตัวเองเป็นหลัก เช่น ใกล้ที่ทำงานใหม ไกลจากญาติหรือเปล่า เดินทางสะดวกใหม น้ำท่วมใหม ติดโรงงานอุตสหกรรมหรือเปล่า อยู่ใกล้แหล่งการค้าหรือเปล่า ใกล้โรงพยาบาลใหม เป็นต้น

- ดูสภาพโครงการว่าร้างใหม การจัดการเป็นอย่างไร ภาพโดยรวมใช้ได้ใหม ถูกใจเราหรือเปล่า

- พิจารณาจากการออกแบบบ้าน เช่นตรงกับความชอบของเราใหม ขนาดบ้านพอเหมาะกับความต้องการของเราใหม

- ราคาหรืองบประมาณของเรา นี่สำคัญที่สุดครับ

จากหลักเกณท์ใหญ่ๆในการเลือกบ้านแล้ว เราลองมาพิจารณาโครงการของแลนด์ว่าเข้าข่ายใหม เพราะคุณ จขกท ต้องการสอบถามบ้านของแลนด์ใช่ใหมครับ เขาแนะนำว่าให้คุณเอากระดาษเปล่าๆมาหนึ่งแผ่น แล้วแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งเขียนว่า "ด้านดี" อีกส่วนหนึ่งเขียนว่า "ด้านไม่ดี" เมื่อคุณเดินทางไปชมโครงการของแลนด์โครงการใดโครงการหนึ่ง ก็เริ่มตรวจสอบตามหลักได้เลยครับ เช่น

- หลักข้อแรกว่าด้วยความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบการ แลนด์เข้าป้ายแน่นอนไม่ต้องสงสัย แต่หากพิจารณาผู้ประกอบการรายอื่นด้วย จะพบว่ามีคู่แข่งที่เป็นรายใหญ่ที่มีความน่าเชื่อถือ ทำธุรกิจมานานเช่นกัน อาทิเช่น แสนสิริ โนเบิ้ล ธารารมย์ ลลิล เอ็น ซี กรุ๊ป เป็นต้น

- ดูที่ทำเล อันนี้ต้องว่ากันไปปลีกย่อย ถ้าอยากได้บ้านของแลนด์ ถ้าทำเลถูกกับวิถีชีวิตของคุณ อันนี้แลนด์ก็เข้าป้ายอีกเช่นกัน แต่ถ้าอยากได้บ้านของแลนด์ แต่ทำเลห่างไปที่ทำงานคุณมาก รถติด ด้านหลังเป็นโรงงานส่งเสียงดัง ฝุ่นละอองก็มาก น้ำท่วมอีก อย่างนี้ก็ไม่ใหว คุณก็ต้องพิจารณาผู้ประกอบการรายอื่นดีกว่า ในบอร์ดนี้ก็เคยมีนะครับ ซื้อบ้านของแลนด์ แต่พบว่าหลังโครงการติดกับโรงงานหรืออะไรนี่แหละครับ ฝุ่นตรึมเลย ต้องดูดีๆครับ

- ดูสภาพโดยรวมของโครงการ ดีใหม สะอาดใหม ระบบ รปภ โอเคใหม เป็นต้น ถ้าคุณชอบโครงการแนวรีสอร์ทก็ต้องไปหาผู้ประกอบการรายอื่น หรือโครงการของแลนด์ที่อื่น เป็นต้น

- การออกแบบบ้าน บางคนว่าบ้านแลนด์สวย บางคนว่าไม่สวย เรื่องความสวยเป็นเรื่องนานาจิตตัง เราอยู่เอง เอาความาชอบของเราเป็นหลัก "ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่" ยังใช้ได้ดีครับ เรื่องพื้นที่ใช้สอย บ้านแลนด์ เมื่อเทียบราคาและที่ดินแล้วจะแพงกว่าที่อื่นหน่อยๆ ถ้าอยากได้พื้นที่มากๆ และอยากได้ของแลนด์ หมายความว่าคุณอาจจ่ายแพงกว่าโครงการของผู้ประกอบการรายอื่นที่มีคุณภาพไม่แพ้หรือดีกว่าแลนด์ด้วยซ้ำไป ก็ต้องพิจารณาเป็นรายๆไปครับ

- ดูงบประมาณ มีงบเท่าใหนก็ซื้อเท่านั้น แต่อย่างที่บอกว่าเนื้อที่เท่าๆกัน บ้านแลนด์จะแพงกว่าหน่อยๆ แต่ถ้าคิดเรื่องขายบ้านต่อ บ้านแลนด์ก็ได้ราคาดีกว่าครับ แต่ถ้าไม่สนเรื่องภาพลักษณ์ของแลนด์ คุณอาจเลือกผู้ประกอบการรายอื่น บางทีคุณได้ของดีกว่า แต่จ่ายน้อยกว่าก็ได้ครับ

กระดาษที่คุณจด "ข้อดี" "ข้อเสีย" นั้น พอตระเวณดูหลายๆที่ คุณก็เอามาเทียบดู ถ้าพบว่าโครงการนั้นมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย ก็เลือกโครงการนั้นไปเลย แนะนำอย่างมากว่าอย่าไปยึดติดกับโครงการใดโครงการหนึ่ง ซื้อบ้านต้องตระเวณดูหลายๆโครงการครับ เลือกเอาโครงการระดับใกล้เคียงกันถึงจะเปรียบมวยสมส่วน เช่น ซื้อลัดดารมย์หรือนาราสิริ ก็ต้องไปดูโครงการนันทวันหรือลดาวัลย์ เป็นต้น ไม่ใช่ดูโครงการลดาวัลย์ของแลนด์ แล้วดันไปเทียบกับบ้านฟ้าของที่อื่น เปรียบเทียบอย่างนี้แย่ครับเพราะราคาบ้านมันต่างกันมาก ข้อดี ข้อเสีย มันเห็นชัดเจนครับ

ต้องจำเอาไว้ว่า "ไม่มีโครงการใหนดีสมบูรณ์แบบ และก็ไม่มีโครงการใหนแย่สุดๆ" โครงการราคาหลังละสิบล้านกว่าบาทก็ยังต้องมีการแก้ไขงาน ฉะนั้น ไม่ต้องถามว่า "มีโครงการดีๆที่ไม่มีปัญหามาแนะนำใหม" เพราะหาให้ทั่วเมืองไทยก็ไม่เจอแม้แต่คุณสั่งสร้างบ้านเองก็ยังมีปัญหาไม่แพ้กัน คำถามที่ควรถามคือว่า "เมื่อมีปัญหาแล้ว การบริการหลังการขายมีประสิทธิภาพในการแก้ใขงานดีหรือเปล่า" ในจุดนี้ผู้ประกอบการรายใหญ่ได้เปรียบในภาพรวม แต่โครงการรายเล็กๆที่ดีก็มีเช่นกัน โครงการของแลนด์เห็นคนบ่นก็มี ไม่ใช่ว่าไม่เคยเจอ แต่ถ้าเราไม่รู้เรื่องในการซื้อบ้าน ทางที่ดีคือเลือกผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียงไว้ก่อนครับ ฉะนั้น จะเห็นว่า โครงการสมบูรณ์แบบไม่มี โครงการแย่ที่สุดก็ไม่มี โครงการแย่ๆ ถ้าจะให้ตอบแบบกำปั้นทุบดินก็คือว่า โครงการแย่ๆมันยังมีสิ่งที่ดีก็คือ "ราคาถูก" นี่ไง ราคาถูกมันก็เป็นข้อดีอย่างหนึ่ง

สรุปว่า "โครงการที่ดี ก็คือโครงการที่มีข้อดีมากกว่าข้อเสีย โครงการแย่ก็คือโครงการที่มีข้อเสียมากกว่าข้อดี" ก็ต้องพิจารณาครับ เขาถึงแนะนำให้ถือกระดาษแบ่งข้อดี ข้อเสียไปเลย ถ้าเจอข้อดีมากกว่าก็เลือกโครงการนั้น ย้ำนะครับว่า ถึงแม้จะเลือกแบบดีที่สุดแล้ว แต่เมื่อเจอปัญหาก็ไม่ต้องกังวล เพราะบอกแล้วว่ามันมีทุกที่ เป็นเรื่องธรรมดา คุณจะกังวลก็ต่อเมื่อปัญหานั้นไม่ได้รับการแก้ใขอย่างรวดเร็วจากฝ่ายบริการหลังการขาย หรือปัญหานั้นได้รับการแก้ใขอย่างขอไปที ไม่นานก็กลับมาเป็นใหม่

ที่แนะนำมายืดยาวนั้นเป็นข้อแนะนำอย่างเป็นกลางนะครับ ไม่ได้เชียร์ใครทั้งนั้นเพราะไม่ได้ผลประโยนช์อะไร คนที่ซื้อโครงการเล็กๆแล้วได้บ้านดีก็มีเยอะแยะไป คนซื้อโครงการใหญ่แล้วเจอปัญหาก็มากมาย ล่าสุด นันทวัน บ้านราคาสิบสามล้าน โครงการเกรดเอ ยังโดนเลยครับ คนอยู่ลดาวัลย์ วงจรปิดทั้งโครงการก็ยังแอบมีเข้ามาบ่นเรื่องโจรเช่นกัน

คำแนะนำนี้เขาบอกว่าใช้ได้กับทุกท่านที่กำลังจะซื้อบ้าน โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีความรู้ในการก่อสร้างจะเป็นประโยนช์มาก ผู้ซื้อจำนวนมากดูบ้านไม่เป็น เขาทำดีหรือเปล่าไม่รู้ ฉะนั้น พิจารณาตามหลักที่ว่าข้างต้นนี้จะช่วย "หลีกเลี่ยงปัญหาไปได้มาก" ผมเน้นอีกทีนะครับว่า มันแค่ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงปัญหา ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่เจอปัญหาเลย

แต่ถ้าคุณเจอบ้านโครงการเล็กๆ แต่ทำงานดี บ้านมีคุณภาพ ก็ไม่ต้องลังเลใจเลยครับ เพราะคุณจะได้ของดีแต่ราคาไม่แพง หรือถ้าไม่แน่ใจจริงๆ อยากดูโครงการใหญ่ คุณก็ไม่มีความจำเป็นต้องดูแต่ของแลนด์ที่เดียว โครงการดังๆที่คุณภาพอาจไม่ด้อยกว่า หรือดีกว่า มีมากมาย ลองดูนะครับ

ที่สำคัญ เขาบอกว่าเป็น "Tip" ในการซื้อบ้านก็คือ ใหนๆขับรถไปฝ่ายขายแล้ว ควรขับรถเข้าไปในโครงการเลยจะดีกว่า ขับช้าๆเพื่อสำรวจดูสภาพโครงการโดยรวม อย่าลังเลที่จะจอดรถถามความเห็นจากผู้ที่อยู่ในโครงการนั้น เพราะนี่แหละครับคือแหล่งข้อมูลชั้นเลิศ แนะอีกว่าให้ถามหลายๆคน เพื่อนำมาหาค่าเฉลี่ย ต้องเข้าใจว่าคนเราไม่เหมือนกัน ถ้าโครงการเขาดี แต่เราดันไปถามคนเห็นแก่ตัว ผลมันก็ออกมาผิดเพี้ยน เราเลยอาจจะพลาดของดีไปเพราะจากความเห็นผิดๆของคนๆนั้น ต้องถามหลายๆคนนะครับเพื่อความถูกต้องของข้อมูล

การถามเซลนั้นก็ไม่ต้องหวังว่าเขาจะบอกเราทุกอย่าง คุณไปถามเซลว่า หมู่บ้านนี้น้ำท่วมใหม มีขโมยหรือเปล่า จะมีเซลคนใหนบอกว่า เออ น้ำท่วมค่ะ ขโมยก็มี ยามยังจับไม่ได้เลย เขาเป็นเซล เขามีหน้าที่ขาย เป็นอาชีพของเขา ฉะนั้น ข้อมูลทั่วๆไป เซลตอบเราได้ครับ แต่บางอย่างต้องถามจากผู้อยู่จริงๆครับ

จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 29 ธ.ค. 48 00:08:13 ]